จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 921



    ‘ผลลัพธ์ออกมาดีกว่าที่คิด’


    กริดมีทักษะที่ชื่อว่า ‘เสริมแกร่งโลหะ’ ตามชื่อของมัน ทักษะชนิดนี้สามารถเสริมประสิทธิภาพให้กับโลหะหรือแร่ได้ทุกชนิด เป็นทักษะที่ดีมากหากอ่านเพียงคำอธิบาย แต่ในความเป็นจริง ประโยชน์ใช้สอยมิได้มากมายขนาดนั้น


    ปริมาณโลหะที่สามารถนำไปใส่ใน ‘เตาเสริมแกร่ง’ ถูกจำกัดไว้เพียง 30 กรัมเท่านั้น การเสริมแกร่งแต่ละครั้งจะกินเวลานาน 30 วันเต็ม ตลอดเจ็ดปีที่ผ่านมา กริดหมั่นเสริมแกร่งโอริชาลคั่มสีน้ำเงินอย่างสม่ำเสมอ แต่ถึงอย่างนั้น ปริมาณโอริชาลคั่มที่ถูกเสริมแกร่งกลับมีเพียง 2.5 กิโลกรัม ซึ่งนับว่าน้อยมากหากจะนำมาสร้างเป็นไอเท็มสักชิ้น ตัวอย่างเช่นดาบยาว กริดต้องการโอริชาลคั่มสีน้ำเงินราวสี่กิโลกรัมเพื่อสร้างดาบยาวหนึ่งเล่ม ในทางปฏิบัติแล้ว ทักษะเสริมแกร่งโลหะเป็นพลังที่ไม่เกิดประโยชน์มากนัก


    เรื่องราวข้างต้นเกิดขึ้นก่อนที่กริดจะได้พบเทพเฮ็กเซเทีย


[เสริมแกร่งโลหะในตำนาน]


    ทำการเสริมแกร่งประสิทธิภาพและความคงทนของโลหะโดยการนำไปใส่ในเตาเสริมแกร่ง


    ปริมาณโลหะที่สามารถใส่ในเตาหลอม : 1 กิโลกรัม


    ระยะเวลาการเสริมแกร่ง : 3 วัน


    ‘เหตุการณ์พิเศษ’ ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากกริดสร้างไอเท็มเกรดมิธครบหกชิ้นขณะแข่งตีเหล็กกับเทพเฮ็กเซเทีย คือการยกระดับทักษะเสริมแกร่งโลหะให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น


    ในตอนต้น กริดมิได้คาดหวังกับมักมากนัก เพราะทักษะเสริมแกร่งโลหะคือสิ่ง ‘ไร้ประโยชน์’ ในสามัญสำนึกของกริดมาตลอดเจ็ดปี การยกระดับของมันจึงไม่ก่อให้เกิดความตื่นเต้นสักเท่าใด ทว่า ความคิดเหล่านี้พลันต้องเปลี่ยนไปเมื่อเขานำโลหะที่ถูกเสริมแกร่งมาใช้สร้างชุดเกราะให้โนลล์


    ‘หลังจากถูกเสริมแกร่ง โอริชาลคั่มสีน้ำเงินและเหล็กนิลมีประสิทธิภาพสูงกว่าที่เราคิดไว้’


    เหล็กนิลคือหนึ่งในโลหะดาษดื่นของโลกมนุษย์ แม้จะมีความต้องการสูง แต่สิ่งนี้สามารถหาซื้อได้ด้วยเงินตรา กลับกัน โอริชาลคั่มสีน้ำเงินนั้นแสนหายาก ต้องดรอปจากผู้พิทักษ์พงไพรแห่งหมู่บ้านไบรันเท่านั้น ประสิทธิภาพของโอริชาลคั่มสีน้ำเงินจึงสูงกว่าเหล็กนิลมาก นี่คือครั้งแรกที่กริดเสริมแกร่งมันสำเร็จในปริมาณมากพอจะสร้างเป็นไอเท็มสักชิ้น


[วัลฮัลล่าแห่งความเชื่อมั่นอันแรงกล้า]

