จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,116



‘เจ็ดมารล้มเหลวเพราะไม่ยอมขอให้เทพตกสวรรค์ร่วมมือ’


นั่นคือคำบอกเล่าจากซิกเฟรคเตอร์


มันยืนกราน


ในการจะดึงเทพยุคสมัยปัจจุบันออกจากตำแหน่ง จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากเทพตกสวรรค์เท่านั้น


และหนทางเดียวในการพบเทพตกสวรรค์คือต้องฝ่าด่านคุกนรกเข้าไป


แท้จริงแล้วเทพตกสวรรค์เป็นใครกันแน่?


กริดผุดความสงสัยเหนือพรรณนา


พลังขั้นต่ำสำหรับสำรวจคุกนรกคือ อย่างน้อยก็ต้องล้มไฮดราให้สำเร็จ


แต่ว่า


“เทพตกสวรรค์เป็นใคร! ตอบมา!!”


ดูเหมือนสาวกเทพสงครามตนนี้จะมีข้อมูลของเทพตกสวรรค์ในมือ แถมยังรู้จักเป็นอย่างดีเสียด้วย ถือเป็นขั้วตรงข้ามแกรนมาสเตอร์โดยสิ้นเชิง


เปรี้ยงงงงง—!


‘ร่ายรำ’ ของกริดถูกปลดปล่อยใส่เป้าหมายอย่างเกรี้ยวกราด


คลื่นดาบหลายสิบเส้นแหวกอากาศพุ่งเข้าหาหน้าอกลีจอง แต่อีกฝ่ายรีบใช้ท่วงท่าพิสดารป้องกันได้ทัน


มันควรจะไร้รอยขีดข่วน


ฉัวะ—!


‘ได้ยังไง?’


ลีจองประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง


เกิดบาดแผลบริเวณใต้เสื้อคลุมในจุดเหนือหางคิ้ว ลักษณะคล้ายถูกคมมีดกรีดเฉือน


ตามลำตัวปรากฏบาดแผลแบบเดียวกันอีกหลายแห่ง หยดเลือดเริ่มไหลซึมประปราย


สิ่งนี้คือเอฟเฟคเวทมนตร์ ‘ลมเฉือน’ ของบราฮัม จะสร้างสายลมเชือดเฉือนในการโจมตีทุก 4 ครั้งของร่ายรำ


แน่นอน ความรุนแรงของเวทมนตร์มิได้มากมายนัก ไม่ทำให้ลีจองเกิดความรู้สึกเจ็บปวดสักเท่าไร


แต่ร่างกายลีจองกลับกำลังสั่นเทาอย่างหยุดไม่อยู่


‘คิดไม่ถึงมาก่อน…’


ว่าจะมีมนุษย์คนใดสามารถผสานวิชาดาบและเวทมนตร์ได้กลมกล่อมลงตัวขนาดนี้


ไม่ว่าจะเป็นนักดาบยอดเยี่ยมสักเพียงใด หรือไม่ว่าจะเป็นจอมเวทอัจฉริยะขนาดไหน ก็ไม่เคยมีใครทำได้เลยสักครั้ง


‘นี่น่ะหรือ… ศาสตร์แห่งโอเวอร์เกียร์?’


มันไม่มีทางเลือกนอกจากยกย่องศัตรู


ลีจองยกให้สิ่งนี้เป็นหนึ่งในสุดยอดศาสตร์การต่อสู้ระดับแถวหน้าของโลก


มันมั่นใจ หากอีกฝ่ายมีพลังมากกว่านี้อีกสักนิด ตนคงได้ประสบความพ่ายแพ้ไปแล้ว


‘บรรลุถึงจุดนี้ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาพลังของเทพสงคราม…’


ลีจองเริ่มทบทวนคำพูดเมอร์เซเดสใหม่ เธอเคยกล่าวไว้ว่า ‘ฝ่าบาทของข้ามีพลังทัดเทียมเทพ’


‘มนุษย์คนนี้อันตราย’


ต้องรีบฆ่าทิ้ง


หากมนุษย์ตรงหน้าไม่ถูกกำจัดวันนี้ อนาคตต้องเป็นภัยใหญ่หลวงต่อเทพแน่นอน


ขณะลีจองเตรียมปลดตรวน เพื่อเอาจริงและจบการต่อสู้อันยาวนานนี้ลงสักที


พรึ่บ—!


