จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 906



    เคร้ง! เคร้ง!


    ร่างโคลนใช้ค้อนทุบใส่ชุดเกราะแสงศักดิ์สิทธิ์ เกราะตัวเก่าเริ่มเปลี่ยนรูปร่างอย่างฉับพลัน


    ภายในไม่กี่วินาที เกราะแสงศักดิ์สิทธิ์กลายเป็นวัลฮัลล่าแห่งห้วงอาทรชั่วนิรันดร์


    ‘บ้าน่า…’


    สีหน้ากริดหวาดผวาสุดขีดเมื่อได้เห็นตัวปลอมสวมใส่วัลฮัลล่าฯ


    แน่นอน เขาเคยคาดเดาเรื่องนี้ไว้แล้ว


    ในการสู้กับหนแรกที่หมู่เกาะเบเฮ็น ชายหนุ่มทราบดี ตัวปลอมสามารถคัดลอกความสามารถและไอเท็มของตนได้สมบูรณ์แบบ


    ระหว่างพ่ายแพ้ตัวปลอมนับครั้งไม่ถ้วน เขาได้เรียนรู้หลายสิ่งจากมัน หนึ่งในนั้นคือการใช้วิชาดาบผสาน และหลังจากผ่านบททดสอบเกาะหมายเลข 41 ก็กริดได้รับรางวัลตอบแทนเป็น ‘เนตรช่างตีเหล็ก’


    ใช่แล้ว กริดเข้าใจความสัมผัสที่ต่างฝ่ายต่างคัดลอกกันและกันเป็นอย่างดี เขาย่อมคาดเดาสิ่งนี้ไว้ล่วงหน้า


    แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ออกจะเกินไปสักหน่อย


    ‘ค*ย! นี่ไม่โกงไปหน่อยรึไง?’


    ภายในไม่กี่วินาที ร่างโคลนคัดลอกไอเท็มที่ตนสวมใส่ได้สมบูรณ์แบบเชียวหรือ?


    ยิ่งไปกว่านั้น มันยังสร้างโดยไม่ต้องใช้วัสดุและสูตรการผลิต


    นี่คือผลงานสั่งเสียของข่านเชียวนะ…


    ผลงานที่อัดแน่นด้วยอารมณ์และความรู้สึก สำหรับกริด มันเป็นมากกว่าชุดเกราะ มันคือสายสัมพันธ์หนึ่งเดียวในโลกระหว่างเขาและข่าน


    “ตายไปซะ ไอ้หัว…”


    กริดมิอาจยอมรับ


    เขาไม่มีวันอภัยร่างโคลนที่บังอาจเหยียบย่ำสุดยอดผลงานที่ข่านเหลือทิ้งไว้บนโลก


    กริดโกรธจัดจนดวงตาแดงก่ำ แต่กลับต้องชะงักคำพูดไว้กลางคัน


    “…เอ๋?”


    วัลฮัลล่าฯ ที่ร่างโคลนสวม ชุดเกราะกำลังละลายหลอมรวมกับเป็นหนึ่งเดียวกับร่างมนุษย์ ผิวหนังของกริดตัวปลอมเริ่มกลายเป็นผิวเกราะเหล็ก


    “จำได้แล้ว ฉันคือแก”


    ผิวหนังของร่างโคลนกลายเป็นเหล็กโดยสมบูรณ์ ราวกับชุดเกราะกลายเป็นตัวมัน และตัวมันกลายเป็นชุดเกราะเสียเอง


    กริดตัวปลอมหลอมรวมกับชุดเกราะอย่างสมบูรณ์แบบ


    ‘หมายความว่ายังไง…?’


    ชายหนุ่มที่สติเกือบขาดผึ่งเพราะโทสะ ยามนี้ได้ฉุกคิดบางสิ่งได้ กริดทราบทันทีว่าตัวปลอมกำลังทำสิ่งใด


    “ปราการเคลื่อนที่? ทุกคนหลบเร็ว!”


