จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,124



“เราเพิ่งตระหนักได้เมื่อสาย ว่าการกำหนดลมหายใจ มีความสำคัญยิ่งกว่าการเรียนทักษะดาบแห่งจิตใจเสียอีก…”


เมื่อครอเกลพัฒนาตัวเองจนถึงจุดหนึ่ง มันสามารถควบคุมลมหายใจ และใช้งานให้เกิดประโยชน์ได้ดังใจนึก


บรรดาปรมาจารย์ต่างเรียกสิ่งนี้ว่าพื้นฐาน แต่อริยดาบอย่างมันกลับเพิ่งมีโอกาสได้ครอบครองหมาดๆ


“น่าเหลือเชื่อมาก นี่เราหัดวิ่งก่อนคลานมาตลอดเลยหรือ ผ่านพื้นฐานมาได้ยังไงกัน…”


บนโลกซาทิสฟาย มี NPC จำนวนมากยังไม่ตระหนักว่าผู้เล่นทุกคน จะได้รับความช่วยเหลือจาก ‘ระบบเกม’


ขณะกำลังยืนลิ้นห้อย อริยดาบ ครอเกล เงยหน้ามองอาจารย์ตนด้วยรอยยิ้มขื่นขม แต่มันมิได้กล่าวสิ่งใดออกไป


‘กริด’


ยิ่งครอเกลมีสายสัมพันธ์กับคิรินัสแนบแน่นเท่าไร ชื่อของกริดก็ยิ่งผุดขึ้นบ่อยครั้ง


‘นายตระหนักถึงเรื่องนี้มาตลอดเลยหรือ’


NPC คือปัญญาประดิษฐ์


มิใช่มนุษย์ ไม่มีชีวิตจิตใจ


สิ่งนี้เคยเป็นความคิดของครอเกลในช่วงแรกของการเล่นเกม แต่ถึงกระนั้น มันก็ยังเคารพนับถือ NPC ของซาทิสฟายมาตลอด


ไม่ใช่ในแง่ของเพื่อนร่วมโลก แต่เพื่อการพัฒนาตัวเอง


ครอเกลพยายามทำให้ตัวกลมกลืนกับธรรมชาติของซาทิสฟายเข้าไว้ เพื่อจะได้เพ่งสมาธิจดจ่อกับเกมอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด มันพยายามสวมบทบาท ว่าตนเป็นส่วนหนึ่งของโลกซาทิสฟายอย่างกลมกลืน


จนกระทั่งได้พบปิอาโร่ รวมถึงการฝึกฝนวิชากับคิรินัสนานกว่าสองปี มุมมอง NPC ของครอเกลจึงเปลี่ยนไปมาก


มันเริ่มยอมรับว่า NPC คือมนุษย์คนหนึ่ง อย่างน้อยก็เป็นส่วนสำคัญของโลกซาทิสฟายแห่งนี้ ทุกคนล้วนมีตัวตนและคุณค่า


ครอเกลเริ่มเข้าใจว่า ทำไมกริดถึงได้ระเบิดความโกรธแค้นออกไปทั่วโลกหลังจากข่านเสียชีวิตลง


‘นายคง… เจ็บปวดมากเลยสินะ…’


ขณะครอเกลกำลังดำดิ่งในห้วงความคิด สีหน้ามันพลันชะงักกะทันหัน


…มีใครกำลังยืนอยู่ข้างหลัง


“น่าเศร้าจังเลยนะ”


‘เป็นเขา?’


มันเคยได้ยินเสียงนี้ครั้งแรกเมื่อ 6 ปีก่อน และไม่มีวันลืมแน่นอน


ด้วยความทรงจำของอัจฉริยะ ตัวตนของอีกฝ่ายผุดขึ้นในสมองทันที


‘สภาหอแห่งปัญญา!’


“ข้าเคยคิดไว้แล้ว ป่านนี้เจ้าคงกลายเป็นอริยดาบคนปัจจุบัน แต่กลับคาดไม่ถึงเลยว่า ผ่านไปเนิ่นนาน เพิ่งจะเริ่มฝึกได้แค่พื้นฐานเองหรือ? ยิ่งไปกว่านั้น ยังก้าวไปไม่ถึงระดับของเหนือมนุษย์อีก? จะให้เรียกอริยดาบตอนนี้คงกระดากปากไปสักหน่อย”


“คุณเป็นใคร?”


