จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,117



“อะไรกัน? เหตุใดออร์คกล้ามไร้สมองถึงทนทานต่อเวทมนตร์โลหิตของข้าได้!”


“คุรุก! เจ็บนะ! เจ้าแวมไพร์จิ๋วนิสัยไม่ดี!”


“อย่าพูดเหมือนข้าเป็นเด็กยังไม่หย่านม! เห็นแบบนี้อายุหลายร้อยปีแล้ว!”


“ต้องกล้ามใหญ่อย่างข้าต่างหาก คุรุก! ถึงจะเป็นผู้ใหญ่ตัวจริง!”


“เจ้าออร์คปากเสีย! ว๊ากก! เอามันฝรั่งของข้าคืนมาเดี๋ยวนี้!”


เคร้ง!


เคร้งเคร้งเคร้ง!!


“…”


คณะสำรวจของสกังค์กำลังฉงนกับฉากตรงหน้า ฝ่ายหนึ่งเป็นเด็กอายุสิบต้นๆ กำลังทะเลาะเบาะแว้งกับลุงออร์คในวัยสามสิบกว่า


ถ้าไม่นับบทสนทนาอันยากจะเข้าใจ ลำพังฉากออร์คและแวมไพร์กำลังแย่งมันฝรั่งก็นับว่าแปลกประหลาดเกินไปแล้ว หลายคนกำลังเริ่มคิดว่าสิ่งนี้คือบั๊กของเกม


มันฝรั่งสีแดงยอดเยี่ยมขนาดนั้นเชียว?


ขณะความสนใจของปาร์ตี้สกังค์เริ่มพุ่งตรงไปยังมันฝรั่ง


‘ห้าอาวุโสและซือโหยว…’


กริดพยายามนึกทบทวนลำดับชั้นการปกครองของอาณาจักรฮวาน


การัมและแพ็กม่าเป็นเพียงยังบันระดับ ‘พลเมืองทั่วไป’ เหนือกว่านั้นคือซือโหยว และเหนือกว่าซือโหยวคือห้าอาวุโส


‘หรือก็คือ… ยังบันธรรมดาไม่น่าจะใช่เทพ’


กริดมีข้อมูลของการัมและแพ็กม่าในมือค่อนข้างมาก


พวกมันมีพลังต่อสู้มหาศาล โดยเฉพาะในช่วงปีสุดท้ายของแพ็กม่า สามารถต่อกรจอมอสูรหลายตนได้ตามลำพัง กระนั้นก็ยังเร็วเกิดไปจะให้เรียกว่า ‘เทพ’


ส่วนการัมนั้นยิ่งแล้ว มันมาพร้อมความประมาทเลินเล่อ ส่งผลให้เสียท่ากริดหลายต่อหลายหนเมื่อในอดีต ความรอบคอบน่าจะเป็นคุณสมบัติพึงมีของเทพทุกตน


ในอดีต เฮ็กเซเทียเคยริษยาฝีมือการตีเหล็กของแพ็กม่า เนื่องจากชายคนนั้นเป็นเพียง ‘มนุษย์ธรรมดา’ สิ่งนี้หมายความชัดเจนว่า แพ็กม่าได้ไม่ถูกจัดให้มีสถานะเป็นเทพเพราะเคยเป็นยังบัน


หรือก็คือ ซือโหยวและห้าอาวุโสคือตัวตนระดับเทพ ส่วนยังบันเป็นเพียง ‘ผู้มีแวว’


ค่อนข้างสมเหตุสมผล


ขณะกริดกำลังครุ่นคิดว่ายังบันมีจำนวนมากเพียงใด มันพลันตระหนักได้ว่า อาจยังมีบุคคลระดับ ‘ราชา’ อยู่เหนือห้าอาวุโสขึ้นไปอีกขั้น เมื่อคิดมาถึงจุดนี้ ชายหนุ่มเริ่มเย็นเฉียบไปถึงกระดูก


ทั้งหมดคือเทพ


ในอดีต เคยมีภารกิจสำหรับผู้เล่นช่างตีเหล็กโดยเฉพาะชื่อว่า ‘เสียงเพรียกจากสวรรค์’ เกิดขึ้นอย่างปุบปับ


