จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 894
『 ยังไม่มีข่าวคราวราชาโอเวอร์เกียร์อีกหรือ? 』
『 ใช่แล้วครับ กริดยังคงหายตัวอย่างไร้ร่องรอย 』
『 หายไปสามวันเต็มแล้ว ทางอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ออกแถลงการณ์บ้างหรือยัง? 』
『 ทางอาณาจักรอ้างว่ากริดปลอดภัย แต่ผู้คนกำลังไม่สบายใจ อาจเกิดความไม่มั่นคงภายในอาณาจักรได้… 』
สำนักข่าวทั่วโลกต่างเพ่งความสนใจในข่าวคราวกริดมากเป็นพิเศษ
ขณะหลายฝ่ายกำลังตั้งกระเด็นถึงการหายตัวไปของราชาโอเวอร์เกียร์ในพิธีเปิดโบสถ์เฮ็กเซเทีย
ข่าวลือประหลาดเริ่มแพร่กระจายในหมู่ผู้เล่นช่างทำอัญมณี
เป็นข่าวลือเกี่ยวกับวิหารยาธานซึ่งกำลังตามล่าตัวช่างอัญมณีจำนวนมาก
เหตุใดวิหารยาธานชั่วร้ายถึงตามหาตัวช่างอัญมณี? เป็นการยากจะให้เชื่อมโยงวิหารยาธานเข้ากับอัญมณีได้ คนหมู่มากจึงมองเป็นเพียงข่าวลือทั่วไป
‘ท่านอาจารย์กำลังตกอยู่ในอันตราย!’
ช่างอัญมณีลำดับเจ็ดของโลก
‘โคลเวอร์’ เขาตื่นตัวกว่าใคร
วิหารยาธานกำลังตามล่าช่างอัญมณี ข่าวลือประหลาดเช่นนี้ไม่น่าเชื่อถือก็จริง
แต่กระนั้น โคลเวอร์ไม่คิดประมาท
ถึงความเป็นไปได้จะน้อยนิด แต่ใช่ว่าโอกาสจะเป็นศูนย์
ขณะรีบร้อนกลับไปพบอาจารย์ด้วยความเป็นห่วง…
“ท่านอาจารย์!”
“แค่ก…!”
[ ช่างอัญมณี ‘เฮเล็น’ เสียชีวิต ]
โคลเวอร์มาถึงช้าไป
ในวินาทีที่ประตูห้องทำงานอาจารย์ถูกเปิดออก เฮเล็นได้กลายเป็นเศษฝุ่นสีเทาเรียบร้อยแล้ว
โดยฝีมือของอัศวินมืดแห่งวิหารยาธาน
“ท่านอาจารย์!”
ใบหน้าโคลเวอร์พลันขาวซีด
สำหรับเขา อาจารย์เฮเล็นคือผู้มีพระคุณใหญ่หลวงที่ถ่ายทอดทุกสิ่งให้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา
โคลเวอร์สาบานกับตัวเองหลายครั้งว่า
เขาจะตอบแทนบุญคุณของเธอให้จงได้
ด้วยฝีมือปัจจุบัน เหลืออีกเพียงไม่กี่ก้าวก็จะทำสำเร็จ
ทว่า…
“ท่านอาจารย์! ท่านอาจารย์!!”
ในบางครั้ง ซาทิสฟายโหดร้ายและเย็นชากว่าโลกจริงมาก
บนโลกมนุษย์ปรกติ เราสามารถเก็บรักษาร่างคนตายตามแต่พิธีกรรมทางศาสนา
ยังมีโอกาสได้ร่ำลาแม้ดวงวิญญาณจะล่องลอยไปแล้ว
แต่ซาทิสฟายไม่ยอมให้ทำเช่นนั้น
ใบหน้าโคลเวอร์พลันบิดเบี้ยวราวปีศาจเมื่อร่างเฮเล็นกลายเป็นฝุ่นหมอก
“วิหารยาธาน…ทำไมกัน? ทำไมต้องเป็นท่านอาจารย์!”
