จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,127



“ทำไมถึงเพิ่งมาบอก!!”


นี่มันข่าวดีเลยไม่ใช่หรือ?


เราอุตส่าห์เคร่งเครียดแทบตายหลายวัน ถึงขั้นกินนอนไม่ได้ ถ่ายไม่ออก…


ขณะเกิดความโล่งใจ ความโกรธและโมโหก็สุมอกกริดในระดับไม่ต่างกัน


ท่าทีเกรี้ยวกราดของกริดทำให้บีบันงุนงง


“ทำไมถึงเป็นความผิดของข้า? เจ้าไม่เคยเปิดโอกาสให้ข้าได้พูดเลยต่างหาก”


“ก็มีเวลาอธิบายตั้งนานไม่ใช่หรือไง!!”


“เพราะเจ้าไม่ยอมเปิดเผยตัวตน ข้าถึงไม่ทราบว่าเจ้าเป็นใคร และไม่สามารถเล่าเรื่องหอคอยส่งเดชได้”


“แต่ก็เล่าส่งเดชให้เธอฟังไปแล้วนี่?”


“เป็นเพราะข้าตื่นเต้นเกินไปหน่อย”


“ในเมื่อทำพลาดไปแล้วครั้งหนึ่ง ทำพลาดอีกสักครั้งจะเป็นอะไรไป”


“เจ้ายังไม่รู้จักข้าดีพอ คิดว่าบุคคลยิ่งใหญ่เช่นข้าจะยอมกระทำผิดซ้ำสองงั้นหรือ?”


“ถ้าเก่งอย่างปากว่า แล้วทำไมถึงมองตัวจริงของฉันไม่ออกแต่แรก?”


“เป็นเด็กเป็นเล็ก หัดไว้หน้าผู้ใหญ่บ้าง!”


“ขอโทษ”


“หือ…?”


บีบันพลันชะงัก


ก่อนหน้านี้ กริดได้ตวาดด่ามันด้วยถ้อยคำหยาบคาย แต่เมื่อครู่กลับขอโทษอย่างว่าง่าย


‘เบื่อจะรับมือกับพวกเด็กเอาแต่ใจแล้ว…’


กริดเป็นมนุษย์ประเภทบีบันไม่ชอบหน้า


ขณะชายหนุ่มส่ายศีรษะไปมา ภายในใจกำลังเกิดความสุขล้นปรี่


‘ภารกิจง่ายขนาดนี้…’


แถมยังวิ่งมาหาด้วยตัวเอง


ภารกิจในอุดมคติ!


มันจะได้รับรางวัลเพียงแค่ตอบตกลง จากนั้นก็ผลิตไอเท็มด้วยละโมบจนเกือบหมด และนำเหล็กมังกรคลั่งไปมอบให้หอแห่งปัญญา


แถมรางวัลตอบแทนภารกิจคือเกล็ดมังกร


‘ฮุฮุฮุ!’


ทุกคนล้วนทราบดี มังกรคือสิ่งมีชีวิตสมบูรณ์แบบ เป็นสายพันธุ์อันยิ่งใหญ่ผู้ปกครองโลกมาช้านาน


ไม่ต้องสงสัยเลย เกล็ดมังกรคือสุดยอดวัตถุดิบสำหรับสร้างไอเท็ม ชนิดลมหายใจสี่สัตว์เทพ และอวัยวะจอมอสูร ก็เทียบไม่ติด


กริดเคยคิดมาตลอดว่า ผู้เล่นคงไม่มีวันได้ครอบครองเกล็ดมังกรเด็ดขาด จนกระทั่งเห็นภารกิจตรงหน้าเต็มสองตา


ชายหนุ่มจินตนาการด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข


ภาพตนกำลังสวมใส่ ‘เซตมังกร’ ครบชุด


‘และเมื่อถึงเวลานั้น เราจะแดกไอ้บัดซบการัมเหมือนกับผักห่อหนึ่งคำ!’


