จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,009



<ปืนใหญ่โอเวอร์เกียร์>

เกรด : ยูนีค ~ เลเจนดารี

ข้อมูลเกรดยูนีค

พลังโจมตี : 45,000 หน่วยคงที่

* ทักษะ ‘ความชำนาญอาวุธปืน’ ของ ‘พลปืน’ จะช่วยเพิ่มความเสียหาย

* ความเสียหายเป็นรัศมีกว้าง 4 เมตรรอบจุดที่กระสุนปะทะ

พลังป้องกัน : +200

* ลบล้างการโจมตีระยะไกล 1 ครั้ง

(ระยะหน่วง 1 นาที)

ความเร็วโจมตี : ทุก 19 วินาที

ความเร็วเคลื่อนที่ : 2 เมตรต่อวินาที

ระยะโจมตี : 300 ~ 800 เมตร

* ต้องใช้พลปืน 3 นายในการยิง

* หากเป้าหมายเป็นสิ่งก่อสร้างหรือรถศึก ความเสียหายจะเพิ่มขึ้นสามเท่า


ข้อมูลเกรดเลเจนดารี

พลังโจมตี : 60,000 หน่วยคงที่

* ทักษะ ‘ความชำนาญอาวุธปืน’ ของ ‘พลปืน’ จะช่วยเพิ่มความเสียหาย

* ความเสียหายเป็นรัศมีกว้าง 6 เมตรรอบจุดที่กระสุนปะทะ

พลังป้องกัน : +350

* ลบล้างการโจมตีระยะไกล 1 ครั้ง

(ระยะหน่วง 45 วินาที)

ความเร็วโจมตี : ทุก 15 วินาที

ความเร็วเคลื่อนที่ : 2 เมตรต่อวินาที

ระยะโจมตี : 150 ~ 1,050 เมตร

* ต้องใช้พลปืน 3 นายในการยิง

* หากเป้าหมายเป็นสิ่งก่อสร้างหรือรถศึก ความเสียหายจะเพิ่มขึ้นสามเท่า

ช่างตีเหล็กในตำนาน ‘กริด’ ผู้ที่เทพให้การยอมรับ ได้ออกแบบปืนใหญ่ชนิดนี้กับร่วมกับช่างตีเหล็กช่างฝีมือของทวีปตะวันออกและตก

เนื่องจากปืนใหญ่ถูกออกแบบอย่างละเอียดซับซ้อน วัสดุที่ใช้สร้างจึงต้องมีน้ำหนักเทียบเท่าเหล็กนิลเท่านั้น

‘ล้อปืนใหญ่’ ถูกออกแบบให้ลดแรงกระแทกและเคลื่อนที่ได้ว่องไว

‘ฐานปืนใหญ่’ ที่เชื่อมระหว่างลำกล้องกับล้อ ถูกออกแบบโดยเทคนิคซับซ้อนจากเหล่าช่างฝีมือ ส่งผลให้ ‘พลปืน’ สามารถปรับองศาฐานเพื่อเพิ่มหรือลดระยะยิงได้อิสระ

‘กำบังปืนใหญ่’ ถูกออกแบบโดยหัวจิตหัวใจของกริดที่ต้องการรักษาชีวิตทหาร กำบังปืนใหญ่มีหน้าที่ปกป้องพลปืนและลำกล้องปืน

ปืนใหญ่ชนิดนี้ถูกออกแบบให้บรรจุกระสุนจากด้านหลัง

ความเร็วบรรจุกระสุนจะสูงกว่าปืนใหญ่แบบทั่วไปมาก สาเหตุเพราะไม่ต้องคอยวิ่งไปบรรจุหน้าปากกระบอกเหมือนปรกติ

ลำกล้องปืนมีความยาวพอเหมาะ ส่งผลให้มีพลังทำลายสูงและระยะยิงที่ไกล

นี่คือปืนใหญ่ที่จะปฏิวัติสงคราม

ปืนใหญ่โอเวอร์เกียร์มีสมรรถนะเหนือกว่าใหญ่ทุกกระบอกที่ทวีปตะวันตกเคยมี มันจะพลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์และถูกจารึกในตำราเรียนของชนรุ่นหลังไปอีกแสนนาน

เงื่อนการใช้งาน : ‘พลปืน’ ต้องมีทักษะ ‘ความชำนาญอาวุธปืน’