อันที่จริง การเอ่ยปากถามกลุ่มคนชั่วว่าเหตุใดถึงทำชั่ว สิ่งนี้ไม่ฉลาดสักเท่าไรนัก
วิหารยาธานเป็นฝ่ายชั่วร้ายสุดขีด การกระทำของพวกมันยากจะหาเหตุผลรองรับ
กระนั้น
โคลเวอร์ต้องการทราบเหตุผลเบื้องหลัง
เหตุใดอาจารย์ที่อบอุ่นและใจดีของตนถึงถูกฆ่า?
อาจารย์ผู้รักสงบ ไม่ทะเยอทยาน บอกปัดข้อเสนอจากจักรวรรดิซาฮารันและใช้ชีวิตเรียบง่ายในหมู่บ้านเล็กห่างไกลผู้คน
เหตุใดบุคคลที่น่าเคารพเช่นนี้ถึงต้องพบจุดจบอันน่าเศร้า
“เธอเคยไม่แยแสเงินทองหรือเกียรติยศ! ทั้งชีวิตอุทิศแด่ผู้อื่น! เธอไม่ควรมีจุดจบน่าสมเพชเช่นนี้!”
เฉกเช่นคลาสผลิตทั่วไป
ช่างอัญมณีอ่อนแอในด้านต่อสู้
โคลเวอร์ไม่แข็งแกร่งพอจะล้มกลุ่มอัศวินมืดเบื้องหน้าได้แม้แต่หนึ่งคน
ด้วยความสัตย์จริง
เขากำลังหวาดกลัว
ไม่มีใครชื่นชอบความตายที่เลเวลและไอเท็มจะสูญหาย
แต่เหนือสิ่งอื่นใด เขาต้องการรู้ถึงสาเหตุที่ตนต้องเสียอาจารย์ไป
ความใคร่รู้และความแค้นได้เอาชนะความกลัวในใจ
ก่อนตาย ตนอยากได้ยินเหตุผลจากปากอัศวินมืด จากนั้นจะทุ่มเททุกสิ่งเพื่อแก้แค้นให้อาจารย์
‘เราจะทุ่มพลังทั้งที่มี!’
ความชิงชังวิหารยาธานอย่างแรงกล้าแปรเปลี่ยนเป็นจิตสังหารอำมหิต
“ที่เราต้องฆ่าเธอ ก็เพื่อไม่ให้คนทรยศของวิหารยาธานหาช่างอัญมณีที่สามารถเจียระไนศิลาแห่งชีวิตพบ”
อัศวินมืดเอ่ยปากอธิบาย
ท่าทีของพวกมันเป็นมิตรจนน่าตกใจ
“ศิลาแห่งชีวิต?”
อัญมณีแสนชั่วช้า
สร้างจากเลือดสาวพรมจรรย์
ต้องเป็นบุคคลต่ำทรามขนาดไหนถึงสร้างหินก้อนนั้นขึ้นได้ แถมยังหวังให้อาจารย์ของตนเจียระไนให้อีก
ความโกรธแค้นของโคลเวอร์เริ่มเบนเป้าไปยังบุคคลทรยศที่อัศวินมืดพูดถึง
“มันมีชื่อว่าแอ็กนัส จำให้ขึ้นใจล่ะ นั่นคือชื่อของชายที่พรากชีวิตอาจารย์แกไป”
“…แอ็กนัส!”
