จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 894



    『 ยังไม่มีข่าวคราวราชาโอเวอร์เกียร์อีกหรือ? 』


    『 ใช่แล้วครับ  กริดยังคงหายตัวอย่างไร้ร่องรอย 』


    『 หายไปสามวันเต็มแล้ว  ทางอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ออกแถลงการณ์บ้างหรือยัง? 』


    『 ทางอาณาจักรอ้างว่ากริดปลอดภัย  แต่ผู้คนกำลังไม่สบายใจ  อาจเกิดความไม่มั่นคงภายในอาณาจักรได้…  』


    สำนักข่าวทั่วโลกต่างเพ่งความสนใจในข่าวคราวกริดมากเป็นพิเศษ


    ขณะหลายฝ่ายกำลังตั้งกระเด็นถึงการหายตัวไปของราชาโอเวอร์เกียร์ในพิธีเปิดโบสถ์เฮ็กเซเทีย 

    ข่าวลือประหลาดเริ่มแพร่กระจายในหมู่ผู้เล่นช่างทำอัญมณี


    เป็นข่าวลือเกี่ยวกับวิหารยาธานซึ่งกำลังตามล่าตัวช่างอัญมณีจำนวนมาก

    

    เหตุใดวิหารยาธานชั่วร้ายถึงตามหาตัวช่างอัญมณี?  เป็นการยากจะให้เชื่อมโยงวิหารยาธานเข้ากับอัญมณีได้  คนหมู่มากจึงมองเป็นเพียงข่าวลือทั่วไป


    ‘ท่านอาจารย์กำลังตกอยู่ในอันตราย!’


    ช่างอัญมณีลำดับเจ็ดของโลก  

    ‘โคลเวอร์’  เขาตื่นตัวกว่าใคร

        

    วิหารยาธานกำลังตามล่าช่างอัญมณี  ข่าวลือประหลาดเช่นนี้ไม่น่าเชื่อถือก็จริง

    

    แต่กระนั้น  โคลเวอร์ไม่คิดประมาท  

    ถึงความเป็นไปได้จะน้อยนิด  แต่ใช่ว่าโอกาสจะเป็นศูนย์


    ขณะรีบร้อนกลับไปพบอาจารย์ด้วยความเป็นห่วง… 

    

    “ท่านอาจารย์!”


    “แค่ก…!”


[ ช่างอัญมณี ‘เฮเล็น’ เสียชีวิต ]


    โคลเวอร์มาถึงช้าไป


    ในวินาทีที่ประตูห้องทำงานอาจารย์ถูกเปิดออก  เฮเล็นได้กลายเป็นเศษฝุ่นสีเทาเรียบร้อยแล้ว  


    โดยฝีมือของอัศวินมืดแห่งวิหารยาธาน


    “ท่านอาจารย์!”


    ใบหน้าโคลเวอร์พลันขาวซีด


    สำหรับเขา  อาจารย์เฮเล็นคือผู้มีพระคุณใหญ่หลวงที่ถ่ายทอดทุกสิ่งให้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา


    โคลเวอร์สาบานกับตัวเองหลายครั้งว่า

    เขาจะตอบแทนบุญคุณของเธอให้จงได้

    

    ด้วยฝีมือปัจจุบัน  เหลืออีกเพียงไม่กี่ก้าวก็จะทำสำเร็จ


    ทว่า… 


    “ท่านอาจารย์!  ท่านอาจารย์!!”


    ในบางครั้ง  ซาทิสฟายโหดร้ายและเย็นชากว่าโลกจริงมาก


    บนโลกมนุษย์ปรกติ  เราสามารถเก็บรักษาร่างคนตายตามแต่พิธีกรรมทางศาสนา

    ยังมีโอกาสได้ร่ำลาแม้ดวงวิญญาณจะล่องลอยไปแล้ว

    

    แต่ซาทิสฟายไม่ยอมให้ทำเช่นนั้น

    ใบหน้าโคลเวอร์พลันบิดเบี้ยวราวปีศาจเมื่อร่างเฮเล็นกลายเป็นฝุ่นหมอก

    

    “วิหารยาธาน…ทำไมกัน?  ทำไมต้องเป็นท่านอาจารย์!”


