จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 907



    ‘…อันตราย’


    ในวินาทีที่วัลฮัลล่าฯ แหลกละเอียดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ร่างโคลนสัมผัสถึงความรู้สึกหวาดหวั่นเป็นหนแรกนับตั้งแต่เกิดมา


    มันเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัยและหวาดระแวง


    ‘ชุดเกราะเสียหาย ซ่อมแซมไม่ได้’


[ท่านได้รับความเสียหายรุนแรง]


[ระบบประคองชีวิตทำงาน สิ่งนี้ติดตัวท่านตั้งแต่เกิด ท่านจะเข้าสู่ภาวะอมตะเป็นเวลาห้าวินาที ด้วยพลังชีวิตหนึ่งหน่วย]


    ดาบกริดเสียบร่างมันซ้ำ ตัวปลอมเริ่มส่งเสียงครวญคราง


    “อา…”


    ความเจ็บปวดส่งผลให้ร่างกายและจิตใจของมันเริ่มถูกสั่นคลอน


    ‘เรากำลังจะถูกทำลาย?’


    มันไม่ต้องการเช่นนั้น


    มันไม่ต้องการหายไป


    “ร่างมืด!”


    กริดตัวปลอมตะโกนชื่อทักษะอย่างเต็มกลืน โลหิตกระเซ็นจากปากเป็นละอองฝอย


    มันต้องการทำลายกริด และใช้ชีวิตแทนที่กริดให้จงได้


    รอบกายรายล้อมด้วยพลังอสูรปริมาณมหาศาล ผิวหนังเริ่มซีดขาว เส้นผมสีดำเงางามยืดยาวงอกเงย


[ค่าพลังทางกายภาพของท่านเพิ่มขึ้น]


[ทักษะผสาน ‘ร่ายรำวังวน’ ถูกเปิดใช้งาน]


[ทักษะผสาน ‘คลื่นทำลายล้างมายาร่ายรำสังหาร’ ถูกเปิดใช้งาน]


[วิชาดาบแพ็กม่า ‘เจิดจรัส’ ถูกเปิดใช้งาน]


    แรกเริ่มเดิมที ร่างโคลนได้คัดลอกค่าสถานะของกริดเมื่อคราวท้าทายหมู่เกาะเบเฮ็นหมายเลข 41 ไว้


    จากนั้น มันถูกส่งลงไปยังขุมนรกและพัฒนาตัวเองขึ้นมาก จนมีเลเวลสูงเกินกว่าสี่ร้อยไปแล้ว


    แต้มสถานะของร่างโคลนมหาศาลระดับสัตว์ประหลาด แถมยังได้รับการตื่นของค่าสถานะระดับสี่ แต่กระนั้น แต้มสถานะของตัวปลอมก็ไม่เหนือไปกว่ากริด ที่ได้รับผลประโยชน์มหาศาลจากการสร้างไอเท็มมากนัก


    แต่สิ่งหนึ่งที่แตกต่างกันราวฟ้ากับเหว สิ่งนั้นคือจำนวนวิชาดาบที่ครอบครอง


    ไม่เหมือนกับกริดที่สามารถพึ่งพาพลังราชาวีรบุรุษและราชาไร้พ่าย ร่างโคลนพึ่งพาได้เพียงวิชาดาบเพื่อเอาชีวิตรอดในขุมนรกแสนโหดร้าย


    ทักษะความชำนาญดาบของมันมีเลเวลสูงกว่ากริดมาก รวมถึงจำนวนวิชาดาบแพ็กม่าที่ถูกผสานอย่างหลากหลาย แต่บางทักษะสามารถใช้งานได้ในโหมดร่างมืดเท่านั้น เนื่องจากแต้มสถานะในร่างปรกติมีไม่เพียงพอ


    “วิชาดาบแพ็กม่า”


    ใช่แล้ว ระบบนี้กำลังบอกใบ้ว่า หากกริดต้องการวิชาดาบผสานที่เพิ่มขึ้น เขาต้องเร่งเพิ่มแต้มสถานะของตัวเอง


    ระบบเลเวลคือสิ่งที่กริดมิควรมองข้าม


    “คลื่นทำลายล้างมายาร่ายรำสังหาร”


    “…!?”