แรงอาฆาตพลันพุ่งเป้าไปยังผู้เล่นแสนโด่งดังซึ่งโคลเวอร์คาดไม่ถึง
ภารกิจใหม่ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ
ภารกิจ ‘ศัตรูของอาจารย์’ ได้ระบุไว้ชัดเจน บุคคลที่ตนต้องฆ่าให้ได้คือผู้ทำพันธสัญญาบาเอลที่ทั่วโลกต่างเกลียดชัง
…
ขณะเดียวกัน
ณ กรุงยูเด็น
เมืองหลวงแห่งอาณาจักรเมอร์เร่
“อ่อนแอ…พวกแกช่างอ่อนแอ…”
ชายผู้หนึ่งระเบิดเสียงหัวเราะขณะยืนในห้องทำงานของช่างอัญมณีแคทเธอรีน
ท่ามกลางห้องทำงานที่ข้าวของกระจัดกระจาย กลิ่นคาวเลือดและซากศพได้เหม็นคาวคละคลุ้งทั่วบริเวณ
ทหารรักษาความปลอดภัยเมืองหลวงที่เพิ่งมาถึงที่เกิดเหตุ พวกเขารุมล้อมชายปริศนาทุกทิศทางด้วยหอกในมือ
“เราขอจับกุมตัวแกในฐานะผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรมแคทเธอรีน!”
“คิคิก?”
เหตุใดมันถึงต้องได้ยินเรื่องคำพูดซ้ำซากเช่นนี้ในทุกสถานที่ที่ย่างกรายไป?
แอ็กนัสเริ่มตระหนักว่า พลังอำนาจของวิหารยาธานมีมากกว่าที่ตนคิด
มันกระวนกระวายใจ
“…”
ขณะเดียวกัน หญิงสาวตัวเล็กน่ารักผู้หนึ่งกำลังเฝ้ามองแอ็กนัสจากจุดห่างไกล
เส้นผมของเธอสีบลอนด์
มัดเรียบร้อยเป็นทรงโพนี่เทล
หญิงสาวปริศนาพยายามกลั้นหายใจอย่างยากลำบาก เธอคือหนึ่งในขุนพลสุดทรงพลังของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์
บุคคลที่แม้แต่กริดยังประเมินให้แข็งแกร่งกว่าตัวเอง
ยูเฟอมิน่า
เธอใช้ทักษะพรางตัวของเฟคเกอร์เพื่อหลบซ่อนจากการตรวจจับจากแอ็กนัส
***
[ ลมหายใจมังกรครามถูกเสริมแกร่งสำเร็จ! ]
[ ลมหายใจมังกรครามที่ถูกเสริมแกร่ง ]
สร้างโดย ‘กริด’ ช่างตีเหล็กในตำนานที่กำลังจะกลายเป็นเทวะตำนาน
* เพิ่มค่าต้านทานธาตุสายฟ้า 50% เมื่อเก็บไว้ในช่องสัมภาระ
* สามารถนำไปผสานกับไอเท็มเพื่อเพิ่มออร่าที่ทรงพลังของมังกรคราม
( แต่ไอเท็มดังกล่าวต้องเปี่ยมด้วยพลังธาตุสายฟ้ารุนแรงเท่านั้น )
น้ำหนัก : 2
“เจ๋ง!”