คิรินัสโพล่งด้วยสีหน้าประหลาดใจ


แม้แต่หอกเอกแห่งทวีปอย่างมัน กว่าจะสัมผัสตัวตนอีกฝ่ายได้ ทางนั้นก็เข้าประชิดตัวมาใกล้แล้ว


ขณะคิรินัสเริ่มแผ่จิตสังหารมุ่งร้าย ครอเกลเตรียมเปล่งเสียงพูดว่า ‘ไม่ใช่ศัตรู’


แต่ไม่สำเร็จ


“โฮ่… จิตสังหารหอกไม่เลว”


ตึก!


เมื่อเริ่มสนใจในตัวคิรินัส ชายปริศนาซัดปลายนิ้วใส่บางจุดบนร่างครอเกล


ทันใดนั้น


[ท่านได้รับอาการผิดปรกติ ‘เป็นใบ้’]


[ต้านทานล้มเหลว อาการ ‘เป็นใบ้’ จะแสดงผลนาน 3 นาที]


“?!”


ครอเกลพูดไม่ได้กะทันหัน ขณะเดียวกัน บางทักษะก็ถูกห้ามใช้งาน


มันตกใจอย่างมากในช่วงแรก เพราะไม่เคยเผชิญเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน แต่ภายหลังก็เรียกคืนสติกลับมาอย่างรวดเร็ว


สาเหตุทำให้ครอเกลครองตำแหน่งท้องฟ้ามาได้ยาวนาน เพราะมันมีคุณสมบัติสำคัญข้อหนึ่งคือ จะไม่แตกตื่น เมื่อต้องเผชิญเหตุการณ์ไม่คาดฝัน


‘อาจารย์ ผมไม่เป็นไร’


ครอเกลรวบรวมเจตจำนงอันเข้มข้นไว้ในดวงตา


มันหวังให้คิรินัสได้รับข้อความ จะได้ผ่อนคลายตัวเองลง ไม่คิดโจมตีใส่อีกฝ่ายอย่างผลีผลาม


แต่น่าเสียดาย ความตั้งใจส่งไปไม่ถึง


เคร้ง!


คิรินัสไม่สามารถแบ่งสมาธิเพื่อสบตาครอเกลได้แม้แต่วินาทีเดียว


ทว่า คมหอกกลับถูกหยุดง่ายดายด้วยฝักดาบของผู้บุกรุก ขณะเดียวกัน สองขาของคิรินัสกำลังยันพื้นด้วยอาการสั่นเกร็ง


“คุณมาทำอะไร?”


“ตั้งใจสู้ก็พอแล้ว ไม่ต้องสนเรื่องอื่น ข้าอยากจะวัดพลังของยอดฝีมือแห่งยุคสมัยสักหน่อย”


ผู้บุกรุกเมินเฉยคำถามคิรินัส เพียงเปล่งเสียงก้องกังวานอัดแน่นด้วยคลื่นพลังปราณมหาศาล ตรงมุมปากยกโค้งอย่างมีเลศนัย เสื้อคลุมยาวกำลังสะบัดพลิ้ว ไปตามมวลอากาศสั่นไหวรอบตัว


“ใครจะยอมให้ทำ!”


โทสะคิรินัสปะทุถึงขีดสุด


เป็นพฤติกรรมเข้าใจได้ เพราะอีกฝ่ายบังอาจทำร้ายศิษย์รัก ซึ่งมันมองไม่ต่างจากลูกหลานตัวเอง


ปึกปึกปึกปึกปึก—!


ตรงข้ามกับความโกรธ เพลงหอกถูกบรรเลงอย่างสุขุมเยือกเย็น


คมหอกคิรินัสยังคงความอ่อนช้อยไว้เสมอต้นเสมอปลาย ขณะเดียวกัน การเคลื่อนไหวอันว่องไวได้สร้างภาพติดตา เกิดเป็นเงาหอกหลายเล่มทิ่มแทงใส่เป้าหมาย


“…?!”


ชายปริศนาเริ่มเปลี่ยนสีหน้า


แต่มันมิได้ตกตะลึงเพลงหอกคิรินัส


เคร้ง!


ผู้บุกรุกรับการโจมตีจากคิรินัสไว้ง่ายดายพลางก้าวถอยหลัง แต่มือของมันกำลังจับดาบด้วยอากัปกิริยาสั่นเทา


ปลายดาบสั่นระริก ราวกับถูกบางสิ่งกระแทกใส่อย่างรุนแรง


“ดาบแห่งจิตใจ…?”


