จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 916



‘เกิดอะไรขึ้นกันแน่?’


ในอดีต กริดเคยล้มฮูเร็นภายในห้าวินาที เขาย่อมเตรียมใจไว้แล้ว ว่าฮูเร็นต้องกลับมาแก้แค้นในสักวันแน่


ทว่า…


‘นี่มันหมายความว่ายังไง?’


เหตุใดฮูเร็นถึงแสดงสีหน้าเคารพนับถืออย่างเปล่งประกายเช่นนี้?


‘อึดอัดชะมัด’


เมื่อได้เห็นสายตาแปลกประหลาดจากฮูเร็น กริดอึดอัดจนต้องเบือนหน้าหนี


เขารีบคิดทบทวนในสิ่งที่เกิดขึ้น


‘เราทำอะไรลงไปบ้าง’


ชายหนุ่มขมวดคิ้วครุ่นคิด แต่เมื่อไม่พบคำตอบ เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเอ่ยปากถามตามตรง


“นายกินยาผิดมารึไง? ทำไมถึงมองฉันแบบนั้น?”


กริดค่อนข้างหวาดระแวงฮูเร็น ทว่า อีกฝ่ายเอาแต่จ้องมองด้วยสายตาเป็นมิตร ส่งผลให้กริดไม่กล้าลงมือบุ่มบ่าม


‘เราต้องหาสาเหตุที่เกิดขึ้น ต้องรู้ให้ได้ว่าหมอนี่เป็นอะไร’


เขาต้องทำได้แน่ กริดมั่นใจ ในช่วงหลัง ตนเริ่มใช้สมองมากขึ้นจากแต่ก่อนแล้ว หากลองไตร่ตรองให้ถี่ถ้วน ความจริงต้องกระจ่างชัดเจน


“ฮุฮุฮุ เลิกเสแสร้งดีกว่าน่า ฉันอายุมากกว่านาย ขอไม่ใช้ราชาศัพท์ได้ไหม?”


ในวินาทีที่ฮูเร็นพ่นถ้อยคำสุดเหลวไหลออกจากปาก กริดพลันฉงนหนักยิ่งกว่าเก่า


“เสแสร้ง?”


กริดไม่สนว่าฮูเร็นจะสุภาพน้อยลงหรือไม่ใช่คำราชาศัพท์ เพราะเหนือสิ่งอื่นใด การมีตาลุงแก่มาพูดสุภาพด้วย ไม่ได้ทำให้กริดรู้สึกดีขึ้นสักเท่าไร


แต่ที่เขาสงสัยคือ คำว่า ‘เสแสร้ง’ ของฮูเร็นหมายถึงสิ่งใด?


‘เราเสแสร้งตรงไหน?’


ขณะเดียวกัน ฮูเร็นก้มศีรษะลงเพื่อทำความเคารพกริดที่มีสีหน้ามึนงง การคำนับครั้งนี้มิใช่แบบขอไปที แต่เป็นการคำนับจากก้นบึ้งหัวใจ


“ขอบคุณที่นายคอยดูแลฉันตลอดหลายปีที่ผ่านมา ฉันทั้งตกใจและชื่นชม ทั้งที่นายทราบอยู่แล้วว่าฉันเคยบุกรุกเรย์ดันเพื่อแก้แค้น แต่แทนที่จะขับไล่ นายกลับเฝ้ามองอย่างเงียบงันโดยไม่รบกวน ฉันละอายใจมากเมื่อหวนนึกถึงช่วงเวลาที่เอาแต่โกรธแค้นนาย”


“…???”


“ฉันพูดจริง หากเป็นคนทั่วไป ไม่มีทางที่เขาเหล่านั้นจะยอมมอบโอกาสแก่บุคคลซึ่งอาจเป็นศัตรูในอนาคตอย่างฉัน กริด ฉันทึ่งในความกล้าและใจกว้างของนายมาก”


“…???”