    อันที่จริง  การเอ่ยปากถามกลุ่มคนชั่วว่าเหตุใดถึงทำชั่ว  สิ่งนี้ไม่ฉลาดสักเท่าไรนัก


    วิหารยาธานเป็นฝ่ายชั่วร้ายสุดขีด  การกระทำของพวกมันยากจะหาเหตุผลรองรับ


    กระนั้น  

    โคลเวอร์ต้องการทราบเหตุผลเบื้องหลัง


    เหตุใดอาจารย์ที่อบอุ่นและใจดีของตนถึงถูกฆ่า?


    อาจารย์ผู้รักสงบ  ไม่ทะเยอทยาน  บอกปัดข้อเสนอจากจักรวรรดิซาฮารันและใช้ชีวิตเรียบง่ายในหมู่บ้านเล็กห่างไกลผู้คน  

    

    เหตุใดบุคคลที่น่าเคารพเช่นนี้ถึงต้องพบจุดจบอันน่าเศร้า


    “เธอเคยไม่แยแสเงินทองหรือเกียรติยศ!  ทั้งชีวิตอุทิศแด่ผู้อื่น!  เธอไม่ควรมีจุดจบน่าสมเพชเช่นนี้!”

    

    เฉกเช่นคลาสผลิตทั่วไป  

    ช่างอัญมณีอ่อนแอในด้านต่อสู้


    โคลเวอร์ไม่แข็งแกร่งพอจะล้มกลุ่มอัศวินมืดเบื้องหน้าได้แม้แต่หนึ่งคน

    


    ด้วยความสัตย์จริง  

    เขากำลังหวาดกลัว


    ไม่มีใครชื่นชอบความตายที่เลเวลและไอเท็มจะสูญหาย


    แต่เหนือสิ่งอื่นใด  เขาต้องการรู้ถึงสาเหตุที่ตนต้องเสียอาจารย์ไป

    

    ความใคร่รู้และความแค้นได้เอาชนะความกลัวในใจ  


    ก่อนตาย  ตนอยากได้ยินเหตุผลจากปากอัศวินมืด  จากนั้นจะทุ่มเททุกสิ่งเพื่อแก้แค้นให้อาจารย์


    ‘เราจะทุ่มพลังทั้งที่มี!’

    

    ความชิงชังวิหารยาธานอย่างแรงกล้าแปรเปลี่ยนเป็นจิตสังหารอำมหิต


    “ที่เราต้องฆ่าเธอ  ก็เพื่อไม่ให้คนทรยศของวิหารยาธานหาช่างอัญมณีที่สามารถเจียระไนศิลาแห่งชีวิตพบ”


    อัศวินมืดเอ่ยปากอธิบาย

    ท่าทีของพวกมันเป็นมิตรจนน่าตกใจ


    “ศิลาแห่งชีวิต?”


    อัญมณีแสนชั่วช้า

    สร้างจากเลือดสาวพรมจรรย์

    

    ต้องเป็นบุคคลต่ำทรามขนาดไหนถึงสร้างหินก้อนนั้นขึ้นได้  แถมยังหวังให้อาจารย์ของตนเจียระไนให้อีก  

    

    ความโกรธแค้นของโคลเวอร์เริ่มเบนเป้าไปยังบุคคลทรยศที่อัศวินมืดพูดถึง


    “มันมีชื่อว่าแอ็กนัส  จำให้ขึ้นใจล่ะ  นั่นคือชื่อของชายที่พรากชีวิตอาจารย์แกไป”

    

    “…แอ็กนัส!”


