จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 910
คลาสเกรดเลเจนดารีแรกของโลก ผู้สืบทอดแพ็กม่า คือคลาสในตำนานที่มีข้อมูลถูกเผยสู่สาธารณะมากที่สุด
ผู้คนต่างพากันเชื่อมั่นว่า ผู้สืบทอดแพ็กม่าคือคลาสที่ยอดเยี่ยมอันดับหนึ่ง ณ ปัจจุบัน
พวกเขาริษยากริดที่ได้ครอบครองพลังเหนือจินตนาการ คลาสอันยอดเยี่ยมที่มีวิชาดาบสูงส่งเทียบเคียงอริยดาบ แถมยังสร้างไอเท็มใหม่ได้ทุกขณะ ตามแต่หัวใจห้องการ
แต่นั่นนับว่าผิดถนัด ผู้สืบทอดแพ็กม่ามิได้ไร้เทียมทานอย่างที่ทุกคนคิด มันมีทั้งข้อดีและขอด้อยเฉกเช่นคลาสอื่น
ผู้สืบทอดแพ็กม่าคือคลาสสายผลิตที่ไม่มีปุ่ม ‘สร้างไอเท็มอัตโนมัติ’ ซึ่งหมายความว่า การสร้างไอเท็มแต่ละหนต้องลงทุนลงแรงกว่าปรกติหลายเท่า และอันที่จริง ผู้สืบทอดแพ็กม่ามีพลังต่อสู้ด้อยกว่าคลาสระดับตำนานทั้งหมดตามที่ลิมชอลโฮเคยกล่าวไว้จริง
แต่สาเหตุที่คลาสนี้แสนโกงในสายตาประชาชนทั่วไป ล้วนเป็นผลจากฝีมือและความเพียรพยายามของกริดทั้งสิ้น
ไม่มีใครเคยทราบว่า กว่ากริดจะสร้างไอเท็มได้แต่ละครั้ง เขาต้องล้มลุกคลุกคลานมากเพียงใด ต้องใช้เวลากี่คืนวัน และต้องพบกับความล้มเหลวมากแค่ไหน
สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นซ้ำไปมานับพันครั้งตลอดหลายปี แต่กริดก็มิได้ท้อถอย ส่งผลให้ทาง SA กรุปนึกชื่นชมกริดมากเป็นพิเศษ
เหล่าพนักงานของ SA กรุปต่างมั่นใจ หากผู้สืบทอดแพ็กม่าเปลี่ยนเป็นบุคคลอื่นที่ไม่ใช่กริด คลาสนี้คงไม่มีทางถูกประเมินให้แข็งแกร่งที่สุดเฉกเช่นปัจจุบันแน่
พวกเขาเชื่อมั่น คงไม่มีใครสามารถอดทนความซ้ำซากของการผลิตไอเท็มด้วยมือได้ และสิ่งนี้มิได้เกิดขึ้นเพียงชั่วครู่ หากแต่ติดต่อกันมานานกว่าสิบปีในซาทิสฟาย
บางที กริดอาจสร้างไอเท็มด้วยมือมาแล้วเกินหมื่นชิ้น ด้วยความสัตย์จริง ใครกันจะทำเช่นนี้ได้นอกจากกริด?
“อย่างน้อยก็ไม่ใช่ฉัน ฉันคงเกิดความเครียดสะสมและจิตใจแตกสลายไปกลางคันขณะเพ่งสมาธิสร้างไอเท็ม ถึงจะยอมกัดฟันทำได้ในบางครั้งหากมีเงินมากมายเป็นสิ่งตอบแทน แต่ฉันมั่นใจว่า ตัวฉันมิอาจทุ่มเทเต็มร้อยกับการสร้างไอเท็มได้ทุกครั้งเหมือนกริด”
นี่คือถ้อยคำจากปากแพนเมียร์ ช่างตีเหล็กอันดับหนึ่งของโลก ซึ่งกล่าวกับผู้เล่นช่างตีเหล็กหน้าใหม่นับพันของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ที่กำลังรวมตัวในโรงเหล็กหลวงไรนฮาร์ท
“กริดควรค่าแก่การถูกยกย่องแล้ว”
“เมื่อลองย้อนนึกดู…”
“มันคงไม่ง่ายเลย”
“จะใช่เรื่องจริงแน่หรือ? คลาสสายผลิตทุกชนิดบนโลกได้ดื่มด่ำไปกับปุ่มสร้างอัตโนมัติแสนสะดวก แต่ช่างตีเหล็กในตำนานกลับไม่ได้รับสิทธิ์นั้นเนี่ยนะ?”
