จ้าวแห่งยุทธภัฑณ์ 543

[ ร่อยรอยคันศรฟินิกซ์แดงที่แท้จริง ]
ระดับความยาก : SS
    อารูบี  ที่ว่ากันว่าถูกสังหารโดนนักพรตชั่ว  ความจริงแล้วยังมีชีวิตอยู่
    อารูบีเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มกบฏ  โดยหัวหน้าของมันคือนักพรตชั่ว
    แรกเริ่ม  มอนสเตอร์ดุร้ายถูกล่อลวงมาตั้งชุมชนทางแดนเหนือด้วยฝีมือนักพรตชั่วผู้นั้น  เพื่อทำให้แพงเจียขาดการติดต่อกับโลกภายนอก
    บัดนี้  อารูบีมีแผนจะยึดครองแพงเจียด้วยกองทัพเกราะหนามที่มันควบคุมอยู่
    จงค้นหาร่องรอยของคันศรฟินิกซ์แดงซึ่งถูกขโมยไปโดยอารูบีและนักพรตชั่ว
    อารูบีเป็นคนรักตัวกลัวตาย  หากท่านเอาชนะมันแบบยังมีชีวิต  ท่านสามารถเค้นถามข้อมูลสำคัญจากมันได้
เงื่อนไขสำเร็จภารกิจ : อารูบีถูกจับหรือเสียชีวิต
รางวัลสำเร็จภารกิจ :
1. หากจับตัวอารูบี 
- ค่าประสบการณ์ตัวละครเพิ่มขึ้น 30%  
- ภารกิจ <ร่อยรอยคันศรฟินิกซ์แดงที่แท้จริง> จะพัฒนาไปเป็นบทถัดไป
2. หากอารูบีเสียชีวิต 
- เลเวลตัวละครเพิ่มขึ้น 2 ระดับ  
- แต่ภารกิจ <ร่อยรอยคันศรฟินิกซ์แดงที่แท้จริง> จะหายไปตลอดกาล

    'เจ๋ง...'

    หลังจากถูกพิษไม่นาน
    กริดต้องขนลุกซู่เมื่อมีโอกาสอ่านรายละเอียดภารกิจใหม่
    เรื่องราวของอารูบีและนักพรตชั่ว  กริดรู้ล่วงหน้าจากภารกิจของไอดานที่ให้ตามหากระทะ
    เขามีโอกาสลงมายังดันเจี้ยนแห่งนี้  เพราะสร้างความสัมพันธ์อันดีกับไวท์  จนเข้าร่วมแข่งตีเหล็กและคว้าชัยมาได้
    ทุกสิ่งนำพามาสู่การสำรวจพบกล่องสมบัติใจกลางทะเลสาป 
    
    ดังนั้น  ทันทีที่ภารกิจ <ร่อยรอยคันศรฟินิกซ์แดงที่แท้จริง> ปรากฏขึ้น  กริดก็รู้ได้ทันทีว่า  นี่จะต้องเป็นภารกิจต่อเนื่องซึ่งนำทางไปสู่การได้รับคันศรฟินิกซ์แดงรุ่นต้นแบบ  
    คันศรฟินิกซ์แดงรุ่นต้นแบบคืออะไรน่ะหรือ
    มันก็คืออาวุธประเภทธนูที่ดีที่สุดของโลกเวลานี้

    แม้คันศรฟินิกซ์แดง (จำลอง) ของกริดจะมีคุณสมบัติทางกายภาพสูงกว่ารุ่นต้นแบบ  แต่มันกลับมีขีดจำกัด
    ขีดจำกัดของการเป็นเพียงแบบจำลอง  เกรดสูงสุดถูกกำหนดไว้เพียงเลเจนดารี  
    กลับกัน  คันศรฟินิกซ์แดงรุ่นต้นแบบย่อมมีเกรดต่ำสุดคือเลเจนดารี  และสามารถพัฒนาไปไกลกว่านั้นได้
    จึงไม่แปลกที่คันศรรุ่นจำลองจะมีขีดจำกัดสูงสุดต่ำกว่าคันศรรุ่นต้นแบบ  
    นี่คือระบบของเกมที่ผู้เล่นมิอาจฝ่าฝืน