    แรงอาฆาตพลันพุ่งเป้าไปยังผู้เล่นแสนโด่งดังซึ่งโคลเวอร์คาดไม่ถึง

    ภารกิจใหม่ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ


    ภารกิจ ‘ศัตรูของอาจารย์’ ได้ระบุไว้ชัดเจน  บุคคลที่ตนต้องฆ่าให้ได้คือผู้ทำพันธสัญญาบาเอลที่ทั่วโลกต่างเกลียดชัง


    … 


    ขณะเดียวกัน  

    ณ กรุงยูเด็น  

    เมืองหลวงแห่งอาณาจักรเมอร์เร่


    “อ่อนแอ…พวกแกช่างอ่อนแอ…”


    ชายผู้หนึ่งระเบิดเสียงหัวเราะขณะยืนในห้องทำงานของช่างอัญมณีแคทเธอรีน


    ท่ามกลางห้องทำงานที่ข้าวของกระจัดกระจาย  กลิ่นคาวเลือดและซากศพได้เหม็นคาวคละคลุ้งทั่วบริเวณ


    ทหารรักษาความปลอดภัยเมืองหลวงที่เพิ่งมาถึงที่เกิดเหตุ  พวกเขารุมล้อมชายปริศนาทุกทิศทางด้วยหอกในมือ


    “เราขอจับกุมตัวแกในฐานะผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรมแคทเธอรีน!”

    

    “คิคิก?”


    เหตุใดมันถึงต้องได้ยินเรื่องคำพูดซ้ำซากเช่นนี้ในทุกสถานที่ที่ย่างกรายไป?


    แอ็กนัสเริ่มตระหนักว่า  พลังอำนาจของวิหารยาธานมีมากกว่าที่ตนคิด 

    

    มันกระวนกระวายใจ


    “…”

    

    ขณะเดียวกัน  หญิงสาวตัวเล็กน่ารักผู้หนึ่งกำลังเฝ้ามองแอ็กนัสจากจุดห่างไกล

    เส้นผมของเธอสีบลอนด์  

    มัดเรียบร้อยเป็นทรงโพนี่เทล

    

    หญิงสาวปริศนาพยายามกลั้นหายใจอย่างยากลำบาก  เธอคือหนึ่งในขุนพลสุดทรงพลังของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์


    บุคคลที่แม้แต่กริดยังประเมินให้แข็งแกร่งกว่าตัวเอง

    ยูเฟอมิน่า


    เธอใช้ทักษะพรางตัวของเฟคเกอร์เพื่อหลบซ่อนจากการตรวจจับจากแอ็กนัส


    *** 


[ ลมหายใจมังกรครามถูกเสริมแกร่งสำเร็จ! ]


[ ลมหายใจมังกรครามที่ถูกเสริมแกร่ง ]

    สร้างโดย ‘กริด’ ช่างตีเหล็กในตำนานที่กำลังจะกลายเป็นเทวะตำนาน

* เพิ่มค่าต้านทานธาตุสายฟ้า 50% เมื่อเก็บไว้ในช่องสัมภาระ

* สามารถนำไปผสานกับไอเท็มเพื่อเพิ่มออร่าที่ทรงพลังของมังกรคราม

( แต่ไอเท็มดังกล่าวต้องเปี่ยมด้วยพลังธาตุสายฟ้ารุนแรงเท่านั้น )

น้ำหนัก : 2


    “เจ๋ง!”


    รอยยิ้มโล่งใจเผยบนใบหน้ากริดหลังจากเสริมแกร่งลมหายใจมังกรครามสำเร็จ

    

    ไข่มุกสีขาวส่องประกายแวววาววิบวับ


    ‘ยอดเยี่ยมมาก…’


    แม้กระทั่งเทพตีเหล็กอย่างเฮ็กเซเทียยังกล่าวชื่นชมในใจ

    

    เขาประเมินว่า  วัสดุจากสัตว์เทพชนิดนี้ถูกกริดเสริมแกร่งจนมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับวัสดุเทพเลยทีเดียว


    แต่สิ่งที่น่าชื่นชมยิ่งกว่าฝีมือ

    สิ่งนั้นคือความอดทน


    เฮ็กเซเทียทึ่งกับความไม่ย่อท้อของกริด

    

    แม้จะมีค่าต้านทานอาการช็อคไฟฟ้า 100% เต็ม  แต่กริดก็ยังได้รับความเสียหายจากสายฟ้าเท่าเดิม

