จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,114
“อา…”
ดาบในมือเมอร์เซเดส ถือกำเนิดจากอริยดาบครอเกลและราชาโอเวอร์เกียร์กริดร่วมกันออกแบบ
เมื่อ ‘ดาบพญาเสือขาวสยบโลกา’ ปรากฏกาย เสียงคำรามพลันกึกก้องทั่วฟ้าดิน
เฉกเช่นผิวพรรณเมอร์เซเดส บริเวณใบดาบเสือขาวมีสีขาวนวลกึ่งโปร่งใส สิ่งนี้คือสัญลักษณ์แทนความดีและความยุติธรรม ขณะเดียวกัน ส่วนโกร่งดาบถูกออกแบบให้มีรูปทรงคล้ายมงกุฎราชา สัญลักษณ์แทนอำนาจและบารมี สรุปโดยสั้นคือ ดาบเล่มนี้ถูกออกแบบอย่างวิจิตรชดช้อยและแฝงความนัยมากมาย
ใช่แล้ว มันคืองานศิลป์
ควรค่าแก่การประดับประดาในบรมหาพระราชวังแห่งจักรวรรดิ
แต่ความจริงคือสิ่งใด?
ดาบเสือขาวไม่ใช่วัตถุสำหรับตกแต่งห้องเพื่อความสวยงามเลยสักนิด มันคืออาวุธสงครามสำหรับเข่นฆ่าศัตรูในทุกวิถีทาง เป็นดาบใหญ่รูปทรงเหมาะสมกับการต่อสู้หลากหลายรูปแบบ
แต่เมื่อผสานเข้ากับท่วงท่าอันสง่างามของเมอร์เซเดส ฉากสงครามแปรเปลี่ยนเป็นโรงละครให้อัศวินสาวสวยเฉิดฉาย
โฮกกกกก!
“…!?”
เมื่อสิ้นเสียงคำราม ฟ้าดินพลันสั่นสะเทือนหนักหน่วง
ฝนธนูจากเบื้องบน พุ่มหญ้าสูงสั่นไหวกีดขวางเส้นทาง หนามแหลมจากเถาวัลย์โยกคลอน รวมถึงหินก้อนใหญ่ใกล้ร่วงหล่นจากอำนาจแผ่นดินไหว
ด้วยอุปสรรคมากมายถาโถมเข้าใส่ สาวกเทพสงครามเริ่มสูญเสียการทรงตัวอย่างมิอาจหลีกเลี่ยง
ทว่า
นอกจากดวงตาจะถูกผ้าคาดปิดไว้มิดชิด แขนทั้งสองข้างของมันยังถูกพันธนาการด้วยตรวนลูกตุ้ม แต่สาวกเทพสงครามกลับสามารถเหยียบอากาศและพยุงตัวตั้งตรงได้อย่างน่าทึ่ง
เมอร์เซเดสยืนแหงนมองฝุ่นควันสีเทาคละคลุ้งอย่างเงียบงันสักพัก จนกระทั่งมีวัตถุบางชนิดพุ่งเข้าหาเธอจากด้านบน
เคร้งงง—!!
ดาบเสือขาวปะทะกับตรวนลูกตุ้ม
คลื่นกระแทกสร้างแผ่นกระจายออกไปรอบทิศจนแผ่นดินสะเทือนอีกครั้ง สายลมเกรี้ยวกราดแปรเปลี่ยนให้ต้นไม้ในรัศมีโยกเอนอย่างมิอาจหลีกเลี่ยง
ประหนึ่งโทสะแห่งเทพถูกขว้างลงมายังโลกมนุษย์ในจุดดังกล่าว
‘สมกับเป็นอัศวินในตำนาน…!’
