จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,123



สร้างโรงเหล็กพกพาโดยไม่ต้องมีทักษะสถาปนิก?


กริดยืนฟังด้วยสีหน้าตกตะลึง ส่วนเคย์อมยิ้มอย่างมีเลศนัย


“เหตุผลไม่ซับซ้อน ขอถามในฐานะช่างเหล็ก การผลิตอุปกรณ์แต่ละครั้งจำเป็นต้องใช้หลักคณิตศาสตร์ร่วมด้วยหรือ? ตามธรรมชาติแล้ว ช่างเหล็กจะลงมือสร้างสิ่งของโดยอาศัย ‘สมดุล’ เป็นหลัก ยกตัวอย่างเป็นการสร้างดาบ ยิ่งเข้าใกล้สมดุลเท่าไรก็ยิ่งมีคุณภาพสูงเท่านั้น ขอถามฝ่าบาทสักข้อ ขณะสร้างดาบง่ายๆ ขึ้นมาสักเล่ม ท่านได้วัดความยาวเป็นตัวเลขชัดเจนหรือไม่?”


ไม่เคย…


แน่นอน หลักการสร้างไอเท็ม คือการมุ่งเข้าหาสมดุลให้มากเข้าไว้ เพราะประสบการณ์ของเราเคยสั่งสอนว่า หากไอเท็มใดขาดสมดุล ประสิทธิภาพจะออกมาห่วย


อย่างไรก็ตาม การเป็นช่างเหล็กไม่เคยต้องยุ่งเกี่ยวกับตัวเลขโดยตรง แม้กระทั่งขั้นตอนร่างพิมพ์เขียว ระบบเกมจะเป็นผู้คำนวณให้เสร็จสรรพ


นั่นคือความยอดเยี่ยมของระบบ


ตัวเลขทั้งหมดถูกกำหนดโดยระบบ ผ่านกระบวนการ ‘ปรับแต่ง’ สมดุลไอเท็ม


นั่นคือข้อได้เปรียบของผู้เล่น


แต่ NPC คงไม่รู้จักระบบดังกล่าว เพียงเข้าใจว่าเป็นพรสวรรค์ หรือไม่ก็ประสบการณ์


“ไม่ได้ทำ”


“เช่นเดียวกันกับสถาปนิก ศาสตร์ด้านนี้อาจลึกลับซับซ้อนก็จริง แต่ถ้าเป็นอาคารขนาดเล็กอย่างโรงเหล็กพกพา การคำนวณตัวเลขก็แทบไม่จำเป็น แน่นอน สิ่งจำเป็นคือพรสวรรค์และความชำนาญ และในเมื่อฝ่าบาทคือช่างเหล็กในตำนาน พรสวรรค์ข้างต้นจึงไม่น่าเป็นห่วง”


“…”


คารมคมคาย


คำพูดเคย์อาจฟังดูดี แต่ชายคนนี้ยังไม่เข้าใจธรรมชาติมากพอ คงไม่ได้ทราบว่า โลกซาทิสฟายมี ‘ระบบเกม’ คอยค้ำจุน


สิ่งก่อสร้างจากฝีมือผู้เล่นคลาสอื่นนอกเหนือจาก ‘สถาปนิก’ จะไม่ถูกจำแนกให้เป็น ‘สิ่งก่อสร้าง’ อย่างแน่นอน


กริดมีประสบการณ์นานนับสิบปีในฐานะช่างเหล็ก มันเข้าใจหลักการและระบบของซาทิสฟายได้มากกว่าเคย์ ยกตัวอย่างเช่น หากผู้เล่นไม่มีทักษะด้านช่างเหล็ก การผลิตไอเท็มจะเลียนแบบได้แค่ ‘รูปทรง’ โดยไม่สามารถนำมาใช้งานได้จริง


‘…เดี๋ยวก่อน!’


ตั้งแต่เริ่มต้นสนทนา กริดหรี่ตาฟังเคย์ด้วยท่าทีไม่เห็นด้วยมาตลอด แต่ยามนี้พลันดวงตาเบิกโพลงกะทันหัน


มันฉุกคิดถึงคำบางคำ…


‘สามารถสร้างได้ถ้าเป็นละโมบ…’


หรือว่า!