[ปราการเคลื่อนที่]

* สามารถใช้งานได้ขณะพลังชีวิตของผู้สวมต่ำกว่า 10% เท่านั้น

* ขณะอยู่ในผลของบัฟ จะเปลี่ยนค่าความคงทนที่เหลืออยู่ของ ‘วัลฮัลล่าฯ’ ให้กลายเป็นพลังป้องกัน

(1 ค่าความคงทน = 2 พลังป้องกัน)

* ต้านทานต่ออาการผิดปรกติทุกชนิด รวมถึงอาการผิดปรกติทางกายภาพ

* บัฟคงอยู่ได้นานหนึ่งนาที ค่าความคงทนของวัลฮัลล่าฯ จะเหลือเพียง 30 หน่วยขณะอยู่ในผลของบัฟ

(เมื่อบัฟหมดลง ค่าความคงทนของวัลฮัลล่าฯ จะฟื้นฟูกลับไปเป็นหนึ่งในสามของค่าคงทนสูงสุด)

* หากค่าความคงทนกลายเป็นศูนย์ ไอเท็มจะถูกทำลายถาวร

* ได้รับทักษะกดใช้ ‘คงกระพัน’

(ทำการระเบิดเป็นวงกว้างในรัศมี 50 เมตร รุนแรง 50% ของความเสียหายทั้งหมดที่ได้รับในช่วง 5 นาทีหลังสุด)

ทรัพยากรที่ใช้ : ค่าความคงทนสูงสุดของวัลฮัลล่าฯ ลดลง 200 หน่วย

ระยะหน่วงหลังใช้ : 10 นาที


    ปราการเคลื่อนที่คือสุดยอดทักษะที่มีประโยชน์ใช้สอยหลากหลาย แต่ผลของมันจะทำให้วัลฮัลล่าฯ สูญเสียความคงทนสูงสุดไปถาวร สิ่งนี้หมายความว่า วัลฮัลล่าฯ จะมีอายุขัยที่สั้นลง


    เป็นทักษะที่กริดไม่เคยคิดใช้งานแม้แต่ครั้งเดียว เพราะเขาต้องการให้ของดูต่างหน้าข่านคงอยู่ตลอดไป


    แต่กับตัวปลอมแล้วไม่ใช่


    มีหลายสิ่งที่มันคัดลอกไปจากกริด ทั้งรูปลักษณ์ ไอเท็ม ทักษะ และศักยภาพ แต่มันมิได้คัดลอกความทรงจำ


    วัลฮัลล่าฯ ไม่มีความหมายใดเป็นพิเศษต่อมัน


    “คำถาม ฉันเกิดมาทำไม? ในเมื่อโลกนี้มีนายอยู่ก่อนแล้ว”


    จิตใต้สำนึกของร่างโคลนพัฒนาขึ้นมาก


    ในอดีต มันเคยเป็นเครื่องจักรที่เกิดมาเพื่อสังหารกริดเท่านั้น แต่ ณ ปัจจุบัน จุดประสงค์ของมันคือการแทนที่กริด


    วาบ!


    ร่างกริดตัวปลอมกำลังส่องแสงแดงระเรื่อ มันย่างกรายเข้าหากริดและพวกพ้องด้วยผิวหนังโลหะที่กำลังเดือดระอุจากความร้อนมหาศาล


    “เร่งมือเร็วเข้า!”


    กริดตะโกนให้ทุกคนรีบถอย และสิบวีรชนฯ ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ทุกคนต่างเร่งถอนตัวอย่างกระฉับกระเฉง


    จิสึกะเปิดฉากระดมยิงศรเพลิงจากบนหลังไวเวิร์น จุดประสงค์เพื่อสกัดร่างโคลนและเปิดทางให้พวกพ้องหนี


    ทว่า กริดตัวปลอมใช้งานบัฟพลิ้วไหวเพื่อเร่งความเร็ว ซึ่งเป็นสปีดที่สูงกว่าเหล่าสิบวีรชนฯ ทุกคนหลายเท่า


    ที่แย่ไปกว่านั้น ศรเพลิงจากจิสึกะมิอาจทะลวงผ่านพลังป้องกันเหนือมนุษย์ของ ‘ปราการเคลื่อนที่’ ได้


    “ฉันต้องการอะไร? คำตอบ ความตายของพวกแก จงหายไปซะ”


    บึ้มมมมมมม—


    กริด คริส ป็อน เรกัส แค็ทซ์ และพีคซอร์ด ทุกคนยังอยู่ในรัศมี 50 เมตรซึ่งเป็นระยะหวังผลของแรงระเบิด แน่นอน แรงสะเทือนมหาศาลอุบัติขึ้นโดยมีร่างโคลนเป็นจุดศูนย์กลาง พลังระเบิดแผ่ขยายท่วมร่างกริดและเหล่าสิบวีรชนฯ อย่างพร้อมหน้า


    เกิดฝุ่นควันตลบอบอวลไปทั่วบริเวณ ไม่มีใครมองเห็นความเสียหายด้านใน


    ทุกสรรพสิ่งในรัศมีล้วนได้รับความเสียหายจาก ‘คงกระพัน’ ถ้วนหน้า ไม่เว้นแม้แต่พื้นหิน อาคารบ้านเรือน รวมถึงชาวเมือง


    ไม่มีสิ่งใดทนรับแรงระเบิดมหาศาลได้


    ทว่า กริดและสิบวีรชนฯ กลับยังปลอดภัย


    “...?”