เกรด : มิธ

ความคงทน : 1,745/1,745

พลังป้องกัน : 1,322

* การฟื้นฟูพลังชีวิตเพิ่มขึ้น 30%

* ความเสียหายจากกายภาพและเวทมนตร์ลดลง 20%

* เพิ่มพลังป้องกันเมื่อศัตรูมีจำนวนมาก

(100 หน่วยต่อศัตรู 5 เป้าหมาย)

* เพิ่มพลังป้องกันและค่าต้านทานเวทมนตร์ในที่มืด

* ได้รับทักษะติดตัว ‘ปราการปักหลัก’

ชุดเกราะที่กริด ช่างตีเหล็กในตำนานผู้อาจหาญท้าทายเทพ สร้างขึ้นโดยมีผลงานของข่านเป็นต้นแบบ

โครงหลักทำจากเหล็กนิล ส่วนเกราะไหล่ อก และเอว ถูกเน้นด้วยโอริชาลคั่มสีน้ำเงินเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกัน

ผู้สวมชุดเกราะตัวนี้จะเจิดจรัสในที่มืด และจะกลายเป็นเทพบนสนามรบที่ถูกกล่าวขานไปถึงชนรุ่นหลัง

น้ำหนัก : 4,770

เงื่อนไขสวมใส่ :

- เลเวล 400 หรือสูงกว่า

- ค่าพละกำลัง 3,200 หรือสูงกว่า

- ค่าความอดทน 2,200 หรือสูงกว่า


    ‘ไม่เหมือนกับชุดเกราะวัลฮัลล่าของข่านที่อัดแน่นไปด้วยอารมณ์และความรู้สึกของผู้สร้าง แต่ถึงอย่างนั้น ชุดเกราะวัลฮัลล่าของเรากลับถูกระบุว่าเป็นเกรดมิธ หมายความว่า โลหะที่ถูกส่งแกร่งทั้งสองคือปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มพลังป้องกันและค่าความทนทาน’


    มันส่องสะท้อนเจตจำนงของผู้สร้างอย่างชัดเจน


    กริดอาศัยคุณลักษณะพิเศษของโอริชาลคั่ม ‘แข็งแกร่งในที่มืด’ เพื่อเสริมจุดเด่นของแวมไพร์ผู้ปกครองยามราตรี ไม่เพียงเท่านั้น เขายังหยิบยืมออปชันบางส่วนจากวัลฮัลล่าแห่งห้วงอาทรชั่วนิรันดร์ของข่านมาใช้งาน เพื่อให้โนลล์สามารถฟื้นฟูพลังชีวิตได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และกริดยังไม่ลืมว่าโนลล์จะยิ่งแข็งแกร่งเมื่อสู้เป็นกลุ่มใหญ่ จึงนำออปชันของดาอินสเลฟ (จำลอง) มาใส่ในชุดเกราะตัวนี้ ส่งผลให้ค่าพลังป้องกันเพิ่มขึ้นตามจำนวนศัตรู สรุปโดยสั้นคือ มันเป็นชุดเกราะที่แข็งแกร่งในที่มืด เพิ่มประสิทธิภาพเวทฮีลให้โนลล์ และถึกทนเมื่อเผชิญหน้าศัตรูจำนวนมาก


    ผลงานใหม่แกะกล่องได้มอบสัจธรรมแก่กริดหนึ่งข้อ


    ‘การครอบครองสูตรผลิตจำนวนมาก จะช่วยให้เราพบวิธีนำออปชันมาใช้กับไอเท็มชนิดอื่น’


    สิ่งนี้หมายความว่า เหล่าสมาชิกกิลด์โอเวอร์เกียร์ล้วนมีความสำคัญต่อกริดมาก พวกเขาจะคอยนำสูตรผลิตไอเท็มชนิดใหม่มามอบให้กริดอยู่เสมอ


    ‘ใช่แล้ว เรามีสมาธิกับการสร้างไอเท็มได้เพราะพวกพ้อง ไม่เหมือนกับช่างตีเหล็กคนอื่นที่ต้องเสียเวลาค้นหาสูตรผลิตด้วยตัวเอง แถมเรายังครอบครองพวกมันโดยไม่ต้องมีค่าใช้จ่าย’