ชายหนุ่มทบทวนความทรงจำ พยายามนึกเค้นรายละเอียดของ ‘ละโมบ’ ในสมอง


หากนำแร่ชนิดดังกล่าวไปสร้างเป็นไอเท็ม จะได้รับคุณสมบัติ ‘เคลื่อนไหวได้เอง’ และ ‘ยืดหยุ่น’ มาเป็นของแถมเสมอ


เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนกว่าเดิม ลองจินตนาการถึง ‘หัตถ์เทวะ’


กริดสามารถสร้างวัตถุประเภท ‘มือ’ ให้เป็นจริงขึ้นมาได้ โดยไม่ต้องมีความรู้ด้านการแพทย์เลยสักนิด จริงอยู่ว่าต้องอ่านหนังสือภายนอกเพิ่มเติมเล็กน้อย แต่กริดก็ไม่มีทักษะความชำนาญทางการแพทย์อยู่ดี…


แล้วเขาสร้างไอเท็มประเภท ‘มือ’ ได้อย่างไร คำตอบคือ เป็นพลังจากแร่พาเฟรเนียม มันช่วยเติมเต็มความสมบูรณ์ของ ‘มือ’ ได้กลมกล่อมลงตัว ด้วยออปชั่น ‘ยืดหยุ่น’


ถูกต้อง หัตถ์เทวะคือไอเท็มประเภท ‘มือ’ ซึ่งกริดสร้างจากศาสตร์ตีเหล็ก มิใช่ทักษะด้านการแพทย์ อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นโลหะชนิดอื่นนอกเหนือจาก ‘พาเฟรเนียม’ ผลลัพธ์จะออกมาเพียง ‘รูปทรง’ แต่ไม่สามารถใช้งานได้จริง


เคย์ตระหนักถึงจุดนี้มาสักพักแล้ว


‘หากเราสร้างวัตถุรูปทรงโรงเหล็กด้วยแร่ละโมบ คุณสมบัติความยืดหยุ่นจะเปลี่ยนให้มันกลายเป็นโรงเหล็กได้จริง’


มีโอกาสเป็นไปได้ว่า ธรรมชาติของละโมบจะช่วยทำลาย ‘ขีดจำกัด’ การสร้างอาคารโดยคลาสอื่นซึ่งไม่ใช่สถาปนิก


สิ่งนี้ยังทำให้เกิดความเป็นไปได้ใหม่ตามมา


‘สร้างโกเล็มจากละโมบ…!’


โดยปรกติแล้ว ‘โกเล็ม’ คือสิ่งมีชีวิตพิเศษสำหรับมหาจอมเวทเท่านั้น


การผลิตโกเล็มจำเป็นต้องใช้แผงวงจรเวทมนตร์อันซับซ้อน ควบคู่กับแก่นมานาปริมาณเข้มข้น แต่ถ้าสร้างขึ้นด้วยละโมบ เรื่องราวอาจเปลี่ยนแปลงไป


‘ตัวแทงค์ของจริง’


ว่ากันตามตรง กริดควรตระหนักถึงเรื่องนี้ได้นานแล้ว


สมัยยังเป็นเพียง ‘พาเฟรเนียม’ ชายหนุ่มใช้งานหัตถ์เทวะร่วมกับทักษะ ‘เปลี่ยนรูปไอเท็ม’ บ่อยครั้ง


ด้วยผลพวงจากทักษะดังกล่าว พาเฟรเนียมสามารถลอกเลียนแบบคุณสมบัติของไอเท็มเป้าหมายได้ทุกประการ ไม่เว้นแม้กระทั่งคันศรฟินิกซ์แดง ไอเท็มเกรดมิธจากลมหายใจสัตว์เทพ


อย่างไรก็ตาม กริดเคยเข้าใจมาตลอดว่า พลังลอกเลียนแบบเป็นผลจากทักษะ มิใช่จากวัสดุ และยังมีอีกหนึ่งปัจจัยทำให้กริดเข้าใจผิดเกี่ยวกับพาเฟรเนียมมายาวนาน สิ่งนั้นคือชื่อทักษะ ‘เปลี่ยนรูปไอเท็ม’ กริดเข้าใจว่าบริบท ‘ไอเท็ม’ ในทักษะ หมายถึงอุปกรณ์สวมใส่เพียงอย่างเดียว ไม่รวมสิ่งก่อสร้าง


แต่ความจริงคือสิ่งใด?


