จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 903
มันอาจทราบถึงความหมายของคำว่า ‘กังวล’ แต่มันไม่เคยเป็นกังวลเกี่ยวกับชะตาชีวิตของตัวเอง
เหนือสิ่งอื่นใด จุดประสงค์ของตัวมันชัดเจนนับตั้งแต่ลืมตาดูโลก
เบื้องหน้า ประตูห้วงมิติกำลังหมุนวนเตรียมส่งมันไปยังอีกภพหนึ่ง
ตึก
ตึก
เสียงฝีเท้ามิได้เคลือบแฝงความลังเลแม้แต่เศษเสี้ยว
บาเอลเอ่ยปากถาม
>> สิ่งมีชีวิตที่น่าสงสารเอ๋ย โลกด้านหลังประตูคือขุมนรกอันแท้จริง ไม่มีผู้ใดต้อนรับเจ้า มีเพียงความเจ็บปวดและอ้างว้างรออยู่ เมื่อรู้เช่นนี้แล้ว เจ้ายังคิดจะเข้าไปอีกหรือ?
“คำตอบ ไม่เห็นว่าจอมอสูรที่นี่จะต้อนรับฉันตรงไหน”
‘และอันที่จริง ณ ขุมนรกแห่งนี้ ฉันไม่เคยได้รับความรู้สึกอื่นนอกจากเจ็บปวดและโดดเดี่ยวอยู่แล้ว’
ร่างโคลนต้องการกล่าวเช่นนี้ออกไป แต่มันเลือกเก็บงำไว้ด้วยเหตุผลบางประการ
>> อย่างน้อย เหล่าจอมอสูรก็มิได้รังเกียจเจ้า พวกเขาเพียงหวาดกลัว
“เปล่าประโยชน์ ที่นี่ไม่มีกริด”
>> คุคุ…คึคึก! ตกลง เชิญตามสบาย จงแสดงให้ฉันเห็นว่า ชีวิตที่มีเป้าหมายแน่วแน่เพียงสิ่งเดียว จะมีจุดจบเช่นไรรอเจ้าอยู่ ฉันขอสนุกสนานไปกับความเจ็บปวด ความอ้างว้าง และความสิ้นหวังที่เจ้าจะได้รับหลังจากนี้
“...”
ร่างโคลนย่างกรายเข้าประตูห้วงมิติโดยไม่ลังเล
ภาพการมองเห็นของมันพลันหมุนเคว้งประหนึ่งฉากบนท้องฟ้าเอกภพ เพียงพริบตา วิวทิวทัศน์แปลกประหลาดเริ่มปรากฏขึ้นในการมองเห็น
มันถูกส่งตัวมายังมหาสมุทรกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา—ทะเลแดง
ร่างโคลนสลายโหมดร่างมืดทันทีที่มาเยือนโลกกึ่งกลาง
“กริด…”
ดวงตาเรียวคมแบบเดียวกันกริดกำลังแหงนมองท้องฟ้าฝั่งตะวันตก
***
[ท่านได้รับความเสียหายรุนแรง]
[ตำนานจะไม่ตายโดยง่าย ท่านเข้าสู่ภาวะอมตะเป็นเวลาห้าวินาที ด้วยพลังชีวิตหนึ่งหน่วย]
ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน สมัยเกมออนไลน์เสมือนจริงแรกของโลก ซาทิสฟาย เพิ่งเริ่มเปิดตัว ยูร่ารู้สึกทึ่งในความกว้างใหญ่ไพศาลและอิสระของโลกแห่งนี้
เธอไม่สงสัยเลยว่า ซาทิสฟายจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันผู้คน และในอนาคต จะไม่มีใครที่ไม่เล่นซาทิสฟาย สิ่งนี้จะกลายเป็นศูนย์กลางของข้อมูลข่าวสารทั่วโลก
ยูร่ามั่นใจ ซาทิสฟายต้องประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ชนิดที่โลกไม่เคยมีมา
เธอเริ่มต้นเล่นซาทิสฟายด้วยความตั้งใจสูงสุด ยูร่าต้องการหลุดจากกรอบพันธนาการของครอบครัว และกลายเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จด้วยลำแข้งตัวเอง