    เครื่องหมายคำถามปรากฏขึ้นเหนือศีรษะร่างโคลน


    ขณะเดียวกัน ศีรษะล้านของบุรุษผู้หนึ่งกำลังส่องแสงเจิดจ้า


    “แกคิดว่าฉันเป็นใคร?!”


    แวนเนอร์สำแดงเดชในจังหวะสมบูรณ์แบบ ช่วงหลังมานี้ เขาได้นำค่าสถานะทั้งหมดไปเพิ่มความอดทนโดยไม่ไขว้เขว และอุทิศกายใจให้กับการแทงค์


    บาเรียคุ้มกายปรากฏขึ้นรอบตัวกริดและสิบวีรชนฯ ทุกคน


    สิ่งนี้คือ ‘บาเรียสละชีพ’ —ทักษะที่เปลี่ยนมานา 90% ของแวนเนอร์ให้กลายเป็นบาเรียคุ้มกายแก่สมาชิกปาร์ตี้ทุกคนที่อยู่ใกล้เคียง


[หัวหน้าปาร์ตี้ กริด ได้รับความเสียหายรุนแรง]


[เอฟเฟค ‘โอนถ่ายความเสียหาย’ ถูกส่งผ่านทางบาเรียสละชีพ]


[สมาชิกปาร์ตี้ คริส ได้รับความเสียหายรุนแรง]


[เอฟเฟค ‘โอนถ่ายความเสียหาย’ ถูกส่งผ่านทาง บาเรียสละชีพ]


[สมาชิกปาร์ตี้ เรกัส…]


[สมาชิกปาร์ตี้ ป็อน…]


    …


    …


[ท่านได้รับความเสียหายรุนแรง]


[ผู้ใช้งานบาเรียสละชีพจะเสียชีวิตหลังจากผลของบัฟหมดลง]


    


    “แค่ก!”


[บัฟ ‘บาเรียสละชีพ’ หมดเวลา]


[ร่างกายของท่านได้รับความเสียหายปริมาณมหาศาลจากการปกป้องพวกพ้อง]


    “แก้แค้น…ไอ้ระยำนี่…ให้ฉันด้วย”


[ท่านเสียชีวิต]


[ท่านสูญเสียค่าประสบการณ์ 36.1%]


[ท่านสูญเสียไอเท็ม ‘เกราะไหล่พิสุทธิ์’]


[ท่านสูญเสียไอเท็ม ‘โพชั่นฟื้นฟูทรัพยากรรุ่นพิเศษ’ 2 ขวด]


[ความคงทนของ ‘กระบองทันดรัล’ ลดลง 103 หน่วย]


[ความคงทนของ ‘โล่บีเลียล’ ลดลง 209 หน่วย]


[ความคงทนของ…]


[…]


[…]


    “แวนเนอร์!”


    เหล่าสิบวีรชนฯ ต่างส่งเสียงตะโกนเมื่อแวนเนอร์เสียชีวิตไปต่อหน้า


    


    เป็นป็อนที่เดือดดาลยิ่งกว่าใคร


    “แกกล้าดียังไง…! กล้าดียังไง!!”


    ป็อนและแวนเนอร์เป็นทั้งพวกพ้องและคู่กัดกันมานานหลายเกม มิตรภาพของคนทั้งคู่ยืนยาวเกินกว่าสิบปีแล้ว


    แม้จะถกเถียงกันบ่อยครั้งเพราะต่างฝ่ายต่างข่มว่าตนเล่นเกมเก่งกว่า แต่นั่นมิได้บั่นทอนมิตรภาพของพวกเขาแม้แต่น้อย ความทรงจำมากมายที่ป็อนเคยมีร่วมกับแวนเนอร์ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ช่วงเวลาเหล่านั้นคือความสุขที่แท้จริง


    “หมอนั่น…ต้องเก็บเลเวลทั้งวันทั้งคืนนานหลายเดือนเพื่อให้ได้อัพหนึ่งเลเวล! แต่ความพยายามกลับต้องสูญเปล่า! เกล!!”


