จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,118

ผิวพรรณขาวเนียนราวกับหยกหิมะ ท่ามกลางแสงตะวันเจิดจ้า เส้นผมสลวยสีเงินเงางาม รวมถึงขนตายาวงอนสีเดียวกัน กำลังส่องประกายระยิบระยับอย่างน่าหลงใหล ถัดลงมาเป็นดวงตาเรียวคมสีเขียวมรกตดุจดังคลื่นสมุทร

ผิวหน้าไม่มีรอยตำหนิแม้แต่หนึ่งจุด ไม่ต่างจากการนำสีขาวนวลมาชโลมทาจนถ้วนทั่ว จมูกนิดปากหน่อย ริมฝีปากชมพูระเรื่อ ทุกองค์ประกอบสมบูรณ์แบบจนพวกมันได้แต่นึกสงสัยว่า เหตุใดโลกมนุษย์ถึงไม่มีหญิงงามเช่นนี้บ้าง

= สวยจัง…

ผู้ชมเริ่มหลั่งไหลเมื่อเลซีเปิดระบบถ่ายทอดสด พวกมันกำลังตกตะลึงในความงามอันเหนือพรรณนาของเมอร์เซเดส

ไม่ว่าจะเพศใด แต่ทั้งหมดล้วนถูกเมอร์เซเดสสะกด จนมิได้ตระหนักถึงสถานการณ์ปัจจุบันในจอภาพแม้แต่น้อย

ทันใดนั้น

= นี่เรื่องจริงหรือ?

ผู้ชมทางบ้านต่างพากันอ้าปากค้าง

ศึกดวลระหว่างเมอร์เซเดสและลีจองนั้นยอดเยี่ยมจนทุกคนเริ่มตระหนักว่า ระดับของทั้งสองอยู่เหนือกว่ากริดไปอีกขั้น และเมื่อไคล์ฟื้นฟูพลังกลับคืนมา บอสใหญ่ตัวจริงก็ถึงคราวสำแดงฤทธิ์เดช

การระเบิดพลังของไคล์ทำให้ทุกคนทึ่ง หลายฝ่ายเชื่อทันทีว่า พลังระดับนี้ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าชาวนาในตำนานของกริดเสียอีก

= จบสิ้นแล้ว

ผู้ชมร้องโอดครวญ

ภายใต้การรุกหนักจากไคล์และผู้ติดตามของมัน ร่างกายเมอร์เซเดสเริ่มเกิดบาดแผลหลายจุด

จนกระทั่ง

= สุดยอดดดดดดดด!!

ราชาอสูร กริด ปรากฏกาย

บอสใหญ่อย่างไคล์ ผู้กำลังเป็นภัยคุกคามใหญ่หลวงของเมอร์เซเดส พลันถูกกระชากคอออกจากอาภรณ์สายฟ้าอย่างง่ายดายประหนึ่งผู้ใหญ่รังแกเด็กเล็ก

แต่ว่า

= ค*ย!!

การถ่ายทอดสดของเลซีจบลง

ตัดจบในจังหวะแบบนี้เนี่ยนะ?

ฉายโดยไม่คิดเงินเพื่อยั่วให้คนดูเกิดความอยาก จากนั้นค่อยขายส่วนถัดไปในราคาแสนแพง… การตลาดชั่วช้า!

เลซีผู้โด่งดังและเป็นเจ้าของฉายาแฟนพันธุ์แท้อัศวิน แท้จริงแล้วกำลังวางแผนจะเป็นนักจัดรายการเกมในอนาคตนี่เอง…

เมื่อสถานีโทรทัศน์หลายช่องเริ่มทราบข่าว พวกมันต่างรุดหน้าไปยังผืนป่าต้นไม้โลกทันที

***

ไคล์ เมื่อไม่กี่นาทีก่อน มันยังเป็นบอสใหญ่ในสงครามอันดุเดือดอยู่เลย แต่ปัจจุบันถูกลดขั้นให้เหลือเพียงตัวประกอบนอกสายตา

‘มีแต่พวกบ้าเต็มไปหมด’

จักรวรรดิซาฮารันและอาณาจักรโอเวอร์เกียร์คือพันธมิตรอันแน่นแฟ้นก็จริงอยู่

แต่หน่วยอัศวินตีนดำนั้นถูกปกครองใต้อาณัติขององค์ชายดูรันดัล ผู้มีแผนจะปฏิวัติและล้มล้างระบอบการปกครองปัจจุบัน