เลซีและอัศวินตีนดำต่างพากันกลืนน้ำลายอึกใหญ่
พวกมันได้เปิดโลกใหม่อีกครั้ง
เมื่อไม่นานมานี้ ไคล์ผู้คิดว่าตนแข็งแกร่งกว่าใครในทวีป เมื่อกระโดดออกจากบ่อน้ำและได้พบเมอร์เซเดส มันเผชิญความพ่ายแพ้อย่างสิ้นสภาพ
เหล่าอัศวินพยายาทำความเข้าใจในกระบวนท่าและการเคลื่อนไหวของเธออย่างละเอียด ในฐานะอัศวินด้วยกัน แต่ละคนล้วนหวังพัฒนาฝีมือให้ยอดเยี่ยมจากการเฝ้ามองต้นแบบ
เคร้ง!
เมอร์เซเดสมิได้ว่องไวเหมือนไคล์ แต่ก็เป็นความเร็วในระดับเกินขีดจำกัดของมนุษย์
ถึงกระนั้นก็น่าแปลก เลซีกลับพอจะมองตามท่วงท่าเมอร์เซเดสทันอยู่บ้าง เนื่องจากเธอเคลื่อนไหวได้ประณีตและคมชัดอย่างมาก
ถึงจะมองทันแค่ 1ครั้งจากร้อยครั้งก็เถอะ
แต่เหนือสิ่งอื่นใด
“เฮือก…?”
สาวกเทพสงครามใช้แผ่นตรวนเหล็กรอบข้อมือรับดาบเมอร์เซเดสได้หนแล้วหนเล่า ขณะเดียวกันก็ส่งเสียงครางเล็กน้อยจากลำคอ
แม้มันจะมองเห็นวิถีดาบเมอร์เซเดสแทงตรงเข้าใส่อย่างชัดเจน แต่กลับทำอะไรไม่ได้นอกจากฝืนป้องกันอย่างเต็มกลืน
วิชาดาบของเธอเปรียบดังต้นไม้โลก
แกนกลางลำต้นเป็นเส้นตรง หนักแน่นมั่นคง และไม่สั่นคลอน แต่ขณะเดียวกันก็มีกิ่งก้านสาขาแตกแขนงไร้สิ้นสุด ยากคาดเดาว่าจะโยกย้ายไปยังทิศใด
สิ่งนี้ผิดหลักห่วงโซ่อาหารอย่างมาก ผู้ล่าลำดับสูงสุดไม่ควรสับสนกับพฤติกรรมของเหยื่อไม่ใช่หรือ? สาวกเทพสงครามกำลังงุนงง
เปรี้ยง!!
ร่างสาวกลอยกระแทกใส่ต้นไม้ใหญ่ขนาดเส้นรอบวงเกินกว่า 5 เมตร
โครม!!
ร่างพุ่งทะลุต้นดังกล่าว และผ่านไปกระแทกต้นไม้ใหญ่ด้านหลังอีกทอดหนึ่ง
โครม!
เกิดเหตุการณ์ซ้ำเดิมถึง 4 หน
เหล่าอัศวินต่างมองเห็นสาวกกำลังอาเจียนเลือดออกมาคำใหญ่
แต่ว่า
เคร้ง—!
