จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 904



    สามปีก่อนในซาทิสฟาย การดวลระหว่างยูเฟอมิน่าและแอ็กนัสเกิดขึ้นเพราะเธอได้รับภารกิจ ‘ดวงวิญญาณมูมัดปรารถนาอิสระ’


    ในครานั้น ยูเฟอมิน่าจำต้องยอมรับว่า แอ็กนัสคือผู้เล่นที่แข็งแกร่งกว่ามาก ในการจะผ่านภารกิจนี้ เธอจำเป็นต้องยกระดับตัวเองครั้งใหญ่


    นับตั้งแต่สี่เดือนก่อน ยูเฟอมิน่าเริ่มต้นแผนการ ‘ล่า’ แอ็กนัส เธอทุ่มเงินจำนวนมากเพื่อสืบหาข่าวและข้อมูลจุดอ่อนแอ็กนัส


    เมื่อได้รับข้อมูลที่ต้องการ ยูเฟอมิน่าตระเวนไปทั่วทวีปเพื่อคัดลอกทักษะที่แอ็กนัสแพ้ทาง


    “ร่ายรำ”


    “ฝนโลหิต!”


    ยูเฟอมิน่ากางม่านบาเรียเพื่อสกัดรัศมีดาบจำนวนมากที่พุ่งเข้าหา


    ขณะตั้งรับ เธอชำเลืองมองร่างโคลนกริดผ่านรอยแตกร้าวบาเรียที่ถูกวิชาดาบทรงพลังกระแทกทำลาย


    สีหน้าของร่างโคลนยังคงราบเรียบไร้อารมณ์ ปราศจากความกระวนกระวายใจ แม้การโจมตีของมันจะกลายเป็นหมันไปแล้วหลายหน


    มันกำลังผ่อนคลาย?


    ‘ไม่ใช่แน่ มันแค่ไม่มีระบบอารมณ์’


    ขณะเข้าสู่การต่อสู้ที่ไม่คาดฝัน ยูเฟอมิน่าได้รับข้อมูลจากกริดเป็นระยะ


    เขาอธิบายถึงธรรมชาติและปูมหลังร่างโคลนโดยละเอียด และยูเฟอมิน่าเริ่มกะเกณฑ์ศัตรูจากข้อมูลที่เธอมี


    จนกระทั่งเกิดข้อสรุป


    ‘มันอ่อนแอกว่ากริดหลายเท่า’


    ยูเฟอมิน่ามิได้ตัดโอกาสที่ร่างโคลนจะพัฒนาตัวเอง เหมือนกับที่กริดพัฒนาขึ้น


    ใช่แล้ว เป็นอย่างที่กริดคาด ร่างโคลนมีทักษะสูสีกับกริดในปัจจุบัน มีสติปัญญาและฝีมือควบคุมสูงกว่า เพียงแต่ว่า…


    อุปกรณ์สวมใส่ที่มันใช้เป็นแบบเก่า


    ดาบขึ้นสนิมและเครื่องป้องกันเก่าโทรม ทั้งหมดล้วนเป็นไอเท็มที่กริดเคยสวมเมื่อนานมาแล้ว


    เป็นของตกรุ่นที่เทียบไม่ได้กับไอเท็มกริดในปัจจุบัน สำหรับเธอ สิ่งนี้ไม่ถือเป็นภัยคุกคามแต่อย่างใด


    “ไอเท็มยุคก่อนสามชั้นสินะ…ของแค่นี้เอาชนะฉันไม่ได้แน่!”


    ไอเท็มเลเวลต่ำย่อมมีขีดจำกัดของมัน


    นั่นคงเป็นชุดเกราะแสงศักดิ์สิทธิ์สินะ? เวทมนตร์ของเธอทะลวงผ่านเกราะเลเวลต่ำได้แน่


    ในคราวนี้ ยูเฟอมิน่าเริ่มเป็นฝ่ายรุกบ้าง


    เธอใช้เวลากว่าสี่เดือนในการคัดลอกมวลมหาเวทมนตร์เพื่อปราบแอ็กนัส—ผู้บงการกองทัพอันเดด ส่งผลให้เวทมนตร์ส่วนใหญ่โจมตีเป็นวงกว้างได้รุนแรง


    หินยักษ์หลายสิบก้อนเริ่มก่อตัวบนท้องฟ้า จากนั้นได้โปรยปรายถล่มทับกริดตัวปลอมที่อยู่เบื้องล่าง


    แต่ละก้อนมีขนาดใหญ่กว่าหนึ่งเมตร ทุกครั้งที่ร่วงหล่นกระทบพื้น ผืนดินจะเกิดแรงสะเทือนจนคนมุงสูญเสียการทรงตัว


    “อ…อึ๋ย! หลบเร็ว!”