น้ำหนัก : 39,500 หน่วย


รายละเอียดไอเท็มเต็มไปด้วยคำเยินยอ


โดยเฉพาะคำว่าปฏิวัติสงคราม


กริดอดใจรอที่จะเห็นประสิทธิภาพของเกรดเลเจนดารีไม่ไหวแล้ว จะยอดเยี่ยมสมกับที่คำอธิบายเขียนไว้หรือไม่


“…”


เมื่อเงยหน้าขึ้น กริดมองเห็นชายแก่กำยำ เปลือยกายท่อนบนและโผกอดกันแนบแน่น ร่างที่ชุ่มด้วยเหงื่อไหลกำลังสัมผัสแบบเนื้อถึงเนื้อ


ช่างตีเหล็กที่ดีที่สุดของยุคสมัย…


พวกเอ็งถอดเสื้อเพราะอากาศร้อนรึไงฟะ?


เฮ่อ… ทำไมถึงต้องเป็นผู้ชายด้วย?


ถ้าเป็นสตรีก็คงดี ตนจะนั่งมองทั้งวันให้แข็งไปเลย


“…”


ใช่เวลามัวคิดแบบนี้ไหม?


กริดเริ่มมองเข้าไปในสีหน้าแววตาที่กำลังมีความสุขของช่างเหล็กทุกคน


เขากล้าพูดได้เต็มปากว่า บุคคลเหล่านี้คือสมาชิกครอบครัวแสนสำคัญ


ปืนใหญ่โอเวอร์เกียร์อัดแน่นไปด้วยประสบการณ์ เทคนิค และองค์ความรู้ชั่วชีวิตของคนเหล่านี้


ไม่ต้องสงสัยเลย ปืนใหญ่โอเวอร์เกียร์คือมาสเตอร์พีชอันเลอค่าสำหรับช่างตีเหล็กทั่วโลก


ไฟแห่งการต่อสู้ในตัวกริดกำลังลุกโชน


“เริ่มลงมือสร้างกันเถอะ!”


สูตรการผลิตถือเป็นไอเท็มที่ใช้แล้วหายไป


ทักษะการออกแบบของช่างตีเหล็กในตำนานจะสร้างผลลัพธ์ออกมาเป็นสูตรผลิตไอเท็ม และมีเพียงกริดคนเดียวที่สามารถเรียนมันได้


แต่ช่างเหล็กช่างฝีมือเหล่านี้ไม่ใช่ไอ้งั่ง พวกมันมิได้สมองปลาทองที่จะหลงลืมเพียงชั่วข้ามคืน ภาพแบบปืนใหญ่ที่ช่วยกันเค้นสมองหาข้อสรุปอย่างยาวนานยังคงติดค้างอยู่ในสมองอย่างชัดเจน


ช่างเหล็กทุกคนที่ร่วมสร้างพิมพ์เขียวปืนใหญ่โอเวอร์เกียร์ พวกมันย่อมซึมซับแบบพิมพ์เขียวเข้าไปโดยปริยาย ถึงจะไม่ใช่รุ่นสมบูรณ์เหมือนกริด ที่มีเกรดขั้นต่ำเป็นยูนีค แต่ประสิทธิภาพก็ด้อยกว่าเพียงไม่มาก


พรึบ!


เตาหลอมแปดเตา


ราชาโอเวอร์เกียร์—กริด และช่างฝีมืออีกเจ็ดคน ต่างพากันจุดเตาหลอมส่วนตัวให้ลุกโชน


เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!


เสียงทุบค้อนดังก้องกังวานได้กระตุ้นต่อมความกระตือรือร้นในหัวใจช่างเหล็กหนุ่มสาวที่กำลังจับตามอง


บุคคลที่เป็นอนาคตของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ พวกมันกำลังซึมซับความยอดเยี่ยมจากเหล่าตัวตนอันยิ่งใหญ่ของทวีป


***


พรืด


หลักการซุ่มยิงคืออดทนรอในจังหวะที่ได้ผลลัพธ์สูงสุด เป็นสิ่งดีเสมอที่จะปลิดชีพศัตรูโดยไม่ถูกโต้กลับ


มีหรือที่เทพธิดาคันศรอย่างจิสึกะจะไม่ทราบ?


