จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,115



กายาสายฟ้า


ไม่มีใครชื่นชอบไคล์ มันคือเด็กกลายพันธุ์ร่างกายผิดแผก จะสร้างสายฟ้าทำร้ายทุกคนขณะย่างกรายเข้าใกล้


แม้กระทั่งพ่อแม่บังเกิดเกล้ายังไม่คิดเหลียวแล แต่กลับมีอยู่หนึ่งคนกล้ามอบความรักและความเอ็นดูให้ บุคคลดังกล่าวคืออดีตมหาจักรพรรดิแห่งซาฮารัน ฮวนเดอร์


ไคล์ไม่เคยลืมใบหน้าแสนมีความสุขของพ่อแม่ขณะขายบุตรชายให้ผู้อื่นสำเร็จ


มันต้องเผชิญชีวิตแสนทรหดตั้งแต่ยังเล็ก


ไคล์ฝึกฝนตัวอย่างหนักเพื่อให้ลืมเรื่องถูกพ่อแม่ทอดทิ้ง ในช่วงเวลาดังกล่าว จักรพรรดิได้มอบหมายให้อาจารย์คนหนึ่งคอยฝึกสอนเป็นพิเศษ และไคล์ก็ปรารถนาจะได้รับคำชมเชยจากคนคนนั้น


แต่ในภายหลัง มันกลับถูกอาจารย์คนดังกล่าวทอดทิ้งอย่างไม่ไยดี จิตใจไคล์จึงดำดิ่งลงสู่ก้นเหว เพื่อทวงคืนความมั่นใจกลับมา มันก้มหน้าฝึกฝนอย่างเอาเป็นเอาตายจนสามารถควบคุมพลังสายฟ้าได้ดั่งใจ เริ่มตอบสนองความคาดหวังของจักรพรรดิฮวนเดอร์ได้บ้าง


อย่างไรก็ตาม ไคล์พ่ายแพ้ผู้สืบทอดราชาไร้พ่ายอย่างหมดรูป ถึงขั้นเสียแขนไปหนึ่งข้าง ผลกระทบทางจิตใจในคราวนั้นเข้าขั้นหนักหนาสาหัส สมองถูกความหวาดกลัวกัดกินเป็นเวลานาน แต่ไคล์ก็ไม่ยอมแพ้และพยายามเอาชนะฝันร้ายเรื่อยมา


จนกระทั่งได้พบท่านเทพสงครามในโบราณสถานบนทะเลแดง เราจึงเชื่ออย่างหมดหัวใจว่าความพยายามตลอดชีวิตได้ผลิดอกออกผลแล้ว


พลังจากการฝ่าฟันอุปสรรคนานับชนิด


ไคล์พึงพอใจกับมันมาก


ไคล์เชื่อมาตลอดว่า ความแข็งแกร่งคือสิ่งเดียวในการทำให้มหาจักรพรรดิหันมาเหลียวแลตน หลังจากเคยผิดหวังไปแล้วหนหนึ่ง ขณะเดียวกัน ความแข็งแกร่งก็ยังเป็นปัจจัยช่วยให้ไคล์เอาชนะความกลัวต่อผู้สืบทอดราชาไร้พ่าย


แต่เมื่อกลับถึงจักรวรรดิอีกครั้ง


มีเพียงข่าวร้ายรอมันอยู่ มหาจักรพรรดิฮวนเดอร์สิ้นพระชนม์โดยไม่ได้ประจักษ์ความแข็งแกร่งของตน


ในวินาทีดังกล่าว ความรู้สึกโดดเดี่ยวอ้างว้างได้กัดกินจิตใจไคล์รุนแรง มันเคยคิดว่าความรู้สึกเช่นนี้คงไม่มีทางย้อนกลับมาอีก


สิ่งยึดเหนี่ยวเดียวในชีวิตจึงเหลือแค่พลัง


เป็นความภาคภูมิใจอย่างสุดท้ายของไคล์


แต่…


แต่สิ่งนั้นกลับถูกทำลายไม่เหลือซาก


ตัวมันพ่ายแพ้อย่างหมดสภาพ และถูกคนแปลกหน้าช่วยเหลือ ไม่ทราบแม้กระทั่งชื่อ


ถ้าต้องหนีอย่างอับอาย ขอเลือกตายตรงนี้ยังดีเสียกว่า


ชีวิตเราไม่มีค่ามาตั้งแต่แรกแล้ว


พ่อแม่คิดถูก กับการเลือกขายเราให้ฝ่าบาทในมูลค่าสูง พวกเขาสามารถขจัดตัวภาระของบ้านพร้อมกับได้เงินก้อนโตไปนอนกอด


“ตายไปซะให้หมด!!”


