จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 892



[ พาเฟรเนี่ยม ]

    โลหะที่แข็งเป็นอันดับหนึ่งในโลกมนุษย์  เกิดจากความร่วมมือระหว่าง ‘แพ็กม่า’ ช่างตีเหล็กในตำนานและ ‘บราฮัม’ มหาจอมเวทในตำนาน

    มีความแข็งมากยิ่งกว่า ‘อดามันเที่ยม’ โลหะแห่งเทพ  อัดแน่นด้วยเวทมนตร์มากกว่ามิธริล  และมีความยืดหยุ่นสูงกว่ายัฟฟ่า

    ในสถานการณ์ปรกติ  พาเฟรเนี่ยมจะลอยวนเวียนรอบตัว ‘ผู้เป็นนาย’  แต่หากได้รับคำสั่งพิเศษ  มันจะปฏิบัติอย่างเคร่งครัด

* พาเฟรเนี่ยมได้รับพลังฟื้นฟูจากพรเทพธิดารีเบคก้า

( อัตราฟื้นฟูพลังชีวิตตามธรรมชาติของผู้เป็นนายเพิ่มขึ้น 300%)

* พาเฟรเนี่ยมได้รับบัฟโจมตีจากพรเทพโดมิเนี่ยน

( พลังโจมตีผู้เป็นนายเพิ่มขึ้น 15% )

* พาเฟรเนี่ยมได้รับบัฟป้องกันจากเทพยูดาห์

( พลังป้องกันผู้เป็นนายเพิ่มขึ้น 15%)

เงื่อนไขการหลอม : แพ็กม่า, กริด

เงื่อนไขการใช้งาน : แพ็กม่า, กริด


    นี่คือคำอธิบายของโลหะพาเฟรเนี่ยม


    เรียกว่าสมบูรณ์แบบได้ไม่เต็มปากนัก  เพราะในบางครั้ง  การมี ‘อีโก้’ ก็ไม่ใช่เรื่องดี


    แต่ในสายตากริด  มันคือโลหะที่ดีที่สุดของโลกมนุษย์อย่างไร้ข้อกังขา


    กระนั้น  กริดกลับไม่เคยสร้างยุทธภัณฑ์สงครามด้วยพาเฟรเนี่ยมมาก่อน


    เพราะมันหลอมได้ยากงั้นหรือ?  


    เปล่าเลย  ตรงกันข้าม  พาเฟรเนี่ยมเป็นสุดยอดโลหะ  แถมยังเป็นไอเท็มประจำคลาสผู้สืบทอดแพ็กม่า  ในความรู้สึกของกริด  พาเฟรเนี่ยมเป็นโลหะที่หลอมง่ายที่สุดในโลก


    เขารู้สึกราวกับปลากระดี่ได้น้ำในยามหลอมและขึ้นรูปไอเท็มด้วยพาเฟรเนี่ยม


    ทั้งสนุกและง่ายกว่าในยามถลุงแร่เหล็ก  โลหะที่ว่ากันว่าหลอมง่ายที่สุดในโลก


    แต่สาเหตุหลักที่กริดไม่ใช้มันสร้างเป็นยุทธภัณฑ์สงคราม  เพราะมูลค่าของพาเฟรเนี่ยมมีสูงเกินไป  ปริมาณน้อยเกินไป  และหาได้ยากเกินไป


    เขาไม่ต้องการให้โลหะวิเศษที่มี ‘อีโก้’ กลายเป็นอุปกรณ์สวมใส่ที่มิอาจขยับเขยื้อน  


    แบบนั้นมันเสียของ


    แต่ปัจจุบัน  สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว


    นี่มิใช่การแข็งตีเหล็กทั่วไป

    หากแต่เป็นการดวลกับเทพ


    การมัวเสียดายไอเท็มไม่ใช่ทางเลือกที่ฉลาดนัก


    เคร้ง!  เคร้ง! เคร้ง!


