จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 532



       "อ--เอ่อ..."

       ไวท์และช่างตีเหล็กลูกมือมิอาจเข้าใจได้เลย  ว่าทำไมช่างตัดไม้ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมไฟเตาหลอมผู้นี้  ถึงอยากเดินนำหน้าทีมลงสู่สนาม

       'เราอยากบอกให้เขาไปยืนข้างหลัง  แต่ว่า...'

       'ชายคนนี้คือผู้วิเศษที่ออกแบบคันศรฟินิกซ์แดงรุ่นสมบูรณ์แบบ!'

       'เขาเป็นใครกันแน่'

       'อาจเป็นดังที่หัวหน้าไวท์บอก...'

       'ตัวตนที่ยิ่งใหญ่ปลอมตัวมา...'

       'เขาเป็นถึงคนที่ตัดต้นฟอสฟอรัสขาวได้เชียวนะ!'

       ลูกทีมค้อนขาวต่างซุบซิบคุยกันในยามที่ก้าวเท้าเข้าสู่เวที

       "โห่~~!  โฮ่~~ ฮูวววว~~!"

       "ไวท์!  แกมันขี้ขลาด!  ช่างตีเหล็กหัวหน้าทีมคนอื่นล้วนเดินนำหน้าสุด  แล้วทำไมแกถึงให้เด็กใหม่เดินนำ!"

       "ไม่อายรึไงที่เอาแต่หลบหลังผู้อื่น"

       เสียงโห่ของกองเชียร์ทวีความรุนแรงขึ้น  
       หัวหน้าทีมเพลิงฟ้า  เอโนช  ได้เดินเข้ามาหาไวท์

       "กล้าเสนอหน้าลงแข่งอีกปีงั้นหรือ  แต่ไม่ว่ายังไง  ผลมันก็ไม่ต่างจากสามปีที่ผ่านมาหรอกนะ  ใช่ไหมล่ะ  คุณ--บ๊วย--ตลอด--กาล!"
       
       "..."

       ไวท์ไม่ตอบกลับเอโนช  ชายคนนี้มีนิสัยน่าขยะแขยงที่ชอบยั่วยุคนอื่นและรอขบขัน  หากไม่ใส่ใจ  อีกไม่นานมันคงเดินจากไปเอง
       แต่คราวนี้เอโนชกลับดื้อด้านกว่าปรกติ

       "ฉันไม่เข้าใจนายเลยจริงๆ  กล้านำเชื่อเสียงของโรงตีเหล็กค้อนขาวมาทิ้งต่อหน้าฉันคนนี้  ทั่งที่นายก็รู้ว่าตัวเองไม่มีพรสวรรค์เลยสักนิดเดียว!  อ๊ะ!  ไม่สิ!  ตอนนี้โรงตีเหล็กค้อนขาวก็ไม่มีชื่อเสียงอะไรอยู่แล้วนี่นะ  นับตั้งแต่บิดาของแกล่วงลับไปเมื่อสามปีก่อน… วันที่ชายคนนั้นเสียชีวิตลงอย่างโง่เขลาด้วยน้ำมือเกราะหนาม!"

       "แกนะแก!"

       "คุคุคุ!  เหมือนกันทั้งพ่อทั้งลูกไม่มีผิด!"

       เอโนชข้ามเส้นที่ไม่ควรข้าม  ไวท์ไม่อาจอดทนได้อีก
       ขณะเขาโกรธจัดจนคิดจะตะบันหน้าเอโนชด้วยกำปั้น  
       มีบางสิ่งทำให้ไวท์ต้องชะงัก

       "โฮ่ง  โฮ่ง  โฮ่ง!  เห็นไหมล่ะ  เสียงหมาเห่าไม่มีค่าอะไรกับนายเลย"

       "..."