เครื่องหมายคำถามปรากฏเหนือศีรษะกริดอย่างต่อเนื่อง เขาหมดคำพูดเมื่อความเข้าใจผิดของฮูเร็นเริ่มฝังรากลึก


ฮูเร็นอมยิ้มขื่นขมก่อนจะกล่าวต่อไป


“นายจับตามองฉันมาตลอด และยังเป็นห่วงฉันเมื่อทราบว่าเกิดการต่อสู้ขึ้นในฟาร์มเกษตร…”


“…”


“อันที่จริง ฉันค่อนข้างผิดหวังกับตัวเอง นายเคยเอาชนะฉันได้ในห้าวินาที หลังจากนั้น ฉันรุกรานเรย์ดันเพื่อหวังแก้แค้น แต่กลับพ่ายแพ้ชาวนาของนายอย่างหมดรูป ตัวฉันไม่เคยต่อกรกับนายได้อย่างสมศักดิ์ศรีเลยสักครั้ง”


“…”


ต้องบ้าไปแล้วแน่ ฮูเร็นไม่ใช่มนุษย์ปรกติอีกต่อไป หมอนี่กำลังเสียสติเต็มขั้น


ตนเนี่ยนะเฝ้าจับตามอง? ใจกว้างถึงขนาดมอบโอกาสครั้งใหม่? และปรากฏตัวเพื่อช่วยฮูเร็นไว้จากเฮสเตอร์?


‘ตั้งแต่ตอนไหนกัน? อ๊ะ!’


ขณะสับสน กริดเริ่มพิจารณาฮูเร็นหัวจรดเท้า แล้วเขาก็เหลือบเห็นร่างกายฮูเร็นที่สวมเสื้อเก่าโทรมและเปรอะเปื้อนฝุ่นโคลน แถมยังสวมหมวกฟาง


‘…หมอนี่ก็เหมือนกับครอเกล?’


สมองกริดดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก เขาเริ่มจับใจความในสิ่งที่ฮูเร็นเล่า และนำมาปะติดปะต่อกับเรื่องราวที่ตนเข้าใจ


‘เขาถูกปิอาโร่จับทำฟาร์มสมัยสงครามเรย์ดัน ลากยาวมาถึงการก่อตั้งอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ จวบจนกระทั่งปัจจุบัน ฮูเร็นเป็นชาวนาภายใต้ปิอาโร่มาตลอด และหมอนี่เข้าใจผิดว่าเราทราบความจริงทั้งหมด รวมถึงเข้าใจผิดว่าเราห้ามศึกเมื่อครู่เพื่อปกป้องเขาจากเฮสเตอร์’


นี่ตนมีพลังพิเศษในการทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดรึไง?


เกือบทุกการกระทำในอดีตของกริด ต้องมีบุคคลเข้าใจเจตนาของเขาผิดอยู่เสมอ สิ่งนี้ทำให้กริดปวดหัวทุกครั้ง แต่ก็รู้สึกโล่งใจในเวลาเดียวกัน


‘ความเข้าใจผิดล้วนเป็นไปในทางที่ดี’


หากความเข้าใจผิดทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นด้านลบ กริดไม่อยากจินตนาการว่าชีวิตของตนจะพังพินาศและฉิบหายมากเพียงใด มันมืดมนเกินว่าจะนึกภาพตาม


“ฝ่าบาท ให้กระหม่อมได้อธิบาย”


ปิอาโร่เดินเข้ามาใกล้พลางกล่าว


“ว่ามา”


กริดอนุญาต


ปิอาโร่เริ่มเล่าความจริงตั้งต้นจนจบ นับตั้งแต่ฮูเร็นนำทัพอีเทอนัลรุกรานเรย์ดัน เกิดการต่อสู้ขึ้น ฮูเร็นพ่ายแพ้ขาดลอย ปิอาโร่เล็งเห็นในพรสวรรค์และศักยภาพของฮูเร็น จึงเริ่มนำมาฝึกฝนในฐานะชาวนา หลังจากนั้น ฮูเร็นรับใช้อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ในฐานะชาวนาชั้นเลิศมาตลอด ปิอาโร่มิได้เก็บซ่อนความจริงไว้แม้แต่ประโยคเดียว ทุกสิ่งถูกถ่ายทอดให้กริดอย่างไม่ปิดบัง


“ออร่าของฮูเร็นคือพลังที่สุดยอด สามารถปฏิวัติยุคสมัยเกษตรกรรมของทวีปตะวันตกเลยทีเดียว นับตั้งแต่ฮูเร็นกลายเป็นชาวนาของอาณาจักร อัตราเติบโตผลผลิตเพิ่มขึ้น 20%…”


“ชาวนาของอาณาจักร? หมอนี่ลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายไม่ใช่รึไง?”