สาวกเทพสงครามใช้วิชาตัวเบาพุ่งกลับมาจุดเดิมด้วยความเร็วอันน่าทึ่ง พร้อมกับประเคนลูกเตะใส่เมอร์เซเดสเต็มแรง
ขณะอัศวินในตำนานเตรียมดับลมหายใจไคล์หลังจากสลัดตัวเกะกะหลุด เมื่อเหลือบเห็นสาวกพุ่งเข้าหา เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกกระโดดถอยหลังหลบ
สาวกเทพสงครามเปิดปากเป็นหนแรก
“เจ้าคืออันดับหนึ่งของทวีปนี้สินะ”
ไม่ใช่คำถาม แต่เป็นความมั่นใจ
“เปล่าเลย ยังมีเก่งกว่าข้าอีกสามคนเป็นอย่างน้อย”
เมอร์เซเดสปฏิเสธ เธอทราบดีว่าทวีปตะวันตกกว้างขวางเพียงใด
สาวกเทพสงครามยกมุมปากขึ้น
“ว่าแล้วเชียว… พวกมนุษย์เชื่อใจไม่ได้”
“…”
การต่อสู้เป็นไปอย่างสูสีอีกพักใหญ่
สาวกเทพสงครามเริ่มมองเห็นความลับของ ‘ดาบ’ ทีละนิด มันเริ่มเข้าใจว่าเกิดแผ่นดินไหวกะทันหันได้อย่างไร รวมถึงประจักษ์ว่าดาบเล่มนี้เด่นทั้งด้านรุกและรับในตัวเดียว ส่วนเมอร์เซเดสก็ใช้ดวงตาของเธอเพ่งมองจนกระจ่างว่าตัวจริงอีกฝ่ายเป็นใคร รวมถึงเหตุและผลของการปรากฏตัว
‘ท่วงท่าต่อสู้เหมือนกับสาวกเทพสงครามในวิหารกัลกุนอสไม่มีผิด และเมื่อประเมินจากเทคนิคลับ เจ้านี่เป็นหนึ่งในสาวกเทพสงครามแน่นอน’
ยิ่งไปกว่านั้น หากฟังจากคำพูดของไคล์ก่อนหน้า มีโอกาส 99.9% ว่าไคล์จะกลายเป็นสาวกเทพสงครามไปแล้ว และเทพสงครามได้ส่งสาวกคนอื่นมาช่วยเหลือ
แต่ยังเหลืออีกหนึ่งปัญหาคาใจ
‘เหตุใดสาวกตนนี้ถึงมีสตินึกคิด’
เมื่อลองนึกย้อนกลับไปมองสาวกเทพสงครามภายในวิหารกัลกุนอส พวกมันเดินเตร็ดเตร่อย่างไร้จุดหมายและปราศจากเหตุผล
ไม่น่าจะเกี่ยวกับจำนวนเทคนิคลับในความครอบครอง…
สาวกเทพสงครามในวิหารเคลื่อนไหวและต่อสู้ตามสัญชาตญาณ เนื่องจากพวกมันขาดสตินึกคิดโดยสิ้นเชิง
และ ‘สัญชาตญาณ’ คือสาเหตุทำให้พวกมันอ่อนแอ เพราะเมื่อขาดสมองสำหรับคำนวณปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมรอบข้าง การพึ่งพาสัญชาตญาณดิบเพียงอย่างเดียวทำให้ท่วงท่าโจมตีมีแบบแผนเกินไปและถูกคาดเดาได้ง่าย
ถ้าสาวกเทพสงครามเกิดมีสมองขึ้นมา…
ยิ่งไปกว่านั้น จำนวนเทคนิคลับของสาวกตรงหน้ายังมากกว่าสาวกในวิหารกัลกุนอส
‘ห้ามประมาทเด็ดขาด’
อีกฝ่ายยังไม่ได้เอาจริง ถูกพันธนาการขีดจำกัดด้วยตรวนลูกตุ้มทั้งสองมือและผ้าปิดตา
แม้ว่าจะตาบอดและขยับแขนได้ไม่ถนัดนัก แต่มันก็แข็งแกร่งกว่าไคล์ค่อนข้างมาก แถมยังไม่ถูกเล่นงานจากทักษะทรงพลังอย่าง ‘พยัคฆ์พิสุทธิ์คร่ำครวญ’
ในช่วงแรกของการต่อสู้ มันผ่อนคลายจนเข้าขั้นประมาท แต่ภายหลังกลับแสดงสมรรถภาพร่างกายสุดพลิ้วไหว ไม่เกินจริงเลยหากจะยกให้มีความเร็วอยู่ในระดับเดียวกับอัศวินสายว่องไวอย่างรุ่นพี่อเมลด้า…
‘อันตราย’
เมอร์เซเดสเพิ่มความระมัดระวังตัว
ไม่ใช่เพียงเพราะศัตรูแข็งแกร่ง แต่เธอยังคำนึงถึงความพิเศษของสนามรบแห่งนี้
เมอร์เซเดสเคยต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตายในผืนป่าต้นไม้โลกมาแล้ว จึงเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าหลังพุ่มไม้มองไม่เห็นมีอันตรายซ่อนอยู่มากเพียงใด
สัตว์บรรพกาล
เมอร์เซเดสเคยสูญเสีย ‘แก่นพลัง’ ให้กับสิ่งมีชีวิตประเภทนี้มาแล้วหนหนึ่ง
หากพวกมันเข้ามาขวาง ผลลัพธ์อาจลงเอยด้วยความตาย
หมับ!