       เอโนชจ้องมองไวท์อย่างมีความสุข  ทันใดนั้นต้องตะลึง
       ทั้งสองรีบหันไปมองทางต้นเสียงเห่า  แล้วก็พบชายหนุ่มผมดำดวงตาคมกริบ  เด็กใหม่แห่งโรงตีเหล็กค้อนขาวนั่นเอง

       กริดเย้ยหยันเอโนช
       "นายมันหมาบ้า  รออีกประเดี๋ยวเถอะ  ไว้การแข่งเริ่มเมื่อไร  ไม่ต้องถึงมืออาจารย์ไวท์  ฉันคนนี้จะบดขยี้แกให้แหลกคามือ"

       "อาจารย์ไวท์..."

       ทั้งไวท์และเอโนชตะลึงพร้อมกัน
       ไวท์สับสน  ส่วนเอโนชหัวเราะร่วน  เหตุการณ์ตรงหน้าช่างบ้าบอสิ้นดี

       "นายเสียสติไปแล้วรึไง!  ไวท์!  คนไร้พรสวรรค์อย่างนาย  กล้าเป็นอาจารย์ให้ผู้อื่นด้วยหรือ!  ฮะฮะ!  คนสมองทึบคิดถ่ายทอดความรู้!  วะฮ่าฮ่า!  โอ้ยเจ็บท้อง!  ถ้าช่างตีเหล็กคนอื่นได้ยินเข้าคงขำจนไม่เป็นอันแข่งแน่!"

       "ชิ...!"

       ไวท์หน้าแดงก่ำ  
       แต่เขาเป็นชายผิวดำสนิท  ทำให้มองเห็นได้ยากว่าแดงขึ้นหรือไม่  
       ไวท์กำลังอับอายอย่างแท้จริง  เพราะไม่อาจโต้แย้งคำพูดของเอโนชได้เลย

       "..."

       เขาสูญเวลาไปสามปีเต็มเพียงเพื่อครองอันดับบ๊วยของทุกปี
       ไวท์หมดความมั่นใจลงทันที  เขาคอตกก้มมองพื้นโดยไม่กล้าสู้หน้าผู้ใด
       
       "เงยหน้าขึ้นซะ  อย่ามองพื้นจนเป็นเรื่องเคยชิน"
       กริดจ้องมองไวท์พร้อมกับหวนนึกถึงตนสมัยอดีต
       "ในวันนี้  โรงตีเหล็กค้อนขาวที่นายและบิดารักยิ่งชีพ  ฉันจะทำให้มันกลายเป็นอันดับหนึ่งของแพงเจีย"

       ฉึบ

       กริดชี้นิ้วและทิ่มไปยังบริเวณหัวใจไวท์  
       ทันใดนั้น  บนนิ้วมือที่หนาและหยาบของกริด  ไวท์พลันเห็นหนังด้านของผู้ที่เพียรพยายามอย่างหนักกว่าใคร

       'มือของช่างตีเหล็ก!'

       ในที่สุด  ไวท์ก็เริ่มตระหนักถึงตัวตนที่แท้จริงของกริด
       ขณะที่เขากำลังตกตะลึง  กริดได้ลั่นวาจา

       "ฉันจะทำให้นายเป็นที่หนึ่งในแพงเจียเอง!"

       แม้วันนี้  ชันชนะของโรงตีเหล็กค้อนขาวจะมาจากกริด  แต่ในอนาคตย่อมไม่ใช่
       ทันทีที่คว้าชัยและภารกิจสำเร็จลุลวง  ค่าความสัมพันของกริดและไวท์จะเพิ่มถึงระดับสูงสุด  ในวินาทีนั้น  กริดจะใช้ทักษะ 'สายสัมพันธ์ช่างตีเหล็ก' เพื่อเพิ่มระดับให้ไวท์อย่างก้าวกระโดด

       ***

       "นับวัน  เอโนชจะยิ่งเพี้ยนมากขึ้นเรื่อยๆ"

       "เป็นเพราะเขารักและเคารพดาไวท์ยิ่งกว่าใคร  เอโนชผิดหวังรุนแรงเมื่อดาไวท์เลือกไวท์เป็นผู้สืบทอด  ในขณะที่ไวท์ไม่มีความสามารถพอ"