กริดขมวดคิ้ว เขากำลังโมโหปิอาโร่


“นายคิดยังไงถึงเก็บศัตรูที่อาจทำร้ายฉันไว้ในฟาร์ม? อยากให้ฉันถูกลอบสังหารนักหรือ?”


กริดไม่เคยเคลือบแคลงในความจงรักภักดีของปิอาโร่ โดยเฉพาะเมื่อครั้งสงครามปราบจอมอสูรบีเลียล ปิอาโร่ยอมสละชีวิตตนเองเพื่อปกป้องทุกคน ทั้งที่เขายังไม่บรรลุเป้าหมายสูงสุดของชีวิต เป้าหมายในการแก้แค้นจักรพรรดินีแมรี่


ไม่เพียงเท่านั้น ปิอาโร่ยังมอบไอเท็มดรอปทั้งหมดให้กริดโดยไม่ลังเล ใช่แล้ว เป็นการยากจะให้กริดเคลือบแคลงในความจงรักภักดีของปิอาโร่


ทว่า คราวนี้กลับต่างออกไป ไม่ใช่ว่ากริดไม่เชื่อ แต่เขาไม่เข้าใจ ว่าเหตุใดปิอาโร่ถึงไว้ชีวิตศัตรูและปล่อยให้ทำงานในฟาร์ม


ปฏิเสธไม่ได้ว่า บทสรุปของการกระทำดังกล่าวคือ ปิอาโร่ได้ชุบเลี้ยงและฝึกฝนศัตรูของกริดให้แข็งแกร่ง


กริดมิอาจทำความเข้าใจได้เลย


“…”


ปิอาโร่ทำเพียงอมยิ้มจืดชืด เขามิได้ตอบปฏิเสธหรือแก้ต่าง เพราะเข้าใจในอารมณ์โมโหกริดกำลังรู้สึกเป็นอย่างดี


เมื่อเห็นเช่นนั้น กริดยิ่งเดือดดาลมากเดิม ความเงียบงันจากปิอาโร่หมายถึงการยอมรับแต่โดยดี ยอมรับว่าตนชุบเลี้ยงศัตรูที่อาจเป็นภัยต่อกริดโดยขาดความไตร่ตรอง


ทว่า ความเข้าใจผิดคงอยู่เพียงไม่นาน ต้องขอบคุณการแก้ต่างจากบุรุษหลงรักมันฝรั่ง—บลันด์


ในปัจจุบัน บลันด์โด่งดังด้านการเป็นชาวนามากกว่าจอมดาบเวทเสียอีก


“กษัตริย์กริด ชายที่ชื่อฮูเร็นอยู่ภายใต้การดูแลของกระหม่อมเกือบตลอดเวลา”


“บลันด์…”


แม้จะไม่ได้พบกันหลายเดือน แต่บลันด์ยังคงมีมันฝรั่งเต็มปากเช่นเคย บลันด์รีบกลืนลงคอพร้อมกับอธิบายต่อ


“ปิอาโร่กำชับไว้ว่า หากฮูเร็นแสดงท่าทางผิดปรกติหรือคิดไม่ซื่อ ให้กระหม่อมลงมือสังหารได้ทันที เพื่อความปลอดภัยของตัวฝ่าบาทเอง”


ปิอาโร่กล่าวเสริม


“เป็นการตัดสินใจของกระหม่อมเพียงผู้เดียว กระหม่อมเชื่อว่า ฮูเร็นมิใช่บุคคลที่จะลอบแทงข้างหลังใคร หากถึงวันใดที่บุคคลผู้นี้หันคมดาบใส่ฝ่าบาท เมื่อนั้นจะเป็นการท้าดวลที่ใสสะอาดและมีเกียรติ และถ้าวันนั้นมาถึง กระหม่อมจะอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้ฝ่าบาทฟัง”


เมื่อแรกพบ ปิอาโร่ชื่นชอบออร่าของฮูเร็นมาก ชายคนนี้มีพลังในการทำฟาร์มที่ไร้ขีดจำกัด หากฝึกฝนอย่างถูกต้อง เขาจะเติบโตจนทำฟาร์มได้ในระดับเดียวกับปิอาโร่