    เมื่อเข้าตาจน ร่างโคลนเริ่มเอาจริง


    มันเปิดโหมดร่างมืดและเคลื่อนไหวด้วยความเร็วที่สูงกว่าปรกติ จากนั้นก็ปลดปล่อยวิชาดาบผสานห้าทักษะ


    รัศมีดาบหลายสิบเส้นกระหน่ำพุ่งตรงใส่กริดจากด้านหน้า


    “มายาร่ายรำ”


    กริดคิดโจมตีสวนแลก พลังทำลายต้องเจอกับพลังทำลาย แต่น่าเสียดายที่ความพยายามกลับกลายเป็นหมัน


    รัศมีคมดาบจากร่างโคลนเริ่มสลายหายไปกับความว่างเปล่า


    “…!?”


    กริดได้แต่ยืนฉงน เขาไม่เข้าใจเลยสักนิดว่า การโจมตีจากร่างโคลนหายไปได้อย่างไร และหายไปที่ไหน


    “เจ้านาย!”


    โนเอะตะโกนเรียกด้วยน้ำเสียงร้อนรน


    ใบดาบท้าทายเทพพลันเปลี่ยนวิถีการปกป้องอย่างฉับพลัน มันลอยขึ้นเหนือศีรษะกริดแทนที่จะประจำการด้านหน้า


    ‘บ้าน่า…!’


    กริดรีบเงยหน้าแหงนมองด้านบนด้วยดวงตาที่สั่นระริก


    …เต็มท้องฟ้า


    รัศมีดาบของร่างโคลนกำลังกระจัดกระจายเต็มท้องฟ้า ราวกับออโรร่าสีเขียวที่พบเห็นได้ตามเขตขั้วโลก


    “วังวน!”


    เป็นการเคลื่อนไหวที่เกิดจากจิตใต้สำนึกและปฏิกิริยาตอบสนอง


    กริดกำลังลนลาน เมื่อวิชาดาบผสานห้าชนิดนั้นทรงอำนาจกว่าที่เขาคาดไว้


    รัศมีดาบจำนวนมากบนท้องฟ้าเริ่มสาดกระหน่ำใส่ศีรษะกริดผู้ยืนอยู่เบื้องล่าง ขนาดของแต่ละเส้นมหึมาเทียบเท่าหนึ่งเส้นของรัศมีดาบ ‘ทำลายล้าง’ เลยทีเดียว


    “อ้อมกอดลีเฟล!”


    ยูเฟอมิน่าปลดปล่อยเวทมนตร์ที่เธอเก็บไว้ในยามฉุกเฉิน


    ลีเฟลคือเทพท้องถิ่นที่คลาสมังก์เคารพบูชา ยูเฟอมิน่าภาวนาให้ลีเฟลโอบกอดปกป้องกริดจากห่าฝนรัศมีดาบมหาศาล


    “ศรแม่เหล็ก!”


    จิสึกะกระหน่ำยิงศรไปยังบริเวณเหนือศีรษะกริด ก่อเกิดเป็นม่านบาเรียฝนธนูคอยต้านรับความเสียหาย นี่คือหนึ่งในทักษะปกป้องอันน้อยนิดที่คลาสนักธนูครอบครอง


    จิสึกะได้แต่ภาวนาให้กริดรอดปลอดภัย


    “ฝ่าบาท!”


    “กริด!”


    ลอเอลรีบแปรผันทิศทางลมให้พัดลอยขึ้นฟ้า เจตนาเพื่อลดความรุนแรงของรัศมีดาบให้มากที่สุด


    ขณะเดียวกัน พีคซอร์ดพยายามเล็งฟันทำลายรัศมีดาบจากพื้นดิน


    ทว่า น่าเสียดายที่การกระทำของพวกเขาทุกคนล้วนสูญเปล่า


    อานุภาพของ ‘คลื่นทำลายล้างมายาร่ายรำสังหาร’ มิใช่สิ่งที่ทักษะแสนดาษดื่นของเหล่าสิบวีรชนฯ จะต้านทานไหว


    ราวกับมันกำลังเย้ยหยันสิบวีรชนฯ ผู้เป็นแรงเกอร์แถวหน้าของโลก ฝนรัศมีจำนวนมหาศาลพรั่งพรูใส่ศีรษะกริดโดยไม่ถูกขัดขวางแม้แต่เศษเสี้ยว


    วังวนของกริดเริ่มแสดงผล ห้วงมิติเวทมนตร์กำลังเปิดออกเพื่อรอสะท้อนความเสียหายกลับไปยังผู้ใช้


    แต่การสะท้อนหนนี้ทำได้เพียงบางส่วน


    ไม่มีทางที่ทักษะสวนกลับหนึ่งชนิด จะรองรับห่าฝนรัศมีดาบจำนวนมหาศาลบนท้องฟ้าได้หมดแน่


    “แค่ก!”


