จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 609



    ฉึก!

    กี๊!  กรี๊!

    หนึ่งในทหารได้ขว้างสามง่ามปักร่างกริฟฟินเขาเดียว  
    ฉมวกมังกรถือเป็นของแสลงสำหรับมอนสเตอร์ขนาดใหญ่และประเภทบินทั้งหมด
    ไม่มีทางเลยที่กริฟฟินเขาเดียวจะหลบการขว้างจากทหารทั้งห้าคนพ้น

    "ตอนนี้แหละ!"

    "โอ๊ส!"
    
    ทหารทั้งห้าช่วยกันออกแรงดึงโซ่ที่ล่ามติดกับสามง่าม

    จากนั้น

    โครมม!

    ร่างของกริฟฟินเขาเดียวกระแทกพื้นอย่างจัง

    "สุดยอด..."

    กริฟฟินเขาเดียวถูกกำราบง่ายดายขนาดนี้เชียว...!
    
    'แถมจากฝีมือของทหาร!'

    ร่างกายโค้กยังคงแข็งทื่อประหนึ่งรูปปั้นหิน  แม้ว่าจะหลุดจากอาการมึนงงแล้วก็ตาม
    กลุ่มทหารได้หันมาพูดกับโค้ก

    "รออะไรอยู่!!"

    "เร็วเข้า!  รุมแก๊งค์*มัน!"

    'รุมแก๊งค์...'

( *다구리 <ดากูลี> เป็นแสลงสำหรับเกมประเภท MOBA <เกมแนวตีป้อม> ในภาษาเกาหลี  
หมายความว่า  คนหลายคนรุมฆ่าคนๆ เดียว )
    
    ทหารโอเวอร์เกียร์กลุ่มนี้เป็นลูกน้องที่รับใช้กริดมายาวนาน  ไม่แปลกที่จะหลุดแสลงภาษาเกาหลีออกมาบ้าง
    แต่โค้กก็พอเดาได้จากสถานการณ์ตรงหน้า  ก็อดโค้กเริ่มลงมือโจมตีใส่เขาของกริฟฟิน

    กี๊  กรี๊!

    กริฟฟินพยายามดิ้นรนขัดขืนสุดขีด  แต่ทหารกลุ่มนี้เชี่ยวชาญการต่อสู้มาก  พวกเขาคอยดึงโซ่เป็นระยะเพื่อเพิ่มระยะเวลาตรึงของฉมวกมังกร  
    พอฉมวกของเก่าใกล้หมดเวลา  กลุ่มทหารก็ทำการขว้างสามง่ามอันใหม่เข้าใส่  
    ด้วยเหตุนี้  โค้กจึงทุ่มพลังทั้งหมดโจมตีใส่กริฟฟินโดยไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง  ทุกทักษะถูกประเคนใส่กริฟฟินเขาเดียวโดยไม่ยั้งมือ

[ เลเวลของท่านเพิ่มขึ้นหนึ่งระดับ! ]
[ เลเวลของท่านเพิ่มขึ้นหนึ่งระดับ! ]

[ ท่านได้รับไอเท็ม <ขนกริฟฟินเขาเดียว> ]
[ ท่านได้รับไอเท็ม <จะงอยปากกริฟฟินเขาเดียว> ]    
[ ท่านได้รับไอเท็ม <หนังสือเวทมนตร์ : วายุเฉือน> ]

[ ทหารไรน์ฮาร์ท <ริโอ> เลเวลเพิ่มขึ้นหนึ่งระดับ ]
[ ทหารไรน์ฮาร์ท <กาชู> เลเวลเพิ่มขึ้นหนึ่งระดับ ]
...
...

    "ส--สุดยอด..."