ปิอาโร่ไม่เคยเคลือบแคลงว่า พลังของฮูเร็นจะช่วยยกระดับการเกษตรของอาณาจักรอย่างก้าวกระโดด


กระนั้น ปิอาโร่ก็มิได้ประมาท เขาคอยส่งคนตามประกบฮูเร็นไว้เสมอ และบลันด์คือหนึ่งในนั้น


“แบบนี้เองหรือ…”


กริดโล่งใจหลังจากได้ฟังความจริงทั้งหมด ความหงุดหงิดและผิดหวังสลายไปจากใบหน้า เขาดีใจที่บุคคลซึ่งตนไว้ใจมากที่สุด มิได้เสื่อมความจงรักภักดีลงอย่างที่เข้าใจ


ทว่า กริดยังคงขุ่นเคืองใจเล็กน้อย


ชายหนุ่มออกปากเตือน


“ห้ามปิดบังฉันอีกในอนาคต นายต้องเล่าทุกอย่าง เข้าใจรึเปล่า?”


“ขอรับ ในอนาคต หากกระหม่อมมีศิษย์ชาวนาใหม่เพิ่ม จะรีบแจ้งให้ฝ่าบาททราบทันที”


ปิอาโร่ตอบกลับด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น ความจงรักภักดีถูกเผยบนใบหน้าอย่างเต็มเปี่ยม เป็นความศรัทธาเลื่อมใสที่สูงกว่าในอดีตมาก


สาเหตุเพราะ ปิอาโร่กำลังมีความสุขที่กริดช่วยนำพาซินกูเล็ด สหายเก่า ให้กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง บรรยากาศระหว่างคนทั้งสองกำลังชื่นมื่น


‘…เรามันบ้าไปเอง’


ฮูเร็นกำลังยืนหน้าแดงก่ำอย่างอับอาย เขาทราบความจริงทั้งหมดจากบทสนทนาของปิอาโร่ กริด และบลันด์


ฮูเร็นละอายใจที่ดันเป็นไอ้งั่ง คิดเองเออเองคนเดียว ถึงขั้นมองว่ากริดเป็นบุคคลที่น่าชื่นชม


‘เราคงกลายเป็นตัวตลกไปตลอดชีวิต’


ฮูเร็นหงุดหงิดใจ เขากังวลว่ากริดจะนำเรื่องนี้เป็นประเด็นขบขันทุกครั้งที่เจอหน้ากัน ฮูเร็นต้องการแทรกแผ่นดินหนีให้รู้แล้วรู้รอด


“นายยังแค้นฉันอยู่รีเปล่า?”


กริดหันมาถาม


ฮูเร็นชำเลืองมองปิอาโร่และบลันด์เล็กน้อย ก่อนจะหันมองกริดและตอบอย่างซื่อตรง


“คงเป็นการโกหกหากตอบว่าไม่รู้สึกอะไรเลย แต่เมื่อไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน ความพ่ายแพ้ในอดีตเกิดขึ้นเพราะฉันเป็นฝ่ายบกพร่องและอ่อนแอ ฉันไม่มีสิทธิ์เรียกร้องสิ่งใดจากนาย เพียงแค่อยากแก้มือเท่านั้น”


“โฮ่…? ทั้งที่นายเสียชื่อเสียงอย่างมากเพราะฉัน แต่กลับบอกว่าไม่ได้เคียดแค้น?”


กริดขมวดคิ้ว เขายากจะเชื่อลงว่าฮูเร็นไม่โกรธแค้นตนแล้ว


ฮูเร็นพยักหน้า


“การถอนตัวจากอันดับแรงเกอร์และตัดขาดโลกภายนอกคือเส้นทางที่ฉันเลือกเอง ไม่เกี่ยวกับความพ่ายแพ้ในวันนั้น”


“นายตัดขาดโลกภายนอกเพราะต้องการเก็บตัวซุ่มฝึก?”


“ใช่แล้ว ฉันอยากชนะนายให้ได้”


“โดยปราศจากความโกรธแค้น?”