    ค้อนเกรดเลเจนดารีคู่กายที่กริดใช้งานนานหลายปี  เขากระหน่ำทุบมันใส่พาเฟรเนี่ยมโดยไม่หยุดพัก


    พาเฟรเนี่ยมที่มีความนึกคิดจิตใจ  มันเองก็อยู่กับกริดหลายปีเช่นกัน  ย่อมซึมซับเจตจำนงและเทคนิคของกริดอย่างเต็มเปี่ยม  


    เจ้านายต้องการสิ่งใด  มันแปรเปลี่ยนตัวเองกลายเป็นสิ่งนั้น


    โลหะพาเฟรเนี่ยมสีทองอร่ามเริ่มกลายร่างเป็นค้อนทีละนิด


    เฮ็กเซเทียพลันหรี่ตาลง


    ‘เจ้านี่…เป็นมนุษย์ที่ก้าวข้ามขีดจำกัดแล้วสินะ’


    ค้อนในมือกริดรัวทุบได้เร็วกว่ามนุษย์ช่างตีเหล็กทั่วไปราวห้าเท่า  

    แต่แฝงความปราณีตและเทคนิคมากกว่าถึงยี่สิบเท่า


    เกินขอบเขตของมนุษย์ไปไกลแล้ว


    กริดมีพลังทัดเทียมกับแพ็กม่าและเจ็ดนักบุญภัยพิบัติที่เคยทำให้เฮ็กเซเทียเกิดความริษยา  ทว่าในสายตาเฮ็กเซเทีย  กริดแตกต่างจากกลุ่มคนเหล่านั้น


    แพ็กม่าต่อต้านและขัดขืนเฮ็กเซเทีย  ส่วนกริดพยายามทำความเข้าใจ  โอบกอด  และบูชาเฮ็กเทพเซเทียจากก้นบึ้ง


    ศิลาศักดิ์สิทธิ์

    โลหะที่เฮ็กเซเทียสร้างขึ้น  มันรวมข้อดีของทุกโลหะในโลกสามภพไว้


    เคร้ง!


    เฮ็กเซเทียวางศิลาศักดิ์สิทธิ์บนทั่งและเริ่มลงมือ


    เขามั่นใจ  ไม่มีโลหะใดในโลกสามภพที่ยอดเยี่ยมไปกว่าศิลาศักดิ์สิทธิ์อีกแล้ว


    ‘กริด  ความตั้งใจและฝีมือของเจ้าถูกส่งมาถึงเราแล้ว  เราจะตอบแทนโดยการสำแดงพลังที่แท้จริงของเทพให้เจ้าได้ประจักษ์!’


    จงดูให้ดี…อำนาจบารมีที่แท้จริงของสิ่งมีชีวิตระดับเทพ!


    ‘เราจะสลักตัวตนที่ยิ่งใหญ่ลงในจิตใจเจ้า  กริดเอ๋ย…เจ้าต้องบูชาเราไปชั่วชีวิต!’


    เฮ็กเซเทียไม่เคยได้รับความรักจากใคร  

    

    เขาจำต้องหลบซ่อนในเงามืดของเทพธิดาแห่งแสงมาตลอด


    ตนเกิดมาทำไม?  

    

    แม้จะสร้างคุณงามความดีอันยิ่งใหญ่ตามเจตจำนงของเทพธิดาแห่งแสง  แต่นามเฮ็กเซเทียกลับมิเคยถูกจดจำโดยมนุษย์    


    เขาถูกลืมเลือนและเลี่ยงจะพูดถึง…


    ทำไมกัน?  

    ตนเกิดมาเพื่อสิ่งใด?   

    หากไม่มีใครจดจำเช่นนี้  ไม่ต้องเกิดมาแต่แรกไม่ดีกว่าหรือ?


    ความคิดแสนเจ็บแปลบตามวนเวียนหลอกหลอนเฮ็กเซเทียนานนับหมื่นปี


    ในบางครา  

    เฮ็กเซเทียรู้สึกริษยามนุษย์เบื้องล่าง


    สิ่งมีชีวิตเยี่ยงมนุษย์มีอายุขัยจำกัด  

    ดำรงชีวิตได้เพียงชั่วระยะเวลาหนึ่งของประวัติศาสตร์ 


    เฮ็กเซเทียอิจฉาที่มนุษย์สามารถหัวเราะ  ร้องไห้  และมีความสุขจากก้นบึ้งหัวใจ 


    เผ่าพันธุ์มนุษย์แสนต่ำต้อยกลับค้นพบความหมายของชีวิตโดยที่เทพอย่างตนไม่มีโอกาสนั้น


    เฮ็กเซเทียผู้เดียวดายไม่มีวันได้รับโอกาสพิสูจน์คุณค่ากับใคร


    กาลเวลาผ่านไปนานนับหมื่นปี


    จนกระทั่ง…โอกาสมาถึงเบื้องหน้า 


    ‘เราต้องแสดงให้กริดเห็น!’