    เขาทั้งอดทนและฝืนหลบหลีกสายฟ้าทุกเส้นที่พุ่งปะทะร่าง  

    

    ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นคือของจริง

    กริดจวนเจียนตายหลายหน  


    ความมุมานะของกริดเกินคำว่าอดทนไปมาก  เข้าใกล้คำว่า ‘ยอมสละชีวิต’ ให้การตีเหล็ก


    เป็นสิ่งที่เฮ็กเซเทียยากจะเข้าถึง

    เพราะเขาคือเทพที่ใช้ ‘เทคนิค’ มหาศาลข้ามผ่านทุกอุปสรรค์อยู่เสมอ  ไม่เคยต้องย่อท้อหรือยากลำบากขนาดนี้


    ‘ถึงกริดจะเสริมแกร่งไม่สำเร็จหากไม่มีพรจากเรา  แต่ความมุมานะของเขาได้ก้าวข้ามมนุษย์ไปไกลแล้ว’


    บุลทาร์  

    แพ็กม่า

    กริด


    มนุษย์เพียงสามคนบนโลกที่มีทักษะตีเหล็กถึงขั้น ‘ประจักษ์เทคนิคเทพ’


    ‘…เราไม่ควรริษยาพวกเขา’


    ความอิจฉาในใจเฮ็กเซเทียเริ่มคลายตัว

    เขาละอายใจ

    

    กว่าจะเป็นภัยคุกคามต่อเทพ  ตนไม่เคยนึกถึงความยากลำบากที่มนุษย์ต้องเผชิญเลยสักครั้ง  ไม่เคยนึกถึงจิตวิญญาณและหัวใจที่ต้องทุ่มเทลงในชิ้นงาน  


    เฮ็กเซเทียเข้าใจผิดมาตลอด  เข้าใจผิดว่าสาเหตุที่มนุษย์สามารถเทียบเคียงเทพ  สิ่งนี้เกิดจากความผิดพลาดของสวรรค์


    ความริษยาของตนแย่ยิ่งกว่าเด็กเล็กไร้วุติภาวะเสียอีก


    ‘เราควรยกย่องชื่นชม  หาใช่อิจฉาตาร้อน’


    เป็นสัจธรรมที่เพิ่งตระหนักได้เมื่อสาย

    บุลทาร์และแพ็กม่าไม่มีชีวิตอยู่อีกแล้ว  


    แต่กริดยังอยู่


    ‘กริด  ส่วนแบ่งของพวกเขา  เราขอมอบให้เจ้า…’


    เฮ็กเซเทียจ้องมองกริดไม่กระพริบตา


    ดาบแห่งแสงที่กริดสั่งให้โจมตีใส่มิธริลมานานกว่าสองวันเต็ม  ยามนี้หยุดลงเมื่อดาบสุดท้ายบรรลุผล

        

    มิธริลซึมซับเวทมนตร์เรียบร้อย


[ มิธริลแสงขาว ]

    มิธริลที่เกิดจากความร่วมมือของ ‘กริด’ ช่างตีเหล็กในตำนานผู้กำลังจะกลายเป็นเทวะตำนาน  และภูติแสงระดับสูง  ผ่านทักษะสร้างยุทธภัณฑ์เวทมนตร์ที่ ‘บราฮัม’ มหาจอมเวทในตำนานถ่ายทอด

    แข็งกว่ามิธริลทั่วไปสามเท่า  ความเข้ากันได้กับเวทมนตร์เพิ่มขึ้นสิบเท่า  มิธริลชนิดนี้ยังอัดแน่นด้วยพลังธาตุแสงปริมาณมาก

เงื่อนไขการใช้ : กริด


    “เมื่อไม่นานมานี้  ผมมีโอกาสศึกษาเรียนรู้ผลงานที่ยอดเยี่ยมของท่าน…ปฐมดาบศักดิ์สิทธิ์”