หลังจากได้ข้อสรุป เมอร์เซเดสตัดสินใจได้หนักแน่น
‘เราต้องวัดผลแพ้ชนะกับมันโดยเร็ว’
พฤติกรรมของไคล์และสาวกเทพสงครามต้องกลายเป็นภัยต่อฝ่าบาทในอนาคตแน่นอน
คราวนี้เธอทำจะพลาดไม่ได้เด็ดขาด
ไคล์และสาวกต้องถูกกำจัดทิ้ง
เพื่อฝ่าบาท… เราไม่หวงแหนชีวิตตัวเอง
“รุ่นพี่อเมลด้า คุณและอีกสองคนรีบพารุ่นพี่อัสโมเฟลหนีไปก่อน”
หลังสิ้นเสียงขอร้อง เมอร์เซเดสเหยียดท่อนแขนซ้ายพร้อมกับหมุนตัว
ขณะเดียวกัน มือขวาตวัดดาบจนเกิดเป็นเส้นตกค้างสีดำในแนวเฉียง
เคร้ง!
ดาบเสือขาวปะทะกับตรวนข้อมือสาวกเทพสงครามอีกระลอก แม้ศัตรูจะป้องกันได้ทันท่วงที แต่ก็ต้องรีบก้มศีรษะหลบท่าโจมตีต่อเนื่องจากแขนซ้ายของเมอร์เซเดส
ทันใดนั้น สาวกเทพสงครามเหยียดสองขาไปด้านหลังพร้อมกับม้วนตัวตีลังกาถีบใส่ด้วยท่าแมงป่อง สองฝ่าเท้ากำลังพุ่งเข้าหาอัศวินสาวสวยทีเผลอ
ผัวะ!
เนื่องจากน้ำหนักของดาบพญาเสือขาวสยบโลกาเพิ่มขึ้นกะทันหัน เมอร์เซเดสจึงมิอาจขยับร่างกายได้ชั่วขณะ จึงถูกฝ่าเท้าสาวกกระแทกเข้าอย่างจัง
แต่ในทางกลับกัน
เปรี้ยง!!
เสาหินผุดขึ้นจากดินและกระแทกใส่หัวไหล่สาวกเทพสงครามโดยไม่ทันตั้งตัว
‘นี่มัน?’
หลังจากสาวกเทพสงครามถูกการโจมตีไม่คาดฝันเข้าไป ร่างกายมันพลันสั่นเทา
‘อาวุธแฝงพลังเทพเสือขาว?’
แม้จะเป็นทวีปตะวันออก แต่อาวุธจากลมหายใจสัตว์เทพก็ยังหาได้ยากยิ่ง
แล้วเหตุใดทวีปตะวันตกถึง…?
เคร้ง—!
เปรี้ยงงงง!!
การรุกรับอันดุเดือดยังคงดำเนินต่อไป
เรียนผูกก็ต้องเรียนแก้ ในเมื่อเมอร์เซเดสเลือกเผชิญหาจนกว่าจะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งล้มลง เธอก็ต้องรีบชิงความได้เปรียบด้วยการเปิดฉากรุกหนัก
แน่นอน การเล่นงานสาวกเทพสงครามไม่ใช่เรื่องง่าย
มันปิดตาและหูเพื่อรีดเร้นประสาทสัมผัสให้เหนือขีดจำกัดมนุษย์ ส่งผลให้วิชาดาบของเมอร์เซเดสเริ่มถูกคาดเดาทิศทางได้บ่อยครั้ง สมาธิของมันจึงเพ่งอยู่กับดาบเสือขาวอย่างหมดห่วง
เปรี้ยง!!