    “ว๊ากกก!”


    ‘จังหวะนี้แหละ’


    ความโกลาหลที่เกิดจากแรงสะเทือนของเวทมนตร์ทำลายวงกว้าง ยูเฟอมิน่าเล็งโจมตีใส่ร่างโคลนกริดที่ถูกหินถล่มทับ


    เธอรีบใช้ ‘ศูนย์องศาสัมบูรณ์’ ที่คัดลอกจากบองเดร ผู้เล่นคลาสจอมอาคมน้ำแข็งอันดับหนึ่ง ซึ่งกำลังทำงานให้วัลฮัลล่า


    ขณะร่างโคลนพยายามปืนป่ายแทรกตัวออกจากช่องว่างเศษหิน ร่างของมันได้กลายเป็นน้ำแข็งฉับพลัน


    เหมือนกับประติมากรรมรูปปั้นน้ำแข็งไม่มีผิดเพี้ยน


    ‘ได้เวลาปิดฉากแล้ว!’


    คราวนี้เป็นสายฟ้าขนาดใหญ่ หนึ่งในท่าไม้ตายของยูเฟอมิน่าฟาดผ่าใส่ร่างโคลนที่กำลังเยือกแข็งอย่างจัง


    ยูเฟอมิน่าประเมินว่า ร่างโคลนคงสูญสูญเสียพลังชีวิตจนหมดสิ้น เพราะมันคงมีค่าสถานะและระดับพลังชีวิตไม่ต่างจากกริดมาก


    ชัยชนะครั้งนี้ง่ายดายกว่าที่เธอคิด


    แต่นั่นไม่จริงเลย


    [ท่านสร้างความเสียหายแก่เป้าหมาย 29,000 หน่วย]


    ‘เอ๋?’


    ทำไมถึงน้อยกว่าที่ควร?


    ไม่ใช่ว่าต้องรุนแรงกว่านี้สักสองสามเท่างั้นหรือ?


    ความเสียหายจากหินถล่มและศูนย์องศาสัมบูรณ์บางเบาก็ไม่ต่างกัน


    หลังจากถูกสายฟ้ากระแทกจนน้ำแข็งแตก ในที่สุด หลอดพลังชีวิตร่างโคลนก็ถูกเผยให้ยูเฟอมิน่าเห็นเต็มสองตา


    มันยังมีพลังชีวิตลงเหลือเกินกว่าเก้าในสิบส่วน


    ในวินาทีนี้ ยูเฟอมิน่าตระหนักได้สองสิ่ง


    หนึ่งก็คือ ชุดเกราะแสงศักดิ์สิทธิ์ที่เธอมองว่าเป็นไอเท็มตกยุค มันกลับยังทรงประสิทธิภาพอย่างน่าทึ่ง


    และข้อสองคือ ร่างโคลนมีสถานะเป็นบอสพิเศษ


    เมื่อนำสองข้อมารวมกัน เซ็ตแสงศักดิ์สิทธิ์สุดโกงที่ดูดซับเวทมนตร์ และบอสพิเศษที่มีพลังชีวิตไม่ต่ำกว่าสิบล้าน…


    ‘เราต้องดวลกับกริดที่มีพลังชีวิตหลักสิบล้านรึไง?’


    ไม่โกงกันไปหน่อยหรือ?


    ‘แบบนี้ชนะไม่ได้แน่’


    ขณะยูเฟอมิน่ากำลังหวาดหวั่น ร่างโคลนปรี่เข้าหาโดยไม่รีรอ มันกวัดแกว่งดาบใหญ่ในมือเข้าใส่


    ทั้งหมดเป็น การโจมตีธรรมดา การโจมตีธรรมดา และการโจมตีธรรมดา…


    “…?”