    นี่คือหนแรกในชีวิตที่ใครสักคนเห็นคุณค่าของตน  หนแรกที่มีใครสักคนเคารพบูชาจากส่วนลึกจิตใจ


    เคร้ง!  เคร้ง!


    เฮ็กเซเทียเพ่งสมาธิทั้งหมดกับการขึ้นรูปศิลาศักดิ์สิทธิ์

        

    ปัจจุบันมิใช่เวลามัวเหม่อลอย  ตนเป็นเทพผู้สูงสง่า  ห่างไกลจากเทพไร้ความสามารถที่มนุษย์เบื้องล่างเข้าใจ


    ‘เราจะไม่พลาดโอกาสนี้…!’


    เขาต้องไม่แพ้  ไม่อย่างนั้นคุณค่าของเทพจะเสื่อมสลาย


    เฮ็กเซเทียไม่ต้องการถูกมนุษย์ดูแคลน  

    ไม่ต้องการอาศัยอย่างโดดเดี่ยวลำพัง


    ค้อนในมือเทพตีเหล็กกระหน่ำทุบด้วยความเร็วที่มากขึ้นทุกขณะ


    จนกระทั่งเร็วกว่ากริดถึงสิบเท่า


    ‘บ้าน่า!’


    กริดถึงกับผงะ  เขาเคยภาคภูมิใจในความเร็วทุบค้อนของตนมาก  


    ปัจจุบัน  กริดสามารถทุบค้อนได้วินาทีละหกครั้ง  ซึ่งเป็นความเร็วขีดจำกัดของมนุษย์  นี่คือสถิติที่ไม่เคยมีมนุษย์คนใดก้าวถึงมาก่อน


    ทว่า  เฮ็กเซเทียกลับทุบได้เร็วกว่ากริดสิบเท่า  หกสิบครั้งต่อวินาที!    


    ‘หมอนี่ยังเป็นมนุษย์อยู่รึเปล่า...?  อ๊ะ!  จริงสิ…เฮ็กเซเทียไม่ใช่มนุษย์’


    นอกจากเปลวเพลิงที่ลุกโชนรอบหัวนม  รูปลักษณ์เฮ็กเซเทียเหมือนกับมนุษย์ทุกประการ  


    โดยเฉพาะนิสัย  สิ่งนี้ห่างไกลจากตัวตนระดับเทพมาก  ส่งผลให้กริดหลงลืมชั่วขณะว่าเฮ็กเซเทียเป็นเทพ


    แถมยังเป็นเทพตีเหล็ก


    สัตว์ประหลาดที่เร่งอุณหภูมิเตาหลอมในพริบตาได้ด้วยการบิดหัวนม


    ‘ตั้งสมาธิไว้  ห้ามสูญเสียความเยือกเย็นเด็ดขาด’


    เมื่อได้เห็นสัตว์ประหลาดทุบค้อนวินาทีละหกสิบครั้ง  กริดชะงักไปครู่ใหญ่ 


    ชายหนุ่มรีบดึงกลับมา

    เพ่งสมาธิทุบค้อนอีกครั้ง


    ‘แค่เร็วกว่า  ไม่ได้แปลว่ามีประสิทธิภาพสูงกว่า’


    ใช่แล้ว  สิ่งสำคัญคือคุณภาพ


    เทคนิคและความละเอียดอ่อนต่างหากที่จำเป็นในการขึ้นรูปโลหะ  มิใช่ความเร็ว  ความเร็วไม่ทำให้ผลงานออกมาละเมียดละไม

    

    ‘เราต้องรักษาจังหวะของตัวเอง’


    ในการแข่งที่ไม่มีระยะเวลาจำกัด  กริดไม่จำเป็นต้องเร่งรีบ  เขาไม่ควรสนใจคู่ต่อสู้ที่ทุบค้อนหกสิบครั้งต่อวินาทีมากนัก


    ขณะเดียวกัน… 


    เคร้ง—!