เธอทำสำเร็จในที่สุด
ยูร่ากลายเป็นหนึ่งในท็อปแรงเกอร์ของโลก ชื่อเสียงเงินทองไหลมาเทมาไม่ขาดสาย
ทั่วโลกทุ่มประเคนเงินให้เธอโดยไม่ต้องร้องขอ ยูร่าหลุดพ้นจากภาพจำของลูกคุณหนูตระกูลใหญ่ที่แบมือขอเงินพ่อแม่
เธอกลายเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในร่างมนุษย์ เธอเป็นอิสระจากสิ่งที่ครอบครัวคอยผูกมัดมาแสนนาน
ความสำเร็จมาพร้อมกับศักดิ์ศรีอันยิ่งใหญ่ที่เธอภาคภูมิใจ
ในซาทิสฟาย ผู้เล่นรวมทั้งหมดมีจำนวนมากกว่าสองพันล้าน
เมื่อเธอยืนบนสุดสูงสุดของสังคมที่มีผู้เล่นหนึ่งในสี่ของโลกเข้าร่วม ยูร่าเริ่มตระหนักถึงพรสวรรค์ของตน
เธอมั่นใจ ตนสามารถกลายเป็นผู้เล่นที่พิเศษกว่าใครได้ มิใช่เพียงท็อปห้าของโลก
ทว่า โลกอันโหดร้ายไม่เคยง่ายดาย
ยูร่าเป็นอัจฉริยะก็จริง แต่ในภายหลัง เธอได้ค้นพบว่า พรสวรรค์ที่แสนภาคภูมิใจกลับกลายเป็นสิ่งดาษดื่นสำหรับใครบางคน
ยูร่าเริ่มรู้สึกเจ็บแปลบเมื่อได้เห็นกำแพงสูงตระหง่านที่ขัดขวางการปีนป่าย
กำแพงนั้นคือครอเกล
นี่คือวินาทีที่ยูร่าสัมผัสถึงขีดจำกัด ไม่ว่าจะพยายามสักเพียงใด แต่โลกใบนี้ยังมีกำแพงที่มิอาจข้ามได้
กระนั้น ยูร่ามิได้ท้อแท้สิ้นหวัง ซาทิสฟายเป็นเกม มิใช่โลกจริง เธอยังมีโอกาสอีกมากให้ถีบตัวแซงหน้า
เพื่อการนั้นแล้ว เธอขวนขวายหาหนทางในการก้าวกระโดดแซงหน้าครอเกล
และแล้ว โอกาสทองก็มาถึง เธอทำภารกิจเรื่อยมาจนเข้ากับกับขุมพลังชนิดใหม่ พลังนั้นคือ ‘ข้ารับใช้ยาธาน’
ยูร่าเกิดประกายความหวัง เธอต้องการลดระยะห่างกับครอเกลด้วยสภาพแวดล้อมแปลกใหม่นี้
แต่ระหว่างทำภารกิจ เธอได้พบกริดเข้า
ในครานั้น กริดเป็นเพียงบุคคลนิรนาม แต่เขากลับมอบความสิ้นหวังหดหู่แก่ยูร่า ชนิดที่ไม่เคยมีใครกระทำได้มาก่อน
ศักดิ์ศรีของเธอป่นปี้ไม่เหลือชิ้นดี ความฝันและความหวังพังครืนพริบตา
‘ผ่านมานานแล้วสินะ’
ยูร่าเติบโตขึ้นมาก ฝ่าฟันภารกิจที่แปลกประหลาดและซับซ้อนนับไม่ถ้วน เธอจำเป็นต้องเปลี่ยนเส้นทางชีวิตหลายหน
และปลายทางได้นำพามาสู่ คลาสลับเกรดเลเจนดารี นักล่าอสูร
โอกาสสำคัญอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว ยูร่ามั่นใจ เธอสามารถย่นระยะเข้าหากริดและครอเกลได้ด้วยพลังใหม่ชนิดนี้
แต่เธอคิดผิด
“ม…มันเป็นพลังของไอเท็ม ฉันขอโทษ”
“…”
กริดพลันลนลานและรีบวิ่งมาขอโทษด้วยสีหน้าสำนึกผิด ฉากตรงหน้าสร้างรอยร้าวใหญ่หลวงแก่ศักดิ์ศรีของเธอ
“เธอไม่ได้อ่อนแอ ฉันแค่พึ่งพาพลังไอเท็ม ธ…เธอบาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า?”