    ฮรี่~


    เมื่อได้ยินเสียงเรียกจากผู้เป็นนาย อาชาสีขาวกระโจนลงจากหลังไวเวิร์น


    ป็อนควบขึ้นหลังม้า ค่าสถานะและพลังที่แท้จริงของเขาถูกสำแดง มือหอกอันดับหนึ่งของโลกซัดอาวุธใส่กริดตัวปลอมด้วยทักษะท่าไม้ตาย


    ‘หอกคลื่นเสียง’ พุ่งแหวกอากาศด้วยความเร็วอันน่าทึ่ง แม้ร่างโคลนจะมีบัฟพลิ้วไหว แต่มันไม่มีทางหลบพ้น คมหอกเสียบทะลวงหัวใจอย่างโหดเหี้ยม


    ป็อนควบม้าตะลุยใส่ทันทีหลังจากขว้าง หอกเล่มใหม่ถูกแทงใส่หัวใจร่างโคลนอย่างแม่นยำในระยะประชิด


    นี่คือคอมโบ ‘หอกชิงบัลลังก์’ ซึ่งสามารถใช้งานต่อจาก ‘หอกคลื่นเสียง’ ได้ทันที


    แต่ร่างโคลนกลับตอบโต้อย่างทันควัน


    อันที่จริง มันต้องตกอยู่ในอาการ ‘ชะงัก’ จากผลของทักษะหอก แต่สิ่งนั้นกลับไม่เกิดขึ้นเพราะพลังวัลฮัลล่าฯ


    กริดตัวปลอมปลดปล่อย ‘ทำลายล้าง’ ใส่ป็อนระยะประชิดด้วยความเร็วที่สูงกว่า


[ท่านเสียชีวิต]


[ท่านสูญเสียค่าประสบการณ์ 36.8%]


[ท่านสูญเสียไอเท็ม ‘ผ้าคลุมลันเทียร์รุ่นต้นแบบ’]


[ท่านสูญเสียไอเท็ม ‘ถุงมือกุหลาบขาว’]


[…]


[…]


    “ป็อน!”


    สิบวีรชนฯ ต่างเดือดดาลเมื่อพวกพ้องสองคนเสียชีวิตในเวลาไล่เลี่ยกัน


    ผู้เล่นอาณาจักรเมอร์เร่ที่ยืนชมเหตุการณ์เริ่มมีสีหน้าหวาดหวั่น


    พวกเขาไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เห็น ไม่มีใครเชื่อลงว่าแรงเกอร์ระดับท็อปของโลกจะถูกศัตรูเพียงคนเดียวไล่เรียงสังหาร


    ราวกับนี่ไม่ใช่ความจริง


    “ฝ่าบาท…”


    อัสโมเฟลแสดงสีหน้าเศร้าหมอง ด้วยอาการบาดเจ็บของเขา การรับมือหัตถ์เทวะสี่ข้างที่รับรุกสมบูรณ์แบบนับว่าเต็มกลืนแล้ว


    สิบคนเหล่านี้เป็นใครกัน?


    พวกเขาคือสิบวีรชนผู้ร่วมก่อตั้งอาณาจักร สามารถกล่าวได้เต็มปากว่า หากไม่มีใครสักคน อาณาจักรโอเวอร์เกียร์อาจไม่เกิดขึ้น


    และแน่นอน เป็นกลุ่มบุคคลที่กริดห่วงใยมากที่สุด


    ภาพการสูญเสียส่งผลให้หัวใจอัสโมเฟลเริ่มเจ็บแปลบ เขาต้องการสลัดหัตถ์เทวะและรีบกลับไปสู้ข้างกายกษัตริย์ของตน


    ขณะเดียวกัน ซินกูเล็ดเดินเข้ามาใกล้พร้อมกับเอ่ยปากถาม


    “นั่นคือราชาของแก?”