    กริดโยนมิธริลเข้าเตาหลอมด้วยสีหน้าเคร่งขรึม


    “ผิวดาบสร้างจากศิลาศักดิ์สิทธิ์  แต่มีแก่นเป็นอดามันเที่ยม”


    ในตอนต้น  

    กริดไม่ทราบเจตนาของการทำเช่นนี้

    แต่หลังจากแยกส่วนและประกอบกลับหลายหน  ในที่สุดเขาก็เข้าใจ


    “ศิลาศักดิ์สิทธิ์คือโลหะที่ดีที่สุดของโลกสามภพ  ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าอดามันเที่ยมหลายเท่า  แต่ขณะเดียวกันก็อัดแน่นเจตจำนงของท่านไว้มากเกินไป  หากศิลาศักดิ์สิทธิ์มีประมาณมาก  พลังศักดิ์สิทธิ์จะเอ่อล้นจนมนุษย์มิอาจใช้งานได้  ท่านจึงลดปริมาณศิลาศักดิ์สิทธิ์ลงด้วยอดามันเที่ยมเพื่อสะกดพลังศักดิ์สิทธิ์ไว้  ผมพูดถูกรึเปล่า?”


    “สายตาเฉียบแหลม  แต่ทั้งศิลาศักดิ์สิทธิ์และอดามันเที่ยมมิอาจถูกหลอมรวมเข้าด้วยกันได้โดยสมบูรณ์  ทั้งที่เราพยายามหลอมและขึ้นรูปอยู่นาน”


    ปฐมดาบศักดิ์สิทธิ์มีทั้งพลังทางกายภาพที่แข็งแกร่งและเปี่ยมด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์รุนแรง


    ผิวดาบทำจากศิลาศักดิ์สิทธิ์  สามารถฟันแทงทะลวงผ่านผิวหนังจอมอสูรง่ายดาย

    

    แก่นด้านในทำจากอดามันเที่ยม

    มีหน้าที่คอยค้ำจุนดาบและรองรับพลังศักดิ์สิทธิ์จากผู้ใช้  ดวงวิญญาณจอมอสูรจะถูกทำลายได้ง่ายหากผู้ถือมีพลังศักดิ์สิทธิ์ที่มากพอ    


    แต่ในมุมมองของกริด  

    เขาไม่กล้าพูดเต็มปากว่าปฐมดาบศักดิ์สิทธิ์คือผลงานที่สมูบรณ์

    

    ทั้งศิลาศักดิ์สิทธิ์และอดามันเที่ยมต่างคงสภาพเดิมด้วยธรรมชาติอันแข็งแกร่งของโลหะแต่ละชนิด

  

    แม้จะถูกหลอมรวม  แต่โลหะทั้งสองกลับไม่ผสานกลายเป็นโลหะชนิดใหม่

    เพียงอาศัยอยู่ด้วยการอย่างแบ่งแยกเอกเทศ


    กริดมองว่าสิ่งนี้คือจุดด่างพร้อย  และเป็นสาเหตุสำคัญที่กริดเลือกถ่ายพลังเวทมนตร์เข้าไปในมิธริล    


    “ผมประเมินแล้วว่า  ด้วยเทคนิคที่มี  คงมิอาจผสานพาเฟรเนี่ยมเข้ากับลมหายใจมังกรครามได้สมบูรณ์แบบแน่  เพราะความเป็นเอกเทศของโลหะแต่ละชนิดสูงเกินไป”  


    “…”


    “แต่ผมยังมีมิธริล  โลหะที่ดูดซับพลังเวทมนตร์รอบข้างได้ทุกชนิด  หมายความว่ามันจะเข้ากันได้ดีกับพลังธาตุ…”


    ลมหายใจมังกรครามที่ถูกเสริมแกร่ง

    พาเฟรเนี่ยม

    มิธริลแสงขาว

    

    กริดนำส่วนผสมทั้งหมดลงในเตาหลอม


    ทันใดนั้น  ลมหายใจมังกรครามที่เข้ากับโลหะอื่นได้ยาก  เริ่มหลอมรวมเข้ากับพาเฟรเนี่ยมโดยมีมิธริลแสงขาวเป็นสื่อกลาง


    “เฮ็กเซเทีย  จงภูมิใจได้เลย  ผมนึกวิธีนี้ได้เพราะปฐมดาบศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านสร้าง”


    เคร้ง!  เคร้ง!