    แน่นอนว่า นี่ไม่ใช่ผลประโยชน์เพียงฝ่ายเดียว กริดก็คอยสร้างไอเท็มตอบแทนทุกคนเช่นกัน สิ่งที่พวกเขาได้รับกลับคืนไปไม่ด้อยไปกว่าที่ทุกคนมอบให้กริด


    ขณะเดียวกัน โนลล์กำลังลิงโลด


    “กริด! ดูเกราะของฉันสิ! มันกำลังส่องแสงล่ะ! ฮ่าฮ่าฮ่า!”


    “อา เข้ากับนายมาก”


[ค่าความสัมพันธ์กับ ‘โนลล์’ เพิ่มขึ้น 20 หน่วย]


    วัลฮัลล่าแห่งความเชื่อมั่นอันแรงกล้า—มันคือไอเท็มที่มีมูลค่านับพันล้านวอน ไม่สิ บางทีอาจถึงหมื่นล้านวอนหากนำไปประมูล ทว่า ณ ปัจจุบัน กริดมิได้ถูกขับเคลื่อนด้วยเงินทองอีกแล้ว เขาต้องการเห็นพวกพ้องมีความสุขที่ได้ขยับเข้าใกล้ ‘ความโอเวอร์เกียร์’ ไปทีละนิด จากประสบการณ์ของกริด พวกพ้องที่แข็งแกร่งจะส่งผลในระยะยาวได้มากกว่า


    ‘ขอโทษที่โล่ของนายออกมาเป็นเกรดยูนีค แต่ว่า…’


    การหวังให้โล่ออกมาเป็นเลเจนดารีคงเพ้อฝันเกินไปสักหน่อย หากต้องการเช่นนั้นจริง กริดต้องหมกตัวอยู่ที่อีกนานนับเดือน ซึ่งชายหนุ่มไม่มีเวลาว่างมากขนาดนั้น


    “ฉันไปก่อนนะ”


    กริดเก็บเครื่องไม้เครื่องมือที่วางระเกะระกะบนพื้นพร้อมกับลุกขึ้นยืน สีหน้าของโนลล์พลันดำมืดขณะกระโดดโลดเต้นไปมาโดยถือโล่สามเหลี่ยมไว้ในมือ


    “นายจะไปแล้วหรือ”


    “ฉันใช้เวลาสร้างโล่สามวัน และสร้างชุดเกราะอีกสามวัน ฉันอยู่ที่นี่นานเกือบสัปดาห์แล้ว ถึงเวลาต้องกลับเมืองหลวงบ้าง”


    “แต่ฉันอยู่ที่นี่มานานว่าสองร้อยปี…”


    “หือ”


    “สัปดาห์เดียว… สั้นเกินไป”


    “…”


    โนลล์ใช้ฝ่ามืออันเรียวเล็กคว้าข้อมือกริดไว้ด้วยสีหน้าอ้อนวอน ชายหนุ่มเองก็รู้สึกผิดที่ต้องทิ้งให้เด็กชายอยู่ภายในดันเจี้ยนอันมืดมิดตามลำพัง ทว่า เขาต้องตัดสินใจด้วยเหตุและผล กริดยังเหลืออัสโมเฟล เมอร์เซเดส และปิอาโร่ให้ตรวจสอบ


    “โนลล์ ปกป้องเมืองนี้ให้ดีนะ”


    “ทำไมกัน เพราะฟาร์มมันฝรั่งงั้นหรือ ฉันต้องขยายฟาร์มไปอีกไกลแค่ไหน”


    “ฉันเองก็ระบุชัดเจนไม่ได้ แต่ช่วยทำฟาร์มอย่างต่อเนื่องไปอีก 153 วัน เมื่อฟาร์มมีขนาดใหญ่ถึงจุดหนึ่ง เมืองแห่งนี้จะกลายเป็นดินแดนของฉันทันที”


    “153 วันงั้นหรือ ฉันต้องเคี้ยวมันฝรั่งบัดซบนี่อีกตั้ง 153 วันเชียว…”