“…”


จิสึกะโก่งคันธนูพร้อมกับเล็งปลายศรไปยังกองทัพจักรวรรดิ


แม้จะอยู่ในจุดเหนือลมที่ได้เปรียบ แต่เธอกลับไม่กล้าปล่อยให้ศรพุ่งแหวกอากาศออกไป


เหงื่อเม็ดเป้งหยดลงปลายคางเป็นระยะ


ภาวะตึงเครียดกำลังกัดกินจิตใจรุนแรง


ความล้มเหลวตลอดหลายวันที่ผ่านมา ได้เผาผลาญความมั่นใจของจิสึกะจนแทบสูญสิ้น


“ไม่เอาหรือ?”


โทบันถามระมัดระวัง


ผ่านมาแล้วกว่าหนึ่งชั่วโมงเต็มที่จิสึกะไม่ยิงศรออกไปแม้แต่นัดเดียว แม้กองทัพจักรวรรดิจะอยู่เบื้องหน้าภายในระยะสังหารก็ตาม


โทบันรู้จักกับจิสึกะมานานตั้งแต่สมัยเกม LTS มันไม่เคยเห็นเธอเป็นแบบนี้มาก่อน


อัจฉริยะคืออัจฉริยะวันยังค่ำ


หลังจากโยกย้ายมาเล่นซาทิสฟาย โทบันไม่เคยเห็นจิสึกะหวาดกลัวศัตรูหน้าไหนเลยสักครั้ง มันจินตนาการไม่เลยออกว่า จิสึกะเองก็มีช่วงเวลายากลำบากเช่นนี้เหมือนกับคนอื่น


“เฮ่อ…”


จิสึกะถอนหายใจยาวพร้อมกับลดคันธนูลง


“ถ้ายิงออกไป พวกมันเล่นงานเราถึงตายแน่”


“นั่นคือเหตุผลที่ฉันมากับเธอยังไงล่ะ! เชื่อมือกันบ้างสิ! ถึงจะเห็นแบบนี้ แต่ฉันคือหนึ่งในตัวแทงค์ที่ดีที่สุดของโลกนะ!”


“ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ตรงนั้น”


แววตาของจิสึกะ


แววตาที่มองเห็นได้ไกลกว่าผู้อื่นเสมอ ยามนี้กำลังสั่นระริกอย่างหวาดกลัว


“การซุ่มโจมตีไม่จำเป็นต้องกระทำถี่… ยิ่งจุดซุ่มโจมตีที่ดีแบบนี้ ต้องใจเย็นและลงมือในจังหวะสำคัญที่สุด ไม่ควรใจร้อนเปิดเผยตำแหน่งของตัวเองง่ายนัก”


ด้วยความสัตย์จริง กองทัพจักรวรรดิถูกฝึกฝนมาดีเกินกว่าที่เธอคาด


ถึงพวกพ้องจะถูกลอบสังหารคนแล้วคนเล่า แต่ทหารกลับทดแทนตำแหน่งที่สูญเสียไปอย่างไร้รอยต่อ เรียกได้ว่าไม่ระส่ำระสาย ไม่กระเทือนต่อการทำสงครามเลยสักนิด


แม้สัตว์ประหลาดอย่างโนลล์จะโผล่ใจกลางกองทัพศัตรูและอาละวาดปั่นป่วนบ่อยครั้ง แต่ก็มิอาจสร้างความเสียหายรุนแรงแก่กองทัพจักรวรรดิปริมาณมหาศาลได้


ปัญหาใหญ่ของจิสึกะคือ ‘บาเรียเวทมนตร์’ ลึกลับ ซึ่งคอยสลายการทุกการโจมตีระยะไกล ‘ที่ไกลเกินกำหนด’


ไม่เหมือนกับเฟคเกอร์และคาซิมซึ่งลงมือลอบสังหารในระยะประชิด จิสึกะที่ซุ่มยิงจากระยะไกลนั้นไม่เคยประสบผล


ยิ่งไปกว่านั้น ภายในกองทัพจักรวรรดิยังมียอดมือธนู มันสามารถยิงตอบโต้จิสึกะกลับมาแทบจะในพริบตา


เมื่อศรของเธอพุ่งใส่กลุ่มศัตรู ศรจากจักรวรรดิจะยิงสวนกลับมาอย่างแม่นยำและทันทีทันใดจนเธอถึงแก่ความตาย


จิสึกะเสียชีวิตไปแล้วสองครั้งในลักษณะดังกล่าว หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ ศัตรูในกองทัพจักรวรรดิแข็งแกร่งกว่าเธอ