<เปลี่ยนรูปไอเท็ม>

ต้องใช้กับโลหะในตำนาน ‘พาเฟรเนียม’ หรือ ‘ละโมบ’ แร่ซึ่งพัฒนามาจากพาเฟรเนียมอีกทอดหนึ่ง เท่านั้น

เปลี่ยนรูปทรง ‘พาเฟรเนี่ยม’ หรือ ‘ละโมบ’ ให้กลายเป็นไอเท็มเป้าหมาย

* ท่านต้องมีสูตรผลิตไอเท็มเป้าหมายเสียก่อน

* ระยะเวลาการเปลี่ยนรูปคือ 3 นาที หลังจากนั้น พาเฟรเนียม หรือละโมบ จะกลับสู่รูปร่างเดิมก่อนเปลี่ยนแปลง

มานา : ไม่มี

ระยะหน่วง : 6 ชั่วโมง


ในอดีต มันคือทักษะสำหรับแร่พาเฟรเนียมเพียงชนิดเดียว


ต้องขอบคุณทักษะเปลี่ยนรูปไอเท็ม กริดจึงไม่ต้องคอยแปรรูปพาเฟรเนียมเป็นไอเท็มชนิดอื่นบ่อยครั้ง และต้องขอบคุณพาเฟรเนียมเช่นกัน ทักษะเปลี่ยนรูปไอเท็มจึงถูกสืบทอดมายังละโมบด้วย


เหนือสิ่งอื่นใด กริดเริ่มมองคำว่า ‘ไอเท็ม’ ในมุมแตกต่างออกไปจากเดิม


ไม่จำกัดเฉพาะอุปกรณ์สวมใส่ ไอเท็มอาจหมายถึงวัตถุทุกชนิดในซาทิสฟาย


พาเฟรเนียมเคยจำลองได้แม้กระทั่งฝ่ามือของกริด


ถ้าอย่างนั้น เราสามารถสร้าง ‘ตัวเอง’ ด้วยละโมบได้ไหม?


อึก… นั่นก็เกิดไปหน่อย


ไม่ว่าละโมบจะยอดเยี่ยมสักเพียงใด แต่มันไม่มีทางเลียนแบบผู้เล่นได้เหมือนจริงแน่


ต้องมีข้อจำกัดอยู่ตรงไหนสักแห่ง เพื่อรักษาสมดุลของซาทิสฟายเอาไว้


‘แต่ก็คุ้มค่าให้สละเวลาทดสอบ’


ถึงจะล้มเหลว กริดก็แค่เบนเป้าไปหาสิ่งมีชีวิตประเภท ‘โกเล็ม’ แทน


โกเล็มซึ่งมีค่าความคงทนอนันต์และพลังไร้ขีดจำกัด…


แน่นอน กริดทราบดี เพื่อให้เกมคงความสมดุลไว้ได้ โกเล็มของตนคงมีค่าสถานะไม่ถึงระดับสัตว์ประหลาด แต่แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว


ขอเพียงเป็นโกเล็มแบบมีแขนขา สิ่งมีชีวิตดังกล่าวจะทำประโยชน์ได้มากมาย มีตัวอย่างให้เห็นจากหัตถ์เทวะ แม้จะเป็นแค่ฝ่ามือ แต่ก็สามารถตรึงศัตรูและถืออุปกรณ์ได้บางชิ้น


“ขอบใจมาก เคย์ นายทำให้ฉันตาสว่างหลายเรื่องในวันนี้”


“ฮุฮุ ด้วยความยินดี ฝ่าบาท”


กริดบอกลาเคย์พร้อมกับอารมณ์คาดหวัง


ชายหนุ่มโอบเอวไอรีนและส่งเสียงกระซิบ


“วันนี้อากาศดี พวกเราไปเดทกันดีกว่า”


“แต่ฝ่าบาทเพิ่งพูดว่าจะสร้างโรงเหล็ก…”


“ถึงอยากสร้างตอนนี้ แต่ฉันก็ทำไม่ได้”


กว่าจะมีละโมบในปริมาณมากพอ คงต้องรออีกสักพักใหญ่ๆ เลยทีเดียว


หมายความว่าตอนนี้กำลังว่างสุดขีด


‘จริงสิ ถ้าเราสร้างโรงเหล็กแบบธรรมดา มันคงออกมาไม่เท่สักเท่าไร’


โรงเหล็กลอยฟ้า


คงอัปลักษณ์น่าดู หากมีเพียงปล่องไฟอันเดียวเหมือนกับโรงเหล็กขนาดเล็กทั่วไป


มันยังเท่กว่านั้นได้อีก


‘ทำทรงเรือบรรทุกเครื่องบินดีไหม…?’