    เฮ็กเซเทียชะงักค้อนในมือ


    ศิลาศักดิ์สิทธิ์บนทั่งเกิดเป็นรูปทรงที่งดงามของใบดาบยาว  


    เฮ็กเซเทียคีบใบดาบที่ร้อนฉ่าลงไปจุ่มน้ำเย็น  จากนั้นเริ่มขั้นตอนต่อไป


    เคร้งงงง—  


    เสียงค้อนกระทบโลหะร้อนดังกังวาลไปทั่วทะเลปุยเมฆสีทอง


    “…!”


    กริดชื่นชมที่เฮ็กเซเทียก้าวสู่ขั้นตอนต่อไปได้เร็วกว่าตนมาก  


    ขณะเดียวกัน  ภายในจิตใจยังกังวล  ว่าศิลาศักดิ์สิทธิ์อาจมีประสิทธิภาพยอดเยี่ยมกว่าที่คิดไว้


    ยอดเยี่ยมกว่าพาเฟรเนี่ยมหลายเท่า


    ‘คงต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว…’


    พาเฟรเนี่ยมคือโลหะที่เกิดจากความร่วมมือของสองตำนาน

    แต่ศิลาศักดิ์สิทธิ์เกิดจากฝีมือของเทพ


    ‘ระดับ’ ของศิลาศักดิ์สิทธิ์ต้องสูงกว่าพาเฟรเนี่ยมอย่างไร้เงื่อนไข


    ‘โลหะที่ดีที่สุดของเรากลายเป็นเศษเหล็กเมื่ออยู่ต่อหน้าเทพ…’


    ความเชื่อมั่นในพาเฟรเนี่ยมเริ่มเลือนลางลง  เขาสูญเสียกำลังใจเมื่อตระหนักว่า  โลหะของตนมิอาจเทียบเคียงวัสดุจากเทพได้


    “…”


    ชายหนุ่มชะงักงันค้อนที่กำลังทุบ  

    ความเงียบเริ่มเข้าปกคลุมบรรยากาศ


    พ่ายแม้กระทั่งวัสดุที่ใช้…

    แล้วจะนำสิ่งใดไปเอาชนะเทพได้อีก?

    นี่ตนกำลังสูญเวลาเปล่างั้นหรือ?

    

    ชายหนุ่มสัมผัสถึงเค้าลางความพ่ายแพ้ 


    คงน่าเสียดายไม่น้อยเมื่อพรจากเทพธิดาหนึ่งข้อกำลังหลุดลอยไป… 


    ขณะกริดดำดิ่งลงสู่ห้วงความสิ้นหวัง


    เคร้ง!


    เฮ็กเซเทียเร่งมืออีกคำรบ

    

    ทุกครั้งที่เฮ็กเซเทียทุบใบดาบด้วยค้อน  หัวนมจะฉีดพ่นเปลวเพลิงใส่ใบดาบอย่างต่อเนื่องเพื่อหลอมละลายให้โลหะอ่อนตัว  ง่ายต่อการทุบโดยไม่ต้องเสียเวลานำเข้าเตาหลอม


    เป็นเทคนิคการตีเหล็กที่สะดวกสบายและรวดเร็วกว่ากริดหลายเท่า 


    กริดต้องพึ่งพาเตาหลอมในการละลายโลหะ  แต่เฮ็กเซเทียไม่ต้อง


    เหงื่อไคลเม็ดเป้งผุดขึ้นข้างแก้มกริด


    ยิ่งเฮ็กเซเทียลงมือ  เปลวเพลิงจากหัวนมก็ยิ่งร้อนแรงจนบรรยากาศรอบข้างระอุเหนือคำบรรยาย


    เหงื่อที่แก้มพลันระเหยเป็นไอน้ำ    

    อากาศเดือดปะทุราวกับลาวาร้อนในขุมนรก  ร้อนจนแม้แต่ช่างตีเหล็กในตำนานก็มิอาจทนไหว


    กริดเข้าใจทันที   ว่าเหตุใดเหล่าเทวทูตน้อยถึงเลี่ยงจะเข้าใกล้เฮ็กเซเทีย


    “อึก…!”