เป็นภารกิจขอบเขตกว้าง ครอบคลุมไปถึงผู้เล่นช่างตีเหล็กทุกคนทั่วโลก ลงเอยด้วย กริดต้องนำพาช่างเหล็กของตนจำนวน 100 คน เดินทางมาทำภารกิจบนทวีปตะวันออก


จากนั้นก็พบว่าเป็นหลุมพรางของการัม


โดยการัมกล่าวไว้ว่า


“เป้าหมายของแผนการทั้งหมดมีเพียงเจ้าคนเดียวแต่แรกแล้ว”


ถูกต้อง


ภารกิจสาธารณะ แจกจ่ายให้ผู้เล่นหลายสิบล้านคนทั่วโลก แต่จุดประสงค์แท้จริงคือการล่อกริดให้ไปหา


ในช่วงเวลาดังกล่าว กริดไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากนัก เพราะคิดว่าเป็นเหตุการณ์ธรรมดา เนื่องจากตนคือผู้สืบทอดแพ็กม่า ฉะนั้น ภารกิจเกี่ยวกับช่างตีเหล็กคงเป็นภารกิจประจำคลาสตามปรกติ


‘แต่พอมานึกดูตอนนี้ มันไม่ปรกติแม้แต่เรื่องเดียว’


NPC ไม่สามารถแจกจ่ายภารกิจระดับโลกในลักษณะพร่ำเพรื่อได้แน่ นอกเสียจากจะเป็นตัวตนทัดเทียมเทพ


มีโอกาสสูงมาก ว่าบุคคลเบื้องหลังภารกิจหลุมพรางของการัม จะเป็นหนึ่งในห้าอาวุโสแห่งอาณาจักรฮวาน


หมายความว่า เทพตกสวรรค์รู้จักเราแล้ว และไม่ได้เป็นมิตรด้วยสักเท่าไร


เมื่อคิดถึงจุดดังกล่าว สมองกริดเริ่มถูกอาการหวาดกลัวครอบงำเบาๆ


ถ้าเราสำรวจคุกนรกโดยไม่เคยทราบข้อมูลเหล่านี้ล่วงหน้า… ถ้าบังเอิญเราเกิดแทรกซึมเข้าไปในอาณาจักรฮวานสำเร็จ… จะมีนรกแบบใดรอเราอยู่?


แค่คิดก็ขนลุกแล้ว


ต้องขอบคุณลีจองอย่างมากสำหรับข้อมูล


‘หรือชะตาจะถูกกำหนดไว้แต่แรก?’


ค่อนข้างน่าแปลก ไม่ว่าจะกริดจะพยายามทบทวนการกระทำของตัวเองสักเท่าไร แต่มันก็ได้ข้อสรุปว่า ตนมีชะตาต้องเป็นศัตรูกับยังบันอย่างมิอาจเลี่ยงได้เลย


แต่การัมก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อีกแล้ว


ขอเพียงเรามีพลังและข้อมูลมากพอ การัมคงติดกับดักความประมาทและเสียท่าไปเองในสักวันแน่นอน


‘ต้องทำงานให้หนักขึ้น’


ไม่ใช่เวลามัวดีใจเรื่องการมีเลเวลเกิน 400 ไม่ใช่เวลามัวดื่มด่ำไปกับสถานะเหนือมนุษย์


ต้องทำอย่างไรจึงจะมีโรงเหล็กแบบพกพาเป็นของตัวเอง?


ด้วยธรรมชาติของคลาส กริดจำเป็นต้องทุ่มเวลาส่วนใหญ่ไปกับโรงเหล็ก ส่งผลให้ระยะเวลาการล่ามอนสเตอร์ลดลงมาก


‘อยากเก็บเลเวลไปพร้อมกับการตีเหล็ก’


จริงอยู่ กริดมีเตาหลอมขนาดพกพา


แต่เตาหลอมแบบพกพายังไม่ครอบคลุมมากพอ ไอเท็มหลายชนิดไม่สามารถสร้างได้จากเตาหลอมชนิดนี้ ส่งผลให้คำว่า ‘ตีเหล็กไปด้วยเก็บเลเวลไปด้วย’ ไม่มีอยู่จริง


ถ้ามีโรงเหล็กแบบพกพาก็คงดี…


‘จะได้วางโรงเหล็กใจกลางจุดเก็บเลเวล และปล่อยให้บรรดาสรรพสัตว์จัดการมอนสเตอร์แทน’


เมื่อคิดถึงจุดนี้ หัวใจกริดเริ่มเต้นระรัว


เพราะภายใต้สภาพแวดล้อมปัจจุบัน ถ้าต้องการสร้างโรงเหล็กแบบพกพาจริง สิ่งนี้มีโอกาสสำเร็จค่อนข้างมากทีเดียว


‘แค่สร้างรถลากขนาดเท่าโรงเหล็กก็ได้แล้วไม่ใช่หรือ? เหมือนกับค่ายทหารไง!’