    ดวงตายูเฟอมิน่าเริ่มสั่นระริกขณะพยายามเสกบาเรียเวทมนตร์ปัดป้อง


    เธอสัมผัสได้ มีบางสิ่งแปลกไปในการเคลื่อนไหวของร่างโคลน มีบางสิ่งถูกสอดแทรกระหว่างการโจมตีธรรมดา


    เท้าของมันกำลังขยับเป็นจังหวะที่เธอคุ้นเคย


    ‘รำดาบ…!’


    “ทำลายล้างสังหาร”


    การโจมตีที่มองข้ามพลังป้องกันทางกายภาพ รวมถึงบาเรียทางกายภาพทุกชนิด


    หนึ่งในสุดยอดทักษะผสานสองชนิดที่กริดครอบครอง หากถูกแทงเข้าไป มีเพียงความตายเท่านั้นที่รออยู่


    “ชิ!”


    ยูเฟอมิน่าไม่มีทางหลบพ้น เธอเป็นจอมเวทที่มีค่าความว่องไวต่ำติดดิน


    ด้วยเหตุนี้ หนึ่งในไพ่ตายที่เตรียมไว้ต้องถูกสละ—เคลื่อนย้ายมิติ


    สาวสวยผมทองหายตัวอย่างไร้ร่องรอยราวกับเป็นเรื่องโกหก คลื่นดาบทำลายล้างสังหารปะทะเพียงความว่างเปล่า


    ร่างยูเฟอมิน่าปรากฏขึ้นด้านหลังกริดตัวปลอมพร้อมกับเสาลำแสงสีขาวส่องสว่าง


    “วายุทมิฬ!”


    “…!”


    หนึ่งในท่าไม้ตายของเซ็ดนอส จอมเวทวายุอันดับหนึ่งของโลก ถูกปลดปล่อยจากปลายนิ้วยูเฟอมิน่าที่ประชิดติดกับแผ่นหลังร่างโคลน


    โลหิตสีแดงฉานสาดกระเซ็นเปรอะเปื้อนพื้นถนนหลวงยูเด็น ร่างโคลนชำเลืองมองยูเฟอมิน่าด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไร้ความเจ็บปวดเคลือบแฝง


    มันมิได้แยแสเหล่าจอมเวทหลวงของเมอร์เร่ที่พยายามระงับเหตุเลยสักนิด ในปัจจุบัน สายตาของมันมีเพียงยูเฟอมิน่า


    เธอกลืนน้ำลายอึกใหญ่


    ยูเฟอมิน่าคือหนึ่งในผู้เล่นที่แข็งแกร่งที่สุดของซาทิสฟายมาตลอด มีเพียงน้อยครั้งนักที่เธอจะรู้สึกประหม่า


    “สัตว์ประหลาดชั่วช้า! ถอดหน้ากากของแกเดี๋ยวนี้!”


    ผู้มีพระคุณปรากฏตัวทันท่วงที


    อัสโมเฟลสลัดหลุดจากหัตถ์เทวะสี่ข้างที่ถูกบงการอย่างสมบูรณ์แบบโดยสมองกล


    ทันทีที่เขาสยบหัตถ์เทวะสี่ข้างได้พร้อมกัน อัสโมเฟลพุ่งตัวหาร่างโคลนด้วยความเร็วสูงสุด เขาเคลื่อนที่ไปบนหลังคาบ้านเรือนพร้อมกับดาบในมือที่มีเปลวเพลิงระอุลุกโชน


    “เซอร์อัสโมเฟล!”


    ใบหน้าอันงดงามของสาวสวยผมทองเริ่มเกิดความหวัง


    เธอยินดีที่หนึ่งในตัวละครสุดแกร่งของอาณาจักร รองจากปิอาโร่และเมอร์เซเดส ยื่นมือเข้าช่วยในยามคับขัน


    แต่ความยินดีมีอายุขัยเพียงชั่วครู่


    อัสโมเฟลอยู่ในสภาพไม่สมบูรณ์หลังจากทำร้ายตัวเอง รวมถึงการดวลเดือดกับอดีตอัศวินสีชาด ซินกูเล็ต


    เขามิอาจรับมือร่างโคลนไหว


    แม้ความเร็วจะสูงกว่าร่างโคลนพอสมควร แต่การเคลื่อนไหวส่วนใหญ่ถูกหัตถ์เทวะสี่ข้างสะกดจนอยู่หมัด


    “อึก…!”