    ในตอนแรก  โค้กคาดว่า  ตนมีสิทธิ์สำเร็จภารกิจนี้ได้หากตั้งใจมากพอ 
    แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับง่ายดายกว่าที่คิด  ทุกอย่างมันง่ายไปหมด
    และบัดนี้  โค้กมั่นใจแล้วว่า

    "ทุกสิ่งเป็นไปตามเจตจำนงของก็อดกริด!!"

    สาเหตุที่กริดสร้างภารกิจให้ยาก  เพราะเขาต้องการให้ทุกคนนำทหารติดตัวคอยช่วยเหลือ
    สมกับเป็นก็อดกริดผู้ปราดเปรื่อง!
    จากนั้น  ทหารทั้งห้าเดินมาหาโค้กที่กำลังสั่นระริกอย่างดีใจ  หนึ่งในนั้นได้ยื่นมือออกมาหา

    "ส่วนแบ่งของพวกเราล่ะ"

    "พวกเราช่วยกันสู้  ของรางวัลต้องหารอย่างเท่าเทียม"

    "เอ๋...!  เดี๋ยวสิ... ฉันต่อยแบ่งให้ตอนที่รับรางวัลตอบแทบภารกิจ..."

    "นี่สหาย!  รางวัลตอบแทนภารกิจถือเป็นสิ่งอาณาจักรมอบให้  ไม่เหมือนกับไอเท็มดรอปจากมอนสเตอร์  ส่วนนี้ต้องแบ่งอย่างเท่าเทียม"

    "กษัตริย์กริดมักพูดเช่นนี้เสมอ... อย่าปล่อยให้ตัวเองเสียผลประโยชน์เด็ดขาด"

    "..."

    ณ วันนี้
    อาณาจักรโอเวอร์เกียร์กลายเป็นประเด็นร้อนแรงไปทั่วโลกอีกครั้ง  
    ไม่ได้คึกคักเช่นนี้มานานแล้วนับตั้งแต่พิธีก่อตั้ง

    ===  ภารกิจจะสำเร็จง่ายมากหากขึ้นรถบัสที่ชื่อว่าทหารโอเวอร์เกียร์  ฉันชักอยากย้ายไปอยู่อาณาจักรโอเวอร์เกียร์แล้วสิ

    ===  แต่ทหารเหล่านี้มีค่าจ้างสูงมากเลยนะ...

    ===  แต่ผลลัพธ์ก็ยังออกมาเป็นกำไรอยู่ดี...

    ===  เรียกรถบัสคงไม่ถูกนัก  เครื่องบินน่าจะเหมาะกว่า

    ต้องขอบคุณศรัทธาอันแรงกล้าของโค้ก  อาณาจักรโอเวอร์เกียร์จึงได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในชั่วข้ามคืน  
    จำนวนผู้เล่นที่ย้ายเข้าอาณาจักรโอเวอร์เกียร์มีมากกว่า 50,000 คนเรียบร้อยแล้ว

    ***

    "ทหารประจำการในไรน์ฮาร์ทมีเพียงหนึ่งพันเท่านั้น  พวกเขาไม่สามารถรองรับความต้องการของผู้เล่นทุกคนได้  ดังนั้น  ฝ่าบาทได้โปรดลดระดับความยากภารกิจกลับเป็นเหมือนเดิมด้วย"

    "อะแฮ่ม... ผลลัพธ์ก็ออกมาดีไม่ใช่หรือ  จำนวนพลเมืองผู้เล่นเกินกว่า 50,000 คน  จำนวนประชากรทั้งหมดก็มีราว 800,000 คน"

    "ฝ่าบาทควรไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนมากขึ้น  ตำแหน่งและสถานะของท่านไม่เหมือนเดิมอีก  อย่าลืมว่าทุกการกระทำจะส่งผลกระทบต่อชีวิตนับแสน"

    "...ฉันขอโทษ  แต่ตอนนี้ประชากรก็เพิ่มขึ้นมากแล้ว  ฉันควรได้รับภาษีมากขึ้นด้วยสิ"