    “ถูกต้อง”


    “…ราชาที่ปิอาโร่รับใช้สินะ”


    สายตาซินกูเล็ดหันไปจ้องมองกริด


    อดีตอัศวินสีชาดย่อมไม่รู้จักกริดเป็นการส่วนตัว แต่เขาเกิดความสนใจว่า ในสถานการณ์เช่นนี้ กริดจะทำอย่างไรกับศัตรูที่สังหารพวกพ้องไปแล้วสองคน


    เฮสเตอร์ก็กำลังคิดแบบเดียวกัน


    ‘หากกริดฉลาดพอ เขาคงรู้ว่าสิบวีรชนฯ ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของร่างโคลน และต้องอัญเชิญอัศวินทั้งหมดออกมาแน่’


    เฮสเตอร์ประเมินว่า ร่างโคลนตัวนี้แข็งแกร่งกว่ากริดหลายเท่า


    พลังชีวิตของกริดตัวปลอมสูงกว่ากริดมาก เป็นระดับของบอสพิเศษ และพลังของมันพัฒนาขึ้นทุกขณะ เนื่องจากคัดลอกไอเท็มปัจจุบันของกริดได้ตามใจนึก


    เพียงแค่กริดและสิบวีรชนฯ ที่เหลือจะรับมือสัตว์ประหลาดตัวนี้ได้จริงหรือ?


    คำตอบคือ ไม่มีทาง


    ในการแข่งนานาชาติปีที่ผ่านมา ทั่วโลกล้วนประจักษ์สิ่งเดียวกัน แม้สิบวีรชนฯ อาจเก่งกาจ แต่ก็ไม่มีใครแข็งแกร่งใกล้เคียงกริดเลยสักคนเดียว


    ร่างโคลนที่ทรงพลังยิ่งกว่ากริด จึงถือเป็นศัตรูที่ต้องนำกองทัพเข้าปราบปรามเท่านั้น


    ‘นายไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพึ่งพาปิอาโร่’


    มหาจอมดาบ ปิอาโร่ คือบุคคลที่อาจารย์ของเฮสเตอร์ วินฟรีด ให้การเคารพยกย่องมากที่สุด และชายคนนั้นยังเป็นบริวารอันดับหนึ่งของราชาโอเวอร์เกียร์


    เฮสเตอร์ประเมินว่า กริดไม่มีทางล้มร่างโคลนได้ตามลำพัง นอกเสียจากจะอัญเชิญปิอาโร่มาที่นี่


    ตัวมันเองย่อมต้องการพบปิอาโร่ สิ่งนี้จะช่วยนำพาไปสู่ภารกิจเปลี่ยนคลาส ‘จอมปราชญ์สีชาด’ ที่แท้จริง


    ทว่า กริดมิได้สนองในสิ่งที่เฮสเตอร์หวัง


    “แวนเนอร์ ป็อน…”


    กริดย่างกรายผ่านเศษละอองสีเทาของพวกพ้องที่เกิดจากฝีมือร่างโคลน


    ปราณต่อสู้สีม่วงเข้มรอบตัวกำลังระอุ


    นี่คือพลังอันยิ่งใหญ่ของราชาวีรบุรุษที่ร่างโคลนยังมิได้คัดลอก หรือบางที มันอาจคัดลอกไม่ได้


    “…”


    เกราะไหล่ที่แตกร้าวและผ้าคลุมที่ขาดวิ่น กริดบรรจงก้มเก็บไอเท็มที่แวนเนอร์และป็อนดรอป


    เขาหันไปกล่าวกับพวกพ้อง


    “ยื้อเวลาให้ฉัน”


    “…?”


    เฮสเตอร์แทบไม่เชื่อหู


    แทนที่จะอัญเชิญปิอาโร่ กริดกลับพึ่งพาปาร์ตี้เดิม


    ‘ทั้งที่มีทางเลือกปลอดภัยให้เดิน แต่กริดกลับเอาชีวิตพวกพ้องไปเสี่ยง?’


    เขากลัวจะสูญเสียปิอาโร่งั้นหรือ?


    ‘ก็พอจะเข้าใจได้ แต่ว่า…หมอนี่เห็นแก่ตัวจนน่าตกใจ’


    กริดเลือกสละชีวิตพวกพ้องมากกว่าสูญเสียบริวารอันดับหนึ่ง เฮสเตอร์กล่าวเหยียดหยันในใจ


    ‘บัลลังก์ของนายอยู่ไม่นานแน่’


    เหตุผลเดียวที่กริดกลายเป็นกษัตริย์คนแรก เพียงเพราะเขาคือหัวหน้ากิลด์โอเวอร์เกียร์เท่านั้น


    ตำแหน่งราชาเกิดขึ้นจากหยาดเหงื่อแรงงานของพวกพ้อง ที่ช่วยรบกับอาณาจักรอีเทอนัลอย่างยากลำบาก


    กระนั้น กริดกลับเลือกสละชีวิตเพื่อนในสถานการณ์แสนสำคัญ


    เฮสเตอร์มั่นใจ เหตุการณ์นี้จะนำพาไปสู่รอยร้าวในกิลด์ และเมื่อกริดสูญเสียพวกพ้อง พลังและอำนาจก็จะอ่อนแอลง


    “…$#! ~@#!!”


