จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 918
กริด >> สวัสดี เป็นยังไงบ้าง
ครอเกล >> นายเป็นห่วงฉันหรือ
กริด >> ไม่มีทาง ใครจะกล้าเป็นห่วงคนบนท้องฟ้ากัน ฉันแค่ทักทายตามประสา
ครอเกล >> ทุกสิ่งกำลังไปได้สวย ขอเข้าประเด็นเลยแล้วกัน นายส่งข้อความหาฉันทำไม
กริด >> แหะแหะ… ฉันอยากทราบว่า มีวัสดุใดในซาทิสฟายที่สามารถนำมาสร้างเป็นแว่นกันแดดได้บ้าง
ครอเกล >> แว่นกันแดดหรือ เข้าใจแล้ว นายคือคนที่ทำสัญญากับราชาเนตรมารสินะ กำลังวางแผนสร้างแว่นกันแดดให้ราชาเนตรมารใช่ไหม
กริด >> สุดยอด… นายนี่น่าขนลุกชะมัด เดาได้ขนาดนี้ทั้งที่ตั้งคำถามเพียงข้อเดียว
ครอเกล >> …นายไม่คิดว่ามันแปลกบ้างหรือ ที่ช่างตีเหล็กที่เก่งที่สุดในโลกกำลังถามฉันเรื่องวัสดุสร้างไอเท็ม
กริด >> ภูมิความรู้ของแพ็กม่าไม่ได้ครอบจักรวาลสักหน่อย ฉันจะไม่ทราบวัสดุของไอเท็มเลยจนกว่าจะมีสูตรสร้าง
ครอเกล >> ได้ยินมาว่า นายเพิ่งได้ตัวช่างทำอัญมณีฝีมือเยี่ยมร่วมกิลด์ไม่ใช่หรือ ทำไมไม่ถามเธอล่ะ
กริด >> น่าเสียดายที่เธอเองก็ไม่ทราบ แต่กลับกัน บุคคลที่มีความรู้ด้านซาทิสฟายสูงที่สุดในโลกคือนาย ได้โปรดช่วยฉัน ถ้านายช่วยไขความกระจ่างครั้งนี้ได้…
ครอเกล >> ฉันเคยเห็นตัวอย่างทดลองของแกรนมาสเตอร์ พวกมันสวมแว่นกันแดดสีดำ เป็นกระจกที่เกิดจากการเจียระไนเพชรอีเธอร์
กริด >> แกรนมาสเตอร์… ตัวอย่างทดลอง… เพชร…
ครอเกล >> เพชรอีเธอร์ ได้ยินมาว่า ขุดได้จากเหมืองเอลีตในทาลิม่าเท่านั้น
กริด >> เมืองคนแคระสินะ พวกคนแคระอนุญาตให้เข้าเหมืองรึเปล่า
ครอเกล >> เหมืองเอลีตถูกทิ้งร้างมานานแล้ว
กริด >> ทำไมกัน
ครอเกล >> ภายในเหมืองเอลีตเกิดการบิดเบือนของห้วงมิติ มุลเลอร์เคยผนึกไว้แล้วก็จริง แต่ปัจจุบัน ผนึกได้อ่อนแรงลงแล้ว
กริด >> ห้วงมิติบิดเบือน…
ครอเกล >> ว่ากันว่าเป็นประตูมิติสู่ขุมนรก ในบางครั้ง ‘ฝ่ามือ’ ของจอมอสูรลำดับ 12 มักโผล่ออกมา
กริด >> ฝ่ามือ…
ครอเกล >> ฝ่ามือที่สามารถตะปบคนแคระหลายร้อยได้ในคราเดียวและเปลี่ยนพวกเขาให้กลายเป็นซากขี้เถ้า
กริด >> สรุปคือ ยังไปเหมืองนั่นไม่ได้สินะ
ครอเกล >> ถูกต้อง คนแคระไม่มีทางเปิดเหมืองให้แน่
กริด >> หมายความว่า เหลือเพียงวิธีเดียวที่จะได้ครอบครองเพชรอีเธอร์สินะ
ครอเกล >> ใช่แล้ว
กริด >> เหรียญทองงานแข่งซาทิสฟายนานาชาติ…
ครอเกล >> ขอให้โชคดี
กริด >> เช่นกัน หวังว่าจะนายจะไม่เข้ามาขวางนะ