       "หากคิดดูให้ดี  คนที่น่าสงสารไม่ใช่ไวท์  แต่เป็นเอโนช  หมอนั่นเพี้ยนหนักแล้ว"

       "ช่างพวกเขาเถอะ  ทั้งเอโนชและไวท์มิใช่คนที่เราควรเป็นห่วง"

       เอโนชมีฝีมือเก่งฉกาจ  แต่กลับมีนิสัยหลุดโลก
       ส่วนไวท์เคยมีพรสวรรค์สูงสิบ  แต่เกียจคร้านในวัยเด็ก  ละเลยการฝึกเป่าลม
       ในมุมมองของช่างตีเหล็กอาวุโส  ผู้นำโรงตีเหล็กทั่งดำและโรงตีเหล็กแหนบแดง  ทั้งไวท์และเอโนชยังบกพร่องอยู่มาก

       "นั่นสินะ  พวกเราตั้งสมาธิกับการแข่งดีกว่า"

       "ปีก่อน  ฉันประมาทไปหน่อย  ก็เลยพ่ายแพ้เอโนชเข้า"

       "ปีนี้จะเป็นชัยชนะของพวกเราหนึ่งในสองคน!"

       หัวหน้าทีมทั่งดำและแหนบแดงต่างมองกันเป็นศัตรู 
       สีหน้าอันมุ่งมั่นและบรรยากาศรอบกายที่คุกรุ่น  ได้เรียกเสียงเชียร์จากผู้ชมในสนามแข่งได้เป็นอย่างดี

       "เบี๊ยกซาน!  ลาโฮชุน!  ทำให้เต็มที่น้า~!"

       "สร้างสมบัติแห่งชาติให้ได้!  สู้เค้า!"

       "คันศรฟินิกซ์แดงในปีที่แล้วมีพลังโจมตีน้อยเกินไป!  ปีนี้ต้องควบคุมเปลวเพลิงให้ดีขึ้น!"

       เฮ~~~!

       เป็นบรรยากาศที่แสนแตกต่าง
       โรงตีเหล็กค้อนขาวถูกโห่ฮาและวิจารณ์เสียหาย  แต่โรงตีเหล็กทั่งดำและแหนบแดงกลับได้รับคำชมเชยพร้อมกำลังใจ  
       ไวท์เผชิญกับสิ่งเหล่านี้ทุกปี  ถึงกระนั้นยังรู้สึกป่วยไข้กระอักกระอ่วน  
       เขาตัดสินใจหันมาก้มศีรษะให้กริด  

       "ก่อนอื่น  ผมต้องขออภัยที่ตาไม่มีแวว  ไม่เคยรู้ว่าคุณคือช่างตีเหล็กชั้นยอด  แล้วก็ขอบคุณมากที่ช่วยหยุดผมก่อนจะทำเรื่องโง่ๆ ลงไป"

       "นายไม่จำเป็นต้องขอบคุณฉัน--"

       กริดพยายามถ่อมตน  แต่ทันใดนั้นก็ชะงักคำพูดไว้ 
       สถานที่แห่งนี้คือทวีปตะวันออก  มิใช่ทวีปตะวันตกที่มีคนรู้จักมากมาย
       ตนคือนักเดินทางธรรมดา  มิใช่หัวหน้ากิลด์โอเวอร์เกียร์  มิใช่ลอร์ดแห่งเรย์ดัน  
       กริดตอนนี้ไม่มีสถานภาพทางสังคมให้ต้องรักษา  เขาไม่ต้องวางมาด  ไม่ต้องรักษาภาพลักษณ์  ชายหนุ่มสามารถทำตัวตามสบายดังใจต้องการ  ไม่เว้นแม้แต่นิสัยเสียส่วนตัว
       กริดเปลี่ยนประโยคทันที

       "ต้องอย่างนั้น!  ขอบคุณฉันคนนี้ซะ  ฮ่าฮ่า!"

       ฮุฮุฮุฮุ!

