จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,128



‘เราทราบดี ท่ารำดาบมีช่องโหว่มากมาย’


ท่ารำดาบถือเป็นการเต้นรำชนิดหนึ่ง เกิดจากการนำท่าเคลื่อนไหวเปล่าประโยชน์มาเรียงต่อกันให้งดงาม


ท่านรำดาบแต่ละชนิดจะมีจุดประสงค์หรือแก่นแท้ต่างกัน จึงถูกบังคับให้ต้องเคลื่อนไหวร่างกายแตกต่างกันไป


หมายความว่า จำเป็นต้องมีการ ‘ก้าว’


การก้าวเท้าส่งผลให้เกิดช่องว่างร้ายแรง และเหล่าบุคคลพรสวรรค์ก็พร้อมใจกันเล็งโจมตีไปยังจุดดังกล่าว


แต่สาเหตุทำให้กริดผงาดเช่นทุกวันนี้ได้ เพราะประสิทธิภาพของท่ารำดาบ พอจะช่วยกลบจุดอ่อนร้ายแรงของจังหวะ ‘ก้าว’ ได้บ้าง


ไม่เพียงเท่านั้น กริดยังจงใจทำให้จังหวะก้าวกลายเป็นข้อได้เปรียบในบางสถานการณ์ ใช้เป็นท่วงท่าโยกหลบหรือป้องกัน นอกจากนี้ การยกระดับวิชาดาบยังช่วยลดการเคลื่อนไหวไม่จำเป็นลง


ด้วยหลายปัจจัยผสมผสาน กริดสามารถใช้เทคนิคการรำดาบ เอาตัวเองให้รอดจากวิกฤติหนแล้วหนเล่า


แต่การ ‘ฝืน’ ย่อมมีขีดจำกัด และมันกำลังประจักษ์ชัดในการดวลคราวนี้


เมื่อตระหนักถึงขีดจำกัดของการรำดาบ กริดเกิดความรู้สึกห่อเหี่ยว


แต่มันมิได้หมดอาลัยตายอยาก


การรำดาบคือส่วนหนึ่งของกริด แต่ไม่ใช่ทุกอย่างของกริด


‘การทำลายท่ารำดาบ คือการทำลายกริด’ คำกล่าวนี้ไม่เป็นจริงมาตั้งนานแล้ว


‘เราไม่เหมือนเดิม’


กริดมองเข้าไปในดวงตาบีบันอย่างใจเย็น


เห็นได้ชัดว่า บีบันกำลังเพ่งสมาธิจ้องมองร่างกายท่อนล่างของตน


เดาเจตนาได้ไม่ยาก ขณะกริดย่างก้าว อีกฝ่ายเตรียมยิงปราณดาบเพื่อขัดขวางท่วงท่ารำดาบ


ทว่า วิชาดาบมาดราไม่จำเป็นต้องก้าวขา


ตลอดชีวิตของมาดรา มันบดขยี้กองทัพจักรวรรดินับแสนในพริบตา โดยยังยืนปักหลักอย่างสง่างามตรงจุดเดิม ประหนึ่งมหาขุนเขาไม่สั่นคลอน


“ดาบพินาศทัพ…”


กริด ผู้ลอยตัวกลางอากาศ เริ่มบิดสะโพก


“หนึ่งแสน!”


“…!!”


ความยิ่งใหญ่ของราชาไร้พ่าย กำลังพรั่งพรูลงเบื้องล่างราวกับสายน้ำตกเชี่ยวกราก


ขณะปราณดาบจำนวนมากโหมกระหน่ำปานวายุสลาตัน กริดประจักษ์เต็มสองตาว่าบีบันกำลังเผยสีหน้าตกตะลึง จากการโจมตีอันไม่คาดฝัน


‘ได้ผล!’


ขณะกริดกำลังเชื่อเช่นนั้น


“…!?”


คลื่นพลังล่องหน แฝงจิตสังหารท่วมท้นท้องฟ้า กำลังพุ่งตรงมายังลำคอชายหนุ่มอย่างเงียบงัน


สัญชาตญาณของเหนือมนุษย์ได้ตักเตือนให้มันระวังตัว


เมื่อเป็นเช่นนั้น กริดผู้กำลังตกตะลึงกึ่งประหลาดใจ รีบเอนตัวโยกลำคอ หลบหลีกการโจมตีลึกลับอย่างสุดความสามารถ


ฉัวะ—!