ครอเกล >> ล้อกันเล่นรึไง นายยังเก่งกว่าฉันมากในปีนี้
กริด >> แล้วปีหน้าล่ะ
ครอเกล >> พวกเราจะยืนเคียงบ่าเคียงไหล่
“ตอบว่ายืนเคียงบ่าเคียงไหล่แทนที่จะพูดว่านำหน้าไปหนึ่งก้าว… เจ้าบ้านี่ถ่อมตัวชะมัด”
หลังจากจบบทสนทนา กริดลุกขึ้นยืนพลางบิดขี้เกียจ ปัจจุบัน อัจฉริยะอันดับหนึ่งของโลกได้กล่าวชื่นชมยกย่องตน ทั้งที่เขาเคยเป็นเพียงไอ้งั่งสมองทึบ
ครอเกลกำลังจะกลับมาทวงบัลลังก์ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า กริดเกิดความคาดหวังมากกว่าหวาดกลัว เขากำลังถูกกระตุ้นด้วยความตื่นเต้นแทนที่จะสั่นเกร็ง
***
ณ สำนักงานใหญ่ SA กรุป
ตึกแห่งนี้สูงตระหง่านเสียดฟ้าจนกริดได้แต่ตั้งคำถามว่า มันถูกอนุญาตให้สร้างอย่างถูกต้องตามกฎหมายได้อย่างไร หรือทาง SA กรุปจะติดสินบนรัฐบาลไว้
รถยนต์ พาหนะที่พบได้ยากในละแวกนี้ เพราะที่จอดแสนมีค่าล้วนถูกประกาศเป็นเขตหวงห้ามสำหรับผู้มีสิทธิ์
รถหรูคันหนึ่งแล่นมาจอดหน้าทางเข้าล็อบบี้ เป็นรถยนต์สี่ประตูรุ่นผลิตจำนวนจำกัดซึ่งมีเพียงน้อยคนจะได้ครอบครอง แม้จะวางขายตั้งแต่สามปีก่อน ทว่าคุณค่าและความหายากของมันก็มิได้ด้อยลงตามกาลเวลา ความวิจิตรของรูปทรงและยนตรกรรมยังคงตราตรึงผู้ที่ได้พบเห็น พนักงานในตึก SA กรุปต่างหยุดทำงานทันทีและหันไปสนใจกับรถที่เพิ่งดับเครื่องยนต์ น้อยคนนักในเกาหลีใต้ที่จะไม่ทราบว่าเจ้าของรถเป็นใคร
กริ๊ก
สายตาทุกคู่จับจ้องมายังชายหนุ่มที่เพิ่งก้าวขาลงจากรถ ชินยองวู เขาคือดาราดังของโลกที่กลายเป็นกษัตริย์คนแรกในซาทิสฟาย แม้กระทั่งพนักงาน SA กรุปก็ยังต้องต้อนรับชินยองวูด้วยไมตรี
“สวัสดี ฉันตกใจเล็กน้อยที่ได้ยินว่าคุณจะเดินทางมาเซ็นสัญญาด้วยตัวเอง”
ยุนนาฮี หัวหน้าทีมปฏิบัติการ เธอเดินเข้ามาทักทาย
“เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้สูดอากาศในตึกนี้ อาคารของบริษัทอันดับหนึ่งของโลก”
“เป็นเพราะคุณยองวู ผู้เล่นจำนวนมากจึงดื่มด่ำไปกับบรรยากาศอันยอดเยี่ยมของซาทิสฟาย”
“เป็นมิตรกับผู้เล่นจังเลยนะครับ ผมหวังว่าการทำสัญญาในวันนี้จะราบรื่น”
ยุนนาฮีประหลาดใจกับท่าทีสุขุมและสุภาพของยองวู ภาพจำของชายหนุ่มสมองทึบและก้าวร้าวในปีก่อนไม่หลงเหลืออีกแล้ว
‘เขาเป็นผู้เป็นคนได้เพราะซาทิสฟาย’
เธอยังคงไม่ลืมว่า บุรุษเบื้องหน้าผู้นี้ได้เติบโตเป็นชายหนุ่มสุดวิเศษของโลก ยุนนาฮีอมยิ้มพลางกล่าวต่อ
“พวกเราทุ่มอย่างหนักเพื่อร่างสัญญาที่คุณยองวูต้องพึงพอใจ รอชมได้เลย”