บาซาร่าคือตัวตนชั่วร้าย หล่อนอาศัยสายสัมพันธ์เก่าแก่ระหว่างอดีตจักรพรรดิ ตั้งตนเป็นมหาจักรพรรดินีเสียเองโดยขาดความชอบธรรม… ฉะนั้น ราชาโอเวอร์เกียร์ผู้อยู่เบื้องหลังบาซาร่า ย่อมต้องเป็นศัตรูกับองค์ชายดูรันดัลด้วยเช่นกัน อัศวินตีนดำควรตระหนักถึงเรื่องนี้ตลอดเวลา

แต่พวกมันกลับร่วมยินดีไปพร้อมกริด

ทุกคนโห่ร้องเมื่อกริดพูดว่า ตนจะไม่ทอดทิ้งอเมลด้าและอีกสองคนอย่างเด็ดขาด

แน่นอน หน่วยอัศวินตีนดำล้วนทราบความจริง ผู้ขจัดมลทินให้อดีตอัศวินสีชาดไม่ใช่ใครอื่นนอกจากราชาโอเวอร์เกียร์ กริด

แต่ไคล์กลับคิดว่า เป็นเพราะกริดมีอัสโมเฟลกับปิอาโร่เป็นลูกน้อง จึงพยายามสร้างความชอบธรรมให้พวกมัน ไม่ใช่เจตนาอันสวยหรูและเพื่อส่วนรวมแต่อย่างใด

“ฝ่าบาทกริดจงเจริญ!”

“ฝ่าบาทกริด ได้โปรดดูแลรุ่นพี่ด้วยครับ!”

เหตุผลทำให้สมาชิกหน่วยอัศวินตีนดำมีความฝันจะเป็นอัศวิน และฝึกฝนตัวเองอย่างหนักตลอดหลายปี เพราะพวกมันมีอัศวินสีชาดยุคปิอาโร่เป็นต้นแบบ

หลักฐานพิสูจน์คือ คนเหล่านี้มิได้หันดาบไปทางกลุ่มอัสโมเฟลแม้แต่หนเดียว แม้จะถูกไคล์ออกคำสั่งโดยตรงก็ตาม ปล่อยให้ไคล์ต้องดิ้นรนตามลำพัง และในตอนท้าย พวกมันยังร่วมยินดีกับพิธีถวายสัตย์ของสามอัศวินสีชาดอย่างออกนอกหน้า

‘เจ้าพวกโง่ พวกแกเป็นได้แค่ตัวประกอบเกรดสามเท่านั้น…’

ไคล์ทวีความเหยียดหยัน ในสายตาของมัน อัศวินตีนดำคือสิ่งมีชีวิตน่าสมเพช

พวกมันไม่ได้รู้ตัวเลยสักนิด กริดและอัศวินสีชาดตรงหน้า จะกลายเป็นศัตรูผู้พร้อมหันคมดาบเข้าใส่ในอนาคต

ไม่สิ ไม่ต้องคิดไกล

ไคล์ทำให้อัสโมเฟลและเมอร์เซเดสตกอยู่ในอันตราย เฉียดใกล้ความตายไปเพียงไม่กี่เซนติเมตร และในขณะเดียวกัน ไคล์คือแม่ทัพของหน่วยอัศวินตีนดำ

หมายความว่า ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยสักนิด หากกริดจะสั่งประหารอัศวินทุกคนไปพร้อมไคล์ในคราวเดียว

‘คนโง่มักอ่านสถานการณ์ไม่ออก…’

…เดี๋ยวสิ

ตอนนี้ไม่ใช่เวลามัวเย้ยหยันพวกมัน

“…”

หลังจากหัวเราะคนเดียวสักพัก ไคล์เริ่มสงบสติและส่ายหัวอย่างจนปัญญา

ดวงตาของมันทั้งเศร้าหมองและเย็นชา

‘ตัวเราช่างน่าสมเพช’

ชีวิตแสนไร้ค่า

นับตั้งแต่สูญเสียแขนให้กริด มันพยายามอย่างหนักมาตลอดเพื่อหวังแก้แค้นในสักวัน แต่สิ่งนั้นกลับไม่เกิดขึ้น

ห่างไกลจากการแก้แค้นมาก ลำพังสบตาก็ยังไม่กล้า

มีใครในโลกน่าสมเพชกว่าเราอีกไหม?

