จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 913



    คลาสลับชนิดเติบโต ออร่ามาสเตอร์ สามารถรีดเร้นประสิทธิภาพของ ‘ออร่า’ ได้ถึงขีดจำกัดสูงสุด


    ขอบเขตออร่าของฮูเร็นมิได้จำกัดเพียงการเสริมแกร่งอาวุธหรือเพิ่มประสิทธิภาพให้ทักษะ เขายังสร้างออร่าให้เป็นรูปทรงอาวุธ หรือแม้กระทั่งปลดปล่อยใส่คู่ต่อสู้ในรูปแบบของลมหายใจมังกร แถมยังสามารถสร้าง ‘ตราประทับ’ ลงบนวัตถุได้ทุกชนิด ตราประทับจะช่วยให้ฮูเร็นปลดปล่อยออร่าจากจุดดังกล่าวได้อย่างอิสระ ไม่จำเป็นต้องออกจากร่างกายตัวเองเท่านั้น ความสามารถเช่นนี้ส่งผลให้รูปแบบการต่อสู้ของออร่ามาสเตอร์มีความหลากหลาย เรียกได้ว่าไร้ขีดจำกัดก็ไม่ผิดนัก


    ใช่แล้ว ฮูเร็นแข็งแกร่งถึงเพียงนั้น


    หลายปีก่อนแผนรุกรานเรย์ดัน ความแข็งแกร่งของฮูเร็นอยู่ในระดับสูงกว่าผู้เล่นทั่วไปมาก ในครานั้น SA กรุปถึงกับประเมินให้ฮูเร็นอยู่ในระดับเดียวกับครอเกล ซึ่งเป็นระดับที่แข็งแกร่งกว่ากริดในช่วงแรก


    ถูกต้อง ฮูเร็นคือหนึ่งในบุคคลที่ลิมชอลโฮเรียกว่า ‘ห้าปาฏิหาริย์’


    กระนั้น ในภายหลัง ฮูเร็นมีโอกาสได้เผชิญหน้ากับกริด กริดผู้ซึ่งพัฒนาตัวเองอย่างก้าวกระโดดก่อนการแข่งนานาชาติปีที่หนึ่ง แต่ขณะเดียวกัน คลาสออร่ามาสเตอร์เกรดอีปิกของฮูเร็นยังไม่ผลิบานเต็มที่ ส่งผลให้ต้องพ่ายแพ้อย่างน่าอับอายไปทั่วโลกด้วยเวลาห้าวินาที นับแต่นั้น ชื่อเสียงของฮูเร็นจึงตกต่ำลงมากหากเทียบกับฝีมือที่เขาครอบครอง


    ฮูเร็นโด่งดังได้เพียงช่วงต้นของยุคสมัยซาทิสฟาย แต่จากนั้นก็กลายเป็นแรงเกอร์นิรนามที่ไม่มีใครเอ่ยถึง มีผู้เล่นเพียงไม่กี่คนที่ยังจดจำฮูเร็นได้หลังจากที่เขากลายเป็นแรงเกอร์ปกปิดตัวตนเมื่อหลายปีก่อน


    ทว่า ไม่ใช่การจำได้ในลักษณะที่ดีนัก ทุกคนจดจำฮูเร็นในชื่อของ ‘ไอ้ห้าวินาที’


    “แกก็เป็นหนึ่งในพวกเราสินะ…!”


    ความแข็งแกร่งของฮูเร็นมิได้สูญหายไปไหน ไม่สิ เขาทรงพลังยิ่งกว่าแต่ก่อนมาก จนทำให้เฮสเตอร์ถึงกับเรียกว่า ‘หนึ่งในพวกเรา’ ซึ่งหมายถึงตัวมัน กริด ครอเกล แอ็กนัส และแรงเกอร์ระดับแถวหน้าของโลก


    “ใครเป็นพวกแก? ออร่าอสรพิษ!”