“แพนเมียร์ไม่โกหกแน่ เขาเคยเป็นบุคคลที่ต้องอับอายเพราะกริด คนเช่นเขาไม่มีทางปกป้องกริดอย่างไร้เหตุผล”
“ถูกต้อง ฝีมือกริดเป็นของจริง สิ่งที่เขาเคยแสดงให้เห็นในการแข่งนานาชาติ ฉันกล้ารับประกันว่า นั่นไม่ใช่ฝีมือของช่างเหล็กที่เพิ่งหัดสร้างไอเท็มด้วยมือ”
ทุกคนในที่นี้คือช่างตีเหล็ก
พวกเขาย้ายเข้าร่วมอาณาจักรโอเวอร์เกียร์หลังจากกริดได้รับคำยกย่องจากเทพตีเหล็ก เฮ็กเซเทีย
“พวกนายอาจยังไม่เชื่อ แต่ความจริงจะกระจ่างหลังจากได้เห็นกริดทำงานอย่างใกล้ชิด ฉันขอรับประกันว่าทุกคนจะซึมซับเทคนิคและประสบการณ์จากกริดได้ไม่มากก็น้อย ทว่า ในขณะเดียวกัน พวกนายก็ต้องทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อกริดด้วย”
ปัจจุบัน แพนเมียร์มักกล่าวสรรเสริญกริดในพิธีต้อนรับช่างเหล็กน้องใหม่เสมอ
และสิ่งเดียวที่เขาต้องการจากผู้เล่นช่างตีเหล็กหน้าใหม่ทั่วโลก…
“จงทำงานให้หนัก! ขัดเกลาฝีมือทุกลมหายใจ! ฉันรับประกันว่าพวกนายจะมีอนาคตที่สดใสรออยู่ ภายใต้การสอนสั่งจากกริด พวกนายจะกลายเป็นช่างฝีมือได้แน่นอน!”
“โอ้สสส!”
อนาคตที่สดใส…
ถ้อยคำปราศรัยของแพนเมียได้มอบความหวังและความฝันให้แก่เหล่าช่างเหล็กหน้าใหม่ทุกคน
และสิ่งที่กระตุ้นให้ไฟการตีเหล็กของพวกเขาลุกโชนยิ่งกว่าเดิม…
“เหล่าช่างเหล็กเอ๋ย จงอย่านำไอเท็มที่พวกนายสร้างวางขายในโรงประมูล แต่จงขายมันแก่อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ ฉันขอรับประกันว่าทุกคนจะได้รับเงินเป็นจำนวนที่สูงกว่า แถมยังได้ค่าคุณงามความดีต่ออาณาจักรด้วย”
ลอเอลตอกลิ่มสุดท้ายเข้าไปในใจทุกคน
เขาย่อมทราบถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น หลังจากช่างตีเหล็กหน้าใหม่จำนวนมากตัดสินใจย้ายเข้าสู่อาณาจักรโอเวอร์เกียร์
‘เหตุการณ์นี้จะทำให้อาณาจักรอื่นนอกจากโอเวอร์เกียร์ขาดแคลนช่างเหล็ก และหากอาณาจักรของเรากักตุนไอเท็มไว้กับตัวได้มาก…’
ผลลัพธ์เป็นที่แน่ชัดแล้ว อาณาจักรโอเวอร์เกียร์จะกลายเป็นฝ่ายผูกขาดตลาดผู้เล่นโดยสมบูรณ์
นี่คือบ่อเกิดของกำไรจำนวนมหาศาล
“คุคุ…คุคุคุก! ในอีกไม่ช้า ผู้เล่นจากทั่วทั้งทวีปต้องสวมใส่ไอเท็มจากอาณาจักรโอเวอร์เกียร์เท่านั้น”
และในอนาคต พวกตนก็จะรวบรวมความมั่งคั่งได้เร็วกว่าขั้วอำนาจอื่นทั้งหมด