รอยยิ้มโล่งใจเผยบนใบหน้ากริดหลังจากเสริมแกร่งลมหายใจมังกรครามสำเร็จ
ไข่มุกสีขาวส่องประกายแวววาววิบวับ
‘ยอดเยี่ยมมาก…’
แม้กระทั่งเทพตีเหล็กอย่างเฮ็กเซเทียยังกล่าวชื่นชมในใจ
เขาประเมินว่า วัสดุจากสัตว์เทพชนิดนี้ถูกกริดเสริมแกร่งจนมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับวัสดุเทพเลยทีเดียว
แต่สิ่งที่น่าชื่นชมยิ่งกว่าฝีมือ
สิ่งนั้นคือความอดทน
เฮ็กเซเทียทึ่งกับความไม่ย่อท้อของกริด
แม้จะมีค่าต้านทานอาการช็อคไฟฟ้า 100% เต็ม แต่กริดก็ยังได้รับความเสียหายจากสายฟ้าเท่าเดิม
เขาทั้งอดทนและฝืนหลบหลีกสายฟ้าทุกเส้นที่พุ่งปะทะร่าง
ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นคือของจริง
กริดจวนเจียนตายหลายหน
ความมุมานะของกริดเกินคำว่าอดทนไปมาก เข้าใกล้คำว่า ‘ยอมสละชีวิต’ ให้การตีเหล็ก
เป็นสิ่งที่เฮ็กเซเทียยากจะเข้าถึง
เพราะเขาคือเทพที่ใช้ ‘เทคนิค’ มหาศาลข้ามผ่านทุกอุปสรรค์อยู่เสมอ ไม่เคยต้องย่อท้อหรือยากลำบากขนาดนี้
‘ถึงกริดจะเสริมแกร่งไม่สำเร็จหากไม่มีพรจากเรา แต่ความมุมานะของเขาได้ก้าวข้ามมนุษย์ไปไกลแล้ว’
บุลทาร์
แพ็กม่า
กริด
มนุษย์เพียงสามคนบนโลกที่มีทักษะตีเหล็กถึงขั้น ‘ประจักษ์เทคนิคเทพ’
‘…เราไม่ควรริษยาพวกเขา’
ความอิจฉาในใจเฮ็กเซเทียเริ่มคลายตัว
เขาละอายใจ
กว่าจะเป็นภัยคุกคามต่อเทพ ตนไม่เคยนึกถึงความยากลำบากที่มนุษย์ต้องเผชิญเลยสักครั้ง ไม่เคยนึกถึงจิตวิญญาณและหัวใจที่ต้องทุ่มเทลงในชิ้นงาน
เฮ็กเซเทียเข้าใจผิดมาตลอด เข้าใจผิดว่าสาเหตุที่มนุษย์สามารถเทียบเคียงเทพ สิ่งนี้เกิดจากความผิดพลาดของสวรรค์
ความริษยาของตนแย่ยิ่งกว่าเด็กเล็กไร้วุติภาวะเสียอีก
‘เราควรยกย่องชื่นชม หาใช่อิจฉาตาร้อน’
เป็นสัจธรรมที่เพิ่งตระหนักได้เมื่อสาย
บุลทาร์และแพ็กม่าไม่มีชีวิตอยู่อีกแล้ว
แต่กริดยังอยู่
‘กริด ส่วนแบ่งของพวกเขา เราขอมอบให้เจ้า…’
เฮ็กเซเทียจ้องมองกริดไม่กระพริบตา
ดาบแห่งแสงที่กริดสั่งให้โจมตีใส่มิธริลมานานกว่าสองวันเต็ม ยามนี้หยุดลงเมื่อดาบสุดท้ายบรรลุผล
มิธริลซึมซับเวทมนตร์เรียบร้อย
[ มิธริลแสงขาว ]
มิธริลที่เกิดจากความร่วมมือของ ‘กริด’ ช่างตีเหล็กในตำนานผู้กำลังจะกลายเป็นเทวะตำนาน และภูติแสงระดับสูง ผ่านทักษะสร้างยุทธภัณฑ์เวทมนตร์ที่ ‘บราฮัม’ มหาจอมเวทในตำนานถ่ายทอด
แข็งกว่ามิธริลทั่วไปสามเท่า ความเข้ากันได้กับเวทมนตร์เพิ่มขึ้นสิบเท่า มิธริลชนิดนี้ยังอัดแน่นด้วยพลังธาตุแสงปริมาณมาก
เงื่อนไขการใช้ : กริด
“เมื่อไม่นานมานี้ ผมมีโอกาสศึกษาเรียนรู้ผลงานที่ยอดเยี่ยมของท่าน…ปฐมดาบศักดิ์สิทธิ์”
กริดโยนมิธริลเข้าเตาหลอมด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“ผิวดาบสร้างจากศิลาศักดิ์สิทธิ์ แต่มีแก่นเป็นอดามันเที่ยม”
ในตอนต้น
กริดไม่ทราบเจตนาของการทำเช่นนี้
แต่หลังจากแยกส่วนและประกอบกลับหลายหน ในที่สุดเขาก็เข้าใจ
“ศิลาศักดิ์สิทธิ์คือโลหะที่ดีที่สุดของโลกสามภพ ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าอดามันเที่ยมหลายเท่า แต่ขณะเดียวกันก็อัดแน่นเจตจำนงของท่านไว้มากเกินไป หากศิลาศักดิ์สิทธิ์มีประมาณมาก พลังศักดิ์สิทธิ์จะเอ่อล้นจนมนุษย์มิอาจใช้งานได้ ท่านจึงลดปริมาณศิลาศักดิ์สิทธิ์ลงด้วยอดามันเที่ยมเพื่อสะกดพลังศักดิ์สิทธิ์ไว้ ผมพูดถูกรึเปล่า?”