ว่ากันตามตรง ย้อนกลับไปขณะบีบันเพิ่งปรากฏตัว กริดพลันเกิดความสิ้นหวังเหนือพรรณนา


สัตว์ประหลาดเกินเอื้อมโผล่มาอีกแล้ว…


มันเคยกังวลมาตลอด หากมีสัตว์ประหลาดแข็งแกร่งระดับการัมโผล่มาในอาณาจักร กองทัพของตนจะรับมือได้อย่างไร


ในระยะหลัง กริดเริ่มท้อแท้ เพราะถึงตนจะผ่านอุปสรรคมากมายจนพัฒนาตัวเองกลายเป็นท้องฟ้า แต่เมื่อนำมาเทียบกับโลกซาทิสฟายแล้ว มันยังคงเป็นสิ่งมีชีวิตอ่อนแอ แล้วความพยายามทั้งหมดมีไปเพื่ออะไร?


แต่ในวินาทีนี้ ไฟการต่อสู้ของกริดกลับมาลุกโชติช่วงอีกครั้ง


เมื่อทราบว่าบีบันไม่มีเจตนาร้าย ความสิ้นหวังเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความหวัง


‘เดี๋ยวก่อน… ถ้าเรามอบเหล็กมังกรคลั่งให้มันทันที แบบนั้นจะไม่น่าสงสัยเอาหรือ’


ในเมื่อภารกิจไม่มีระยะเวลากำหนด ก็ควรแสร้งทำเป็นใช้เวลาค้นหาให้แนบเนียน


เมื่อตัดสินใจได้ ชายหนุ่มกล่าวอย่างสุภาพนอบน้อมจนผิดวิสัย


“ขอบคุณสำหรับภารกิจ ผมจะรีบจัดการให้เสร็จโดยเร็ว ไม่ทำให้หอแห่งปัญญาต้องผิดหวังแน่นอนครับ”


“หอแห่งปัญญาและหัวแถวมีความสัมพันธ์ร่วมกันเสมอ เจ้าไม่ต้องทำตัวนอบน้อมเยี่ยงลูกน้อง แต่ช่างเถอะ การเคารพผู้อาวุโสก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร”


บีบันผู้มีใบหน้าบูดบึ้งราวกับปีศาจเมื่อครู่ ยามนี้กำลังยิ้มแย้มแจ่มใส


แน่นอน มันไม่ใช่คนคลั่งดาบผู้รู้จักเพียงการระเบิดโทสะใส่คนรอบข้าง


“ผมจะจำใส่ใจไว้ครับ ถ้าเช่นนั้น ขอตัวไปรีบทำภารกิจก่อน ไว้เสร็จเรียบร้อยเมื่อไร ผมจะแวะไปเยือนหอแห่งปัญญาทันที”


“ข้าชอบนิสัยกระฉับกระเฉงของเจ้า ค่อยสมกับจิตวิญญาณของราชาวีรบุรุษ”


“ขอบคุณสำหรับคำชมครับ ถ้าเช่นนั้น…”


“เดี๋ยวก่อน”


ขณะกริดเตรียมกลับ บีบันส่งเสียงห้าม


“ไม่รอแผนผังหอคอยก่อนหรือ? รับไป”


[ท่านได้รับแผนผัง <หอแห่งปัญญา>]


“ขอบคุณมากครับ”


“แล้วก็”


“…?”


[ตามธรรมเนียมของหอแห่งปัญญา เจ้าต้องแสดงพลังของหัวแถวให้ประจักษ์ ตามปรกติแล้ว ขั้นตอนดังกล่าวจะเกิดขึ้นระหว่างเจ้ากำลังปีนหอ แต่ในเมื่อข้าอยู่ตรงหน้าเจ้าแล้ว จะช่วยลดขั้นตอนดังกล่าวให้เอง ในฐานะนักดาบด้วยกัน เจ้าสามารถดวลกับข้าเพื่อผ่านธรรมเนียมดังกล่าวได้]


“อย่างนั้นหรือ…”


กริดย่อมไม่ทราบตัวตนแท้จริงของบีบัน


เพราะมันไม่ใช่อริยดาบ และอริยดาบสองรุ่นก่อนก็ไม่ถูกผู้คนพูดถึงมากนัก


เป็นตัวตนจากอดีตกาลนานเกินไป และไม่ใช่แค่นั้น ชื่อเสียงของมุลเลอร์ ผู้ถูกยกย่องให้เป็นอริยดาบอันดับหนึ่งตลอดกาล ได้กลบชื่อเสียงอริยดาบรุ่นก่อนจนหมด


แต่อย่างน้อย กริดก็พอจะทราบว่าอีกฝ่ายคือตัวตนระดับสัตว์ประหลาด


เหนือมนุษย์ย่อมมองเห็นเหนือมนุษย์ด้วยกันเอง และว่ากันตามตรง บีบันแข็งแกร่งกว่าเมอร์เซเดสค่อนข้างมาก


‘ถือเป็นประสบการณ์ก็แล้วกัน…’


“เอาล่ะ ถ้าอย่างนั้น…”


ชิ้ง—!


