จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1024



เมื่อสิบวีรชนกลับมารวมตัวกันอีกครั้งในจุดนัดพบ สีหน้าพวกมันกำลังตึงเครียด ภาษากายกระสับกระส่ายชัดเจน


“ทำไมถึงช้านัก?”


“หรือจะมีบางสิ่งเกิดขึ้น?”


“ติดต่อไม่ได้เลยแฮะ น่าหงุดหงิดชะมัด”


เลยเวลานัดหมายไปแล้วสิบห้านาที แต่กริดยังคงไม่ปรากฏตัว ทุกคนต่างทราบดีว่ากริดแข็งแกร่งที่สุดในคณะเดินทาง อุปสรรคเล็กน้อยบนเกาะคงไม่มีทางเอาชีวิตชายผู้นั้นได้


แต่ในฐานะเพื่อน ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะกังวล


“ไม่ต้องเป็นห่วงนักหรอก ตามที่ลอเอลกล่าวไว้ ชายฝั่งของเกาะแห่งนี้ปลอดภัย”


จิสึกะพยายามปลอบประโลมพวกพ้อง แต่หารู้ไม่ว่า สีหน้าของเธอเป็นกังวลยิ่งกว่าใครทั้งหมด


โบราณสถานเทพสงครามคือดินแดนแปลกถิ่นที่เต็มไปด้วยปริศนา ไม่มีใครทราบถึงอันตรายเบื้องลึกที่แท้จริง


ท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียดที่กำลังเข้มข้นขึ้นทุกขณะ


“…!?”


“…!”


ลอเอลเป็นคนแรกที่แสดงสีหน้าตกตะลึง ตามมาด้วยเฟคเกอร์ ทั้งคู่มีประสาทสัมผัสเฉียบแหลมกว่าคนปรกติ ลอเอลอาศัยการหยั่งรู้จากกระแสพลังไหลเวียน ส่วนเฟคเกอร์มีประสาทรับรู้ของนักลอบสังหาร


เสียงคำรามของสัตว์ร้ายจำนวนสามตัวดังใกล้เข้ามาทุกขณะ พวกมันวิ่งฝ่าดงต้นไม้หนาทึบพลางส่งเสียงร้อง ราวกับไม่หวาดกลัวสิ่งใดบนโลก


หลังจากนั้นไม่นาน


“หือ…?”


จิสึกะเริ่มสัมผัสได้ด้วยตาเหยี่ยว เธอจ้องมองไปยังทิศทางที่เกิดความผิดปรกติและได้พบภาพของหินก้อนใหญ่กับสัตว์ร้ายตัวหนึ่งกำลังวิ่งกวดเข้าหาเรือด้วยความเร็วสูง


ไม่สิ ไม่ใช่ก้อนหินกับสัตว์ร้าย


หากพิจารณาอย่างละเอียด ทั้งสองวัตถุที่กำลังพุ่งเข้าหาล้วนเป็นสัตว์ดุร้ายทั้งคู่


“ทุกคนเตรียมสู้!”


ขณะลอเอลให้สัญญาณ เฟคเกอร์เริ่มหายตัวรวมเป็นหนึ่งกับเงามืด


เมื่อสิบวีรชนฯ สัมผัสถึงบรรยากาศไม่ชอบมาพากลเข้มข้น พวกมันต่างชักอาวุธประจำกายพร้อมกับตั้งท่าเตรียมต่อสู้


แม้แต่ยูเฟอมิน่าที่ถนอมเวทมนตร์ตลอดการเดินทางสิบวันที่ผ่านมา ก็ยังหยิบลูกแก้วออกมาเตรียมร่ายมนตร์โจมตี


ทันใดนั้น


[ท่านเผชิญหน้าตัวตนที่แข็งแกร่งแห่งยุคสมัย!]


[ท่านถูกแรงกดดันมหาศาลสะกดข่ม]


[ท่านจะขยับร่างกายไม่ได้ชั่วขณะ ทักษะและเวทมนตร์ทุกชนิดถูกลดประสิทธิภาพลง]


ข้อความระบบที่ไม่มีใครต้องการเห็น


ตึง! ตึง!