    หลายปีก่อน ฮูเร็นดวลกับปิอาโร่และพ่ายแพ้อย่างหมดรูป ลงเอยด้วยการต้องทำฟาร์มอย่างเหน็ดเหนื่อย แต่ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ฝืนฟาร์มได้หล่อหลอมให้ฮูเร็นแข็งแกร่ง เขาแบกกระสอบข้าวหลายกิโลกรัมในทุกวัน ต้องทำฟาร์มภายใต้แสงแดงร้อนระอุ ค่าพละพลังทางกายภาพของฮูเร็นสูงส่งไม่แพ้กริด มีฝีมืออ่านความเคลื่อนไหวคู่ต่อสู้ไม่แพ้ครอเกล และสามารถบังการออร่าดุจดั่งแขนขาไม่แพ้แอ็กนัสยามนำทัพอันเดด


    ฮูเร็นปลดปล่อยออร่าทรงอสรพิษจากปลายนิ้ว มันเลื้อยฉวัดเฉวียนผ่านทุ่งข้าวด้วยความเร็วสูง การโจมตีชนิดนี้อาศัยการบดบังวิสัยทัศน์ของทุ่งข้าวได้อย่างไร้ที่ติ ออร่าอสรพิษถือเป็นทักษะโจมตีที่มิอาจคาดเดาทิศทางได้ การหลบหลีกหรือปัดป้องจึงแทบไม่มีทางเกิดขึ้น ทว่า เฮสเตอร์ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าผู้เล่นทั่วไป มันมีประสาทหูเป็นเลิศและพึ่งพาสิ่งนี้ในการต่อสู้เสมอมา เฮสเตอร์เสกม่านน้ำแข็งขึ้นป้องกันในจังหวะแม่นยำไร้ที่ติ


    “ดูเหมือนแกจะไม่ใช่ขยะสินะ”


    ฮูเร็นมิได้เพียงทำฟาร์มตลอดคืนวัน ทันทีที่หน้าที่ชาวนาจบลง เขาจะรีบมุ่งหน้าไปยังจุดเก็บเลเวลเพื่อพัฒนาออร่าอย่างต่อเนื่อง ฮูเร็นรู้สึกทึ่งกับความแข็งแรงทนทานของม่านบาเรียที่เฮสเตอร์เสก ออร่าอสรพิษซึ่งสามารถสร้างความเสียหายได้ 9,900 หน่วยแบบตายตัวโดยไม่สนพลังพ้องกัน สิ่งนี้กลับมิอาจทะลวงผ่านม่านน้ำแข็งสุดแกร่งได้


    ฮูเร็นเริ่มให้ความสนใจกับชื่อและใบหน้าของเฮสเตอร์


    “แกคือนักกอล์ฟอาชีพใช่ไหม?”


    “เกมเมอร์!”


    เป็นการยั่วยุแสนตื้นเขิน แต่ไม่แปลกที่เฮสเตอร์จะตกหลุมพรางจนออกอาการให้เห็น ปัญหาหนึ่งอย่างของเฮสเตอร์คือความทระนงตน มันถือดีว่าตัวเองเป็นราชาเกมยิงที่ไม่เคยพลาดแชมป์ทุกรายการที่ลงแข่ง มันคือไอดอลของนักกีฬาอีสปอร์ตรุ่นใหม่ทั่วโลก ผู้คนมากมายล้วนปฏิบัติตัวด้วยดี เฮสเตอร์ไม่คุ้นชินกับถ้อยคำดูแคลนแสนต่ำช้า ด้วยเหตุนี้ มันจึงตัดสินใจใช้ ‘ระบำกอบกู้’ ด้วยความฉุนเฉียวโดยมองข้ามบางสิ่งที่สำคัญไป สิ่งนั้นคือ ‘ตราประทับสีดำ’ ที่ถูกสลักลงบนม่านน้ำแข็ง


    “…?!”


    ขณะเฮสเตอร์พยายามสร้าง ‘เสาหิน’ ด้วยทักษะระบำกอบกู้ ใบหน้าของมันพลันยับยู่ยี่ราวกับกระดาษถูกขยำ สาเหตุเพราะ ม่านน้ำแข็งฝั่งมันเริ่มเกิดรอยร้าวและมีออร่าแหลมคมดุจดั่งใบมีดพุ่งออกมา


    “ชิ…!”