คงไม่มี

แม้แต่พวก ‘อ่อนแอ’ ทั้งหลาย ถึงจะถูกเราเหยียบย่ำยิ่งกว่ามดปลวก แต่พวกมันล้วนเคยมีความสุขในชีวิตมาระดับหนึ่ง ได้รับความรักจากพ่อแม่ มีเพื่อนให้เล่นสนุกด้วยกันโดยไม่หวาดกลัว

หรือแม้กระทั่งเอลฟ์ และอัศวินแตกทัพนามว่าเลซีคนนั้น ก็ยังตายไปพร้อมกับความศรัทธาอันแรงกล้าของตัวเอง

แต่ในทางกลับกัน เราไม่กล้าแม้แต่จะลงมือแก้แค้น… ไม่ต้องพูดถึงความศรัทธา

พลังมหาศาลในตัวกลายเป็นสิ่งไร้ค่า ทั้งหมดยอมจำนนต่อความหวาดกลัวอย่างน่าสมเพช

ถึงขั้นฉี่ราด

‘แม้จะอายุขนาดนี้แล้ว…’

เราอยากตาย…

หากความตายของเราทำให้ข่าวลือไม่แพร่กระจายออกไป เราขอเลือกตายโดยไม่ลังเล

“…”

ฝ่ามือโลหะ พวกมันทั้งแข็งและทรงพลัง

แขนขาไคล์อาจกำลังถูกตรึงโดยฝ่ามือสีทองสี่ข้างก็จริง แต่มันยังสามารถปลดปล่อยประจุไฟฟ้าได้อยู่

และเนื่องจากฝืนใช้ ‘กระตุ้นแก่นพลัง’ ร่างกายไคล์จึงฟื้นฟูกลับมาได้สักพัก

เป็นเพราะมันหวาดกลัวต่อกริด จึงยอมจำนนโดยไม่ขัดขืนมาตลอด แต่สถานการณ์ปัจจุบันเริ่มเปลี่ยนไปแล้ว

‘เราขอตายอย่างมีศักดิ์ศรี’

ไคล์ตัดสินใจหนักแน่น ปราศจากความเคลือบแคลงโดยสิ้นเชิง

เปรี้ยะ!

มันแผ่กระแสไฟฟ้าออกไปรอบตัวอย่างกะทันหัน ส่งผลให้สลัดหลุดจากหัตถ์เทวะสี่ข้างชั่วคราว ตามด้วยการใช้ฝ่ามืออันว่างเปล่าชักมีดออกมาถือ

เป้าหมายการแทงคือลำคอตัวเอง

เปรี้ยงงงง—!

ขณะแวมไพร์กับออร์คกำลังดวลกันจนสนามรบเต็มไปด้วยบ่อเลือด เสาโลหิตต้นหนึ่งพุ่งพรวดจากพื้นดิน กระแทกใส่ร่างไคล์จนมันมิอาจขยับเขยื้อนแขนขา

สิ่งนี้คือความยอดเยี่ยมของเวทมนตร์โลหิต หากสนามรบมีแหล่งเลือดเพียงพอ จะไม่มีเวทมนตร์ชนิดใดเทียบได้ในแง่ของความเร็วร่ายเวทและความทรงพลัง

เด็กชายวัยสิบกว่า ผมสีเงินระยิบระยับ หันมาตวาดใส่ไคล์ด้วยน้ำเสียงฉุนเฉียว

“เป็นเชลยห้ามกระดุกกระดิก!”

‘บ้าบอสิ้นดี’

อยากจะตายก็ไม่ได้หรือ?