ภายใต้สงครามที่มิอาจแสดงฝีมือ ความมั่นใจจึงถูกกัดกร่อนรุนแรงจนเกินเยียวยา


ความยิ่งใหญ่ของจักรวรรดิซาฮารัน ได้บีบคั้นหนึ่งในอัจฉริยะของโลก ให้กลายเป็นเพียงเด็กอมมือที่สูญเสียพลังใจจะต่อสู้


“…”


ในที่สุดก็มาถึงวันที่ จิสึกะผู้ไม่เคยเกรงกลัวหรือย่อท้อต่ออุปสรรค เริ่มถอดใจและสิ้นหวัง


โทบันกระวนกระวายกับเหตุการณ์ตรงหน้ามาก มันไม่รู้ว่าตัวเองควรกระทำสิ่งใด


‘หอมแก้มฉันสักฟอดไหม? จะได้รู้สึกดีขึ้น’


ไม่ดีแน่ มันคงได้ตายคาที่


ต้องมองหาทางอื่น… แต่ทางไหนกัน?


โทบันรู้จักกับจิสึกะมานานเกือบสิบปี แต่ปัจจุบัน คือหนแรกอย่างแท้จริงที่เกิดเหตุการณ์ประหลาดเช่นนี้ขึ้น ไม่แปลกที่มันจะลนลานจนทำอะไรไม่ถูก


“น่าเบื่อชะมัด”


เสียงสตรีปริศนาดังแว่ว


จิสึกะที่กำลังนอนหมอบบนแผ่นหินก้อนใหญ่ ร่างกายของเธอพลันสั่นระริก มุมปากกระตุก


“สิ่งที่เธอทำไม่ได้ ฉันจะทำมันเอง”


เจ้าของเสียงคือยูร่า


ลำตัวเธอนอนแนบไปบนหินแผ่นใหญ่ ในมือถือปืนวิศวกรรมเวทมนตร์อเล็กซ์โหมดสไนเปอร์


อาวุธสุดบัดซบที่เคยดับลมหายใจจิสึกะในงานแข่งนานาชาติครั้งที่สาม รายการทำลายวัตถุ


แต่กระนั้น ใบหน้าจิสึกะมิได้เปลี่ยนสี


“สิ่งที่ฉันทำไม่ได้ เธอจะทำได้รึไง?”


“แน่นอนว่าไม่ แต่ก็ดีกว่าการไม่ทำอะไรเลย”


“อย่าทำเป็นประชดประชัน… ในวินาทีที่เธอลั่นไก พวกเราทุกคนจะตกอยู่ในอันตราย ฉันไม่สนความตายของเธอ แต่ชีวิตฉันกับโทบันสำคัญมาก”


“ถ้าปอดแหกแบบนั้น เธอก็ไม่ควรเกะกะจุดซุ่มยิงของฉัน ไสหัวไปซะ”


“เฮ่อะ! ตามใจหล่อนเลย”


ในเวลาเช่นนี้ จิสึกะไม่เหลือเรี่ยวแรง หรือพลังใจมากพอจะทะเลาะกับคู่กัดตลอดกาล


ขณะจิสึกะลุกขึ้นยืนพลางขมวดคิ้วด้วยสีหน้าหงุดหงิด


เปรี้ยง—


ยูร่าลั่นไก


ปลายกระบอกปืนสไนเปอร์เกิดเป็นควันรูปเห็ดพร้อมกับประกายไฟพวยพุ่ง


“นังสารเลว!”


จิสึกะรีบใช้ ‘นัยน์ตาเหยี่ยว’ เพื่อมองเข้าไปในกลุ่มกองทัพจักรวรรดิเบื้องหน้า


เธอเห็นกับตา


กระสุนของยูร่าพุ่งชนบาเรียเวทมนตร์และสลายไปโดยไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น


ทันใดนั้น


—!


ศรอันเงียบเชียบที่พุ่งเร็วกว่ากระสุนปืน กำลังแหวกอากาศสวนกลับมาอย่างแม่นยำ


ไม่ผิดแน่ นี่คือศรจากยอดฝีมือที่เคยดับลมหายใจจิสึกะมาแล้วสองครั้ง


“บ้าจริง!”


จิสึกะรีบโก่งธนูเล็งศรที่กำลังพุ่งเข้าหา


พรืด!


—!


ลูกธนูสองดอกพุ่งชนกันกลางอากาศ สลายหายไปราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น


แฮ่ก… แฮ่ก…


จิสึกะหายใจหอบ เธอหันไปตะโกนตำหนิยูร่า


“อยากตายนักรึไง? ทำไมถึงไม่ฟังคำเตือนกันบ้าง! ถ้าไม่มีฉัน หล่อนได้ตายไปแล้ว!”