“…”
กริดกระวนกระวายใจมากหลังจากสังหารยูร่าในดาบเดียว เขาเกรงว่า ยูร่าอาจตกตะลึงรุนแรงจนเสียขวัญ
นี่คือท่าทีของผู้ที่เหนือกว่า เป็นท่าทีที่มิได้มองว่าอีกฝ่ายเท่าเทียม
หลังดวลชนะครอเกล กริดวิ่งไปขอโทษครอเกลเช่นนี้ไหม? กริดแสดงสีหน้าเป็นกังวลกับครอเกลรึเปล่า? ไม่เลยสักนิด
ขณะนี้ กริดทำเหมือนกับยูร่าเป็นกวางน้อยแสนอ่อนแอ มิใช่คู่แข่งที่ทัดเทียม
ในสายตายูร่า พฤติกรรมของกริดเข้าขั้นเลวร้าย เพราะเธอต้องการเป็นหนึ่งในคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อของเขามาตลอด
“ฉันรู้หรอกน่า ว่าตัวเองไม่ได้อ่อนแอ”
ใบหน้ายูร่าพลันบูดบึ้ง เนื้อแก้มโป่งป่อง เธอพยุงตัวยืนขึ้นโดยไม่สนใจฝ่ามือกริดที่ยื่นเข้ามา
เป็นท่าทีของหญิงสาวที่กำลังเกี่ยงงอนชัดเจน ห่างไกลจากมาดสุขุมและเย็นชาในยามปรกติมาก
“ฉันไม่เสียขวัญหรอกนะ นี่เป็นแค่การทดสอบ เพราะหากไม่ใช่ ฉันคงใช้ทักษะป้องกันและไม่มีทางตายในดาบเดียวแน่ นายก็รู้ใช่ไหม ถ้าไม่ประมาท อย่างฉันไม่มีทางถูกโจมตีทีเดียวตายอยู่แล้ว!”
“ช…ใช่! เธอพูดถูก”
เธอกำลังแสดงความรู้สึกและใบหน้าที่แท้จริงงั้นหรือ?
ยูร่าในปัจจุบัน แตกต่างจากยูร่าที่กริดเคยรู้จักมาก ไม่แปลกที่เขาจะอมยิ้ม
ยูร่าในยามปรกติ เธอจะเป็นราวกับดอกไม้บนยอดภูเขาหิมะที่งอกเงยอย่างโดดเดี่ยวตามลำพัง
ทั้งงดงาม เย็นชา และอ้างว้าง
‘แต่ตอนนี้ เธอเหมือนกับเด็ก’
ยูร่าอ่อนกว่ากริดสามปี แต่ด้วยมาดอันสุขุมลุ่มลึก ภายนอกของเธอจึงดูเป็นผู้ใหญ่กว่ากริดหลายเท่า
ชายหนุ่มเริ่มมองว่า ยูร่าน่ารักน่าเอ็นดู มิใช่สาวงามผู้เย่อหยิ่ง
หัวใจที่เคยประหม่าและเต้นโครมครามเมื่อต้องเผชิญหน้าสาวงามอันดับหนึ่งของโลก ยามนี้ มันสงบลงเป็นหนแรกนับตั้งแต่ทั้งคู่เคยพบกัน
ยูร่าที่เผยมุมน่ารักน่าเอ็นดู ไม่แสร้งปั้นหน้าเย็นชา ยูร่าในร่างนี้สร้างความประทับใจให้กริดมากกว่าปรกติหลายเท่า
บรรยากาศระหว่างคนทั้งสองกำลังนำพา เมื่อเห็นดังนั้น มุมปากจิสึกะเริ่มกระตุก
“…นังจิ้งจอก”
>> นายมาทำอะไรที่นี่?
‘หือ?’
กริดได้รับข้อความเสี่ยงที่คาดไม่ถึง เจ้าของเสียงกำลังร้อนรนมาก
เป็นข้อความจากยูเฟอมิน่า
>> ทำไมนายถึงอยู่ที่ยูเด็น?