    “ไหนบอกว่าอยู่มาสองร้อยปีแล้ว สัปดาห์เดียวแสนสั้นมิใช่หรือ ดังนั้น 153 วันคงผ่านไปอย่างรวดเร็วแน่”


    “หนึ่งสัปดาห์กับ 153 วันไม่เหมือนกัน! ว่าแต่… เมื่อครบ 153 วัน ฉันจะติดตามนายได้ตลอดไปใช่ไหม”


    โนลล์เลิกงอแง เขาเอ่ยปากถามด้วยสีหน้าคาดหวัง โนลล์ต้องการอยู่เคียงข้างกริดมาก และแน่นอน กริดก็เช่นกัน เขาย่อมต้องการ NPC สุดแกร่งที่ตายยากและสามารถใช้เวทฮีลได้ตลอดเวลา ยิ่งไปกว่านั้น ลอร์ดคงมีความสุขหากเด็กในวัยเดียวกันคอยอยู่เป็นเพื่อนเล่น…


    แต่ปัญหายังไม่หมด


    “น่าเสียดาย แต่นายคือบุคคลเดียวที่สามารถปกครองเมืองนี้ พวกพ้องและบริวารของฉันล้วนเป็นมนุษย์ เขาเหล่านั้นมิอาจอาศัยในเมืองใต้ดินได้เป็นเวลานาน แม้กระทั่งฉันที่อาศัยอยู่เพียงสัปดาห์เดียวยังเริ่มรู้สึกอึดอัด”


    “หมายความว่ายังไง ฉันต้องอยู่ที่นี่ไปจนตายงั้นหรือ”


    “ตอนนี้ยังไม่มีทางแก้ แต่ถึงจะมีทางออกในสักวัน แวมไพร์อย่างนายสามารถสัมผัสแสงแดดได้รึไง”


    “เฮ่อะ! สุดยอดกายาของฉันถือกำเนิดจากเลือดอันบริสุทธิ์ของท่านแม่ แสงตะวันอาจเป็นปัญหาบ้างก็จริง แต่ว่า… เดี๋ยวก่อน! จะเกิดอะไรขึ้นถ้าฉันหาคนมาบริหารเมืองนี้แทน”


    “ใครกัน”


    “แวมไพร์เลือดบริสุทธิ์”


    “นั่นก็อาจจะได้ แต่ว่า… แวมไพร์ตนอื่นนอกจากนายต้องนอนไม่ใช่รึไง ขอบอกไว้ก่อน เจ้าเมืองที่เอาแต่นอนทั้งวันไม่มีทางเป็นเจ้าเมืองที่ดีได้”


    เจ้าเมืองทุกคนมีหน้าที่คอยบริหารจัดการเมือง ผู้ที่จะทำหน้าที่นี้ต้องมีทักษะบริหารจัดการขั้นพื้นฐาน รวมถึงการเรียกเก็บภาษี เจ้าเมืองสมองทึบหรือไม่มีปัญญามากพอจะส่งผลให้เมืองก้าวถอยหลังมากกว่าพัฒนา ปัจจัยข้างต้นคือสาเหตุที่ลอเอลมองหาบุคคลอัจฉริยะอยู่เสมอ


    โนลล์แสดงสีหน้าฉุนเฉียว


    “ไอ้ระยำยาธาน…”


    โนลล์เกลียดชังคำสาปเกียจคร้านจนถึงขั้นสบถหยาบคาย แต่อีกฝ่ายเป็นถึงเทพ การด่าเทพอาจส่งผลในด้านลบต่อตัวโนลล์ได้ ทว่า กริดที่ได้ยินถ้อยคำสบถกลับแสดงสีหน้าพึงพอใจ เขารู้สึกดีมากที่โนลล์มีมุมต่ำทรามเหมือนกับตนทุกประการ


    “ไปก่อนนะ ช่วยดูแลเมืองนี้อีก 153 วัน ฉันอยากรับคนของนายเป็นพลเมืองอาณาจักรเต็มทีแล้ว”


