จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1023



กริก!


[กุญแจใช้การได้!]


[มีเอฟเฟคลับเกิดขึ้น!]


“โอ้ส…!”


รูกุญแจเล็กบนต้นไม้ใหญ่


ชายหนุ่มเสียบมาสเตอร์คีย์เข้าไปและบิดไขจนสุด เกิดเสียงดังกริ๊กเป็นที่น่าพึงพอใจ


มีบางสิ่งเกิดขึ้น!


จินตนาการกริดพลันเตลิดไปไกล มันหวังจะเห็นต้นไม้แยกออกเป็นสองซีก หีบสมบัติสีทองอร่ามโผล่จากกึ่งกลาง


ขณะอยู่บนเรือ ลอเอลเคยคาดเดาไว้ว่า สมบัติในโบราณสถานเทพสงคราม มีแนวโน้มสูงที่จะเกี่ยวข้องกับ คัมภีร์ลับเทพสงคราม ซึ่งถือเป็นสุดยอดหนังสือทักษะประเภทหนึ่ง ไม่แปลกที่กริดหวังได้ครอบครอง


ทว่า


“…?”


ต้นไม้ไม่มีการขยับเขยื้อนใดๆ


แม้ข้อความระบบจะแจ้งว่ามีเอฟเฟคบางประการเกิดขึ้น แต่ความเป็นจริงกลับนิ่งเงียบ


“อะไรกัน? เกิดอะไรขึ้น?”


กริดฉุนเฉียวครู่หนึ่ง ก่อนจะกวาดสายตามองบรรยากาศโดยรอบอย่างถ้วนถี่ ถึงจะไม่พบเหตุการณ์ผิดปรกติ แต่มันได้พบกับต้นไม้อีกมากที่มีรูกุญแจในลักษณะเดียวกัน


‘มีมากขนาดนี้เชียว? ลองเปิดอีกสักหน่อยคงไม่เสียหาย’


ขณะกริดเดินเข้าไปหาต้นไม้ถัดไป ซึ่งอยู่ห่างราวยี่สิบเมตร


[ท่านถูกกับดัก!]


เหตุการณ์น่าเหลือเชื่อพลันอุบัติ


ตามปรกติแล้ว การเผลอเหยียบรากไม้ที่โผล่ยื่นขึ้นจากพื้น ควรเกิดเป็นกับดักที่รัดข้อเท้าและดึงเหยื่อขึ้น จนมีอันต้องห้อยหัวโทงเทงไม่ใช่หรือ?


แล้วทำไม…


ฟ้าวววว


โครมมมม!


[ท่านได้รับความเสียหาย 10,200 หน่วย]


หลุมลึกสิบเมตร…


กริดตกไปในหลุมที่มีเหล็กแหลมเสียบทะลวงร่างจนพรุน ลำคอเกิดรูโหว่ โลหิตสาดกระเซ็นเปรอะเปื้อน


ชายหนุ่มทำได้เพียงตัดพ้อรำพัน


“…บาดเจ็บหนักในกับดักเดียวเนี่ยนะ”


กับดักบัดซบอะไรกัน?


กริดอาศัยเวทบินจากรองเท้าบราฮัมเหาะขึ้นจากปากหลุม


“ทหารจักรวรรดิขุดไว้รึไง?”


นั่นสินะ ฝ่ายจักรวรรดิคงต้องการผูกขาดโบราณสถานเทพสงครามไว้เพียงผู้เดียว และแน่นอน หากโอเวอร์เกียร์มีพลังอำนาจมากพอ พวกตนก็ไม่ลังเลที่จะทำแบบเดียวกัน


หลังจากแล่นเรือมาถึงเกาะก่อนใคร สิ่งแรกที่จักรวรรดิทำ คงเป็นการขุดหลุมสร้างกับดักไว้รอบป่าเพื่อดักทำร้ายแขกไม่ได้รับเชิญ


‘สมกับเป็นจักรวรรดิ สามารถติดตั้งกับดักระดับสูงได้ในเวลาอันสั้น’


ตามปรกติแล้ว ยิ่งมีค่าวิสัยทัศน์สูง ผู้เล่นก็ยิ่งถูกกับดักเล่นงานทีเผลอได้ยาก โดยเฉพาะกริดที่มีแต้มสถานะมหาศาล กับดักธรรมดาหมดสิทธิ์ทำอันตรายโดยสิ้นเชิง


แต่กับดักเมื่อครู่ มันหลอมรวมเข้ากับสภาพแวดล้อมไร้ที่ติจนกริดแยกแยะไม่ออก ชายหนุ่มรู้สึกถึงภัยคุกคามร้ายแรง


“ชิ!”