เหตุใดบริวารกริดถึงได้แข็งแกร่งเพียงนี้

ไล่มาตั้งแต่อัสโมเฟล เมอร์เซเดส ปิอาโร่ แวมไพร์ทายาท และออร์คลอร์ด…

สิ่งมีชีวิตสุดพิสดาร ไคล์เคยพบเห็นไม่บ่อยนักตลอดชีวิตของมัน

โดยเฉพาะปิอาโร่ ชายคนนั้นไม่ใช่มนุษย์ ไคล์ทราบว่าปิอาโร่มีพรสวรรค์ระดับสัตว์ประหลาด เพราะเคยเห็นกับตาตั้งแต่ยังเล็ก

ปัจจัยทั้งหมดทำให้มันมั่นใจ

‘ไม่ผิดแน่… กริดก้าวข้ามราชาไร้พ่ายแล้ว’

ชายคนนั้นก็เป็นสัตว์ประหลาดไม่ต่างจากปิอาโร่ ไม่เพียงใช้วิชาดาบราชาไร้พ่าย แต่ยังครอบครองเวทมนตร์ระดับตำนาน และมีพลังแก่นแท้ของมังกรคราม

แถมยังไม่ได้มาตัวคนเดียว ถ้านับปัจจัยทางด้านบริวารเกื้อหนุน กริดจะแข็งแกร่งกว่าราชาไร้พ่ายแห่งลูบาน่าค่อนข้างมาก บางที ป้อมปราการของจักรวรรดิคงถูกถล่มในค่ำคืนเดียวหากราชาโอเวอร์เกียร์เอาจริง

เราไม่มีโอกาสแก้แค้นกริดตั้งแต่แรกแล้ว

คนละมิติเกินไป

“…จะต้มยำทำแกงยังไงก็เชิญ”

ไม่ว่าอีกฝ่ายจะทรมานด้วยวิธีผิดศีลธรรมมากแค่ไหน แต่เราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมรับชะตากรรมนั้น

ไคล์ปล่อยวางทุกสิ่ง

มันเตรียมใจยอมรับจุดจบอันน่าสมเพชของสิ่งมีชีวิตอ่อนแอ

“…”

กึก. กึก.

กริดกำลังย่างกรายเข้ามาหา

กระแสไฟฟ้ารอบตัวไคล์พลันดับมอด

กึก. กึก.

ยิ่งกริดขยับเข้าใกล้ ลำตัวไคล์ก็ยิ่งสั่นเทาจนหยุดไม่อยู่ กระเพาะปัสสาวะเริ่มบิดตัว กล้ามเนื้อหูรูดหมดเรี่ยวแรงกะทันหัน

กริดเปล่งเสียงถามขณะผิวหนังไคล์เริ่มขาวซีดจนผิดธรรมชาติ

“เทพสงครามโกรธแค้นฉันหรือไม่”

กริดยังจำได้ดี ถึงเหตุการณ์บนโบราณสถานเทพสงครามเมื่อครั้งอดีต

<สาวกเทพสงคราม·ไคล์>

ระดับความยาก : SSS

หนึ่งในห้าเสาหลักแห่งจักรวรรดิ ไคล์ เดินทางสำรวจโบราณสถานเทพสงครามตามบัญชาขององค์จักรพรรดิ

จากนั้น มันได้พบกับเทพสงคราม

ไคล์ลุ่มหลงในความแข็งแกร่ง มันเลือกรับพรที่เทพสงครามประทานให้ และกลายเป็นสาวกเทพสงครามผู้เปี่ยมศรัทธา

จงต่อสู้และเอาชนะศัตรูผู้รับคำสั่งจากเทพสงครามให้จงได้

…

เรื่องราวก็ประมาณนี้

กริดไม่วันลืมเพราะระดับความยากของภารกิจมากถึง SSS

รายละเอียดภารกิจบอกชัดเจนว่า เทพสงครามส่งไคล์มาจัดการตน

บนเกาะเคยเกิดเรื่องราวกระทบกระทั่งมากมาย กริดมีพฤติกรรมขัดใจเทพสงครามหลายต่อหลายหน จึงไม่แปลกหากอีกฝ่ายจะโกรธแค้นตน

ไคล์ส่ายศีรษะเมื่อทราบความหมายของคำถาม

“ท่านเทพสงคราม—ฮึ่ก…!”