“ถูกต้อง มันเป็นศักดิ์ศรีของลูกผู้ชาย”


“หืม…”


กริดคือบุคคลพิเศษที่หาได้ยากบนโลก เขาเคยมีประสบการณ์ทั้งในจุดต่ำสุดและสูงสุด เคยเป็นไอ้งั่งสมองทึบ อ่อนแอ ยากจน และติดหนี้ เคยเป็นมหาเศรษฐีร่ำรวย ประสบความสำเร็จ มีชีวิตที่ผู้อื่นริษยา


เคยไล่ตามผู้อื่น และเคยมีผู้อื่นไล่ตาม


ในช่วงชีวิตที่ผ่านมา เขาพานพบบุคคลมากหน้าหลายตา ถูกปฏิบัติตัวหลายรูปแบบ ในบางครั้งก็ถูกย่ำยี ใบบางคราก็เป็นฝ่ายย่ำยีคนอื่นจนสาแก่ใจ


ใช่แล้ว กริดมีชีวิตครบทุกรสชาติ หากไม่นับสติปัญญาที่ต่ำเตี้ย เขามีสายตามองคนค่อนข้างเฉียบแหลม กริดสามารถระบุได้ว่าฮูเร็นคือบุคคลที่มีจิตใจซื่อตรง


เขารู้สึกเห็นใจที่ชายคนนี้แอบซุ่มไล่ตามตนตลอดหลายปีโดยไม่มีโอกาสได้สู้


ความรู้สึกอยากต่อสู้ อยากเอาชนะของผู้ไล่ตาม กริดเข้าใจหัวอกยิ่งกว่าใคร ตัวเขาเคยไล่ตามครอเกลอย่างเอาเป็นเอาตายมาก่อน


ลงเอยด้วย กริดยื่นข้อเสนอ


“อยากแก้มือรึเปล่า? มาสู้กัน”


“อะไรนะ?”


โอกาสแก้มือกับกริดมาถึงโดยไม่คาดฝัน ฮูเร็นผงะไปชั่วครู่ เขาคิดว่าจะถูกขับไล่ออกจากอาณาจักรเสียอีก แต่กลับกลายเป็น กริดมอบโอกาสให้ตนแก้มือ


“…ไม่ดีกว่า ฉันคงสู้นายไม่ได้”


ฮูเร็นปฏิเสธโอกาสทองที่ตนรอคอยตลอดหลายปี


เพราะเหตุใด?


เขาอธิบาย


“นายรู้จักเฮสเตอร์รึเปล่า?”


“ไอ้บัดซบชักดาบเมื่อครู่สินะ? ไม่เลย ฉันเพิ่งเคยเห็นมันเป็นครั้งแรก”


“ถูกต้อง ฉันก็ไม่เคยได้ยินชื่อหมอนั่นมาก่อน แต่ผลลัพธ์การดวล ฉันกลับมิอาจเอาชนะได้แม้แต่บุคคลนิรนามไร้ชื่อเสียง”


เฮสเตอร์คือบุคคลที่ครอบครองพลังของเจ็ดนักบุญภัยพิบัติและฝีไม้ลายมือไม่ธรรมดา


ฮูเร็นรู้สึกด้อยค่า ไม่เพียงเท่านั้น ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาแทบไม่เคยดวลชนะชาวนาที่ชื่อบลันด์ได้เลยสักครั้ง


“ฉันยังอ่อนแอมาก ทั้งที่ทุ่มเทความพยายามอย่างหนักมาตลอด”


“…?”


“คนอ่อนแออย่างฉันคงมิอาจเอาชนะนายได้ เชื่อเถอะ”


“…”


“คงต้องละทิ้งการแก้มือไว้เพียงเท่านี้ ขอยอมรับความพ่ายแพ้ในอดีตอย่างเต็มใจ และอันที่จริง ฉันควรตระหนักให้เร็วกว่านี้ แต่กลับเพิ่งคิดได้หลังจากปล่อยให้เวลาล่วงเลยมานาน น่าสมเพชสิ้นดี คิดซะว่าเป็นความดื้อรั้นของตาแก่คนหนึ่งก็แล้วกัน”


“…”