ต้องมีกับดักทำนองเดียวกันซ่อนอยู่อีกมากแน่ กริดตัดสินใจเปิดใช้งานเวทบินตลอดเวลา


ทันใดนั้น หัวไหล่พลันเฉี่ยวเข้ากับใบไม้ที่แข็งและแหลมคมประหนึ่งใบมีด ชายหนุ่มได้รับแผลลึกบริเวณไหล่ เขาต้องรีบหยิบโพชั่นออกมาดื่มเพื่อเยียวยา


“กับดักบัดซบพวกนี้…”


ยากที่จะแยกแยะด้วยตาเปล่า หรือก็คือ กว่าจะทราบว่าเป็นกับดักก็สายเกินแก้ กริดชักอยากทราบแล้วว่า ใครกันที่เป็นผู้ติดตั้งกับดักสุดหฤโหดเหล่านี้รอบป่า


ตนจะโน้มน้าวมาเป็นพวกให้ได้…


กริ๊ก


ด้วยความพยายาม เขาสามารถเคลื่อนตัวไปถึงไม้ใหญ่ต้นถัดไปสำเร็จ กุญแจถูกเสียบไขและบิดจนสุด


เฉกเช่นครั้งก่อนหน้า ทั้งเสียงที่คล้ายจะได้ผล รวมถึงข้อความระบบที่แจ้งว่ามีบางสิ่งเกิดขึ้น แต่กลับไม่มีกล่องสมบัติทองอร่ามปรากฏกาย


“อีกแล้วหรือ?”


ความฉุนเฉียวเริ่มสุมในอก


หลังจากตรวจสอบนาฬิกา เขาพบว่ายังพอจะมีเวลาเหลือก่อนถึงเวลานัดรวมพล กริดมุ่งหน้าตรงไปยังต้นกุญแจไม้ต้นที่สาม


และเหมือนเดิม มาสเตอร์คีย์สามารถเสียบได้พอดิบพอดี …แต่ก็ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น


ไม่ว่าจะอีกกี่ต้น… ต้นแล้ว ต้นเล่า


ตลอดเส้นทาง กริดถูกกับดักเล่นงานต่อเนื่องจนต้องซดโพชั่นต่างน้ำ ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นไปมองโนเอะที่กำลังนั่งบนศีรษะตน


เขาเอ่ยปากถาม


“มันยังไงกันแน่? เสียบกุญแจแล้ว แต่ทำไมถึงไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น?”


“เจ้านายถามโนเอะทำไม? เหมียว…”


โนเอะกำลังมีความสุข


แสงแดดอบอุ่นส่องจากฟากฟ้าลงมากระทบศีรษะกริด สายลมเอื่อยพัดโชยเย็นสบาย บรรยากาศเหมาะแก่การนอนเกลือกกลิ้งเป็นที่สุด


กริดพึมพำเมื่อแมวหมูตัวนี้ใช้ศีรษะของเขาเป็นเตียงนอน โดยไม่แยแสความหงุดหงิดของผู้เป็นนายเลยสักนิด


“ช่วยฉันคิดหน่อย”


รับประทานศิลาอัสนีเข้าไปมากมายจนถึงขั้นวิวัฒนาการ อย่างน้อยก็ควรทำตัวเป็นประโยชน์บ้างสิฟะ!