แน่นอน ถึงตำนานจะมีประกันชีวิตอมตะ แต่ศรสังหารจากอีกฝ่ายคงไล่ล่าจนกว่าจะถึงจุดจบ


เมื่อเห็นจิสึกะแหกปากโวยวาย ยูร่าอมยิ้ม


“ก็แม่นนี่นา… ฉันว่าเธอเก่งกว่ามัน”


“อะไรนะ?”


“เธอทำลายศรได้ด้วยศร หมายความว่า ฝีมือของเธอสูงกว่าคนที่ยิงมา”


“ไม่จริงเลยสักนิด”


ฉันก็แค่ดวงดี… จิสึกะต้องการกล่าวเช่นนี้ออกไป แต่เลือกที่จะกลืนลงคอต่อหน้ายูร่า


อันที่จริง โชคก็ถือเป็นพลังชนิดหนึ่ง


ในการต่อสู้ที่สูสี โชคคือปัจจัยสำคัญที่ระบุผลแพ้ชนะ


…เราจำเป็นต้องหวาดกลัวพวกมันด้วยหรือ?


เราเริ่มปอดแหกตั้งแต่เมื่อไร?


การเสี่ยงตาย ความตาย และความยากลำบาก ในฐานะท็อปแรงเกอร์ จิสึกะเคยผ่านเหตุการณ์บีบเค้นหัวใจมานับไม่ถ้วน


แต่แล้วทำไมในตอนนี้…


“…เฮ่อ”


ชีวิตในช่วงหลังคงสบายเกินไปสินะ…


หลังจากเข้าร่วมโอเวอร์เกียร์ ก่อตั้งอาณาจักร ลงแข่งซาทิสฟายนานาชาติ คว้ารางวัลและเกียรติยศมากมายประดับบารมี ชีวิตก็แทบไม่พานพบ ‘ความท้าทาย’ อีกเลย


แถมการงานแข่งนานาชาติยังส่งผลให้ฝีมือและจิตใจทื่อลง สาเหตุเพราะ ความตายที่นั่นไม่มีบทลงโทษ จิสึกะปล่อยตัวให้ตายโดยไม่ต้องกังวลไอเท็มดรอปหรือเลเวลลด


มันคือความเคยชินที่เป็นพิษร้าย


หลังจากดื่มด่ำกับความตายที่ไม่มีบทลงโทษบ่อยครั้งเข้า เมื่อต้องเผชิญกับความตายของจริงที่มีบทลงโทษรุนแรง แถมยังเป็นบทลงโทษระดับสงคราม จิตใจจิสึกะยิ่งหวาดผวาและรักตัวกลัวตาย


“จนกลายเป็นแค่แม่วัวตัวหนึ่ง”


ปศุสัตว์ที่ใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายและมีจุดจบต้องกลายเป็นอาหารของมนุษย์


ไม่ใช่สักหน่อย…


เราคือสัตว์ป่าต่างหาก!


ไม่ใช่สัตว์กินพืช!


“โทบัน”


“ฮื่อ! ว่ามาเลย”


โทบันโล่งใจเมื่อแววตาจิสึกะกลับเป็นปรกติ


“แทงค์อันดับหนึ่งของโลก… นายเรียกตัวเองว่าอย่างนั้นใช่ไหม?”


“…?”


จิสึกะแสยะยิ้มอย่างมีเลศนัยพลางกระโดดขี่หลังอูฐ จากนั้นก็เร่งควบอูฐไปยังทิศทางกองทัพจักรวรรดิด้วยความเร็วสูง


“นี่เธอเสียสติไปแล้วรึไง!”


อูฐของเรย์ดันคือสายพันธุ์พิเศษ หากเป็นพื้นผิวทะเลทราย ความเร็วของมันจะสูงกว่าม้าปรกติเล็กน้อย


เมื่อเห็นจิสึกะไกลออกไป โทบันรีบวิ่งตามอูฐด้วยสีหน้าบิดเบี้ยว


จิสึกะกำลังแสยะยิ้มอย่างมีความสุข


“พวกแกไม่ยอมให้โจมตีจากระยะไกลสินะ”


ถ้าอย่างนั้น


“เข้าไปใกล้ก็สิ้นเรื่อง”


พรืด!