เราต้องผ่านเหตุการณ์นี้ให้ได้ ไม่อย่างนั้นคงมิอาจก้าวไปข้างหน้าอย่างสง่าผ่าเผย


ด้วยความเชื่อเช่นนี้ ไคล์จึงระเบิดพลังอัสนีออกไปรอบตัวหลังจากฟื้นฟูร่างกายกลับมาได้ระดับหนึ่ง


ซู่วววว—


เปรี้ยง! เปรี้ยง!! ครืนนนนนนน!!


ประจุไฟฟ้าพวยพุ่งออกไปทุกทิศทาง ตามด้วยเสียงระเบิดสนั่นหวั่นไหว


ตามหลักธรรมชาติแล้ว ปรากฏการณ์ฟ้าผ่าจะเกิดจากประจุไฟฟ้าบนก้อนเมฆมีปริมาณมากเกินกำหนด จึงต้องถ่ายเทไปยังจุดความต่างศักย์ต่ำกว่าอย่างพื้นดิน ในกรณีของไคล์ก็ไม่ต่าง มันทำการกระจายอนุภาคประจุไฟฟ้าจำนวนออกไปในอากาศ ทำตัวคล้ายก้อนเมฆ สร้างความต่างศักย์ทางไฟฟ้าจนเกิดพายุสายฟ้าเป็นวงกว้าง เรียกว่าเป็นเทคนิคทางวิทยาศาสตร์สำหรับสร้างสายฟ้าเทียมก็ไม่ผิดนัก


ถึงพายุสายฟ้าจะไม่ได้มาจากไคล์ แต่ก็มีต้นกำเนิดมาจากพลังของไคล์


ตัวมันช่างยิ่งใหญ่ประหนึ่งเทพสายฟ้า สามารถดลบันดาลปรากฏการณ์ทางธรรมชาติได้ดังใจนึก


ทุกคนในสนามรบต่างพากันหวาดกลัวอิทธิฤทธิ์ของไคล์ถ้วนหน้า


‘สุดยอดพรสวรรค์ เข้าใจว่าทำไมท่านเทพสงครามถึงได้ชื่นชอบนัก’


แม้กระทั่งลีจองก็ยังชื่นชมศักยภาพไคล์


ปัจจุบันอาจยังไม่เติบโตเต็มวัย แต่ในอนาคตห่างไกลต้องทัดเทียมกับสามผู้รับใช้แห่งเทพสงครามได้แน่นอน


ขณะลีจองกำลังตรึกตรอง เสียงฟ้าผ่าระลอกใหม่ดังตามมา แต่คราวนี้กลับดังอย่างผิดธรรมชาติ ราวกับมีใครลั่นระฆังสวรรค์เพื่อเฉลิมฉลองงานเทศกาลบนดินแดนแอสการ์ด


เปรี้ยงงงงงงง!!


ดังจนขุนเขาโยกคลอน ผืนดินสั่นสะเทือน


ผู้อื่นอาจมิได้เอะใจนัก แต่สำหรับยอดนักสู้อย่างลีจอง มันสัมผัสถึงภัยอันตรายรุนแรง


“…!?”


เมื่อลีจองหันกลับไปมองต้นเสียง


เปรี้ยะ! เปรี้ยะ! เปรี้ยะ!!


มนุษย์ร่างกายส่องแสงผู้หนึ่งร่อนกระแทกพื้นพร้อมกับใช้มือขวากระชากคอไคล์จนขาลอยสูง


ไม่น่าเชื่อว่าจะมีใครสามารถฝ่าพายุสายฟ้าสุดเกรี้ยวกราดของไคล์เข้าไปประชิดตัวมันได้ เรียกว่าปาฏิหาริย์ก็ยังได้ แถมยังใช้มือบีบคอไคล์อย่างสิ้นท่า


“ค… แค่ก!!”