“…”

ไคล์เผลอกัดลิ้นตัวเองขณะกำลังเล่าด้วยริมฝีปากสั่นระริก

เมื่อเห็นรอยเลือดซึมจากมุมปากอีกฝ่าย กริดเผยสีหน้าเจ็บแปลบให้เห็น

‘บราฮัมสุดยอดเกินไปแล้ว’

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ไคล์คือหนึ่งในสัตว์ประหลาดแห่งทวีปตะวันตก

แม้แต่ ‘ดาบกษัตริย์’ ของกริด สุดยอดไอเท็มสำหรับตรวจสอบอัศวินและ NPC พิเศษคนแล้วคนเล่า กลับไม่สามารถแสดงรายละเอียดไคล์ได้ครบถ้วน สิ่งนี้ทำให้กริดมั่นใจ

ระดับของไคล์คือปิอาโร่และเมอร์เซเดส

แต่สัตว์ประหลาดดังกล่าว กลับเป็นเพียงลูกแกะจิตฝ่อต่อหน้าเรา ไม่สิ อาจเลวร้ายยิ่งกว่าจิตฝ่อด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ตาม เรามิได้แข็งแกร่งขนาดนั้น

ทั้งหมดเป็นผลกระทบแบบลูกโซ่ โดยมีต้นตอมาจากพฤติกรรมสมัยอดีตของบราฮัม

หากไม่เพราะบราฮัมเคยสลักแผลลึกลงในจิตใจไคล์ เราคงถูกหมอนี่ฆ่าตายไม่ต่ำกว่าสองรอบแล้ว…

ขณะกริดกำลังใช้ความคิดเรื่อยเปื่อย เลือดจากริมฝีปากไคล์ยังคงไม่หยุดไหล

“ท่านเทพสงครามมิได้โกรธเคืองเจ้า ตรงกันข้าม พระองค์สนใจในตัวเจ้ามาก…”

“แต่นายเคยคิดฆ่าฉันเพราะได้รับคำสั่งจากเทพสงครามไม่ใช่หรือ”

“เรื่องนั้น…”

ราวกับไคล์พยายามปกปิดบางสิ่ง

มันไม่กล้าสบตากริด

เมื่อเริ่มไม่พอใจ กริดขมวดคิ้วพร้อมกับทำสีหน้าอึมครึม

“ฮึ่ก…!”

ไคล์เผลอกัดลิ้นอีกครั้งเมื่อสัมผัสถึงจิตสังหารเข้มข้น มันพยายามเกร็งท่อปัสสาวะเอาไว้ขณะตั้งใจเล่ารายละเอียด

“ข้าบอกกับพระองค์ว่า ต้องการแก้แค้นเจ้าให้ได้ ท่านจึงมอบโอกาสให้ทดสอบฝีมือ”

“…แบบนี้เองหรือ”

กริดแสดงสีหน้าโล่งใจเมื่อได้ทราบความจริงเบื้องหลังภารกิจ

มันไม่อยากเป็นศัตรูกับเทพ ไม่ว่าตนใด

ลำพังการมีเรื่องกับ ‘ลูกหลานเทพ’ อย่างการัม ก็มากพอจะสร้างความวุ่นวายให้ชีวิตกริดไม่น้อย ฉะนั้น การเป็นศัตรูกับเทพโดยตรงไม่ใช่เรื่องฉลาดเลยสักนิด

ไม่ควรเกิดขึ้นด้วยประการทั้งปวง

‘ไคล์เป็นคนพิเศษในบรรดาสาวกเทพสงครามสินะ…’

สาวกเทพสงครามส่วนใหญ่เป็นมอนสเตอร์ไร้สมอง ปราศจากความคิดอ่าน แต่ไคล์นั้นเป็นมนุษย์ แถมยังเป็น NPC สุดพิเศษ และอีกหนึ่งเหตุการณ์ทำให้กริดเชื่อว่าไคล์เป็นคนสำคัญ คือการปรากฏตัวของ ‘ลีจอง’ ผู้มีตำแหน่งใหญ่โตในฝ่ายเทพสงคราม

เทพสงครามคงเป็นห่วงไคล์มาก

แน่นอน ในฐานะของเล่นหรือไม่ก็ตัวหมาก

‘แต่ถ้าเราฆ่าไคล์ทิ้ง คงเลี่ยงการเป็นศัตรูกับเทพสงครามไม่ได้…’

ฆ่าได้ แต่ต้องไม่ใช่ฝีมือฝ่ายเราโดยตรง

และเหนือสิ่งอื่นใด

‘การฆ่าไม่ใช่คำตอบ’