    ดันเจี้ยนเมืองแวมไพร์คือจุดเก็บเลเวลชั้นเลิศที่ไม่ได้ยอดเยี่ยมแค่ค่าประสบการณ์ สถานที่แห่งนี้ยังดรอปแหวนแวมไพร์และโอสถแสนล้ำค่า ถึงจะกล่าวว่าอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ผูกขาดไว้แต่เพียงผู้เดียว แต่การผูกขาดก็ไม่สมบูรณ์แบบนัก กลุ่มทหารที่เฝ้ายามมักถูกลอบทำร้ายในบางครั้ง มีใครหลายคนต้องการฝ่าด่านป้องกันเพื่อเข้าไปหาผลประโยชน์ด้านใน หนึ่งในนั้นคือฝ่ายที่คิดร้ายต่อกริด


    “เฮ่อะ! มนุษย์คนเดียวที่ย่างกรายในดินแดนของฉันได้ก็คือนาย”


    “ได้ยินแบบนี้ค่อยเบาใจ”


    กริดฉีกยิ้มพลางโบกมือลา


    โนลล์เฝ้ามองแผ่นหลังกริดที่เดินจากไปพร้อมกันพึมพำ


    “ชุดเกราะและโล่… ขอบคุณนะ”


    นับตั้งแต่ลืมตาดูโลก นี่คือครั้งแรกอย่างแท้จริงที่เขาได้รับของขวัญจากใครสักคน


    โนลล์ไม่มีทางลืมวันนี้ไปชั่วชีวิต


    ***


    ประกายดาบปรากฏเป็นเส้นตรงท่ามกลางอากาศอันว่างเปล่า นี่คือแสงคมดาบที่ตกค้างจากเทคนิคชักดาบฟันสุดทรงพลัง


    “แค่ก…”


    โลหิตพวยพุ่งจากแขนขวาขณะพีคซอร์ดเสียบดาบกลับเข้าฝัก เป็นผลข้างเคียงซึ่งเกิดจากถุงมือข้างขวาที่เขากำลังสวมอยู่


[ถุงมือมังกรคราม]


    ถุงมือที่สร้างจาก ‘ลมหายใจมังกรคราม’ พีคซอร์ดได้รับมันเป็นรางวัลจากเหรียญทองงานแข่งนานาชาติ ถุงมือคู่นี้สามารถรีดประสิทธิภาพของเทคนิคชักดาบฟันได้ถึงขีดสุด ทั้งพลังโจมตีและความเร็วถูกเพิ่มพูนมหาศาล ทว่า ผลข้างเคียงก็ไม่เล็กน้อยเช่นกัน ถุงมือมังกรครามมีโอกาสเกิดเอฟเฟคพิเศษ ‘ว่องไวปานสายฟ้า’ ซึ่งจะเพิ่มพลังโจมตีและความเร็วโจมตีเป็นสองเท่า แต่แลกมากับการสูญเสียพลังชีวิต 12% พร้อมกับเกิดอาการ ‘กระดูกแขนหักหนึ่งข้าง’ เป็นเวลาห้าวินาที อาการกระดูกแขนหักจะส่งผลให้พลังต่อสู้โดยรวมลดต่ำลงมาก เอฟเฟคว่องไวปานสายฟ้าจึงเป็นราวกับดาบสองคมที่ต้องพึงระวัง


    ‘เราต้องเพิ่มเกรดของมันก่อนงานแข่งครั้งต่อไป…’


    ในปีก่อน นักกีฬาเหรียญทองของกิลด์โอเวอร์เกียร์อย่างพีคซอร์ดและยูร่าล้วนเลือกรางวัลเป็นลมหายใจสัตว์เทพตามที่กริดแนะนำ พวกเขาขอให้กริดสร้างไอเท็มให้เพื่อกลบจุดอ่อน เกรดของไอเท็มมีตั้งแต่ยูนีคไปจนถึงเลเจนดารี และถุงมือมังกรครามของพีคซอร์ดมีเกรดเป็นยูนีค


    พีคซอร์ดไม่ได้เสียใจมากนัก เขาไม่ได้หวังให้มันเป็นเกรดมิธตั้งแต่ต้น และยิ่งไปกว่านั้น ถุงมือมังกรครามคู่นี้คือไอเท็มชนิดเติบโต