    “ไม่นะ!!”


    ยูเฟอมิน่าแผดเสียงร้องเมื่อร่างโคลนคว้าคออัสโมเฟลไว้ได้


    อัสโมเฟลเป็น NPC มิใช่ผู้เล่น เขามีเพียงชีวิตเดียวเท่านั้น


    ความตายของชายคนนี้ถือเป็นความสูญเสียใหญ่หลวงของอาณาจักร และกริดต้องเศร้าโศกมากแน่


    ยูเฟอมิน่ายังคงจดจำความรู้สึกเมื่อครั้งสูญเสียข่านได้ดี เธอเองก็เศร้าไม่ต่างจากกริด


    สาวน้อยผมทองพยายามดึงความสนใจจากร่างโคลนกลับคืนมา


    การเปิดฉากถล่มด้วยมวลมหาเวทมนตร์เริ่มต้นขึ้น เธอรุกหนักเพื่อมิให้ศัตรูพรากชีวิตอัสโมเฟลไป


    และได้ผล สายตาของกริดตัวปลอมเริ่มชำเลืองมองเธออีกครั้ง


    “คำถาม เธอคิดว่าจะรอดจากความตายได้จริงหรือ?”


    “…!!”


    เพียงพริบตา กริดตัวปลอมที่สวมเกราะแสงศักดิ์สิทธิ์ได้พุ่งประชิดตัวและแทงดาบใส่ลำคอยูเฟอมิน่า


    “ไม่นะ…”


    อัสโมเฟลแสดงสีหน้าเจ็บแปลบ เขายื่นมือออกมาพยายามไขว่คว้า


    “แน่นอนอยู่แล้ว!”


    ยูเฟอมิน่าตอบกลับฉะฉานพลางหยุดกระหน่ำเวทมนตร์ เธอตัดสินใจใช้พลังพิเศษที่ยังไม่เคยเปิดเผยสู่สาธารณะ


    “วารีไหลเวียน!”


    ซ่าา!


    เกิดวังวนสายน้ำปริมาณมากไหลเวียนรอบตัวยูเฟอมิน่า ดาบในมือร่างโคลนจำต้องแทงใส่ม่านวารีโดยไม่มีทางเลือก


    ‘วารีไหลเวียน’ ของยูเฟอมิน่าคือเวทมนตร์ที่สำแดงเอกลักษณ์ ‘เวทวารีมูมัด’ ได้สมบูรณ์แบบ


    เวทวารีมูมัดมีลักษณะพิเศษคือ ‘แปรเปลี่ยนมานาให้กลายเป็นน้ำหรือน้ำแข็งและเคลื่อนไหวได้ตามปรารถนา’


    ดาบขึ้นสนิมของร่างโคลนมิอาจทะลวงผ่านม่านน้ำรอบตัวยูเฟอมิน่าได้


    คุณลักษณะทางกายภาพของ ‘น้ำ’ คือ ‘ลดแรงกระแทก’ และ ‘เคลื่อนไหวช้าลง'


    ทุกครั้งที่ดาบจากร่างโคลนแทงใส่ม่านวารี คมดาบจะเคลื่อนไหวอย่างอืดอาดและไร้พลัง กลายเป็นดาบขึ้นสนิมที่แท้จริง


    “นั่นคือภูติวารีงั้นหรือ?”


    ผู้เล่นที่เฝ้ามองเหตุการณ์ต่างพากันวิเคราะห์


    สาวผมทองปริศนาที่ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับเวทมนตร์ทรงพลัง เธอคือผู้มีพระคุณของชาวเมืองทุกคน ไม่อย่างนั้นแล้ว ทหารและผู้เล่นโดยรอบอาจถูกรัศมีดาบของร่างโคลนฆ่าตาย


    ทุกครั้งที่กริดแทงดาบใส่ น้ำทุกหยดจะไหลเวียนรวมตัวกันในจุดดังกล่าวเพื่อยับยั้งความเสียหาย


    ไม่แปลกที่ทุกคนจะเข้าใจผิดว่ายูเฟอมิน่าครอบครองภูติวารี


    “เฮ้ย! ผ…ผู้หญิงคนนั้น…!”