ไอความร้อนเริ่มสัมผัสกับแผ่นหลังลีจอง


บึ้มมมมมม—


ตามด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส


ดาบพิโรธอัสโมเฟลทรงพลังสมคำร่ำลือ


“คึ่ก…!”


[ทำการโจมตีประสานร่วมกับคนสนิท!]


ขณะอนุภาคความร้อนกำลังแผดเผาโลหิตตามลำตัวจนเกิดไอน้ำ ลีจองกัดฟันกรอดพร้อมกับเพิ่งสมาธิเตรียมใช้วิชาใหม่


เพียงพริบตา ปลายนิ้วปริศนาทะลวงใส่ลำคอกริดโดยไม่มีใครมองตามทัน ภาพการมองเห็นของชายหนุ่มพลันเลือนรางกะทันหัน บาเรียคุ้มกายจากสมญานามกษัตริย์คนแรกถูกทำลายลงในพริบตา


“บัดซบ…!”


ทำไมจู่ๆ หมอนี่ถึงได้…?


กริดพลันเย็นไปถึงกระดูกเมื่อได้ประจักษ์พลังของลีจอง


แต่กระนั้นก็มิได้หวาดกลัว


เพราะมันไม่ได้ต่อสู้ตามลำพัง


ฉึกกกกก—!!


“อ๊ากกกกก!!”


ขณะเตรียมปิดบัญชีกริด ลีจองส่งเสียงครวญครางกะทันหัน


ดาบเสือขาวในมือเมอร์เซเดสแทงใส่ด้านข้างลำตัวจนมิดด้าม


[ชิ้นส่วนลับของระบบผู้เล่น ‘โจมตีประสาน’ ทำงาน!]


‘ตอนนี้แหละ…!’


เมื่อมีเมอร์เซเดสช่วยยื้อเวลาให้ กริดย่อมไม่พลาดจังหวะสำคัญ


ภาพมองเห็นอันพร่ามัว มิได้ทำให้การปลดปล่อยวิชาดาบเชื่องช้าลงแต่อย่างใด


“สะพรั่งทำลายล้างร่ายรำสังหาร!!”


[ความรุนแรงทักษะเพิ่มขึ้น 240% จากผลของชิ้นส่วนลับ ‘โจมตีประสาน’]


โจมตีประสาน


ชิ้นส่วนลับเฉพาะผู้เล่นเท่านั้น จะแสดงผลก็ต่อเมื่อ ทำการโจมตีในจังหวะเดียวกับพวกพ้องคนสนิท


ในอดีต กริดเคยสัมผัสประสบการณ์มาแล้วจากความร่วมมือของปิอาโร่และมาซง


เหนือสิ่งอื่นใด กริดคือผู้ค้นพบชิ้นส่วนนี้เป็นคนแรกของโลก


[ท่านค้นพบ ‘โจมตีประสาน’ เป็นคนแรก!]


[ความสำเร็จช่วยเพิ่มความรุนแรงทักษะเป็น 260%]


ค่าพลังโจมตีพื้นฐานของ ‘สะพรั่งทำลายล้างร่ายรำสังหาร’ คือ 1,850% ต่อหนึ่งเส้นคลื่นดาบ โดยท่าเปิดจะเป็นการรัวแทงทั้งหมด 7 ดาบติดต่อกันภายในหนึ่งวินาที


แม้กระทั่งสิ่งมีชีวิตมากพลังป้องกันและพลังชีวิตอย่างจอมอสูร พวกมันก็ไม่กล้าละเลยท่าโจมตีชนิดนี้


ฉะนั้น สิ่งมีชีวิตประเภท NPC หลอดเลือดไม่สูงมากนักอย่างลีจอง ไม่ควรรับ ‘สะพรั่งทำลายล้างร่ายรำสังหาร’ ในรูปแบบโจมตีประสานเข้าไปโดยตรง


“…!”