       ไวท์อดสงสัยมิได้
       "ทำไมคุณถึงช่วยผม"

       คำตอบของกริดแสนเรียบง่าย

       "แน่นอนว่าเพื่อตัวฉันเอง  ฉันต้องอาศัยในแพงเจียอีกสักพัก  การทำให้ใครสักคนติดหนี้บุญคุณ  ย่อมทำให้ฉันอยู่ที่นี่สบายขึ้น"

       "...แล้วทำไมถึงเลือกผม"

       "..."

       กริดกระอักกระอ่วน 
       เหตุใดกริดถึงเดินทางมายังโรงตีเหล็กค้อนขาวและออกปากช่วยไวท์น่ะหรือ
       ไม่มีเหตุผลใดเป็นชิ้นเป็นอันเลยสักนิด!  กริดเดินเข้าโรงตีเหล็กค้อนขาวเพราะมันใกล้ที่สุด  จากนั้นก็ได้รับภารกิจ  
       เรื่องราวมหากาฟตำนานของกริดในอดีตก็มักเริ่มต้นเช่นนี้เสมอ
       แต่บัดนี้  ไวท์กำลังเฝ้ารอคำตอบด้วยใจจดจ่อ  
       ไวท์คือชายผู้ถูกทุกฝ่ายรุมวิจารณ์อย่างหนักหลังจากสืบทอดกิจการจากพ่อ  แล้ววันหนึ่งกริดก็ปรากฏตัว  ผู้มีประคุณแปลกหน้าคนนี้  ไวท์ต้องการเป็นคนพิเศษในใจกริด
       แต่ไหนแต่ไร  ไวท์มีชีวิตอาภัพโดยตลอด  ทว่าครั้งนี้  สวรรค์กลับเลือกตนให้เป็นพระเอกบ้างแล้ว
       สวรรค์ต้องโยนกริดลงมาจากฟากฟ้าเพื่อช่วยเหลือตนให้พ้นภัยแน่...
       
       เมื่อเห็นแววตาเป็นประกายของไวท์  กริดจึงอมยิ้ม  
       แต่คราวนี้เป็นรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความอาทรจากใจ  มิใช่การเสแสร้ง

       "นายคือคนพิเศษ"

       กริดนึกถึงตนเองผู้แสนอาภัยในอดีต  เขาครุ่นคิดว่า  ตนต้องการให้ผู้มีพระคุณปรากฏตัวในรูปแบบใด  
       ใช่แล้ว  กริดกำลังเห็นภาพตนเองในอดีตซ้อนทับกับไวท์

       "นายคือผู้เดียวที่สวรรค์กำหนดให้ได้รับความช่วยเหลือจากฉัน  ฉันจึงตามหานาย"

       "ผม… เพียงผู้เดียว..."

       หัวใจไวท์กำลังสูบฉีด  
       ชายปริศนาตรงหน้าคือผู้ที่สามารถออกแบบสูตรผลิตคันศรฟินิกซ์แดงในเวลาอันสั้น  เป็นผู้วิเศษที่ไวท์มิอาจคาดเดาตัวตนได้  
       เมื่อรู้ว่าเป็นคนพิเศษของกริด  ไวท์จึงกลับมามั่นใจในตัวเองอีกครั้ง
       แต่บางส่วนในใจก็ยังคงหนักอึ้งเช่นเดิม

       แม้โรงตีเหล็กค้อนขาวจะชนะในการแข่งครั้งนี้  แต่ก็มิได้เป็นเพราะไวท์หรือลูกมือ  หากแต่เป็นฝีมือของชายแปลกหน้า  
       ไวท์ดีใจก็จริงที่ได้รับความช่วยเหลือ  แต่จะไปมีประโยชน์อันใดหากผลลัพธ์ไม่ได้เกิดจากฝีมือของตน

       'เรามันเป็นไอ้ขี้แพ้ที่ไม่มีสิทธิ์ชนะการแข่งนี้แต่แรก...'