    เฮสเตอร์ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยกเลิกระบำกอบกู้และกระโดดหลบ มันพลาดโอกาสสวนกลับและคุมเกมในศึกดวลครั้งนี้ไป แต่ขณะเฮสเตอร์กำลังลอยตัวกลางอากาศ ออร่าเส้นใหม่ได้ปรากฏขึ้นที่มุมสายตา


    “ลืมบอกไป ออร่าของฉันสามารถสร้างตราประทับได้ นายควรระวังไว้หน่อย ฟาร์มผืนนี้คือเขตแดนของฉัน มันเต็มไปด้วยตราประทับที่ฉันสร้างไว้ล่วงหน้า”


    เส้นออร่าพุ่งออกจากตราประทับนับสิบจุดรอบตัวเฮสเตอร์ ทุกเส้นสายไขว้กันคล้ายกับใยแมงมุม เขาเล็งพันธนาการจอมปราชญ์สีชาดให้อยู่หมัด ฮูเร็นผมสีเงินกำลังแสยะยิ้มอย่างมีความสุข ไม่เข้ากับอายุที่บนใบหน้าที่เริ่มชราเลยสักนิด กลับกัน เฮสเตอร์กำลังบูดบึ้งอย่างไม่ยินดี


    “ทำไมแกถึงรับใช้กริด?”


    ในมุมมองเฮสเตอร์ ฮูเร็นคือตัวแปรที่เหนือความคาดหมายอย่างมาก มันไม่เคยคิดว่าบุคคลทรงพลังอย่างฮูเร็นจะลอบรับใช้กริด ทั้งที่กริดมีบริวารเป็นแรงเกอร์แถวหน้าของโลกมากมายอยู่แล้ว


    ไม่อย่างนั้นคงไม่มีคำอธิบายอื่น ถึงสาเหตุที่ฮูเร็นยื่นมือสอดขัดขวางการดวลระหว่างตนกับปิอาโร่


    “อย่าบอกนะว่า…!”


    สปีดการเคลื่อนไหวของเฮสเตอร์เพิ่มขึ้นในทุกขณะ มันสามารถมองตามออร่ามากมายที่จู่โจมจากตราประทับบนพื้นดินทัน การปัดป้องด้วยโล่ในมือซ้ายและดาบในมือขวาเป็นไปอย่างไร้ที่ติ ยิ่งมันคุ้นเคยกับเสียงออร่ามากเท่าไร ท่าทีตอบสนองก็ยิ่งแม่นยำว่องไวมากเท่านั้น


    “นี่เป็นแผนของกริดตั้งแต่ต้น?”


    


    มันเพิ่งฉุกคิดบางสิ่งได้ เป็นสิ่งที่ตัวมันมองข้ามมาโดยตลอด อัสโมเฟลคือบริวารกริด และครอเกลคือเพื่อนสนิทของกริด


    ‘กริดตระหนักถึงเราตั้งแต่ต้น!’


    ไม่ผิดแน่ กริดต้องรับทราบข่าวของตนผ่านอัสโมเฟลและครอเกล


    ‘กริดคงกลัวว่าจะเสียตำแหน่งผู้เล่นอันดับหนึ่งไป จึงสั่งให้ฮูเร็นคอยจับตามองเราและขัดขวางเพื่อไม่ให้ทำภารกิจ!’


    เฮสเตอร์แสยะยิ้มอย่างภาคภูมิใจหลังจากทราบความจริง (?) ทั้งหมด มันรู้สึกดีที่ราชาโอเวอร์เกียร์ผู้ยิ่งใหญ่คอยจับตามองมันเป็นพิเศษ


    “ต้องอย่างนั้น! แปลว่าฉันเดินมาถูกทางสินะ!”