    กริดทรุดคุกเข่าพลางกระอักเลือด


    ขณะเดียวกัน รัศมีดาบบางส่วนที่ถูกผลวังวนสะท้อนกลับ ยามนี้กำลังพุ่งเข้าหาร่างโคลนด้วยความเร็วสูง


    “โอ้วว!”


    กลุ่มผู้ชมเริ่มส่งเสียงยินดี


    พวกเขาเล็งเห็นว่า กริดเล็งสะท้อนความเสียหายไว้ตั้งแต่ต้น หากบาดเจ็บก็ต้องบาดเจ็บไปด้วยกัน


    แต่ร่างโคลนตัวบัดซบนี้ การเอาชนะมันคงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก


    “วังวน”


    มันใช้ทักษะสวนกลับแบบเดียวกับกริดทุกประการ ย้อนกลับใส่กริด?


    ผู้ชมเริ่มเปลี่ยนความคิด พวกเขามองว่ากริดอาจต้องเสียชีวิตตามลำพังฝ่ายเดียว


    “วังวน!”


    เป็นเสียงกริดอีกหนึ่งคนที่ยืนเคียงข้างกริดตัวจริง


    แรนดี้


    เธอใช้ทักษะสวนกลับเพื่อตอบโต้ทักษะสวนกลับ หมายสร้างภัยคุกคามแก่ร่างโคลน


    หากเป็นในอดีต ร่างโคลนจะใช้แรนดี้ของมันเพื่อสะท้อนกลับอีกครั้ง…


    “วิชาดาบแพ็กม่า”


    แต่ร่างโคลนไม่มีแรนดี้อีกแล้ว แรนดี้ของร่างโคลนหายไปหลังจากตกลงสู่ขุมนรก


    ตัวปลอมต้องใช้ชีวิตและเอาตัวรอดตามลำพังเรื่อยมานับแต่นั้น มันจึงผสาน…


    “ร่ายรำวังวน”


    การสวนกลับไปมาไม่รู้จบสิ้น!


    รัศมีดาบจะยิ่งทรงพลังเมื่อยิ่งถูกสวนกลับซ้อนทับหลายหน


    กริดกำลังตกที่นั่งลำบากสุดขีด


[ท่านสูญเสียพลังชีวิตเกินกว่า 70% ของพลังชีวิตสูงสุด]


[สมญานาม ‘กษัตริย์คนแรก’ แสดงผล]


[บาเรียคุ้มกายถูกสร้างขึ้น สามารถดูดซับความเสียหายเท่ากับความเสียหายที่ท่านได้รับในหนึ่งนาทีหลังสุด]


[ขณะอยู่ในผลของบัฟ ท่านสามารถเคลื่อนไหวได้ทุกพื้นผิว พลังป้องกันและโจมตีเพิ่มขึ้น 10%]


    “อั่ก…!”


    กริดกำลังยืนบนเส้นคาบเกี่ยวของความเป็นความตาย


[ท่านได้รับความเสียหายรุนแรง]


[ตำนานจะไม่ตายโดยง่าย ท่านเข้าสู่ภาวะอมตะเป็นเวลาห้าวินาที ด้วยพลังชีวิตหนึ่งหน่วย]


    ยังเร็วไปที่จะยอมแพ้


    ถือเป็นห้าวินาทีที่ยอดเยี่ยมมาก


    กริดเพิ่งเข้าสู่ภาวะอมตะ ในขณะที่บัฟอมตะของร่างโคลนใกล้หมดลงแล้ว


    “ร่างมืด!”


    ชายหนุ่มเริ่มฮึกเหิม เขารีดเร้นพลังทั้งหมดที่มีเข้าต่อสู้


    “คลื่นร่ายรำสังหาร”


    ร่างโคลนปลดปล่อยทักษะโจมตีแสนทรงพลังใส่กริด


    “เคลื่อนที่อิสระ”


    กริดใช้ทักษะพุ่งตัว ซึ่งสามารถหลบหลีกการโจมตีไม่ล็อกเป้าได้ทุกชนิด เพื่อเข้าประชิดร่างโคลน


    “สยบ!”


    ทักษะที่แทบไม่ต้องรำดาบ ถูกปลดปล่อยในพริบตา ด้วยระยะหายใจรดต้นคอ


    กริดสัมผัสถึงชัยชนะเบื้องหน้า


    …จนกระทั่งหัตถ์เทวะเข้ามาขัดขวาง


    “…!?”


    ‘สยบ’ ไม่แสดงผล เพราะหัตถ์เทวะพันธนาการแขนทั้งสองข้างไว้ได้ทันท่วงที


    “บัดซบ!”