รถแคมปิ้ง


ปัจจุบัน ชายหนุ่มมีเพื่อน (?) เป็นเผ่าคนแคระฝีมือเยี่ยมอยู่หนึ่งคน


คนแคระเคย์เปรียบดังลูกไก่ในกำมือ เนื่องจากมันถูกกริดจับได้คาหนังคาเขาว่าแอบทำลายปราสาท จึงมิอาจปฏิเสธคำขอร้องกริดได้ถนัดปากนัก


‘ในเมื่อเป็นเผ่าชื่นชอบการสร้างอยู่แล้ว หากมีรางวัลล่อใจอย่างเหมาะสม ทางนั้นอาจยอมร่วมมือได้ไม่ยาก’


“ฝ่าบาท”


“หือ”


ขณะกำลังดำดิ่งในห้วงความคิด กริดถูกเสียงใครบางคนกระชากกลับสู่โลกความจริง มันหันไปมองตามต้นเสียงพร้อมกับขมวดคิ้ว


พวกเขามายืนรอตั้งแต่ตอนไหน?


สามอัศวินกำลังเข้าแถว


จากนั้น ปิอาโร่ทำการแนะนำทีละคน


“เรียงตามลำดับ ประกอบด้วยอเมลด้า เคนดริก และดันเต้ สมัยกระหม่อมและอัสโมเฟลยังนำกองทัพอัศวินสีชาด บุคคลเหล่านี้คืออัจฉริยะผู้ถูกขนานนามว่า ลำดับห้า ลำดับเจ็ด และลำดับเก้า เนื่องจากต้องใช้ชีวิตอย่างหวาดกลัวมาตลอดสิบปี กิริยามารยาทอาจแข็งกระด้างไปบ้าง แต่กระหม่อมขอรับประกันว่ามีฝีมือและความซื่อสัตย์”


“สวัสดี ท่านฝ่าบาท! ข้าได้ยินเรื่องราวของท่านมาเพียบ!”


“ไม่เพียงช่วยเหลือกัปตันปิอาโร่ แต่ยังช่วยขจัดมลทินให้พวกเราด้วย ขอบพระทัยเป็นอย่างยิ่ง!”


“ถึงฉันจะอายุมากแล้ว แต่หากฝ่าบาทยอมมอบโอกาส ขอสัญญาว่าจะรับใช้ด้วยความจงรักภักดียิ่งชีพ!”


“ทุกคนทำตัวตามสบายเถิด”


ไม่มีสิ่งใดยอดเยี่ยมไปกว่าการได้พวกพ้องใหม่มาร่วมทัพ แถมยังเป็นกลุ่มคนทรงพลังและซื่อสัตย์


สมกับเป็นอดีตอัศวินสีชาดหลักเดียว


แต่กริดไม่ได้ตื่นเต้นออกนอกหน้า


แววตาอันเยือกเย็นของชายหนุ่มสำรวจสามอัศวินเพียงครู่หนึ่ง จากนั้นก็มองเลยไปทางด้านหลังของพวกมัน


อัสโมเฟลและเมอร์เซเดส


อัสโมเฟลผู้โดดเดี่ยว กริดมอบคำสั่งให้ออกเดินทางรวบรวมอดีตสมาชิกอัศวินสีชาด และเมอร์เซเดส กริดส่งเธอไปเป็นผู้ช่วยของอัสโมเฟลเมื่อหลายเดือนก่อน


สภาพอันย่ำแย่และบาดแผลตามร่างกายของคนทั้งคู่ กระตุ้นให้หัวใจกริดรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวยากจะพรรณนาเป็นคำพูด


“ขอบคุณสำหรับความทุ่มเท”