“ทุ่มเทอย่างหนักงั้นหรือ แปลว่าพวกคุณยินยอมให้พาเฟรเนี่ยมกับศิลาศักดิ์สิทธิ์เป็นหนึ่งในของรางวัลแล้วใช่ไหม”
“ต้องขอโทษที่ทำให้ผิดหวัง แต่อย่างที่พวกเราเคยแจ้งไว้แล้ว พาเฟรเนี่ยมกับศิลาศักดิ์สิทธิ์มิอาจอยู่ในรายการของรางวัลได้ พาเฟรเนี่ยมคือไอเท็มประจำคลาส วิถีการครอบครองรวมถึงปริมาณย่อมถูกจำกัดตายตัว ส่วนศิลาศักดิ์สิทธิ์อยู่ในหมวดหมู่ไอเท็มระดับ ‘เทพ’ เหนืออดามันเทียมและศิลาโลหิตมาก หมายความว่า ผู้เล่นยังไม่ถึงเวลาที่จะได้ครอบครองมัน คุณไม่ได้อ่านฉบับคัดลอกที่ส่งให้ทางอีเมลเมื่อเช้าหรอกหรือ”
“อ่านแล้ว แค่ถามให้มั่นใจ”
“ขอคุณที่เข้าใจ ผู้อำนวยการจะอธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมภายหลัง แต่เบื้องต้นฉันบอกได้ว่า ขอบเขตไอเท็มที่คุณยองวูจะเรียกร้องได้คือไอเท็ม ‘แรงก์หนึ่ง’ เหมือนกับที่เคยได้รับในปีที่แล้ว… คุณยองวู—!”
ยุนนาฮีต้องผงะหลังจากเอื้อมมือกดปุ่มลิฟต์ เธอพลันขนลุกเมื่อได้เห็นชินยองวูแสยะยิ้มอย่างมีเลศนัยขณะจ้องมองมายังตน
“คุณเล็งอะไรไว้กันแน่…”
“เพชรอีเธอร์ นั่นคือรางวัลที่ฉันต้องการ”
“…!!”
ยุนนาฮีถึงกับใบ้กินเมื่อได้ยินชื่อของไอเท็มที่คาดไม่ถึง โชคดีเท่าไรแล้วที่ไม่เป็นลมล้มฟุบไปเสียก่อน เพชรอีเธอร์—เพชรที่ถูกหุ้มด้วยสสารมืดนามว่า ‘อีเธอร์’ ซึ่งสามารถดูดกลืนแสงสว่างและเวทมนตร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ มันสืบทอดลักษณ์เด่นของทั้งเพชรและอีเธอร์อย่างครบถ้วน ผสานกลมกลืนจนเป็นอัญมณีที่ทรงพลังเหนือจินตนาการ มูลค่าของมันสูงส่งยิ่งกว่าอดามันเทียมและศิลาโลหิต ซึ่งเป็นถึงแร่ตัวแทนของโลกสองภพ
‘แต่เกรดของมันต่ำกว่าอดามันเทียมและศิลาโลหิต’
เพชรอีเธอร์เป็นหนึ่งในอัญมณีที่ดีที่สุดของโลกมนุษย์ แต่ปัญหาก็คือ
“…คุณก็รู้ใช่ไหม ในซาทิสฟาย เพชรอีเธอร์ยังไม่เปิดให้มีการถลุง”
พลังของเพชรอีเธอร์อาจมหาศาลมาก แต่ประโยชน์ใช้สอยถูกจำกัดเป็นวงแคบ ส่งผลให้มันเป็นไอเท็มที่มี ‘เกรด’ ต่ำกว่าแร่จากโลกแอสการ์ดและขุมนรก ทว่า หากนำไปใช้อย่างถูกต้อง เกรดที่ต่ำของเพชรอีเธอร์จะกลายเป็นสิ่งไร้ความหมาย สรุปโดยสั้นคือ มันเป็นไอเท็มที่ผู้เล่นยังไม่ถึงเวลามีไว้ในครอบครอง
“คุณยองวู สมดุลของเกมคือสิ่งสำคัญ ณ ปัจจุบัน ผู้เล่นไม่ควรมีเพชรอีเธอร์”
ชินยองวูทราบดีว่า ‘สมดุล’ ที่ยุนนาฮีกังวลนั้นหมายถึงสิ่งใด ยกตัวอย่างเช่น…
“กลัวว่าผมจะใช้เพชรอีเธอร์ปลดผนึกราชาเนตรมารใช่ไหม”
“…!!”
