จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 904
สามปีก่อนในซาทิสฟาย การดวลระหว่างยูเฟอมิน่าและแอ็กนัสเกิดขึ้นเพราะเธอได้รับภารกิจ ‘ดวงวิญญาณมูมัดปรารถนาอิสระ’
ในครานั้น ยูเฟอมิน่าจำต้องยอมรับว่า แอ็กนัสคือผู้เล่นที่แข็งแกร่งกว่ามาก ในการจะผ่านภารกิจนี้ เธอจำเป็นต้องยกระดับตัวเองครั้งใหญ่
นับตั้งแต่สี่เดือนก่อน ยูเฟอมิน่าเริ่มต้นแผนการ ‘ล่า’ แอ็กนัส เธอทุ่มเงินจำนวนมากเพื่อสืบหาข่าวและข้อมูลจุดอ่อนแอ็กนัส
เมื่อได้รับข้อมูลที่ต้องการ ยูเฟอมิน่าตระเวนไปทั่วทวีปเพื่อคัดลอกทักษะที่แอ็กนัสแพ้ทาง
“ร่ายรำ”
“ฝนโลหิต!”
ยูเฟอมิน่ากางม่านบาเรียเพื่อสกัดรัศมีดาบจำนวนมากที่พุ่งเข้าหา
ขณะตั้งรับ เธอชำเลืองมองร่างโคลนกริดผ่านรอยแตกร้าวบาเรียที่ถูกวิชาดาบทรงพลังกระแทกทำลาย
สีหน้าของร่างโคลนยังคงราบเรียบไร้อารมณ์ ปราศจากความกระวนกระวายใจ แม้การโจมตีของมันจะกลายเป็นหมันไปแล้วหลายหน
มันกำลังผ่อนคลาย?
‘ไม่ใช่แน่ มันแค่ไม่มีระบบอารมณ์’
ขณะเข้าสู่การต่อสู้ที่ไม่คาดฝัน ยูเฟอมิน่าได้รับข้อมูลจากกริดเป็นระยะ
เขาอธิบายถึงธรรมชาติและปูมหลังร่างโคลนโดยละเอียด และยูเฟอมิน่าเริ่มกะเกณฑ์ศัตรูจากข้อมูลที่เธอมี
จนกระทั่งเกิดข้อสรุป
‘มันอ่อนแอกว่ากริดหลายเท่า’
ยูเฟอมิน่ามิได้ตัดโอกาสที่ร่างโคลนจะพัฒนาตัวเอง เหมือนกับที่กริดพัฒนาขึ้น
ใช่แล้ว เป็นอย่างที่กริดคาด ร่างโคลนมีทักษะสูสีกับกริดในปัจจุบัน มีสติปัญญาและฝีมือควบคุมสูงกว่า เพียงแต่ว่า…
อุปกรณ์สวมใส่ที่มันใช้เป็นแบบเก่า
ดาบขึ้นสนิมและเครื่องป้องกันเก่าโทรม ทั้งหมดล้วนเป็นไอเท็มที่กริดเคยสวมเมื่อนานมาแล้ว
เป็นของตกรุ่นที่เทียบไม่ได้กับไอเท็มกริดในปัจจุบัน สำหรับเธอ สิ่งนี้ไม่ถือเป็นภัยคุกคามแต่อย่างใด
“ไอเท็มยุคก่อนสามชั้นสินะ…ของแค่นี้เอาชนะฉันไม่ได้แน่!”
ไอเท็มเลเวลต่ำย่อมมีขีดจำกัดของมัน
นั่นคงเป็นชุดเกราะแสงศักดิ์สิทธิ์สินะ? เวทมนตร์ของเธอทะลวงผ่านเกราะเลเวลต่ำได้แน่
ในคราวนี้ ยูเฟอมิน่าเริ่มเป็นฝ่ายรุกบ้าง
เธอใช้เวลากว่าสี่เดือนในการคัดลอกมวลมหาเวทมนตร์เพื่อปราบแอ็กนัส—ผู้บงการกองทัพอันเดด ส่งผลให้เวทมนตร์ส่วนใหญ่โจมตีเป็นวงกว้างได้รุนแรง
หินยักษ์หลายสิบก้อนเริ่มก่อตัวบนท้องฟ้า จากนั้นได้โปรยปรายถล่มทับกริดตัวปลอมที่อยู่เบื้องล่าง
แต่ละก้อนมีขนาดใหญ่กว่าหนึ่งเมตร ทุกครั้งที่ร่วงหล่นกระทบพื้น ผืนดินจะเกิดแรงสะเทือนจนคนมุงสูญเสียการทรงตัว
“อ…อึ๋ย! หลบเร็ว!”