เกิดรอยแผลสีแดงทางยาว ไล่ตั้งแต่โหนกแก้มข้างหนึ่ง ผ่านสันจมูก ไปจนถึงโหนกแก้มอีกข้างหนึ่ง แต่นอกเหนือจากนั้น การโจมตีปริศนามิได้ทิ้งร่องรอยใดไว้บนโลก


‘บ้าบอสิ้นดี…!’


ไม่ใช่ ‘ดาบจิต’ แน่นอน


ครอเกลเคยสำแดงให้ประจักษ์แล้วว่า ดาบจิตคือท่าโจมตีจากการนึกคิด เพียงคิดว่าจะ ‘ตัด’ เป้าหมายก็จะถูก ‘ตัด’ ทันที


หมายความว่า จะไม่มีวันพลาดเป้า


กริดพลันเย็นวาบไปถึงกระดูกสันหลัง


‘หรือจะเป็น… ปราณไร้ตัวตน?’


ปราณไร้ตัวตน


คลื่นพลังระดับสูงสุด ของยอดปรมาจารย์ด้านการต่อสู้ในศาสตร์ทุกแขนง อาศัยการเพ่งจิตอันบริสุทธิ์กระแทกใส่เป้าหมาย


แตกต่างจาก ‘ดาบจิต’ ปราณไร้ตัวตนไม่มีคุณสมบัติเอารัดเอาเปรียบอย่าง ‘โจมตีไม่พลาดเป้า’ แต่มีข้อดีคือ สามารถซัดพลังทางกายภาพใส่เป้าหมาย โดยผู้โจมตีไม่ต้องออกท่าทางให้วุ่นวาย


แน่นอน พลังทำลายด้อยกว่า ‘ดาบจิต’ มาก


แต่ปราณไร้ตัวตนของบีบันกลับมาพร้อมพลังทำลายเหนือจินตนาการ


วาบ…!


บาดแผลฉีกขาดทำให้ผิวหนังกริดเริ่มชา


หากขยับช้ากว่านี้เพียงนิดเดียว กริดมั่นใจว่าลำคอของตนคงกระเด็นหลุดจากบ่า


“อะ…!”


ผ่านไปหนึ่งวินาทีแล้วใช่ไหม?


หลังจากยืนตัวแข็งทื่อสักพัก กริดรีบก้มมองลงไปด้านล่าง


คลื่นดาบพินาศทัพหนึ่งแสนกำลังกดดันให้บีบันตกเป็นฝ่ายตั้งรับ


ตรงตามความคาดหมายของกริด บีบันไม่สามารถสลายทิ้งได้ในพริบตา ต้องกางม่านดาบและปล่อยให้ปราณดาบของกริดพุ่งเข้าปะทะทีละเส้น แต่ขณะเดียวกัน สายตาบีบันยังคงจ้องมองกริดโดยไม่ละไปไหน


[หลบได้ดีนี่ ถึงปฏิกิริยาจะทื่อไปสักหน่อย แต่เจ้าครอบครอง ‘กายา’ ซึ่งสามารถนำพาตัวเองให้หลบพ้นได้ฉิวเฉียด]


‘สัตว์ประหลาดชัดๆ…’


ส่งข้อความในเวลาแบบนี้เนี่ยนะ?


กริดขบกรามแน่น มันเล็งปลายนิ้วชี้ไปหาบีบันพลางส่งเสียงตะโกน


“ศรเวท!”


ชิ้ง—


มวลแสงสีขาวกำลังรวมตัวรอบปลายนิ้ว


กริดเพ่งสมาธิเล็งไปยังช่องว่างระหว่างม่านดาบด้วยสายตาเหนือขีดกำจัดมนุษย์ จากนั้นก็กระหน่ำยิงเวทมนตร์โดยไม่หวงแหนหลอดมานา


บึ้ม! บึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!!