แต่เมื่อกริดลองครุ่นคิด การวิวัฒนาการของโนเอะใช่ว่าไม่มีผลเสีย เลเวลสัตว์เลี้ยงถูกรีเซต แต้มสถานะลดลงจากเดิมพอสมควร ถึงจะมีทักษะที่ยอดเยี่ยมทดแทน แต่ความเฉียบแหลมของประสาทสัมผัสกลับถดถอย


ในสมัยก่อน กริดยังอ่อนแอ โนเอะจึงดูเก่งกาจและมีประโยชน์ แต่ปัจจุบัน ตัวตนกริดใกล้เคียงคำว่าสัตว์ประหลาด จึงไม่แปลกที่คุณประโยชน์ของโนเอะจะไม่มากเท่าเดิม


สำหรับกริดแล้ว โนเอะเคยสร้างสิ่งมหัศจรรย์มากมายในอดีต เช่นเมื่อครั้งสงครามโกเล็ม เจ้าแมวอ้วนใช้ทักษะกลืนวิญญาณขโมยแต้มสถานะมหาศาลของโกเล็มให้กริด นั่นคือบรรทัดฐานที่โนเอะเคยสร้างไว้ในอดีต …แต่เหตุการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้นได้ง่ายที่ไหน?


‘หวังว่าจะไม่เจอศัตรูแข็งแกร่งแถวนี้…’


เมื่อเริ่มไม่คาดหวังประโยชน์ใดจากโนเอะ ชายหนุ่มอมยิ้มกับตัวเองอย่างขบขัน


‘สิ่งที่เราต้องการจากโนเอะไม่ใช่ประโยชน์ แค่ทำตัวให้สมกับเป็นโนเอะก็พอแล้ว… เป็นแมวที่ร่าเริง ทำประโยชน์บ้างเมื่อถึงคราวจำเป็น’


ว่าแต่ เม็มฟิสมีอายุขัยรึเปล่า?


แล้วถ้ามี จะยืนยาวกว่าเราหรือไม่?


ด้วยเหตุผลบางประการ เมื่อไม่นานมานี้ ขนของโนเอะกลับมาเป็นสีดำขลับอีกครั้ง


ชายหนุ่มลูบไล้ไปยังขนอ้วนฟูของเม็มฟิส ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังต้นไม้ถัดไป


ได้โปรดเป็นต้นที่ถูกหวยด้วย


กริ๊ก


…ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นเหมือนเดิม


ข้อความระบบแจ้งเพียงมี ‘เอฟเฟค’ เกิดขึ้น แต่เขามิอาจทราบเลยว่าเป็นเอฟเฟคอะไร


“…เอ๋?”


กริดที่ถอนหายใจเหนื่อยหน่ายและกำลังมองหารูกุญแจแห่งใหม่ สายตาพลันเบิกโพลงอย่างตกตะลึง


กับดักในเส้นทางที่ผ่านมา พวกมันเริ่มเลือนหายหายไปราวกับไม่เคยมีตัวตนอยู่


‘ทำลายกับดัก?’


เขาเริ่มตระหนักถึงประโยชน์ที่แท้จริงของรูกุญแจบนต้นไม้


ความคิดใหม่ขึ้นผุดในหัวหลังจากพบว่าต้นไม้รูกุญแจ กระจายตัวทั่วผืนป่าแสนอันตรายแห่งนี้


‘จักรวรรดิไม่มีทางวางกับดักระดับสูงหลายร้อยจุดภายในเวลาอันสั้นแน่’


กับดักทั้งหมดคือสิ่งที่อยู่คู่เกาะมาตั้งแต่ต้น และบางที การทำลายกับดักอาจเป็นกุญแจสำคัญสำหรับสำรวจโบราณสถาน


หมายความว่า ด้วยกุญแจสุดขี้โกงในมือ ตนนำหน้ากองทัพจักรวรรดิไปแล้วหนึ่งก้าว


‘เรายังสามารถใช้เป็นเครื่องต่อรอง…’


ไอเท็มที่ออกแบบไว้ตั้งแต่สมัยยังมีประสบการณ์ไม่มาก มาสเตอร์คีย์ซึ่งเกิดจากความละโมบ กลายเป็นสิ่งสำคัญโดยไม่ได้ตั้งใจ


ยิ่งเวลาผ่านไป อรรถประโยชน์ยิ่งมากมาย จนกริดรู้สึกทึ่งในความคิดของตนสมัยนั้น


หลังจากลองทบทวนตัวเองดู เขาได้พบว่า ตัวเองในปัจจุบันอาจไม่มีความคิดที่จะสร้างมาสเตอร์คีย์ขึ้น


แม้จะเห็นรูกุญแจอยู่เบื้องหน้า แต่สิ่งแรกที่ทำคงเป็นการพยายามไขปริศนาอย่างตรงไปตรงมา แทนที่จะสร้างไอเท็มเพื่อแก้ปัญหา