ตั้งแต่ตอนไหนกัน?


ไคล์พยายามดิ้นรนให้หลุดรอดจากฝ่ามือของชายแปลกหน้า ขณะเดียวกันก็เปลี่ยนประจุสายฟ้ารอบตัวให้กลายเป็นหอกอัสนีพุ่งกลับมาช่วยปกป้องตน


เปรี้ยง!!


หอกอัสนีหลายสิบเล่มทะลวงใส่ร่างบุรุษปริศนาอย่างอำมหิตในเวลาไล่เลี่ย


แต่ไคล์ยังคงหายใจไม่ออกเช่นเดิม


แรงบีบจากฝ่ามือบุคคลปริศนามิได้ลดลงเลย เคยรัดแน่นเช่นไรก็รัดแน่นอยู่อย่างนั้น


‘ไม่เป็นอะไรเลยหรือ’


ทำไมกัน


ไม่สิ ไม่มีเวลามัวคิดเรื่องนั้น


ตอนนี้ต้องรีบหาทางเอาตัวรอด


ไคล์คิดไวทำไว แปลงกายตัวเองให้เป็นสายฟ้าทุกส่วน เพื่อจะได้หลุดพ้นจากฝ่ามือบุรุษป่าเถื่อน


แต่ว่า


“…!!”


ขณะไคล์กำลังเปลี่ยนสถานะตัวเองให้กลายเป็นสายฟ้า มันเกิดความรู้สึกว่า ตนต้องตายแน่นอนหากไม่รีบหยุดการกระทำ


ยิ่งร่างกายเข้าใกล้ความเป็นสายฟ้ามากเพียงใด มันก็ยิ่งเจ็บปวดทรมานมากเท่านั้น ไคล์ไม่มีทางเลือกนอกจากยกเลิก


สิ่งมีนี้สาเหตุมาจาก พลังสายฟ้าของอีกฝ่ายกำลังแผดเผาทุกสรรพสิ่งรอบข้างอย่างต่อเนื่อง หากมันกลายเป็นสายฟ้าเต็มตัว ร่างของตนจะได้รับความเสียหายจากเวทมนตร์อย่างรุนแรง


แม้จะเป็นสายฟ้าเหมือนกัน แต่แรงดันไฟฟ้าต่างกันลิบลับ


แค่แหล่งกำลังก็ต่างกันแล้ว


ไฟฟ้าของไคล์จะถูกสร้างจาก ‘กายเนื้อ’ สิ่งนี้ถือเป็นพรสวรรค์ติดตัวมาตั้งแต่ยังเล็ก


เรื่องราวมีอยู่ว่า ไคล์ในวัยเด็กได้เดินทางไปยังทวีปตะวันออก และได้รับพรคุ้มกายจากมังกรครามโดยบังเอิญ แต่เนื่องจากเป็นกายาของมนุษย์และยังเด็กมาก จึงรับพลังสายฟ้าเข้าไปได้ในปริมาณจำกัด ‘พรสวรรค์’ ของมันจึงไม่ได้มากมายขนาดนั้น


แต่ในทางกลับกัน กริดใช้ลมหายใจของสัตว์เทพโดยตรง ถึงจะเป็นเพียงพลังบางส่วน แต่สิ่งนี้คือพลังสัตว์เทพอย่างไร้ข้อกังขา ความเข้มข้นย่อมต่างจากพรประทานทารก


หากแรงดันไฟฟ้าของไคล์มีค่า 10,000 โวลต์หรือ 100,000 โวลต์ พลังไฟฟ้าจากลมสายใจมังกรครามจะมีค่าราว 1 ล้านโวลต์หรือ 10 ล้านโวลต์


หากต้องการเห็นภาพชัดเจนกว่านั้น ให้จินตนาการถึงปิกาจูและไรจู กริดและไคล์แตกต่างในลักษณะเดียวกัน


ตราบใดกริดยังสวมรองเท้ามังกรคราม ตัวตนลำดับต่ำกว่าอย่างไคล์ก็หมดโอกาสสร้างความเสียหายโดยสิ้นเชิง


เมื่อสุ้มเสียงแสนเย็นชาและทุ้มต่ำของอีกฝ่ายดังแว่วข้างหู ไคล์พลันหน้าซีดประหนึ่งคนไม่รู้ภาษาโดนชาวต่างชาติเดินเข้ามาทัก


“ไม่เจอกันนานเลยนะ”


“อุ๊!!”