    "พวกเรายังทำกำไรไม่ได้  ค่าใช้จ่ายในการพัฒนาบ้านเมืองมีมูลค่าสูงมาก  หากพวกเราไม่มีเงินสนับสนุนจากดยุคสไตม  ป่านนี้เงินคงคลังของอาณาจักรคงติดลบไปนานแล้ว"

    ปัจจุบัน  อาณาจักรโอเวอร์เกียร์มีดินแดนในปกครองทั้งหมด 16 แห่ง

    หกแห่งคือดินแดนตอนเหนือของดยุคสไตมที่มั่นคงเป็นปึกแผ่น  
    ทว่า  อีกสิบแห่งคือดินแดนที่กินเงินภาษีอย่างตะกละตะกลามประหนึ่งฮิปโปโปเตมัส  
    เป็นผลมาจากความต้องทำลายรากฐานอีเทอนัลเดิมทั้งหมดทิ้ง  และสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกขึ้นใหม่ตั้งแต่ต้น
    
    "เป็นเพราะนายเข้มงวดกับการลบร่องรอยอีเทอนัลให้หมดไม่ใช่รึไง  ค่าใช้จ่ายถึงได้บานปลายขนาดนี้"

    "หากปล่อยไว้  รังแต่จะเกิดผลด้านลบ  ลองคิดดูให้ดีสิ  ถ้าอดีตพลเมืองที่เคยจงรักภักดีต่ออีเทอนัลได้เห็นในสิ่งที่ชวนให้นึกถึงความหลัง  พวกเราจะเกิดปัญหาใดตามมาบ้างก็มิอาจทราบได้"

    "ส่วนแบ่งก็เลยเหลือแค่นี้"

    "หากฝ่าบาทจำได้... ในช่วงเวลาที่ญี่ปุ่นยกทัพยึดครองเกาหลี--  ช่างเถอะ  ทั้งหมดเป็นความผิดกระผมเอง"

    "ฉันล้อเล่นน่า... ไม่ได้จะกล่าวโทษว่าเป็นความผิดของนายสักหน่อย  ฉันเชื่อในการตัดสินใจของนายเสมอ... แต่ยังคาใจเกี่ยวกับเรย์ดัน  ทุกวันนี้ยังต้องใช้เงินทุนจำนวนมากในการพัฒนาโรงแปรธาตุอยู่อีกรึไง"

    ลอเอลเชื่อแบบเดียวกับแร็บบิทว่า  โรงแปรธาตุจะนำพาความมั่งคั่งอย่างไร้สิ้นสุดมาให้อาณาจักร
    แต่กริดกลับเห็นต่าง  
    ทำไมกันล่ะ... ในเมื่อโรงแปรธาตุสามารถเพิ่มออปชั่นให้ไอเท็มได้ไม่ใช่หรือ

    'ไร้สาระสิ้นดี...!  มีแต่ออปชั่นขยะทั้งนั้น!'

    กริดพลันมีน้ำโหเมื่อหวนนึกถึงวันเก่า  
    ขณะเดียวกัน  ลอเอลฉีกยิ้มกว้าง

    "อย่างที่เคยกล่าวไป  เมื่อถึงจุดหนึ่ง  โรงแปรธาตุและโรงตีเหล็กจะผสมผสานอย่างกลมเกลียวจนเกิดประสิทธิภาพอันน่าทึ่ง... เราลงทุนกับโรงแปรธาตุไปมากจนถอยหลังกลับไม่ได้อีกแล้ว"

    "ช่างเถอะ  ถ้านายคิดว่าดีก็ทำต่อไป..."