จากนั้นค่อยๆ พัฒนาเป็นป้อมปราการ?


สร้างฐานเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินในช่วงแรก จากนั้นก็ตามด้วยการติดปืนใหญ่และส่วนประกอบสำคัญเพิ่มภายหลัง


‘เท่ฉิบหาย…’


โนเอะและป้อมปราการบินได้ คอยปกป้องปราสาทโอเวอร์เกียร์โฉมใหม่ของเคย์จากภาคพื้นอากาศ…


ขณะจินตนาการกริดกำลังโลดแล่นอย่างตื่นเต้น มันส่งข้อความเสียงหาลอเอล


“ลอเอล นายช่วยบอกให้ปิกัสโซ่วาดภาพเรือบรรทุกเครื่องบินลอยฟ้าได้ไหม”


เหตุผลทำให้ปิกัสโซ่รั้งตำแหน่งจิตรกรอันดับหนึ่งของโลกมานานหลายปี เพราะเธอมีหัวทางด้านศิลปะก้าวล้ำกว่าใคร


ในเมื่อเธอเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากการวาดภาพ ‘สุดยอดงานศิลป์’ ของกริด ก็มีโอกาสว่าเธอจะออกแบบเรือบรรทุกเครื่องบินได้งดงามตรงใจกริด จากนั้นก็จะเป็นการออกแบบป้อมปราการลอยฟ้า


“คราวนี้งานใหญ่เลยสินะ”


ลอเอลทราบจุดประสงค์กริดทันที


ว่ากันตามตรง ลอเอลเคยกังวลไม่น้อย เกี่ยวกับการสร้างโรงเหล็กลอยฟ้าของราชาโอเวอร์เกียร์ มันคงอัปลักษณ์น่าดู กับการมีโรงเหล็กโง่ๆ บินไปทางเหนือไรน์ฮาร์ท


แต่จะสร้างเป็นทรงเรือบรรทุกเครื่องบิน?


‘…เจ๋งชะมัด! ชาวโลกต้องตกตะลึงในการปรากฏตัวของเรา! คึคึคึคึก! คึฮ่าฮ่าฮ่า!!’


เพียงจินตนาการภาพตัวเองยืนกอดอกบนเรือบรรทุกเครื่องบินลอยฟ้าอย่างสง่างาม ร่างกายลอเอลพลันสั่นเทาจนหยุดไม่อยู่


***


ผ่านไปหนึ่งเดือนเต็ม


ในช่วงดังกล่าว กริดทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับครอบครัวในซาทิสฟาย


มันพาไอรีนและลอร์ดออกท่องเที่ยวหลายแห่ง ไม่เว้นกระทั่งตามจุดเก็บเลเวล


วิหารกัลกุนอส


ขณะกริดจัดการสาวกเทพสงคราม ลอร์ดจับกลุ่มกับโนเอะและแรนดี้ จัดการทหารโครงกระดูกได้หนึ่งตัวอย่างยากลำบาก เด็กหนุ่มปาดเหงื่อพลางหายใจหอบ


“วิชาดาบของผมพัฒนาขึ้นมาก…”


ฮะฮะ! แน่นอนอยู่แล้วลูกรัก


เจ้าคืออัจฉริยะระดับทวีป ย่อมมีพัฒนาการไวเป็นเรื่องปรกติ


กริดฉีกยิ้มกว้างพลางลูบศีรษะลอร์ด


“แน่นอนอยู่แล้ว ก็เป็นลูกพ่อนี่นา”


“ฮิฮิ~”


“ไว้โนเอะโตเต็มวัยเมื่อไร รับรองว่าแข็งแกร่งกว่าเจ้านายแน่นอน! เมี๊ยว!”