กริดยังจำได้ดี ในสมัยนั้น ตัวเขาที่ครอบครองพลังโอเวอร์เกียร์ สวมชุดเกราะเซตเกรดเลเจนดารีที่มีพลังป้องกันสูงส่ง แต่ออร่าของฮูเร็นกลับเป็นภัยคุกคามจนน่าตกใจ และชายคนนี้ยังมีฝีมือควบคุมระดับเดียวกับเฮ่า


ในปัจจุบัน ฮูเร็นแข็งแกร่งขึ้นจากเดิมมาก ออร่าของเขาทรงพลังจนสมัยอดีตเทียบไม่ติด ในอนาคต ฮูเร็นต้องเป็นหนึ่งในแรงเกอร์หัวแถวของโลกได้แน่ บางทีอาจอยู่ในท็อปห้า แต่ถึงอย่างนั้น เขากลับมองว่าตัวเองด้อยค่าและความพยายามที่ผ่านมาสูญเปล่า?


‘ผิดแล้ว’


กริดไม่อยากให้คนฝีมือต้องสูญเสียกำลังใจ ตัวเขาชื่นชอบนิสัยของฮูเร็นไม่น้อย


กริดถามย้ำอีกครั้ง


“นายฝึกฝนตัวเองนานหลายปีเพื่อสู้กับฉัน แต่พอโอกาสมาถึง ทำได้ถึงรีบถอดใจนัก? นายต้องเสียใจไปตลอดชีวิตแน่ ต้องมีสักวันที่นายอยากย้อนเวลากลับมาในวันนี้และขอสู้กับฉันอย่างยุติธรรม”


“นายเป็นคนดีอย่างที่คิด”


สันจมูกที่เปี่ยมด้วยริ้วรอยของวัยชราเริ่มแดงระเรื่ออย่างซาบซึ้ง ฮูเร็นไม่ดื้อรั้น เขาน้อมรับความปรารถนาดีของกริดไว้อย่างเต็มใจ ไฟการต่อสู้ที่เคยดับมอดถูกกริดปลุกให้ลุกโชนอีกครั้ง


“ย่อมได้! มาสู้กัน! ฉันขอท้าดวล!”


“น่าจะคิดได้ตั้งนานแล้ว”


[ท่านบีบอัดออร่า]


[กรุณาจินตนาการรูปทรงออร่าให้เสร็จภายใน 2 วินาที หากมีข้อบกพร่องแม้เพียงเล็กน้อย ทักษะจะใช้งานล้มเหลว]


“ออร่าอัสนี!”


[ท่านจำลองสายฟ้าสำเร็จ!]


[ในฐานะที่จำลองพลังอันยิ่งใหญ่จากธรรมชาติ พลังออร่าของท่านจะถูกยกระดับ]


[ออร่าเกรดยูนีคของท่านมีขีดจำกัดในการแสดงผล]


สายฟ้าสีแดงกระหน่ำฟาดผ่าจากฟากฟ้าเป็นจำนวนมาก ทุกสิ่งเกิดขึ้นในพริบตา ไม่ใช่การโจมตีที่มนุษย์ทั่วไปจะหลบพ้น ต่อให้เป็นมนุษย์ที่มี ‘อ่านใจ’ ก็ตาม


[ท่านได้รับความเสียหาย 9,900 หน่วย]


[ท่านได้รับความเสียหาย 9,900 หน่วย]


[ท่านได้รับความเสียหาย 9,900 หน่วย]


[ท่านได้รับความเสียหาย 9,900 หน่วย]


[ท่านตกอยู่ในอาการช็อกไฟฟ้า]


[ท่านต้านทาน]


กริดเริ่มขนลุกซู่เมื่อสายฟ้าเส้นแล้วเส้นเล่ากระหน่ำผ่าใส่ร่างของตนด้วยความเร็วสูง ด้วยคุณสมบัติพิเศษของออร่า พลังป้องกันและค่าต้านทานทั้งหมดล้วนไร้ประโยชน์


‘ความเสียหายคงที่เกือบหมื่นหน่วย?’