    แต่ถ้าหากไม่เป็นไปตามที่กริดคิดล่ะ
    จะเกิดอะไรขึ้น  ถ้าเกิดว่าคันศรฟินิกซ์แดงรุ่นต้นแบบด้อยประสิทธิภาพกว่ารุ่นจำลอง  
    ต่อให้เป็นเช่นนั้นจริง  แต่อย่าได้ดูแคลนมูลค่าของรุ่นต้นแบบเด็ดขาด
    อย่าลืมว่ามันคือธนูที่มีลมหายใจฟินิกซ์แดงผสานรวมอยู่ด้วย

[ ลมหายใจฟินิกซ์แดง ]
    คำอวยพรจากเทพฟินิกซ์แดง    
    เพิ่มค่าต้านทานธาตุไฟ 30% เมื่อเก็บไว้กับตัว
    สามารถนำไปผสานกับไอเท็มเพื่อเพิ่มออร่าฟินิกซ์แดงอันทรงพลัง
    แต่ต้องเป็นไอเท็มที่มีพลังโจมตีธาตุไฟสูงเท่านั้น
น้ำหนัก : 2

    นี่คือรางวัลที่กริดได้รับจากการสร้างคันศรฟินิกซ์แดงรุ่นจำลอง
    หากกริดได้รับธนูแห่งเทพรุ่นต้นแบบจากภารกิจใหม่มาด้วย  หมายความว่าเขาจะมีลมหายใจฟินิกซ์แดงถึงสองอัน
    เพียงแค่เก็บไว้ในตัว  ค่าต้านทานไฟของกริดจะกลายเป็น 60% ทันที  
    หรือหากใช้สร้างไอเท็ม  บางที  เขาอาจเสริมให้พลังโจมตีธาตุไฟของคันศรฟินิกซ์แดงรุนแรงเป็นสองเท่าจากเดิม
    กริดไม่มีทางรู้เลยว่า  คันศรฟินิกซ์แดงที่ใส่ลมหายใจฟินิกซ์แดงไปถึงสอง  จะมีความทรงพลังมากแค่ไหนกัน  
    ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะประเมินพลังของสิ่งที่ไม่เคยใช้งานมาก่อน

    "คุ...!  คุคุ!"

    กริดผู้กำลังปลามปลื้มรีบชิงเปิดศึก
    อารูบีปรากฏตัวจากกล่องสมบัติ  จากนั้นก็เสียเวลาไปกับการเย้ยหยันซูเอและหน่วยฟินิกซ์แดงอยู่พักหนึ่ง

    "ผสานไอเท็ม"

    เคร้ง! เคร้ง!  เคร้ง!

    กริดนำเตาหลอมแบบพกพาออกมา  จากนั้นก็เรียกลูกมือหัตถ์เทวะออกมาช่วยเร่งความเร็ว
    เปลวเพลิงลุกโชนในพริบตาด้วยฟืนฟอสฟอรัสขาว
    ชายหนุ่มนำ 'ความผิดพลาด' และ 'ดาบใหญ่กริด' มาวางบนทั่งและเริ่มทุบค้อน
    มโยลเนียร์ทั้งสี่อันจากหัตถ์เทวะล้วนมีออปชั่นเร่งความเร็วทักษะตีเหล็ก  
    ส่งผลให้อาวุธผสานเสร็จสิ้นในเวลาไม่นาน

    "แกเสียสติไปแล้วรึไง!  นั่งทุบค้อนไม่ดูตาม้าตาเรือ... หรือแกไม่ปรกติกันแน่!"

    เมื่ออารูบีรับรู้ถึงตัวตนกริด  มันรีบหันมาส่งเสียงสาปแช่งทันที

    "คลื่นร่ายรำสังหาร"

    กริดเหวี่ยงอาวุธผสานออกไปสุดกำลัง

    ซ่าาาา! ซ่าาา!

    NPC พิเศษล้วนเก่งกาจ  
    โดยเฉพาะอารูบีที่สามารถควบคุมกองทัพเกราะหนาม
    กริดคาดว่าอารูบีน่าจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าเกราะหนามหลายเท่า  
    ชายหนุ่มกระหน่ำเปิดศึกอย่างสุดฝีมือโดยไม่ลังเล

    'ควบคุมอันเดดได้  น่าจะเป็นคลาสจำพวกหมอผี  ต่อให้เป็น NPC พิเศษก็เถอะ  แต่ไม่มีทางที่พลังป้องกันและพลังชีวิตจะสูงเกินต่อกรไหว  หากมีตัวช่วยจากเอฟเฟคโจมตีสามเท่าหรือคริติคอลสักครั้ง  เราสามารถคุมสถานการณ์ได้ด้วยมายาร่ายรำและคลื่นร่ายรำสังหาร'

