จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,119



“แฮ่ก… แฮ่ก…”


เลซี่ผู้ถูกฆ่าตายโดยระเบิดสายฟ้า


หลังจากคืนชีพอีกครั้ง มันรีบสับเต็มฝีเท้าเพื่อพาตัวเองกลับมายังผืนป่าต้นไม้โลก


แน่นอน มันทราบว่า ต่อให้ตนเข้าไปช่วยทันเวลา แต่ผลลัพธ์การต่อสู้คงไม่เปลี่ยนไปสักเท่าไร หรือบางทีอาจไม่ทันการแล้ว กว่าจะวิ่งไปถึง เหตุการณ์ทั้งหมดคงจบลงเสียก่อน


‘แต่ว่า’


เลซี่ไม่หวงแหนค่าเรี่ยวแรง เป้าหมายเดียวในวินาทีนี้คือ ไปให้ถึงป่าต้นไม้โลกโดยเร็ว


‘เราสามารถทำให้ไคล์เผลอได้ และนั่นจะเป็นช่องว่างให้เมอร์เซเดส’


เธอคงพอมีเวลาชิงจังหวะหนี ปัจจัยไม่คาดฝันเพียงเล็กน้อย อาจช่วยให้ใครสักคนรอดชีวิตกลับไป


เลซี่กำลังมองโลกในแง่ดีอย่างสุดโต่ง


แต่ในความเป็นจริง โอกาสดึงดูดความสนใจไคล์และเปิดช่องว่างให้เมอร์เซเดส มีอัตราความสำเร็จไม่ถึง 0.01% ด้วยซ้ำ


อย่างไรก็ตาม ในฐานะอัศวิน มันไม่คิดยอมแพ้กลางคันเด็ดขาด



“ท่านกริด!!”


เมื่อมาถึงป่าต้นไม้โลก เลซี่คำรามด้วยเสียงพร่าแหบ


“ท่านเมอร์เซเดส!”


เสียงของมันดังขึ้นเมื่อยิ่งเข้าใกล้บริเวณสนามรบ ต้นไม้ในละแวกดังกล่าวถูกทำลายเป็นทางยาว เลซี่เริ่มมองเห็นเศษซากร่องรอยการต่อสู้อันดุเดือด แต่ก็ยังไม่พบมนุษย์คนใด


“ท่านอัสโมเฟล!!”


เลซี่กำลังสิ้นหวัง


ไคล์และลีจองแข็งแกร่งเกินไป


ลำพังลีจองคนเดียว เมอร์เซเดสก็รับมือได้ยากเต็มกลืนแล้ว ฉะนั้นไม่ต้องคาดเดาผลลัพธ์หลังจากไคล์ฟื้นฟูพลังกลับมา


ต่อให้มีกริด เรื่องราวก็ไม่ได้ง่ายขึ้น


“ท่านกริด…!!”


เลซี่เริ่มสวดภาวนา กริดเป็นผู้มีพระคุณของตน มันย่อมต้องการให้กริดปลอดภัย


จนกระทั่ง


“อะ…”


เลซี่มาถึงจุดเกิดเหตุ


และได้พบกับ


“ข้าจะจำใส่ใจไว้!!”


ไคล์กำลังก้มศีรษะให้กริดอย่างนอบน้อม


“…??”


“หือ? เลซี่เองหรือ”


เชี่ยไรเนี่ย…?


ปาร์ตี้กริดกำลังผ่อนคลาย สาวกเทพสงครามปริศนาหายไป และไคล์กำลังหมอบกราบตรงหน้ากริด


กริดโบกมือให้เลซี่ผู้กำลังยืนตะลึง


“เลซี่ นายก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยใช่ไหม?”