ไคล์เผลอกัดลิ้นตัวเนื่องจากตกใจเกินเหตุ


การดิ้นรนอย่างสูญเปล่าหยุดลง แขนขาของมันอ่อนเปลี้ยไร้เรี่ยวแรงอย่างกะทันหัน ของเหลวปริศนาไหลซึมจากหว่างขาโดยมิอาจยับยั้ง


เยี่ยวแตก…


ไคล์เพิ่งสำแดงอิทธิฤทธิ์เยี่ยงเทพได้ไม่นาน แต่ปัจจุบันกลับถูกข่มขู่ด้วยวาจาจนฉี่เรี่ยราดราวกับไม่มีหูรูด


หงึกหงึกหงึก…


ร่างกายไคล์กำลังสั่นเทา


แขนซ้ายงอกใหม่เมื่อไม่กี่เดือนก่อน ยามนี้กำลังร้อนรุ่มและเต็มไปด้วยความเจ็บปวด


“…”


เราจะจัดการสาวกเทพสงครามได้ก่อนบัฟ ‘เทพสายฟ้า’ จะหมดลงจริงหรือ? ในเมื่ออีกฝ่ายยังเหลือพลังชีวิตเกินกว่าครึ่งหลอด


ขณะกริดกำลังก้มหน้าครุ่นคิด ข้อความระบบใหม่ได้แจ้งเตือนตรงมุมหน้าจอ


[เป้าหมายสูญเสียกำลังใจต่อสู้]


‘ต้องอย่างนั้น…’


กริดอาศัยประสบการณ์ของตัวเองจงใจทำให้เกิดเรื่องเช่นนี้


ไคล์


มันเคยถูกบราฮัมสร้างแผลฉกรรจ์ทางจิตใจพร้อมกับตัดแขนไปหนึ่งข้าง สมัยนั้น บราฮัมยืมร่างกริดและต่อสู้กับแอ็กนัสด้วยเวทมนตร์ระดับตำนาน ไคล์เป็นเพียงเหยื่อของลูกหลง แถมบราฮัมยังปฏิบัติกับไคล์ประหนึ่งมันเป็นเพียงมดปลวก ส่งผลให้ไคล์ยังคงหวาดกลัวบราฮัมจนถึงตอนนี้ และมันกำลังเข้าใจผิดว่าเราคือบราฮัม


ไม่ต้องพูดเรื่องขัดขืน แค่มองตายังไม่กล้า


“คราวนี้จะยอมปล่อยไปก็ได้”


ตนไม่ควรเสียเวลาสู้กับ NPC พิเศษมากเกินไป การฆ่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย หากบีบคั้นจนอีกฝ่ายจนตรอก เหตุการณ์จะยิ่งยุ่งยากซับซ้อน ปล่อยให้นั่งเยี่ยวราดเช่นนั้นดีแล้ว


กริดทิ้งไคล์ไว้และรีบพุ่งเข้าหาสาวกเทพสงครามใกล้กับเมอร์เซเดสทันที อีกฝ่ายสวมผ้าคลุมหัวและผ้าคาดตามิดชิด


จากการสำรวจสนามรบอย่างคร่าว กริดเกลียดชังสาวกตนนี้เป็นอันดับหนึ่ง


สาเหตุเพราะไอ้บัดซบนี่บังอาจทำให้ร่างกายเมอร์เซเดสเต็มไปด้วยบาดแผล


“กล้าแตะต้องอัศวินของฉันเชียว”


“…!”