    โลหะชนิดใหม่ในเตาหลอมถูกทำให้เย็นตัวลง  ทำให้แข็ง  และเริ่มถูกขึ้นรูป

    

    เมื่อโลหะแดงร้อนฉ่าถูกนำมาวางบนทั่ง  สีของมันแวววาวราวทองคำขาว  แต่เจือแสงสีครามระเรืออย่างงดงาม


    พาเฟรเนี่ยม

    ลมหายใจมังกรครามที่ถูกเสริมแกร่ง  

    มิธริลแสงขาว


    สุดยอดโลหะสามชนิดถูกหลอมรวม  ยามนี้กลายเป็นโลหะแสนสมบูรณ์แบบ


    นี่คือต้นกำเนิดของโลหะที่แข็งที่สุดของโลกสามภพ  แต่ยังแฝงไว้ด้วยอีโก้  รวมถึงพลังจากธาตุแสงและสายฟ้า

    

    เคร้ง! เคร้ง!


    โลหะชนิดใหม่เริ่มเปลี่ยนรูปทรงเป็นใบดาบทีละนิด  ใบดาบที่คล้ายคลึงกับดาบอัสนีฯ ซึ่งถูกออกแบบให้ ‘ด้ายเงิน’ ร้อยเรียงเข้ากับด้ามจับ

    

    ทว่า  กริดมิได้ร้อยด้ายเงินเข้าไป

    ไม่จำเป็นเลยสักนิด


    ดาบสุดทรงพลังที่มีอีโก้และล่องลอยตามคำสั่งของผู้เป็นนาย  

    สิ่งนี้ไม่ต้องการด้ายเงินผูกมัดกับด้าม


    “สามารถใช้มิธริลแสนดาษดื่นให้กลายเป็นกุญแจสำคัญ…”


    เทพธิดารีเบคก้ามิได้สร้างสิ่งใดให้รกโลกอย่างไร้เหตุผล

    ทุกสรรพสิ่งล้วนมีหน้าที่ของมัน


    เฮ็กเซเทียทรนงและดูแคลนในแร่ชั้นต่ำเพราะเขาคือเทพ   ไม่แยแสสิ่งพื้นฐานและจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ทรงพลังในมือ


    ‘เราพ่ายแพ้แล้ว…’


    ทันทีเห็นรายละเอียดดาบกริด  

    เฮ็กเซเทียซ่อนดาบของตนไว้ด้านหลัง


    ดาบของเขาอาจทรงพลังกว่าดาบกริด

    แต่นั่นเป็นเพราะเทคนิคเทพและวัสดุที่ดีกว่า  มิใช่เพราะใช้วัสดุอย่างชาญฉลาด


    กริดเข้าถึงแก่นแท้การตีเหล็กมากกว่าตน  ดาบของเฮ็กเซเทียมีข้อบกพร่องให้ตำหนิ

    

    …แต่ของกริดไม่มี


    เขาก้มหน้าลงอย่างละอายใจ

    

    “ท่านจะอับอายไปทำไม?  ผมสามารถสร้างสิ่งนี้ได้เพราะเรียนรู้เทคนิคและวิทยาการจากท่าน   หากไม่มีท่าน  ตัวผมคงไม่พัฒนา  เป็นได้เพียงช่างตีเหล็กมนุษย์ที่ถูกมนุษย์ด้วยกันสรรเสริญเยินยอ  ไม่เก่งไปกว่านั้น” 


    “…”


    “เทพตีเหล็กต่างหากที่ควรค่าแก่การเคารพบูชา”


    “…เจ้าทำให้เรามีความสุขได้เสมอ”


[ ภารกิจเสร็จสิ้น! ]

[ ท่านเอาชนะเทพในการแข่งตีเหล็ก ]