เรื่องอะไรกัน? แล้วยูเด็นคือที่ไหน?
“อ๊ะ…!”
ขณะกริดสับสน เขาฉุกคิดบางสิ่งได้ ชายหนุ่มรีบหันไปตะโกนถามลอเอล
“ยูเด็นอยู่ที่ไหน?”
“กรุงยูเด็นคือเมืองหลวงของอาณาจักรเมอร์เร่ อาณาจักรแห่งทะเลที่มีชายแดนดินกับทะเลแดง”
“ฉันคิดว่าร่างโคลนอยู่ที่นั่น”
“…หือ?”
เกิดอะไรขึ้นกันแน่…?
ทุกคนในลานประลองต่างสับสนเมื่อเหตุการณ์พลิกผันอย่างปุบปับ
ยูร่ากลับสู่โหมดเย็นชาอีกครั้ง เธอเอ่ยปากอธิบาย
“นั่นคือหนึ่งในเส้นทางเชื่อมต่อกับขุมนรก”
กริดรีบส่งข้อความเสียงกลับไปหายูเฟอมิน่าทันที
>> นั่นไม่ใช่ฉัน! เป็นศัตรู! รีบออกจากที่นั่นเร็วเข้า!
และคำตอบที่ได้รับกลับมา…
>> แต่เซอร์อัสโมเฟลเขา…
>> ยูเฟอมิน่า? ยูเฟอมิน่า!?
***
“…กริด?”
เหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่รู้จักจบจักสิ้น
อัสโมเฟลปรากฏตัวในจังหวะสุดย่ำแย่ ส่งผลให้ยูเฟอมิน่าพลาดโอกาสบรรลุข้อตกลงกับแอ็กนัส
แล้วยังนี่อีก…
เธอไม่เข้าใจเลยสักนิด ว่าเหตุใดกริดถึงต้องถ่อมายังอาณาจักรห่างไกลด้วยตัวเอง
‘เซอร์อัสโมเฟลอยู่ระหว่างภารกิจรวบรวมอดีตอัศวินสีชาดก็จริง…’
แต่กริดไม่น่าจะร่วมทำภารกิจซ้ำซ้อนกับอัสโมเฟล เพราะเขาเป็นแรงเกอร์และราชาที่มีงานยุ่งวุ่นวาย
การปรากฏตัวของกริด มีโอกาสสูงที่จะไม่เกี่ยวข้องกับภารกิจอัสโมเฟล
และเครื่องยืนยันก็คือ อัสโมเฟลกำลังตกตะลึงเมื่อได้เห็นกริด
“ฝ…ฝ่าบาทมาทำอะไรที่นี่?”
“…”
กริดไม่ตอบกลับ ไม่แม้แต่จะชำเลืองมองอัสโมเฟล
อันที่จริง กริดกำลังไม่แยแสสิ่งใดทั้งสิ้น สมาธิทั้งหมดจดจ่ออยู่กับตัวเองโดยไม่สนใจบรรยากาศรอบข้าง
>> นายมาทำอะไรที่นี่? ทำไมนายถึงอยู่ที่ยูเด็น?
เธอรีบส่งข้อความเสียงไปหา แต่อีกฝ่ายมิได้ตอบกลับในทันที
‘อะไรกัน?’
ยูเฟอมิน่าเริ่มสัมผัสถึงความไม่ชอบมาพากล กริดกำลังก้มหน้าเดินโดยมิได้ขยับปากตอบ
ยิ่งไปกว่านั้น ทั้งชุดเกราะ รองเท้า และอาวุธที่กริดพกพา เธอรู้สึกคุ้นเคยและไม่คุ้นเคยในเวลาเดียวกัน
‘นั่นมันไอเท็มเก่าของกริดใช่ไหม?’
ใบดาบเต็มไปด้วยรอยสนิมและความเก่าแก่ที่เกิดจากลมฝนกัดเซาะ
น่าแปลกมาก ที่ช่างเหล็กอย่างกริดจะปล่อยให้ไอเท็มของตนเก่าโทรมโดยไม่ยอมซ่อมแซม
ทันใดนั้น เธอได้รับข้อความตอบกลับ
>> นั่นไม่ใช่ฉัน! เป็นศัตรู! ออกจากที่นั่นเดี๋ยวนี้!