    "อย่ามองในแง่ร้ายนัก  ทุกวันนี้คุณค่าของโรงตีเหล็กได้ประจักษ์ชัดแล้วในหนึ่งเรื่อง  อย่าลืมว่าโพชั่นของเราอยู่ในระดับสุดยอด  สิ่งนี้ช่วยเพิ่มอัตราการรอดชีวิตของทหารในการต่อสู้"
    
    "...แต่มูลค่าของโพชั่นก็แพงมากเช่นกัน"

    "ก็ยังดีว่าสูญเสียทหารมิใช่หรือ"

    "ก็ได้  ก็ได้"

    กริดตระหนักดีว่า  คำพูดของลอเอลไม่มีส่วนใดเกินจริง  
    นับตั้งแต่โรงแปรธาตุเรย์ดันสามารถผลิตโพชั่นและยาระดับสูง  อัตราการรอดชีวิตของทหารก็มีเกือบ 100% เลยทีเดียว
    หากคำนึงจากเวลา  เงินทอง  และความตั้งใจที่ทุ่มเทให้กับทหารแต่ละคน  การรอดชีวิตยอมสำคัญกว่าราคาโพชั่น

    'เราฉุนขาดทุกทีเมื่อได้ยินคำว่าโรงแปรธาตุ  วันหลังคงต้องใจเย็นให้มากกว่านี้'

    ลอเอลเอ่ยปากถาม

    "ฝ่าบาทจะไม่ร่วมชมงานเฟ้นหาผู้มีพรสวรรค์จริงหรือ"

    งานแข่งเฟ้นหาผู้มีพรสวรรค์จะถูกจัดขึ้นที่อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ในสัปดาห์หน้า  จุดประสงค์เพื่อคัดเลือกสมาชิกใหม่เข้าร่วมกิลด์
    ไม่เฉพาะสายต่อสู้  แต่ยังรวมไปถึงความสามารถการทหาร  กุนซือจ้าวกลยุทธ  ด้านวิชาการ  การผลิต  และสายสนับสนุนต่างๆ
    
    กริดตอบกลับโดยไม่ลังเล

    "ถึงจะไม่มีฉัน  แต่นายก็สามารถคัดเลือกสมาชิกได้เองอยู่แล้วนี่... สายตาของนายแหลมคมกว่าฉันมาก  ฉันมองไม่เห็นถึงสาเหตุที่ตัวเองต้องเสียเวลาหลายชั่วโมงเพื่อนั่งเฉยๆ เลยสักนิด  สู้เอาเวลาไปสร้างไอเท็มดีกว่า"
    
    "นานๆ ครั้ง  ฝ่าบาทควรดื่มด่ำไปกับอำนาจของกษัตริย์บ้าง... จากรายงานล่าสุด  ฝ่าบาทพอจะมีเวลาว่างให้พักผ่อนในช่วงนั้น"

    ลอเอลทำงานได้อย่างไรที่ติ  งานหนักส่วนใหญ่ในหน้าที่กษัตริย์ถูกจัดการอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยจนกริดมีเวลาว่าง
    แต่ชายหนุ่มก็มิได้ต้องการละเลยหน้าที่  พักหลังมานี้  เขาคอยหมั่นฝึกฝนช่างตีเหล็กจำนวนมาก  สิ่งนี้ถือเป็นงานที่ยากไม่แพ้กัน  
    ยิ่งไปกว่านั้น  กริดต้องตระเวนไปตามเมืองพร้อมกับ <ดาบแห่งลอร์ดผู้ยิ่งใหญ่> เพื่อตรวจหาผู้มีพรสวรรค์ด้านตีเหล็ก

    "ฉันคงผ่อนคลายไม่ได้จนกว่าจะมีช่างตีเหล็กขั้นสูงครบ 100 คน  อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ต้องกลายเป็นอาณาจักรของช่างตีเหล็ก"

    กริดยึดติดกับช่างตีเหล็กขั้นสูงด้วยเหตุผลบางประการ...
    ช่างตีเหล็กขั้นสูงสามารถกระทำงานที่ยากได้  สิ่งนี้เป็นประโยชน์ต่อกริดมาก  
    ทุกครั้งที่เขาสร้างไอเท็ม  หากได้ช่างตีเหล็กขั้นสูงเป็นลูกมือ  ระยะเวลาในการสร้างจะลงลดจากเดิมหลายเท่า  เร็วกว่าสร้างไอเท็มตามลำพังอย่างเทียบไม่ติด