    จิสึกะและลอเอลเริ่มเปิดฉากยิงสนับสนุนจากบนหลังไวเวิร์น ส่วนฮิวรอยก็เริ่มด่าพ่อล่อแม่อีกครั้ง ทั้งที่ทักษะยั่วยุแสดงผลได้โดยไม่ต้องพาดพิงบุพการี


    สิบวีรชนฯ ซึ่งด้านล่างต่างรุมล้อมร่างโคลนจากทุกทิศ พวกเขาพยายามยื้อเวลาอย่างสุดความสามารถ


    ขณะเดียวกัน กริดอยู่วงนอก


    กริดอาจกำลังสนับสนุนทุกคนด้วยภูตแสงและใบดาบท้าทายเทพ รวมถึงโนเอะและแรนดี้ แต่ตัวเขามิได้ลงมือกระทำสิ่งใดกับร่างโคลน


    เฮสเตอร์พยายามวิเคราะห์สถานการณ์


    ‘กำลังรอให้ชุดเกราะตัวนั้นกลับสู่สภาพปรกติสินะ จะได้ไม่ต้องรับมือกับพลังป้องกันมหาศาล’


    และเมื่อพวกพ้องช่วยซื้อเวลาจนถึงตอนนั้น กริดจะลงมือปิดฉากร่างโคลนด้วยตัวเอง


    เป็นแผนที่แสนตื้นเขิน


    ‘ร่างโคลนคือบอสพิเศษ หลังจากชุดเกราะกลับสู่สภาพเดิม มันคงมีสติปัญญามากพอที่จะเตรียมรับมือกับช่องว่างที่เกิดขึ้น’


    แผนการของกริดต้องสูญเปล่าแน่ เขาบังคับให้พวกพ้องสละชีวิตโดยไม่เกิดประโยชน์อันใด


    กว่ากริดจะลงมือโจมตี สิบวีรชนฯ เหล่านี้คงมีสภาพร่อแร่ใกล้ตาย และการโจมตีของกริดคงไม่สร้างความเสียหายมากนัก


    นี่คือความคิดของเฮสเตอร์


    ซึ่งลอเอลที่ยืนบนหลังไวเวิร์นก็กำลังคิดในสิ่งเดียวกัน


    ‘มีโอกาสสูงมาก ที่ร่างโคลนจะเตรียมแผนรับมือในจังหวะที่ฝ่าบาทเล็งไว้’


    ใช่แล้ว ทั้งเฮสเตอร์และลอเอล ไม่มีใครทราบถึงรายละเอียดของ ‘ปราการเคลื่อนที่’


    กริดเป็นคนเดียวที่ตระหนักถึงจุดอ่อนสุดโกงของชุดเกราะที่ตัวปลอมกำลังสวม


[ปราณต่อสู้เพิ่มขึ้นถึงค่าสูงสุด]


[พละกำลัง ความอดทน และความว่องไว เพิ่มขึ้น 50%]


    “ดาบพินาศทัพ…”


    “…!?”


    ลอเอลบนท้องฟ้า…


    “ใช้จังหวะเนี่ยนะ?”


    …และเฮสเตอร์บนดิน คนทั้งสองมีสีหน้าตกตะลึงพร้อมกัน


    กริดลงมือโจมตีเร็วกว่าที่ทุกคนคาดคิด


    ขณะเดียวกัน…


    ลูกเตะของเรกัสและดาบใหญ่ของคริส


    เคร้ง! เคร้ง!


    ศรจากจิสึกะและกระสุนเวทมนตร์จากยูร่า…


    เวทโลหิตของแค็ทซ์และเทคนิคชักดาบฟันของพีคซอร์ด…


    รวมถึงร่างโคลนที่กำลังรำดาบเพื่อรับมือการโจมตีจากสิบวีรชนฯ รอบทิศ…


    “หนึ่งแสน”


    —


    —!!


    “…!?”


    รัศมีดาบอันทรงพลังจำนวนมากเริ่มซัดโถมเข้าใส่ร่างโคลน


    เหตุใดกริดถึงโจมตีขณะบัฟปราการเคลื่อนที่ยังแสดงผล?