มีเพียงสิ่งเดียวที่ลอเอลนึกเสียดาย
“…ถ้าเราได้ตาส่องแสงนั่นบ้าง”
เขานึกเสียใจที่ดวงตาของตนมิได้ส่องสว่างท่ามกลางแสงจันทร์แบบกริด ทั้งที่มันสมองปีศาจของตนถูกรีดเร้นเค้นอย่างเต็มประสิทธิภาพเพื่อคิดแผนยึดครองโลกเสมอมา
เขากำลังโศกเศร้าสุดขีด
ลอเอลไม่มีวันลืมความสง่างามของดวงตาซึ่งมีวงแหวนสีฟ้าครามส่องแสงล้อมรอบ
ดวงตาที่กริดได้รับเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน
***
ในยามปรกติ นัยน์ตาสีฟ้าของกริดไม่มีสิ่งใดพิเศษ เมื่ออยู่ต่อหน้ากระจก ดวงตาของกริดจะดูคล้ายกับมนุษย์ตาสีฟ้าทั่วไป
“เนตรแพ็กม่า”
แต่ทันทีที่ทักษะถูกใช้ วงแหวนรอบนัยน์ตาจะเปล่งแสงสีฟ้าที่เข้มข้นและงดงาม
สิ่งนี้จะยิ่งเห็นชัดเมื่ออยู่ในความมืด
วงแหวนสีฟ้าจากดวงตาทั้งสองข้าง สอดประสานกับเส้นผมสีดำและมงกุฎสีเงินอย่างไร้ที่ติ เป็นเสน่ห์ที่ไม่ว่าชายหรือหญิงต่างต้องมนต์สะกด
ทว่า ตัวกริดมิได้ตื่นเต้นกับมันนัก
เขาไม่เคยแยแสรูปลักษณ์ของตัวเองเลยสักครั้ง กริดไม่ชอบให้ใครวาดภาพ ไม่ชอบส่องกระจก เขามักคิดว่าตนคือบุคคลที่มีใบหน้าอัปลักษณ์เหมือนหมึกกล้วยเสมอ
ชายหนุ่มไม่สนใจความงามของดวงตา เขามองเพียงประสิทธิภาพการใช้งาน
‘เนตรแพ็กม่าจะใช้ควบคู่กับผ้าปิดตาเพชฌฆาตได้รึเปล่า?’
[ท่านสวมใส่ ‘ผ้าปิดตาเพชฌฆาต’]
‘ใช้ได้…’
กริดปิดการทำงานของเนตรแพ็กม่าพลางขมวดคิ้วครุ่นคิด
‘หากใช้พรเทพธิดาอัพเกรดทักษะตีเหล็ก เราจะได้รับปุ่มสร้างไอเท็มอัตโนมัติ’
แถมรายละเอียดยังระบุไว้ชัดเจนว่า ความเร็วการผลิตไอเท็มจะเพิ่มขึ้นหากใช้งานปุ่มสร้างอัตโนมัติ
ประสิทธิภาพในการทำงานจะถูกยกระดับจากอุตสาหกรรมครัวเรือนกลายเป็นโรงงานใหญ่
‘ก่อนหน้านี้ เราเคยกังวลกับปุ่มสร้างอัตโนมัติ ว่ามันอาจทำให้เกรดของไอเท็มออกมามีระดับต่ำ’
แต่ปัจจุบัน ปัญญาเหล่านั้นได้หมดไป
‘เรามีค้อนตีเหล็กท้าทายเทพ ไอเท็มขั้นต่ำที่ผลิตได้คือเกรดอีปิก และเรายังมีเนตรแพ็กม่าที่สามารถครอบครองสูตรผลิตไอเท็มระดับสูงได้เพียงจ้องมอง’
ในทางทฤษฎี กริดสามารถสร้างหน่วยรบขนาดย่อมที่สวมใส่ไอเท็มเกรดเลเจนดารีทั้งตัวได้ไม่ยาก
‘แถมยังสามารถคัดลอกไอเท็มชั่วคราวเพื่อรับมือศัตรูที่เก่งกาจ อย่างเช่นจอมอสูร…’
ตึกตัก!
ตึกตัก!