รอยเท้าขนาดมหึมาของสัตว์ร้ายประทับลงบนหาดทราย ชื่อเหนือศีรษะสัตว์ดุร้ายทั้งสองคือ ‘ฺฮิปโปสองหัว’ และ ‘เสือเขี้ยวดาบ’


ฮิปโปสองหัวตัวใหญ่เท่าบ้าน ทุกส่วนร่างกายเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อบึกบึน ด้านเสือเขี้ยวดาบ เขี้ยวของมันยาวและแหลมคมประหนึ่งศาสตราชั้นยอด คงทะลวงผ่านร่างมนุษย์ไม่ยากเย็นนัก


“…”


แน่นอน สิบวีรชนฯ ทำได้เพียงยืนแข็งทื่อดุจดังรูปปั้นหิน พวกมันจ้องมองสองสัตว์ยักษ์ด้วยร่างกายที่มิอาจขยับเขยื้อน …แม้แต่กลืนน้ำลายยังหมดสิทธิ์


บุคคลที่ปรากฏตัวพร้อมสัตว์ดุร้ายประกอบด้วยสามบุรุษและหนึ่งสตรี


บนหลังเสือเขี้ยวดาบมีสองคน บุรุษท่าทางป่าเถื่อนและสตรีเลอโฉมผู้สวมมงกุฎทองอร่าม บนหลังฮิปโปสองหัวเป็นชายร่างใหญ่วัยกลางคนผู้มีแววตาลุ่มลึกสงบนิ่ง


ชื่อตัวละครเหนือศีรษะทั้งสามถูกเขียนด้วยอักษรทองอร่าม ประกอบด้วย ‘ราชาสัตว์ป่า·มอริส’ ‘มงกุฎทอง·บาซาร่า’ และ ‘ราชาอมตะ·เกล็นฮาล’


หัวใจลอเอลพลันหล่นไปตาตุ่ม


“เจ็ดดยุค…!”


หนึ่งในกลุ่มคนที่ขุนพลโอเวอร์เกียร์ไม่ควรเผชิญหน้ามากที่สุด เจ็ดบุคคลซึ่งมีพลังอำนาจมหาศาลบนทวีปตะวันตก


โดยเฉพาะนัยน์ตาของเกล็นฮาล เพียงจ้องมองก็มาพอจะทำให้สิบวีรชนฯ เกิดความหวาดหวั่นจากก้นบึ้ง ความสุขุมเย็นยะเยียบคล้ายคลึงท้องฟ้าสงบก่อนพายุโหมกระหน่ำ คล้ายคลึงทะเลไร้คลื่นก่อนสึนามิอุบัติ


ตัวตนที่พวกมันต้องก้าวข้ามในสักวัน


แต่ไม่ใช่วันนี้ …หรือในเร็วๆ นี้


การเผชิญหน้าในปัจจุบันจะมีเพียงความสิ้นหวังหดหู่รออยู่ ปราศจากแสงสว่างชัยชนะ


“ทันทีที่พวกนายหลุดพ้นจากอาการผิดปรกติ… ให้รีบขึ้นเรือและหนีไปซะ!”


บุคคลเดียวที่สามารถขยับตัวได้ …ยูร่า


เธอเองก็เป็นตำนานคนหนึ่ง ถึงจะเทียบไม่ได้กับอดีตตำนาน หรือตำนานปัจจุบันอย่างกริดและครอเกล แต่การสั่นกลัวและทอดทิ้งพวกพ้องไม่ใช่ทางเลือกในหัวยูร่า


เธอไม่สนว่าศัตรูจะแข็งแกร่งเพียงใด


ซู่วววว—


ทันใดนั้น คลื่นพลังสีเขียวหยกเริ่มก่อตัวเป็นรูปร่างชุดเกราะ โอบล้อมผิวพรรณขาวนวลของยูร่าแน่นกระชับ


นี่คือไอเท็มประจำคลาสนักล่าอสูร ยูร่าครอบครองหลังจากค้นพบชิ้นส่วนลับในขุมนรก


แม้ภายนอกจะงดงาม แต่เกรดของมันมีระดับเพียงยูนีคเท่านั้น ทว่าประสิทธิภาพชุดเกราะก็ยังสูงกว่าไอเท็มเกรดเลเจนดารีในระดับเดียวกัน


กริ๊ก!