กิ๊ง!
ประตูลิฟต์เปิดออกในปลายทางที่ยุนนาฮีเลือกไว้ ชั้น 51 ของตึกสำนักงานใหญ่ ชินยองวูเดินออกจากลิฟต์โดยทิ้งไว้ให้ยุนนาฮียืนแข็งทื่อในลิฟต์ตามลำพัง ชายหนุ่มเคาะประตูห้องผู้อำนวยการพลางหันมาแสยะยิ้มชั่วร้าย ขณะเดียวกัน ประตูลิฟต์ได้ปิดลงเพื่อเคลื่อนตัวกลับไปยังชั้นล่าง
“คุณสัญญาเองนะ ว่าจะตอบแทนผม ผู้ที่รับบทราชาอสูร ด้วยไอเท็มที่มีเกรด ‘ไม่เกินกำหนด’ จำนวนเจ็ดชิ้น”
ใช่แล้ว กริดกำลังพูดถึงเกรด… SA กรุปแบ่งลำดับไอเท็มด้วยเกรด และนั่นคือข้อผิดพลาดมหันต์
“ม…ไม่ได้นะ”
เมื่อยุนนาฮีเห็นประตูลิฟต์ปิดลง เธอรีบนำโทรศัพท์ออกมาโทรหายุนซังมิน
(เกิดอะไรขึ้น)
ยุนซังมินรีบรับโทรศัพท์หลังจากกล่าวทักทายกับชินยองวู ยุนนาฮีถึงกับใช้โทรศัพท์สายฉุกเฉิน หมายความว่าเธอต้องมีเรื่องด่วน
ปลายสายตะโกนอย่างร้อนรน
“รีบแก้ไขสัญญาเดี๋ยวนี้!”
(เธอกำลังพูดอะไรอยู่ จะให้เปลี่ยนสัญญาที่พวกเราระดมสมองตรวจตราอย่างถี่ถ้วนงั้นหรือ เธอคิดว่าบริษัทใหญ่เป็นสนามเด็กเล่นรึไง)
“แต่ยองวูต้องการเพชรอีเธอร์!!”
(อะไรนะ ผู้เล่นไม่มีทางรู้จักเพชรอีเธอร์ได้แน่…)
“รีบแก้ไขสัญญาก่อนยองวูจะเซ็นมัน!”
ยังไม่สายเกินไป ชินยองวูเพิ่งเดินเข้าห้องและจับมือทักทายกับยุนซังมิน หลังจากได้รับเอกสารสัญญา เขาคงยังอ่านไม่จบหน้าแรก ยุนนาฮียังมีความหวังที่จะแก้ไขสัญญาให้ทันท่วงที ทว่า เสียงพึมพำของยุนซังมินได้ทำลายมโนภาพจนแหลกละเอียด
(เขาเซ็นมันแล้ว… โดยไม่ได้อ่าน)
“...!!”
โดยไม่ได้อ่าน…
“…อ๊ะ!”
ยุนนาฮีเพิ่งฉุกคิดได้ว่า นี่ไม่ใช่สัญญาฉบับแรกที่ชินยองวูเคยเซ็นกับ SA กรุป ก่อนหน้านี้ เขาเคยร่วมงานกับบริษัทในวิดีโอเปิดตัวงานแข่งนานาชาติปีที่สอง ชินยองวูจึงมั่นใจว่าทาง SA กรุปคือกลุ่มบริษัทใหญ่ที่ ‘เชื่อถือได้’
‘และสาเหตุที่เขาขอให้ส่งฉบับคัดลอกทางอีเมลเมื่อเช้า…’
ยุนนาฮีวางสายอย่างไร้เรี่ยวแรงพลางส่ายศีรษะ
“ชายคนนี้รับมือได้ยากขึ้นทุกวัน ภรรยาของเขาต้องปวดหัวหนักแน่”
***
“สวัสดีครับ ไม่เจอกันนาน”
“สวัสดี ยินดีที่ได้พบกันอีก ผมเอาใจช่วยคุณอยู่นะ”
“ขอบคุณมากครับ ผมขอดูเอกสารสัญญาเลยได้ไหม มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อเช้ารึเปล่า”
“ไม่มี คุณลองอ่านให้ละเอียดอีกครั้งก็ได้ เอ่อ ขอโทษนะ มีสายด่วนเข้า—”
“เรียบร้อยครับ ผมขอตัวนะ”
“...???”