“ว๊ากกก!”
‘จังหวะนี้แหละ’
ความโกลาหลที่เกิดจากแรงสะเทือนของเวทมนตร์ทำลายวงกว้าง ยูเฟอมิน่าเล็งโจมตีใส่ร่างโคลนกริดที่ถูกหินถล่มทับ
เธอรีบใช้ ‘ศูนย์องศาสัมบูรณ์’ ที่คัดลอกจากบองเดร ผู้เล่นคลาสจอมอาคมน้ำแข็งอันดับหนึ่ง ซึ่งกำลังทำงานให้วัลฮัลล่า
ขณะร่างโคลนพยายามปืนป่ายแทรกตัวออกจากช่องว่างเศษหิน ร่างของมันได้กลายเป็นน้ำแข็งฉับพลัน
เหมือนกับประติมากรรมรูปปั้นน้ำแข็งไม่มีผิดเพี้ยน
‘ได้เวลาปิดฉากแล้ว!’
คราวนี้เป็นสายฟ้าขนาดใหญ่ หนึ่งในท่าไม้ตายของยูเฟอมิน่าฟาดผ่าใส่ร่างโคลนที่กำลังเยือกแข็งอย่างจัง
ยูเฟอมิน่าประเมินว่า ร่างโคลนคงสูญสูญเสียพลังชีวิตจนหมดสิ้น เพราะมันคงมีค่าสถานะและระดับพลังชีวิตไม่ต่างจากกริดมาก
ชัยชนะครั้งนี้ง่ายดายกว่าที่เธอคิด
แต่นั่นไม่จริงเลย
[ท่านสร้างความเสียหายแก่เป้าหมาย 29,000 หน่วย]
‘เอ๋?’
ทำไมถึงน้อยกว่าที่ควร?
ไม่ใช่ว่าต้องรุนแรงกว่านี้สักสองสามเท่างั้นหรือ?
ความเสียหายจากหินถล่มและศูนย์องศาสัมบูรณ์บางเบาก็ไม่ต่างกัน
หลังจากถูกสายฟ้ากระแทกจนน้ำแข็งแตก ในที่สุด หลอดพลังชีวิตร่างโคลนก็ถูกเผยให้ยูเฟอมิน่าเห็นเต็มสองตา
มันยังมีพลังชีวิตลงเหลือเกินกว่าเก้าในสิบส่วน
ในวินาทีนี้ ยูเฟอมิน่าตระหนักได้สองสิ่ง
หนึ่งก็คือ ชุดเกราะแสงศักดิ์สิทธิ์ที่เธอมองว่าเป็นไอเท็มตกยุค มันกลับยังทรงประสิทธิภาพอย่างน่าทึ่ง
และข้อสองคือ ร่างโคลนมีสถานะเป็นบอสพิเศษ
เมื่อนำสองข้อมารวมกัน เซ็ตแสงศักดิ์สิทธิ์สุดโกงที่ดูดซับเวทมนตร์ และบอสพิเศษที่มีพลังชีวิตไม่ต่ำกว่าสิบล้าน…
‘เราต้องดวลกับกริดที่มีพลังชีวิตหลักสิบล้านรึไง?’
ไม่โกงกันไปหน่อยหรือ?
‘แบบนี้ชนะไม่ได้แน่’
ขณะยูเฟอมิน่ากำลังหวาดหวั่น ร่างโคลนปรี่เข้าหาโดยไม่รีรอ มันกวัดแกว่งดาบใหญ่ในมือเข้าใส่
ทั้งหมดเป็น การโจมตีธรรมดา การโจมตีธรรมดา และการโจมตีธรรมดา…
“…?”