มันถึงกับร้องเจ็บปวดไม่ออก


หลอดพลังชีวิต แต่เดิมก็เหลือไม่มากอยู่แล้ว ยามนี้กลับยิ่งจมก้นจนถึงจุดอันตราย


การถูกโจมตีจากเมอร์เซเดสก่อนหน้า ทำให้มันไม่สามารถหลบดาบกริดพ้น


“แค่ก…! แค่ก!”


กลิ่นคาวเลือดเริ่มคละคลุ้งอบอวล


ลีจองพลิกตัวหลบการโจมตีซ้ำจากเมอร์เซเดส ตามด้วยการใช้ฝ่ามือกระแทกใส่ดาบอัสโมเฟล


สายตาของมันจ้องมองกริดผู้กำลังยืนซดโพชันด้วยฝ่ามือสั่นระริก


“เจ้าไม่รู้จักจริงหรือ”


“ถ้าหมายถึงเทพตกสวรรค์ แน่นอนว่าฉันไม่รู้จัก ถึงได้ถามนาย”


“คึ่ก…! คึ่กคึ่กคึ่ก…!”


ลีจองระเบิดเสียงหัวเราะ


มันไม่ได้หัวเราะให้กับสถานการณ์ยากลำบากตรงหน้า


แต่มันกำลังหัวเราะกริด


ไม่มีมุกตลกใดขำไปกว่านี้อีกแล้ว…


เหตุใดผู้สืบทอดวิชาดาบแพ็กม่า ถึงไม่รู้จักตัวตนของเทพตกสวรรค์?


ดูเหมือนชายคนนี้จะไม่ใช่สมุนของเทพตกสวรรค์หรืออะไรเทือกนั้น


ลีจองยืนหัวเราะท้องแข็งจนกริดเกือบหมดความอดทน แต่มันก็ยอมเปิดปากพูดในตอนสุดท้าย


“รู้ใช่ไหมว่ายังมีอีกทวีปหลังทะเลแดง”


กริดพยักหน้า


“ฉันเคยไปทวีปตะวันออกมาแล้ว”


“มีอาณาจักรแห่งหนึ่งชื่อว่า ‘ฮวาน’ ”


“…?”


มาถึงจุดนี้ ฝ่ามือของกริดเริ่มสั่นเทา


“อาณาจักรดังกล่าวปกครองโดยเซียน”


ยังบัน…


อย่าบอกนะว่า…?


ลีจองแสยะยิ้มชอบใจเมื่อเห็นกริดกำลังแสดงสีหน้าตกตะลึง


“ใช่แล้ว พวกมันคือเทพตกสวรรค์”


“เดี๋ยว!”


ยังบันปฏิบัติตัวต่อมนุษย์ได้ต่ำทรามมากเพียงใด กริดย่อมเคยเห็นมากับตา


และนั่นคือเหตุผลให้มันไม่ยอมรับ


“เหลวไหล… เป็นไปไม่ได้แน่”


เหตุผลทำให้เจ็ดมารปฏิเสธเทพและพยายามก่อกบฏ คือ เหล่าเทพทุกตนล้วนมีบาปติดตัวและไม่บริสุทธิ์ผุดผ่อง


ริษยา ทรยศ หลอกลวง และอีกมาก…


เมื่อเทพเริ่มสร้างบาปและเป็นภัยอันตรายต่อมนุษย์ เจ็ดมารได้ลุกขึ้นต่อต้าน และนั่นกลายเป็นการช่วยปกป้องมนุษย์ไปในตัว


แต่กลับบอกว่าความหวังสุดท้ายคือยังบัน?