    แต่ถ้าเสริม 'ทำลายล้างสังหาร' เข้าไปด้วย  มีโอกาสพอสมควรที่อารูบีจะเสียชีวิต  และภารกิจสำเร็จเป็นอีกเงื่อนไขที่เขาไม่ต้องการ
    'ความผิดพลาด' ขึ้นชื่อในด้านพลังโจมตี  แถมยิ่งเป็นในที่มืด  
    ดาบใหญ่กริดจะช่วยเพิ่มความรุนแรงทักษะอีก 20%  แม้จะมีพลังโจมตีด้อยกว่า 'ความผิดพลาด' เล็กน้อย
    เมื่อสองดาบสุดโกงมาผสานกัน  อาวุธสั่นสะท้านปฐพีจึงถือบังเกิด

    กริดต้องออมอืมไว้บางส่วน

    "อ--อ๊ากกกก!"

    บึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!

    ชายหนุ่มแสยะยิ้มเมื่ออารูบีถูกคลื่นสังหารทั้งแปดพุ่งเสียบร่าง

    'เรากำลังจะเคลียร์ภารกิจเกรด SS'

    ยอดเยี่ยมที่สุด!
    กริดกำลังได้ใจ  เขารีบซัด 'มายาร่ายรำ' ใส่อารูบีต่อทันที
    ทันใดนั้น  ชายหนุ่มพลันชะงักงัน  ยืนแข็งทื่อเป็นรูปปั้นหิน

    "อ--เอ๋!"

    หลอดพลังชีวิตของอารูบี...

    "หายไปไหน!"

    ใช่แล้ว  หลอดพลังชีวิตอารูบีหายไปทั้งหมด

    สมัยเรียนปีหนึ่งมหาวิทยาลัย
    เขาต้องเป็นหนี้เพราะนำเงินทั้งหมดไปใช้เล่นเกมโดยไม่ลืมหูลืมตา

    'ทำไมกัน'

    ถึงจะเป็นหมอผี  แต่ก็ไม่ควรมีพลังชีวิตและพลังป้องกันต่ำต้อยขนาดนี้
    กริดสับสนอย่างหนัก

    "อุ..."

[ อารูบีเสียชีวิต ]

    หลังจากถูกร่ายรำสังหารเสียบร่าง  อารูบีกลายเป็นแสงสีเทาและจางหายไป
    ข้อความระบบปรากฏขึ้นต่อหน้ากริด

[ หมอผี อารูบี เสียชีวิต ]
[ ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 89,005,310 หน่วย ]
[ ท่านได้รับไอเท็ม <ตราประทับปริศนา> ]
[ ท่านได้รับไอเท็ม <แหวนอารูบี>]
[ ภารกิจ <ร่อยรอยคันศรฟินิกซ์แดงที่แท้จริง> ถูกทำลาย  ภารกิจต่อเนื่องทั้งหมดจะหายไป ]
    
[ เลเวลของท่านเพิ่มขึ้นสองระดับ ]

[ ในฐานะที่มีคลาสรอง  ท่านจะได้รับแต้มสถานะทั้งหมด 24 แต้ม ]
[ 12 แต้มถูกบังคับทำไปลงกับค่าสติปัญญาเนื่องด้วยผลของคลาสรอง  มหาจอมเวทในตำนาน ]

    "...เฮ่อ"

    ตุ้บ...

    กริดถอนหายใจยาวพร้อมทรุดลงกับพื้น
    ลมหายใจฟินิกซ์แดงที่ฝังอยู่ในคันศรฟินิกซ์แดงต้นแบบ  เขาสูญเสียเบาะแสเพียงหนึ่งเดียวของสมบัติเทพที่แสนสำคัญ  สภาพจิตใจของกริดกำลังจมดิ่ง  
    ขณะชายหนุ่มพึมพำกับตนเองด้วยสติหลุดลอย  หน่วยฟินิกซ์แดงรีบวิ่งเข้ามาหา

    "คุณเอาชนะศัตรูที่ประสงค์ร้ายต่อคุณหนูและแพงเจีย!  คุณคือวีรบุรุษผู้มีพระคุณของแพงเจีย!"