ชายหนุ่มย่อมทราบว่า เลซี่คืออัศวินองครักษ์ของดูรันดัล และเป็นหน่วยเดียวกับอัศวินตีนดำกลุ่มนี้


กริดเคยได้ยินอีกฝ่ายเล่าเองจากปาก เรื่องนี้จึงไม่ผิดแน่นอน ทำให้เดาได้ไม่ยากว่า ภารกิจ ‘คุกนรก’ ต้องเพิ่มค่าความสัมพันธ์ระหว่างเลซี่กับดูรันดัลขึ้นจากเดิม


“ใช่ครับ ผมเกือบจะฆ่าเอลฟ์…”


เลซี่ไม่อยากพูดถึงเรื่องดังกล่าว


เป็นเพราะดูรันดัลประกาศชัดเจน ให้ไคล์นำกองอัศวินตีนดำ บุกโจมตีป่าทั่วทวีปและจัดการเอลฟ์อย่างโหดเหี้ยม เลซี่จึงเป็นหนึ่งในกลุ่มคนผู้ทำร้ายเอลฟ์อย่างปฏิเสธไม่ได้


คำสั่งของเจ้านาย… สิ่งนี้ไม่ใช่ข้ออ้าง


มันเลือกจะเป็นอัศวินของดูรันดัลด้วยตัวเอง และก่อนมาถึงป่าต้นไม้โลก ตัวมันได้ทำร้ายเอลฟ์ไปเป็นจำนวนมาก


“…”


เลซี่ก้มศีรษะลง มันรู้สึกเจ็บปวดหัวใจ เมื่อได้เห็นประชากรเอลฟ์เหลือไม่ถึงสิบตน


ทันใดนั้น บุคคลไม่คาดฝันเดินมายืนข้างร่างกายอันสั่นเทาของอัศวินหนุ่ม


หนึ่งในเอลฟ์สาวผู้รอดชีวิต


สำหรับวันนี้ เธอต้องสูญเสียครอบครัวและพวกพ้องแสนมีค่าให้กับมนุษย์โสมมอีกครั้ง


ไม่แปลกเลยหากจะพ่นถ้อยคำหยาบคายใส่หน้ามนุษย์ชั่วช้าอย่างตน เลซี่รอฟังถ้อยคำด่าทอโดยไม่มีข้อแก้ตัว


“ขอบคุณมาก… ท่านมนุษย์”


“…อะไรนะ?”


สมองเลซี่พลันขาวโพลน


เธอขอบคุณเราทำไม…?


“ผ…ผมทำร้ายพวกพ้องคุณมากมายก่อนจะมาถึงป่าแห่งนี้”


เลซี่สารภาพบาป มันเตรียมใจยอมรับความเกลียดชังของอีกฝ่ายโดยไม่คิดปัดความรับผิดชอบ


แต่เอลฟ์กลับใช้สองมือกุมเลซี่อย่างอบอุ่น


“คุณคงเสียใจและเสียขวัญกับเหตุการณ์ครั้งนั้นมาก จงไม่ต้องการก่อความผิดซ้ำสอง”


“…”


คำปลอบประโลมอันคาดไม่ถึง


ขณะเลซี่กำลังกระอักกระอ่วนและทำได้เพียงปิดปากเงียบ เมอร์เซเดสกล่าวเสริม


“เสียงตะโกนอันกล้าหาญของคุณดังกึกก้องผืนป่า เป็นสาเหตุให้พวกเราพบความผิดปรกติและรีบมุ่งหน้ามาช่วยเอลฟ์ได้ทันเวลา คุณเป็นผู้มีพระคุณของพวกเขา”


ตั้งแต่ต้นจนจบสงคราม สิบสองผู้พิทักษ์มิได้โผล่หัวออกแม้แต่ตนเดียว


อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้พอจะมีคำอธิบายฟังขึ้น เนื่องจากผืนป่าต้นไม้โลกนั้นกว้างใหญ่ แต่จำนวนของเอลฟ์กลับน้อยนิด เหล่าสิบสองผู้พิทักษ์จึงไม่สามารถรุดมายังจุดเกิดเหตุได้ทัน กว่าจะรู้ตัวและเคลื่อนไหวก็สายเกินไป