“ไม่มีทาง โนเอะ พระบิดาเป็นสุดยอดท้องฟ้าของโลกใบนี้ เจ้าไม่มีทางตามทัน”


‘…ไม่จริงเลยสักนิด’


แววตาแสนยกย่องเทิดทูนของบุตรชาย ทำให้กริดรู้สึกประหม่าไม่น้อย


ทันใดนั้น ฝ่ามือจากสวรรค์ยื่นเข้าหากริดพร้อมด้วยเสียงอ่อนหวาน


“พักดื่มชาก่อนดีกว่าค่ะ”


ไอรีน


พรมแดงถูกปูใจกลางวิหารกัลกุนอส ราชินีแสนสวยจัดเตรียมของทานเล่นเตรียมไว้อย่างเพียบพร้อม


ในเวลาเดียวกัน ทหารโครงกระดูกพยายามกรูเข้าโจมตี แต่พวกมันก็ถูกจัดการราบคาบโดยฮาเร็มของลอร์ด เหล่าเด็กสาวผู้ถูกเลือก


ไม่เพียงเท่านั้น ข้างกายไอรีนยังมีอัศวินในตำนาน เมอร์เซเดส คอยคุ้มกัน


อีกความหมายหนึ่งก็คือ จุดเก็บเลเวลแห่งนี้กลายเป็นแดนสวรรค์อันแสนปลอดภัย


ไม่ต้องเอ่ยถึงทหารโครงกระดูก แม้แต่สาวกเทพสงครามก็มิอาจย่างกรายเข้าใกล้


“ปิกนิกครอบครัวสนุกจังเลย~”


ลอร์ดส่งเสียงตื่นเต้นพลางดื่มนม


เด็กทั่วไปจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพ่อแม่อย่างมีความสุขเช่นนี้บ้างไหม?


“…”


สมาชิกโอเวอร์เกียร์คนอื่น ซึ่งกระจายตัวเก็บเลเวลในจุดห่างออกไปไม่มากนัก ต่างทำได้เพียงกลอกตามองบนอย่างเหนื่อยหน่าย


ทุกวินาทีของพวกมันมีความหมาย หากตอบสนองช้าแม้เพียงนิดเดียว ลมหายใจอาจขาดห้วงกะทันหัน แต่เมื่อประจักษ์พลังอำนาจในมือราชาโอเวอร์เกียร์เต็มสองตา พวกมันตาสว่างทันทีว่ากริดนั้นอยู่คนละมิติ


“มีความสุขก็ดีแล้ว อีกสักสองสามวัน พ่อจะพาไปจุดเก็บเลเวลแห่งอื่น”


กริดลูบแก้มลอร์ด ซึ่งเริ่มไม่อวบอิ่มเหมือนแต่ก่อน อย่างทะนุถนอม ตามด้วยการหันไปขยิบตาให้เมอร์เซเดส


“นั่งลงสิ ถึงเวลาเธอผ่อนคลายแล้ว”


“ไม่ค่ะ อัศวินห้ามละเลยความปลอดภัยแม้แต่วินาทีเดียว”


“แถวนี้มีคนของเราเต็มไปหมด แถมยังมีโนเอะกับแรนดี้ สถานการณ์ไม่เลวร้ายแน่นอน ดังนั้น นั่งลงและดื่มชาด้วยกัน”


“ดิฉันเป็นเพียงอัศวิน มิอาจเอื้อมร่วมโต๊ะกับเชื้อพระวงศ์”


“เมอร์เซเดส”


“…เข้าใจแล้วค่ะ”


เมอร์เซเดสมิอาจทนต่อสายตาแสนอำมหิตจากกริด เธอนั่งลงอย่างจำใจ


ชายหนุ่มแสดงสีหน้าเขินอายเล็กน้อย เมื่อเห็นภาพดังกล่าว ไอรีนพลันอมยิ้ม


ในฐานะราชินีของอาณาจักร เธอรู้สึกดีใจเมื่อกริดและเมอร์เซเดสเข้ากันได้ดี


ลอร์ดนั่งจ้องบรรยากาศผู้ใหญ่ด้วยสายตาไร้เดียงสา ก่อนจะโพล่งขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย


“พระบิดา! คราวหน้าพาท่านน้าซูเอมาด้วยสิครับ!”


“ไม่!”


