จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 905
ผืนสมุทรสั่นโครมคราม คลื่นทะเลโยกคลอนซัดโถมเข้าชายฝั่งเป็นระยะ
แรงสะเทือนที่เกิดขึ้น ทั้งทรงพลังและรุนแรงราวกับดวงตะวันใกล้แตกดับ
“อา…”
หลังจากฟินิกซ์แดงปรากฏกายบนท้องฟ้า น้ำทะเลเริ่มเดือดปุดด้วยผลของเปลวเพลิงที่สาดเทลงจากด้านบน แรงระเบิดกัมปนาทไม่ขาดสายส่งผลให้ทะเลก่อตัวเป็นคลื่นยักษ์
ผู้คนกำลังยืนขนลุกจากเหตุการณ์เหนือธรรมชาติหนแล้วหนเล่า พวกเขาต่างรีบหันไปมองในจุดที่ฟินิกซ์แดงอุบัติอย่างพร้อมเพรียง
เงาลางสีดำของสิบสองบุคคลกำลังส่องสะท้อนโดยมีดวงตะวันเป็นฉากหลัง
“โชคดีที่มาทัน”
หญิงสาวปริศนาพ่นลมหายใจบางเบาใส่คันธนูเพื่อลดอุณหภูมิ
ทรวดทรงสมบูรณ์แบบที่ถูกฉายย้อนแสงแดด เย้ายวนเกินกว่าบุรุษหน้าไหนจะหักห้ามใจไหว
ผู้อัญเชิญฟินิกซ์แดงเมื่อครู่ เป็นใครอื่นไปไม่ได้นอกจาก…
เทพธิดาฟินิกซ์แดง จิสึกะ—มือธนูอันดับหนึ่งของโลก ณ เวลานี้
“คนมุงดูเต็มไปหมด ถ้าฉันสังเวยเลือดของพวกมัน รับรองได้เลยว่าเจ้าสัตว์ประหลาดนั่นต้องถูกกำราบแน่”
ชายหนุ่มชาวเอเชียกล่าวพลางกวาดสายตาสุดโอหังมองรอบใจกลางเมืองหลวง
เขาคือนักรบโลหิต แค็ทซ์
เคียงคู่มากับแอ็กนัสและยูเฟอมิน่า เขาคือหนึ่งในผู้เล่นที่ครอบครองคลาสลับเกรดอีปิกสุดทรงพลัง
“ยูเฟอมิน่าพ่ายแพ้ในการดวลหนึ่งต่อหนึ่งงั้นหรือ? เธอคงไม่ได้เตรียมตัวมาสินะ”
ผู้เล่นหนุ่มหล่อมาดเจ้าชายที่กำลังถือหอกยาวในมือ เขาคืออัศวินหอกพิสุทธิ์ ป็อน
“เหมือนกับที่กริดบอกไว้เลยน้า~ ร่างโคลนต้องเก่งมากแน่เลย! ฉันตื่นเต้นจัง!”
ชายหนุ่มชาวยุโรปผมสีทองผู้มีดวงตาส่องประกายแวววับ
เขาคือกำปั้นเหล็กคุณธรรม เรกัส
คลาสของเรกัสมีเกรดเพียงทั่วไป แต่ขึ้นชื่อว่าควบคุมได้ตัวละครได้ยากระดับ SSS เลยทีเดียว
“ศึกนี้จะสร้างชื่อเสียงแก่ประเทศเกาหลีใต้ คุฮ่าฮ่า!”
บุรุษที่กำลังลูบคลำฝักดาบอย่างทะนุถนอมย่อมมิใช่ใครอื่น เขาคือพีคซอร์ด ชายผู้โค่นอดีตวีรบุรุษครอเกลได้ในสองดาบ
“ถ้าแกไม่รีบถอดหน้ากากฝ่าบาทออก พ่อแม่ของแกจะถูกฉัน…”
สัตว์ประหลาดที่สามารถด่าพ่อล่อแม่ศัตรูได้โดยไม่กะพริบตา
“ก่อนอื่น ฉันต้องการดวลหนึ่งต่อหนึ่งกับมัน”
บุรุษผู้ใช้ดาบใหญ่พาดบ่าด้วยท่าทีองอาจสง่างาม เขาคือผู้เล่นอันดับหนึ่งของโลกคนปัจจุบัน คริส
“อย่าประมาทจะดีกว่า”
สาวงามผู้แปรเปลี่ยนบรรยากาศโดยรอบให้กลายเป็นสีเทาหมอง นักล่าอสูร ยูร่า
“นั่นมัน [ความผิดพลาด] ไม่ใช่รึไง? ของตกรุ่นแบบนั้นจะสร้างรอยขีดข่วนให้ฉันได้หรือ?”