    คู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อคือสิ่งจำเป็น ยิ่งอีกฝ่ายแข็งแกร่ง อีกฝั่งก็ยิ่งถูกกระตุ้นและเกิดการพัฒนา เฮสเตอร์พลันฮึกเหิม จิตวิญญาณของมันเปี่ยมด้วยไฟแห่งการต่อสู้ มันหมุนตัวกลางอากาศและใช้โล่ปัดป้องออร่าหอกที่พุ่งจากตราประทับมากมายบนผืนฟาร์ม


    ฮูเร็นยืนจ้องมองเฮสเตอร์ที่ใช้ประสาทหูรับมือกับออร่าของตนอย่างไร้ที่ติ เขาเอ่ยปากถาม


    “แกบ้ารึเปล่า? พูดคนเดียวอยู่ได้ ฉันเนี่ยนะรับใช้กริด? ไม่ได้ใกล้เคียงเลยสักนิด”


    “ฉันรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว! อย่ามาทำไก๋!”


    “ก็บอกว่าไม่ใช่ไง! ยังเด็กอยู่เลยแท้ๆ แต่ทำไมถึงได้หูตึงขนาดนี้!”


    ฮูเร็นพลันเกรี้ยวกราดเมื่อได้ยินถ้อยคำเข้าใจผิดจากปากเฮสเตอร์ เขายังคงโกรธแค้นทุกครั้งที่ย้อนนึกถึงเหตุการณ์ ‘ห้าวินาที’ ในตำนาน จากมุมมองฮูเร็นที่ต้องการแก้แค้นกริดในสักวัน การถูกเรียกว่า ‘บริวารกริด’ ถือเป็นความอับอายอย่างร้ายแรง


    “ฉันแค่ต้องการตอบแทนบุญคุณปิอาโร่เท่านั้น!”


    อสรพิษ หอก ดาบ และด้าย ออร่าทั้งหมดล้วนมีรูปทรงแสนธรรมดาและพื้นฐาน แต่ยามนี้ พวกมันเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลงทีละนิด ออร่าปริมาณมหาศาลไหลเวียนหลอมรวมก่อตัวเป็นวัตถุคล้ายเปลวเพลิง


[ท่านเริ่มบีบอัดออร่า]


[กรุณาจินตนาการรูปทรงออร่าให้เสร็จภายใน 2 วินาที หากเกิดความผิดพลาดแม้เพียงเล็กน้อย การใช้ทักษะจะล้มเหลว]


    ในฐานะออร่ามาสเตอร์ ฮูเร็นไม่เคยหยุดฝึกฝนพลังจินตนาการแม้แต่วันเดียว เขาตะโกนแผดเสียงกึกก้อง


    “มังกรคำราม!”


[ท่านจินตนาการลมหายใจมังกรสำเร็จ!]


[ในฐานะที่จำลองพลังของสิ่งมีชีวิตชั้นสูง พลังออร่าของท่านจะถูกยกระดับ]


[ออร่าเกรดยูนีคของท่านมีขีดจำกัดในการแสดงผล]


    “…!?”


    แม้จะถูกจำกัดความสามารถไว้ด้วยเกรดของออร่า แต่ลมหายใจมังกรย่อมเป็นลมหายใจมังกรวันยังค่ำ ออร่าปริมาณมหาศาลพวยพุ่งใส่ร่างเฮสเตอร์ด้วยความเร็วสูงและขอบเขตทำลายที่กว้างไกล การโจมตีชนิดนี้ส่งผลให้ประสาทหูและความว่องไวของเฮสเตอร์ต้องกลายเป็นหมัน


    ‘มันอาจปัดป้องได้หนหรือสองหน แต่ไม่มีทางอดทนได้ตลอดแน่’


    ลมหายใจมังกรในครานี้ถูกยกระดับจากสมัยอดีตมาก มันกลายเป็นทักษะ ‘พ่นไฟ’ ที่สามารถพ่นค้างได้นานถึงห้าวินาที ความเสียหายสะสมที่เกิดขึ้นจะเป็นค่าคงที่ตั้งแต่ 9,900 หน่วยไปจนถึง 306,900 หน่วย


