จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 919
[ท่านเข้าสู่เมืองแวมไพร์ลำดับเจ็ด]
[ทางเข้าดันเจี้ยนถูกปิดตาย ท่านขาดการติดต่อกับโลกภายนอก]
[บอสดันเจี้ยนสัมผัสถึงผู้บุกรุก]
[บอสดันเจี้ยนทราบถึงตัวตนของท่าน เขารีบระงับการปลดปล่อยพลังเวท]
[ทางเข้าดันเจี้ยนถูกเปิดออก ท่านติดต่อกับโลกภายนอกได้อีกครั้ง]
[บอสดันเจี้ยน โนลล์ ส่งเสียงคำรามกึกก้องไปทั่วเมืองแวมไพร์]
“มนุษย์ผู้นี้เป็นเจ้านายของฉัน!”
[แวมไพร์ภายในดันเจี้ยนกำลังทึ่ง]
[แวมไพร์ตนหนึ่งตั้งคำถาม มนุษย์ผู้นี้แข็งแกร่งกว่าชาวนาเสียสติคนนั้นอีกหรือ]
[บอสดันเจี้ยน โนลล์ เขกกะโหลกแวมไพร์ตนที่เอ่ยปากถาม]
“หุบปาก”
[แวมไพร์ในดันเจี้ยนต่างพากันหุบปาก]
[ท่านกลายเป็นเจ้าเมืองแวมไพร์ลำดับเจ็ด]
[นี่คือหนแรกที่ท่านกลับมาเยี่ยมชมหลังจากครอบครองดันเจี้ยนแห่งนี้]
[ข้อมูลดันเจี้ยนมีการเปลี่ยนแปลง]
[เมืองแวมไพร์ลำดับเจ็ด]
เกรด : S (ถูกลดระดับชั่วคราว)
บอส : โนลล์
รายการมอนสเตอร์ :
- สัตว์บริวาร
- แวมไพร์ระดับต่ำ
- แวมไพร์ระดับกลาง
- แวมไพร์เลือดบริสุทธิ์
ระยะเวลาเกิดใหม่ของมอนสเตอร์ : 1 ถึง 59 นาที
ปริมาณมอนสเตอร์ที่รองรับได้ : 10,890
ดันเจี้ยนที่ถูกยกระดับโดยฝีมือของบุคคลในตำนาน เมืองแวมไพร์ลำดับเจ็ดสามารถกลายเป็น ‘หมู่บ้าน’ ได้เพราะผลพวงจากพลังแห่งเกษตรกรรม
ความหิวกระหายของแวมไพร์ลดลงเนื่องจาก ‘มันฝรั่งโลหิต’ ที่ถูกปลูกขึ้น แวมไพร์ภายในเมืองมีความปรารถนาในตัวมนุษย์ลดลงจากอิทธิพลของบอส ‘โนลล์’ เมื่อใดที่ดันเจี้ยนถูกเปลี่ยนสภาพให้กลายเป็นหมู่บ้านโดยสมบูรณ์ มอนสเตอร์ทุกตัวที่มีชีวิต ณ ขณะนั้นจะถูกเปลี่ยนให้เป็น NPC แสนสำคัญของท่าน
* เหลือเวลาอีก 159 วันก่อนจะกลายเป็นหมู่บ้าน
* จงภาวนาให้มีจำนวนมอนสเตอร์มากที่สุดในวินาทีที่หมู่บ้านถือกำเนิด
* ประเภทของมอนสเตอร์ในดันเจี้ยนจะหลากหลายหากมีการเปลี่ยนแปลงบอสใหญ่
“ลมอะไรพัดเจ้ามาที่นี่”
เด็กหนุ่มรูปงามผู้หนึ่งย่างกรายเข้าใกล้กริด ความสง่างามของเขามิอาจถูกบรรยายได้ด้วยถ้อยคำที่มนุษย์มี บุรุษผู้นี้คือแวมไพร์เอิร์ล โนลล์ แวมไพร์ที่ถือกำเนิดจากเลือดเนื้อเชื้อไขของเบริอาเช่โดยตรง ปัจจุบันกำลังรับใช้กริดเพราะผลของสมญานาม ‘ดยุคแห่งคุณธรรมของแพงเจีย’
ชื่อ : โนลล์
อายุ : 221
เพศ : ชาย
เผ่าพันธุ์ : แวมไพร์ทายาท
สมญานาม : บุตรลำดับสี่แห่งเบริอาเช่
* สืบทอดคุณสมบัติ ‘ความห่วงใย’ จากเบริอาเช่
* สามารถใช้เวทโลหิตเพื่อสร้างผลลัพธ์ด้านบวกแก่พวกพ้อง
สมญานาม : แวมไพร์ผู้เอาชนะคำสาปเกียจคร้าน
* ปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะมีชีวิต หากพลังชีวิตลดต่ำลงเกินกว่า 10% โนลล์จะตกอยู่ในภาวะ ‘ขี้ขลาด’ โนลล์จะทำทุกสิ่งเพื่อให้มีชีวิตรอดโดยไม่สนผลกระทบที่ตามมา
* ปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะท่องไปทั่วโลก โนลล์ต้องการเรียนรู้โลกกว้าง
สมญานาม : ผู้ล่า
* เมื่อหิวโหย พลังที่แท้จริงจะถูกสำแดง ยิ่งหิวกระหายมากก็ยิ่งแข็งแกร่ง
ระดับความหิว : 4/10
เลเวล : 433
พละกำลัง : 3,621 (▼)
ความอดทน : 2,567 (▼)
ความว่องไว : 2,310 (▼)
สติปัญญา : 3,580 (▼)
รายการทักษะ :
- ทำฟาร์มเลือด (A)
- พลังสะกดข่มของทายาท (SS)
- กลืนโลหิต (S)
- โอนถ่ายโลหิต (SS)
- เวทมนตร์โลหิต (S+)
- คลุ้มคลั่ง (SSS)
บุตรชายที่เบริอาเช่รักมากเป็นพิเศษ เบริอาเช่มีความสุขที่คุณสมบัติ ‘ความห่วงใย’ ของตนถูกท่ายทอดไปยังโนลล์ เธอหวังให้โนลล์เติบโตขึ้นเพื่อคอยช่วยเหลือและสนับสนุนเหล่าพี่น้อง
แต่กระนั้น พี่น้องของโนลล์กลับจากโลกไปก่อนวัยอันควรเกือบทั้งหมด โนลล์จึงมองว่ากริด ผู้ปลดปล่อยคำสาปเกียจคร้านของตน คือบุคคลที่มาทดแทนในตำแหน่งพี่น้องที่ขาดไป
[คลุ้มคลั่ง]
ระยะหน่วงของเวทมนตร์ทั้งหมดกลายเป็น 3 วินาที แต่จะสิ้นเปลืองมานาเพิ่มเป็นสองเท่า
โนลล์คือแวมไพร์รูปแบบพิเศษที่กริดไม่เคยพบมาก่อน อาจพิเศษยิ่งกว่าพี่ชายของเขา บราฮัม·เบริอาเช่ (เฮชวาล) ด้วยซ้ำ โนลล์สามารถฟื้นฟูพลังชีวิตและเสริมแกร่งให้เพื่อนร่วมทีมได้ แถมยังมีทักษะโจมตีหมู่เป็นวงกว้าง โนลล์แข็งแกร่งในศึกที่ต้องรบเป็นกลุ่มใหญ่มากกว่าการดวลเดี่ยว เขาแตกต่างจากแวมไพร์ทายาทพี่น้องที่มักออกล่ามนุษย์ตามลำพัง ในบางครั้ง ความแตกต่างก็ถือเป็นข้อดีอย่างใหญ่หลวง กริดชื่นชอบโนลล์มาก เขาไม่เคยเคลือบแคลงว่า โนลล์คือหนึ่งในกำลังสำคัญของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ในอนาคต
‘คุณสมบัติยอดเยี่ยมมาก’
กริดอดอมยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นทักษะทำฟาร์มเลือดที่ก่อนหน้านี้ไม่ปรากฏ ชายหนุ่มเอ่ยปากถาม
“ทั้งที่พวกเราไม่ได้พบกันตั้งนาน ทำไมถึงทำตัวเย็นชากับฉันนัก”
“ก็เพราะนายไม่ยอมโผล่หัวมาเลยสักครั้งนั่นแหละ! นายรู้รึเปล่าว่าฉันต้องอับอายมากเพียงใดตลอดสองปีที่ผ่านมา!”
ถ้อยคำของโนลล์ไม่มีสิ่งใดผิด ในตอนที่พบกันครั้งแรก โนลล์มีอายุ 219 ปี แต่ปัจจุบัน อายุของโนลล์กลายเป็น 221 ปีแล้ว กระนั้น แวมไพร์ตนนี้ยังมีรูปลักษณ์ของเด็กชายวัยเพียงสิบสาม แถมมีความทระนงของแวมไพร์ทายาทอย่างเต็มเปี่ยม ในโลกของแวมไพร์ โนลล์ถือว่ายังเยาว์วัยมากทีเดียว
“นายไม่คิดมาเยี่ยมฉันเลยสักครั้ง…”
“…”
“ฉันยอมละทิ้งศักดิ์ศรีเพื่อรับใช้มนุษย์ นายควรพบฉันให้บ่อยกว่านี้!”