ดวงตายูเฟอมิน่าเริ่มสั่นระริกขณะพยายามเสกบาเรียเวทมนตร์ปัดป้อง
เธอสัมผัสได้ มีบางสิ่งแปลกไปในการเคลื่อนไหวของร่างโคลน มีบางสิ่งถูกสอดแทรกระหว่างการโจมตีธรรมดา
เท้าของมันกำลังขยับเป็นจังหวะที่เธอคุ้นเคย
‘รำดาบ…!’
“ทำลายล้างสังหาร”
การโจมตีที่มองข้ามพลังป้องกันทางกายภาพ รวมถึงบาเรียทางกายภาพทุกชนิด
หนึ่งในสุดยอดทักษะผสานสองชนิดที่กริดครอบครอง หากถูกแทงเข้าไป มีเพียงความตายเท่านั้นที่รออยู่
“ชิ!”
ยูเฟอมิน่าไม่มีทางหลบพ้น เธอเป็นจอมเวทที่มีค่าความว่องไวต่ำติดดิน
ด้วยเหตุนี้ หนึ่งในไพ่ตายที่เตรียมไว้ต้องถูกสละ—เคลื่อนย้ายมิติ
สาวสวยผมทองหายตัวอย่างไร้ร่องรอยราวกับเป็นเรื่องโกหก คลื่นดาบทำลายล้างสังหารปะทะเพียงความว่างเปล่า
ร่างยูเฟอมิน่าปรากฏขึ้นด้านหลังกริดตัวปลอมพร้อมกับเสาลำแสงสีขาวส่องสว่าง
“วายุทมิฬ!”
“…!”
หนึ่งในท่าไม้ตายของเซ็ดนอส จอมเวทวายุอันดับหนึ่งของโลก ถูกปลดปล่อยจากปลายนิ้วยูเฟอมิน่าที่ประชิดติดกับแผ่นหลังร่างโคลน
โลหิตสีแดงฉานสาดกระเซ็นเปรอะเปื้อนพื้นถนนหลวงยูเด็น ร่างโคลนชำเลืองมองยูเฟอมิน่าด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไร้ความเจ็บปวดเคลือบแฝง
มันมิได้แยแสเหล่าจอมเวทหลวงของเมอร์เร่ที่พยายามระงับเหตุเลยสักนิด ในปัจจุบัน สายตาของมันมีเพียงยูเฟอมิน่า
เธอกลืนน้ำลายอึกใหญ่
ยูเฟอมิน่าคือหนึ่งในผู้เล่นที่แข็งแกร่งที่สุดของซาทิสฟายมาตลอด มีเพียงน้อยครั้งนักที่เธอจะรู้สึกประหม่า
“สัตว์ประหลาดชั่วช้า! ถอดหน้ากากของแกเดี๋ยวนี้!”
ผู้มีพระคุณปรากฏตัวทันท่วงที
อัสโมเฟลสลัดหลุดจากหัตถ์เทวะสี่ข้างที่ถูกบงการอย่างสมบูรณ์แบบโดยสมองกล
ทันทีที่เขาสยบหัตถ์เทวะสี่ข้างได้พร้อมกัน อัสโมเฟลพุ่งตัวหาร่างโคลนด้วยความเร็วสูงสุด เขาเคลื่อนที่ไปบนหลังคาบ้านเรือนพร้อมกับดาบในมือที่มีเปลวเพลิงระอุลุกโชน
“เซอร์อัสโมเฟล!”
ใบหน้าอันงดงามของสาวสวยผมทองเริ่มเกิดความหวัง
เธอยินดีที่หนึ่งในตัวละครสุดแกร่งของอาณาจักร รองจากปิอาโร่และเมอร์เซเดส ยื่นมือเข้าช่วยในยามคับขัน
แต่ความยินดีมีอายุขัยเพียงชั่วครู่
อัสโมเฟลอยู่ในสภาพไม่สมบูรณ์หลังจากทำร้ายตัวเอง รวมถึงการดวลเดือดกับอดีตอัศวินสีชาด ซินกูเล็ต
เขามิอาจรับมือร่างโคลนไหว
แม้ความเร็วจะสูงกว่าร่างโคลนพอสมควร แต่การเคลื่อนไหวส่วนใหญ่ถูกหัตถ์เทวะสี่ข้างสะกดจนอยู่หมัด
“อึก…!”