    "กริด!  ถ้าคุณมีเรื่องเดือดร้อนในอนาคต  อย่าลังเลที่จะบอกให้พวกเราได้รับรู้!  เราทุกคนยินดียื่นมือช่วยเหลือโดยไม่ลังเล!"

    "..."

    ค่าความสัมพันธ์กับหน่วยฟินิกซ์แดงเพิ่มขึ้นมาก
    แต่กริดกลับไม่ดีใจเลยสักนิด  เขาเอ่ยปากถามซูเอด้วยน้ำเสียงเหม่อลอย
    "มันเป็นหมอผีสินะ  ทำไมถึงมีร่างกายที่อ่อนแอนัก"

    "ใช่แล้ว  คนพวกนี้อ่อนแอเหมือนกับเด็กทารก  แต่โดยส่วนมาก  พวกมันจะไม่ถูกโจมตีบ่อยครั้ง  อสูรอัญเชิญล้วนแข็งแกร่งกว่าตัวหมอผีหลายเท่า"

    "...นั่นสินะ"

    "ดยุคแห่งคุณธรรมของแพงเจียเล็งโจมตีใส่ช่องว่างที่อารูบีเผยออกมา  อารูบีคงคาดไม่ถึงแน่  ว่าช่างตีเหล็กจะโจมตีได้รุนแรงและหนักหน่วง  มันจึงเสียชีวิตในพริบตา"

    "...อือ"

    กริดพยายามสลัดอารมณ์เศร้าหมอง
    แม้จะไม่ได้ผลลัพธ์ภารกิจที่ต้องการ  แต่เขาจะมัวนั่งเสียใจตลอดก็ไม่ได้

    'ลองคิดในแง่บวก'

    เลเวลของเขาเพิ่มขึ้นสองระดับหลังจากปราบอารูบี
    แถมยังได้รับไอเท็มตราประทับปริศนาและแหวนอารูบี  สิ่งเหล่านี้คือของรางวัลที่จะไม่ได้รับ  ถ้าหากกริดเลือกจับเป็นมัน

    'ของรางวัลจากภารกิจเกรด SS ไม่มีทางเป็นขยะแน่'

    อาจมีมูลค่าสูงกว่าคันศรฟินิกซ์แดงรุ่นต้นแบบก็เป็นได้
    แน่นอนว่าแค่ 'อาจจะ'
    กริดเปี่ยมไปด้วยความหวัง  แต่ขณะที่เขาจะใช้ทักษะตรวจสอบใส่ตราประทับปริศนาและแหวน

    ฉึบฉึบ!

    การต่อรู้สึกระหว่าง 'ความผิดพลาดสีทอง' สี่เล่มกับฝูงเกราะหนามได้เข้าสู่ช่วงผลลัพธ์
    ในตอนแรก  คล้ายกับหัตถ์เทวะเป็นฝ่ายได้เปรียบ  แต่เมื่อผ่านไปสักพัก  แต่ละข้างก็เริ่มถูกด้ายเงินรัดตรึงจนขยับไม่ได้
    เมื่อรู้ว่าหัตถ์เทวะไม่มีวันถูกทำลาย  เกราะหนามจึงหันมาเล็งโจมตีกริดและหน่วยฟินิกซ์แดงแทน

    "คงต้องเก็บกวาดเจ้าพวกนี้ก่อนสินะ"

    กริดชะงักการตรวจสอบไว้ก่อน  จากนั้นก็ไล่ฆ่าฟันเกราะหนามด้วยจิตสังหารรุนแรง
    เขาปลดปล่อยความโกรธแค้นทั้งหมดใส่พวกมันโดยไม่ยับยั้ง

    'เราจะเชือดเกราะหนามทุกตัวก่อนออกจากดันเจี้ยนนี้'

    ใกล้ได้เวลากินอาหารของไอดานแล้วด้วยสิ
    กริดอยากแข็งแกร่งขึ้นก็จริง  แต่เขารู้สึกเหมือนตกนรกทุกครั้งที่ได้กินอาหารขยะจากไอดาน  มันทั้งทรมานและยากลำบาก
    แววตาดุดันของกริดตอนนี้  กำลังเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นจากหลากหลายสาเหตุ
    ซูเอที่จ้องมองอยู่ห่างๆ พลันหน้าแดงก่ำอีกครั้ง

    "สุดยอด... นายไม่เหนื่อยบ้างรึไง  ทำไมถึงยังเหลือเรี่ยวแรงเยอะขนาดนี้"

    "..."