พวกมันเดรัจฉานยิ่งกว่าสัตว์ ความชั่วช้าเทียบไม่ได้เลยกับบาปเล็กน้อยของเทพ


หลังจากถูกความสับสนถาโถมหนักหน่วง กริดวิงเวียนศีรษะไปพักใหญ่ ก่อนจะเงยหน้ามองไปทางลีจอง


“คิดว่าคนอย่างฉันจะตกหลุมพรางคำลวงตื้นเขินเช่นนี้หรือ?”


“คึ…! คึฮ่าฮ่าฮ่า!!”


ลีจองระเบิดเสียงหัวเราะอีกครั้ง


เมื่อเมอร์เซเดสเห็นกริดมีใบหน้าแดงก่ำด้วยอากัปกิริยาโกรธจัด เธอรีบพุ่งโจมตีลีจองโดยไม่ลังเล แต่อีกฝ่ายในสภาพปลดตรวนกลับป้องกันไว้ง่ายดาย


เมื่อแขนเป็นอิสระ อะไรก็ง่ายไปหมด


“เคยบอกไปแล้วไม่ใช่หรือ เทพตกสวรรค์ไม่ใช่แสงสว่างของเผ่าพันธุ์มนุษย์”


“…”


“พวกมันถูกปลดตำแหน่งและขับไล่ออกจากสวรรค์เพราะอ่อนแอ มิใช่เหตุผลสวยหรูอย่างการ ‘พยายามปกป้องมนุษย์จนเกิดความขัดแย้งกับเทพ’ หรอกนะ”


“แต่เจ็ดมาร… ต้องการให้พวกมันช่วยเหลือ…”


“ช่วยเหลือ? ก็คงจะเป็นเช่นนั้นกระมัง เพราะหากเจ็ดมารยืมพลังจากเทพตกสวรรค์ได้จริง โอกาสเอาชนะเทพในสงครามศักดิ์สิทธิ์ก็จะเพิ่มขึ้นมาก”


“…?”


“เจ้าชื่อโกลด์ใช่ไหม”


“ห้ามเรียกนามจริงของฝ่าบาทพร่ำเพรื่อ!! แล้วท่านชื่อกริด! มิใช่โกลด์!!”


“ก็มันออกเสียงยากนี่นา…”


ลีจองยังคงเล่าต่อไปแม้จะถูกเมอร์เซเดสโจมตีใส่อย่างฉุนเฉียว


“ข้าไม่สนว่าเจ้าจะพบเจ็ดมารได้อย่างไร แต่สิ่งนั้นมิได้เปลี่ยนแปลงความจริงไป”


“…?”


“เจ็ดมารเคยพูดหรือไม่… ว่าเทพตกสวรรค์เป็น ‘คนดี’ ?”


“…!”


ไม่เคย…


แกรนมาสเตอร์เพียงพูดว่า พลังของเทพตกสวรรค์จำเป็นสำหรับการกระชากเทพยุคสมัยปัจจุบันลงมาจากตำแหน่ง แต่ไม่เคยเล่าว่าเทพตกสวรรค์มีนิสัยเช่นไร


“เทพทุกตนล้วนชั่วร้าย มีมนุษย์ไม่น้อยคิดเช่นนี้ แต่ข้าอยากให้ลองจินตนาการตาม มนุษย์เป็นผู้ปลูกดอกไม้ลงในกระถาง แต่บางครั้งมนุษย์ก็อิจฉาความงามของมัน บางคราวก็รู้สึกอิจฉาความสงบสุขของมัน และเมื่อดอกไม้ตายลง มนุษย์ก็ยังนำซากมาทำเป็นปุ๋ยเพื่อปลูกดอกรุ่นต่อไป ในมุมมองของเมล็ดพันธุ์ดอกไม้รุ่นใหม่ สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่การทำบาปหรอกหรือ? นับตั้งแต่อดีต เทพเป็นผู้ลิขิตชะตากรรมของโลกมาโดยตลอด แต่มนุษย์ก็ยังใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้จนถึงปัจจุบันไม่ใช่หรือ? ข้าอาจไม่ทราบเรื่องของอนาคตก็จริง…”