“สายตาเฉียบแหลม แต่ทั้งศิลาศักดิ์สิทธิ์และอดามันเที่ยมมิอาจถูกหลอมรวมเข้าด้วยกันได้โดยสมบูรณ์ ทั้งที่เราพยายามหลอมและขึ้นรูปอยู่นาน”
ปฐมดาบศักดิ์สิทธิ์มีทั้งพลังทางกายภาพที่แข็งแกร่งและเปี่ยมด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์รุนแรง
ผิวดาบทำจากศิลาศักดิ์สิทธิ์ สามารถฟันแทงทะลวงผ่านผิวหนังจอมอสูรง่ายดาย
แก่นด้านในทำจากอดามันเที่ยม
มีหน้าที่คอยค้ำจุนดาบและรองรับพลังศักดิ์สิทธิ์จากผู้ใช้ ดวงวิญญาณจอมอสูรจะถูกทำลายได้ง่ายหากผู้ถือมีพลังศักดิ์สิทธิ์ที่มากพอ
แต่ในมุมมองของกริด
เขาไม่กล้าพูดเต็มปากว่าปฐมดาบศักดิ์สิทธิ์คือผลงานที่สมูบรณ์
ทั้งศิลาศักดิ์สิทธิ์และอดามันเที่ยมต่างคงสภาพเดิมด้วยธรรมชาติอันแข็งแกร่งของโลหะแต่ละชนิด
แม้จะถูกหลอมรวม แต่โลหะทั้งสองกลับไม่ผสานกลายเป็นโลหะชนิดใหม่
เพียงอาศัยอยู่ด้วยการอย่างแบ่งแยกเอกเทศ
กริดมองว่าสิ่งนี้คือจุดด่างพร้อย และเป็นสาเหตุสำคัญที่กริดเลือกถ่ายพลังเวทมนตร์เข้าไปในมิธริล
“ผมประเมินแล้วว่า ด้วยเทคนิคที่มี คงมิอาจผสานพาเฟรเนี่ยมเข้ากับลมหายใจมังกรครามได้สมบูรณ์แบบแน่ เพราะความเป็นเอกเทศของโลหะแต่ละชนิดสูงเกินไป”
“…”
“แต่ผมยังมีมิธริล โลหะที่ดูดซับพลังเวทมนตร์รอบข้างได้ทุกชนิด หมายความว่ามันจะเข้ากันได้ดีกับพลังธาตุ…”
ลมหายใจมังกรครามที่ถูกเสริมแกร่ง
พาเฟรเนี่ยม
มิธริลแสงขาว
กริดนำส่วนผสมทั้งหมดลงในเตาหลอม
ทันใดนั้น ลมหายใจมังกรครามที่เข้ากับโลหะอื่นได้ยาก เริ่มหลอมรวมเข้ากับพาเฟรเนี่ยมโดยมีมิธริลแสงขาวเป็นสื่อกลาง
“เฮ็กเซเทีย จงภูมิใจได้เลย ผมนึกวิธีนี้ได้เพราะปฐมดาบศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านสร้าง”
เคร้ง! เคร้ง!