หัวใจกริดกำลังเต้นโครมคราม เขาทราบถึงพลังของกองทัพนักรบที่สวมไอเท็มเกรดเลเจนดารีหัวจรดเท้าเป็นอย่างดี
พรเทพธิดา เนตรแพ็กม่า และค้อนตีเหล็กท้าทายเทพ สามสิ่งนี้เป็นราวกับเวทมนตร์ที่กำลังบันดาลความตื่นเต้นแก่กริด
พลังที่ยอดเยี่ยมซึ่งคล้ายคลึงกับมหาจอมเวทในตำนาน บราฮัม รวมถึงราชาไร้พ่าย มาดรา กำลังโอบล้อมรอบตัวเขา
“…ถึงพลังต่อสู้จะยังห่างไกล แต่เราเริ่มเดินบนเส้นทางเดียวกับอดีตตำนานแล้ว”
พลังที่ทัดเทียมสุดยอดตำนานในอดีต ไม่แปลกเลยสักนิดที่กริดจะเปี่ยมสุข
‘กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้…’
กริดอดทนทำงานอย่างยากลำบากตลอดหลายปี เขารู้สึกขอบคุณสวรรค์ที่มอบโชคให้ในช่วงเวลาแสนมีค่า แต่บุคคลที่ต้องขอบคุณเป็นพิเศษคือพวกพ้องซึ่งเลือกจะเชื่อและเดินบนเส้นทางเดียวกับตน
“ทุกคน…ขอบใจมาก”
ใช่แล้ว ถึงกริดจะมีอนาคตแสนสดใสรออยู่เบื้องหน้า แต่เขาก็ไม่ลืมที่จะเหลียวมองกลับไปหาพวกพ้องด้านหลัง ชายคนนี้เชื่อว่า ตนมาถึงจุดปัจจุบันได้เพราะมีมิตรสหายคอยผลักดัน
‘ไม่ผิดแน่ เราไม่มีทางมาไกลขนาดนี้ตามลำพัง’
กริดสะสางเรื่องราวกับเพื่อนสมัยเรียนได้ด้วยความช่วยเหลือจากยูร่า จากนั้นก็เป็นจิสึกะที่ชักชวนให้รู้จักพวกพ้องใหม่อย่างกิลด์เซดากาห์
ถัดมาเป็นลอเอล ชายคนนี้ช่วยจัดการทั้งหมด ก่อตั้งกิลด์โอเวอร์เกียร์ หรือแม้กระทั่งก่อตั้งอาณาจักรโอเวอร์เกียร์
และกริดยังได้เรียนรู้จากฮิวรอยว่า การด่าพ่อล่อแม่คือสิ่งต่ำทรามที่ไม่ควรกระทำอย่างยิ่ง
พวกพ้องที่สำคัญได้หล่อหลอมให้กริดเป็นกริดเช่นปัจจุบัน เขารู้สึกติดหนี้บุญคุณทุกคน
‘ฉันจะตอบแทนพวกนายคืนกลับเป็นสิบเท่า!’
คนอื่นอาจมองว่ากริดพูดจาเหลวไหล
สิ่งที่กริดช่วยเหลือพวกพ้องมาตลอดทาง มันมากมายยิ่งกว่าที่พวกพ้องแต่ละคนช่วยเหลือกริดเสียอีก กระนั้น กริดกลับยังคิดตอบแทนเพิ่มอีกรึไง?
คำตอบคือ เขามองว่า เหตุการณ์ดำเนินมาถึงจุดปัจจุบันได้เพราะความร่วมมือจากทุกฝ่าย ไม่ใช่มากหรือน้อย แต่ถ้าไม่มีความช่วยเหลือแม้เพียงเศษเสี้ยวในตอนแรก เขาก็จะไม่ทางก้าวขึ้นมายืนบนพลังอำนาจปัจจุบัน
‘ถ้าเซดากาห์ไม่ชักชวนเราเข้ากิลด์…’
ตนจะทำสิ่งใดอยู่?