ดวงตาลีจองภายใต้ผ้าปิดตากำลังสั่นระริก


บุคคลทรงพลังผู้สยบไคล์ในพริบตา แท้จริงแล้วคือเจ้านายของเมอร์เซเดสเองหรือ


‘เริ่มเข้าใจขึ้นมาบ้างแล้ว ว่าทำไมเธอถึงหน้ามืดตามัวรับใช้มนุษย์เยี่ยงเทพเช่นนั้น’


วาบ.


มันรู้สึกเย็นเฉียบไปถึงกระดูก


ความรู้สึกนี้มีบ่อเกิดจากพลังของเทพมังกรครามเพียงอย่างเดียว


สมัยยังรับใช้เทพตกสวรรค์ เหตุใดมันถึงไม่เคยพบมนุษย์แข็งแกร่งเช่นนี้เลยสักครั้ง


“…แบบนี้นี่เอง”


ลีจองผุดสมมติฐานใหม่


“เจ้าเองก็เหมือนกับเทพตกสวรรค์สินะ”


“…?”


“ช่างโง่เขลานัก พวกมันไม่ใช่แสงสว่างของเผ่าพันธุ์มนุษย์!”


เทพตกสวรรค์


เหตุใดถ้อยคำจากปากแกรนมาสเตอร์ ถึงผุดออกจากปากไอ้ระยำนี่ได้?


เปรี้ยะ!


กริดชิงลงมือ


ไม่ใช่เวลามัวสืบข้อมูล ตอนนี้ต้องเร่งมือจัดการอีกฝ่ายโดยเร็วก่อน


‘เทพสายฟ้า’ จะแสดงผลก็ต่อเมื่อรักษาความเร็วสูงสุดเอาไว้ได้เท่านั้น


และปัจจุบัน กริดกำลังอยู่ในสภาพความเร็วสูงสุด ร่างกายคล่องแคล่วว่องไวเทียบได้กับสิ่งมีชีวิต ‘เหนือมนุษย์’ ระดับสูง


เปรี้ยงง!!


แม้ผืนป่าจะเงียบสงบไปแล้วหนหนึ่งจากการรีบเก็บประจุไฟฟ้าอย่างลนลานของไคล์ แต่ปัจจุบันเกิดเสียงท้องฟ้าคำรามอีกระลอก


ลีจองถูกโจมตีเก้าครั้งถ้วน แถมกริดยังเสร็จสิ้นการรำดาบในเวลาเดียวกัน


“มายาร่ายรำสะพรั่ง”


‘นี่มัน… วิชาดาบ?’


ชายคนนี้ลงเรือลำเดียวกับเทพตกสวรรค์แน่หรือ?


—!


ท่ามกลางความเงียบงัน ปราณดาบหลายสิบเส้นกระแทกใส่แผ่นเหล็กตรงข้อมือลีจองหนแล้วหนแล้ว


กริดไม่ได้เล็งไปยังตรวน แต่เป็นเพราะลีจองยกมันขึ้นมาป้องกัน


แต่กันได้สำเร็จใช่ว่าจะรอดตัวเสมอไป


เปรี้ยงงงงงง!!


เสียงฟ้าผ่าดังตามหลัง


เปรี้ยะ! เปรี้ยะ!


ร่างลีจองพลันชักกระตุก


แผ่นโลหะคือสื่อนำไฟฟ้าชั้นเลิศ การถูกสายฟ้าผ่าใส่โดยตรงย่อมสร้างอาการช็อกไฟฟ้า


แต่เกิดเรื่องน่าตกตะลึงขึ้น


ฟุ่บ—!


ลีจองฉวยโอกาสทีเผลอสวนกลับได้อย่างสมบูรณ์แบบ


ลูกเตะของมันปะทะใส่ขมับกริดเต็มแรง


ค่อนข้างน่าประหลาดใจไม่น้อย เมื่อจิตมุ่งมั่นของ ‘เหนือมนุษย์’ สามารถก้าวข้ามขีดจำกัดฟ้าดินอย่าง ‘อาการผิดปรกติ’ มาได้ แถมความเร็วในการหลุดพ้นก็สูงว่าเหนือมนุษย์ทั่วไปค่อนข้างมาก