       ต่อได้ให้รับความสำเร็จ  เขาก็ต้องสูญเสียมันไปในสักวัน  เพราะเขาไม่คู่ควร

       "ขอบคุณมาก… ผมดีใจจริงๆ  แต่ว่า… ผมคิดว่าไม่ควรรับความช่วยเหลือจากคุณเพื่อเอาชนะการแข่งวันนี้"

       กริดฉีกกว้างเมื่อเห็นไวท์ปฏิเสธ  ชายหนุ่มส่ายศีรษะเล็กน้อย

       "ไม่ต้องคิดสิ่งใดให้มากความ  รีบรับไมตรีจากฉันซะ!  ฉันสัญญาว่าเมื่อจบการแข่ง  นายจะกลายเป็นช่างตีเหล็กที่คู่ควรกับชัยชนะแน่นอน"

       ***

       จำนวนครั้งที่ใช้งานได้ของทักษะ 'การออกแบบไอเท็มของช่างตีเหล็กในตำนาน'  จะเพิ่มขึ้น 3 ต่อการอัพเลเวล 'การผลิตของช่างตีเหล็กในตำนาน' หนึ่งครั้ง
       เมื่อทุกทักษะในซาทิสฟายมีเลเวลสูงสุดอยู่ที่ระดับ 10   ย่อมหมายความว่า  ตลอดชั่วชีวิตของกริด  เขาจะใช้ทักษะการออกแบบได้เพียง 30 ครั้งเท่านั้น
       
       กริดต้องใช้มันอย่างรอบคอบที่สุด  หากมีครั้งใดใช่พร่ำเพรื่อ  กริดจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิตแน่
       หรืออีกความหมายหนึ่ง  การใช้ทักษะออกแบบเพื่อสร้างคันศรฟินิกซ์แดง  กริดตัดสินใจหลังจากครุ่นคิดหลายตลบแล้ว

       'มันต้องคุ้มค่าแน่'

       ชายหนุ่มยืนเข้าแถวรวมกับลูกมือทีมโรงตีเหล็กค้อนขาวเพื่อฟังประกาศจากพิธีกรสนามแข่ง  จากนั้น  พิธีกรได้กล่าวเริ่มต้นการแข่งอย่างเป็นทางการ
       ผู้ชมทุกคนเฝ้ารอใจจดจ่อ  หวังอยากเห็นคันศรฟินิกซ์แดงถูกสร้างเสร็จสมบูรณ์

       'นี่คือธนูของจิสึกะ'

       และหากเขาสามารถผลิตขึ้นจำนวนมากเพื่อให้ทหารกองทัพตนใช้งาน...

       'กองทัพของเราจะไร้พ่าย'

       กริดอ่านรายละเอียดสูตรการผลิตเป็นหนสุดท้าย  ก่อนจะนำบางสิ่งออกจากช่องสัมภาระ  
       ไม้ฟอสฟอรัสขาว
       เป็นท่อนไม้ฟอสฟอรัสขาวที่ยาวตรงสวยงาม

       "อะไรกัน!"

       ผู้ชมหลายหมื่น  ช่างตีเหล็กหลายร้อย  ทุกคนต่างหันมามองกริดอย่างตกตะลึงเป็นตาเดียว

       "ก--กริด"

       ทันทีที่เริ่มแข่ง  กริดก็ดึงความสนใจผู้ชมมาอยู่กับตัวเรียบร้อย
       ไวท์กำลังประหม่าและตื่นเต้น  เขาเป็นกังวลว่ากริดอาจทำพลาดจนถูกเย้ยหยัน 
       ทว่า  นับแต่กลายเป็นผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่า  ชายคนนี้ก็เป็นที่จดจ้องของผู้คนจำนวนมากมาโดยตลอด  เขาชาชินเสียแล้ว  

       "มาเริ่มกันเลย"

Comments

  1. โอ้ ......เริ่มมัน สนุกจนรออ่านตอนต่อไปไม่ไหวแล้ว อยากอ่านต่อเร็วๆจัง

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00