บุรุษผู้โอหังเกินตัว หัวล้าน แวนเนอร์
“คุคุ…คุคุคุคุ! ฉันสัมผัสได้ถึงความสิ้นหวังในเศษเสี้ยวหัวใจของแก ชีวิตอันน่าเศร้าที่เกิดมาเพื่อเป้าหมายเดียว แถมยังเป็นเป้าหมายที่ไม่มีวันถูกเติมเต็ม ชีวิตที่น่าสมเพชนั่น ฉันคนนี้จะมอบการพักผ่อนให้แกเอง”
ชายหนุ่มผู้มีคำพูดคำจาชวนขนหัวลุก ใครที่ได้ยินเป็นต้องมืดเท้าเกร็งหงิกงอ ย่อมไม่ใช่ใครอื่นนอกจากลอเอล
ทั้งสิบวีรชนฯ ปรากฏกายบนหลังไวเวิร์นสีแดงเพลิงตัวใหญ่
กลุ่มคนเหล่านี้คือสุดยอดผู้เล่นของโลก เป็นตัวแทนแรงเกอร์ที่โด่งจากแต่ละประเทศ ทุกคนล้วนเคยคว้าเหรียญทองในงานแข่งซาทิสฟายนานาชาติมาแล้วทั้งสิ้น
“ยูเฟอมิน่าและอัสโมเฟล ขอบคุณสำหรับความเสียสละ ที่เหลือให้เป็นหน้าที่พวกเราเอง”
บุรุษคนสุดท้ายผู้นี้ เส้นผมของเขาสีดำเงางาม ดวงตาเรียวคมดุจดั่งพญาอินทรี ด้านหลังมีบอลแสงสีขาวจำนวนมากและใบดาบสีทองลอยวนเวียนรอบตัว
“ร…ราชาโอเวอร์เกียร์!”
“นั่นกริด! กริดตัวจริง!”
ผู้เล่นอาณาจักรเมอร์เร่ต่างโห่ร้องยินดีเมื่อจดจำกริดได้
ชายคนนี้คือแรงเกอร์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของโลก ชื่อเสียโด่งดังยิ่งกว่าสิบวีรชนที่กล่าวไปข้างต้นรวมกัน
ราชาโอเวอร์เกียร์ ราชาวีรบุรุษ กริด
ไม่เหมือนกับพวกพ้องที่ปรากฏตัวบนหลังไวเวิร์น กริดกำลังลอยอยู่กลางอากาศราวกับมหาจอมเวท
วี๊—
ทันใดนั้น กริดร่อนลงไปยังเบื้องหน้าร่างโคลน ขณะเดียวกันก็เกิดเสียงหวีดแหลมเล็กดังระงม สร้างความตกตะลึงแก่ผู้พบเห็นเหตุการณ์
“…!”
ร่างโคลนถูกพันธนาการด้วยด้ายบางที่ตามนุษย์มองไม่เห็น
มันคือด้ายเงิน—ด้ายที่ถือกำเนิดในแพงเจียและถูกขนานนานว่าไม่มีวันขาด
“มีอะไรจะพูดอะไรกับฉันไหม?”