แต่ปัญหาคือ


การสวนกลับจะไม่มีประโยชน์เลยสักนิด หากก่อนหน้านั้นถูกโจมตีเข้าอย่างจังจนตัวเองบาดเจ็บหนัก


ฝ่าเท้าลีจองเตะโดนกริดแน่นอน เรื่องนี้ทุกคนล้วนประจักษ์ แต่ราชาโอเวอร์เกียร์กลับไม่ได้รับความเสียหายแม้แต่รอยขนแมว เพราะเท้าของลีจองเตะกวาดผ่านศีรษะไปประหนึ่งเป็นเพียงมวลอากาศ


‘ระดับของฐานะยังต่างกันสินะ’


ไม่มีจุดอ่อนเลยสักนิด


ประหนึ่งเทพสายฟ้าตัวจริงก็มิปาน


ขณะลีจองกำลังครุ่นคิด หน้าอกของมัน…


ฉึกกกก!


ถูกแทงลึกเข้าไปในผิวหนัง


หลังจากกระอักเลือดเสร็จ ลีจองรีบขยับตัวเตรียมหนีทันที แต่กลับถูกกริดดักโจมตีล่วงหน้าราวกับมองเห็นอนาคต


“น่าทึ่งมาก!”


ลีจองตะโกนเชยชมพลางโยกตัวหลบดาบอย่างคล่องแคล่ว จากนั้นก็เตะสวนกลับไป แต่ก็ไม่เกิดประโยชน์อันใดเช่นเดิม


“มายาร่ายรำทำลายล้างสังหาร”


หนึ่งในทักษะท่าไม้ตายของกริดหลังจากพัฒนาวิชาดาบเวทมนตร์จนทรงพลัง สี่ทักษะดาบรุนแรงมาพร้อมสี่เวทมนตร์ระดับภัยพิบัติ


ไม่ผิดนักหากจะบอกว่ากริดหวังปิดฉากให้สิ้นซากในการโจมตีนี้


สัญชาตญาณของลีจองร้องเตือนทันที


‘ถ้าไม่มีตรวนอาจยังพอรับมือไหว…’


เราคำนวณพลาดไป


ศัตรูผู้นี้ไม่เหมือนกับศัตรูในอดีตคนใดเลย


ขณะลีจองกำลังตัดพ้อ ว่าตนไม่ควรสวมตรวนสำหรับฝึกวิชามาเข้าสนามรบ


[บัฟร่างมืดหมดเวลา]


ความเร็วกริดช้าลงถนัดตา


[บัฟเทพสายฟ้าถูกยกเลิก]


แสงออร่ารอบตัวกริดพลันสลายไป


แต่ชายหนุ่มมิได้ตื่นตระหนก เพราะมันคำนวณเวลาบัฟหมดไว้ล่วงหน้าแล้ว จุดประสงค์สุดท้ายมีเพียงปลดปล่อยมายาร่ายรำทำล้างร่างสังหารออกไป


เหลืออีกเพียงก้าวเดียวก็จะเสร็จสมบูรณ์


เหนือสิ่งอื่นใด ศัตรูถูกมาร์คครบจำนวนตั้งแต่ทักษะก่อนหน้าแล้ว


ผลแพ้ชนะของการต่อสู้กำลังจะข้อสรุปในอีกไม่ช้า


เมื่อมั่นใจ ชายหนุ่มเหวี่ยงดาบอัสนีแห่งการบรรจุสัจธรรมฯ พร้อมกับเต้นรำก้าวสุดท้าย


“อาณาเขตแสงทมิฬ!”


ฝีมือลีจองในยามสวมตรวน เทียบเท่ากับเมอร์เซเดสในยามเอาจริง


ฉะนั้น หากกริดปราศจากร่างสายฟ้า โอกาสชนะซึ่งหน้าเรียกได้ว่าริบหรี่เหลือเกิน


“…?!”