กรอบความคิดถูกจำกัดให้แคบลงหลังจาก ‘จำนวน’ การออกแบบไอเท็มเหลืออีกไม่มาก การใช้ทักษะแต่ละครั้งต้องผ่านการชั่งน้ำหนัก หาข้อดีข้อเสียโดยละเอียด และคำนึงถึงวัสดุที่ใช้


‘ตัวเราในปัจจุบัน คงคิดถึงวิธีแก้ปัญหาโดยการออกแบบไอเท็มไม่ได้แน่’


ประสบการณ์ที่มากขึ้น บางครั้งก็ไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป ความเรียบง่ายและใสซื่อ ถือเป็นพลังด้านบวกที่สำคัญในบางคราว


ขณะกริดกำลังบรรลุสัจธรรม


…!


เสียงฝีเท้าของคนกลุ่มหนึ่งกำลังมุ่งตรงมาทางตน


สวบ! สวบสวบสวบสวบ!!


ฝีเท้าดังใกล้เข้ามาทุกขณะ ทิศทางมาจากด้านในป่าลึกไม่ห่างนัก


ทันใดนั้น


“ราชาโอเวอร์เกียร์…!”


กลุ่ม NPC สามคน ชายสองหญิงหนึ่ง สภาพร่อแร่ไม่ต่างจากขอทาน ราวกับเพิ่งถูกรถบรรทุกพุ่งชน โผล่ออกมาจากพุ่มเถาวัลย์หนาทึบซึ่งบดบังการมองเห็นกริด


[ท่านได้พบตัวตนที่ยิ่งใหญ่แห่งยุคสมัย!]


[ปราณต่อสู้กำลังเดือดพล่าน]


“…!!”


เกล็นฮาล มอริส บาซาร่า


กวาดสายตามองเพียงปราดเดียว กริดก็ทราบตัวตนที่แท้จริงพวกมันทันที ปราณต่อสู้บ่งบอกทุกสิ่งแจ่มแจ้ง


ทั้งสามล้วนเป็นแขกพิเศษในงานเลี้ยงรับรอง เมื่อครั้งจักรพรรดิฮวนเดอร์เรียกกริดเข้าเฝ้าอย่างเป็นทางการ


เขาอาจจดจำบาซาร่าได้ไม่ชัดเจน แต่ไม่ใช่กับมอริสและเกล็นฮาล มอริสนั้นมีลักษณะโดดเด่นชัดเจนกว่าดยุคที่เหลือ ส่วนเกล็นฮาลมีความน่าสะพรึงระดับเดียวกับอริยหอก·เรเชล และดยุคแห่งดาบ·ลิมิต


หรือต่อให้ไม่เคยพบกันมาก่อน แต่จากข้อความระบบที่แจ้งเตือน ชายหนุ่มก็พอจะคาดเดาตัวตนอีกฝ่ายได้ไม่ยาก


‘ฉิบหายล่ะสิ!’


เหตุการณ์เลวร้ายสุดขีด


นอกจากตนจะฝ่าฝืนคำเตือนลอเอลที่ห้ามย่างกรายเข้าป่า ยังดวงซวยปะทะดยุคจักรวรรดิมากถึงสามในคราเดียว


ชิ้ง—


เมื่อกริดสัมผัสถึงความตายคืบคลานเข้าใกล้ เขารีบชักดาบเตรียมดิ้นรนเฮือกสุดท้าย


“ไอ้ตูดหมึก! ถึงแกจะช่วยพวกเราไว้ แต่ฉันก็ไม่ขอบใจหรอกนะโว้ย!”


มอริสพล่าม


“…?”


เราช่วยพวกมันไว้ตอนไหน?