ศัตรูในคราวนี้มีค่าท้านทานสูงมาก ร่างโคลนย่อมหลุดจากพันธนาการด้ายเงินในเวลาอันสั้น กริดทราบดีจากประสบการณ์ที่ผ่านมา เขาไม่คาดหวังกับด้ายเงินตั้งแต่ต้น
ชายหนุ่มออกแรงกดปุ่มเครื่องดึงด้ายที่ด้ามจับดาบ ด้ายเงินที่เคยรัดพันร่างโคลนแน่นถนัด ยามนี้เริ่มคลายออกและถูกดึงกลับ
จากนั้น กริดกดปุ่มอีกครั้ง
ในหนนี้ ด้ายเงินพุ่งเชื่อมจับกับใบดาบอัสนีฯ พลางเหวี่ยงตวัดปลายแหลมให้พุ่งเสียบทะลุหน้าอกร่างโคลน
[ท่านสร้างความเสียหาย 2,900 หน่วย]
‘พลังป้องกันสูงขนาดนี้เชียว?’
ดูเหมือนพลังป้องกันอีกฝ่ายจะสูงกว่าพลังโจมตีของดาบมาก ส่งผลให้ความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นเพียงค่าต่ำสุด
เมื่อคำนึงจากชุดเกราะที่ร่างโคลนสวม—เกราะแสงศักดิ์สิทธิ์ หมายความว่า ค่าความอดทนของมันต้องสูงกว่าสามพันแต้มแน่นอน
หลังจากร่างโคลนชะงักเล็กน้อย กริดกดปุ่มดึงใบดาบอัสนีฯ กลับเพื่อประกอบด้ามจับกลายเป็นดาบอัสนีฯ ที่สมบูรณ์
“ศรเวท”
ราชาโอเวอร์เกียร์กระหน่ำทำคอมโบโดยไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายพักหายใจ
นี่คือการต่อสู้ที่กริดจำลองในหัวหนแล้วหนเล่าเพื่อรับมือร่างโคลนโดยเฉพาะ
จากประสบการณ์ตรงและคำบอกเล่าของยูร่า ร่างโคลนมีวิชาดาบผสานมากกว่าตน และฝีมือดาบสูงส่งกว่าตนมาก
กระนั้น สิ่งใดคือจุดอ่อนใหญ่หลวงของวิชาดาบแพ็กม่า?
คำตอบคือ ท่วงท่าการรำดาบที่เชื่องช้าและสิ้นเปลืองเวลา
ใช่แล้ว กริดกระหน่ำโจมตีร่างโคลนโดยไม่เปิดโอกาสให้มันรำดาบ ศรเวทที่ตั้งเวลาไว้เริ่มเปิดฉากระดมยิง
“โนเอะ! แรนดี้! ท…ท่านจะเป็นราชาความตายได้รึไม่?”
ห่าฝนศรเวทถูดยิงสะกดและบดบังการมองเห็นร่างโคลน จากนั้น กริดเริ่มอัญเชิญสัตว์เลี้ยงหลากหลายชนิด
“เมี๊ยว!”
“สวัสดี กริด!”
แกร่ก! แกร่ก!
เป็นสถานการณ์ที่น่าฉงนไม่น้อย เมื่อกริดสามคนกำลังตะลุมบอนอย่างพัวพันใจกลางเมืองหลวง
แรนดี้ที่คัดลอกร่างกริดได้ปลดปล่อย ‘สังหาร’ ใส่กริดตัวปลอมซึ่งถูกศรเวทสะกดการรำดาบ
ขณะเดียวกัน แมวอ้วนขนสีขาวอมทองเริ่มขยับแขนขาที่สั้นป้อมเพื่อสร้างสายฟ้า
[สัตว์เลี้ยงของท่าน แรนดี้ สร้างความเสียหายแก่เป้าหมาย 4,100 หน่วย]
[สัตว์เลี้ยงของท่าน โนเอะ สร้างความเสียหายแก่เป้าหมาย 6,300 หน่วย]
[เป้าหมายต้านทานอาการช็อคไฟฟ้า]
แกร่ก! แกร่ก!