เส้นปราณดาบจากดาบพินาศทัพหนึ่งแสน พุ่งกระแทกม่านดาบ พร้อมกับสร้างระเบิดคลื่นกระแทกแผ่ออกไปเป็นวงกว้าง ห้วงมิติเวทมนตร์บีบันพลันสะเทือนหนักหน่วง ขณะเดียวกัน กริดรัวยิงศรเวทถล่มประหนึ่งห่าฝน ไม่เพียงเท่านั้น หัตถ์เทวยังช่วยเล็งขว้างค้อน ‘มโยลเนียร์’ สนับสนุน


เคร้ง!เคร้ง!เคร้ง!เคร้ง!เคร้ง!เคร้ง!


บีบันและดาบหนึ่งเล่มในมือ ปัดทำลายส่วนเกินทั้งหมดอย่างง่ายดาย


“เชี่ย…”


กริดถึงกับหายใจติดขัด


เป็นระดับความทรงพลัง ซึ่งอยู่นอกเหนือจินตนาการไปไกลมากทีเดียว


บีบันพึมพำ


“เข้าใจแล้ว… เวทมนตร์บราฮัมและวิชาดาบมาดราของเจ้า ยังไม่ได้อยู่ในขั้นสมบูรณ์”


“…อึก!”


คงเพราะมีปฏิสัมพันธ์กับ ‘หัวแถว’ ได้แค่คนเดียวสินะ…


ราวกับบีบันครอบครองพลังอันไร้ขอบเขตไว้กับตัว หากชายคนนี้สามารถติดต่อกับโลกกึ่งกลางได้อย่างอิสระ เกรงว่าสมดุลของซาทิสฟายคงพังครืนไม่เป็นท่านานแล้ว


ฝีมือเหนือกว่าแกรนมาสเตอร์ ร่างจุติของเจ็ดมาร รวมถึงยังบัน ไปหลายขุม


บางที อาจเป็นบุคคลหนึ่งเดียวบนโลกกึ่งกลาง ผู้สามารถต่อกรแมรีโรสได้อย่างสูสี


‘คงต้องหนีสุดชีวิต…’


ท่ารำดาบไร้ผล รังแต่จะเผยจุดอ่อน


เมื่อตัดสินใจได้ กริดเตรียมทุ่มพลังสายตั้งรับทั้งหมดของตน ไม่ว่าจะเป็น ‘ราชินีแห่งการตบตาและบิดเบือน’ หรือ ‘วังวัน’


จุดประสงค์บททดสอบคราวนี้ไม่ใช่เอาชนะ แต่เป็นการรักษาชีวิต


เป็นเกมไม่ยาก ขอแค่อดทนเพียงหนึ่งนาที


ยังเร็วไปจะถอดใจยอมแพ้ เพียงเพราะทักษะไม่กี่ชนิดถูกปิดผนึก


ในทางกลับกัน บีบันยังคงจ้องกริดเขม็ง


‘เด็กคนนี้… คาดเดาได้ยากมาก’


เฉกเช่นความอารมณ์ร้อน บีบันเป็นคนซื่อตรงต่อความรู้สึกตัวเอง


เมื่อเทียบกับสภาหอคอยคนอื่น ตัวมันจะดูฉลาดน้อยกว่า เนื่องจากเคยก่อความผิดพลาดมากมายจนเป็นเรื่องปรกติ


แต่ไม่ได้แปลว่ามันโง่หรือไร้ฝีมือ


ต่อให้เคยก่อความผิดนับพันครั้ง แต่ก็กลบเกลื่อนได้ด้วยดาบในมือทุกครั้ง


ย้อนกลับไปหลายร้อยปีก่อน บีบันคือผู้ฟันปีกมังกรศิลา ‘กูเซล’ จนขาดสะบั้น ในสงครามปกป้องหมู่เกาะเบเฮ็นจากกองทัพอสูรหลายพันตน เมื่อครานั้น มังกรได้เข้ามาแทรกแซงความขัดแย้งระหว่างมนุษย์และอสูร


‘เป็นผู้สืบทอดแพ็กม่า แต่ยังสืบทอดพลังของบราฮัมและมาดราบางส่วน…’