ภาพการมองเห็นชายหนุ่มพลันดำมืด


การเคลื่อนไหวเป็นไปอย่างสับสน


วาบ—


จุดแสงพุ่งทะลวงร่างด้วยความเร็วเหนือจินตนาการ ชนิดไม่สามารถตอบสนองได้ทัน


[ท่านได้รับความเสียหาย 145,900 หน่วย]


[สมญานาม ‘กษัตริย์คนแรก’ ทำงาน]


[นำความเสียหายในหนึ่งนาทีหลังสุดมาสร้างเป็นบาเรียคุ้มกายดูดซับความเสียหาย และยังสามารถเคลื่อนไหวได้ทุกพื้นผิว ความเร็วและพลังป้องกันเพิ่มขึ้น 10%]


[‘พลังทีราเม็ท’ จากอักขระความมืดทำงาน]


[หากพลังชีวิตลดต่ำกว่า 10% จะทำการฟื้นฟูพลังชีวิต 30% ทันที]


“อั่ก…!”


เลวร้ายสุดขีด


เนื่องจากสูญเสียการมองเห็น ท่ารำดาบของมายาร่ายรำทำลายล้างสังหารจึงถูกยกเลิกในวินาทีสุดท้าย


‘เราเสียเวลามากเกินไป’


ขณะมาถึงป่าต้นไม้โลกด้วยเวทมนตร์เคลื่อนย้ายมิติ กริดสัมผัสถึงแรงสั่นสะเทือนพร้อมกับข้อความระบบเตือนว่า อัสโมเฟลทำการใช้งานพลังความมุ่งมั่นของอันดับสอง


นับแต่นั้น เราก็รีบรุดมายังจุดเกิดเหตุ


ทว่า ผืนป่ากว้างใหญ่เกินไปและมีสิ่งกีดขวางมากมาย การเคลื่อนไหวจึงช้ากว่ากำหนด ยิ่งเมื่อเห็นเมอร์เซเดสตั้งปณิธานของอัศวินใหม่ เราก็ยิ่งตื่นตระหนก ลงเอยด้วยการใช้ร่างมืดเพื่อย้ายตำแหน่งตัวเองโดยเร็ว


เราไม่รู้สถานการณ์ของอีกฝั่ง การอัญเชิญอัศวินจึงไม่ใช่คำตอบ มีเพียงต้องพึ่งพาพลังตัวเองเท่านั้น


ผลลัพธ์จึงออกมาเป็นเช่นนี้


พ่ายแพ้งั้นหรือ?


“หือ… โดนอาณาเขตแสงทมิฬเข้าไปเต็มๆ แล้วยังยืนไหวอยู่อีกหรือ…?”


ยังไม่แพ้


จากการยื้อเวลาของเรา ป่านนี้อัสโมเฟลและเมอร์เซเดสคงฟื้นฟูตัวเองกลับมาได้บางส่วนแล้ว


“ฝ่าบาท!!”


ขณะเห็นกริดยืนตัวตรงอย่างมันคง ลีจองได้เผยสีหน้าประหลาดใจสุดขีด


ในเวลาเดียวกัน ชายหนุ่มเหลือบเห็นสองร่างกำลังพุ่งมาทางตนด้วยความเร็ว


อัสโมเฟลถือดาบแดงเพลิงจู่โจมอย่างพิโรธโกรธแค้น ส่วนเมอร์เซเดสถือดาบแก้วแผ่บรรยากาศเย็นเฉียบ อัศวินสาวพุ่งโจมตีศัตรูด้วยท่วงท่าองอาจสง่างาม พลังสองขั้วตรงข้ามกำลังสอดประสานอย่างลงตัว


กริดเข้าร่วมประสานการโจมตี


“เทพตกสวรรค์คือใคร! ตอบมา!!”


เปรี้ยงงงงง—!


“ค…แค่ก!!”


ยอดนักดาบสามคนปลดปล่อยปราณดาบท่วมท้นท้องฟ้า คลื่นพลังสามเส้นหมุนเป็นเกลียวรวมกันเป็นหนึ่ง พุ่งปะทะแผ่นอกสาวกเทพสงครามลีจองจนเกิดเสียงดังสนั่น

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,504
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. มันส์มากกกกก
    ขอบคุณนะครับ

    ReplyDelete
  2. ตายแน่ลีจอง
    ตอนหน้า เหลือนั่งจอง ๆ

    ReplyDelete
  3. ขอบคุณ​มาก​ครับ
    ปิกาจู​😻

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00