คงเป็นเพียงช่างตีเหล็กหมู่บ้านและขะมักเขม้นสร้างไอเท็มด้วยสีหน้าเหน็ดเหนื่อย
ทันใดนั้น ข้อความระบบแสดงขึ้น
[ชั่วโมงออนไลน์ของวันนี้ถึงขีดจำกัด]
[การออนไลน์นานเกิดไปจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ท่านจะถูกบังคับล็อกเอาต์เพื่อคำนึงถึงความปลอดภัย]
กริดกลับเป็นชินยองวูอีกครั้ง
ตลอดมาจนกระทั่งปีก่อน ชื่อของชินยองวูเป็นเพียงมนุษย์นิรนามที่ไม่ส่งผลกระทบใดต่อโลกใบนี้
“อาบน้ำดีกว่า”
แต่ปัจจุบัน ชินยองวูพัฒนาตัวเองกลายเป็นกริด กลายเป็นบุรุษที่แข็งแกร่งเหมือนตัวละครในเกม
เขามีร่างกายกำยำที่เกิดจากวินัยอันเข้มงวด มีจิตใจแข็งแกร่งไม่สั่นคลอนจากอุปสรรคมากมายที่เคยเผชิญ และมีบ้านหลังใหญ่ราวกับวังหลวงคอยต้อนรับในวินาทีที่สลับสับเปลี่ยนโลกเชื่อมต่อ
“คงเหนื่อยสินะวันนี้”
รวมถึงยังมีครอบครัวแสนอบอุ่น
ปิ๊บ—
“ทำอาหารเตรียมไว้แล้ว กินด้วยล่ะ”
น้องสาวสุดสวย ชินเซฮี เธอกล่าวเสียงห้วนพลางกดปุ่มทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคในแคปซูล เป็นระบบอำนวยความสะดวกที่ติดมากับเครื่องแคปซูลรุ่นเพชรโคเม็ทกรุ๊ป
เซฮีทราบถึงตารางเวลาอันยุ่งวุ่นวายของพี่ชาย จึงเตรียมผ้าขนหนูและเสื้อผ้าชุดใหม่รอล่วงหน้า
“ขอบใจมาก…?”
มุมปากยองวูพลันกระตุกขณะรับผ้าขนหนูและเสื้อชุดใหม่จากมือน้องสาว
เซฮีกำลังอารมณ์บูดบึ้ง ดวงตาของเธอเกรี้ยวกราดประหนึ่งเตาหลอมเดือดพล่าน
“ม…มีอะไร?”
“ยังจะถามอีกรึไง? หนูเกลียดพี่ที่สุด!”
“หา?”
ยองวูขมวดคิ้วสับสน
เซฮีอธิบาย
“หนูเห็นในทีวีแล้ว ศัตรูในคราวนี้แข็งแกร่งขนาดพี่ต้องระดมพลสิบวีรชนฯ แล้วทำไมพี่ถึงไม่ยอมเรียกหนู?”
ในซาทิสฟาย เซฮีคือรูบี้
คลาสของเธอคือนักบุญหญิง สุดยอดตัวตนสายสนับสนุนที่ใช้เวทรักษาเป็นวงกว้าง แหล่งกำเนิดพลังแตกต่างจากนักบวชรีเบคก้า
เซฮีเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาก
“พี่ควรพาหนูไปด้วย หนูต้องเป็นประโยชน์ได้แน่”
“ศัตรูในคราวนี้แข็งแกร่งเกินไป เธออาจตกอยู่ในอันตรายได้…หืม? ทำไมเธอถึงมั่นใจนัก? เลเวลยังต่ำมากไม่ใช่หรือ? "
“หา? พี่ไม่รู้รึไงว่าหนูกับเยริมเลเวล 270 แล้ว? เราสองคนสามารถเคลียร์ดันเจี้ยนแวมไพร์ได้ตามลำพัง!”
“แค่พวกเธอสองคนเนี่ยนะ? อุฟ! อุฮ่าฮ่า! ถ้าจะโกหกก็เอาให้แนบเนียนกว่านี้หน่อย”
“ห…หนูพูดเรื่องจริง! ถึงจะเป็นเมืองที่ไม่มีแวมไพร์ทายาทก็เถอะ เป็นเมืองเก่าที่พี่เคยเคลียร์ไปแล้ว…”
“จ้า จ้า พี่ขออาบน้ำก่อนนะ”
กริดหัวเราะจนน้ำตาเล็ด เขาไม่เชื่อคำพูดเซฮีแม้แต่น้อย
ในทางทฤษฎี ผู้เล่นเลเวลต่ำกว่าสามร้อยไม่มีทางเคลียร์ดันเจี้ยนแวมไพร์แค่สองคนได้ ต่อให้เป็นแวมไพร์ธรรมดาที่ปราศจากทายาทก็ตาม
เพราะแม้กระทั่งในบรรดาสิบวีรชนฯ รวมถึงขุนพลโอเวอร์เกียร์แนวหน้า มีเพียงคริสและยูร่าเท่านั้นที่สามารถเคลียร์ดันเจี้ยนแวมไพร์ได้ตามลำพัง มันเป็นดันเจี้ยนที่ยากถึงเพียงนั้น
‘ปัจจัยสำคัญคือทรัพยากร ถึงเซฮีจะเป็นนักบุญหญิง แต่การขาดหายไปของตัวทำดาเมจคือช่องว่างที่เยริมมิอาจชดเชยได้ตามลำพัง’
“หนูพูดจริง! ไอ้พี่บ้า!”