ผู้มีพระคุณของเอลฟ์จึงเป็นชายเผ่ามนุษย์นามว่าเลซี่


“…”


ดวงตาเลซี่เริ่มแดงก่ำ แต่มันยังไม่เปิดปาก


มันกำลังตื้นตันใจ เมื่อทราบว่าการกระทำเล็กน้อยของตนช่วยให้เอลฟ์รอดชีวิตมาได้บางส่วน ขณะเดียวกัน เมอร์เซเดสผู้มีบทบาทสำคัญกว่าใคร กลับยอมยกความดีความชอบทั้งหมดให้ตน


“ขอบคุณสำหรับความทุ่มเท คุณอัศวิน”


หลังจากทราบเหตุการณ์ทั้งหมด กริดฉีกยิ้มพร้อมกับเดินมาขอจับมือเลซี่


ในวินาทีดังกล่าว เลซี่สัมผัสถึงอารมณ์อันหลากหลาย มันกุมฝ่ามือแผ่นใหญ่ของกริดด้วยมือสองข้างพร้อมกับหลั่งน้ำตา


“ขอบคุณมาก… ขอบคุณมาก…”


คุณธรรมอัศวินไม่ใช่ของปลอม…


ความเชื่อของตนเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม


ขณะหัวใจเลซี่กำลังถูกเยียวยา


“เจ้าน่ะ…”


บุคคลหนึ่งกำลังเดินเข้ามาใกล้เลซี่


อัศวินหนุ่มหันไปมองตามต้นเสียง และเกิดเปลี่ยนสีหน้ากะทันหัน อีกฝ่ายคือฆาตกรผู้ลุ่มหลงในพลังอำนาจจนขาดศีลธรรมพื้นฐานของมนุษย์ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ชายคนนี้มีพลังเกินกว่าจินตนาการของมันจะเอื้อมถึง


เทพสายฟ้า ไคล์ กำลังย่างกรายเข้าหาเลซี่


“คึ่ก…!”


ขณะเลซี่ลนลานชักดาบตามสัญชาตญาณ


“ข้อขอโทษ”


ไคล์โค้งศีรษะให้


“ข้าไม่ทราบว่าเจ้าเป็นเพื่อนฝ่าบาทกริด จึงทำเรื่องเสียมารยาทลงไป”


กริดยืนอมยิ้มและเฝ้ามองสถานการณ์อย่างมีความสุข มันชื่นชอบนิสัยใจคอของอัศวินหนุ่มเลซี่มานานแล้ว


สำหรับเลซี่ ไคล์เปรียบดังปีศาจผู้สามารถบดขยี้ตนได้เหมือนมดปลวก มันจึงมิอาจทำความเข้าใจสถานการณ์ชวนมึนงงตรงหน้าได้ในทันที


‘กริดทำอะไรกับไคล์กันแน่…’


เลซี่ประหลาดใจอย่างมาก ท่าทีของไคล์เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังเท้าภายในระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมง


ไคล์หันไปมองกริด


“เอ่อ… ฝ่าบาทกริด ข้ากลับได้หรือยัง?”


“หืม…”


กริดหันไปมองทางเอลฟ์


เราควรทำอย่างไรดี…


ความแค้นของเอลฟ์ ไม่ว่าอย่างไร ไคล์ก็ต้องชดใช้คืนให้เหมาะสม


หลังจากก้มหน้าครุ่นคิดสักพัก กริดผงกศีรษะและเดินไปกระซิบข้างหูไคล์ ป้องกันมิให้หน่วยอัศวินตีนดำได้ยิน


“จับตามองพฤติกรรมของเทพสงครามและองค์ชายดูรันดัลให้ดี รีบรายงานฉันทันที ถ้าพวกเขาคิดปองร้ายอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ เข้าใจใช่ไหม?”