เมื่อพลังเต็มพิกัดคนทั้งสองปะทะกันซึ่งหน้าอีกหน แรงกระแทกได้พัดพาร่างให้กระเด็นแยกออกจากกัน
ครืนนน!
สาวกเทพสงครามถอยหลังหลายก้าว ก่อนจะตะโกนออกมาด้วยเสียงกึกก้อง
“ข้ามีนามว่าลีจอง! เคยรับใช้เทพตกสวรรค์มาก่อน แต่ยามนี้กลายเป็นหนึ่งในสามผู้รับใช้ของท่านเทพสงคราม!”
เฉกเช่นสาวก เมอร์เซเดสเซถอยหลังหลายก้าวไม่ต่าง เธอใช้มือปาดเลือดมุมปากพลางส่งเสียงตอบกลับ
“ข้าคือเมอร์เซเดส อัศวินแห่งมหาฝ่าบาทกริดผู้ยิ่งใหญ่”
เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!!
ตรวนลูกตุ้มของลีจองและดาบเสือขาวของเมอร์เซเดสกระทบกันหลายหนจนกดเกิดเสียงกรีดร้องของโลหะอย่างต่อเนื่อง
จนกระทั่งเวลาผ่านไป ทั้งสองเริ่มเข้าใจกันและกันมากขึ้นโดยมีการต่อสู้เป็นสื่อกลาง
เมื่อปะทะอาวุธกันในระยะประชิดจนได้ยินเสียงลมหายใจ บทสนทนาจึงเริ่มขึ้นอีกครั้ง
“ท่านเทพสงครามชื่นชอบนักสู่เยี่ยงเจ้า! ข้าขอแนะนำให้ลองเข้าเฝ้าท่านสักครั้ง รับรองได้เลยว่าพระองค์ต้องมอบพรสุดประเสริฐให้เจ้าแน่ การรับใช้มนุษย์ปุถุชนมีค่าถึงขนาดนั้นเชียว? หรือเพราะมีตำแหน่งอัศวินคอยค้ำคอเจ้าอยู่”
“ศาสตร์แห่งโอเวอร์เกียร์ลึกล้ำยิ่งกว่าศาสตร์ศิลปะการต่อสู้หลายเท่านัก”
“ศาสตร์แห่งโอเวอร์เกียร์?”
“สิ่งนั้นคือพลังอันยิ่งใหญ่ของฝ่าบาทกริด ตัวตนของท่านทัดเทียมเหล่าเทพ”
“ทัดเทียมเทพ? ฮะฮะ! ช่างน่าขัน!!”
“ข้ามิได้ล้อเล่น สักวันฝ่าบาทกริดจะก้าวข้ามเทพของเจ้า!”
“ความโง่เขลาของเจ้าเข้าขั้นเสียสติแล้ว!”
“ฝ่ายโง่เขลาคือเทพของเจ้าต่างหาก! แสวงหาสุดยอดศิลปะการต่อสู้อย่างนั้นหรือ ช่างโง่เขลา จุดสิ้นสุดไม่มีจริงบนโลก! ต่อให้ชาวนาเก็บเกี่ยวข้าวต้นสุดท้ายก็ยังทราบว่านี่ไม่ใช่จุดสิ้นสุดของการทำนา!!”
“เจ้าเสียสติไปแล้วจริงด้วย”
เปรี้ยง!