กริดเดินผ่านสามอัศวินสีชาดด้วยบรรยากาศเย็นชา ก่อนทำการสวมกอดเมอร์เซเดสและอัสโมเฟลอย่างแนบแน่น


แผ่นอกสามศอกของราชาโอเวอร์เกียร์ผู้ฝึกฝนตัวเองอย่างหนักตลอดหลายปีหลัง ได้กว้างพอจะโอบกอดคนทั้งสองไว้พร้อมกันในคราวเดียว


“ขอบคุณสำหรับการมีชีวิตรอดกลับมา”


“…กระหม่อมยินดีเสมอเมื่อได้เห็นฝ่าบาทยังคงมีพลานามัยแข็งแรง”


คนทั้งสามยืนกอดกันเป็นเวลานาน


ราวกับไม่ต้องการปล่อยให้ทั้งคู่หลุดมือไปไหน กริดออกแรงท่อนแขนมากกว่าปรกติ


มันสัมผัสได้


“ฝ่าบาท…”


“…”


เมอร์เซเดสเผยรอยยิ้มสดใสประหนึ่งเด็กสาววัยรุ่น แต่สีหน้าอัสโมเฟลกลับอึมครึม


คนบาปไม่มีสิทธิ์ได้รับความสุข ตัวมันคิดเช่นนี้ในทุกลมหายใจของชีวิต


เมื่อเห็นภาพดังกล่าวจากระยะไกล อัศวินอเมลด้ารีบเบือนหน้าหนีเพราะรับไม่ได้


“อัสโมเฟล…”


“…”


***


กริดนำ ‘ดาบกษัตริย์’ ออกมาสำรวจค่าสถานะของอดีตอัศวินสีชาดทั้งสาม


ชื่อ : อเมลด้า

อายุ : 37 เพศ : หญิง

เผ่าพันธุ์ : มนุษย์

สมญานาม : นักภูมิศาสตร์

* สามารถหาจุดยุทธศาสตร์สำคัญได้เสมอในสนามรบทุกรูปแบบ

* เพิ่มค่าความถนัดด้านภูมิประเทศให้พวกพ้องขึ้นจากเดิม 100%

* เพิ่งความเร็วในการเคลื่อนทัพอย่างมาก

สมญานาม : ช่างพูด

* ชื่นชอบการสนทนา สามารถทำลายขวัญกำลังใจศัตรูได้เล็กน้อย

* ขณะสนทนากับพวกพ้อง มีโอกาสต่ำในการสร้างบัฟด้านดี

เลเวล : 435

พละกำลัง : 2,673 ความอดทน : 1,960

ความว่องไว : 2,300 สติปัญญา : 2,105

— รายการทักษะ —

- วิชาดาบจักรวรรดิ (ฺB)

- นักดาบอัจฉริยะ (S)

- ภูมิศาสตร์ (SS)

อัศวินลำดับห้าแห่งกองอัศวินสีชาด

เข้าร่วมกองอัศวินสีชาดได้ด้วยพรสวรรค์ทางวิชาดาบอันโดดเด่น แต่แท้จริงแล้ว เธอคือบุตรสาวของตระกูลนักวิชาการชื่อดัง ส่งผลให้มีความรู้ติดตัวไม่น้อย นับตั้งแต่เข้าร่วมกองทัพ กลยุทธ์ของเธอได้มอบชัยชนะให้ฝ่ายจักรวรรดิมาแล้วหลายหน


สำหรับอเมลด้า เลเวลของเธอน้อยกว่าอัศวินซินกูเล็ดค่อนข้างมาก


เลเวลต่างกันจนน่าตกใจ


จากคำบอกเล่าของเมอร์เซเดส ซินกูเล็ดเป็นถึงอัศวินลำดับสอง แถมยังถูกยกย่องว่า ในยามเอาจริงจะมีฝีมือทัดเทียมอัสโมเฟล


กริดเคยตรวจสอบเลเวลของซินกูเล็ดเมื่อหลายปีก่อน แม้แต่ตอนนั้นยังสูงถึงระดับ 455


เหนือสิ่งอื่นใด สมญานามและทักษะส่วนใหญ่ของซินกูเล็ดเป็นประเภทส่งเสริมพลังต่อสู้โดยตรง แต่กับอเมลด้าแล้วไม่ใช่


เธอไม่เหมือนกับอัศวินสักเท่าไร


ไม่ค่อยแข็งแกร่งนัก


เป็นถึงลำดับห้าจริงหรือ?