โครงกระดูกโอเวอร์เกียร์เข้าประชิดตัวร่างโคลนขนาบข้างซ้ายขวา
หมายเลขหนึ่งสำแดงพลังหักกระดูกขณะแทง ‘เรเปียร์กริด’ ใส่ข้อมือร่างโคลน
ส่วนหมายเลขสองโจมตีใสร่างโคลนด้วยการโจมตีธรรมดาแสนบางเบา แต่ก็มากพอจะเรียกร้องความสนใจให้พุ่งไปหา
[หมายเลขหนึ่งใช้ทักษะ ‘หักกระดูก’ ล้มเหลว]
[หมายเลขหนึ่งสร้างความเสียหายแก่เป้าหมาย 190 หน่วย]
[หมายเลขสองสร้างความเสียหายแก่เป้าหมาย 23 หน่วย]
ทักษะหักกระดูกที่มีโอกาสแสดงผลเพียงน้อยนิดกลับทำงานล้มเหลว
กระนั้น ท่ามกลางศรเวทมหาศาลที่กระหน่ำยิงใส่ร่างโคลนโดยไม่หยุดพัก เสียงกระดูกหักกลับขึ้นอย่างกังวาน
เป็นเสียงของหมายเลขหนึ่งที่ถูกร่างโคลนซัดจนกระดูกแหลก
[หมายเลขหนึ่งได้รับบาดเจ็บรุนแรง]
[หมายเลขสองใช้ทักษะ ‘เชื่อมกระดูก’]
[หมายเลขหนึ่งกลับสู่สภาพเดิม]
[หมายเลขหนึ่งและสองได้รับความเสียหายรุนแรงจนกลับสู่ผืนปฐพี]
“โครงกระดูก…”
เลเวลของโครงกระดูกโอเวอร์เกียร์ยังต่ำมาก ไม่มีทางที่พวกมันจะทนรับแรงกระแทกจากร่างโคลนที่มีระดับเทียบเท่ากริด
เพียงพริบตา สัตว์เลี้ยงสองจากสี่ตัวถูกทำลาย
“ดาบพันชั่ง!”
คริสกระโจนตามลงมาจากไวเวิร์นพร้อมกับปลดปล่อยท่าไม้ตาย
ดาบที่สร้างจากกระดูกบีเลียลปะทะใส่ศีรษะร่างโคลนอย่างจัง
กริดตัวปลอมมิอาจทนรับน้ำหนักมหาศาลที่ถูกประเคนใส่ แรงกระแทกได้สร้างหลุมลึกกว่าครึ่งเมตรขึ้นที่ใต้ฝ่าเท้ามัน
กริดตัวปลอมถึงกับทรุดลงไปบนพื้น
[ท่านสร้างความเสียหายแก่เป้าหมาย 251,500 หน่วย]
“…!?”
ไม่ใช่ตัวเลขการโจมตีที่คริสหวังไว้
ทักษะท่าไม้ตายของผู้เล่นที่มีค่าพละกำลังอันดับหนึ่งของโลก กลับทำได้เพียงสร้างบาดแผลขีดข่วนที่ลึกพอประมาณ
คริสจ้องมองร่างโคลนที่มีโลหิตไหลซึมจากศีรษะ เขาเตรียมตัวรับการโจมตีสวนกลับที่กำลังจะเกิดขึ้น
“แกอับอายใบหน้าที่พ่อแม่มอบให้รึไง? ถึงต้องอาศัยใบหน้าของผู้อื่นในการดำรงชีวิต! แกไม่ละอายใจต่อพ่อแม่บ้างหรือ? อ๊ะ! หรือว่าแกเป็นลูกไม่มีพ่อแม่!”
ฮิวรอยหยิบยืมพลังภูตลมเพื่อเร่งสปีดการด่าพ่อล่อแม่
และได้ผล ทักษะยั่วยุช่วยดึงความสนใจจากร่างโคลนทันที
กริดตัวปลอมแหงนมองไวเวิร์นบนท้องฟ้าด้วยสายตาเรียบเฉย มันพลาดโอกาสทองในการโจมตีสวนกลับคริสไป
“ไสหัวไปซะ!”
ป็อนเล็งทะลวงหัวใจกริดตัวปลอมจากด้านหลัง
“คลื่นมังกรคลั่ง!”
เรกัสประเคนฝ่าเท้าถีบใส่แผ่นอกของมันเต็มแรง
“…!”