ลีจองไม่คิดสนทนาต่อให้เปลืองน้ำลาย
ต่อให้มันปิดตาอยู่ แต่ก็ยังพอจะคาดเดาใบหน้าของศัตรูได้จากบรรยากาศรอบตัวเธอ
เมอร์เซเดส
อัศวินสาวคนนี้คงมีใบหน้าอัปลักษณ์เป็นแน่แท้
แถมยังเป็นสิ่งมีชีวิตประเภทโง่เขลา พวกมนุษย์มักเรียกขานคนเช่นนี้ว่า ‘นักรบตัวจริง’ เป็นพวกหัวโบราณ ฝึกฝนวิชาอย่างหนัก และหวังบรรลุจุดสุดยอดโดยไม่พึ่งพาเทพ
‘หากไม่เยาว์วัยก็คงวิสัยทัศน์คับแคบ’
มนุษย์จะเป็นเทพได้อย่างไร
เราเคยเผชิญความเจ็บปวดเช่นนั้นมาแล้ว
และเป็นสาเหตุให้เลือกรับใช้เทพสงคราม
“อาณาเขตแสงทมิฬ”
—!
เธอคือมนุษย์มากพรสวรรค์ มีจำนวนเพียงน้อยนิดบนโลก
ถ้าเราแสดงความยอดเยี่ยมของท่านเทพสงครามให้ประจักษ์ บางทีอาจโน้มน้าวให้เธอมาเป็นสาวกสำเร็จ
ด้วยสีหน้าคาดหวัง ลีจองปลดปล่อยทักษะพร้อมกับทำให้ภาพการมองเห็นเมอร์เซเดสพลันดำมืด
ขณะอัศวินสาวสวยตกตะลึงกับสภาพแวดล้อมมืดสนิทรอบตัว ลีจองเตรียมซัดกำปั้นเล็งใส่หัวใจเธอทันที…
…มันควรจะเป็นเช่นนั้น
แต่ในความจริง ลีจองกลับลนลานชักมือหนีอย่างหวาดผวา
ทว่าก็ไม่ทันการอยู่ดี
แสงดาบคมกริบฟันใส่ข้อเท้าของมันเข้าอย่างจังจนเกิดบาดแผล
ลีจองเปล่งเสียงสั่นเทา
“ทำไมเจ้าถึง… มี… น…เนตรมองทะลุ!?”
สำหรับลีจอง เป้าหมายสูงสุดของการสวมผ้าคาดตาคือ เพื่อให้ประสาทสัมผัสเฉียบคมถึงขีดสุด เหนือกว่ามนุษย์คนใดในโลก
แต่มันกลับได้พบมนุษย์ผู้มีสัมผัสเฉียบแหลมจนถึงระดับสุดยอดยืนอยู่ตรงหน้า
ลีจองตะโกนอย่างตื่นเต้น
“เมลเซเด้! เจ้าคู่ควรกับสุดยอดศิลปะการต่อสู้มากกว่าใคร! เลิกรับใช้มนุษย์แสนอ่อนแอสักที! มาเป็นพวกเดียวกับเราเถอะ!”
“ข้าชื่อเมอร์เซเดส”
“เรื่องนั้นช่างมันก่อน! อย่ามองข้ามประเด็นสำคัญ!”
“แล้วก็…”
“…?”
ตั้งแต่เริ่มต้นสงครามจนถึงเมื่อครู่
สีหน้าของเมอร์เซเดสไม่เคยแปรเปลี่ยนเลยสักครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ไคล์ประกาศศักดา อัสโมเฟลลอกเลียนพลังปิอาโร่ การปรากฏตัวของสาวกเทพสงคราม รวมถึงในวินาทีตัดสินใจเสียสละชีวิตของตน
แต่ปัจจุบัน สีหน้าของเธอกำลังบิดเบี้ยวเนื่องจากโทสะอันเดือดดาลสุมอก
“หยุดดูแคลนฝ่าบาทเดี๋ยวนี้…”
[อัศวินของท่าน เมอร์เซเดส ตั้งปณิธานอัศวินเพิ่มหนึ่งข้อ!]
“กษัตริย์ของข้าเหนือกว่าเทพของเจ้าหลายขุม! พลังสูงสุดของโลกใบนี้คือศาสตร์แห่งโอเวอร์เกียร์!!”
“…?”