แต่ผ่านไปเพียงอึดใจ กริดเริ่มตระหนักถึงสิ่งที่ตนกระทำลงไป …คงเพราะกับดักถูกทำลาย พวกมันจึงรอดชีวิตอย่างฉิวเฉียด


‘และเป็นสาเหตุที่ไม่มีใครโจมตีเข้ามา’


ไม่ผิดแน่ ทั้งสามคงตกที่นั่งลำบากสถานหนักจนกระทั่งเมื่อครู่ ไม่อย่างนั้น ถ้าเป็นสถานการณ์ปรกติ กริดคงเสียประกันชีวิตอมตะไปนานแล้ว


แต่ความจริงที่เกิดขึ้นคือ กริดยังสบายดี และทั้งสามดยุคก็มิได้ปลดปล่อยจิตสังหาร


ชายหนุ่มพยายามอ่านสถานการณ์ปัจจุบันให้แตกฉาน


‘ต้องตกที่นั่งลำบากขนาดไหนกัน… พวกมันถึงยอมเมินเฉยไม่ทำร้ายเรา’


ตนคือกษัตริย์อาณาจักรคู่สงคราม แถมยังสังหารพวกพ้องดยุคไปแล้วหนึ่งคน สิ่งแรกที่พวกมันทำควรเป็นการพุ่งปรี่เข้าใส่ ต่อให้ไม่ฆ่าทิ้ง แต่อย่างน้อยก็ควรจับเป็นตัวประกัน


การบังเอิญพบกริดในป่าตามลำพัง ไม่ต่างอะไรกับลาภก้อนโตหล่นทับ ถือเป็นโอกาสสร้างความชอบใหญ่หลวง


แต่เพียงเพราะถูกช่วยเหลือ เหตุไฉนจึงยอมลืมเรื่องราวเหล่านั้นจนหมดสิ้น?


‘สิ่งที่เราทำลงไป คงสำคัญมากพอดู’


นี่คือโอกาสล้ำค่าที่ต้องฉกฉวย


หลังจากตัดสินใจได้ ชายหนุ่มพยายามสงบสติอารมณ์


“ไม่ต้องขอบคุณก็ได้ แค่ช่วยพวกนายสำเร็จก็ดีใจมากแล้ว บนเกาะอันตรายแบบนี้ ฉันคิดว่าเราควรผูกมิตรกันไว้”


บ้าจริง ทั้งที่พยายามข่มใจให้สงบแล้วแท้ๆ แต่เสียงที่เปล่งออกไปกลับหยุดสั่นไม่ได้เลย


ด้วยความสัตย์จริง กริดกำลังหวาดกลัวจนฉี่แทบราด สัตว์ประหลาดทั้งสามสามารถดับลมหายใจตนได้ทุกวินาที หากพูดจาไม่เข้าหู เกรงว่าคงได้ถูกส่งออกนอกทะเลแดงเป็นแน่ และหมดสิทธิ์ปกป้องพวกพ้องที่เหลือโดยสิ้นเชิง


“หมอนี่ใช่ผู้ที่ฆ่ารีกัลจริงหรือ?”


มอริสจ้องกริดเขม็ง


กริดไม่จำเป็นต้องตอบ เพราะเกล็นฮาลทำหน้าที่ดังกล่าวแทน


“สงครามก็โหดร้ายแบบนี้แหละ…”


มันกำลังจะสื่อว่า การเข่นฆ่าในสงคราม บางครั้งผู้ลงมือก็ไม่มีทางเลือกมากนัก


“…น่าสนใจดีนี่”


มอริสเห็นด้วยกับคำพูดเกล็นฮาล มันไม่กล่าวสิ่งใดต่อ


ทันใดนั้น เกล็นฮาลลงจากหลังฮิปโปสองหัวพร้อมกับก้มศีรษะให้กริด สิ่งนี้ถือเป็นการกระทำที่ยิ่งใหญ่ แต่ชายหนุ่มมิได้ตระหนัก


ด้านบาซาร่าและมอริสกำลังมีสีหน้าตกตะลึง


เพราะเกล็นฮาลแทบไม่เคยลงจากหลังฮิปโปเพื่อทำความเคารพใคร นอกเสียจากองค์จักรพรรดิและองค์ชาย แม้กระทั่งจักรพรรดินีแมรี่ เกล็นฮาลก็ไม่เคยลงจากฮิปโปเพื่อคำนับ


“ต้องขอบคุณราชาโอเวอร์เกียร์เป็นอย่างมากที่ยื่นมือเข้าช่วย พวกเราจึงรอดพ้นจากวิกฤติมาได้อย่างฉิวเฉียด แต่ความช่วยเหลือในหนนี้คงมิได้เกิดขึ้นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใช่ไหม?”