เพียงบีบันปลดปล่อยพลังปราณอันเฉียบแหลมออกมาจนท่วมท้น ห้วงมิติทรงกลมได้ล้อมรอบกริดและบีบันในพริบตา ไม่เหลือเค้าเดิมของตรอกแคบภายในกรุงไรน์ฮาร์ทอีก


ใบหน้าของโนเอะและเมอร์เซเดส ผู้เฝ้ามองเหตุการณ์ด้วยความกังวลจนถึงเมื่อครู่ พลันเลือนหายไปจากการมองเห็นของกริด


‘ห้วงมิติเวทมนตร์?’


ห้วงมิติสันโดษ ตัดขาดจากโลกภายนอกโดยสมบูรณ์


ไม่ผิดแน่ สิ่งนี้คือห้วงมิติเวทมนตร์


เป็นพลังพิเศษของบอสระดับสูงบางตน และบีบันก็มีมันในครอบครอง


เมื่อเห็นกริดแสดงสีหน้าตกตะลึง บีบันอมยิ้มอย่างชอบใจ ก่อนจะอธิบายอย่างเป็นมิตร


“เป็นห้วงมิติจากปราณดาบ”


“ปราณดาบทำแบบนี้ได้ด้วยหรือ?”


“ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับตัวตนอันยิ่งใหญ่เช่นข้า”


“…”


กริดหันไปมองผนังห้วงมิติ เพียงแค่เห็นก็สัมผัสได้ถึงความแหลมคมทิ่มแทง และเมื่อลองนำมือไปลูบคลำ ชายหนุ่มรู้สึกราวกับข้อมือของตนถูกเฉือนขาดกะทันหัน


ประหนึ่งขอบเขตห้วงมิติทั้งหมด ถูกสร้างขึ้นจากคมดาบหลายหมื่นเล่ม


“… ท่านเป็นใครกันแน่?”


หลงใหลในดาบ


วิชาดาบสูงส่งกว่าเมอร์เซเดส


บงการปราณดาบได้ดังใจนึก เป็นระดับซึ่งมนุษย์ทั่วไปไม่สามารถเอื้อมถึง


เมื่อได้ยินคำถามกริด บีบันฉีกยิ้มกว้างก่อนเต็มใจมอบคำตอบ


“ข้าคือบีบัน อริยดาบสองรุ่นก่อน”


“…!!”


สมองกริดพลันขาวโพลน ประหนึ่งถูกทุบด้วยค้อนยักษ์เข้าท้ายทอย


แม้แต่อดีตอริยดาบ มุลเลอร์ ก็ยังเป็นตัวตนในยุคสมัยกว่าร้อยปีก่อน เช่นนั้นแล้ว อริยดาบสองรุ่นก่อนหน้า จะต้องอยู่บนโลกมานานแค่ไหนกัน?


“ยังมีชีวิตอยู่ใช่ไหม?”


“อย่าพูดเหมือนคนเป็นคือคนตาย”


“หรือว่าหอแห่งปัญญา เป็นหอคอยซึ่งรวบรวมเหนือมนุษย์รุ่นเก่าไว้ทั้งหมด?”


“ถูกต้อง หอแห่งปัญญาถูกก่อตั้งโดยกลุ่มคนซึ่งเบื่อหน่ายชีวิตทางโลก ต้องอยู่อย่างสันโดษเพราะคนรุ่นเดียวกันล้มหายตายจากไปจนหมด แต่หอแห่งปัญญาไม่ได้มีไว้สำหรับพักผ่อนหย่อนใจ ข้าต้องต่อสู้เพื่อปกป้องโลกตลอดเวลา ทุกวันผ่านไปอย่างยากลำบาก”


“หือ… แล้วมีอดีตตำนานของโลกบ้างไหม? เช่นแพ็กม่า”


กริดไม่ได้ชื่นชอบอะไรแพ็กม่านัก


คงเป็นการยาก ถ้าจะให้รู้สึกญาติดีกับบุคคลซึ่งทรยศเพื่อนสนิท และไม่เคารพอดีตตำนานรุ่นก่อน โดยการนำร่างมาสร้างเป็นอัศวินความตาย ถึงแม้จะทำไปเพื่อปกป้องสันติสุขของโลกก็ตาม