“หา?”
กริดคนนี้ไม่ใช่กริด…?
ดวงตายูเฟอมิน่าพลันเบิกโพลง สาเหตุเพราะ อัสโมเฟลเป็นฝ่ายเปิดฉากแทงดาบใส่แผ่นหลังกริดตัวปลอมก่อน
“แกเป็นใครกันแน่?”
ใช่แล้ว อัสโมเฟลสัมผัสได้ เขาทราบว่านี่ไม่ใช่กริด
“จอมอสูรชั่วช้า! บังอาจคัดลอกรูปลักษณ์ฝ่าบาทเชียวรึ…อั่ก!”
อัสโมเฟลที่เป็นฝ่ายเปิดก่อน ยามนี้ถูกซัดจนกระเด็นติดผนังบ้านเรือนผู้คนที่ทำจากหิน
กำปั้นหนึ่งชกตามติดไปไม่ห่าง สิ่งนี้คือกำปั้นสีทอง หรือที่รู้จักกันในนาม ‘หัตถ์เทวะ’
‘นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?’
กริดตัวปลอมผู้นี้มีทั้งอุปกรณ์สวมใส่รุ่นเก่าและหัตถ์เทวะ?
ความสับสนของยูเฟอมิน่าเริ่มดำดิ่ง
ขณะเดียวกัน เฮสเตอร์พลันตื่นเต้นเมื่อเห็นอัสโมเฟลเปิดฉากโจมตีใส่กริด
“คงเป็นตัวปลอมสินะ…แต่เหมาะสำหรับวัดพลังกริดพอดี”
“คิคิก…ทางนี้ขอตัวก่อนก็แล้วกัน”
แอ็กนัสอาศัยความวุ่นวายหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุ
“แกเป็นใคร?”
“วางอาวุธเดี๋ยวนี้!”
อัศวินและทหารหลวงเมอร์เร่เริ่มลงมือควบคุมสถานการณ์ พวกเขาไม่ย่อมให้มีใครก่อความวุ่นวายในเมืองหลวง
ทุกคนยืนรายล้อมซินกูเล็ดที่กำลังอ่อนล้า ปลายหอกดาบถูกชี้ไปยังกริดอย่างพร้อมเพรียง
“วิชาดาบแพ็กม่า·คลื่น”
“…!?”
ร่างโคลนปลดปล่อยวิชาดาบที่เป็นสัญลักษณ์ของราชาโอเวอร์เกียร์เพื่อลงมือสังหารผู้บริสุทธิ์จำนวนมากในกรุงยูเด็น
ไม่สิ มันทำได้เพียงพยายามสังหาร
ปราณดาบสีดำของร่างโคลนที่พุ่งกระจายออกไปทุกทิศ ทั้งหมดได้ถูกบาเรียสีทองดูดซับจนสูญสลาย
ตัวตนของบาเรียทองคือเวทมนตร์ และผู้ร่ายมนตร์คือหญิงสาวตัวเล็กบนหลังคาบ้านเรือน
“หยุดแค่นั้นแหละ! ฉันไม่ปล่อยให้แกทำลายชื่อเสียงกริดแน่”
“…วิเคราะห์ อันตราย”
ความสนใจของร่างโคลนถูกโอนถ่ายไปยังยูเฟอมิน่า
มันกระโจนขึ้นไปบนหลังคาบ้านด้วยความเร็วอันน่าทึ่ง ปลายดาบแทงใส่สาวน้อยโดยปราศจากความลังเล แต่ก็ถูกบล็อกไว้ได้ด้วยเวทมนตร์บาเรียทรงพลัง
การดวลอันยอดเยี่ยมระหว่างอัสโมเฟลและซินกูเล็ดกำลังจะถูกผู้คนหลงลืมในไม่ช้า
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,296
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
สนุกมาก กำลังมันเลย ค้างหนักมาก ขอบคุณที่แปลครับ🙏😊
ReplyDeleteขนลุก
ReplyDeleteตอนสั้นลง?
ReplyDelete