ทุกสิ่งเกิดภายในไม่ถึงหนึ่งนาที ชินยองวูอมยิ้มพลางเก็บปากกาหมึกซึมของผู้เป็นบิดากลับเข้ากระเป๋าเสื้อ ขณะเดียวกัน ยุนซังมินพยายามรักษามดสุขุมไว้ เขาขยับโทรศัพท์ออกห่างจากหูก่อนจะเอ่ยปากถาม
“คุณเซ็นมันโดยไม่อ่านสักนิดเลยหรือ”
“คุณบอกเองว่าเหมือนกับฉบับเมื่อเช้า”
“แต่คุณจะมั่นใจได้ยังไง…”
“มันผ่านไปแล้ว ผมเซ็นเรียบร้อยแล้ว”
“พวกเราสามารถทำสัญญาใหม่ได้นะ ถ้าคุณต้องการ… เฮ่อ! ช่างเถอะ ผมเข้าใจแล้ว เจ็บใจไปก็คงเปล่าประโยชน์ ว่าแต่ ผมมีคำถามหนึ่งข้อ”
“ว่า…”
“ทำไมคุณถึงยอมเสี่ยง”
“เสี่ยงอะไร”
“คุณสามารถแอบเซ็นมันโดยไม่ต้องนำเรื่องเพชรอีเธอร์ไปถามกับยุนนาฮีก่อน ทำไมถึงคุณต้องทำให้ทุกอย่างฉุกละหุกและเสี่ยงไม่อ่านสัญญาก่อนเซ็น”
“ผมต้องการให้แน่ใจ”
“แน่ใจเรื่องอะไร”
“เรื่องที่ว่า ผมคิดถูกหรือไม่ หากตัดสินใจเลือกเพชรอีเธอร์แทนที่จะเป็นลมหายใจสัตว์เทพ”
“คุณใช้ท่าทีตอบสนองของยุนนาฮีเป็นเครื่องยืนยัน…”
“ถูกต้อง ท่าทีซื่อตรงของเธอทำให้ผมมั่นใจ จึงเซ็นสัญญาโดยไม่ลังเล”
“เข้าใจแล้ว คุณตัดสินใจได้ถูกต้อง เพชรอีเธอร์… ไม่สิ ระบุให้ชัดคือ หลังจากสวมแว่นที่สร้างจากเพชรอีเธอร์ ราชาเนตรมารจะกลายเป็นสัตว์ประหลาด”
เผ่าเนตรมารคือสิ่งมีชีวิตระดับสูงอย่างแท้จริง แตกต่างจากเผ่าวารีโดยสิ้นเชิง พลังที่แท้จริงของราชาเนตรมารสามารถสั่นคลอนทวีปตะวันตกได้เพียงชั่วข้ามคืน
“ด้วยสิ่งนี้ คุณจะมีขุมพลังที่มากพอสำหรับต่อกรกับจักรวรรดิซาฮารัน แต่อย่าลืมว่า คุณยังไม่ได้รับเพชรอีเธอร์ รางวัลของคุณจะขึ้นอยู่กับผลงานของราชาอสูรและสี่ราชันสวรรค์”
สัญญาระบุไว้ดังนี้ :
1. ชินยองวูต้องเข้าร่วมในรายการ ‘ตะลุมบอนราชาอสูร’ ระหว่างงานแข่งนานาชาติโดยการสวมบทบาทราชาอสูร
2. หน้าที่ของราชาอสูรคือการเป็นศัตรูกับนักกีฬาเข้าแข่งทุกคน และต้องจัดการพวกเขาให้ราบคาบ
3. ทาง SA กรุปจะสนับสนุนชินยองวู
4. สี่ราชันสวรรค์ประด้วย NPC ดังนี้ : ปิอาโร่, อัสโมเฟล, เมอร์เซเดส, และโนลล์ ทาง SA กรุปจะจำลอง NPC ขึ้นมาใหม่โดยคัดลอกค่าสถานะ ทักษะ และไอเท็มจาก NPC ข้างต้น แต่จะไม่คัดลอกลักษณะนิสัย ความทรงจำ และอารมณ์อย่างเด็ดขาด
...
...