กริดปฏิเสธทันควัน


มันไม่แยแสสายตาผิดหวังจากบุตรชาย เพียงก้มหน้าสำรวจคลังสัมภาระ


ละโมบขยายจำนวนขึ้นพอประมาณในช่วงหนึ่งเดือนหลัง


‘ด้วยจำนวนเท่านี้ การสร้างหินเจียยังพอเป็นไปได้ แต่คงไม่ได้เตาหลอมแน่’


กริดไม่ได้ปรารถนาหินเจียขนาดใหญ่


จุดประสงค์ดั้งเดิมของโรงเหล็กพกพา ไม่ใช่การสร้างไอเท็มจำนวนมากพร้อมกัน แต่เป็นการสร้างไอเท็มชิ้นเล็กฆ่าเวลา โดยไม่ปล่อยให้แต่ละวินาทีผ่านไปอย่างสูญเปล่า


‘ยังใช้ทั่งของเก่าได้อยู่… ไม่มีท่อส่งน้ำจากด้านนอกคอยสนับสนุน หมายความว่าต้องสร้างถังเก็บน้ำขนาดใหญ่ขึ้นใหม่’


ต้องรอให้ละโมบงอกเงยอีกไม่ต่ำกว่าสองเดือน จึงจะมีปริมาณเพียงพอสำหรับสร้างเรือบรรทุกเครื่องบินในฝัน



สิบวันหลังจากกริดวางแผนอนาคต


[คุณสมบัติของเหล็กมังกรคลั่งช่วยเพิ่มปริมาตรของ ‘ละโมบ’]


ข้อความระบบอันคุ้นเคยปรากฏ


[สมาชิก ‘หอแห่งปัญญา’ สัมผัสถึงพลังเวทมนตร์ของเหล็กมังกรคลั่ง พวกเขาเริ่มตรวจสอบหาพิกัด]


[ตำแหน่งของท่านจะถูกเปิดเผย หากละโมบเกิดการงอกเงยจนเพิ่มปริมาตรมากขึ้นเพียงเล็กน้อย]


[หอแห่งปัญญาจะทำลายละโมบทิ้ง]


ข้อความระบบแปลกตาปรากฏตามมา


‘หอแห่งปัญญา? ตรวจหาพิกัด? ทำลายละโมบทิ้ง?’


เกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น?


เหล็กมังกรคลั่งอัดแน่นด้วยพลังเวทมนตร์ของมังกรคลั่ง เนอวาร์ธาน


ยิ่งเหล็กมังกรคลั่งงอกเงย พลังเวทของมันก็ยิ่งดึงดูดมังกรตนอื่นให้เข้าหา


การจำศีลของมังกรส่งผลให้โลกสงบสุขมานานหลายปี ดังนั้น หอแห่งปัญญาจึงต้องค้นหาและทำลายเหล็กมังกรคลั่ง เพื่อป้องกันมิให้โลกวุ่นวาย


แน่นอน กริดไม่ทราบเรื่องราวเหล่านี้เลย


แต่อย่างน้อย มันก็สัมผัสได้ถึงเค้าลางความฉิบหาย


‘นี่มันเรื่องบ้าอะไร…’


กริดรีบส่งข้อความเสียงหาลอเอล พร้อมกับอธิบายเรื่องราวทั้งหมด


ลอเอลรีบปรึกษาจอมปราชญ์สติกส์เป็นการด่วน จากนั้นก็มอบคำตอบกลับมา


> บางที ละโมบอาจเติบโตได้ในปริมาณจำกัด


“…แม่มเอ้ย!”


เรามองโลกในแง่ดีเกินไป…


ข้อเท้าถูกฉุดรั้งด้วยคำว่า ‘สมดุล’ อีกครั้ง


กริดแสดงสีหน้าผิดหวังรุนแรง แต่ก็เพียงครู่เดียวเท่านั้น


‘เรือบรรทุกเครื่องบินสลายไปแล้วก็จริง แต่โรงเหล็กยังอยู่!’


ปล่อยให้งอกเงยไม่ได้อีกแล้ว?