อย่างไรก็ตาม แต้มสถานะโดยรวมอยู่ในระดับสูงมาก แถมยังทักษะด้านภูมิศาสตร์นับว่าค่อนข้างมีประโยชน์ แต่เรื่องน่าตกใจเหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมดคือ ทักษะ ‘นักดาบอัจฉริยะ’


<นักดาบอัจฉริยะ>

สามารถเรียน ‘วิชาดาบ’ ได้โดยไม่ต้องใช้หนังสือทักษะ

* เรียนได้สูงสุด 5 วิชาดาบ

จำนวนวิชาดาบในปัจจุบัน (1/5)

- วิชาดาบจักรวรรดิ


‘หมายความว่ายังไง กับการเรียนวิชาดาบได้โดยไม่ต้องใช้หนังสือทักษะ?’


กริดยืนครุ่นคิดสักพักจนเริ่มเข้าใจหลักการ มันพยักหน้ากับตัวเอง


เราสามารถสอนวิชาดาบให้เธอได้…?


คงไม่กระมัง


‘จะบอกว่าถ้าเราสอน <วิชาดาบกริด> เธอสามารถเรียนมันได้หรือ?’


ไม่น่าใช่


ถ้าทักษะ ‘นักดาบอัจฉริยะ’ มีเกรด SS ก็ว่าไปอย่าง แต่นี่มีระดับแค่เกรด S เท่านั้น


คงเรียนวิชาดาบเกรดเลเจนดารีไม่ได้


ทันใดนั้น กริดพลันนึกถึงครอเกล


ครอเกลเคยถือครองวิชาดาบทรงพลังมากมายสมัยยังเป็นนักดาบสีขาว ก่อนจะกลายเป็นอริยดาบเช่นทุกวันนี้


จะเกิดอะไรขึ้นถ้าให้ครอเกลสอนอเมลด้า?


‘เราเคยได้ยินว่า วิชาดาบบางประเภทช่วยเพิ่มค่าพละกำลังของผู้เรียนได้ ถ้าถ่ายทอดให้อเมลด้าสำเร็จ บางทีเธออาจแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า’


แต่ปัญหาคือ อริยดาบครอเกลจะยอมให้ความร่วมมือกับตนหรือไม่


‘ไว้ค่อยถามทีหลัง’


ชื่อ : เคนดริก

อายุ : 41 ปี เพศ : ชาย

เผ่าพันธุ์ : มนุษย์

สมญานาม : อัศวินทำลายล้าง

* เพิ่มพลังโจมตีกายภาพ 15% และทักษะโจมตีหนึ่งเป้าหมาย 50% ได้รับโบนัสความเสียหายเพิ่มถ้าศัตรูมีพลังชีวิตสูงกว่าท่าน

สมญานาม : หัวหอก

* สวมใส่ชุดเกราะได้ทุกชนิด เพิ่มพลังป้องกันของชุดเกราะขึ้น 10%

* ในสนามรบ หากสังกัดหน่วยแนวหน้า จะได้รับบาเรียคุ้มกายแปรผันตามพลังชีวิตสูงสุด

* ในสนามรบ การโจมตีครั้งแรกจะโดนศัตรูโดยไม่มีเงื่อนไข และมีโอกาสสูงในการปลิดชีพเป้าหมายทันที

เลเวล : 440

พละกำลัง : 3,820 ความอดทน : 2,190

ความว่องไว : 1,215 สติปัญญา : 503

— รายการทักษะ —

- วิชาดาบจักรวรรดิ (B)

- โถม (A)

- สั่งโถม (S)

- ตาต่อตาฟันต่อฟัน (SS)

อัศวินลำดับเจ็ดแห่งกองอัศวินสีชาด

พลังในการถล่มค่ายไม่เป็นสองรองใคร จนปิอาโร่ต้องยอมยกตำแหน่งแม่ทัพแนวหน้าให้


ชื่อ : ดันเต้

อายุ : 73 ปี เพศ : ชาย

เผ่าพันธุ์ : มนุษย์

สมญานาม : ทหารผ่านศึก

* ทุกการโจมตีจะเป็นคริติคอล และมีโอกาสสูงในการโจมตีใส่จุดอ่อนศัตรู

* การโจมตีจะมองข้ามพลังป้องกันของเป้าหมาย 30% และมีโอกาสต่ำในการปลดอาวุธ

สมญานาม : ตาแก่แข็งแรง

* ไม่มีวันถูกโจมตีแบบคริติคอล สามารถรับการโจมตีแทนพวกเดียวกัน และความเสียหายของการโจมตีดังกล่าวจะเหลือเพียง 80% จากปรกติ