บีบันคืออริยะแห่งดาบ


ผู้บรรลุดาบทั้งหมดทั้งมวล


จิตสามารถสื่อสารกับดาบโดยตรง


ภายใต้สถานการณ์ปรกติ เมื่อประเมินจากพลัง เทคนิค และอารมณ์ของดาบศัตรู บีบันจะอ่านตัวตนแท้จริงของอีกฝ่ายได้อย่างคร่าว รวมถึงพลังในครอบครองบางส่วน


แต่มันกลับไม่กล้าประเมินขีดจำกัดกริด


ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้ และไม่ใช่เพราะหวังรักษามารยาทการดวล


แต่เป็นเพราะ


‘เด็กคนนี้… ไม่ได้เกิดมาพร้อมพรสวรรค์’


กริดแข็งแกร่ง ไม่มีใครปฏิเสธได้


มีกายาเหนือมนุษย์ในระดับเกือบสมบูรณ์ ครอบครองเทคนิคหลากหลาย มาพร้อมกับยุทธภัณฑ์ทรงพลังแปลกตา


แต่ยังขาดความประณีต


แตกต่างจากอดีตหัวแถวโดยสิ้นเชิง


ด้วยเหตุนี้ บีบันยิ่งเกิดความชื่นชมกริด


‘จะต้องมุมานะขนาดไหนกัน…?’


มันไม่กล้าจินตนาการ


เฉกเช่นสามัญชนไม่เข้าใจอัจฉริยะ


อัจฉริยะก็ไม่เข้าใจสามัญชน


“…”


รู้ตัวอีกที การทดสอบก็ผ่านไปนาน 27 วินาทีแล้ว


บีบันทราบเวลาแน่ชัด แต่กลับไม่ยอมลงมือปิดฉากกริดให้เป็นเรื่องเป็นราว


มันยืนเงียบงัน และครุ่นคิดว่าเพราะเหตุใด บราฮัมและมาดราถึงยอมถ่ายทอดวิชาให้กริด


‘เห็นอกเห็นใจ? ไม่สิ… ชื่นชม?’


บุรุษผู้กลายเป็นราชาวีรบุรุษ ด้วยพรสวรรค์เป็นศูนย์


บางที บราฮัมและมาดราอาจคิดเหมือนตน


เริ่มจากรู้สึกทึ่งในความแข็งแกร่งของบุคคลไร้พรสวรรค์ พัฒนากลายเป็นความสนใจ จนกระทั่งแปรเปลี่ยนเป็นความชื่นชอบในภายหลัง


“ช่างน่าขัน…”


สามสิบวินาทีผ่านไป บีบันเผยรอยยิ้ม


เมื่อเห็นภาพดังกล่าว เหงื่อเย็นเฉียบเริ่มผุดซึมฝ่ามือกริด


‘คิดจะทำอะไร…!’


กริดก้มมองอีกฝ่ายด้วยสีหน้ากระวนกระวาย สมองขบคิดวิธีโต้ตอบทุกลมหายใจ มันจินตนาการภาพตัวเองใช้กำลัง ‘ราชินีแห่งการบิดเบือนฯ’ และ ‘หน่วง’ ในหัวตลอดเวลา เมื่อสมาธิถูกเค้นจนถึงขีดสุด จิตใจย่อมได้รับภาระหนัก ส่งผลให้ร่างกายมีเหงื่อไคลไหลซึมทุกรูขุมขน


หนึ่งวินาทีผ่านไปราวกับชั่วโมง


ดุจดังอาศัยในโลกปราศจากกาลเวลา


และเมื่อบีบันแสยะยิ้มกะทันหัน ความตึงเครียดภายในใจกริดยิ่งทวีคูณ มันไม่ทราบเลยว่า อดีตอริยะดาบ จะโจมตีด้วยพลังพิสดารประเภทใด


‘นานแค่ไหนแล้ว… ครบสิบวินาทีหรือยัง?’


“เลิกคิดฟุ้งซ่านสักที จงเพ่งสมาธิอยู่กับศัตรูก็พอ ความคิดเปล่าประโยชน์เปรียบดังบ่วงรัดพันแข้งขา”


“คึก…!”