    ไม่สนว่าอีกฝ่ายจะมีพลังป้องกันหนึ่งหมื่นหรือหนึ่งล้าน แต่สำหรับผู้เล่นที่มีพลังชีวิตเพียงหลักแสน การโจมตีที่สร้างความเสียหายรวมสามแสนหน่วยคือสิ่งที่ดับลมหายใจทุกคนได้ในพริบตา


[ท่านสร้างความเสียหายแก่เป้าหมาย 9,900 หน่วย]


    ทว่า เฮสเตอร์มิได้หลบหลีกหรือปัดป้องแม้แต่น้อย มันยินยอมให้ลมหายใจมังกรปะทะใส่ร่างอย่างจังโดยไม่แสดงท่าทีขัดขืน ขณะเดียวกัน รอบกายมันถูกปกคลุมด้วยบาเรียคุ้มกายสีส้มส่องสว่าง สิ่งนี้คือ ‘ตำนานวีรบุรุษ’ หนึ่งในสามทักษะติดตัวสายป้องกันที่ดีที่สุด ซึ่งจะแสดงผลเมื่อเงื่อนไขถูกบรรลุอย่างครบถ้วน


[ทรัพยากรทุกชนิดถูกฟื้นฟูจากผลของทักษะติดตัว ‘ตำนานวีรบุรุษ’]


[หลังจากนี้หนึ่งนาที พลังป้องกันของท่านจะเพิ่มขึ้นแปรผันตามปริมาณทรัพยากรที่ใช้ไปในช่วงสองนาทีก่อนหน้า]


[บาเรียคุ้มกายที่สามารถสลายทักษะและเวทมนตร์ทุกชนิดจะคงอยู่นาน 10 วินาที]


    “อะไรกัน…?”


    ฮูเร็นใช้ทักษะโจมตีระยะกลางถึงไกล แถมยังแสดงผลเป็นรัศมีวงกว้าง ออร่าชนิดนี้สามารถกำราบศัตรูได้ทุกรูปแบบ ความพลิ้วที่เป็นจุดเด่นของเฮสเตอร์ย่อมถูกสยบจนอยู่หมัด แต่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นทำให้ฮูเร็นต้องผงะ เขาเริ่มสูญเสียความเยือกเย็นเป็นหนแรก ลมหายใจมังกรซึ่งถือเป็นหนึ่งในท่าไม้ตายสุดโกง กลับถูกปัดป้องได้ด้วยบาเรียคุ้มกายสีส้มปริศนา ใบหน้าฮูเร็นกำลังหวาดผวาราวกับเห็นผีตอนกลางวันแสก


    ‘ทักษะที่มองข้ามความเสียหายทั้งหมด?’


    ไม่สิ โดยทั่วไปแล้ว บาเรียคุ้มกายทุกชนิดล้วนมีขีดจำกัดปริมาณความเสียหายที่ทนรับได้ ทักษะจำพวกบาเรียคุ้มกายถือเป็นสิ่งที่มีค่ามากในการดวลหนึ่งต่อหนึ่ง เพราะหากใช้ในจังหวะถูกต้อง ท่าไม้ตายของอีกฝ่ายจะถูกลดระดับลงหลายส่วน


    ‘แต่บาเรียของหมอนี่ไม่มีขีดจำกัดความเสียหาย…!’


    ฮูเร็นเริ่มเย็นสันหลังวาบ เฮสเตอร์ที่มีบาเรียสีส้มคลุมร่างได้ยืนแช่ลมหายใจมังกรห้าวินาทีเต็มโดยไร้รอยขีดข่วน


    ‘เป็นบาเรียขี้โกงที่มองข้ามความเสียหายทุกชนิดในระยะเวลาหนึ่งสินะ’


    เป็นพลังที่ไม่ควรมีอยู่ในโลกซาทิสฟาย


    ไม่ผิดแน่ นี่มัน…


    “เจ็ดนักบุญภัยพิบัติ…!”