    ขณะเดียวกัน กริดตัวปลอมได้กระโดดฟันดาบลงมาจากด้านบน


    ยูเฟอมิน่ารีบยกม่านวารีปัดป้อง แต่ร่างโคลนกลับฉวยโอกาสพลิกตัวเตะใส่ข้อเท้าเธอจนล้มลง


    ยูเฟอมิน่าเสียการทรงตัว ร่วงหล่นจากหลังคาบ้านเรือน


    เมื่อร่างกระแทกพื้น กลุ่มคนมุงดูเริ่มมองเห็นชื่อตัวละครที่เขียนไว้เหนือศีรษะเธอ


    “ยูเฟอมิน่า!”


    ผู้เล่นที่เห็นเหตุการณ์พลันโพล่งขึ้นด้วยสีหน้าตกตะลึง


    พวกเขาย่อมรู้จักยูเฟอมิน่า เธอคนนี้เคยรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับกริดในศึกไรนฮาร์ทเมื่อหลายปีก่อน


    แล้วเหตุใดถึงกำลังสู้กับกริดอย่างเอาเป็นเอาตาย?


    ยูเฟอมิน่าย่อมทราบ ต้องมีผู้เล่นบางส่วนบันทึกภาพเหตุการณ์นี้ไว้แน่ เธอรีบหันไปตะโกน


    “นั่นไม่ใช่กริด! เป็นตัวปลอม!”


    กริดคือผู้มีพระคุณและเป็นบุคคลที่เธอชื่นชมมาตลอด ยูเฟอมิน่าไม่ต้องการให้มวลชนทั่วโลกเข้าใจกริดผิดไป


    ถ้อยคำของเธอทำให้ทุกคนตระหนักความจริงได้หนึ่งข้อ


    “…NPC?”


    ใช่แล้ว กลุ่มผู้เล่นเริ่มตื่นตัว


    กริดที่กระโจนลงจากหลังคาเพื่อตามจัดการยูเฟอมิน่าให้สิ้นซาก แม้ชื่อเหนือศีรษะจะเขียนว่า ‘กริด’ แต่มันกลับถูกสลักด้วยอักษรสีทองอร่าม


    หัวข้อของข่าวด่วน ‘ราชาโอเวอร์เกียร์เปิดฉากโจมตีเมอร์เร่’ เริ่มถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลง สิ่งนี้ส่งผลเป็นวงกว้างต่อโลกอินเทอร์เน็ต


    ปัจจุบัน ฉากการดวลใจกลางกรุงยูเด็นกลายเป็นประเด็นร้อนแรงทั่วโลก นักข่าวบางคนเริ่มเขียนบทความวิเคราะห์


    วิดีโอการดวลระหว่างยูเฟอมิน่าและกริดย่อมได้รับความสนใจสูงสุด มียอดผู้ชมมากถึงหลักล้านเข้าไปแล้ว


    “ให้ตายสิ หมดกันความลับ”


    ยูเฟอมิน่าพึมพำพลางปลดปล่อยเวทไร้ธาตุของมูมัด ลักษณะพิเศษของมันคือ ‘มองข้ามค่าต้านทานเวทมนตร์เป้าหมาย 30%’


    จากนั้นก็ยิงเวทมนตร์วารีซ้ำเข้าไป


    นี่คือวินาทีที่ ยูเฟอมิน่า อาวุธลับของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ ผู้ไม่เคยเข้าร่วมงานแข่งนานาชาติเพราะไม่ต้องการให้พลังถูกเปิดเผย จำเป็นต้องแสดงพลังสู่สาธารณชนเป็นหนแรก


    เธอทราบดี สถานการณ์ภายหลังจากนี้จะเลวร้าย ตนจะตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบหากต้องเผชิญหน้าแรงเกอร์คนอื่น หรือแม้กระทั่งแอ็กนัส แต่ยูเฟอมิน่าไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว


    ไม่ว่าอย่างไร เธอก็ต้องปกป้องชื่อเสียงของกริดไว้


    เวทมนตร์ไร้ธาตุเริ่มกระหน่ำจู่โจมใส่อีกระลอก ส่งผลให้ร่างโคลนเริ่มชะงักการบุก


    ยูเฟอมิน่ากำลังยืนเผชิญหน้าร่างโคลนโดยมีกลุ่มอัศวินและทหารหลวงเมอร์เร่อยู่ด้านหลัง


    เธอตะโกนขึ้น


    “ตราบใดที่แกยังคัดลอกรูปลักษณ์กริด ฉันไม่มีวันยอมให้แกทำร้ายผู้บริสุทธิ์เป็นอันขาด!”