12. ทาง SA กรุปจะมอบรางวัลตอบแทนตามผลงานของชินยองวู จำนวนรางวัลจะเพิ่มขึ้นทุกการฆ่าผู้เล่นครบ 100 ศพ การสังหารจะนับเฉพาะที่เกิดจากฝีมือของราชาอสูรและราชันสวรรค์ซึ่งประจำการยังประตูทั้งสี่ทิศ รางวัลจะถูกส่งมอบหลังจากสิ้นสุดสัญญา
13. หากชินยองวูรอดชีวิตจนกระทั่งการแข่งตะลุมบอนราชาอสูรจบลง ทาง SA กรุปจะมอบรางวัลพิเศษหลังจากสิ้นสุดสัญญา
14. สัญญานี้จะสิ้นสุดลงหลังจากงานแข่งซาทิสฟายนานาชาติครั้งที่สี่จบลงอย่างเป็นทางการ
ตรงกันข้ามกับที่หวังไว้ ราชาอสูรไม่ได้รับสิทธิพิเศษใดๆ แม้แต่น้อย ทาง SA กรุปไม่ได้มอบทักษะหรือไอเท็มสุดโกงเพื่อช่วยสนับสนุนราชาอสูร ชินยองวูต้องเอาชนะผู้เข้าแข่งทุกคนด้วยพลังของตัวเองและสี่ราชันสวรรค์
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย โดยเฉพาะหากนักกีฬาจากแต่ละประเทศเริ่ม ‘จับมือกัน’ เพื่อหวังล้มราชาอสูร แต่หากการแข่งครั้งนี้ลุล่วงไปด้วยดี เขาสามารถสะสมรางวัลได้มากถึงเจ็ดชิ้น ซึ่งเทียบเท่ากับเจ็ดเหรียญทองในการแข่งปรกติ โดยต้องแลกมากับการตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างมาก
“ขออวยพรให้คุณประสบความสำเร็จและได้รับรางวัลที่หวังไว้”
“ขอบคุณสำหรับกำลังใจ”
ยองวูบอกลาผู้อำนวยการยุนซังมินและเดินทางกลับบ้าน ด้วยเวลาที่เหลืออยู่ เขามีแผนจะพัฒนาตัวเอง สร้างไอเท็มสำหรับสี่ราชันสวรรค์ รวมถึงเก็บเลเวลตัวละคร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กริดมีแผนจะยกระดับแวมไพร์ทายาท โนลล์ บุคคลที่เขาไม่ได้พบหน้ามานานแล้ว
‘งานแข่งเกิดขึ้นในเซิร์ฟเวอร์ที่แยกจากปรกติ เราสามารถใช้งานทักษะออกแบบได้เท่าที่ต้องการ’
เขากำลังมองถึงชัยชนะ
‘เราจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ครอบครองเพชรอีเธอร์’
***
“นอกจากเพชรอีเธอร์แล้ว รางวัลสุ่มเสี่ยงอื่นที่ผู้เล่นไม่สมควรได้รับมีดังนี้ : ศิลาแห่งชีวิต, กะโหลกนักพยากรณ์, ชุดเคลัต, และหน้ากากยังบัน นำไอเท็มเหล่านี้ออกจากรายการของรางวัลให้หมด”
ยุนซังมินรีบออกคำสั่งด่วนหลังจากชินยองวูกลับไป แม้เขาจะเปลี่ยนแปลงรางวัลของชินยองวูไม่ได้ แต่กับเหรียญทองงานแข่งนานาชาติที่ยังไม่เริ่มต้นนั้นยังมีโอกาส
‘เราพบจุดบอดได้เพราะยองวู อย่างน้อยเขาก็ช่วยพวกเราไว้’
ยุนซังมินพยายามมองให้แง่บวกให้มากที่สุด แต่ถึงกระนั้น เขายังคงถอนหายใจยาว ชายคนนี้เป็นกังวลเกี่ยวกับโปรเจกต์ราชาอสูรที่จะมีขึ้น
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,311
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
ขนาดคนสร้างเกมยังกังวนกริด
ReplyDeleteเบาได้เบา
เจ้าเล่ห์เกินไปแล้วว
ReplyDeleteผมก็เล่นเกมมานานนะ
ReplyDeleteไม่เห็นพัฒนาขึ้นเลย😂
คนพัฒนาเกมตามไม่ทันแล้ว โอเวอร์เกียร์เกิน
ReplyDelete