    “ใช่แล้ว แกยังไม่มีหรอกหรือ? ช้าไปหน่อยนะ”


    


    ซาทิสฟายคือโลกที่เหตุการณ์ดำเนินไปอย่างสมดุล หากต้องการได้รับบางสิ่ง ผู้เล่นจำเป็นต้องสละอีกสิ่ง เฮสเตอร์มั่นใจว่า การเลือกฝึกฝนกับปิอาโร่ทำให้ฮูเร็นพลาดภารกิจเจ็ดนักบุญภัยพิบัติ


    “ช่องว่างของพวกเราจะยิ่งห่างชั้นขึ้นในอนาคต”


    ได้เวลาเอาคืนแล้ว เฮสเตอร์กล่าวยั่วยุพลางปรี่เข้าหาฮูเร็นโดยยกโล่ในมือซ้ายเป็นกำบัง


    “ตื้นเขินไปแล้ว!”


    ฮูเร็นโยกลำตัวท่อนบนเพื่อหลบโล่กระแทกจากเฮสเตอร์ จากนั้นก็บีบอัดออร่าและสร้างเถาวัลย์หนามเพื่อรัดพันร่างกายมันในระยะประชิด ทว่า บาเรียสีส้มสุดโกงของเฮสเตอร์ยังคงปกป้องทุกสรรพสิ่งอย่างสมบูรณ์แบบ


    


    “จบแล้วล่ะ”


    ปิอาโร่พึมพำขณะนั่งมองการต่อสู้ร่วมกับซินกูเล็ด เฮสเตอร์กำลังพุ่งประชิดตัวฮูเร็นโดยผ่านด่านออร่าเถาวัลย์หนามอย่างง่ายดาย ดาบในมือเฮสเตอร์ถูกกวัดแกว่งใส่ฮูเร็นอย่างเฉียบคมแม่นยำ


    ทันใดนั้น…


    “ฮูเร็นถืออุปกรณ์ทำฟาร์มตลอดเวลาเพราะต้องการเพิ่มระดับความชำนาญดาบให้ก้าวกระโดด”


    ปิอาโร่กล่าวอย่างมีเลศนัย


    ขณะเดียวกัน ฮูเร็นเก็บกระด้งพลางชักดาบปัดป้องดาบจากเฮสเตอร์


    “…!?”


    เฮสเตอร์ถึงกับผงะ


    ‘วิชาดาบอะไรกัน?’


    ท่าทางเช่นนี้ไม่สามารถเกิดจากปฏิกิริยาตอบสนองและฝีมือควบคุมเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจาก ‘ระบบสนับสนุน’ ของซาทิสฟายที่มีชื่อว่า ‘ทักษะความชำนาญดาบ’


    ‘หมอนี่มีเลเวลความชำนาญดาบเท่าไรกันแน่?’


    เฮสเตอร์ตกตะลึงไปชั่วขณะเมื่อฮูเร็นเปลี่ยนไปเป็นคนละคน มันลืมเสียสนิทว่า คู่ต่อสู้ในคราวนี้ มีอดีตเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งอริยดาบมาก่อน


    “อ่านใจ!”


    “อะไรนะ…”


    ***


    ขณะเดียวกัน กริดกำลังหมกตัวในโรงเหล็ก


    ‘…เดี๋ยวก่อน เราสามารถใช้พรเทพธิดาเสริมแกร่งทักษะ [วิชาดาบแพ็กม่า] หลัก โดยไม่ใช่การเสริมแกร่งทักษะรำดาบชนิดใดชนิดหนึ่งได้รึเปล่า?’


    หัวสมองกริดกำลังพลุ่งพล่านจากการฝึกฝน ‘ร่ายสามเวทผสาน’ ขณะหยุดพักผ่อน เขาเกิดผุดไอเดียใหม่ขึ้น เป็นไอเดียเกี่ยวกับการใช้งานพรเทพธิดาที่เหลืออีกหนึ่งข้อ


    และทันทีที่รู้สึกตัว กริดอยากสบถหยาบคายให้เสียงดังที่สุด แต่เขาจำเป็นต้องกลืนกลับลงไปในลำคอเพื่อรักษาภาพพจน์


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬

ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน

ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,306

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/


Comments

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00