บีบันงอเข่าเล็กน้อย


เป็นท่าเตรียมกระโจน


ปัจจุบัน กริดลอยตัวในระดับค่อนข้างสูง ถึงขั้นมงกุฎสัมผัสเพดานห้วงมิติ ทว่า จิตใจชายหนุ่มกลับไม่รู้สึกปลอดภัยเลยสักนิด


บึ้ม—!!


บีบันกระโดดขึ้นฟ้า


พื้นดินทรุดลงเล็กน้อย มันใช้ฝ่าเท้ากระทืบอากาศเกิดเป็นแรงส่ง ทุกสิ่งบนเส้นทางถูกกลืนกินประหนึ่งหายเข้าไปในห้วงวายุสลาตัน


เศษดินหมุนวนเป็นเกลียว คละคลุ้งฟุ้งกระจายท่วมท้นท้องฟ้า ส่งผลให้การมองเห็นของกริดบางส่วนถูกบดบัง


หัตถ์เทวะสี่ข้างพยายามรุมล้อมปกป้องชายหนุ่ม แต่พวกมันมิอาจทนทานอำนาจมหาศาลของบุคคลระดับสั่นสะเทือนฟ้าดิน กระทั่งสุดยอดโลหะอย่างละโมบก็ยังถูกกลืนกินเข้าไปในใจกลางลมพายุ


‘แย่ละสิ… เราหยุดไม่ได้แน่’


ขณะเพ่งมองปลายดาบบีบันกำลังแหวกอากาศพุ่งตรงเข้าหา กริดเริ่มออกท่าทีลนลาน การโจมตีของอีกฝ่ายมีอำนาจคุกคามไม่ต่างจากกรงเล็บมังกรเลยสักนิด


ความรู้สึกนี้มิได้เกิดจากประสาทสัมผัสของเหนือมนุษย์


แต่เป็นประสบการณ์ซึ่งสั่งสมนานหลายปี


แล้วก็แม่นยำเสียด้วย


แม้กริดจะยังไม่เข้าใจหลักการของเทคนิค ‘ลมหายใจ’ แต่มันก็ทราบว่า ศัตรูแข็งแกร่งในอดีตส่วนใหญ่ซึ่งมันเคยจัดการไป ล้วนใช้ลมหายใจเข้าออกของศัตรู เป็นเครื่องกำหนดจังหวะการโจมตี


หมายความว่า บีบันก็เช่นกัน อีกฝ่ายกำลังเล็งโจมตีช่องว่างลมหายใจของตนอยู่


และเป็นเพราะประสบการณ์อันมากมายนี้ กริดจึงมั่นใจว่า ตนคงกะจังหวะรับการโจมตีของบีบันด้วย ‘วังวน’ ไม่ได้แน่


ท่ามกลางความสิ้นหวัง


“ดาบสลายทัพสองแสน!!”


มันตัดสินใจงัดท่าลับแทนวังวน


อีกหนึ่งวิชาดาบราชาไร้พ่าย สามารถสลายทุกทักษะโจมตีของศัตรูในระยะมองเห็น


ยิ่งสลายทักษะทรงพลัง ร่างกายก็ยิ่งได้รับผลข้างเคียงหนักหน่วง แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังดีกว่าถูกสะบั้นศีรษะหลุดจากบ่าในคราวเดียว


เปรี้ยงงงงง!!


ดาบอัสนีฯ ปะทะกับดาบบีบัน จนเกิดเสียงก้องกังวานประหนึ่งท้องฟ้าคำราม


[ผลข้างเคียงของ <ดาบสลายทัพสองแสน> ท่านได้รับบาดเจ็บภายใน]


[สูญเสียพลังชีวิต 50%]


“แค่ก…!”


เส้นเลือดฝอยในตาแตก ริมฝีปากพ่นโลหิตแดงฉานพวยพุ่ง


กริดเจ็บปวดเจียนตายจากสภาวะกล้ามเนื้อฉีกขาดฉับพลัน


“หือ…”


ขณะเดียวกัน ดวงตาบีบันพลันสั่นเทา


ท่าโจมตีเมื่อครู่ คือท่าสำหรับเด็ดปีกมังกรศิลา กูเซล เมื่อหลายร้อยปีก่อน


ไม่เพียงเท่านั้น


“ย๊ากกกก!!”