‘ใช่กับผีน่ะสิ’


เป็นอีกครั้งที่พลังแห่งความเข้าใจผิดทำงานของมัน กริดสร้างสถานการณ์เชิงบวกได้โดยบังเอิญอีกครั้ง


ขณะเขาครุ่นคิดหาวิธีตอบคำถามให้เกิดประโยชน์กับฝ่ายโอเวอร์เกียร์ เกล็นฮาลคิดเองเออเองเสร็จสรรพ


“ผมขอเดาว่า ราชาโอเวอร์เกียร์และพวกพ้องคงมิอาจรับมือเทพสงครามตามลำพังไหว จึงหวังให้สามดยุคอย่างพวกเราร่วมมืออีกแรง”


“…”


“นับเป็นแผนการที่น่าเลื่อมใส ราชาโอเวอร์เกียร์มีกุญแจ ส่วนพวกเราช่วยต่อสู้ การร่วมมือกันนับเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย… ไม่น่าเชื่อว่าคุณจะใจกว้างถึงขั้นยอมตัดความแค้นในอดีตเพื่อผลประโยชน์ภาพกว้าง สมกับเป็นผู้ก่อตั้งอาณาจักรด้วยฝีมือตัวเอง… ช่างน่าขันนักที่ตัวผมในอดีตมีตาหามีแววไม่”


เมื่อมันกล่าวจบ เกล็นฮาลกลายเป็นคนเสียสติในสายตากริดทันที รอบตัวเขามีคนประเภทนี้มากจนน่าตกใจ


“กล่าวได้ถูกต้อง ราชาโอเวอร์เกียร์นับเป็นบุรุษที่กล้าหาญและมีวิสัยทัศน์มองการณ์ไกล ขออภัยที่เคยดูแคลนคุณ”


บาซาร่าเสริม


มอริสพยักหน้าเล็กน้อยโดยไม่กล่าวสิ่งใด


เกล็นฮาลยื่นแขนออกไปหากริด


“ผมขอใช้สิทธิ์ของหนึ่งในเจ็ดดยุคประกาศว่า บนเกาะแห่งนี้ สงครามระหว่างจักรวรรดิและโอเวอร์เกียร์จะยุติลงชั่วคราว พวกเราคือพันธมิตรอันแน่นแฟ้น… ฝ่ายโอเวอร์เกียร์จัดหากุญแจ ส่วนฝ่ายเราจะคอยเป็นพลังช่วยต่อสู้ หากสองฝ่ายร่วมมือกันอย่างสมานฉันท์ การสำรวจต้องดำเนินผ่านไปด้วยดีแน่ ผลประโยชน์จะถูกแบ่งอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม”


“…”


ให้ตัดสินใจแทนทุกคนจะดีหรือ?


รึว่าควรปรึกษาลอเอลก่อน?


กริดลังเลครู่หนึ่ง แต่ก็เพียงครู่เดียวเท่านั้น มันยื่นแขนออกไปจับมือเกล็นฮาลโดยไม่คิดมาก


ไม่ว่าจะมองมุมใด การสำรวจเกาะแห่งนี้โดยต้องหวาดระแวงจักรวรรดิตลอดเวลา ไม่ใช่ตัวเลือกที่ฉลาดเลยสักนิด


นี่คือทางเลือกที่สมเหตุสมผลที่สุดแล้ว


“ตกลง มาร่วมมือกันเถอะ”


หมับ


ฝ่ามือกริดและเกล็นฮาลสัมผัสกัน


“ฮ๊าง…”


“…??”


“…??”


เกล็นฮาลครางเสียงประหลาด มอริสและบาซาร่าขมวดคิ้วพลางหันมองหน้ากัน


“อะแฮ่ม”


กริดรีบกระแอมพร้อมดึงมือกลับ


***


ณ สำนักงานใหญ่ SA กรุป


“เหลวไหลสิ้นดี… เกิดเรื่องแบบนี้ได้ยังไง?”