เป็นท่าโจมตีที่ทรงพลังอย่างมาก ฮูเร็นคือแรงเกอร์ระดับท็อปอย่างแท้จริง กริดเริ่มเห็นเงาลางของตัวเองซ้อนทับ เป็นเงาลางของบุคคลที่พยายามอย่างหนักเพื่อไล่ตามเป้าหมายให้ทัน


“คลื่นทำลายล้างร่ายรำสังหาร”


การดวลจบลงเพียงเท่านี้


[ท่านได้รับความเสียหายรุนแรง]


[ผู้จะกลายเป็นตำนานย่อมไม่ตายโดยง่าย ท่านจะเข้าสู่ภาวะอมตะเป็นเวลา 2.5 วินาที ด้วยพลังชีวิตหนึ่งหน่วย]


“…ฮะฮะ”


เขาไม่ได้แพ้อย่างหมดรูปเช่นนี้มานานแค่ไหนแล้ว?


ฮูเร็นทรุดคุกเข่าลงด้วยสีหน้าขื่นขม ไหล่ห่อเหี่ยวไร้เรี่ยวแรง เหมือนกับเมื่อครั้งเหตุการณ์ ‘ห้าวินาที’ ที่โลกจารึกให้เป็นตำนาน


“บอกแล้ว…ฉันอ่อนแอ…”


“คราวนี้ตั้งยี่สิบกว่าวินาทีไม่ใช่รึไง?”


“ฮะฮะ…”


“อย่าลืมสิ นายเหน็ดเหนื่อยมาจากการสู้กับเฮสเตอร์”


“เฮ่อ…”


“…”


กริดรู้สึกผิดที่เอาชนะฮูเร็นอย่างราบคาบด้วยไม้ตายสุดโกง แต่เขาจำเป็นต้องทำ การเอาจริงคือการแสดงความเคารพคู่ต่อสู้ในรูปแบบหนึ่ง


ไม่รู้ว่าเป็นผลดีหรือร้ายกันแน่ ไหล่ฮูเร็นยังคงห่อเหี่ยวด้วยใบหน้าเจ็บแปลบ และนั่นทำให้กริดทนดูต่อไปไม่ได้ เขาตัดสินใจยื่นมือออกไปหาฮูเร็น


“ถ้าไม่มีที่ไป มาเข้าร่วมกิลด์โอเวอร์เกียร์ได้นะ ในฐานะสายลับ”


“สายลับ? แต่ฉันเป็นชาวนา”


“เอาจริงดิ…”


“ใช่ ฉันยังต้องเรียนรู้จากปิอาโร่อีกมากจนกว่าจะแข็งแกร่ง”


“แข็งแกร่งแค่ไหน…?”


“จนกว่าจะเลิกอ่อนแอ มันคงไม่มีประโยชน์หากฉันเอาชนะได้แค่มอนสเตอร์ เมื่อต่อสู้กับผู้เล่นด้วยกัน ฉันมีแต่แพ้กับแพ้ โดยเฉพาะกับนาย”


“อา จะเป็นอะไรช่างเถอะ ขอแค่นายเข้ากิลด์ก็พอแล้ว”


กริดไม่มีวันพลาดการคว้าตัวฮูเร็น เหล่าบุคคลพรสวรรค์คือสิ่งที่อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ต้องการเหนือสิ่งอื่นใด โดยเฉพาะตัวตนระดับสัตว์ประหลาดอย่างฮูเร็น


ทุกคนต้องตะลึงกับข่าวใหญ่ครั้งนี้แน่

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬

ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน

ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,309

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/


Comments

  1. ได้ฮูเร็นละ
    😁😄😁

    ReplyDelete
  2. ถามหน่อย โทบันหายไปไหน เพิ่งนึกออก เราพลาดตอนไหนไปไหม

    ReplyDelete
    Replies
    1. น่าจะเพราะไม่ค่อยมีบทเด่นอะไรคนแต่งเขาเลยไม่ได้ใส่มาด้วย จากที่อ่านไม่ตัวละครในเรื่องนี้น่าจะเกินครึ่งร้อยถ้าเอามาเขียนให้ครบทุกๆคนมันคงจะเป็นไปไม่ได้ ตัวอย่างเช่น ทูน ขนาดอยู่ด้วยกันกับกริตแท้ๆ ยังไม่ได้ออกเลย

      Delete
    2. โทบันแรกๆเด่นนะหลังๆด้อยไปเลย เหมือนจะเป็นพวกบริหารบ้านเมืองแทน เพราะมีค่า ปกครองหรืออะไรสักอย่าง ที่คุมคนงานเหมืองได้

      Delete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00