    เหตุใดซูเอถึงต้องหน้าแดง 
    กริดไม่อยากรู้สักเท่าไร  
    ไม่สิ  เขากลัวที่จะรับรู้มากกว่า  ชายหนุ่มเป็นกังวลว่า  หากวันใดที่ตนเริ่มเข้าใจซูเอขึ้นมา  วันนั้นเขาอาจไม่ปรกติอีกต่อไป

    ***

    หลังจากเข้ายึดครองแพเทรี่ยนพร้อมกับลักพาตัวเอิร์ลอัชเชอร์  อาณาจักรอีเทอนัลได้ตราหน้ากริดเป็นผู้ทรยศทันที
    เขาถูกริบตำแหน่งทั้งหมดในอาณาจักร  กองทัพหลวงเริ่มลงมือทวงคืนดินแดนอีเทอนัลกลับคืน

    เป้าหมายแรกย่อมเป็นเกาะคอร์ก
    ในสายตาอีเทอนัล  เกาะคอร์กยึดคืนได้ง่ายมาก  เพราะอยู่ห่างไกลจากเรย์ดัน  แพเทรี่ยน  และบอร์เนียว
    แต่ความจริงคืออะไรน่ะหรือ
    ผ่านไปห้าวัน  กองเรืออันเกรียงไกรสองหน่วย  กลับมิอาจยึดครองเกาะคอร์กได้สำเร็จตามแผน
    
    พลเรือเอก 'เลอบัค' แสดงอาการฉุนเฉียวทันทีเมื่อได้รับรายงาน

    "ระยะห่างจากเรย์ดันและเกาะคอร์กมีมากถึง 15 วัน  แถมระหว่างทางยังเต็มไปด้วยป้อมปราการของอาณาจักรเรา  ไม่มีทางที่พวกกบฏจะส่งกำลังมาสนับสนุนเกาะคอร์กได้มาก  แกกำลังบอกว่า  แค่กำลังรบของเกาะคอร์ก  มากพอจะสกัดกั้นกองเรือไว้ได้งั้นหรือ"

    "มันคือดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยอาหารการกิน  และฝ่ายกบฏได้วางขุนพลผีมือดีคอยบัญชาการ  ด้วยความที่เป็นเกาะ  อีกฝ่ายจึงวางปราการตั้งรับชายฝั่งอย่างแข็งขัน"

    นั่นก็เป็นไปได้
    เลอบัคตัดสินใจครั้งใหม่

    "พวกเราจะเปลี่ยนวิธีการบุก"

    แต่ก

    เลอบัคชี้ไปยังทิศเหนือของแผนที่เกาะคอร์ก
    เดิมที  เกาะคอร์กเป็นดินแดนของอีเทอนัล  ทำให้ฝ่ายอีเทอนัลรู้จักทุกซอกมุมอย่างทะลุปรุโปร่ง

    "ยามตะวันตกดิน  ส่งหน่วยหนูดำน้ำลอบบุกเข้าไปยังจุดนี้"

    หนูดำน้ำ  รหัสหน่วยคือ R77  หน่วยรบพิเศษของกองทัพเรืออีเทอนัล
    ในค่ำคืนนี้  พวกมันมีภารกิจดำดิ่งลงใต้ทะเล  ลอบเข้าชายฝั่งเกาะคอร์ก  และลัดผ่านอุโมงลับภายในเหมือง 
    นี่คือแผนการแทรกซึมที่สมบูรณ์แบบ

    "ตัดหัวแม่ทัพพวกมันมา  เมื่อถึงเวลานั้น  กองเรือของพวกเราจะเข้าถล่มชายฝั่งเกาะอีกครั้ง"

    เป็นเวลาหลายปีแล้วที่ทัพฝ่ายกบฏครอบครองดินแดนเกาะคอร์ก 
    ถึงกระนั้น  พวกกบฏก็ไม่มีทางรู้ถึงอุโมงลับที่ซ่อนอยู่ในเหมืองบนเกาะแน่

    "วันพรุ่งนี้  เกาะคอร์กจะกลับสู่อ้อมอกอีเทอนัลอีกครั้ง"

    นี่คือแผนการอันแยบยลซึ่งอาศัยข้อมูลทางภูมิประเทศที่เหนือกว่า
    เลอบัคมั่นใจมาก

• Next
• Previous