โลหะชนิดใหม่ในเตาหลอมถูกทำให้เย็นตัวลง ทำให้แข็ง และเริ่มถูกขึ้นรูป
เมื่อโลหะแดงร้อนฉ่าถูกนำมาวางบนทั่ง สีของมันแวววาวราวทองคำขาว แต่เจือแสงสีครามระเรืออย่างงดงาม
พาเฟรเนี่ยม
ลมหายใจมังกรครามที่ถูกเสริมแกร่ง
มิธริลแสงขาว
สุดยอดโลหะสามชนิดถูกหลอมรวม ยามนี้กลายเป็นโลหะแสนสมบูรณ์แบบ
นี่คือต้นกำเนิดของโลหะที่แข็งที่สุดของโลกสามภพ แต่ยังแฝงไว้ด้วยอีโก้ รวมถึงพลังจากธาตุแสงและสายฟ้า
เคร้ง! เคร้ง!
โลหะชนิดใหม่เริ่มเปลี่ยนรูปทรงเป็นใบดาบทีละนิด ใบดาบที่คล้ายคลึงกับดาบอัสนีฯ ซึ่งถูกออกแบบให้ ‘ด้ายเงิน’ ร้อยเรียงเข้ากับด้ามจับ
ทว่า กริดมิได้ร้อยด้ายเงินเข้าไป
ไม่จำเป็นเลยสักนิด
ดาบสุดทรงพลังที่มีอีโก้และล่องลอยตามคำสั่งของผู้เป็นนาย
สิ่งนี้ไม่ต้องการด้ายเงินผูกมัดกับด้าม
“สามารถใช้มิธริลแสนดาษดื่นให้กลายเป็นกุญแจสำคัญ…”
เทพธิดารีเบคก้ามิได้สร้างสิ่งใดให้รกโลกอย่างไร้เหตุผล
ทุกสรรพสิ่งล้วนมีหน้าที่ของมัน
เฮ็กเซเทียทรนงและดูแคลนในแร่ชั้นต่ำเพราะเขาคือเทพ ไม่แยแสสิ่งพื้นฐานและจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ทรงพลังในมือ
‘เราพ่ายแพ้แล้ว…’
ทันทีเห็นรายละเอียดดาบกริด
เฮ็กเซเทียซ่อนดาบของตนไว้ด้านหลัง
ดาบของเขาอาจทรงพลังกว่าดาบกริด
แต่นั่นเป็นเพราะเทคนิคเทพและวัสดุที่ดีกว่า มิใช่เพราะใช้วัสดุอย่างชาญฉลาด
กริดเข้าถึงแก่นแท้การตีเหล็กมากกว่าตน ดาบของเฮ็กเซเทียมีข้อบกพร่องให้ตำหนิ
…แต่ของกริดไม่มี
เขาก้มหน้าลงอย่างละอายใจ
“ท่านจะอับอายไปทำไม? ผมสามารถสร้างสิ่งนี้ได้เพราะเรียนรู้เทคนิคและวิทยาการจากท่าน หากไม่มีท่าน ตัวผมคงไม่พัฒนา เป็นได้เพียงช่างตีเหล็กมนุษย์ที่ถูกมนุษย์ด้วยกันสรรเสริญเยินยอ ไม่เก่งไปกว่านั้น”
“…”
“เทพตีเหล็กต่างหากที่ควรค่าแก่การเคารพบูชา”
“…เจ้าทำให้เรามีความสุขได้เสมอ”
[ ภารกิจเสร็จสิ้น! ]
[ ท่านเอาชนะเทพในการแข่งตีเหล็ก ]
[ เฮ็กเซเทียยอมรับในตัวท่าน ]
[ เฮ็กเซเทียละทิ้งความริษยาหลังจากบรรลุสัจธรรมบางสิ่ง ]