แต่กริดอยากขอบคุณแพ็กม่า


มันมีตัวตนเช่นทุกวันนี้ได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะคัมภีร์ลับของแพ็กม่า


ขณะเดียวกัน กริดก็เห็นอกเห็นใจ


ภาพจำของแพ็กม่า ผู้ถูกเทพหักหลัง จนต้องต่อกรกับจอมอสูรจำนวนมหาศาลตามลำพัง สิ่งนี้จะตราตรึงในใจกริดไปอีกนาน


หากมีโอกาส มันอยากพบแพ็กม่าสักวัน


อย่างน้อยก็อยากขอบคุณ สำหรับคัมภีร์วิชาลับ และสันติสุขของโลกกึ่งกลางเป็นเวลาแสนนาน


แต่ไม่เป็นดังคาด บีบันส่ายศีรษะ


“คนตายจะปีนหอได้อย่างไร?”


“… ท่านแน่ใจหรือว่าเขาตายแล้ว?”


“แน่สิ... ถามทำไม? หรือเพื่อนสนิทผู้ถูกทรยศคนนั้น ส่งเจ้ามาแก้แค้นแพ็กม่าแทน?”


“อึก…!”


เมื่อคำว่า ‘เพื่อนสนิทผู้ถูกทรยศ’ ถูกเอ่ยออกจากปาก กริดทราบทันทีว่าหอแห่งปัญญารู้จักแพ็กม่าเป็นอย่างดี


“แต่เหตุผลหลักก็คือ ชายคนนั้นทำพันธสัญญากับบาเอล ต่อให้ยังมีชีวิต แต่หอแห่งปัญญาไม่มีทางรับเป็นพวกเด็ดขาด เพราะผู้ทำพันธสัญญากับบาเอล ไม่มีทางหลีกหนีจากสายตาของบาเอลได้”


พร้อมกันนั้น สีหน้าบีบันขื่นขมเล็กน้อย


“แต่อย่าได้แค้นเคืองเขานักเลย ชายคนนั้นต้องชดใช้บาปกรรมหนักกว่าใครทั้งหมด”


“ชดใช้บาปกรรม?”


“ดวงวิญญาณจะแตกกระจัดกระจาย ต้องเร่ร่อนไปทั่วขุมนรกด้วยความเจ็บปวดอันเป็นนิรันดร์ นั่นคือราคาของการทำพันธสัญญากับบาเอล”


“…!”


บาปกรรม… คือสิ่งแลกเปลี่ยนพันธสัญญา


แพ็กม่าทำพันธสัญญาโดยไม่รู้เรื่องนี้?


ไม่มีทาง… คนอย่างเขาต้องทราบแน่


แต่ก็ยังเลือกทำพันธสัญญา เพราะเชื่อมั่นในความถูกต้องตามแบบฉบับของตัวเอง


‘นั่นคือตัวตนของชายชื่อแพ็กม่า…’


ในวินาทีทรยศต่อเพื่อนสนิท บราฮัม แพ็กม่าเตรียมใจแบกรับบาปทุกชนิดบนโลกไว้แล้ว


ยิ่งได้รู้จัก ก็ยิ่งน่าสงสาร


‘เราจะไม่ทอดทิ้งพวกพ้องเด็ดขาด’


กรอด…


กริดขบกรามแน่น


มันพยายามระงับอารมณ์เศร้าหมอง มิให้ครอบงำจิตใจจนไม่มีสมาธิต่อสู้


แต่บีบันกลับเข้าใจผิด


“ถึงกับโกรธเลยหรือ… เจ้าคงมีความแค้นฝังลึกกับเขามากสินะ แต่เชื่อข้าเถอะ อย่าได้ถือสาเอาความกับคนตาย จงรวบรวมความสุขุมกลับมาเตรียมต่อสู้”


“…เข้าใจแล้ว”


หลังจากใจเย็นลง กริดยิงคำถามสุดท้าย


“นี่เป็นการทดสอบฝีมือใช่ไหม แล้วถ้าผลปรากฏว่าฝีมือของผมอ่อนหัด จะมีการตัดสิทธิ์หัวแถวหรือไม่?”