    แต่ไหนแต่ไรมา  กริดเคยคิดว่าช่างตีเหล็กในตำนานสามารถทนความร้อนได้ทุกระดับ


    ทว่า  ความจริงแล้วมีขีดกำจัดซ่อนอยู่  เพียงแต่เขาไม่เคยถึงขีดจำกัดมาก่อน


    พลังทนความร้อนที่กริดแสนมั่นใจถูกทำลายลงเมื่ออยู่ต่อหน้าตัวตนระดับเทพ    


    ชายหนุ่มสูญเสียแรงจูงใจที่จะสู้ต่อ


    ‘เรามันโง่เอง  ต้องโง่ขนาดไหนถึงคิดว่าจะเอาชนะเทพได้?’


    ใช่แล้ว  ความพ่ายแพ้คือสิ่งที่เขาต้องเผชิญตั้งแต่ต้น  และภาพวาดของปิกัสโซ่มีไว้เพื่อการนี้


    เขาควรรีบยอมแพ้  ทั้งสองฝ่ายจะได้ไม่ต้องเสียเวลาอย่างเปล่าประโยชน์


    ความเพียรพยายามและไม่ท่อย้อ  

    สิ่งนี้เคยเป็นจุดเด่นของกริดมาตลอด  เขาใช้มันเป็นพลังขับเคลื่อนและฝ่าฝันสถานการณ์ยากลำบากในอดีตหลายหน  


    แต่ทุกสิ่งย่อมมีขีดจำกัดของมัน 


    เขาอาจแข็งแกร่งในสายตามนุษย์  

    ทว่าไม่ใช่กับเทพ


    ขณะกริดถอดใจยอมแพ้ต่อโชคชะตา


[ ชุดเกราะ‘วัลฮัลล่าแห่งห้วงอาทรชั่วนิรันดร์’  ช่วยปรับสภาพอุณหภูมิร่างกายท่าน ]

    

    ข้อความระบบที่ไม่เคยเห็นปรากฏขึ้นในช่วงที่จิตใจและร่ายกายกริดอ่อนล้าสุดขีด


[ วัลฮัลล่าแห่งห้วงอาทรชั่วนิรันดร์ ]

เกรด : ไม่เปิดเผย

ความคงทน : 1,721/1,721

พลังป้องกัน : 1,410

… 

… 

* อุณหภูมิร่างกายผู้สวมจะไม่เปลี่ยนแปลง

…  

เงื่อนไขสวมใส่ : กริด


    ร่างกายของเขาเบาหวิวอย่างน่าประหลาด  เบายิ่งกว่าขนนก


    วัลฮัลล่า  ผลงานที่ดีที่สุดของข่านและเป็นผลงานสั่งเสียสุดท้าย  มันกำลังโอบกอดกริดให้มีร่างกายอบอุ่นอีกครั้ง


    “…ข่าน”


    หัวใจกริดถูกสั่นคลอนอย่างหนัก  


    เขาไม่เคยลืม 

    ข่านสร้างวัลฮัลล่าด้วยจุดประสงค์ใด?  


    ข่านหวังให้กริดมีความสุขในทุกช่วงเวลาของชีวิต  ไม่ว่าสภาพอากาศรอบตัวจะโหดร้ายเพียงใด


    กริดกำค้อนในมือแน่น  

    เขาเริ่มหลั่งน้ำตา    


    ‘แม้แต่ข่านยังไม่ยอมแพ้ในวาระสุดท้าย…’


    ทั้งที่รู้ว่าตัวเองต้องตาย  แต่ข่านก็ไม่ถอดใจ  เขากัดฟันทนต่อพิษแสนเจ็บปวดและสร้างชุดเกราะจนสำเร็จ


    กริดเป็นช่างตีเหล็ก


    การปล่อยมือจากค้อนถือเป็นบาปร้ายแรงที่ไม่ควรกระทำ  เป็นความน่าอับอายและเสื่อมเกียรติ


    ข่านคงเสียใจมากหากเห็นตนในสภาพน่าสมเพชเช่นนี้


    ‘ถึงจะแพ้  แต่เราต้องสู้ด้วยทุกสิ่งที่มี’


    เขาจะไม่ทำให้ข่านผิดหวังเด็ดขาด


    กริดตระหนักได้  

    เขาไม่ได้ต่อสู้คนเดียวอีกแล้ว  


    ความอบอุ่นที่ข่านมอบให้  สิ่งสุดท้ายที่ข่านฝากไว้  มันยังคงมอบเส้นทางให้กริดเดินต่อไปข้างหน้า


    “ย๊ากกก!”