ปืนวิศวกรรมเวทมนตร์อเล็กซ์ซึ่งสร้างโดยแพ็กม่า รูปทรงเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นดาบยาว


นี่คือโหมดเอาจริงที่สุดของยูร่า


เธอคาดเดาเหตุการณ์ในหัวว่า กริดอาจเผชิญหน้าสามดยุคโดยบังเอิญและหมดโอกาสหนี คงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต่อสู้ปกป้องพวกพ้องจนตัวตาย


และยูร่าก็กำลังทำแบบเดียวกัน


มอริสขมวดคิ้ว


“ทำไมพวกเขาถึงคิดหนีล่ะ?”


หนึ่งในสามดยุคเอ่ยปากถามด้วยน้ำเสียงสุดฉงน เมื่อมอริสกล่าวจบ มันหันไปมองเกล็นฮาล


ระบุให้ชัดคือ บุคคลที่อยู่ด้านหลังเกล็นฮาล


แม้จะขยับตัวไม่ได้ แต่ยังพอขยับสายตาได้บ้าง สิบวีรชนฯ จึงหันมองตามมอริส


ทุกคนพลันผงะ


ภาพที่เห็นคือ กริดนั่งอยู่หลังเกล็นฮาลด้วยสีหน้าขาวซีดคล้ายกับหมดเรี่ยวแรง


“ไอ้พวกบัดซบ!”


จิสึกะสบถด้วยโทสะ เธอต้องการหยิบคันศรออกมากระหน่ำยิงให้รู้แล้วรู้รอด แต่เนื่องจากถูกพลังสะกดข่ม ร่างกายจึงมิอาจขยับแม้แต่ปลายนิ้ว


ในฐานะท็อปแรงเกอร์ ค่าต้านทานอาการผิดปรกติทุกชนิดของจิสึกะสูงถึง 30% นับเป็นตัวเลขที่น่าตกใจสำหรับคลาสนักธนู แต่พลังสะกดจากเจ็ดดยุคกลับคลายออกช้ากว่าที่คิด


“กล้าดียังไงถึงจับผู้ชายของฉันเป็นเชลย!!”


“เดี๋ยว…!”


ยังไม่ทันที่กริดจะได้ตะโกนอธิบายเรื่องราว หรือกระทั่งอธิบายว่าเขาไม่ใช่ผู้ชายของเธอ


ฟุ่บ—


ยูร่าที่เดือดดาลไม่แพ้จิสึกะ เธอกระโจนใส่เกล็นฮาลบนหลังฮิปโปด้วยจิตสังหารท่วมท้นท้องฟ้า คมดาบพุ่งใส่หนึ่งในสามดยุคด้วยท่วงท่าห้าวหาญ


หมับ!


เกล็นฮาลไม่แม้จะยกโล่ปัดป้อง มันเพียงใช้ถุงมือเหล็กคว้าคมดาบไว้ง่ายดาย จากนั้นตวัดเหวี่ยงข้อมือเล็กน้อย


“…!”


ยูร่าอ้าปากค้าง


ร่างของเธอลอยเคว้งกลางอากาศประหนึ่งถูกแรงโน้มถ่วงเล่นงานในแนวตั้ง


โครม!