“ตกลงขอรับ! หากตรวจพบความไม่ชอบมาพากล ข้ารีบจะรายงานฝ่าบาททันที!”


“ดีมาก”


กริดผงกศีรษะอย่างพึงพอใจ ขณะเดียวกัน ไคล์หันหลังกลับและรีบจากไปด้วยความเร็วเต็มฝีเท้า… เหมือนกับกำลังวิ่งหนีจากการตามล่าของใครสักคน


ถัดมา กริดหันไปออกคำสั่งกับอัศวินตีนดำ ให้พวกมันเดินทางกลับจักรวรรดิพร้อมเลซี่


“เลซี่ กิลด์โอเวอร์เกียร์ยินดีต้อนรับเสมอ”


“ผมไม่คู่ควร”


เลซี่ปฏิเสธสุภาพพร้อมรอยยิ้มขื่นขม


คำเชิญจากกริดมีค่ามาก ถือเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูลก็ยังได้ แต่เลซี่เชื่อว่ายังไม่ถึงเวลาของตน เหตุการณ์ในคุกนรกยังคงตามหลอกหลอนไม่จางหาย


มันอ่อนแอเกินไป ไม่คู่ควรกับสุดยอดกิลด์ ไม่พร้อมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับเหล่าอสุรกายโอเวอร์เกียร์


“และเหนือสิ่งอื่นใด…”


เลซี่ยิ้มแห้ง คล้ายกับตำหนิตัวเอง


“ผมมีเจ้านายอยู่แล้ว”


องค์ชายดูรันดัลเป็นคนจิตใจคับแคบ สิ่งนี้หมายความว่า ถ้ามันมีพลังอำนาจเมื่อใด ทวีปตะวันตกจะเกิดความหายนะทันที


ดูรันดัลจะก่อความวุ่นวาย ทุกฝ่ายจะเดือดร้อนอย่างมิอาจหลีกเลี่ยง


แต่ถึงอย่างนั้น เลซี่ก็มิอาจทรยศเจ้านาย


เพราะมันคืออัศวิน


“ผมจะรีบพัฒนาตัวเองให้แข็งแกร่ง”


เลซี่ยืนกรานหนักแน่น


“จงแข็งแกร่งจนองค์ชายดูรันดัลยอมพึ่งพา หากวันนั้นมาถึง การอยู่ข้างกายดูรันดัลจะมีประโยชน์กับอาณาจักรโอเวอร์เกียร์มากกว่า”


“ผมก็หวังให้เป็นเช่นนั้น”


นายทำได้แน่…


พรสวรรค์และจิตใจของนายน่าทึ่งมาก…


กริดกลืนถ้อยคำลงคอโดยไม่ได้พูดออกไป เพราะคำพูดเหล่านั้นจะกลายเป็นแรงกดดันโดยไม่เกิดประโยชน์


“แล้วพบกันใหม่”


เลซี่จากไปพร้อมกองทัพอัศวินตีนดำ



“ทำไมถึงไม่มีใครมาช่วยพวกเขา?”


เมอร์เซเดสถามเข้าประเด็น


แน่นอน เธอย่อมเข้าใจสถานการณ์ของฝั่งเอลฟ์อยู่บ้าง


ด้วยจำนวนอันน้อยนิด การแบ่งกำลังคนจึงไม่ใช่เรื่องฉลาด ต่างฝ่ายต่างดูแลงานของตัวเอง และสวดภาวนาว่าพวกพ้องในส่วนอื่นจะไม่บกพร่อง


โดยเฉพาะสิบสองผู้พิทักษ์ งานหลักคือการปกป้องครอบครัวใหญ่ หากไม่มีความจำเป็นอย่างยิ่งยวด จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับภารกิจหรือสงครามภายนอกเด็ดขาด


แต่เหตุการณ์ไคล์อาละวาด กลับยังวิกฤติไม่พออีกหรือ?