สายตาจ้องมองมาทางครอเกลไม่กะพริบ


“ทำไมถึงครอบครองดาบจิต… ได้ก่อนจะชำนาญทักษะพื้นฐาน?”


“…”


ในเมื่อครอเกลถูกปิดกั้นกล่องเสียง มันจึงมิอาจมอบคำตอบกับอีกฝ่าย และไม่เพียงพูดไม่ออก ทักษะดาบแห่งจิตใจก็สำแดงพลังได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ


“ช่างน่าขัน เจ้าตัดสินใจไม่เจริญรอยตามเส้นทางมุลเลอร์ เลือกเดินบนลำแข้งตัวเอง จนไม่ได้รับสุดยอดวิชาดาบและกายาอันสูงส่งของมุลเลอร์มาครอง ทว่าในภายหลัง กลับเข้าถึงพลังเหล่านั้น ได้จากการฝึกฝนตัวเองอย่างหนัก รวมถึงพรสวรรค์ระดับสัตว์ประหลาด…”


ความสนใจจากคิรินัสในตอนแรก พลันเปลี่ยนมาเป็นครอเกลทันที


เขาไม่เลือกเส้นทางของมุลเลอร์ เพราะครอบครองสถานะอริยดาบตั้งแต่อายุยังน้อยงั้นหรือ…?


บางที เด็กคนนี้อาจมีพรสวรรค์ระดับเดียวกับมุลเลอร์


…หนึ่งพันปีจะมีสักคน


เราต้องตรวจสอบให้แน่ใจ


“หยุดนะ! ศัตรูของคุณคือผม!”


ขณะผู้บุกรุกย่างกรายเข้าหาครอเกล คิรินัสรัวแทงหอกอีกครั้ง ปลายอาวุธแหลมยาวพลิ้วไหวประหนึ่งกิ่งไผ่ต้องลม ยากคาดเดาทิศทางชัดเจน


แต่ทั้งหมดล้วนเป็นหมันเมื่ออยู่ต่อหน้าชายปริศนา


พรืด—


แกร่ก!!


เพียงผู้บุกรุกตวัดดาบ ปลายหอกคิรินัสถูกเกี่ยวกดลงแนบพื้นง่ายดาย


“อย่าเข้ามาสอด”


ความสนใจของชายประหลาดต่อคิรินัส ยิ่งเวลาผ่านไป ก็ยิ่งเย็นชาเหินห่าง


ไผ่แปรปรวนของเราถูกสยบ?


‘อีกฝ่ายใช้พลังแบบไหนกันแน่?’


เมื่อเห็นผู้บุกรุกสำแดงเพลงดาบอันพลิ้วไหวราวกับสายน้ำ คิรินัสพลันตะลึงชั่วขณะ ก่อนจะชักหอกกลับ พลางอาศัยแรงเหวี่ยงฟาดใส่ศัตรูประหนึ่งแส้เฆี่ยน


แต่ชายประหลาดลงมือเร็วกว่า


“ขอข้าตรวจสอบดูสักหน่อย”


ฟุ่บ!


ผู้บุกรุกใช้ปลายเท้าเหยียบก้านหอกคิรินัส ทันใดนั้น มันส่งแรงกระโดดเข้าประชิดตัวครอเกลอย่างง่ายดาย ตามด้วยการซัดพลังดัชนีใส่บางจุดของร่างกาย


“ครอเกล!”


คิรินัสคำรามลั่น มันเข้าใจผิดว่าชายประหลาดลงมือทำร้ายศิษย์เอกตน


แต่การกระทำคิรินัสมีอันต้องหยุดลง เนื่องจากมันได้ยินเสียงไม่คาดฝันของครอเกล


“ท่านอาจารย์ เขาไม่ใช่ศัตรู”


ถัดมา ครอเกลรีบหันไปกล่าวทักทายอีกฝ่าย พร้อมกับก็ก้มศีรษะคำนับนอบน้อม


“เป็นเกียรติอย่างยิ่งเมื่อได้พบท่าน”


“เจ้ารู้หรือ ว่าข้าคือใคร?”