นักล่าอสูรเกลือกกลิ้งไถลบนหาดทรายอย่างสิ้นสภาพ


ความต่างชั้นดุจดังท้องฟ้าหุบเหวได้บดขยี้ศักดิ์ศรีจนแหลกละเอียด ภายในใจเกิดความสิ้นหวังยากอธิบาย


นัยน์ตายูร่าสั่นระริก


แต่ในเมื่อตนคือบุคคลเดียวที่สามารถขยับตัว ยูร่ารีบคืนสติลุกขึ้นพร้อมกับลงมือต่อเนื่องโดยไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายพักหายใจ


…ในวินาทีก่อนที่เธอจะใช้ ‘มิติขุมนรก’ เพื่อชิงตัวกริดมาจากหลังฮิปโปสองหัว


“หยุดก่อน! หยุด!!”


กริดเป็นฝ่ายกระโจนลงจากฮิปโปด้วยตัวเอง


ในฐานะตัวประกัน การกระทำของเขามีอิสระจนน่าเหลือเชื่อ


“ให้ตายสิ… ฮิปโปนั่นชวนเวียนหัวชะมัด”


กริดพึมพำ


ประสบการณ์ซ้อน ‘ฮิปโปสองหัว’ ไม่ต่างจากขุมนรกสำหรับกริด แผ่นหลังของมันเด้งขึ้นลงตลอดเวลาจนเกือบอาเจียนหลายครั้ง


เขาเคยบอกไปแล้วว่าขอเดินด้วยตัวเอง แต่อีกฝ่ายเอาแต่คะยั้นคะยอให้ซ้อนไปด้วยกัน…


กริดมิได้กล่าวตำหนิเกล็นฮาลที่ทำร้ายพวกพ้องตน มันรีบตะโกนอธิบายเรื่องราวให้สิบวีรชนฯ ที่กำลังดวงตาเบิกโพลงรับทราบ


“พวกนายคงรู้จักดีอยู่แล้ว สามคนนี้คือดยุคแห่งจักรวรรดิ พวกเขาจะเป็นพันธมิตรชั่วคราวของเราและร่วมสำรวจโบราณสถานเทพสงครามไปพร้อมกัน”


“อะไรนะ?”


“เป็นได้ยังไง…”


ทุกคนแทบไม่เชื่อหู


ถึงกริดจะเคยก่อเรื่องเหนือสามัญสำนึกนับครั้งไม่ถ้วน เคยสร้างปาฏิหาริย์ต่อหน้าทุกคนหลายหน แต่ครั้งนี้พิเศษจนยากจะทำใจเชื่อ


กริดคือบุคคลที่สังหารดยุครีกัล คือกษัตริย์ของอาณาจักรคู่สงคราม …แล้วเหตุใดถึงกล่อมให้สามดยุคกลายเป็นพวกพ้องในเวลาอันสั้นได้?


ลอเอลส่งเสียงพึมพำ


“พลังนักลักพาตัวทำงานอีกแล้วหรือ…”


ไล่มาตั้งแต่ปิอาโร่ อัสโมเฟล บลันด์ สติกส์ ชาวทวีปตะวันออก เมอร์เซเดส จนมาถึงดยุคแห่งจักรวรรดิ


ลอเอลแอบปรบมือสรรเสริญกริดภายในใจ ไม่น่าเชื่อว่า ราชาของตนจะมีพลังเปลี่ยน NPC พิเศษให้กลายเป็นบริวารได้ทุกสถานที่ที่เดินผ่าน


***


“แบบนั้นเองหรือ…”


สกังค์ขมวดคิ้วตั้งใจฟังเรื่องราวที่ด็อกวูเม่นเล่าโดยละเอียด


ขณะสามดยุคเข้าป่าเพื่อรวบรวมน้ำสะอาดและขาดการติดต่อ สาวกเทพสงครามได้ขยายอาณาเขตการลาดตระเวน


ท่ามกลางบรรยากาศสิ้นหวังเช่นนี้ การปรากฏตัวของออร่ามาสเตอร์จึงแสงแห่งความหวังให้พึ่งพา แถมบุรุษผู้นั้นยังใจกว้างถึงขนาดยื่นมือช่วยเหลือปาร์ตี้ด็อกวูเม่นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน


‘เขาเป็นคนมีคุณธรรม… น่าเสียดายที่ไม่ได้ตัวเป็นพวกพ้อง’