บนหลังอูฐ จิสึกะทำการโก่งคันธนู


เปลวเพลิงร้อนระอุเริ่มปกคลุมคันศรฟินิกซ์แดง บรรยากาศทะเลทรายเคยที่ร้อนมากเป็นทุนเดิม ยิ่งทวีอุณหภูมิมากขึ้นในเวลาอันสั้น


“ศัตรู!”


“มาแค่สอง? เสียสติไปแล้วรึไง?”


“จัดการพวกมัน!”


เมื่อทหารจักรวรรดิมองเห็นหญิงสาวถือธนูขี่อูฐ บุกเข้าค่ายทหารมาพร้อมกับอัศวินเดินเท้าถือโล่ พวกมันรีบกรูออกจากค่ายเพื่อจัดขบวนรบโจมตีสวนกลับ


เคร้ง! เคร้งเคร้งเคร้งเคร้ง!!


บึ้มบึ้มบึ้ม!


ฝนธนูและกลุ่มก้อนเวทมนตร์ถูกโทบันปัดป้องได้ด้วยโล่ใหญ่ในมือ


ทว่า


“แค่ก…! ม…ไม่ไหวแล้ว…”


หากการโจมตีชุดต่อไปมาถึง ตัวมันคงไม่รอดอย่างแน่นอน โทบันต้องการกล่าวเช่นนี้ แต่ไม่มีเวลาพอให้มันเอ่ยปาก


สาเหตุเพราะ จิสึกะได้ควบอูฐไปด้านหน้าโทบันพร้อมกับส่งเสียงตะโกน


“โบยบิน!!”


วิหคเพลิงสีแดงฉานขนาดใหญ่ปรากฏตัวเหนือน่านฟ้าค่ายจักรวรรดิ มันกำลังสยายปีกอย่างงดงาม


เหล่าทหารมิได้เปลี่ยนสีหน้า เพราะเมื่อไม่กี่วันก่อน พวกมันเคยเห็นนกยักษ์ตัวนี้มาแล้วหนหนึ่ง แต่ก็ไม่มีความเสียหายใดเกิดขึ้น ราวกับเป็นภาพลวงตาที่มีไว้สำหรับข่มขู่ นกยักษ์เมื่อหลายวันก่อน ทำการบินโฉบเหนือท้องฟ้าและหายไปอย่างไร้ร่องรอย


“นั่นเป็นเพราะฉันยิงจากนอกระยะ”


จิสึกะแสยะยิ้มชั่วร้าย


กรี๊—


ทะเลทรายกลายเป็นบ่อเพลิงเทพในพริบตา ความฉิบหายมาเยือนกองทัพจักรวรรดิสุดแสนโอหัง


นับเป็นหมัดฮุกที่จุกเอาเรื่อง


ทหารที่ยังเหลือรอด พวกมันระบายความโกรธแค้นใส่จิสึกะจนร่างกายของเธอเละเทะยับเยิน


ขณะจิสึกะกำลังจะตายในอีกไม่กี่อึดใจ


“ทำได้ไม่เลวนี่”


ยูร่าปรากฏตัวช่วยเหลืออย่างทันท่วงที


เธอเปิด ‘เกต’ ขุมนรกเพื่อปลดปล่อยอสูรร้ายให้กรูออกมาฉีกกระชากร่างทหารที่ร่อแร่ จากนั้นก็ฉวยโอกาสพาจิสึกะหลบหนี


“อัปลักษณ์ชะมัด”


“เคยได้ยินแบบนี้บ่อยแล้ว โดยเฉพาะจากปากผู้หญิงขี้อิจฉา”


“อะไรนะ? นี่หล่อนกำลังหาว่าฉันเป็นพวกขี้อิจฉา? อยากโดนทิ้งไว้ที่นี่ใช่ไหม?”


“ไม่เอาดีกว่า”


“ช… ช่วยฉันด้วย”


ขณะสองสาวกำลังแว้งกัดกันเอง โทบันทำได้เพียงครวญครางขอความช่วยเหลืออย่างน่าเวทนา


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬

ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน

ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,398

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/


Comments

  1. โทบันผู้น่าสงสาร~~~

    ReplyDelete
  2. ชอบๆ🤗
    ขอบคุณ​มาก​ๆ​ครับ​👍

    ReplyDelete
  3. โทบันชะตาเดียวกับเรกัสเลย55555555

    ReplyDelete
    Replies
    1. เรกัสคือ วิ่งเข้าหาปัญหา ส่วนโทบันคือ ปัญหาจะวิ่งเข้าหามันเอง 5555+

      Delete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00