    "ช่างเถอะ  งานคัดเลือกคงราบรื่นได้โดยไม่มีฉัน...  ฉันเชื่อใจนายเสมอ"

    "ขอบพระทัยฝ่าบาท"

    กริดและลอเอล  สายสัมพันธ์ของคนทั้งสองเปี่ยมด้วยความเชื่อใจกันและกันอย่างหาที่สุดมิได้
    กษัตริย์และมือขวา
    หัวหน้ากิลด์และลูกน้อง
    มิตรสหาย

    ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์แบบใด  แต่ความเชื่อใจก็ไม่เปลี่ยนแปลง
    
    ***

    "บ้าจริง...!  พลังอำนาจของจักรวรรดิมีมากมายขนาดนี้เชียว..."

    ณ ที่ราบทาทูลัน  มหาสงครามรบพุ่งฆ่าฟันอย่างเอาเป็นเอาตายเกิดขึ้นที่นี่
    บริเวณชายแดนระหว่างอาณาจักรเบลโต้กับจักรวรรดิซาฮารัน  
    เทพสงคราม 'อาเรส' นำกองทัพเข้าประจัญบานกับทัพหลวงของจักรวรรดิที่นำโดยอัศวินสีชาดลำดับหนึ่ง 'เมอร์เซเดส' 
    ศึกสงครามยาวนานสามวันสามคืน  ก่อเกิดเป็นทะเลโลหิตสุดสยดสยองชวนอาเจียน
    ผลลัพธ์การต่อสู้... กองทัพอาเรสถูกกดดันให้ตกเป็นฝ่ายตั้งรับ

    "ไอ้บัดซบลิมชอลโฮ!"

    อาเรส  ผู้ยังใจเย็นอยู่ได้แม้ต้องเผชิญหน้ากับครอเกล  บัดนี้ก่นด่าสบถอย่างหัวเสียสุดขีด
    พลังอำนาจของกองทัพจักรวรรดิยิ่งใหญ่เกินไป  ราวกับลิมชอลโฮได้ตอกลิ่ม <จักรวรรดิไม่มีวันพ่ายแพ้ต่อผู้เล่น> ลงในใจอาเรส

    "อัศวินลำดับหนึ่งถึงสามเป็นปีศาจที่อยู่คนละมิติกับพวกเรา... ต่อให้ครอเกล  กริด  และแอ็กนัสร่วมมือกันก็ไม่มีทางเอาชนะได้แน่"

    สก็อตต์รู้สึกหดหู่  
    ผู้เล่นที่ครอเกลให้การยอมรับในฝีมือ  อาเรส  กลับถูกอัศวินตั้งแต่ลำดับสามลงไปกำราบอย่างหมดท่า
    ถึงแม้อาเรสจะมีบัฟที่ช่วยเพิ่มค่าสถานะทุกชนิด 10% และเพิ่มความรุนแรงทักษะอีก 20% หากศัตรูมีจำนวนมากกว่า 1,000 แล้วก็ตาม
    กองทัพอาเรสมิอาจบุกเข้าถึงตัวอัศวินลำดับหนึ่งอย่างเมอร์เซเดส  ผู้เป็นแม่ทัพได้เลย

    "NPC ระดับสุดยอด... เลเวลของเธอสูงเกินไป"

    นี่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ซาทิสฟายเปิดตัว  ที่คนอย่างอาเรสบังเกิดความรู้สึกท้อแท้สิ้นหวัง
    แม้จะคอยสั่งสมกำลังพลในอาณาจักรเบลโต้มานานถึงสามปีเต็ม  แต่เขาก็มิอาจก้าวข้ามขีดจำกัดที่ชื่อว่าจักรวรรดิได้