สงครามดำเนินเป็นเวลานาน เกิดเสียงอึกทึกครึกโครม เกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง แต่กลับไม่มีกำลังเสริมมาเพิ่มแม้แต่หน่วยเดียว ไม่ต้องหวังพึ่ง 12 ผู้พิทักษ์


สีหน้าเมอร์เซเดสเริ่มอึมครึม


“หรือมีเรื่องใหญ่กว่านี้เกิดขึ้นในจุดอื่น?”


“ฉันไม่คิดแบบนั้น”


กริดก้มหน้าครุ่นคิด


“พวกเขาอาจกำลังหวาดกลัวบางสิ่ง”


“หวาดกลัว?”


ถึงเอลฟ์จะถูกย่ำยีบ่อยครั้ง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าพวกมันคือเผ่าพันธุ์ทรงพลัง


โดยเฉพาะ 12 ผู้พิทักษ์ เมอร์เซเดสเคยพบศัตรูแข็งแกร่งระดับนี้ไม่บ่อยนัก


แล้วด้วยเหตุผลใด พวกมันถึงหวาดกลัวจนเอาแต่หดหัวในป่าลึก แสร้งทำเป็นมองไม่เห็นชะตากรรมพวกพ้องร่วมเผ่าพันธุ์?


ขณะอัศวินสาวสวยกำลังครุ่นคิด


“สิบสองผู้พิทักษ์มิใช่พวกขี้ขลาด!”


เอลฟ์ผู้เหลือรอดเปิดปากพูด


“เป็นเพราะท่านแม่ต้นไม้โลกสั่งให้พวกเขาเก็บตัวอยู่ในบ้าน ห้ามออกไปไหนเด็ดขาด”


“เข้าใจแล้ว… คำสั่งจากต้นไม้โลกนี่เอง”


“ฝ่าบาท… ท่านเข้าใจด้วยหรือ? ถ้าไม่รังเกียจ ช่วยเล่าให้ดิฉันฟังสักหน่อย”


“ฉันเดินทางมายังป่าต้นไม้โลกก็เพราะเรื่องนี้ เนื้อหาภารกิจเกี่ยวข้องกับเผ่าพันธุ์โบราณชื่อรัฟเฟลเชีย และเกี่ยวกับความเป็นความตายของเบเนียลู”


“เบเนียลู หนึ่งในผู้พิทักษ์?”


เธอเป็นอะไรไป? แม้แต่สิบสองผู้พิทักษ์ก็ยังตกอยู่ในอันตราย?


หมายความว่า รัฟเฟลเชียอาจแข็งแกร่งยิ่งกว่าจิ้งหรีดโบราณตัวนั้น…


อึก…! เมอร์เซเดสกลืนน้ำลายเสียงดัง


ในศึกคราวก่อน เธอต้องเสีย ‘กระตุ้นแก่นพลัง’ และเผชิญความยากลำบากไม่น้อยก่อนจะได้รับชัยชนะ เธอจึงไม่อยากจินตนาการว่า การต่อสู้กับรัฟเฟลเชียจะดุเดือดเข้มข้น และเต็มไปด้วยความสูญเสียมากเพียงใด… เมอร์เซเดสเผยสีหน้าหวาดกลัวโดยไม่ปิดบัง


“ฝ่าบาท ต้นไม้โลกสั่งให้ฝ่าบาทเอาชนะรัฟเฟลเชียงั้นหรือ? ได้โปรดไตร่ตรองภารกิจใหม่อีกครั้ง! ดิฉันไม่ต้องการให้ฝ่าบาทเอาชีวิตไปเสี่ยงโดยไม่จำเป็น”


เมอร์เซเดสเริ่มแสดงท่าทีโกรธเคือง


อัศวินสาวสวยกำลังพุ่งเป้าความเดือดดาลไปยังต้นไม้โลก ผู้บังอาจสั่งให้ฝ่าบาทของตนเผชิญหน้าศัตรูแข็งแกร่งเกินกำลัง