“น้องสาวบ้ากำลังเรียกพี่ชายว่าพี่บ้างั้นหรือ~?”
กริดแลบลิ้นปลิ้นตาใส่เซฮีพลางเดินหนีเข้าห้องน้ำ
ติ๊ง—
ขณะเดียวกัน ทีวีในห้องนั่งเล่นได้ส่งเสียงแจ้งเตือนว่ามีอีเมลเข้า ผู้ส่งคือ SA กรุป หัวข้อจดหมายเขียนว่า…
‘โปรเจกต์ราชาอสูร’
“ให้ตายสิ ไอ้พี่บ้านั่น…หือ? อะไรกัน?”
ทีวีอินเทอร์เน็ตในห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อกับอีเมลของชินยองวู
ในทุกวัน คำจ้างวานจำนวนมากจะถูกส่งมาหายองวูจนเขามิอาจจัดการได้ตามลำพัง ยองวูจึงให้เซฮีคอยช่วยดูแลในส่วนนี้
เซฮีเปิดอ่านจดหมาย ‘โปรเจกต์ราชาอสูร’ โดยไม่ลังเล
…แล้วเธอต้องทึ่งสุดขีด
“…เป็นราชาอสูรโดยที่ห้ามคนทั่วโลกรับรู้? หืมมม น่าสนุกจัง ยอดเยี่ยมมาก แถมรางวัลก็ยังมหาศาล”
เป็นโปรเจกต์ที่น่าตื่นเต้น เนื้อเรื่องหลักคือการเปลี่ยนปิอาโร่ อัสโมเฟล เมอร์เซเดส และโนลล์ ให้กลายเป็นสี่ราชันสวรรค์ของราชาอสูร
เซฮีอ่านทวนซ้ำอีกหลายหน จากนั้นก็ตรวจสอบรายละเอียดวันเวลา
“เหลืออีกสามเดือนสินะ”
งานแข่งซาทิสฟายนานาชาติครั้งที่สี่วนกลับมาถึงเร็วกว่าที่คาด แน่นอน ยองวูในห้องน้ำก็กำลังคิดแบบเดียวกัน
“ข้อเสนอนี้ เราจะรับมันไว้”
ท่ามกลางสายน้ำสาดเทจากฝักบัว ชินยองวูกำลังยืนแสยะยิ้มอย่างมีเลศนัย เขากำลังอ่านเนื้อความของอีเมลจากทีวีที่ถูกติดตั้งภายในห้องน้ำ
‘ยิ่งไปกว่านั้น สี่ราชันสวรรค์จะได้สวมใส่ไอเท็มที่เราสร้าง’
เขาสามารถใช้งานทักษะ ‘ออกแบบ’ ได้อย่างอิสระบนเซิร์ฟเวอร์งานแข่ง เพราะข้อมูลจะไม่ถูกนับรวมกับเซิร์ฟเวอร์จริงที่มีจำนวนครั้งจำกัด
ความยากลำบากเมื่อต้องเผชิญหน้ากับนักกีฬาผู้เข้าแข่งทั่วโลกตามลำพัง ยองวูมีแผนจะเรียกร้องไอเท็มแสนมีค่าจาก SA กรุปอย่างสมน้ำสมเนื้อ และสิ่งที่เขากำลังต้องการคือ…
พาเฟรเนี่ยมกับศิลาศักดิ์สิทธิ์
ไม่มีโอกาสครั้งใดเหมาะสมไปกว่านี้อีกแล้ว
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,303
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
ขอบคุณฮิวรอย...?
ReplyDelete🤔🤔🤔
ประมาณว่าคิดตัวเองฉากจัดสุดๆมาเจอฮิวรอยที่ปากจักกว่า😅ทำให้ตัวเองรู้สึกถึงความน่ากลัวแล้วดูเป็นตัวอย่างว่าปากจัดจริงๆมันร้ายแรงขนาดไหนแล้วจะไม่ทำตาม😂
Deleteว้าวตื่นเต้นมาก เนื้อเรื่องจะเป็นอย่างไรต่อ? ค้างมาก คงสนุกมากแน่นอน ขอบคุณครับแอด
ReplyDeleteโกงให้ภึงที่สุดเลยลูกพี่
ReplyDeleteFCฮิวรอย
ReplyDelete