เมื่อถูกกระหน่ำโจมตีด้วยท่าไม้ตายอย่างต่อเนื่อง ร่างโคลนเริ่มสะสมความเสียหายจนถึงจุดที่ต้องกังวล
“วิชาดาบแพ็กม่า”
กริดรำดาบสำเร็จเพราะพวกพ้องช่วยยื้อเวลาให้
“คลื่นทำลายล้างร่ายรำสังหาร”
ท่าแทงสุดทรงพลังถูกรัวใส่เป็นชุด ตามติดด้วยคลื่นรัศมีดาบและรัศมีดาบมหึมาจากด้านบน
เกิดสายฟ้าสีชาดฟาดผ่าจากท้องฟ้า ส่งผลให้โลหิตปริมาณมากฟุ้งกระจายออกจากปากและหน้าอกของกริดตัวปลอม สาดกระเซ็นเปรอะเปื้อนไปทั่วพื้นถนนหลวงยูเด็น
[ท่านสร้างความเสียหายแก่เป้าหมาย 2,395,700 หน่วย]
เป็นพลังทำลายที่น่าเหลือเชื่อ
ตัวเลขความเสียหายที่กริดสร้าง มากพอจะทำให้คริส ป็อน และเรกัสถึงกับผงะ
พวกเขาที่เคยโจมตีใส่ร่างโคลน ย่อมทราบว่าสัตว์ประหลาดตนนี้มีพลังป้องกันมากเพียงใด
“ยังเบาเกินไป…!”
กริดเกิดความหงุดหงิด เขาได้แต่ผิดหวังที่บัญชาแห่งเทพไม่ยอมแสดงผลในช่วงเวลาแสนสำคัญ
แต่ในสถานการณ์ปัจจุบัน ไม่มีสิ่งใดให้ต้องกังวลมากนัก ตนกำลังร่วมมือกับพวกพ้องที่แข็งแกร่งจำนวนมาก
ความเสียหายที่ยังขาดไป สิ่งนี้จะถูกเติมเต็มโดยเหล่าแรงเกอร์ระดับโลก
“หน้าที่ฉันเอง!”
เป็นพีคซอร์ดที่กระโดดลงถึงพื้น ในขณะนี้ เขาพร้อมปลดปล่อยวิชาดาบอันทรงพลังออกจากฝักแล้ว
บุรุษผู้โค่นครอเกลในสองดาบเริ่มหรี่ตาลง ฝักดาบยารุกข้างเอวทำการรวบรวมพลังอสูรที่เข้มข้น
[ยารุกต์กำลังอัดแน่นด้วยพลังอสูร 100% ดาบยารุกต์เข้าสู่ภาวะ ‘ขาดสติ’]
[ดาบยารุกต์สูญเสียสติสัมปชัญญะและเริ่มอาละวาด]
[เงื่อนไขการใช้งานดาบยารุกต์ถูกเปลี่ยนเปลี่ยน ‘กัดกินชีวิตผู้ใช้’]
[ท่านไม่สามารถอัญเชิญอสูรดาบยารุกในสภาพปัจจุบัน]
[พลังโจมตีของดาบยารุกต์เพิ่มขึ้น 500%]
[ยารุกต์ในโหมด ‘ขาดสติ’ ได้แผ่พลังอสูรมหาศาลผ่านฝักดาบจนส่งผลร้ายแรงต่อ ‘พีคซอร์ด’]
“สังหารหมู่!”
เทคนิคชักดาบฟัน—หนึ่งในสุดยอดทักษะที่มีพลังโจมตีและความเร็วสูงสุดของซาทิสฟาย
ฝักดาบในมือพีคซอร์ดพลันส่องแสงสีแดงเจิดจ้า ประกายแสงดาบถูกปลดปล่อยเชือดเฉือนร่างโคลนอย่างโหดเหี้ยม
“…!!”
ร่างโคลนที่ยังรักษาสติไว้ได้แม้จะถูก ‘คลื่นทำลายล้างร่ายรำสังหาร’ โจมตีเข้าไปอย่างจัง บัดนี้เริ่มร่างกายสั่นระริก
หัวไหล่ข้างหนึ่งถูกฟันขาด มันเสียแขนไปหนึ่งข้าง ลำตัวกำลังโงนเงนใกล้ล้มฟุบ
“ลอเอล”
“อื้อ! พายุมังกรพิโรธ!”