    คำตอบคือ เขาหวังทำลายวัลฮัลล่าฯ ที่เหลือค่าความคงทนเพียง 30 หน่วย ซึ่งเป็นจุดอ่อนระหว่างใช้งานปราการเคลื่อนที่


    “วิเคราะห์ อันตราย”


    นี่คือท่าทีตอบสนองจากร่างโคลนที่ชุดเกาะของมันเริ่มเกิดรอยร้าวหลังจากรัศมีดาบสีม่วงเริ่มกระหน่ำใส่


    มันประเมินว่า ตนคงมิอาจรับมือ ‘ดาบพินาศทัพหนึ่งแสน’ ที่มีพลังทำลายสูงกว่า ‘มายาร่ายรำ’ ได้ จึงทำการเรียกหัตถ์เทวะกลับมาช่วยปัดป้อง จากนั้นก็ใช้วิชาดาบแพ็กม่า·สะพรั่ง เพื่อโจมตีสวนกลับ


    ร่างโคลนเคยเรียนรู้จากกริดและแรนดี้ว่า ใครใช้ ‘วังวน’ ก่อนจะเป็นฝ่ายแพ้


    ฉากการต่อสู้อันงดงามและเข้มข้นอุบัติขึ้นใจกลางกรุงยูเด็น


    รัศมีดาบที่มีรูปทรงคล้ายกลีบบุปผาบานสะพรั่งได้พุ่งเชือดเฉือนปะทะกับรัศมีดาบพินาศทัพหนึ่งแสนซึ่งหน้า


    ทว่า มันลงมือช้าเกินไป และด้อยประสิทธิภาพกว่ามาก


    วัลฮัลล่าฯ สูญเสียความคงทนไปหลายส่วนจากป็อนและสิบวีรชนฯ เมื่อรับดาบพินาศทัพหนึ่งแสนเข้าไป รอยร้าวบนเกราะยิ่งเพิ่มจำนวนและขยายขนาดอย่างรวดเร็ว


    กริดบัฟพลิ้วไหวและโทสะช่างตีเหล็ก พร้อมกับพุ่งประชิดตัวร่างโคลนด้วยความเร็วสูงสุด


    “ไอ้ลูกกะ*รี่! เอานี่ไปแดก!!”


    ก่อนหน้านี้ กริดครุ่นคิดอยู่นาน เหตุใดร่างโคลนถึงคัดลอกไอเท็มที่ตนสวมได้เพียงไม่กี่วินาที?


    คำตอบคือ ต้องเป็นหนึ่งในพลังของมันแน่ ร่างโคลนบัดซบสามารถคัดลอกชุดเกราะของเขาได้พริบตา


    ด้วยเหตุนี้ เขาจึงเริ่มตระหนักถึงความไม่สมเหตุสมผลของเหตุการณ์


    หากร่างโคลนคัดลอกไอเท็มของตนได้สมบูรณ์แบบดั่งใจนึกในพริบตาอย่างไร้ขีดกำจัด เช่นนั้นแล้ว เขาคงไม่มีทางชนะมันได้ชั่วชีวิตแน่


    แบบนี้ถูกต้องแล้วหรือ?


    เพราะหากเป็นเช่นนั้น ร่างโคลนที่ตนมิอาจเอาชนะได้ แถมยังรู้พิกัดของตนตลอดเวลา กริดจะเอาชีวิตรอดจากสัตว์ประหลาดตัวนี้ได้อย่างไร?


    ชีวิตการเล่นซาทิสฟายของเขาต้องจบลงเพียงเท่านี้รึไง?


    SA กรุปอาจเป็นพวกระยำ แต่ไม่ใช่ผู้บริการเกมที่ไร้เหตุผล เพราะไม่อย่างนั้น บริษัทอันดับหนึ่งของโลกคงถึงคราวฉิบหายแน่ หากกริดนำเรื่องที่เกิดขึ้นไปเปิดเผยและร้องเรียนต่อมวลชนทั่วโลก


    ด้วยเหตุนี้ กริดจึงได้ข้อสรุป


    “แกมันก็แค่ร่างโคลนที่พึ่งพาพลังไอเท็ม! เอานี่ไปแดก! ทำลายล้างสังหาร!”