เจ้าหน้าที่ระดับสูงซึ่งกำลังประชุมถกเรื่องเครียดในประเด็นอื่น สีหน้าพวกมันพลันขาวซีดเมื่อเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนจอฉายภาพ


แต่ไหนแต่ไร จักรวรรดิมีชะตาต้องถูกทำลายโดยมังกรคลั่งเนอวาร์ธาน นั่นคือบทเนื้อเรื่องที่ถูกวางเค้าโครงไว้ตอนต้น


ทว่า รอบชิงชนะเลิศการแข่ง PVP ซาทิสฟายนานาชาติครั้งที่สามกลับเกิดเหตุไม่คาดฝัน ขึ้น ส่งผลให้บทหลักเนื้อเรื่องมีการเปลี่ยนแปลง


จักรวรรดิรอดพ้นจากการล่มสลาย พวกมันประกาศสงครามกับอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ ด้วยข้ออ้างว่าอีกฝ่ายรับเผ่าเนตรมารเป็นพลเมือง


แต่จากความบังเอิญที่ซ้อนทับกัน ทีมสำรวจสกังค์ได้ค้นพบโบราณสถานเทพสงครามบนทะเลแดงเข้าในช่วงเวลาไล่เลี่ย


หากพวกมันไม่เดินทางไปกัลเลสจนได้พบกับเจ็ดดยุคที่รอซ่อมแซมเรือ สกังค์จะไม่มีเทคโนโลยีและกำลังรบมากพอจะสำรวจทะเลแดงไหว ลงเอยด้วยการเดินเรือล้มเหลวและไม่มีโอกาสได้พบโบราณสถานเทพสงคราม


แต่การมีอยู่ของสามดยุคได้ทำให้สัตว์ทะเลถูกกำราบง่ายดาย เข็มทิศที่แท้จริงของสกังค์จึงทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ


เมื่อข้อความโลกปรากฏพร้อมกับการถอนตัวของกองทัพจักรวรรดิ อาณาจักรโอเวอร์เกียร์จึงมุ่งเป้าไปยังทะเลแดงทันที


ทำให้ในช่วงเวลาเดียวกันที่จอมอสูรเฟย์ริสปรากฏตัว ขุมกำลังรบหลักของทวีปได้แห่ไปสำรวจทะเลแดงและโบราณสถานจนหมด


ด้วยเหตุนี้ ทีมบริหารซาทิสฟายจึงต้องประชุมเร่งด่วนเพื่อหาทางแก้ไขปัญหา


สืบเนื่องมาจาก สันตะปาปาดาเมี่ยนพยายามลากกองทัพยาธานออกไปรบให้ไกลชายแดนโอเวอร์เกียร์มากที่สุด แต่ขณะเดียวกันก็ไกลกับจักรวรรดิด้วยเช่นกัน จอมอสูรเฟย์ริสจึงปรากฏตัวในจุดที่ไม่มีใครแข็งแกร่งพอจะกำจัดมัน


จากการคำนวณของทีมงาน การจะล้มเฟย์ริสจำเป็นต้องใช้ผู้เล่นท็อปแรงเกอร์ทุกคนบนโลก แต่ส่วนใหญ่กลับติดตามกริดลงทะเลแดง นี่คือจุดเริ่มต้นของหายนะที่ทีมงานซาทิสฟายไม่ต้องการให้เกิด


จากข้อมูลที่ถูกวิเคราะห์ มีโอกาสสูงที่เฟย์ริสจะสังหารผู้บริสุทธิ์นับล้านบนทวีป จากนั้น มันจะเปิดประตูขุมนรกเพื่ออัญเชิญกองทัพอสูรขึ้นมายังโลกมนุษย์


ผู้เล่นที่ล้มตายหนแล้วหนเล่าและสูญเสียไอเท็มดรอปกับค่าประสบการณ์ มีโอกาสสูงที่กลุ่มคนเหล่านี้จะเลิกเล่นซาทิสฟายเป็นการถาวร


และเมื่อปาร์ตี้กริดกลับจากโบราณสถานเทพสงคราม พวกเขาจะมิอาจต่อกรกับเฟย์ริสที่มีกองทัพอสูรได้ …ทุกสิ่งจะสายเกินแก้


หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ สำหรับผู้เล่นในยุคปัจจุบัน การสำรวจโบราณสถานเทพสงครามถือเป็นการกระทำที่สูญเปล่า


เนื้อหาภายในโบราณสถานมีกำหนดถูกเปิดเผยในอนาคตที่ค่อนข้างไกล สังเกตได้จากการที่มอนสเตอร์ทั่วไปเป็นถึง ‘สาวกห้าเทคนิค’


ถูกต้อง ในทางทฤษฎี กริดและพวกพ้องผู้เล่นยุคปัจจุบันหมดสิทธิ์สำรวจโบราณและได้รับสมบัติล้ำค่าโดยสิ้นเชิง พวกมันมีชะตากรรมให้ต้องกลับทวีปตะวันตกมือเปล่า


แต่ว่า… แต่ว่า…!!