ปฏิเสธไม่ได้ว่า วีรกรรมของไคล์ต่ำทรามเหนือพรรณนา แถมยังปองร้ายเมอร์เซเดสและอัสโมเฟลจนเกือบถึงชีวิต

อย่างไรก็ตาม ถึงจะน่าโมโหสักเพียงใด แต่กริดก็ต้องใจเย็นเข้าไว้

กับเป้าหมายมูลค่าสูงเช่นนี้ ห้ามตัดสินใจด้วยความหุนหันพลันแล่นเด็ดขาด

“ไคล์”

หลังจากครุ่นคิดสักพัก กริดเปิดปาก

“นายเป็นถึงเสาหลักแห่งจักรวรรดิ แม้พวกเราจะเข้าใจผิดกัน จนนำไปสู่เหตุการณ์ทะเลาะเบาะแว้งเล็กน้อย แต่ไม่ต้องห่วง ฉันไม่มีเจตนาลงโทษนายรุนแรง”

“…!?”

ดวงตาของไคล์และอัศวินตีนดำพลันเบิกโพลงพร้อมเพรียง แต่ในทางกลับกัน อัศวินฝ่ายกริดยังคงเงียบงัน สีหน้าทุกคนเรียบเฉย ไม่เว้นแม้แต่อัสโมเฟลและเมอร์เซเดสผู้ถูกปองร้ายจนบาดเจ็บหนัก

ทั้งสองรับใช้กริดมานาน พวกมันเชื่อมั่นการตัดสินใจของเจ้านายโดยไม่เคลือบแคลง

ขณะสีหน้าไคล์กำลังประหลาดใจสุดขีด มันอดซักถามไม่ได้

“หมายความว่ายังไง? เรื่องนี้ไม่ใช่การเข้าใจผิดแน่นอน… เจ้าทราบยิ่งกว่าใครทั้งหมด ข้าพยายามทำร้ายอัศวินของเจ้า หรือแม้กระทั่งตัวเจ้าด้วย…”

“แต่ทุกคนก็ยังสบายดีไม่ใช่หรือ”

ไคล์หวาดกลัวกริด

มันไม่สามารถปฏิเสธคำพูดกริด แม้เรื่องดังกล่าวจะไม่เป็นความจริงก็ตาม

ทางด้านกริดก็มั่นใจ ว่ามันสามารถใช้วิธีนี้ควบคุมไคล์ได้อย่างชะงักงัน เนื่องจากเคยมีประสบการณ์มาแล้วหลายหน

แสยะ

เพื่อเป็นการตอกลิ่มให้จมลึก กริดพยายามทำตัวโอหังให้มาก ไคล์จะได้เห็นภาพซ้อนทับกับบราฮัม

“ลืมเรื่องอดีตไปเสีย จงเริ่มต้นใหม่และพยายามทำอนาคตให้ดี แต่ถ้าริอ่านก่อความผิดซ้ำซาก… ฉันจะตัดแขนข้างเดิมซ้ำ แม้มันจะงอกขึ้นมาใหม่ได้ก็ตาม… จำเอาไว้ให้ดี”

“ต…ตกลง! เข้าใจแล้ว! ข้าจะจำใส่ใจไว้!!”

ไคล์ก้มศีรษะลงอย่างหวาดกลัว

แล้วศักดิ์ศรีของผู้ครอบครองสุดยอดศิลปะการต่อสู้ไปไหนหมด?

คำตอบคือ ของแบบนั้นไม่จำเป็น

นับตั้งแต่ไคล์กลายเป็นสาวกเทพสงคราม มันศรัทธาในพลังเหนือสิ่งใด

เช่นนั้นแล้ว จำเป็นต้องมีศักดิ์ศรีด้วยหรือ เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ครอบครองพลังเหนือกว่าชนิดมิอาจเทียบติดแม้แต่ปลายเล็บ

นับแต่นี้เป็นต้นไม้ สาวกเทพสงคราม·ไคล์ ได้กลายเป็นสมุนรับใช้ของกริดอย่างลับๆ

สิ่งนี้เรียกว่า ‘สโนวบอล*’ จากบราฮัม

(สโนวบอล* — ศัพท์เกม moba หมายถึงการทำต้นเกมไว้ดีมากๆ จนท้ายเกมสบาย)

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬

ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน

ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,507

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

• Next
• Previous