    ข้อสรุปที่ว่าคือ ไอ้โคลนบัดซบนี่กำลังพึ่งพาพลังของไอเท็ม มิใช่ค่าสถานะหรือฝีมือ


    หากยังจำกัดได้ดี การปรากฏตัวครั้งแรกของร่างโคลนบนหมู่เกาะเบเฮ็น มันมาพร้อมกับดาบ เกราะ และหัตถ์เทวะเหมือนกับกริดทุกประการ


    แต่ตอนนี้ล่ะ? ร่างโคลนไม่ได้คัดลอกดาบอัสนีฯ ไม่ได้คัดลอกดาบท้าทายเทพ ไม่ได้คัดลอกมงกุฎใหม่ ไม่มีไอเท็มใหม่เลยสักชิ้นนอกจากชุดเกราะ


    หมายความว่า พลังคัดลอกฉับพลันของมันมีขีดจำกัด และคงไม่สามารถใช้งานได้อีกสักพัก


    กริดต้องรีบทำลายชุดเกราะบัดซบนี่ทิ้งโดยเร็ว เพราะนี่คือไม้เด็ดของมัน และเป็นสิ่งที่มันกำลังฝากชีวิตไว้


[คริติคอล!]


[สมญานาม ‘ตายในการโจมตีเดียว!’ แสดงผล ความแรงคริติคอลเพิ่มขึ้น 30%]


[ท่านโจมตีใส่จุดอ่อนจากเอฟเฟคของไอเท็ม ‘ผ้าปิดตาเพชฌฆาต’ สร้างความเสียหายเพิ่มเติมแก่เป้าหมาย]


[ท่านสร้างความเสียหายแก่เป้าหมาย 9,195,700 หน่วย]


    ข้อความระบบเบื้องหน้าคือสิ่งยืนยันว่าเขาคิดไม่ผิด ร่างโคลนได้รับบาดเจ็บหนักหลังจากชุดเกราะถูกทำลาย


    มันมิได้สร้างเกราะตัวใหม่หรือเริ่มลงมือคัดลอกอย่างเคย ทำเพียงยืนอ้าแขนรับความเสียหายอย่างสิ้นหวัง


    หมายความว่า พลังคัดลอกไอเท็มฉับพลันมีขีดจำกัด เขาไม่ต้องเกรงกลัวมันอีกต่อไป


    กริดส่งเสียงเย้ยหยันตัวปลอม


    “เป็นยังไงบ้าง? เจอพลังแห่งไอเท็มของจริงเข้าไป”


    “…”


    “แกทำแบบฉันได้รึเปล่า?”


    ผู้เล่นที่เห็นเหตุการณ์ต่างพากันสับสน เมื่อกริดเริ่มเหยียดหยันร่างปลอมด้วยคำว่า ‘พลังแห่งไอเท็ม’


    …


    ขณะเดียวกัน กลุ่มบุคคลที่แตกตื่นมากที่สุดมิใช่ใครอื่น หากแต่เป็นพนักงาน ณ สำนักงานใหญ่ SA กรุป


    “กริดทราบถึงพลังพิเศษของร่างโคลนได้ยังไง?”


    “หรือว่า การที่เขาเปิดฉากกระหน่ำโจมตีร่างโคลนตั้งแต่ต้น ก็เพื่อหลอกล่อให้มันคัดลอกวัลฮัลล่าและใช้ระเบิดจากปราการเคลื่อนที่?”


    “นับตั้งแต่ได้ยินข่าวของร่างโคลนในขุมนรก กริดคงนึกถึงวิธีใช้ประโยชน์จากวัลฮัลล่าฯ ไว้แล้ว”


    “สมกับเป็นหนึ่งในห้าปาฏิหาริย์ของท่านประธาน!”


    “ก็อดกริด…”


    นี่คือวินาทีที่ SA กรุปเรียกผู้เล่นทั่วไป (?) ว่า ‘ก็อด’

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬

ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน

ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,299

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/


Comments

  1. เข้าใจผิดกันไปหมดแล้วววว

    ReplyDelete
  2. มันมั่วโว้ยย ก็อร่อยดีเหมือนกันนะ

    ReplyDelete
  3. ก็อด(ฟลุ๊ค)
    😂🤣🙃
    ขอบคุณ​มาก​ครับ​

    ReplyDelete
  4. 5555 ตลก ความคิดของกริดกับทำให้คนอื่นเข้าใจผิดได้เสมอ

    ReplyDelete
  5. ฮิวรอยฉันจะเดินตามนาย

    ReplyDelete
    Replies
    1. ฮิวรอยคือตัวมั่วนิ่มสุดละ ตั้งแต่อยู่ในคุก แล้วยอมตายแทนจนได้ทักษะติดตัว 555+แต่เจ๋งดี

      Delete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00