“ไม่มี หัวแถวไม่จำเป็นต้องทดสอบฝีมืออีกแล้ว หอแห่งปัญญาเชื่อใจหัวแถวโดยไม่เคลือบแคลง”


“แล้วทำไมถึง…?”


“เจ้าคงรู้จักหมู่เกาะเบเฮ็นใช่ไหม หากเกาะแห่งนั้นคือจุดสืบทอดพลังตำนานรุ่นใหม่ ก็จงมองว่าหอแห่งปัญญาคือจุดสืบทอดพลังของหัวแถว ขั้นต่อถัดไปของเจ้าคือ เข้ารับบททดสอบจากสภาหอคอย จากนั้น หอคอยจะถ่ายทอดพลังให้สอดคล้องกัน หรืออีกความหมายหนึ่ง เจ้าควรทำบททดสอบอย่างจริงจัง จะได้สืบทอดพลังให้เหมาะสมกับตัวเอง”


“…!”


“เอาล่ะ ถึงเวลาแล้ว”


เมื่อบีบันชักดาบ ภารกิจพลันปรากฏ


[<บททดสอบของลำดับเก้า> ถูกสร้างขึ้น]


[เปิดใช้งานโหมดการดวล]


<บททดสอบของลำดับเก้า>

ระดับความยาก :???

ลำดับเก้าของหอแห่งปัญญา บีบัน ต้องการทดสอบฝีมือของท่าน

จงพยายามให้สุดฝีมือ

เงื่อนไขสำเร็จภารกิจ : ยื้อเวลาการประลองให้นานเกิน 1 นาที ความตายจะถือเป็นจุดสิ้นสุด

รางวัลภารกิจ :

- พ่ายแพ้ใน 10 วินาที : ไม่มีรางวัล

- นานกว่า 10 วินาที : ได้รับ <ยามังกร>

- นานกว่า 30 วินาที : ได้รับ <พลังจิตไร้เทียมทาน>


“พยายามเข้า ยามังกรคือโอสถซึ่งผลิตจากหัวใจมังกร ถ้าผ่านสิบวินาทีมาได้ เจ้าจะได้พานพบโชคชะตาไม่คาดฝัน”


“โชคชะตาไม่คาดฝัน?”


สำหรับมัน การได้พบแพ็กม่า บราฮัม และมาดรา ล้วนเป็นโชคชะตาเหนือความคาดหมายมากแล้ว


กริดเริ่มแสดงท่าทีสนใจ


“แล้วพลังจิตไร้เทียมทานคืออะไร?”


“เป็นวิชาของข้าเอง หากขัดเกลาจุดถึงจุดสุดยอด เจ้าจะได้รับปราณดาบไร้เหือดแห้ง”


“…!”


“หวังแค่ยามังกรก็พอแล้ว เพราะแต่ไหนแต่ไร ยังไม่เคยมีหัวแถวคนใดทนข้าได้นานเกินกว่า 10 วินาที”


“หัวแถวคนก่อนทนได้แค่ไหน?”


“หืม… ถ้าจำไม่ผิด คงเป็นครอเกลขณะยังไร้เดียงสา ทนได้ไม่ถึงสองวินาทีด้วยซ้ำ”


‘ไม่น่าแปลกใจเท่าไร’


ย้อนกลับไปสมัยนั้น เลเวลของครอเกลคงอยู่ราว 200 หรือ 300


แต่ของเรา 400


“แล้วถ้าหนึ่งนาทีจะได้อะไร?”


“ไม่รู้สิ ยังไม่ได้คิดไว้”


“ถ้าอย่างนั้นก็รีบคิดเลย”


ฟุ่บ—


หัตถ์เทวะพลันปรากฏรอบกายกริด แต่ละข้างกำลังถือดาบยาว ดาบหนัก และค้อน


“…?”


ไม่ใช่นักดาบหรอกหรือ?


‘ซ่อนความลับไว้เยอะฉิบ… เขาเป็นผู้สืบทอดของใครกันแน่?’


ประเมินจากอาวุธอันหลากหลาย… อัศวิน? นักลอบสังหาร?


หรือจอมเวทสายควบคุมวัตถุ?