ถ้าอย่างนั้นก็ต้องรีบนำไปใช้งาน



หลังจากกลับไรน์ฮาร์ทพร้อมครอบครัว กริดมุ่งหน้าไปยังโรงเหล็กทันที สิ่งแรกคือการสร้างแผ่นโลหะขนาดใหญ่และหนา


พวกมันจะกลายเป็นกำแพงชั้นนอกสุดของโรงเหล็กลอยฟ้า


ถูกต้อง


กริดวางแผนไว้ว่า เมื่อละโมบงอกเงยใกล้ถึงขีดจำกัด ตนจะนำโลหะมาสร้างเป็น ‘ส่วนประกอบของ’ โรงเหล็กลอยฟ้าทีละชิ้น


‘จากนั้นค่อยประกอบรวมกันทีเดียว’


ลำบากทำเช่นนี้ก็เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับตำแหน่งของหอแห่งปัญญา


พลังเวทเหล็กมังกรคลั่งจะคงอยู่ในขณะละโมบเป็น ‘แร่บริสุทธิ์’ เท่านั้น หากนำไปสร้างเป็นไอเท็ม คุณสมบัติ ‘งอกเงย’ จะหายไปทันที


หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ วิธีดังกล่าวสามารถหลบเลี่ยงการตรวจจับของหอแห่งปัญญาได้ ขอเพียงขยันแปรสภาพละโมบอย่างต่อเนื่อง


‘เราเองก็อยากทราบว่า หอแห่งปัญญาทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร’


แม้แต่จอมปราชญ์สติกส์ผู้รอบรู้ ก็ยังไม่มีข้อมูลของหอแห่งปัญญาเลยสักนิด


แต่สำหรับกริด มันเคยได้ยินชื่อหอแห่งปัญญาผ่านหูมาบ้าง ในฐานะผู้ครอบครองสมญานาม ‘หัวแถว’ คนปัจจุบัน กริดมีสิทธิ์ผ่านเข้าออกหอแห่งปัญญาได้อย่างอิสระ


<หัวแถว>

* เพิ่มค่าประสบการณ์ตัวละคร 10%

* รางวัลค้นพบสถานที่ใหม่เพิ่มขึ้น 10%

* ได้รับสิทธิ์ผ่านเข้าออก ‘หอแห่งปัญญา’

* เป็นสมญานามสำหรับผู้เล่นหัวแถวเพียงคนเดียวในโลก จงจำไว้ว่า สิ่งนี้สามารถถูกช่วงชิงไปได้ทุกเมื่อ


‘ถ้ามีวิธีติดต่อกับพวกมันได้…’


วิธีแสนสะดวกคงหนีไม่พ้น การปล่อยให้แร่ละโมบขยายเกินขนาด และคนของหอแห่งปัญญาก็จะมาเยือนถึงถิ่นเอง แต่ปัญหาคือ อีกฝ่ายจะทำลายแร่ละโมบทิ้ง


‘…คงต้องปรึกษาครอเกล’


หลังจากกริดสร้างกำแพงชั้นนอกของโรงเหล็กเสร็จ มันพยายามระงับอารมณ์ให้สุขุม


***


ณ หอแห่งปัญญา


“เกิดเรื่องใหญ่แล้ว”


หอแห่งปัญญาคือองค์กรลับ พวกมันเร้นกายปกป้องโลกมานานหลายร้อยปี


งานหลักคือการป้องกันมิให้ ‘มหาภัยพิบัติจากฝีมือของมนุษย์’ อุบัติขึ้น


และสาเหตุให้มังกรไม่ตื่นจากการจำศีลขณะจอมอสูรรุกรานโลก ก็เป็นฝีมือของพวกมันเช่นกัน


มังกร


สายพันธุ์ทรงพลังชนิดจอมอสูรเทียบไม่ได้


งานหลักของหอแห่งปัญญา คือการเฝ้าจับตามองสิ่งมีชีวิตบรรพกาลชนิดนี้


“ใครบางคนจงใจใช้งานเหล็กมังกรคลั่ง”


หลักฐานแวดล้อมมากมายบ่งชี้ว่า


ใครสักคนบนโลกอันสงบสุขกำลังผูกขาดเหล็กมังกรคลั่งไว้ในปริมาณมาก


และสิ่งนี้จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ หากบุคคลดังกล่าวมีนิสัยชั่วร้าย


ไม่ผิดนักถ้าจะกล่าวว่า ชะตากรรมของโลกมนุษย์กำลังอยู่ในกำมือของคนผู้นั้น


มังกรศัตรูเนอวาร์ธานทุกตนจะตื่นจากการจำศีลทันที ถ้าพวกมันสัมผัสถึงพลังเวทอันเข้มข้นของมังกรคลั่งได้ จากนั้นโลกก็จะเข้าสู่ความโกลาหลสุดขีด