    “…วิเคราะห์ จำเป็นต้องซ่อมบำรุง”


    ท่ามกลางกลุ่มก้อนเวทมนตร์ที่กระหน่ำยิงใส่ ทั่งเหล็กขนาดเล็กและค้อนตีเหล็กปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่า ถัดมาเป็นการซ่อมแซมดาบเก่าขึ้นสนิมโดยฝีมือกริดตัวปลอม


    เพียงไม่นาน อาวุธขึ้นสนิมและเก่าโทรมถูกเปลี่ยนกลับสู่รูปทรงเริ่มต้น


    ดาบใหญ่สีน้ำเงินทรงฉลาม นามต้นแบบของมันคือ ‘ความผิดพลาด’


    สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องดีสำหรับยูเฟอมิน่า ผู้ที่สูญเสียพลังชีวิตไปแล้วสามในสิบส่วน


    ดาบใหญ่ใหม่เอี่ยมฟันเฉือนผ่านม่านวารีอย่างง่ายดาย สร้างบาดแผลฉกรรจ์บนร่างยูเฟอมิน่า


    “อั่ก!”


    เป็นแผลลึกซึ่งมาพร้อมความเจ็บปวดแสนสาหัส


    เฉกเช่นเกราะแสงศักดิ์สิทธิ์ ดาบที่ชื่อความผิดพลาดเล่มนี้มิใช่ไอเท็มตกยุค มันยังทรงพลังไร้เทียมทานเช่นเคย


    บาดแผลฉกรรจ์ทำให้การร่ายเวทของเธอหยุดลง


    “ผลลัพธ์ ชัยชนะ”


    มันง้าง ‘ความผิดพลาด’ ฟาดฟันลงไปเป็นเส้นตรง ยูเฟอมิน่าสัมผัสถึงความตายที่กำลังย่างกรายเข้าใกล้


    กึก


    “…?”


    ทว่า คมดาบกลับชะงักค้างกลางอากาศยูเฟอมิน่ายังคงมีลมหายใจ


    ร่างโคลนพลันเบือนความสนใจจากหญิงสาวผมทองเบื้องหน้า ปลายทางของสายตาคือท้องฟ้าอีกฟากฝั่ง


    “ฆ่า กริด”


    ทันใดนั้น เกิดเสียงวิหกร้องคำรามดังกังวาลทั่วกรุงยูเด็น


    ภาพเงาลางของนกยักษ์สีแดงปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า ห่าฝนธนูเพลิงถูกโปรยลงจากด้านบนไม่ขาดสาย


    ธนูเพลิงสร้างความเสียหายแก่ร่างโคลน และคอยฟื้นฟูเยียวยายูเฟอมิน่ากับอัสโมเฟล


    “โชคดีที่มาทัน”


    เสาลำแสงจากเวทมนตร์เคลื่อนย้ายมิติกำลังส่องสว่างเหนือท้องฟ้ากรุงยูเด็น


    สิบสองบุคคลปรากฏกาย


    พวกเขาคือ สิบวีรชนผู้ก่อตั้ง สติกส์ และกริด

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬

ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน

ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,297

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/


Comments

  1. เปิดสงครามที่ต่างถิ่น

    ReplyDelete
  2. มาแล้ววววว ถ่ายทอดสด​ด้วย

    ReplyDelete
  3. งานนี้มีเละ แต่ไม่ใช้อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ ค้างมาก 😅😅🙏

    ReplyDelete
  4. สุดยอดด
    ขอบคุณ​มาก​ครับ​แอด​😁🙏

    ReplyDelete
  5. นึกถึงฉากการปรากฏตัวแล้วแบบอื้อหือขนลุกเลย

    ReplyDelete
  6. RIP อาณาจักรเมอร์เร่

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00