“ไม่นะ!!”
ยูเฟอมิน่าแผดเสียงร้องเมื่อร่างโคลนคว้าคออัสโมเฟลไว้ได้
อัสโมเฟลเป็น NPC มิใช่ผู้เล่น เขามีเพียงชีวิตเดียวเท่านั้น
ความตายของชายคนนี้ถือเป็นความสูญเสียใหญ่หลวงของอาณาจักร และกริดต้องเศร้าโศกมากแน่
ยูเฟอมิน่ายังคงจดจำความรู้สึกเมื่อครั้งสูญเสียข่านได้ดี เธอเองก็เศร้าไม่ต่างจากกริด
สาวน้อยผมทองพยายามดึงความสนใจจากร่างโคลนกลับคืนมา
การเปิดฉากถล่มด้วยมวลมหาเวทมนตร์เริ่มต้นขึ้น เธอรุกหนักเพื่อมิให้ศัตรูพรากชีวิตอัสโมเฟลไป
และได้ผล สายตาของกริดตัวปลอมเริ่มชำเลืองมองเธออีกครั้ง
“คำถาม เธอคิดว่าจะรอดจากความตายได้จริงหรือ?”
“…!!”
เพียงพริบตา กริดตัวปลอมที่สวมเกราะแสงศักดิ์สิทธิ์ได้พุ่งประชิดตัวและแทงดาบใส่ลำคอยูเฟอมิน่า
“ไม่นะ…”
อัสโมเฟลแสดงสีหน้าเจ็บแปลบ เขายื่นมือออกมาพยายามไขว่คว้า
“แน่นอนอยู่แล้ว!”
ยูเฟอมิน่าตอบกลับฉะฉานพลางหยุดกระหน่ำเวทมนตร์ เธอตัดสินใจใช้พลังพิเศษที่ยังไม่เคยเปิดเผยสู่สาธารณะ
“วารีไหลเวียน!”
ซ่าา!
เกิดวังวนสายน้ำปริมาณมากไหลเวียนรอบตัวยูเฟอมิน่า ดาบในมือร่างโคลนจำต้องแทงใส่ม่านวารีโดยไม่มีทางเลือก
‘วารีไหลเวียน’ ของยูเฟอมิน่าคือเวทมนตร์ที่สำแดงเอกลักษณ์ ‘เวทวารีมูมัด’ ได้สมบูรณ์แบบ
เวทวารีมูมัดมีลักษณะพิเศษคือ ‘แปรเปลี่ยนมานาให้กลายเป็นน้ำหรือน้ำแข็งและเคลื่อนไหวได้ตามปรารถนา’
ดาบขึ้นสนิมของร่างโคลนมิอาจทะลวงผ่านม่านน้ำรอบตัวยูเฟอมิน่าได้
คุณลักษณะทางกายภาพของ ‘น้ำ’ คือ ‘ลดแรงกระแทก’ และ ‘เคลื่อนไหวช้าลง'
ทุกครั้งที่ดาบจากร่างโคลนแทงใส่ม่านวารี คมดาบจะเคลื่อนไหวอย่างอืดอาดและไร้พลัง กลายเป็นดาบขึ้นสนิมที่แท้จริง
“นั่นคือภูติวารีงั้นหรือ?”
ผู้เล่นที่เฝ้ามองเหตุการณ์ต่างพากันวิเคราะห์
สาวผมทองปริศนาที่ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับเวทมนตร์ทรงพลัง เธอคือผู้มีพระคุณของชาวเมืองทุกคน ไม่อย่างนั้นแล้ว ทหารและผู้เล่นโดยรอบอาจถูกรัศมีดาบของร่างโคลนฆ่าตาย
ทุกครั้งที่กริดแทงดาบใส่ น้ำทุกหยดจะไหลเวียนรวมตัวกันในจุดดังกล่าวเพื่อยับยั้งความเสียหาย
ไม่แปลกที่ทุกคนจะเข้าใจผิดว่ายูเฟอมิน่าครอบครองภูติวารี
“เฮ้ย! ผ…ผู้หญิงคนนั้น…!”