“…”
“ฉันสาบานว่าจะรับใช้นาย ไม่ใช่เจ้าชาวนาเสียสตินั่น! แล้วทำไมกัน ทำไมนายถึงปล่อยให้เจ้าบ้านั่น…”
“ฉันขอโทษ”
กริดลูบศีรษะโนลล์อย่างทะนุถนอม
‘ปิอาโร่ไม่ใช่คนเลว ได้โปรดอย่าเกลียดชังเขา ปิอาโร่ยอมสละเวลาสอนแวมไพร์ทำฟาร์มก็เพื่อให้พวกเราอยู่ในโลกเดียวกันได้’
กริดมิได้กล่าวสิ่งเหล่านี้ออกไป มันคือความจริงที่โนลล์ก็ทราบอยู่เต็มอก เขาเพียงอยากให้ ‘พี่ชาย’ คอยปกป้องอย่างใกล้ชิด นี่คือวิธีการเรียกร้องความสนใจจากพี่ชายประเภทหนึ่ง
“…นิสัยไม่ดี”
โนลล์เลิกตะเบ็งเสียง ใบหน้าของเขาเริ่มแดงก่ำเมื่อหวนนึกฝ่ามือแสนอบอุ่นของมารดา ฝ่ามือของเบริอาเช่ทั้งอ่อนโยน ใจดี และนุ่มนวล เบริอาเช่มักส่งโนลล์เข้านอนในโลงไม้จนกระทั่งเขาหลับไป ฝ่ามือของกริดอบอุ่นคนละแบบกับมารดาก็จริง แต่ก็ถือว่าไม่เลวนัก
***
“อะไรนะ! นายพูดเรื่องเหลวไหลอะไรออกมา…”
ปราสาทหลังนี้มีโลงศพจำนวนหลายร้อยเป็นเครื่องตกแต่ง โนลล์นั่งลงบนโต๊ะยาวโดยมีกริดนั่งอยู่อีกฟากฝั่ง ของเหลวสีแดงสดไหลซึมจากปากโนลล์ในยามที่เขากัดมันฝรั่ง ไม่ว่าจะทานมากเพียงใด มันก็เป็นเพียงเลือดปลอม อาหารปลอม แต่อย่างน้อย สำหรับแวมไพร์ทุกตนในเมืองลำดับเจ็ด มันฝรั่งโลหิตถือเป็นอาหารที่ช่วยดับความกระหายได้ชะงักงัน
“นายเสียสติไปแล้วรึไง”
ใบหน้าโนลล์เริ่มบิดเบี้ยวขณะใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเลือดมุมปาก
“ฉันเป็นแวมไพร์ แวมไพร์ทายาท! สิ่งมีชีวิตที่สมบูรณ์ที่สุดแบบของโลกนี้ อย่านำมาตรฐานของมนุษย์มาใช้กับฉัน! รู้อย่างนี้แล้ว ทำไมนายถึงยัง…”
“สิ่งมีชีวิตสุดสมบูรณ์แบบที่เอาแต่นอนทั้งวันน่ะหรือ”
“…ก็จริงอยู่ที่คำสาปเกียจคร้านคอยพันธนาการแวมไพร์ไว้ แต่ฉันหลุดพ้นจากมันแล้ว ในสักวัน ฉันจะทำลายพวกจอมอสูรและเทพยาธานที่บังอาจลบหลู่ท่านแม่!”
โนลล์กำลังเดือดดาล
“ฉันสมบูรณ์แบบในทุกด้าน นายอยากให้ฉันกลายเป็นตัวตลกด้วยเครื่องไม้เครื่องมืออ่อนหัดของมนุษย์รึไง”
กริดกล่าวว่า เขาจะสร้างอาวุธและชุดเกราะให้โนลล์ แวมไพร์ตัวจิ๋วจึงออกอาการเดือดดาลราวกับถูกหมิ่นเกียรติ อุปกรณ์คือสิ่งที่มนุษย์พึ่งพาเพื่อชดเชยความอ่อนแอ นี่คือความคิดของโนลล์มาตลอด และเป็นสาเหตุที่แวมไพร์ส่วนใหญ่ไม่ค่อยสวมใส่ไอเท็ม บางตนอาจสวมเกราะไหล่หรือดาบ แต่นั่นเป็นเพียงเครื่องประดับและความบันเทิงส่วนตัว พวกมันมองว่าเผ่าพันธุ์ของตนคือนักล่าสมบูรณ์แบบที่มีพลังทางกายภาพและเวทมนตร์สูงส่งกว่ามนุษย์
แต่กริดไม่เห็นด้วย
“เครื่องมืออ่อนหัดงั้นหรือ หืม… นี่คือคำพูดจากปากของคนที่เกือบตายเพราะเครื่องมืออ่อนหัดงั้นหรือ”
“…!”