    ใช่แล้ว ไอเท็มสามารถพัฒนาได้เป็นเกรดต่ำสุดคือเลเจนดารี หากมันถูกยกระดับขึ้นจากเดิม มีโอกาสสูงที่ผลข้างเคียงจะบรรเทาความรุนแรงลงหรือไม่ก็หายไปโดยสมบูรณ์ เมื่อเทียบกับไอเท็มระดับเดียวกันแล้ว พีคซอร์ดตั้งความหวังไว้กับถุงมือคู่นี้มาก


    แต่ปัญหาคือ ค่าประสบการณ์ของถุงมือเพิ่มได้ยากบรรลัย ตลอดแปดเดือดที่ผ่านมา เขาหมั่นฝึกฝนเพื่อเร่งให้มันกลายเป็นเกรดเลเจนดารีโดยเร็ว ทว่า ผลลัพธ์ที่ได้คือค่าประสบการณ์เพียง 20% ทั้งที่พีคซอร์ดมุ่งมั่นเก็บเลเวลตลอดโดยแทบไม่หยุดพัก


    ‘นี่คือเหตุผลที่ก็อดกริดยังมิอาจอัญเชิญแวมไพร์ทายาท เอลฟิน·สโตนออกมาได้ แม้จะผ่านมานานหลายปีแล้ว…’


    พีคซอร์ดยังจำได้ดี กริดเคยสบถให้เขาฟังว่า ‘ไอเท็มชนิดเติบโตแม่งหัวค*ย’


    ขณะเดียวกัน พีคซอร์ดก็หวนนึกถึงคำประกาศถอนตัวของกริดที่มีขึ้นเมื่อเช้า


    ‘ไอ้พวกระยำนั่นคงกำลังด่าก็อดกริดอย่างสนุกปากแน่’


    พีคซอร์ดชื่นชอบในตัวกริดอย่างหาที่สุดมิได้ กริดคือวีรบุรุษของประเทศ รวมถึงยังเป็นบุคคลที่ยื่นมือช่วยตนหนแล้วหนเล่า พีคซอร์ดจะเกลียดชังทุกคนที่บังอาจต่อว่ากริดบนโลกอินเทอร์เน็ต ทุกครั้งที่เขาพบเห็นการรุมต่อว่ากริด พีคซอร์ดจะล็อกอินด้วยนามแฝงที่ชื่อว่า ‘พีคดิสไลค์’ (Peak Dislike)


    “ช่วยไม่ได้ ฉันมีหน้าที่ต้องทำให้สังคมนี้น่าอยู่”


    ตอนนี้ถึงเวลาอาหารกลางวัน พีคซอร์ดตัดสินใจล็อกเอาต์จากซาทิสฟายและมุ่งหน้าไปยังสำนักงานขององค์กรเกาหลีใต้จงเจริญ จากนั้น คังแดฮันเริ่มลงมือค้นหาทุกบทความที่เกี่ยวข้องกับคำประกาศถอนตัวกริดเมื่อเช้า


    คังแดฮันสวมบทเป็นพีคดิสไลค์และกดเข้าไปอ่านในบทความที่ได้รับความสนใจสูงสุด เขาพร้อมแล้วที่จะกด ‘ไลค์’ ทุกคอมเมนต์ที่สรรเสริญกริด และกด ‘ดิสไลค์’ พร้อมกับ ‘รายงานพฤติกรรมไม่เหมาะสม’ แก่ทุกคอมเมนต์ที่ต่อว่ากริดอย่างเสียหาย ทว่า…


    “ไอ้พวกระยำที่บังอาจพิมพ์ในสิ่งที่ตัวเองไม่รู้…! เอ๋…”


    พีคซอร์ดจัดเรียงคอมเมนต์ตามจำนวน ‘ไลค์’ แต่เขากลับไม่พบข้อความที่ต่อว่ากริดอย่างเสียหายแม้แต่น้อย


    === ตัดสินใจไม่ลงใหญ่รายการใหญ่ที่จัดขึ้นปีละครั้ง… หรือว่ากริดจะมีปัญหาด้านสุขภาพ ฉันเป็นห่วงจัง