เลเวล : 480

พละกำลัง : 1,820 (▼)

ความอดทน : 650 (▼)

ความว่องไว : 715 (▼)

สติปัญญา : 1,503 (▼)

★ อายุขัยของตัวละครนี้ใกล้หมดลง

— รายการทักษะ —

- วิชาดาบจักรวรรดิ (B)

- ดาบผู้พิทักษ์ (S)

- คุ้มกัน (S)

- พลังแฝง (SS)

ลำดับเก้าแห่งกองอัศวินสีชาด

ในยุคสมัยของตัวเอง เขาคืออาจารย์ของอัศวินสีชาดเกือบทุกนาย บรรลุวิชาดาบจักรวรรดิจนถึงระดับถ่องแท้

ปัจจุบัน ร่างกายแก่ชราลงตามวัย และไม่กระฉับกระเฉงเหมือนสมัยหนุ่ม แต่เจ้าตัวกลับเชื่อว่าตนยังสามารถกระทำสิ่งยิ่งใหญ่ได้


“…”


เคนดริกแข็งแกร่งมากทีเดียว เป็นสุดยอดทัพหน้าอย่างไร้ข้อกังขา


แต่เมื่ออ่านถึงสภาพร่างกายปัจจุบันของดันเต้ สมองกริดถึงกับรู้สึกวิงเวียน


ข้อความ ‘อายุขัยของตัวละครกำลังจะหมดลง’ ได้กระตุ้นให้อารมณ์ลึกสุดในใจกริดตื่นขึ้นมาอีกครั้ง


ใบหน้า ‘ข่าน’ ผุดขึ้นในสมอง


ด้วยลมหายใจสั่นเทาและไม่ปะติดปะต่อ กริดพยายามส่งยิ้มให้กับสามอัศวินสีชาดอย่างอ่อนโยน


“ฉันไม่ได้เก่งกาจอะไรนัก แต่จะพยายามไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง”


“เป็นเกียรติของพวกเราอย่างยิ่ง!”


อัศวินทั้งสามส่งเสียงขานรับพร้อมเพรียงและคุกเข่าลงหนึ่งข้าง


ท่ามกลางผืนป่ากว้างใหญ่


ภายใต้ดวงอาทิตย์สีทองเจิดจรัส สามอัศวินผู้มีเกียรติกำลังถวายสัตย์ปฏิญาณตนต่อหน้าเจ้านายคนใหม่ บรรยากาศเป็นไปอย่างร่มรื่นเงียบสงบ แต่มิได้เสื่อมมนต์ขลังของพิธีกรรมแม้แต่น้อย


พวกเขาเคยถูกทอดทิ้งอย่างไม่ไยดีโดยเจ้านายเก่า และปัจจุบันกำลังสาบานว่าจะรับใช้เจ้านายใหม่อย่างซื่อสัตย์


ทางด้านเจ้านายใหม่ก็รับปากเป็นมั่นเหมาะว่าจะไม่ทำพวกเขาให้ผิดหวัง


“เฮ—!!”


แม้แต่อัศวินตีนดำก็ยังโห่ร้องยินดี


‘มีแต่พวกงี่เง่าเต็มไปหมด!’


ไคล์ผู้กลายเป็นแค่ตัวประกอบ ทำได้เพียงส่ายศีรษะอย่างหงุดหงิดกับเหตุการณ์อันน่ายินดีปรีดา


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,506
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. ขอบคุณ​ครับ​😊🙏

    ReplyDelete
  2. ขอบคุณสำหรับงานแปลครับ

    ReplyDelete
  3. อัศวินตีนดำจะโดนคาดโทษไหมแบบนี้ 5555

    ReplyDelete
    Replies
    1. ตอนแรกนึกว่า เลซี่จะได้คลาสลับซะอีก

      Delete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00