ช่างปะไร… ไม่สลักสำคัญสักหน่อย


ไม่ว่าจะเป็นผู้สืบทอดใคร แต่ก็ไม่มีทางรับเพลงดาบเราได้นานเกินสิบวินาทีอยู่แล้ว


“ดาบแรกจะออมมือให้”


บีบันกล่าวพร้อมกับตั้งท่าจิตสังหารดาบ ปล่อยให้เวลาหนึ่งวินาทีผ่านไปอย่างสูญเปล่า


หมายความว่า อีกฝ่ายเตรียมใจดวลอย่างจริงจัง ถือเป็นการให้เกียรติคู่ต่อสู้


เราเองก็ต้องเอาจริงเหมือนกัน…


เมื่อเป็นบททดสอบทางการ หอแห่งปัญญาย่อมต้องเก็บข้อมูลบันทึกสถิติไว้แน่


ไม่เหมือนการเล่นกับเมอร์เซเดสเมื่อครู่


“โทสะช่างเหล็ก. พลิ้วไหว. ร่างมืด.”


กริดย่อมไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดมือ มันเปิดฉากด้วยบัฟเต็มอัตราศึก รวมถึงเปิดใช้งานทักษะ ‘ประกายอัสนี’ จากรองเท้ามังกรคราม


“มายาร่ายรำสะพรั่ง!”


ซู่วววววว—!


โดยไม่รอให้บีบันย่นระยะเข้าหา ชายหนุ่มทำการแผ่ปราณดาบหมุนวนพร้อมกับสร้างกลีบดอกไม้เหนือศีรษะ


บึ้ม! บึ้มบึ้มบึ้ม!!


ขณะอยู่ในภาวะความเร็วสูงสุด เสียงระเบิดกัมปนาทดังกึกก้องข้างหูกริด


ชายหนุ่มพุ่งตัวพลางซัดปราณดาบใส่บีบันซึ่งยืนกึ่งกลางหน้าจอ มันพยายามเปลี่ยนตำแหน่งตัวเองทุกขณะ โดยหวังซัดการโจมตีเข้าใส่จุดบอดอีกฝ่าย


บีบันพ่นลมหายใจ


“อย่างนี้เองหรือ… เจ้าคือผู้สืบทอดแพ็กม่า และฝ่ามือสีทองคือสมบัติวิเศษประจำตัว”


หมับ.


บีบันใช้มือเปล่าคว้าหัตถ์เทวะซึ่งกำลังบดบังการมองเห็น ส่วนมืออีกข้างยังคงกำดาบไว้แน่นถนัด ปลายดาบมีการขยับเล็กน้อย


“เจ้ารู้หรือไม่ว่า ทำไมแพ็กม่าถึงต้องทำพันธสัญญากับบาเอล? ก็เพราะชายคนนั้นตระหนักถึงขีดจำกัดตัวเองยังไงล่ะ!”


ฟุ่บ—!


“…!?”


เพียงบีบันยกดาบตวัดแผ่วเบา ปราณดาบและกลีบดอกไม้ทั้งหมดพลันกระจัดกระจายกลายเป็นเพียงเศษละออง


พร้อมกันนั้น บีบันยิงพลังปราณออกจากปลายดาบ พุ่งเข้าหากริดด้วยความเร็วสูง จนชายหนุ่มต้องหยุดรำดาบกะทันหัน


“เดิมที ท่วงท่ารำดาบมีไว้ใช้ในพิธีกรรมเท่านั้น จึงถูกออกแบบให้งดงามและชดช้อย ขณะเดียวก็หมายความว่า นั่นไม่ใช่ศาสตร์ของนักดาบ แต่เป็นกลอุบายของนักบวช”


“…!?”


“บางที การรำดาบอาจมีคุณค่าทางจิตใจ แต่ของปลอมก็ยังเป็นของปลอม ไม่สามารถเรียกวิชาดาบ และไม่สามารถเอาชนะวิชาดาบแท้จริง—”


ขณะกำลังอธิบายความจริงอันน่าเจ็บปวดของท่ารำดาบให้กริดฟัง ดวงตาบีบันพลันเบิกโพลงกะทันหัน


ปราณดาบซึ่งกำลังกระจัดกระจายกลายเป็นละอองฝอย และสูญเสียเป้าหมายโจมตี ปัจจุบันเริ่มกลับมารวมตัวกันใหม่ ก่อนถาโถมโหมกระหน่ำใส่บีบันประหนึ่งมีชีวิตจิตใจ


ปรากฏการณ์นี้เกิดจาก ‘เวทตรวจจับ’ ของบราฮัม ธรรมชาติของมันคือการค้นหาเป้าหมายและพุ่งทำลายโดยไม่พลาดเป้า


เคร้งเคร้งเคร้ง!