“ผมยังจำเรื่องราวเมื่อหกปีก่อนได้”


ครอเกลจงใจเลี่ยงคำว่า ‘หอ’ และ ‘สภา’


มันทราบว่า หอแห่งปัญญาไม่ต้องการเปิดเผยตัวตนต่อโลกกึ่งกลาง ดังนั้น ตนควรพูดจาโดยไตร่ตรองให้ละเอียด


“ยังหัวไวเหมือนเคย”


ขณะชายประหลาดกำลังพึงพอใจ คิรินัสโพล่งขึ้นเสียงดัง


“ครอเกล! นายรู้จักมันหรือ?”


“ครับ ศิษย์เคยติดหนี้บุญคุณเขา”


“ฮึ่ม!”


คิรินัสพ่นลมหายใจด้วยใบหน้าแดงก่ำ


มันหงุดหงิดอย่างมาก เมื่อความจริงแล้ว ชายประหลาดไม่ทราบหัวนอนปลายเท้า คืออดีตผู้มีพระคุณของครอเกล


ผู้บุกรุกขมวดคิ้ว


“ศิษย์? นักดาบเป็นศิษย์ของผู้ใช้หอก?”


“ใช่แล้วครับ”


“เฮ่อะ! อริยดาบกลายเป็นศิษย์ของผู้ใช้หอกได้อย่างไรกัน?”


ทันใดนั้น ชายประหลาดเผยสีหน้าโมโห


ฝ่ายไหนสมควรต้องโมโหกันแน่?


ใบหน้าคิรินัสยิ่งแดงก่ำกว่าเก่า ตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับผลพุทราสุก


อย่างไรก็ตาม หอกเอกแห่งทวีปมิได้ลงมือ


‘มันอาจเป็นปรมาจารย์สักคนในอดีต’


แถมชายประหลาดยังกล่าวถึงเหนือมนุษย์


คิรินัสจำลักษณะเด่นของเหนือมนุษย์ได้ดี


‘กล่าวกันว่า เหนือมนุษย์จะมีอายุไม่ต่ำกว่าร้อยปีทุกคน ฉะนั้น อายุจริงของชายแปลกหน้า คงแก่ชราแตกต่างจากรูปลักษณ์’


แต่มันไม่ใช่เหตุผลให้คิรินัสไม่ลงมือ


อีกฝ่ายเคยมีบุญคุณต่อครอเกล การจู่โจมอย่างผลีผลามคงไม่ใช่เรื่องฉลาด ควรจับตามองไปอีกสักระยะ


ขณะคิรินัสกำลังผ่อนคลาย ครอเกลอธิบายต่อบุคคลปริศนาด้วยท่าทีนอบน้อม


“ท่านคงทราบอยู่แล้ว ผมเลือกเส้นทางเดินของตัวเอง ดังนั้น ผมจะไม่สามารถบรรลุวิชาซับซ้อนได้ตามลำพัง จำเป็นต้องมีอาจารย์คอยสอนสั่ง จึงตัดสินใจขอร้องให้เขาช่วยเป็นอาจารย์ให้ และบังเอิญโชคเข้าข้าง เขายอมรับคำขอร้อง”


“ไม่ชอบเส้นทางของมุลเลอร์หรือ?”


ความตายของวีรบุรุษ จะเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของโลกกึ่งกลางโดยตรง


นั่นคือเหตุผลให้เหล่าวีรบุรุษ ต้องทิ้งคัมภีร์เคล็ดวิชา*ของตนให้ชนรุ่นหลัง


(*หนังสือหายากของแพ็กม่า จริงๆ คือคัมภีร์เคล็ดวิชา แต่อังกฤษแปลผิดมาตั้งแต่แรก)


จุดประสงค์ก็เพื่อ ให้ใครสักคนจากอนาคต ช่วยปกป้องความสงบสุขของโลกใบนี้แทน


เช่นเดียวกันกับชายปริศนา คัมภีร์เคล็ดวิชาของมันถูกส่งต่อไปยังมุลเลอร์ และเมื่อมุลเลอร์พัฒนาตัวเองจนบรรลุ รวมถึงต่อยอดวิชาให้ดีกว่าเดิม โลกมนุษย์จึงกลับสู่สันติสุขได้อีกครั้ง


“เป้าหมายของผมคือการก้าวข้ามมุลเลอร์ การเดินบนทางเดียวกับเขาจึงไม่ใช่คำตอบ”


“โฮ่…”