“…”


“แต่มีหนึ่งสิ่งแน่ชัด”


ลีจองเกิดบนทวีปตะวันออก


เฉกเช่นชาวเมืองทุกคน มันเคยเคารพนับถือยังบันเยี่ยงเทพ ลีจองไม่เคยลืมเลือนชีวิตประจำวันในช่วงหลายร้อยปีหลัง


ความทรงจำมีเพียงอารมณ์เคียดแค้นและโทสะเดือดดาลสุมอก


“…เทพยุคสมัยปัจจุบันมีจิตใจงดงามยิ่งกว่าเทพตกสวรรค์แน่นอน ข้าสามารถแยกแยะได้ว่า เจ้านายคนใดคอยรดน้ำดอกไม้ด้วยความรัก และเจ้านายคนใดเอาแต่เด็ดกลีบดอกจนตาย”


“…”


ช่างเปรียบเปรย…


ยิ่งได้ยินก็ยิ่งไม่สบายใจ แต่ปัญหาคือ คำพูดของอีกฝ่ายค่อนข้างสมเหตุสมผลทีเดียว


ลีจองกล่าวต่อ หลังจากยืนมองกริดก้มหน้าไตร่ตรองอย่างเงียบงันหลายลมหายใจ


“ถ้าเจ้าไม่ใช่… สมุนของเทพตกสวรรค์ พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องสู้กัน”


“…”


“ข้ามีนามว่าลีจอง หนึ่งในสามผู้รับใช้ของเทพสงคราม แม้จะบรรลุศิลปะการต่อสู้ระดับสูงแล้ว แต่ข้ายังหวังไขว่คว้าสุดยอดเคล็ดวิชาของพระองค์ให้ได้ เพื่อบดขยี้เหล่าเทพตกสวรรค์เวรตะไลให้แหลกคามือคู่นี้! ต้องทำให้สำเร็จในสักวันแน่นอน…”


ชายคนนี้โดนยังบันทำอะไรมา…


กริดสัมผัสถึงความโกรธแค้นจากลีจองได้เป็นระยะขณะมันอธิบาย


แต่เมื่อคำนึงถึงนิสัยของการัม เรื่องนี้ก็ไม่น่าแปลกใจสักเท่าไร


หลังจากเงียบงันสักพัก กริดเอ่ยปากถาม


“แล้วเจ็ดมารเป็นฝ่ายดีหรือไม่?”


ตัวตนระดับแกรนมาสเตอร์ย่อมทราบความต่ำช้าของยังบันอยู่แล้ว ถึงกระนั้นก็พยายามหาทางร่วมมือ…


เพียงเพื่อเหตุผลเดียว คือการดึงเทพยุคสมัยปัจจุบันออกจากตำแหน่ง


ทำไปเพื่อมวลมนุษย์จริงหรือ?


ไม่ใช่ว่าจะทำให้มนุษย์เป็นอันตรายยิ่งกว่าเดิมหรือไง?