กริดรีบส่ายหัว


“ภารกิจแค่ให้ค้นหา ไม่ใช่ต่อสู้ ฉันจึงต้องพาพวกเขามาด้วย”


กริดชี้ไปทางปาร์ตี้สกังค์


กลุ่มผู้เล่นคลาสนักสำรวจร่วมร้อยคน นำโดยอันดับหนึ่งของโลก สกังค์


พวกมันกล่าวทักทายเมอร์เซเดสด้วยสีหน้าท่าทางตะกุกตะกัก เนื่องจากอัศวินสาวสวยของกริด รูปโฉมงดงามจนแม้กระทั่งเผ่าเอลฟ์ยังต้องชิดซ้าย


“ป…เป็นเกียรติอย่างยิ่งครับ! ท…ท่านเมอร์เซเดส!”


กริดอธิบายต่อ


“รัฟเฟลเชียเป็นเผ่าพันธุ์ชั่วร้าย อาศัยความดำมืดในจิตใจสิ่งมีชีวิตเป้าหมายเป็นอาหาร… เมอร์เซเดส เธอคงทราบดีกว่าใคร ว่าเผ่าเอลฟ์มีความดำมืดในซ่อนอยู่ในจิตใจมากเพียงใด”


สกังค์เสริม


“ระหว่างภารกิจเมื่อหลายปีก่อน ผมเคยอ่านเอกสารเกี่ยวกับพืชโบราณ เนื้อหาด้านในระบุว่า รัฟเฟลเชียเป็นพืชประเภท ‘ดอกไม้ใต้ดิน’ คอยส่งเสียงกระซิบล่อลวงสิ่งมีชีวิตอื่นให้เข้าไปใกล้ และฉวยโอกาสเขมือบโดยไม่ให้เหยื่อตั้งตัว”


นี่คงเป็นเหตุผลให้สิบสองผู้พิทักษ์ต้องเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน รัฟเฟลเชียเป็นของแสลงเผ่าเอลฟ์อย่างรุนแรง


พวกมันหลบซ่อนอย่างแนบเนียน ล่อลวงให้เหยื่อเข้าไปใกล้ จากนั้นก็เขมือบกิน


“ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่า…”


กริดหันไปมองอัสโมเฟลและกลุ่มอเมลด้า


ไม่ต่างจากเอลฟ์ คนเหล่านี้มีความมืดในจิตใจปริมาณมหาศาล เป็นจุดอ่อนให้รัฟเฟลเชียเล่นงานได้ง่ายดาย


“ต้องขอโทษด้วย อัสโมเฟล รบกวนนายพาพวกเขากลับวังหลวง”


“…ขอรับฝ่าบาท”


มันตอบห้วน


นอกจากจะแพ้ไคล์อย่างหมดรูป ตนยังไม่มีประโยชน์ในภารกิจสำคัญ สองสิ่งนี้ทำให้อัสโมเฟลเจ็บปวดหัวใจอย่างสาหัส


“โนลล์ นายก็ด้วย”


“…ชี่~ ก็ได้”


โนลล์ทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย


“แล้วก็…”


กริดหันไปมองทางปิอาโร่เป็นคนสุดท้าย


บางที ปิอาโร่อาจมีแผลใจลึกกว่าใครทั้งหมดในนี้ จึงไม่เหมาะกับภารกิจค้นหารัฟเฟลเชียสุดอันตราย


หมายความว่า กริดเหลือขุนพลเพียงสองคนสำหรับภารกิจค้นหารัฟเฟลเชีย : เทรูชานและเมอร์เซเดส


ขณะชายหนุ่มกำลังมองหาปิอาโร่ สีหน้าของมันพลันอึมครึมกะทันหัน


“เดี๋ยวก่อน… ปิอาโร่อยู่ไหน?”