จิสึกะและลอเอลใช้ท่าผสาน
ลอเอลสำแดงเดชของ ‘ราชันกระแส’ เพื่อหักเหทิศทางลม ส่งผลให้จิสึกะปลดปล่อยลูกธนูโดยมีลมพายุช่วยพัดส่ง กริดตัวปลอมถูกการโจมตีสุดทรงพลังเสียบทะลุร่างอย่างอำมหิต
ยิ่งการโจมตีดำเนินไป ร่างกายของมันก็ยิ่งนองเลือด
ถึงเวลาของแค็ทซ์ ผู้บงการโลหิต
“พายุโลหิต”
กองเลือดที่สาดกระเซ็นเปรอะเปื้อนพื้นถนน แค็ทซ์รวบรวมพวกมันจนก่อตัวเป็นพายุหมุนวนอันเกรี้ยวกราด
“เจ้านาย!”
“กริด!”
โนเอะและพวกพ้องหันไปส่งสัญญาณให้กริดลงมือ
พวกเขาไม่จำเป็นต้องรีบร้อน เพราะบัดนี้ กริดขยับเท้ารำดาบ ‘คลื่นร่ายรำสังหาร’ เสร็จสิ้นแล้ว
ร่างโคลนที่ถูกกักขังในม่านพายุโลหิต มันคงถูกกริดปลิดชีพในไม่ช้า
เคร้ง! เคร้ง!
ขณะทุกคนวางใจ ร่างโคลนใช้เนตรช่างตีเหล็กสำรวจรายละเอียดไอเท็มกริด จากนั้นก็ลงมือกระทำบางสิ่ง เสียงทุบค้อนดังกังวาลแหวกผ่านม่านพายุโลหิตออกมาถึงภายนอก
กริดรีบลงมือสุดชีวิต แต่น่าเสียดายที่ไม่ทันการ
ร่างโคลนได้คัดลอกรายละเอียดไอเท็มที่กริดกำลังสวม จากนั้นก็เปลี่ยนให้ชุดเกราะปัจจุบันของกริดกลายเป็นความจริงขึ้นมา
เมื่อคัดลอกไอเท็มเสร็จสิ้น มันเปิดใช้งานพลังสุดโกงที่แฝงมากับ ‘วัลฮัลล่าแห่งห้วงอาทรชั่วนิรันดร์’ ทันที
ทักษะที่ว่าคือ ‘ปราการเคลื่อนที่’
เพียงพริบตาเดียว พลังทำลายของ ‘พายุโลหิต’ และ ‘คลื่นร่ายรำสังหาร’ ก็ถูกสลายอย่างหมดจด
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,298
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
สกิลนี้ชื่อว่า เนตรเเพคม่าผู้ทำพันธสัญญากับบาเอล
ReplyDeleteเรียบร้อยโดนก็อปไอเทม
ReplyDeleteก็ว่าแล้วทำไมเหมือนจะง่ายจัง
ReplyDelete555 ของจริงกำลังมา
ถ้าง่ายก็ไม่สนุกสิ
ReplyDelete😊😄😆😁
ขอบคุณมากครับ
โกงทั้งตัวจริง และตัวปลอม ถ้ากริดสามารถเอาตัวปลอมมาเป็นเหมือนสัตว์เลี้ยงได้ คงจะโกงมาก 😅😅 จิตนาการไปทั่ว 5555 สนุกมากครับขอบคุณครับ🙏🙏
ReplyDeleteทฤษฎีนี้น่าสนใจมาก
Deleteนี้คือสกิลที่กริดได้หลังจากตบร่างโคลนแน่นอน
ReplyDeleteผมกำลังคิดอยู่ว่ากริดจะเรียนสกิลเองแบบที่เจอกันครั้งแรกในหมู่เกาะเบเฮ็นรึป่าว?หรือชนะแล้วพลังมันใส่อักขระความมืดของกริดเลย
ReplyDelete