เมื่อได้ยินกริดถามหนแล้วหนเล่า ลีจองพ่นลมหายใจเย็นชา ก่อนจะตอบเป็นนัย


“เอาแต่ถามฝ่ายเดียว ช่างเถอะ… ส่วนเรื่องตัดสินว่าใครดีหรือชั่ว สิ่งนี้ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละบุคคล”


กริดเห็นด้วยในเรื่องนี้


ยิ่งไปกว่านั้น ปัญหาของเจ็ดมารไม่ใช่ธุระกงกางของตนแต่แรกแล้ว


แถมกริดยังเคยเลือกไปแล้วหนหนึ่ง


เลือกจะไม่เป็นศัตรูกับเทพ


“…ตกลง เชิญนายกลับไปได้”


ทางนี้เองก็ต้องการพักฟื้นร่างกายเช่นกัน


กริดไม่มั่นใจว่าตนจะเอาชนะลีจองในสภาพปลดพันธนาการ ได้โดยไม่ต้องเสียเมอร์เซเดสหรืออัสโมเฟล


“เดี๋ยว… ทิ้งไคล์ไว้ตรงนี้”


“…”


ขณะกำลังพยุงไคล์ ลีจองพลันชะงัก


แม้จะคุยกันจนเข้าใจแล้ว ว่าต่างฝ่ายต่างไม่ใช่ศัตรูกันแน่นอน แต่กระนั้นก็ยังคิดขวางทางอยู่อีกหรือ?


“ฉลาดน้อยผิดคาดแฮะ”


ลีจองพลันแผ่จิตสังหารอย่างไม่เป็นมิตร ส่วนกริดเพียงอมยิ้มอย่างมีเลศนัย


“บ้านเมืองมีกฎหมาย”


กริดจ้องมองเข้าไปในแววตาของเหล่าเอลฟ์ผู้รอดชีวิตรอบตัว


เหลือเพียงไม่กี่ตนเท่านั้น


หลังจากถูกมนุษย์ย่ำยีอีกครั้ง ความแค้นของพวกมันจึงพุ่งไปทางไคล์ มิใช่สาวกเทพสงคราม


ต้นเหตุของความพังพินาศทั้งหมดคือไคล์เพียงผู้เดียว และกริดต้องการให้มันอยู่รับผิดชอบก่อน


เมื่อเห็นว่าการสนทนาไม่เกิดประโยชน์แน่แล้ว ลีจองหันไปกล่าวกับเมอร์เซเดส


“ช่วยบอกฝ่าบาทของเจ้าด้วย ข้าอาจไม่ทราบเรื่องอนาคต แต่ถ้าเป็นปัจจุบัน ไม่มีใครในนี้สามารถหยุดข้าได้แน่นอน แม้ทุกคนจะรุมเข้ามาพร้อมกันก็ตาม”


มันปลดตรวนอีกครั้ง


เพื่อให้เมอร์เซเดสใช้เนตรมองทะลุช่วยยืนยันพลังและแจ้งกับฝ่าบาทของเธอ


การต่อสู้อย่างเปล่าประโยชน์ไม่ใช่สิ่งดีสำหรับทุกฝ่าย


ขณะลีจองกำลังมั่นใจเสียเต็มประดา


“อัญเชิญอัศวิน. ปิอาโร่. โนลล์. เทรูชาน.”


“กระหม่อมน้อมรับคำอัญเชิญฝ่าบาท”


ชาวนาถือจอบสั้นส่งเสียง


“ข้ากำลังพักผ่อน! ข้ากำลังหลับฝันดี!”


แวมไพร์ตัวเตี้ย กำลังแทะมันฝรั่งสีแดงในมืออย่างเอร็ดอร่อย ท่าทางไม่ต่างจากกระรอกตัวเล็กเลยสักนิด


“คุรุก. กางเกงใน. ข้าไม่ถอดเด็ดขาด!”


ออร์คสวมกางเกงในสีเหลืองสดคำราม


“…”


เมื่อเสาลำแสงสามต้นปรากฏขึ้นพร้อมกับตัวละครหน้าใหม่ ลีจองเริ่มเปลี่ยนสีหน้าและท่าทีกะทันหัน


มันระแวงชาวนาเป็นพิเศษ


“เข้าใจแล้ว… กลับคนเดียวก็ได้”


“กว่าจะฉลาด”


“ชิ!”