แม้จะตระหนักถึงความต่างชั้นเยี่ยงท้องฟ้ากับหุบเหว แต่กริดก็ไม่สูญเสียจิตวิญญาณ


พร้อมกันนั้น ร่างกายกริดแยกออกเป็นหลายร่าง ทุกร่างล้วนผนึกกำลังรวมใจกวัดแกว่งดาบด้วยร่างกายโชกเลือด


ขณะกริด ‘ทุกคน’ เริ่มรำดาบรอบตัวบีบัน อดีตอริยดาบเผยรอยยิ้มอ่อนโยนมุมปาก


‘จะช่วยสักหน่อยก็แล้วกัน’


ทันใดนั้น


ฉึบ.


บีบันเสียบดาบกลับเข้าฝัก


เส้นดาบจำนวนมหาศาลผุดขึ้นจากความว่างเปล่าจนท่วมท้นท้องฟ้า ฉีกทำลายทุกสรรพสิ่งรอบตัวบีบัน ไม่หลงเหลือไว้แม้แต่เศษซาก


แต่มีหนึ่งสิ่งยังคงลอยเด่นตระหง่าน นั่นคือกริดผู้ได้รับการปกป้องจากร่าง ‘เทพสายฟ้า’ วิชาดาบเมื่อครู่ของบีบันเป็นการโจมตีทางกายภาพ จึงไม่ส่งผลกับร่างกายสีขาวโพลน


“จบแค่นี้แหละ”


เมื่อบีบันต้องการ ‘ตัด’ ร่างกริดก็ถูก ‘ตัด’ จนเสียหลักร่วงหล่นกระแทกพื้นอย่างหมดสภาพ


สิ่งนี้คือนิยามของ ‘ดาบจิต’


“แค่ก… คึก! แค่ก!!”


[พลังชีวิตลดถึงขีดกำจัด]


[การทดสอบจบลง]


กริดนอนแผ่บนพื้นเย็นด้วยสีหน้าสิ้นหวัง


ถึงสิบวินาทีไหม…? เราไม่มีสมาธิมากพอจะนับเวลา


น่าเสียดาย แค่ 30 วินาทีก็ทำไม่ได้


ขณะเดียวกัน ข้อความระบบผุดมุมหน้าจอ


[ท่านยื้อเวลาได้นาน 1 นาทีพอดี]


“หือ…?”


ดวงตากริดพลันเบิกโพลง


บีบันเดินเข้ามาใกล้กริด ผู้กำลังนอนหมดสภาพบนพื้น จากนั้นก็นั่งลง


“นี่คือยามังกร”


[ท่านได้รับ ‘ยามังกร’ เป็นของรางวัล]


“ต่อไปก็… พลังจิตไร้เทียมทาน”


“…”


บีบันเริ่มขยับปากพึมพำ


ภาษาประหลาดยากเกินทำความเข้าใจ กำลังถูกยัดเยียดใส่สมองกริดในลักษณะฝืนธรรมชาติ ส่งผลให้ร่างกายชายหนุ่มเบาสบายกะทันหัน ราวกับพลันปราณไหลเวียนได้ดีขึ้นหลายเท่า


[ท่านได้รับ <พลังจิตไร้เทียมทาน> เป็นของรางวัลบททดสอบ]


[นับแต่นี้ไป อัตราการฟื้นฟูของทรัพยากร <ปราณดาบ> จะเพิ่มขึ้นจากเดิมหลายเท่า!]


“อะ…”


ไม่ต้องคอยแกว่งดาบฟันลมอย่างทิ้งขว้างแล้วใช่ไหม?


มันกำลังมีความสุข


กริดยังไม่เข้าใจ ว่าเหตุใดบีบันต้องทำดีกับตนถึงเพียงนี้ แต่มันยังไม่เปิดปากถาม ปล่อยให้อารมณ์แห่งความสุขแผ่ซ่านไปทั่วร่าง


จนกระทั่ง


[อัศวินของท่าน ‘เมอร์เซเดส’ ได้รับ <พลังจิตไร้เทียมทาน>]


“…??”