ขณะเดียวกัน กริดตัวปลอมได้กระโดดฟันดาบลงมาจากด้านบน
ยูเฟอมิน่ารีบยกม่านวารีปัดป้อง แต่ร่างโคลนกลับฉวยโอกาสพลิกตัวเตะใส่ข้อเท้าเธอจนล้มลง
ยูเฟอมิน่าเสียการทรงตัว ร่วงหล่นจากหลังคาบ้านเรือน
เมื่อร่างกระแทกพื้น กลุ่มคนมุงดูเริ่มมองเห็นชื่อตัวละครที่เขียนไว้เหนือศีรษะเธอ
“ยูเฟอมิน่า!”
ผู้เล่นที่เห็นเหตุการณ์พลันโพล่งขึ้นด้วยสีหน้าตกตะลึง
พวกเขาย่อมรู้จักยูเฟอมิน่า เธอคนนี้เคยรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับกริดในศึกไรนฮาร์ทเมื่อหลายปีก่อน
แล้วเหตุใดถึงกำลังสู้กับกริดอย่างเอาเป็นเอาตาย?
ยูเฟอมิน่าย่อมทราบ ต้องมีผู้เล่นบางส่วนบันทึกภาพเหตุการณ์นี้ไว้แน่ เธอรีบหันไปตะโกน
“นั่นไม่ใช่กริด! เป็นตัวปลอม!”
กริดคือผู้มีพระคุณและเป็นบุคคลที่เธอชื่นชมมาตลอด ยูเฟอมิน่าไม่ต้องการให้มวลชนทั่วโลกเข้าใจกริดผิดไป
ถ้อยคำของเธอทำให้ทุกคนตระหนักความจริงได้หนึ่งข้อ
“…NPC?”
ใช่แล้ว กลุ่มผู้เล่นเริ่มตื่นตัว
กริดที่กระโจนลงจากหลังคาเพื่อตามจัดการยูเฟอมิน่าให้สิ้นซาก แม้ชื่อเหนือศีรษะจะเขียนว่า ‘กริด’ แต่มันกลับถูกสลักด้วยอักษรสีทองอร่าม
หัวข้อของข่าวด่วน ‘ราชาโอเวอร์เกียร์เปิดฉากโจมตีเมอร์เร่’ เริ่มถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลง สิ่งนี้ส่งผลเป็นวงกว้างต่อโลกอินเทอร์เน็ต
ปัจจุบัน ฉากการดวลใจกลางกรุงยูเด็นกลายเป็นประเด็นร้อนแรงทั่วโลก นักข่าวบางคนเริ่มเขียนบทความวิเคราะห์
วิดีโอการดวลระหว่างยูเฟอมิน่าและกริดย่อมได้รับความสนใจสูงสุด มียอดผู้ชมมากถึงหลักล้านเข้าไปแล้ว
“ให้ตายสิ หมดกันความลับ”
ยูเฟอมิน่าพึมพำพลางปลดปล่อยเวทไร้ธาตุของมูมัด ลักษณะพิเศษของมันคือ ‘มองข้ามค่าต้านทานเวทมนตร์เป้าหมาย 30%’
จากนั้นก็ยิงเวทมนตร์วารีซ้ำเข้าไป
นี่คือวินาทีที่ ยูเฟอมิน่า อาวุธลับของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ ผู้ไม่เคยเข้าร่วมงานแข่งนานาชาติเพราะไม่ต้องการให้พลังถูกเปิดเผย จำเป็นต้องแสดงพลังสู่สาธารณชนเป็นหนแรก
เธอทราบดี สถานการณ์ภายหลังจากนี้จะเลวร้าย ตนจะตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบหากต้องเผชิญหน้าแรงเกอร์คนอื่น หรือแม้กระทั่งแอ็กนัส แต่ยูเฟอมิน่าไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว
ไม่ว่าอย่างไร เธอก็ต้องปกป้องชื่อเสียงของกริดไว้
เวทมนตร์ไร้ธาตุเริ่มกระหน่ำจู่โจมใส่อีกระลอก ส่งผลให้ร่างโคลนเริ่มชะงักการบุก
ยูเฟอมิน่ากำลังยืนเผชิญหน้าร่างโคลนโดยมีกลุ่มอัศวินและทหารหลวงเมอร์เร่อยู่ด้านหลัง
เธอตะโกนขึ้น
“ตราบใดที่แกยังคัดลอกรูปลักษณ์กริด ฉันไม่มีวันยอมให้แกทำร้ายผู้บริสุทธิ์เป็นอันขาด!”