พรสวรรค์อาจใกล้เคียง แต่นิสัยแตกต่างอย่างสุดขั้ว


คงช่วยไม่ได้ละนะ ก็สภาพแวดล้อมแตกต่างกันถึงขนาดนี้


แม้ว่ามุลเลอร์จะถูกยกย่องให้เป็นตำนานอันดับหนึ่งตลอดกาลของโลก และแม้จะได้ชื่อว่าไม่มีใครทัดเทียม แต่เด็กหนุ่มคนหนึ่ง กลับคิดว่าตัวเองสามารถก้าวข้ามมุลเลอร์ได้ จึงเลือกเดินบนคนละเส้นทาง เพื่อพิสูจน์ว่าสิ่งนั้นเป็นจริง…


“แต่ถึงอย่างนั้น อริยดาบกลับเลือกผู้ใช้หอกเป็นอาจารย์…”


ความจริงข้อนี้ได้ทำลายศักดิ์ศรีของเหล่านักดาบทั่วโลก


หากพวกมันรู้เข้า คงส่งเสียงสาปแช่งครอเกลอย่างเจ็บใจ


อย่างไรก็ตาม ชายประหลาดมิได้กล่าวสิ่งใดออกไปเพิ่มเติม


กฎเหล็กของหอแห่งปัญญาคือ ห้ามยุ่งเกี่ยวกับโลกกึ่งกลางโดยเด็ดขาด


ในวินาทีเข้ารับตำแหน่งสภาหอแห่งปัญญา มันได้สาบานว่า จะปล่อยวางจากทางโลกอย่างสมบูรณ์


ในตอนแรก หลังจากมันทราบว่าครอเกลคือทายาทของทายาทตน ชายประหลาดพลันออกอาการตื่นเต้นจนเกินงาม แต่เมื่อค้นพบความจริงว่าเป็นศิษย์ของผู้ใช้หอก มันจึงเริ่มตระหนักได้ ว่าตนควรระงับอารมณ์ส่วนตัว


“ช่างเถอะ ไม่ว่าเจ้าจะทำสิ่งใด นั่นไม่เกี่ยวกับข้าสักหน่อย”


ขณะกล่าว บุคคลลึกลับหันมาจ้องคิรินัสด้วยสายตาอาฆาต ปานจะกินเลือดเนื้อให้ได้


ร่างกายคิรินัสพลันสั่นเทา และมันคงไม่ทราบว่า ในวินาทีดังกล่าว ชายประหลาดได้แอบส่งข้อความบางอย่างให้ครอเกล


[หัวแถวเอ๋ย หอแห่งปัญญาต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า]


การเรียก ‘หัวแถว’ แทน ‘อริยดาบ’ สิ่งนี้ไม่ได้เกิดจากอารมณ์โกรธเคืองส่วนตัวของชายประหลาด แต่เป็นเพราะว่า ตำแหน่ง ‘หัวแถว’ คือสะพานเชื่อมระหว่างมนุษย์กับหอแห่งปัญญา


[มีแร่อยู่ชนิดหนึ่ง ชื่อว่าเหล็กมังกรคลั่ง ถือกำเนิดจากอิทธิพลของมังกรคลั่งเนอวาร์ธาน พลังเวทมนตร์ภายในแร่ อาจส่งผลให้มังกรคู่อริของเนอวาร์ธานเริ่มเคลื่อนไหว]


‘…สมกับเป็นหอแห่งปัญญา’


สนใจเพียงเรื่องใหญ่อย่างมังกร และไม่ให้ค่ากับเรื่องราวเล็กน้อยอื่นๆ ไม่สิ เรียกว่าไม่แยแสคงจะเหมาะสมกว่า


และด้วยความไม่สนใจโลก พวกมันจึงไม่ทราบว่า ตำแหน่งหัวแถวได้เปลี่ยนมือไปแล้ว


“แต่ว่าท่านครับ”


ปัจจุบัน ครอเกลยังไม่ทราบวิธีส่งข้อความเสียงหา NPC ในทางลับ


ขณะกำลังจะกล่าวว่า ‘ผมไม่ใช่หัวแถวอีกแล้ว ท่านมาหาผิดคน’


[เฮอะ! ลืมไปแล้วหรือไง! มีเพียงหัวหน้าหอเท่านั้น จึงจะแพร่งพรายข้อมูลของหอแห่งปัญญาไปสู่บุคคลภายนอกได้! ข้าไม่สนว่าเจ้าจะไว้ใจอาจารย์มากแค่ไหน แต่ช่วยระวังปากไว้ด้วย!]