    ชายหนุ่มถูกหัตถ์เทวะทั้งสี่สะกดการโจมตีจนแน่นิ่ง แขนสองข้างถูกกางออกราวกับเป็นการตรึงกางเขน


    ร่างโคลนมีฝีมือควบคุมหัตถ์เทวะสมบูรณ์แบบกว่ากริดมาก มันบงการหัตถ์เทวะทั้งสี่ด้วยคำสั่งซับซ้อนตลอดเวลา เป็นสมองกลระดับ NPC พิเศษ


    ไม่มีทางที่กริดจะทำเช่นนี้ได้


    “ฉันคือแก”


    เมื่อมันตรึงกริดอยู่หมัด เสียงอันน่าสะอิดสะเอียนของร่างโคลนดังแว่ว


    ราชาโอเวอร์เกียร์เพิ่งตระหนักได้ว่า ตัวปลอมมิได้คิดจำกัดตนเพียงอย่างเดียว แต่มันยังต้องการแทนที่เขาด้วย


    ช่างเป็นพัฒนาการที่ชวนให้ขนหัวลุก


    ร่างโคลนจากสมัยอดีต ปัจจุบันเติบโตขึ้นและกลายเป็นภัยคุกคามใหญ่หลวงต่อผู้เล่นอันดับหนึ่งของโลก


    “ไอ้ระยำ…”


    กริดตัดสินใจหนักแน่น


    “ฉันจะฆ่าแก!”


    สิ่งเดียวที่รับประกันความปลอดภัยของตน คือการสลายหายไปอย่างถาวรของร่างโคลน


    กริดประกาศกร้าวด้วยแววตาเปี่ยมจิตสังหาร ขณะเดียวกัน ร่างโคลนเริ่มแสยะยิ้มเหยียดหยัน


    ใช่แล้ว เป็นรอยยิ้มที่น่าขนลุก


    “แกต่างหากที่ต้องตาย”


    ในวินาทีนี้ ร่างโคลนเริ่มสัมผัสถึงความรู้สึกแปลกใหม่


    หลังจากซึมซับความหวาดกลัวและหวาดผวา มันได้ลิ้มรสความรู้สึกสะใจและพึงพอใจเพิ่ม


    ฝันของมันกำลังจะกลายเป็นจริง


    “ฉันคือกริด”


    “…!”


    ฉึก—


    ‘ความผิดพลาด’ ในมือตัวปลอมเสียบทะลวงหัวใจกริดอย่างโหดเหี้ยม


    กริดกำลังถูกหัตถ์เทวะตรึงร่างจนมิอาจขัดขืนหรือขยับเขยื้อน


    เคร้ง! เคร้ง!


    ขณะ ‘ความผิดพลาด’ เสียบคาร่างกริดอยู่เช่นนั้น ร่างโคลนได้ใช้ค้อนทุบใส่คมดาบเพื่อเปลี่ยนให้ความผิดพลาดกลายเป็น ‘ดาบอัสนีฯ’


    “สี่วินาที”


    ดูเหมือนทักษะคัดลอกฉับพลันของมันจะใช้งานอีกครั้ง


    ร่างโคลนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยียบพลางออกแรงแทงดาบอัสนีฯ ให้เสียบลึกยิ่งกว่าเดิม


    “สามวินาที”


    นี่คือเวลาที่เหลือของบัฟอมตะกริด


    ร่างโคลนทราบดี กริดกำลังจะตายในอีกไม่ช้า เมื่อใดก็ตามที่ผลอมตะของอีกฝ่ายหมดลง ตนก็จะได้รับชัยชนะ


    แน่นอน ปัจจัยที่ไม่คาดฝันสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ


    “ปล่อยมือจากฝ่าบาทเดี๋ยวนี้!”


    อัสโมเฟลและสิบวีรชนฯ ต่างส่งเสียงตะโกนโหวกเหวก พวกเขาเปิดฉากกระหน่ำโจมตีใส่ร่างโคลนเพื่อหวังให้มันปล่อยมือจากกริด


    ทว่า กริดตัวปลอมยังมีไพ่ตายซ่อนอยู่


    “วิชาดาบแพ็กม่า·เจิดจรัส”


    วาบ!