หากปราศจากคนคุ้มกันที่แข็งแกร่ง คลาสนักสำรวจจะไม่มีทางเข้าป่าไปเก็บข้อมูลของโบราณสถานเทพสงครามได้เลย


ถ้าสามดยุคไม่กลับออกจากป่า ปาร์ตี้สกังค์จะถูกขังไว้ที่ชายหาดและอดอาหารตายในที่สุด


นั่นคือจุดจบอันน่าหดหู่


แต่เมื่อออร่ามาสเตอร์ปรากฏตัว สกังค์จึงมองเห็นแสงแห่งความหวังแหล่งใหม่ ค่อนข้างน่าเสียดายที่ออร่ามาสเตอร์ไม่ยินยอมร่วมมือกับนักสำรวจอย่างพวกตน


‘ช่วยไม่ได้… คงต้องรอให้สามดยุคกลับมา’


สกังค์ไม่ครุ่นคิดให้ปวดหัว สมาธิของมันหมกมุ่นกับการรวบรวมเบาะแสกุญแจจนไม่เหลือไว้ประมวลผลสิ่งอื่น


‘อีกนิดเดียวเท่านั้น’


ปริศนาสุดซับซ้อนที่แม้แต่ผู้ครอบครองทักษะโบราณคดีระดับสูง และทักษะตีความระดับกลางอย่างมัน ยังมิอาจไขให้กระจ่างในเวลาอันสั้น


ปริศนาจากอดีตกาลที่ยากจะหาคำตอบ แต่สกังค์สามารถสร้างความคืบหน้าระดับที่ไม่มีผู้เล่นคนใดก้าวไปถึง


หลังจากอ่านหนังสืออ้างอิงและตำราประวัติศาสตร์หลายเล่มประกอบ สกังค์เริ่มเข้าใกล้ความจริงขึ้นทุกขณะ


สองสามวันที่ผ่านมา มันแทบไม่ได้หลับนอน เอาแต่ค้นคว้าและครุ่นคิดหาวิธีไขปริศนาจนหัวแทบระเบิด


เรียกว่า ‘ทำงานหนักจนอึเป็นเลือด’ ก็ไม่ผิดนัก แต่ความพยายามไม่เคยทรยศใคร มันเริ่มเห็นแสงสว่างในการไขปริศนาภาพวาดผนัง รวมถึงปริศนาของชิ้นส่วนกุญแจ


อาจไม่สำเร็จในเร็ววัน แต่ก็มาถึงกลางทางแล้ว ไกลกว่าทีมสำรวจใดทั้งหมด


ยิ่งเข้าใกล้ความจริง ระดับความยากของปริศนาก็ยิ่งเพิ่มขึ้น ถือเป็นความสนุกตื่นเต้นของนักสำรวจซึ่งหาจากคลาสใดไม่ได้ สกังค์กำลังหลอมรวมตัวเองเป็นหนึ่งเดียวกับปริศนาโดยสมบูรณ์


“สามดยุคกลับมาแล้ว!!”


ด็อกวูเม่นรีบวิ่งเข้ามารายงานข่าวด้วยสีหน้าเหนื่อยหอบ แต่แฝงความยินดี


สกังค์ที่เคยเครียดและกังวลเป็นเวลานาน มันรีบลุกขึ้นยืนและเดินออกจากกระโจมด้วยสีหน้าโล่งใจ


เฮ—!!


เหล่าทหารส่งเสียงโห่ร้องกึกก้องไปทั่วค่าย


ทั้งสามดยุคกลับมาพร้อมน้ำสะอาดจำนวนมากชนิดที่เลี้ยงค่ายทหารได้อีกหลายวัน


สกังค์รีบเข้าไปกล่าวคำทักทาย


“ขอแสดงความยินดีที่พวกคุณกลับมาอย่างปลอดภัย”


“คุณคงเป็นกังวลมากสินะ”


“ผมทราบดีว่าพวกคุณแข็งแกร่งเพียงใด แต่ภายในป่านั้นเป็นมิติที่แตกต่าง ผมกังวลว่ากับดักที่ทรงพลังอาจก่อปัญหาแก่พวกคุณ”


“ถ้าเป็นเรื่องกับดัก ปัญหาดังกล่าวถูกคลี่คลายแล้ว”


“…?”