“ไม่ว่าจะสุดยอดศิลปะการต่อสู้… หรือกระทั่งศาสตร์แห่งเวทมนตร์”
เธอเปล่งเสียงดังชัดถ้อยชัดคำ
“ทุกสรรพสิ่งล้วนต่ำต้อยเท่าเทียมภายใต้ศาสตร์แห่งโอเวอร์เกียร์!!”
[อัศวินของท่าน ‘เมอร์เซเดส’ สามารถสวมใส่ไอเท็มได้ทุกชนิดโดยไม่มีผลข้างเคียง และประสิทธิภาพของไอเท็มเพิ่มขึ้น 15%]
“โน้มน้าวข้าไปก็เปล่าประโยชน์”
“…”
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน…
ณ จุดนี้ ลีจองเริ่มอยากทราบแล้ว ว่าไอ้วลีคล้ายเสียงหมาเห่าอย่างโอเวอร์เกียร์มันหมายถึงสิ่งใดกันแน่
ขณะเดียวกัน
เปรี้ยะ! เปรี้ยะ!!
ภายใต้การถ่วงเวลาของสาวกเทพสงคราม ไคล์ฟื้นฟูบาดแผลกลับมาจนพร้อมต่อสู้
ไม่ว่าอย่างไร มันก็ต้องลบเลือนความอับอายในวันนี้ให้ได้ แม้ว่าจะต้องใช้กระตุ้นแก่นพลังก็ตาม
“อย่าดูแคลนกฎของผู้แข็งแกร่งเด็ดขาด”
เจ้าพวกเอลฟ์ พวกมันทำตัวประหนึ่งชนชั้นสูง แต่ความจริงแล้วกลับขี้ขลาดยิ่งกว่าเผ่าพันธุ์ใดทั้งหมด
พวกอัศวินหน้าไม่อาย ไม่ยอมรักษาเกียรติยศแห่งอัศวิน ไม่ยอมทำตามคำสั่ง!
อัสโมเฟล ชายผู้ย่ำยีศักดิ์ศรีของเรา
และนังเมอร์เซเดสโง่เขลา
ไคล์ไม่ชอบหน้าใครเลยแม้แต่คนเดียว
“ไปตายกันซะให้หมด!!”
ซู่วววววววววว—!!
หลังจากฟื้นฟูร่างกายกลับคืนมาบางส่วน ไคล์ระเบิดพลังอัสนีกระจายออกรอบตัวในคราวเดียว ผู้คนในบริเวณพลันกระจัดกระจายไปคนละทิศทาง
ร่างกายเอลฟ์โชคร้ายในรัศมีพลันแหลกเหลว ทางด้านสามอัศวินสีชาดต่างผนึกกำลังปกป้องอัสโมเฟลสุดฝีมือ แม้กระทั่งเมอร์เซเดสผู้สวมโล่ เกราะ และดาบ ก็ยังสัมผัสถึงความไม่ปลอดภัย
แน่นอน เลซีหมดลมหายใจไปแล้ว
‘ระ… ยำ… เอ้ย…’
ผู้เล่นแต่ละคนมีจุดประสงค์แตกต่างกันไป
ส่วนมากชอบเล่นเกมอย่างสบายใจ สนุกสนาน และมีความสุข
แต่จะมีใครทราบจุดประสงค์ของเราไหม?
เมื่อผู้เล่นเสียชีวิต ระบบจะทำการบังคับล็อกเอาต์ออกจากเกมในอีกหลายวินาทีถัดมา
ในช่วงแรก เลซีใช้ดวงตาของตน ‘บันทึก’ ภาพเหตุการณ์มาตลอด แต่ยามนี้กลับเปลี่ยนเป็น ‘ถ่ายทอดสด’ กะทันหัน
ผลก็คือ บัญชีส่วนตัวเชื่อมต่อกับเวปไซต์ YouTuxx โดยอัตโนมัติ และเริ่มเผยแพร่ภาพเหตุการณ์สดไปทั่วโลกทันที
ผู้คนบางส่วนเริ่มทยอยเข้ามารับชม เนื่องจากช่องของเลซีเป็นแรงเกอร์แถวหน้า
เลซีหวังให้สถานีข่าวสักแห่งรีบรุดหน้ามายังพิกัดของตนเพื่อถ่ายทอดเหตุการณ์ต่อ
มันต้องการเปิดเผยให้โลกเห็นถึงความทะเยอทะยานอันโอหังของดูรันดัล รวมถึงความอันตรายและเสียสติของไคล์
ขณะเลซีกำลังสวดภาวนา
เคร้ง!