“พวกเราต้องหาบุคคลดังกล่าวให้พบ”


“พวกเราควรขอแรงสนับสนุนไปยังแต่ละอาณาจักร”


“เห็นด้วย”


สมาชิกของหอแห่งปัญญากำลังนั่งล้อมวงรอบโต๊ะกลมขนาดใหญ่


ทุกคนล้วนเป็นสุดยอดพรสวรรค์ แต่ก็มีจำนวนไม่มาก


ภารกิจค้นหาและทำลายเหล็กมังกรคลั่งจำเป็นต้องใช้กำลังคนมหาศาล และปัจจุบันก็ยังไม่ทราบหัวนอนปลายเท้าของอีกฝ่าย


“อา…”


หัวหน้าหอแสดงท่าทีกังวล


เมื่อตระหนักว่า หอแห่งปัญญารักษาความลับมานานหลายร้อยปี จะให้เปิดเผยตัวตนในเวลาเช่นนี้คงไม่เหมาะสม


“ไม่ได้”


หากตัวตนของหอแห่งปัญญาถูกเปิดเผยไปถึงหูมนุษย์โลก บรรดาอาณาจักรน้อยใหญ่และองค์กรลับ ก็จะพุ่งความสนใจมายังหอแห่งปัญญาโดยพร้อมเพรียง ไม่เว้นแม้กระทั่งจักรวรรดิซาฮารัน ทุกฝ่ายล้วนปรารถนาผลประโยชน์เพื่อตัวเอง


ภารกิจหลักของหอแห่งปัญญา ยิ่งใหญ่เกินกว่าจะยอมเสี่ยงกับปัจจัยควบคุมไม่ได้เหล่านั้น


หลังจากตรึกตรองอยู่นาน หัวหน้าหอได้ข้อสรุปให้ตัวเอง


“ขอความช่วยเหลือจาก ‘หัวแถว’ ”


“อา… ท่านหมายถึงครอเกลใช่ไหม?”


เมื่อราวหกปีก่อน บางเหตุการณ์ได้ชักนำให้ครอเกล ผู้ครอบครองสมญานาม ‘หัวแถว’ ในเวลานั้น แวะเยี่ยมเยียนหอแห่งปัญญา


เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้พวกมันประจักษ์สุดยอดพรสวรรค์ รวมถึงจิตใจอันซื่อตรงของครอเกล ส่งผลให้หอแห่งปัญญาเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจเป็นอันมาก


และว่ากันตามตรง ผู้ถือครองสมญานาม ‘หัวแถว’ คือจุดเชื่อมโยงระหว่างโลกมนุษย์กับหอแห่งปัญญาอยู่แล้ว


ควรค่าแก่การพึ่งพาในเวลาเช่นนี้


ครอเกลพึ่งมาพวกมันมาหลายปี ถึงเวลาทำงานชดใช้คืนเสียบ้าง


“ข้าจะออกไปพบเขาสักหน่อย”


บุคคลผู้หนึ่งลุกยืนขึ้น


มันคือตัวตนเหนือมนุษย์ผู้สามารถสั่นคลอนฟ้าดินหากย่างกรายออกไปด้านนอก


“วาจาของข้า ได้ผลเหมือนกับดาบของข้านั่นแหละ”


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,512
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. ขอบคุณสำหรับผลงานแปลครับ

    ReplyDelete
  2. หัวแถวที่ว่า คือตัวที่ก่อปัญหาให้พวกท่านยังไงล่ะ 5555 คุรุคุรุ

    ReplyDelete
  3. ขอบคุณ​มาก​ครับ​

    ReplyDelete
  4. ผมเคยคิดนะว่าคนที่บอกว่า"วาจาของข้า ได้ผลเหมือนกับดาบของข้านั้นแหละ" อาจเป็นอาจารย์ของฮิวรอยในอนาคตก็ได้ เพราะนาจะใช้คำพูดในการสู้เหมือนกัน(มโนล้วนๆ)

    ReplyDelete
    Replies
    1. เวทวาจาสิทธิ์ หล่ยๆเรื่องก็มี ต้องเปนพวกมานาเยอะด้วยนะ

      Delete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00