สกังค์แสดงสีหน้าประหลาดใจ


ยังไม่ทันที่มันจะครุ่นคิดหาคำตอบ เกล็นฮาลกล่าวต่อทันที


“ท่านผู้นี้มีกุญแจ”


“…?”


ยิ่งได้ยิน มันก็ยิ่งไม่เชื่อหู


สกังค์ชักไม่มั่นใจว่า ‘กับดัก’ และ ‘กุญแจ’ ที่เกล็นฮาลหมายถึง จะใช่กับดักและกุญแจเดียวกับที่มันเข้าใจหรือไม่ ความงุนงงเริ่มเพิ่มพูน


ไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายไต่ถาม เกล็นฮาลกล่าวแนะนำบุรุษที่ยืนด้านหลังมัน


“ขอแนะนำให้รู้จัก นี่คือราชาโอเวอร์เกียร์”


“…!?”


สกังค์พลันกระจ่าง


ชายผมดำที่เกล็นฮาลกล่าวแนะนำตัว ไม่มีทางที่สกังค์ไม่รู้จักใบหน้านี้


กริดยิ้มและกล่าวขึ้นขณะสกังค์อ้าปากค้าง


“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ ว่าไหม?”


“ค…คุณกริด!”


ทั้งเรื่องปัญหากับดักถูกคลี่คลาย ทั้งเรื่องพบกุญแจสำหรับไขต้นไม้ ถ้อยคำสุดเหลวไหลของเกล็นฮาลน่าเชื่อถือทันทีเมื่อต้นตอของเรื่องราวทั้งหมดคือกริด


สกังค์รีบเข้าไปจับมือกับกริดด้วยสีหน้าโล่งใจ


“ถึงผมจะอยู่ที่นี่นานกว่าครึ่งเดือนแล้ว แต่เบาะแสกุญแจแทบไม่คืบหน้า ทว่า คุณกริดที่เพิ่งมาถึงกลับค้นหากุญแจพบในเวลาอันสั้น สมกับที่มีสุดยอดทีมสำรวจส่วนตัว”


นี่คือสัจธรรมที่สกังค์ได้บรรลุเมื่อครั้งเหตุการณ์สุสานดาบ กริดมี ‘หู’ และ ‘ตา’ กว้างไกลกว่าผู้เล่นทั่วไปหลายเท่า บางทีอาจครอบคลุมทั่วทวีป


ในสถานการณ์ปัจจุบัน เหล่าอัจฉริยะที่เร้นกายทำงานให้กริดต้องมีจำนวนเหนือกว่าที่ทุกคนจินตนาการไว้


กระทั่งออร่ามาสเตอร์ที่ว่ากันว่าตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างฮูเร็น หากเดาไม่ผิดก็คงทำงานให้กริดด้วยเช่นกัน


‘ขนาดมิสเตอร์ฮูเร็นยังยอมรับใช้… ไม่แปลกที่เขาจะมีนักสำรวจอัจฉริยะอยู่เบื้องหลัง’


สาเหตุหลักที่ตัวมันยังรวบรวมชิ้นส่วนกุญแจไม่ครบ เพราะขาดแคลนกำลังคนและผู้คุ้มกันฝีมือเยี่ยม หากนักสำรวจอัจฉริยะคนใดได้รับแรงสนับสนุนจากกริด คนผู้นั้นต้องไปได้ไกลมากแน่


‘ชักอยากรู้แล้วว่าเป็นใครกัน…’


สกังค์กำหมัดแน่น มันตัดสินใจเอ่ยปากถาม


“ช่วยแนะนำให้ผมรู้จักหน่อยได้ไหม?”


“แนะนำใครหรือ?”