เคร้ง!!
เมอร์เซเดสถูกรุกหนักฝ่ายเดียวจนทำได้เพียงตั้งรับ
เมื่อไคล์ร่วมมือกับสาวกเทพสงคราม โอกาสชนะของเมอร์เซเดสก็ริบหรี่ทันที
เส้นผมและผิวพรรณขาวเนียนเริ่มเปรอะเปื้อนด้วยหยดเลือดแดงฉาน
‘ไม่นะ…!’
เมอร์เซเดสคือผู้มีพระคุณช่วยเหล่าอัศวินตีนดำของจักรวรรดิไว้
เธอคืออัศวินประจำตัวกริด ฐานะนี้สำคัญยิ่งกว่าความเป็นอัศวินในตำนานเสียอีก
เราไม่อยากให้เธอตาย
อาจยังทัน… เราต้องรีบกลับมาช่วย!
‘ล็อกเอาต์…’
ก่อนหน้านี้ เลซีหวังยืดเวลาตายออกไปให้มากกว่าเดิม เพราะมันต้องการถ่ายทอดสดเหตุการณ์เป็นครั้งสุดท้ายก่อนถูกบังคับล็อกเอาต์ แต่ปัจจุบันกลับตะโกนล็อกเอาต์ด้วยความสมัครใจ เพื่อรีบคืนชีพและมุ่งหน้ากลับมาช่วยเมอร์เซเดสให้ทันการ
แต่
เปรี้ยงงงงงงงงง!!
ราวกับสายฟ้าจากพระเจ้าได้ผ่าลงใจกลางจอถ่ายทอดสดของเลซีกะทันหัน ทำเอาพลังสายฟ้าของไคล์จืดชืดถนัดตา
แม้มันจะหลบหลังอาภรณ์สายฟ้าอย่างขี้ขลาด แต่กลับถูกพลังของเทพแห่งสายฟ้าตัวจริงเล่นงานจนกลับไปมีสภาพปางตายอีกครั้ง
ท้องฟ้า
แผ่นหลังของบุรุษผมดำผู้ทำลายกำแพงขีดจำกัดผู้เล่นและก้าวไปอยู่ในระดับเหนือมนุษย์ได้สำเร็จ สิ่งนี้คือฉากสุดท้ายก่อนภาพการมองเห็นของเลซีจะดับไปเนื่องจากระบบล็อกเอาต์ทำงาน
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,503
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
ขอบคุณครับ
ReplyDeleteขอบคุณมากๆครับ🙏
ตามหาผู้ใช้ชื่ิอ Adxl ครับถ้าหากได้อ่านโปรดจำไว้เลยนะว่าการสปอยคนอื่นมันไม่ได้ดูเท่อะไรสักนิด มันดูโง่สุดๆ ไร้มารยาทไม่เหมือนบุคคลที่ได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานสักนิด ฝากไว้นะครับคุณ Adxl เผื่อคุณมาอ่าน
ReplyDeleteส่วนมากคนที่ชอบสปอย มักจะเป็นเด็กเห่อหมอยอยากให้มีคนมาสนใจเจอมาเยอะละสงสัยคิดว่าตัวเองเท่มั้งที่ได้สปอย
Deleteขนลุกกับการบรรยายการเปิดตัวของฝ่าบาทกริดทุกรอบเลยจริงๆ โคตรเท่!!
ReplyDelete