‘เวทมนตร์…?’


ขณะบีบันยกดาบตวัดฟันขวางเพื่อทำลายปราณดาบของกริด สายตาพลันชำเลืองเห็นสายลมแหลมคม กำลังพุ่งแทรกมากับกลุ่มก้อนปราณดาบเหล่านั้น


‘ด้วยเวทมนตร์กระจอกระดับนี้ ทำไมถึงมองข้ามค่าต้านทานของเราได้?’


ดวงตาบีบันเริ่มสั่นเทา


มันได้รับรอยแผลข้างแก้มหนึ่งเส้นแดงจากพลังทำลายของเวทลมเฉือนบราฮัม


หยดเลือดแรกในรอบหลายสิบปี


‘มองข้ามค่าต้านทานเวทมนตร์… หรือว่า!’


บีบันเงยหน้าขึ้นมองอากาศ


มันได้พบกริด ผู้ร่างกายห่อหุ้มด้วยแสงสีขาวโพลน กำลังลอยตัวด้านบนอย่างสง่างาม


“ผู้สืบทอดร่วม ของแพ็กม่าและบราฮัม?”


“แค่เรียนวิชาผิวเผิน”


ขณะตอบกลับอย่างถ่อมตน กริดเริ่มบิดสะโพกเป็นวงกว้าง


เมื่อเห็นเช่นนั้น บีบันประเมินว่ากริดคงปลดปล่อยปราณดาบผสมเวทมนตร์ออกมาอีกระลอก จึงรวบรวมพลังปราณเข้มข้นไว้ยังปลายดาบ เตรียมยิงใส่เพื่อขัดขวาง


‘คงสิบวินาทีแล้วกระมัง’


ยามังกรเรามอบให้ได้ แต่ไม่ใช่กับพลังจิตไร้เทียมทาน!


บีบันเตรียมปิดฉากการดวลในดาบเดียว


พร้อมกันนั้น กริดมิได้กำลังเตรียมรำดาบ แต่เป็นการใช้ทักษะดาบโดยตรง


ช่วยไม่ได้ เมื่ออยู่ต่อหน้าบีบัน ท่ารำดาบคงกลายเป็นหมันไปแล้ว


และแน่นอน ทักษะดาบของกริดก็คือ


“ดาบพินาศทัพ…”


วิชาดาบมาดรา ราชาไร้พ่าย


พลังทำลายอาจไม่เต็มประสิทธิภาพ เนื่องจากเป็นวิชาดาบ ‘ลดระดับ’ แต่กริดมั่นใจว่า แม้ศัตรูจะเป็นอริยดาบ ก็ไม่สามารถสลายสิ่งนี้ได้ง่ายดายแน่นอน


โลกอาจไม่รู้จักมาดรา แต่กริดเข้าถึงความเยี่ยมของชายคนนั้นได้มากกว่าใคร


“หนึ่งแสน!”


“…!!”


บึ้ม!


บึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!!


ท่ามกลางเสียงระเบิดก้องกังวาน ห้วงมิติเวทมนตร์ของบีบันเกิดการสั่นสะเทือนรุนแรง


ขณะเดียวกัน ภายนอกห้วงมิติ…


‘ฝ่าบาท สู้เค้านะคะ…’


เนตรมองทะลุของเมอร์เซเดสช่วยให้เธอมองเห็นและรับรู้เหตุการณ์ด้านในทั้งหมด


ใช่แล้ว


บีบันกำลังแพร่งพรายความลับของหอแห่งปัญญาให้คนนอกรับรู้อย่างไม่จบสิ้น


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,516
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. 👍เยี่ยม​ครับ
    ค้างสิครับ🤭
    🤗จะรอนะครับ
    ขอบคุณ​มาก​ครับ​🙏

    ReplyDelete
  2. บีบันนน พี่จะโบ๊บ๊ะแบบนี้ไม่ได้นะ

    ReplyDelete
    Replies
    1. ได้ดิก็มันเป็นบุคลิคของบีบันนี่คับ

      Delete
  3. ถ้าบีบันไปเจอปีอาโร่นะ มีอึ้งอ่ะ "ถือจอบทำไม" 5555+

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00