เรื่องราวชวนมึนงงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง


เมื่อกริดพยุงตัวนั่ง บีบันกล่าวซักถาม


“สำหรับของรางวัลสุดท้าย ข้าจะช่วยปรับปรุงวิชาดาบมาดราให้เจ้าเล็กน้อย แบบนี้ยอมรับได้ไหม?”


“…อะไรนะ?”


“ข้าก็ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใด แต่วิชาดาบทัพหนึ่งแสน และสองแสนของเจ้า ไม่ใช่วิชาต้นตำรับแท้จริงของมาดรา ขณะเดียวกันก็เรียกว่าของปลอมได้ไม่เต็มปาก คล้ายกับมาดราสร้างขึ้นเพื่อให้คนอ่อนแอใช้งาน… ข้าก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน”


“…!!”


กริดตกตะลึงจนอ้าปากค้าง


เพราะทุกคำพูดของบีบันล้วนถูกต้อง


สายตาของอริยดาบสองรุ่นก่อน เฉียบแหลมขนาดนี้เชียวหรือ?


บีบันเผยรอยยิ้มให้กริด ผู้กำลังตกตะลึงจนไม่กล่าวสิ่งใดเป็นเวลานาน


“แต่กายาของเจ้ายังไม่แข็งแกร่งพอจะใช้วิชาดาบสมบูรณ์ของมาดรา ดังนั้น ข้าจะยกระดับเพิ่มจากของเดิม เอ่อ… อย่าได้คาดหวังมากนัก ข้าไม่ใช่มาดรา การลอกเลียนแบบสุดยอดวิชาดาบของเขาไม่ใช่เรื่องง่าย”


“ขอบคุณ…. ขอบคุณมาก…”


ดวงตากริดเริ่มแดงก่ำ


มันคิดเป็นอื่นไม่ได้อีกแล้ว นอกจากเชื่อว่า การยื้อเวลาได้นานถึง 1 นาทีของตน เกิดขึ้นเพราะบีบันจงใจออมมือให้


กริดคาดไม่ถึงว่าบุคคลยิ่งใหญ่เช่นบีบัน จะเอ็นดูและคอยมอบสิ่งดีให้ตนเหมือนกับอดีตตำนานคนอื่น และมันยิ่งดีใจเมื่อได้ทราบว่า บีบันให้การยกย่องมาดราอย่างมาก


มาดราในหลุมศพคงกำลังมีความสุข…


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,517
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. เรียบร้อยยบีบันแจกบัฟให้เมอเซเดด้วย 5555555
    ขอบคุณสำหรับงานแปลครับ

    ReplyDelete
  2. ผมผู้อ่านก็มีความสุข
    ขอบคุณ​มาก​ๆ​ครับ​

    ReplyDelete
  3. พลังติดตัวของก็อดกริดทำงานแล้ว -sss+ เป็นที่ชื่นชอบของเหล่าคุณลุง🤣🤣

    ReplyDelete
    Replies
    1. เปนทักษะ พาสซีฟสะด้วย🤣🤣

      Delete
  4. คนเขียนยัดทุกอย่างให้พระเอกเก่งมากเกิน จนตัวละครอื่นเหมือนไม่ได้เล่นเกมเดียวกันเลย รู้ว่าเป็นแนวเก่งเวอร์ แต่ก็ไม่ควรงกการกระจายความเก่งหรือของดีๆให้ตัวละครที่ไม่ใช่พระเอกกับทีมพระเอกบ้าง นี่ระดับพระเอกไกลเกินคนอื่นมากจนเหมือนเป็นเกมที่สร้างมาให้เล่นคนเดียวแล้ว มี NPC พิเศษกี่คนๆ ก็ต้องประเคนสิ่งดีให้แต่พระเอกจนหมด คนอื่นที่เหลือจะเล่นเกมนี้ไปทำไมเนี่ย

    ReplyDelete
  5. ลองอ่านจากหลักการรำดาบ ผมรู้สึกว่ามันสอดคล้องกับ โครงกระดูกที่เต้นรำได้ อนาคตโครงกระดูกโอเวอร์เกียร์อาจจะใช้วิชาดาบแพ็กม่าได้ ก็เป็นได้

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00