“…วิเคราะห์ จำเป็นต้องซ่อมบำรุง”
ท่ามกลางกลุ่มก้อนเวทมนตร์ที่กระหน่ำยิงใส่ ทั่งเหล็กขนาดเล็กและค้อนตีเหล็กปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่า ถัดมาเป็นการซ่อมแซมดาบเก่าขึ้นสนิมโดยฝีมือกริดตัวปลอม
เพียงไม่นาน อาวุธขึ้นสนิมและเก่าโทรมถูกเปลี่ยนกลับสู่รูปทรงเริ่มต้น
ดาบใหญ่สีน้ำเงินทรงฉลาม นามต้นแบบของมันคือ ‘ความผิดพลาด’
สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องดีสำหรับยูเฟอมิน่า ผู้ที่สูญเสียพลังชีวิตไปแล้วสามในสิบส่วน
ดาบใหญ่ใหม่เอี่ยมฟันเฉือนผ่านม่านวารีอย่างง่ายดาย สร้างบาดแผลฉกรรจ์บนร่างยูเฟอมิน่า
“อั่ก!”
เป็นแผลลึกซึ่งมาพร้อมความเจ็บปวดแสนสาหัส
เฉกเช่นเกราะแสงศักดิ์สิทธิ์ ดาบที่ชื่อความผิดพลาดเล่มนี้มิใช่ไอเท็มตกยุค มันยังทรงพลังไร้เทียมทานเช่นเคย
บาดแผลฉกรรจ์ทำให้การร่ายเวทของเธอหยุดลง
“ผลลัพธ์ ชัยชนะ”
มันง้าง ‘ความผิดพลาด’ ฟาดฟันลงไปเป็นเส้นตรง ยูเฟอมิน่าสัมผัสถึงความตายที่กำลังย่างกรายเข้าใกล้
กึก
“…?”
ทว่า คมดาบกลับชะงักค้างกลางอากาศยูเฟอมิน่ายังคงมีลมหายใจ
ร่างโคลนพลันเบือนความสนใจจากหญิงสาวผมทองเบื้องหน้า ปลายทางของสายตาคือท้องฟ้าอีกฟากฝั่ง
“ฆ่า กริด”
ทันใดนั้น เกิดเสียงวิหกร้องคำรามดังกังวาลทั่วกรุงยูเด็น
ภาพเงาลางของนกยักษ์สีแดงปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า ห่าฝนธนูเพลิงถูกโปรยลงจากด้านบนไม่ขาดสาย
ธนูเพลิงสร้างความเสียหายแก่ร่างโคลน และคอยฟื้นฟูเยียวยายูเฟอมิน่ากับอัสโมเฟล
“โชคดีที่มาทัน”
เสาลำแสงจากเวทมนตร์เคลื่อนย้ายมิติกำลังส่องสว่างเหนือท้องฟ้ากรุงยูเด็น
สิบสองบุคคลปรากฏกาย
พวกเขาคือ สิบวีรชนผู้ก่อตั้ง สติกส์ และกริด
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,297
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
เปิดสงครามที่ต่างถิ่น
ReplyDeleteมาแล้ววววว ถ่ายทอดสดด้วย
ReplyDeleteงานนี้มีเละ แต่ไม่ใช้อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ ค้างมาก 😅😅🙏
ReplyDeleteสุดยอดด
ReplyDeleteขอบคุณมากครับแอด😁🙏
นึกถึงฉากการปรากฏตัวแล้วแบบอื้อหือขนลุกเลย
ReplyDeleteRIP อาณาจักรเมอร์เร่
ReplyDelete