    

    ชายหนุ่มเพ่งสมาธิทุบพาเฟรเนี่ยมด้วยเรี่ยวแรงที่กลับคืน


    เขาหวนนึกถึงผลงานสั่งเสียของข่าน—วัลฮัลล่าแห่งห้วงอาทรชั่วนิรันดร์  


    ชุดเกราะตัวนี้ถูกสร้างจากโลหะแสนธรรมดา  ไม่ใช่โลหะจากเทพ  ไม่มีพลังพิเศษอย่างปราณสีชาดแฝงอยู่


    เหล็กนิล—โลหะแสนดาษดื่นที่พบได้ทั่วไปในโลกมนุษย์  ข่านเปลี่ยนมันให้เป็นวัสดุหลักของชุดเกราะอันดับหนึ่งของโลก


    เกราะของข่านไม่ระบุเกรด

    แต่ประสิทธิภาพของมันเทียบเท่าชุดเกราะเกรดมิธ    


    ใช่แล้ว…คุณภาพของไอเท็มไม่ได้ขึ้นอยู่กับวัสดุ  หากแต่เกิดจากทักษะ  ความตั้งใจที่ใส่ลงไป  และเจตจำนงอันแรงกว่าของผู้สร้าง


    นี่คือบทเรียนสุดท้ายที่อาจารย์ข่านมอบให้ลูกศิษย์กริด  

    

    ‘ข่าน  จับตาดูให้ดี…’


    เคร้ง!  เคร้ง!


    ฟาเฟรเนี่ยมถูกขึ้นรูปเสร็จสิ้น  

    เมื่อเข้าสู่กระบวนการชุบแข็ง  โลหะที่ถูกเปลวเพลิงร้อนระอุหลอมเหลวได้เปล่งแสงสีทองอร่ามยิ่งกว่าครั้งใด


    ‘ศิษย์ของลุงกำลังท้าทายพระเจ้าด้วยบทเรียนที่ลุงสอน!’


    เคร้ง!  เคร้ง!


[ ท่านเพ่งสมาธิถึงขีดสุด  ทักษะ ‘ลมหายใจช่างตีเหล็กในตำนาน’ แสดงผล ]    

[ ท่านเพ่งสมาธิถึงขีดสุด  ทักษะ ‘ความอดทนช่างตีเหล็กในตำนาน’ แสดงผล ]    


[ ท่านเพ่งสมาธิถึงขีดสุด  ทักษะ ‘ลมหายใจช่างตีเหล็กในตำนาน’ แสดงผล ]    

[ ท่านเพ่งสมาธิถึงขีดสุด  ทักษะ ‘ความอดทน…  ]    


[ … ]

[ … ]


    บนดินแดนแอสการ์ด  

    สถานที่แห่งนี้ไม่มีกลางวันและกลางคืน


    ท่ามกลางท้องฟ้าแสนสงบ  

    ผลงานแรกของกริดเสร็จสิ้น


[ ท่านสร้างไอเท็มเกรดมิธสำเร็จ! ]


    ค้อนตีเหล็กใหม่ถือกำเนิดขึ้นจากบทเรียนของอาจารย์ผู้ล่วงลับ

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬

ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 3 ตอน

ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,283

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/


Comments

  1. สุดยอด ขนาดค้อนแกยังสร้างให้เป็นเกรดมิธเลยหรอ แล้วถ้าใช้ค้อนสร้างมันจะเหนือกว่าเกรดมิธได้รึเปล่าหว่า

    ReplyDelete
    Replies
    1. ถ้าให้เดานะดาบที่ถูกตีออกมาน่าจะเป็นเกรดมิธ(ยกระดับ)นะ

      Delete
  2. เจ๋งมาก ขอแค่มีกำลังใจทุกอย่างก็สำเร็จหมด ถึงจะแพ้ก็ลุกขึ้นสู้ใหม่ได้เสมอ สนุกมากครับ 🙏 ขอบคุณครับ

    ReplyDelete
  3. สู้ๆกริด✌️
    ขอบคุณ​มาก​ครับ​แอด​🙏

    ReplyDelete
  4. Replies
    1. เอามัังๆ อยากร้องไห้คิดถึง "บราฮัม" 😥

      Delete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00