มันหาชาวนาในตำนานไม่พบ


เมื่อลองนึกดูให้ดี กริดไม่เห็นปิอาโร่มาสักพักใหญ่แล้ว


“อย่าบอกนะว่า…”


ร่างกายทุกคนเริ่มสั่นเทา


เมื่อหวนนึกถึงพลังสุดโกงของรัฟเฟลเชียและจิตใจดำมืดของปิอาโร่ ผู้คนต่างพากันจินตนาการภาพเลวร้าย


“ท่านแม่ทัพปิอาโร่ถูกเล่นงานแล้ว?”


“บ้าจริง! ท่านปิอาโร่! ท่านปิอาโร่!!”


อเมลด้าและพวกพ้องเริ่มลนลาน


หลังจากเกิดโศกนาฏกรรมสุดเศร้าสลดเมื่อสิบห้าปีก่อน พวกตนเพิ่งจะมีโอกาสได้พบแม่ทัพปิอาโร่อีกครั้ง แต่ชายคนนั้นกลับ…


ยังไม่ทันได้เปิดอกคุยกัน…


ดวงตาอเมลด้าและพวกพ้องเริ่มแดงก่ำ


ทันใดนั้น


“ฝ่าบาท!! อั่ก!!”


ในจุดห่างไกลออกไป ทุกคนได้ยินเสียงตะโกนอย่างร้อนรนจากปิอาโร่


“คึ่ก!”


ยังมีชีวิตรอดอยู่ใช่ไหม? พระเจ้าช่วย!


ปาร์ตี้กริดรีบมุ่งหน้าไปทางเสียงปิอาโร่ด้วยความเร็วสูงสุด


และทุกคนได้พบ


ปิอาโร่ผู้เนื้อตัวเปื้อนโคลนมอมแมม กำลังแบกดอกไม้ประหลาดไว้บนไหล่ ขนาดของมันสูงไม่ต่ำกว่าห้าเมตร


“ฝ่าบาท! กระหม่อมพบดอกไม้ประหลาดด้วยขอรับ!!”


“…”


ปาร์ตี้กริดถึงกับหมดคำพูด


รัฟเฟลเชีย


นั่นคือชื่อของดอกไม้บัดซบบนไหล่ปิอาโร่


ใช่แล้ว


ปิอาโร่ปราศจากความดำมืดในใจ แม้เพิ่งผ่านเหตุการณ์สูญเสียจักรพรรดิฮวนเดอร์ได้ไม่นาน


“เนื่องจากสัมผัสถึงความผิดปรกติด้านล่างกระหม่อมจึงตัดสินใจใช้พลั่วขุดดินลงไป และได้พบเจ้านี่กำลังนอนหลับอยู่ น่ารักไปเลยใช่ไหมขอรับ?”


“…”


“ท่านแม่ทัพ ท่านพกพลั่วมาทำไมหรือ”


คำถามใสซื่อของอเมลด้าทำให้บรรยากาศรอบข้างพลันเงียบสงัด


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,508
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. ปิอาโร่กลายเป็นตัวโจ๊กไปซะละ

    ReplyDelete
    Replies
    1. ต่อไปแกจะไม่คูลแล้วใช่มั้ย ปกติก็เพี้ยนๆอยู่แล้ว 555+

      Delete
  2. เขียนมาซะหมดความขลังเลย เทพชาวนาตรู 5555555
    ขอบคุณสำหรับงานแปลเช่นเคยครับ

    ReplyDelete
  3. ขอบคุณ​มาก​ๆ​ครับ​😊🙏

    ReplyDelete
  4. 555 ช่างเหมาะสมกับการเป็นชาวนาจริงๆ

    ReplyDelete
  5. โครตชอบปิอาโร่เป็นNPCที่ปั่นที่สุดในเรื่องละตั้งแต่ไล่จับคนโหดๆมาทำนาละ

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00