[ เฮ็กเซเทียเลิกคลางแคลงถึงเหตุผลที่ท่านสร้างโบสถ์ ]
[ ศิลาแห่งบาปต้นกำเนิดที่กัดกินปฐมดาบศักดิ์สิทธิ์ของวาติกันเริ่มสลายตัว ]
[ ท่านจะสำเร็จภารกิจ ‘ชำระล้างปฐมดาบศักดิ์สิทธิ์’ ทันทีเมื่อเดินทางไปยังวาติกัน ]
[ ความสัมพันธ์กับเฮ็กเซเทีย เทพผู้ถูกยกระดับให้กลายเป็นเทพที่แท้จริง เพิ่มขึ้น 70 หน่วย ]
[ เสียงศักดิ์สิทธิ์ของเทพเฮ็กเซเทียดังกังวาลไปทั่วโลกสามภพ ]
“ช่างตีเหล็กกริดมอบบทเรียนใหม่แสนล้ำค่าให้แก่เรา เขาคือผู้มีพระคุณของเรา และเป็นสาเหตุที่เรามอบพรแด่มวลมนุษย์”
[ เทพตีเหล็กมอบพรแด่ช่างตีเหล็กทุกคนบนโลกมนุษย์ ]
[ หลังจากนี้ 10 วัน ค่าประสบการณ์ทักษะตีเหล็กจะเพิ่มขึ้นเร็วกว่าเดิม 20% ]
[ ไม่มีใครในโลกที่ไม่รู้จักท่าน ]
[ จอมอสูรในขุมนรกจะจดจำนามของท่าน ]
[ ช่างตีเหล็กคนแคระต้องการพบท่านเพื่อประจักษ์ในฝีมือ ]
[ ใครบางคนในนรกทราบตำแหน่งของท่าน ]
[ จอมอสูรลำดับหนึ่ง ‘บาเอล’ กำลังมีความสุขสุดขีด ]
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,285
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
ใครบางคนในนรกเนี่ย ใช่กริดร่างแยกหรือป่าว??
ReplyDeleteน่าจะ
Deleteทำให้คนทั้งโลกทึ่งอีกแล้ว
ReplyDeleteสุดยอดเลย
ขอบคุณมากครับ🙏
บาเอลมีความสุข?
ReplyDeleteใช่กริดอีกคนในนรกรู้ตำแหน่งกริดตัวจริง และทำไหมบาเอลอสูรลำดับ 1 ถึงมีความสุข หรือว่าบาเอลต้องการกริดตัวจริง ในการทำพันธสัญญาด้วย ค้าง ??????? ขอบคุณที่แปลให้ได้เพลิดเพลินและสนุกกับเนื้อเรื่องมากครับ 🙏🙏😊
ReplyDelete,,สำหรับคนที่ชอบดองไว้แบบผมกาได้อ่าน4ตอนรวดนี้คือ "สุขสุดๆ"
ReplyDeleteใช่ๆ ผมก็ดองอ่านเดือนละครั้ง
Deleteสปอยครับ
ReplyDeleteหลอก
สายสัมพันธ์กับตาลุงนี่สุดยอดทุกคน
ReplyDeleteเดานะ ที่บาเอลมีความสุขเพราะรู้ว่ากริดมีอีกร่างหนึ่งที่ต้องการฆ่ากริดอยู่ในนรก แล้วบาเอลอยากเห็นกริดและร่างโคลนสู้กัน เลยส่งร่างโคลนขึ้นมาบนโลกเพื่อให้สู้กับกริดร่างจริง เหมือนดูผู้สืบทอดแพ็กม่าสู้กับผู้แพ็กม่าอะไรประมาณนั้น
ReplyDelete