“ทีมสำรวจอัจฉริยะที่เป็นผู้ไขปริศนากุญแจของป่าแห่งนี้ …ทีมสำรวจส่วนตัวของคุณ”


“หืม… ฉันไม่มีทีมสำรวจส่วนตัว”


“…แล้วคุณหากุญแจพบได้อย่างไร?”


“ฉันมีกุญแจเป็นของตัวเอง”


“…?”


เหตุใดบทสนทนาจึงดำเนินไปในทิศทางประหลาดเช่นนี้? มีบางสิ่งไม่ชอบมาพากล


ทันใดนั้น สกังค์ที่พยายามตีความคำพูดกริด พลันฉุกคิดบางสิ่ง


มันตะลึงจนแทบหยุดหายใจ


…ถ้าจำไม่ผิด จักรวรรดิและอาณาจักรโอเวอร์เกียร์กำลังอยู่ในภาวะสงครามไม่ใช่หรือ?


ในทางปฏิบัติ สามดยุคควรโกรธแค้นกริดเข้ากระดูกดำชนิดที่หวังฉีกร่างเป็นชิ้นๆ แต่ในความเป็นจริง พวกมันกลับแสดงท่าทีเป็นมิตรอย่างน่าเหลือเชื่อ


และจากบทสนทนาเมื่อครู่ กริดยังไขปริศนากุญแจภายในป่าไม่ได้ บางทีอาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ‘ต้นไม้กุญแจ’ หมายถึงสิ่งใด


ถ้ากริดทราบเรื่องปริศนากุญแจจริง เขาคงไม่ตอบคำถามกำกวมเช่นนี้แน่


สกังค์ตัดสินใจหยุดไต่ถามทันที เพราะนั่นอาจทำให้กริดตกที่นั่งลำบากโดยไม่จำเป็น


‘กริด… คุณใช้ลูกไม้ใดตบตาสามดยุคกันแน่?’


ต้องแนบเนียนเพียงใดกัน สามดยุคผู้ยิ่งใหญ่แห่งจักรวรรดิถึงถูกหลอกโดยสมบูรณ์?


สกังค์มิอาจจินตนาการเรื่องราวได้ด้วยประสบการณ์อันน้อยนิดที่ตัวเองมี


‘สมกับเป็นกริด… ชายผู้นี้ทั้งหลักแหลมและน่าสะพรึงกลัวในเวลาเดียวกัน…’


ทันใดนั้น แววตาสกังค์พลันส่องประกายในยามจ้องมองกริด มันไม่เคยคิดมาก่อนว่า ตนจะเลื่อมใสศรัทธาในตัวบุคคลที่อายุน้อยกว่า


เป็นอารมณ์ตื่นเต้นที่ยากอธิบาย


“คุณกริดยอดเยี่ยมมาก! งานอดิเรกคืออะไรงั้นหรือ? เกิดวันไหน? กรุปเลือดอะไร? มีครอบครัวแล้วหรือยัง?”


สกังค์ผู้อยากรู้อยากเห็นเริ่มยิงคำถามใส่กริดอย่างต่อเนื่อง …ชายหนุ่มได้รับความรักจากตาลุงวัยกลางคนอีกครั้ง


‘หมอนี่ก็เป็นพวกเพี้ยนงั้นหรือ?’


ขณะกริดกำลังถูกอีกฝ่ายคุกคามอย่างหนัก ลอเอลยืนจ้องมองด้วยรอยยิ้มสุดชั่วร้ายจากด้านหลัง


‘ทำดีมาก… คุณนักลักพาตัว’


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,413
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. 5555​ สนุก​มากครับ​

    ReplyDelete
  2. พลัง​แห่ง​ความ​เข้าใจผิด​ อีกแล้ว🤣

    ReplyDelete
    Replies
    1. แล้วมีแค่ลอเอบเท่านั้นที่รู้นะ 555++ แต่ก็เงียบปากให้เข้าใจผิดต่อไป 555+ *โคตหัวหมอ

      Delete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00