นับตั้งแต่ออกจากอาณาจักรฮวาน มันไม่เคยรู้สึกอับอายเช่นนี้มาก่อน


ขณะเดียวกัน ไคล์ฉวยโอกาสหลบหนี แต่ถูกกริดคว้าคอได้ทันและจับยกขึ้น


ชายหนุ่มตะโกนไปทางลีจอง


“ขออีกสองคำถามสุดท้าย”


“ว่ามา”


“รู้จักคุกนรกไหม”


“หมายถึงสุดขอบโลกกึ่งกลาง? แน่นอน มันคือทางลับ สำหรับลอบเข้าไปในอาณาจักรฮวานโดยไม่ได้รับอนุญาต”


‘กะแล้วเชียว…’


กริดผงกศีรษะ ก่อนจะยิงคำถามสุดท้าย


“จะอยู่บนทวีปตะวันตกอีกนานแค่ไหน”


คำถามสำคัญมาก


เพราะสาวกเทพสงครามแข็งแกร่งเกินไป พลังขั้นต่ำของลีจองคือระดับแกรนมาสเตอร์ หากมันยังคงเตร็ดเตร่บนทวีป อาณาจักรโอเวอร์เกียร์อาจถูกถล่มเข้าสักวัน


ลีจองส่ายศีรษะให้กริดผู้กำลังกังวล


“คงไม่แล้ว การพบกันคราวหน้า หากไม่ใช่ทะเลแดงก็คงเป็นทวีปตะวันออก”


บทสนทนาจบลงเท่านี้


เมื่อมั่นใจ ลีจองหันหลังกลับและกระโจนขึ้นไปในอากาศหนึ่งก้าว ก่อนจะหายไปจากการมองเห็นทุกคนในพริบตา


โนลล์และเทรูชานเริ่มทะเลาะเป็นเด็ก


“เจ้าออร์คกล้าม! กล้าดียังไงขโมยอาหารของข้าไปกิน!”


“อร่อย! คุรุก! อร่อยมาก!!”


“เข้าใจแล้ว งั้นข้าจะสูบเลือดเจ้าแทน!”


“…”


เหนื่อยเป็นบ้า


ขณะกริดกำลังนวดหน้าผาก ปิอาโร่เดินไปรวมกับกลุ่มสหายเก่า ส่วนทีมสำรวจของสกังค์เพิ่งวิ่งมาถึงด้วยสีหน้าเหนื่อยหอบ


ไคลน์ทำเพียงยืนนิ่ง มันยอมแพ้ต่อโชคชะตาไปนานแล้ว


การฉวยโอกาสหนีคงไม่สำเร็จ และการแกล้งตายก็คงไม่ได้ผล เพราะเมอร์เซเดสมีเนตรมองทะลุ


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,505
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. มันส์!!!!
    ขอบคุณ​มาก​ๆ​ๆ​ๆ​ครับ​😊🙏

    ReplyDelete
  2. เรียกมากดดันสินะ ก็ถือว่าโหดเอาเรื่อง ถ้าพลังลีจองระดับแกรนมาสเตอร์จริง แสดงว่าในปัจจุบันองค์รักษ์กริดกับกริดก็พอจะชนะเทพตกสวรรค์แบบร่างจุติได้สินะ

    ReplyDelete
  3. ขอบคุณสำหรับผลงานแปลดีๆ เช่นเคยครับ
    ถ้าใครผ่านมาอ่านอยากให้พิมพ์ขอบคุณและเป็นกำลังใจผู้แปลด้วยเถอะนะครับ

    ReplyDelete
  4. เริ่มสงสารไคล์แล้ว หวังว่าจะรอดมาเป็นเบ๊ใหม่กริดนะ ถ้าตายก็เศร้าอยู่

    ReplyDelete
  5. ลีอองฮาดีว่ะ 555
    น่าเอามาเป็นพวก

    ReplyDelete
  6. มีเด็กทะเลาะแย่งของกินกัน!!!

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00