    ไลค์ : 21,034

    ดิสไลค์ : 509


    === ขอให้ก็อดกริดหายป่วยโดยไว


    ไลค์ : 18,110

    ดิสไลค์ : 288


    === กริดสมควรได้พักผ่อนบ้าง… เขาต้องคอยแบกรับสปอตไลท์และความคาดหวังของผู้คนทั้งประเทศทุกปี ความกดดันที่กริดได้รับต้องมหาศาลแน่… ดีแล้วที่เขาตัดสินใจพักผ่อนในปีนี้ ถึงประเทศของพวกเราจะพลาดการเป็นเจ้าเหรียญทอง แต่สุขภาพของกริดสำคัญกว่า


    ไลค์ : 14,500

    ดิสไลค์ : 1,209


    === ในความเห็นของฉัน การถอนตัวอาจไม่เกี่ยวกับปัญหาด้านสุขภาพ แต่เป็นผลกระทบจากเหตุการณ์อิมมอทัลบุกรุกไรนฮาร์ทเมื่อปีที่แล้ว กริดรักประชาชนและ NPC ของเขามาก บางที กริดอาจไม่ต้องการสูญเสียใครไปอีก… ฉันไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าทำไมทาง SA กรุปถึงไม่ยอมทำอะไรกับเรื่องแบบนี้ ทำไมถึงไม่ปกป้องสิทธิ์ของนักกีฬาเข้าแข่ง ห่วยแตกที่สุด


    ไลค์ : 13,990

    ดิสไลค์ : 102


    === ฉันขอส่งพลังใจไปถึงนักกีฬาทีมเกาหลีใต้ทุกคน! ได้โปรดพยายามอย่างหนักในส่วนของกริดผู้กำลังเฝ้ามองพวกคุณจากที่ห่างไกล


    ไลค์ : 12,010

    ดิสไลค์ : 93


    “สุดยอด…”


    คังแดฮันเริ่มตระหนักว่า ไม่ใช่แค่ตนเท่านั้นที่ชื่นชอบและยกย่องกริด ชาวเกาหลีส่วนใหญ่ต่างรักและห่วงใยในตัวกริดไม่ต่างกัน พวกเขาซาบซึ้งในสิ่งที่กริดเคยทำให้กับประเทศชาติ แต่แน่นอนว่า…


[ (บทความ) กริดอิ่มตัวแล้ว]


    ไม่มีใครในพวกเราที่ทราบเลยว่า กริดได้รับผลประโยชน์ในการแข่งปีก่อนๆ ไปมากมายเพียงใด เขาคงอิ่มตัวแล้ว และไอเท็มที่เป็นรางวัลตอบแทนคงไม่มีประโยชน์ต่อกริดมากนัก


    สำหรับกริด งานแข่งนานาชาติกลายเป็นเวทีที่สิ้นเปลืองเวลาโดยเปล่าประโยชน์ ถึงเวลาที่เขาต้องมุ่งมั่นกับเรื่องส่วนตัวในเกม แทนที่จะทำเพื่อชื่อเสียงของคนในประเทศ เขาหันหลังให้กับทุกคนในชาติโดยไม่คิดเหลียวกลับมา


    นี่คือบทวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญ อันที่จริง เจตนาของบทความนี้มีเพื่อให้เกิดความขัดแย้งบนโลกอินเทอร์เน็ต ประเด็นร้อนแรงที่เกี่ยวข้องกับกริดจะจบลงอย่างเงียบสงบไม่ได้เด็ดขาด


    “ไอ้พวกระยำ…”


    คังแดฮันหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้น ถึงเวลาที่เขาต้องใช้พลังอำนาจขององค์กรเกาหลีใต้จงเจริญบ้างแล้ว


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬

ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน

ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,314

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/




Comments

  1. แดฮันเอาให้มันรู้ว่าความไม่รู้จริงมันเป็นบาปแค่ไหน

    ReplyDelete
  2. เรียกกำลัง​เสริม​ ฮิวรอย😆

    ReplyDelete
    Replies
    1. พลังเเห่งการด่าพ่อล่อเเม่!!!

      Delete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00