“กริดเอากุญแจบัดซบนั่นมาจากไหน?”


กุญแจปริศนาซึ่งสามารถปลดกับดักด้วยการไข ต้นไม้รูกุญแจ ซึ่งกระจายทั่วผืนป่า


แถมกริดยังช่วยชีวิตสามดยุคได้โดยบังเอิญ ส่งผลให้พวกมันยอมจับมือเป็นพันธมิตรกับโอเวอร์เกียร์ทั้งที่อยู่ในภาวะสงคราม


“…กริดอาจเคลียร์โบราณสถานสำเร็จก็ได้”


หนึ่งในผู้บริหาร SA กรุปพ่นถ้อยคำที่ ทุกคนเคยคิดว่าเป็นไปไม่ได้ ออกจากปาก


…และไม่มีแม้แต่คนเดียวที่โต้แย้ง


เมื่อคำนวณจากขุมกำลังปัจจุบันที่นับรวมสามดยุคเข้าไปด้วย มีโอกาสค่อนข้างมากที่กริดจะสำรวจโบราณสถานสำเร็จ


“ฮะ… ฮะฮะ!”


ประธานใหญ่ลิมชอลโฮส่งเสียงหัวเราะ


แม้แต่มันก็ไม่อยากจะเชื่อว่า กุญแจเก่าแก่ที่กริดแทบไม่เคยงัดออกมาใช้เลย จะเกิดประโยชน์บนเกาะโบราณสถาน จนสามารถซื้อใจสามดยุคซึ่งเป็นศัตรูได้


ลิมชอลโฮชื่นชมจากใจ


กริดคือบุคคลนอกเหนือการคำนวณของมอร์เฟียสอย่างแท้จริง สมแล้วที่เป็นหนึ่งในห้าปาฏิหาริย์


ท่ามกลางบรรยากาศเงียบงัน


“ท่านประธานครับ”


ผู้อำนวยการยุนซังมิน มันลุกขึ้นพร้อมกับเอ่ยปากถามลิมชอลโฮ


“รับไก่ทอดกับเบียร์เหมือนเดิมใช่ไหมครับ?”


“อื้อ”


“ไก่ทอดแบบผสมเหมือนเดิมนะครับ?”


“อื้อ”


“เข้าใจแล้วครับ ผมจะสั่งมาสองชุด”


ขณะผู้อำนวยการยุนซังมินถือโทรศัพท์และกำลังจะเดินออกจากห้อง


“ผู้อำนวยการยุน คุณเสียสติไปแล้วรึไง?”


คณะผู้บริหารทุกคนต่างยกนิ้วชี้ขึ้นคนละหนึ่ง


“คุณคิดว่าในห้องนี้มีกี่คน? สองรึไง?”


“…”


เป็นเช่นนี้แล


ผู้บริหารที่เหลือล้วนไม่ต่างกัน พวกมันกำลังให้ความสนใจกับเรื่องราวผจญภัยสุดตื่นเต้นของกริด …จุดจบจะเป็นเช่นไร ไม่มีใครทราบได้เลย


เมื่อสถานการณ์มิอาจแก้ไขได้ด้วย ‘กำลัง’ เหมือนทุกครั้ง กริดจึงจำเป็นต้องฝืนเค้น ‘ปัญญา’ อย่างไม่มีทางเลือก


เป็นภาพเหตุการณ์ที่ใครหลายคนไม่คุ้นเคย


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,412
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. พลังแห่งความเข้าใจผิด👍😆
    ขอบคุณ​มาก​ครับ​🙏

    ReplyDelete
  2. 2ชุดมันไม่พอหรอกนะ ชั้นเอาด้วย

    ReplyDelete
  3. ไก่ทอดเผื่อด้วย

    ReplyDelete
  4. นี่มันบริษัทอะไรเนี่ย!!จะชิลดันเกินไปแล้วนะ

    ReplyDelete
  5. จาก overlord ก็ overgear เนี้ย สนุก อณาจักรกาวเหมือนกัน 555

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00