[ เฮ็กเซเทียยอมรับในตัวท่าน ]

[ เฮ็กเซเทียละทิ้งความริษยาหลังจากบรรลุสัจธรรมบางสิ่ง ]

[ เฮ็กเซเทียเลิกคลางแคลงถึงเหตุผลที่ท่านสร้างโบสถ์ ]


[ ศิลาแห่งบาปต้นกำเนิดที่กัดกินปฐมดาบศักดิ์สิทธิ์ของวาติกันเริ่มสลายตัว ]

[ ท่านจะสำเร็จภารกิจ ‘ชำระล้างปฐมดาบศักดิ์สิทธิ์’ ทันทีเมื่อเดินทางไปยังวาติกัน ]


[ ความสัมพันธ์กับเฮ็กเซเทีย  เทพผู้ถูกยกระดับให้กลายเป็นเทพที่แท้จริง  เพิ่มขึ้น 70 หน่วย ]


[ เสียงศักดิ์สิทธิ์ของเทพเฮ็กเซเทียดังกังวาลไปทั่วโลกสามภพ ]


    “ช่างตีเหล็กกริดมอบบทเรียนใหม่แสนล้ำค่าให้แก่เรา  เขาคือผู้มีพระคุณของเรา  และเป็นสาเหตุที่เรามอบพรแด่มวลมนุษย์”


[ เทพตีเหล็กมอบพรแด่ช่างตีเหล็กทุกคนบนโลกมนุษย์ ]

[ หลังจากนี้ 10 วัน  ค่าประสบการณ์ทักษะตีเหล็กจะเพิ่มขึ้นเร็วกว่าเดิม 20% ]




[ ไม่มีใครในโลกที่ไม่รู้จักท่าน ]

[ จอมอสูรในขุมนรกจะจดจำนามของท่าน ]

[ ช่างตีเหล็กคนแคระต้องการพบท่านเพื่อประจักษ์ในฝีมือ ]

[ ใครบางคนในนรกทราบตำแหน่งของท่าน ]

[ จอมอสูรลำดับหนึ่ง ‘บาเอล’ กำลังมีความสุขสุดขีด ]


 ▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬

ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน

ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,285

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/


Comments

  1. ใครบางคนในนรกเนี่ย ใช่กริดร่างแยกหรือป่าว??

    ReplyDelete
  2. ทำให้คนทั้งโลกทึ่งอีกแล้ว
    สุดยอด​เลย
    ขอบคุณ​มาก​ครับ​🙏

    ReplyDelete
  3. บาเอลมีความสุข?

    ReplyDelete
  4. ใช่กริดอีกคนในนรกรู้ตำแหน่งกริดตัวจริง และทำไหมบาเอลอสูรลำดับ 1 ถึงมีความสุข หรือว่าบาเอลต้องการกริดตัวจริง ในการทำพันธสัญญาด้วย ค้าง ??????? ขอบคุณที่แปลให้ได้เพลิดเพลินและสนุกกับเนื้อเรื่องมากครับ 🙏🙏😊

    ReplyDelete
  5. ,,สำหรับคนที่ชอบดองไว้แบบผมกาได้อ่าน4ตอนรวดนี้คือ "สุขสุดๆ"

    ReplyDelete
    Replies
    1. ใช่ๆ ผมก็ดองอ่านเดือนละครั้ง

      Delete
  6. สปอยครับ





















    หลอก

    ReplyDelete
  7. สายสัมพันธ์กับตาลุงนี่สุดยอดทุกคน

    ReplyDelete
  8. เดานะ ที่บาเอลมีความสุขเพราะรู้ว่ากริดมีอีกร่างหนึ่งที่ต้องการฆ่ากริดอยู่ในนรก แล้วบาเอลอยากเห็นกริดและร่างโคลนสู้กัน เลยส่งร่างโคลนขึ้นมาบนโลกเพื่อให้สู้กับกริดร่างจริง เหมือนดูผู้สืบทอดแพ็กม่าสู้กับผู้แพ็กม่าอะไรประมาณนั้น

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00