    แสงสีขาวสว่างจ้าแผ่ออกจากใบดาบที่กำลังเสียบทะลุตัวกริด ส่งผลให้อัสโมเฟลและสิบวีรชนได้รับอาการ ‘ตาบอด’ ชั่วคราว


    “หนึ่งวินาที”


    จบสิ้นแล้ว


    นี่คือสิ่งที่ร่างโคลนทำนายชะตากรรมกริดไว้ มันเริ่มจินตนาการถึงตำแหน่งและความยิ่งใหญ่ที่มันกำลังจะสวมรอยแทน


    หัตถ์เทวะทั้งสี่ยังคงตรึงกริดไว้อย่างสมบูรณ์ ไม่มีทางดิ้นหลุดได้เลย


    “ผลลัพธ์ ความตายของแก”


    ร่างโคลนชักดาบกลับพร้อมกับเต้นจังหวะเท้า ‘สังหาร’


    วาบ!


    ฉึก!


    “…!?”


    เกิดแสงสีขาวสว่างจ้าขึ้นอีกหน พร้อมด้วยเสียงของผิวหนังและกระดูกถูกของมีคมเสียบทะลวง


    แสงดังกล่าวเกิดจากภูตแสง


    ส่วนสิ่งที่เสียดแทงผ่านผิวหนังมนุษย์คือใบดาบท้าทายเทพ


    ใช่แล้ว


    “แค่ก!”


    ร่างโคลนกระอักโลหิต มิใช่กริด


    สวนทางกับสิ่งที่ทุกคนคาดหมาย กริดตัวปลอมทรุดคุกเข่าลงกับพื้น


    “จะแทนที่ฉัน…แกมีพลังอักขระรึเปล่า”


    กริดเป็นอิสระหลังจากหัตถ์เทวะเริ่มคลายแรงบีบ มันออกอาการสับสนเมื่อร่างผู้เป็นนายทรุดลงกับพื้น


    “…”


    กริดตัวปลอมไม่กล่าวสิ่งใดตอบ มันทำเพียงกระอักเลือดในท่าคุกเข่าเช่นนั้น


    กริดถามย้ำอีกครั้ง


    “ฉันรอดมาได้ด้วยพลังของอักขระความมืด แกสามารถเลียนแบบเหมือนที่ทำกับดาบและชุดเกราะได้รึเปล่า”


    “…”


    “น่าสมเพช”


    คงเป็นการโกหกหากจะบอกว่ากริดไม่รู้สึกเห็นใจร่างโคลนแม้แต่น้อย


    เขารู้สึกหดหู่เมื่อลองจินตนาการถึงความโดดเดี่ยวที่ร่างโคลน ซึ่งเกิดมาเพื่อฆ่าตน ได้รับตลอดหลายปีที่ผ่านมา


    แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ร่างโคลนคือภัยคุกคามที่ร้ายแรงของกริดและอาณาจักร


    หากตัดความเห็นใจออกไป ร่างโคลนคือศัตรูที่ต้องถูกกำจัดโดยเร็ว ชายหนุ่มรีบใช้ดาบในมือแทงใส่ลำคอของมันโดยปราศจากความลังเลบนสีหน้า


    เมื่อไร้ชุดเกราะ กริดตัวปลอมอ่อนแอลงจากเดิมหลายเท่า และราชาโอเวอร์เกียร์ก็มั่นใจ ว่านี่คือจุดจบอันน่าเศร้าของมัน


    …จนกระทั่ง เซตสร้อยคอและกำไลข้อมือผู้พิทักษ์ที่ร่างโคลนสวม สำแดงเอฟเฟคลับของค่าสถานะ ‘ความทรหด’ ออกมา

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬

ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน

ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,300

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/


Comments

  1. อ่านไปอ่านมาเริ่มงงว่ากริดไหนแล้ววะ 555

    ReplyDelete
  2. ผมเริ่มงงกะบทตกลงร่างโคลนไม่ตายทั้งที่โดนแทงตอนหมดประกันชีวิต

    ReplyDelete
  3. This comment has been removed by the author.

    ReplyDelete
  4. คนแต่งนิยายนี้ก็เก่งเนอะ
    จินตนาการ​เขาสุดยอดไปเลย
    คนแปลนิยายให้อ่านก็เก่งนะ
    ทั้งขยันทั้งใจดี😁
    ขอบพระคุณ​เป็น​อย่างยิ่ง​😊🙏

    ReplyDelete
    Replies
    1. +1 ทั้งคนเขียนนิยาย ทั้งคนแปล เก่งมาก ส่วนคนอ่านก็ฟินและค้างต่อไป 🙏😅😅😅✌✌✌สู้ๆ ครับคนเขียน และคนแปล ขอบคุณมากครับ

      Delete
  5. เลือด 10 ล้าน 1% ก็ แสนนึงละ แทงทีเดียวมันจะไปตายได้ยังไง ขี้เลื่อยจริงๆ

    ReplyDelete
    Replies
    1. เหลือ1หน่วยต่างหาก

      Delete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00