“ไม่ใช่ครับ… อึก!”


[ฟังคำข้าเงียบๆ ก็พอแล้ว! ไม่อย่างนั้น อาจารย์ของเจ้าจะตรวจพบความผิดปรกติ! บทลงโทษของหอแห่งปัญญารุนแรงนัก เจ้าก็น่าจะทราบดีไม่ใช่หรือ]


“อะ… อะ…!”


[เงียบ!]


“…”


ชายคนนี้…


ผ่านมาแล้วหกปี ความใจร้อนไม่ได้เปลี่ยนไปเลยสักนิด


ในตอนนั้น แค่เห็นเราเป็นนักดาบ เขาก็โจมตีเข้าใส่ทันที โดยไม่สนว่าพวกพ้องคนอื่นจะห้ามปรามเช่นไร


แตกต่างจากสภาหอคนอื่น ชายคนนี้มีนิสัยหุนหันพลันแล่นเป็นเอกลักษณ์


‘หอแห่งปัญญาไม่น่าส่งเขามา…’


ไม่สิ เขาคงอาสาออกมาหาเราเอง เพียงเพราะเราเป็นนักดาบ จึงอยากเห็นว่าวิชาดาบของเราพัฒนาไปถึงขั้นไหนแล้ว


เมื่อครอเกลถูกปิดปากจนหมดโอกาสพูด มันทำได้เพียงแสดงสีหน้าห่อเหี่ยว ชะตากรรมหลังจากนี้ ไม่ได้อยู่ในมือตนอีกแล้ว


ขณะครอเกลเงียบงัน ชายประหลาดเริ่มพล่ามต่อ


[พวกเราตรวจพบว่า ใครบางคนกำลังจงใจใช้แร่สุดอันตรายดังกล่าวโดยไม่ยั้งคิด ดังนั้น หัวแถวเอ๋ย เจ้าจงใช้พลังอำนาจส่วนตัวบนโลกกึ่งกลาง ค้นหาตัวการผู้ครอบครองแร่ชนิดดังกล่าวให้พบโดยเร็ว ทางหอแห่งปัญญาจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดอย่างเหมาะสม]


เมื่อเล่าจบ ชายประหลาดปล่อยมือจากปากครอเกล มอบสิทธิ์ให้มันพูดอีกครั้ง


ในฐานะผู้คอยปกป้องโลกจากมังกร ภารกิจแสนยิ่งใหญ่ ใบหน้าของสภาหอแห่งปัญญาจึงขึงขังและดุดันเป็นพิเศษ


“เอ่อ…”


ครอเกลชำเลืองมองคิรินัสด้วยสีหน้าไม่สบายใจนัก ทันใดนั้น หอกเอกแห่งทวีปทราบทันทีว่าตนควรวางตัวเช่นไร มันลุกขึ้นและเดินออกไปไกลเพื่อรักษาระยะห่าง


ไม่ต้องรอนาน เมื่อครอเกลได้รับสิทธิ์ให้พูดอย่างอิสระ มันรีบเปิดเผยความจริง


“ผมไม่ใช่หัวแถวอีกแล้ว”


“…?”


“ผมพ่ายแพ้การแข่งขัน และสูญเสียตำแหน่งหัวแถวไป”


[เรื่องนี้เป็นเรื่องร้ายแรง ส่งผลกระทบต่อโลกมนุษย์อย่างใหญ่หลวง ดังนั้น เจ้าห้ามโกหกโดยเด็ดขาด]


“แต่ผมพูดความจริง”


“…”


บรรยากาศเงียบงันครอบงำเป็นเวลานาน


จนกระทั่งชายปริศนา ผู้ยืนแข็งทื่อมานานหลายนาที แผดเสียงตะเบ็งอย่างเกรี้ยวกราด จนเส้นเลือดบริเวณลำคอปูดโปนเด่นชัด


“แล้วทำไมเพิ่งมาบอกเอาตอนนี้ละโว้ย!!”


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,513
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. ก็เอ็งไม่ฟังเขาพูดอ่ะ 55555 มีปิดโหมดกระซิบส่วนตัวอีก

    ReplyDelete
  2. หาคนปกติรอบตัวพระเอกได้ยากจริงๆ

    ReplyDelete
  3. 😆🤣
    👍ขอบคุณ​มาก​ครับ​

    ReplyDelete
  4. Npc นี่แม่งป่วยทุกคนจริงๆ

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00