โนลล์พลันชะงัก เขาเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า ตนเกือบตายโดยดาบของกริดและอุปกรณ์ทำฟาร์มของชาวนาเสียสติ
“น…นั่นมันก็”
โนลล์พยายามหาเหตุผลมาเถียง ใบหน้าของเขาเริ่มแดงก่ำ แวมไพร์จิ๋วตนนี้เริ่มตระหนักได้ว่า ตนไม่ใช่นักล่าที่สมบูรณ์แบบ และเครื่องมือของมนุษย์มิใช่สิ่งอ่อนหัด
“ถ้าในตอนนั้นนายสวมเกราะชั้นเลิศ นายคิดว่าคราดเล็กของปิอาโร่ ดาบของฉัน และศรของจิสึกะจะทะลวงผ่านร่างได้รึไง”
“…”
“การเป็นบุคคลโอเวอร์เกียร์นั้นสำคัญมาก มันคือพื้นฐานของทุกความแข็งแกร่งบนโลกใบนี้ มิใช่สำหรับผู้อ่อนแอเพียงอย่างเดียว”
“…”
“โนลล์ อย่าดื้ออีกเลย ยุคสมัยที่แวมไพร์พึ่งพาแค่พละกำลังและเวทมนตร์จบลงแล้ว นายชอบเกราะหนักหรือเกราะเบามากกว่ากัน ชุดเกราะแบบไหนที่นายอยากสวม ลองคิดดูให้ดีแล้วตอบฉันมา”
ตำนานในอดีตล้วนหลับใหลไปตั้งแต่สองร้อยปีก่อน ณ ปัจจุบัน โลกเริ่มให้กำเนิดตำนานยุคสมัยใหม่ ส่งผลให้บุคคลบางกลุ่มเริ่มอ่อนแอลง—บุคคลที่เคยครองบัลลังก์อย่างยาวนานในช่วงที่โลกปราศจากตำนาน
ถ้อยคำข้างต้นใช้อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างกริดและโนลล์ได้เป็นอย่างดี ลงเอยด้วย โนลล์เลิกดื้อและยอมรับความจริงตรงหน้า
“…ฉันอยากสวมเกราะแบบเดียวกับนาย… อ๊ะ! ไม่ใช่เพราะอยากเหมือนนายหรืออะไรแบบนั้นหรอกนะ”
“เข้าใจแล้ว ส่วนอุปกรณ์สวมใส่ที่มือ… เอาเป็นโล่ก็แล้วกัน”
กริดกล่าวด้วยน้ำเสียงอบอุ่นและห่วงใย ปัจจุบัน เขากำลังเกิดความรู้สึกที่ซับซ้อน เพราะเหนือสิ่งอื่นใด ตนคือผู้ที่สังหารพี่น้องของโนลล์คนแล้วคนเล่า กระนั้น ความสัมพันธ์ในครอบครัวระหว่างมนุษย์และแวมไพร์ไม่เหมือนกัน โนลล์มิได้โกรธแค้นกริดในเรื่องนี้ ทว่า ความผิดชอบชั่วดีในใจกริดทำให้เขารู้สึกหดหู่
“ฉันจะสร้างเกราะที่ดีที่สุดให้นาย”
“ฮึ! อยากจะทำอะไรก็เชิญ”
การเตรียมการแรกเริ่มต้นขึ้น กริดจะสร้างโรงเหล็กขนาดย่อมขึ้นภายในเมืองแวมไพร์ลำดับเจ็ดเพื่อผลิตไอเท็มให้โนลล์โดยเฉพาะ โดยหลังจากนี้ โนลล์ที่ ‘โอเวอร์เกียร์’ จะถูก SA กรุปคัดลอกข้อมูลและกลายเป็นหนึ่งในสี่ราชันสวรรค์สุดแกร่ง
***
“พระเอกคือบุคคลที่ได้รับกำลังใจอย่างล้นหลามอยู่เสมอ”
พระเอกจะได้รับแรงสนับสนุนจากผู้ชมและนักอ่านทั่วโลก
“ตราบใดที่ผู้คนจำนวนมากคอยสนับสนุนพระเอก พระเอกจะมีชะตากรรมที่ต้องแข็งแกร่งขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้”
แต่แน่นอนว่า นี่ไม่ใช่หลักสากล ในบางครั้ง พระเอกสามารถอ่อนแอกว่าใครทั้งหมด
ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น…
“พระเอกจำเป็นต้องผ่านบททดสอบที่ยากลำบาก นี่คืออุปสรรคที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้ บททดสอบจะหล่อหลอมให้พระเอกกลายเป็นพระเอกที่สมบูรณ์แบบ”
ณ ตึกสำนักงาน SA กรุปสาขานิวยอร์ก บุรุษผู้หนึ่งกำลังเข้าร่วมการแข่ง ‘รอบคัดเลือก’ เพื่อเฟ้นหาตัวแทนนักกีฬาทีมชาติสหรัฐ มันกำลังกล่าวกับผู้เข้าแข่งคนอื่นด้วยสีหน้าแสนภาคภูมิใจ ชื่อเหนือศีรษะของมันคือซีบาล
“และในที่สุด ฉันก็ฝ่าฟันความทุกข์ทรมานในบททดสอบสุดท้ายสำเร็จ…”
มันเคยเป็นแรงเกอร์ที่แข็งแกร่งของทีมชาติสหรัฐ แต่กลับต้องโดนตราหน้าด้วยฉายา ‘กระสอบทราย’ หลังจากถูกครอเกลและกริดบดขยี้หนแล้วหนเล่า ในวินาทีนี้ ซีบาลส่งเสียงประกาศกร้าวอย่างกึกก้อง
“ฉันคือพระเอก!”
ราวกับมันร่วงหล่นจากสวรรค์ลงสู่ขุมนรก ซีบาลตัดสินใจเลือกเส้นทางอันโหดร้ายประหนึ่งพระสงฆ์บำเพ็ญทุกรกิริยาเพื่อให้ตัวเองได้กลับมาเกิดใหม่อีกครั้งอย่างสง่างาม มันอดทนต่อคำเย้ยหยันนานาชนิดจากคนรอบข้าง อดทนต่อความเจ็บปวดและยากลำบากเพื่อมิให้ใครดูแคลนมันได้อีก ปัจจุบัน แม้ผู้สมัครคนอื่นจะยังไม่เห็นพลังที่แท้จริงของซีบาล แต่พวกเขาก็นับถือในจิตใจนักสู้ที่ไม่ย่อท้อ
ทว่า บุคคลหนึ่งปรากฏตัวและแย่งความโดดเด่นไปจากซีบาล
“ฉันต่างหากที่จะเป็นพระเอก”
มันคือเฮสเตอร์ การปรากฏตัวที่คาดไม่ถึงได้สร้างความตกตะลึงแก่แรงเกอร์ทุกคน
“หลบไปซีบาล เวทีนี้เป็นของฉัน”
เฮสเตอร์ไม่แปลกใจเลยสักนิดที่มันยังด้อยกว่ากริด แต่การดวลระหว่างฮูเร็นกลับ…
ตนคือบุคคลที่เอาชนะครอเกลได้ง่ายดาย เฮสเตอร์จำเป็นต้องค้นหาจุดบกพร่องของมันและรีบแก้ไข ทันใดนั้น เสียงหนึ่งตะโกนขึ้นเพื่อขัดคอ
“เฮสเตอร์งั้นหรือ นายเป็นนักกอล์ฟอาชีพใช่ไหม”
“เกมเมอร์อาชีพ!!”
เป็นเสียงเย้ยหยันจาก ‘กระสอบทราย’ ซีบาล
[การทดสอบฝีมือเพื่อคัดหาตัวแทนทีมสหรัฐกำลังจะเริ่มขึ้น ขอให้ผู้เล่นทุกคนเตรียมตัว]
ไม่เหมือนกับชาติอื่น ชาติมหาอำนาจอย่างสหรัฐอุดมด้วยสัตว์ประหลาด ทุกคนจึงต้องแก่งแย่งชิงดีเพื่อคว้าโควตานักกีฬาที่มีเพียงน้อยนิด เหล่าผู้เล่นฝีมือฉกาจหลายร้อยคน รวมถึงซีบาลและเฮสเตอร์ พวกเขาต่างต้องลงแข่งในรอบคัดเลือกอย่างเท่าเทียม
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,312
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
This comment has been removed by the author.
ReplyDeleteโนลล์น่าร้ากกกก
ReplyDeleteซึนเหมือนคนพี่(บราฮัม)ไม่มีผิด