    "ห้าเสาหลักของจักรวรรดิที่เป็นขุนพลคู่กายจักรพรรดิยังไม่ทันลงมือด้วยซ้ำ... ชิ!  ทุกคนถอยทัพ!  พวกเราจะสกัดกั้นการรุกรานของศัตรูที่ป้อมปราการกรังด์ปรีส์"

    อาเรสสูญเสียกำลังพลไปมาก  เขาตัดสินใจถอนทัพ
    เมื่อทหารฝ่ายอาเรสเริ่มเคลื่อนไหว  เมเซเดสได้ส่งข้อความเสียงมาหาอาเรสทันที

    >>  จงสำนึกไว้ทุกลมหายใจว่า  ทวีปตะวันตกทั้งหมดอยู่ในความปกครองของจักรวรรดิ

    'บัดซบ!  NPC บ้าบออะไรกันถึงส่งข้อความส่วนตัวหาผู้เล่นได้... ขนลุกไปหมดแล้วโว้ย!'

    การเอาชนะจักรวรรดิย่อมหมายถึงการได้เป็นผู้ปกครองคนใหม่ของทวีป  
    ดังนั้น  เป้าหมายของอาเรสตั้งแต่ต้นคือการโค่นล้มจักรวรรดิ  
    แต่บัดนี้  อาเรสได้ตระหนักแล้วว่า  เป้าหมายของตนไม่มีทางเป็นจริงได้ในอนาคตอันใกล้

    'สงครามกินระยะเวลานานเกินไป  เราควรยึดครองอาณาจักรเบลโต้ให้ได้เสียก่อน  จากนั้นก็ตั้งตนเป็นกษัตริย์'

    อาเรสตัดสินใจรวดเร็วฉับไว  เขานำกองทัพล่าถอยโดยยอมสละทหารจำนวนหนึ่งไว้คอยสกัดกั้นหน่วยไล่ล่า
    เมอร์เซเดสจ้องมองไปยังกองทัพอาเรสที่อยู่ห่างออกไปด้วยสายตาคมกริบ
    ในเวลานี้  เธอเริ่มตระหนักได้ว่า  อาณาจักรเล็กๆ ที่ไม่มีพิษมีภัยอย่างเบลโต้  ปัจจุบันกลายเป็นอาณาจักรเสี้ยนหนามที่ต้องรีบกำจัดโดยด่วน
    นี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวบทใหม่สุดอลังการในซาทิสฟาย
    <การผนึกกำลังของทวีปตะวันตก>

    ***

    "เรย์ดอร์นเป็นยังไงบ้าง..."

    "วันนี้ก็ไม่เปิดปากพูดเช่นเคย"

    "หัวแข็งฉิบ... อดทนต่อการทรมานได้ตลอดหนึ่งเดือนเต็มเลยรึไง"

    ณ วังหลวงไรน์ฮาร์ท
    กริดส่ายศีรษะเมื่อลงมาสำรวจคุกใต้ดินตามปรกติ
    บนร่างกายเรย์ดอร์นเต็มไปด้วยบาดแผลฉกรรจ์  แขนขาถูกล่ามโซ่
    แต่มันกลับแสยะยิ้มอย่างเย้ยหยันให้กริด

    "มีเพียงความพังพินาศเท่านั้นที่รอแกอยู่!"

    "หุบปากซะ  เจ้าสุนัขไร้มารยาท"

    "อั่ก...!"

    สำหรับศัตรู  กริดไม่เคยมีคำว่าปราณี
    เขาใช้หอกแทงใส่ต้นขาเรย์ดอร์นด้วยสีหน้าเรียบเฉย

    'ปกปิดความลับจนตัวตายสินะ... พวกมันหัวรั้นเหมือนกับสาวกยาธานไม่มีผิด'

    ท้องฟ้าอันสดใสก่อนพายุจะก่อตัว  สิ่งนี้เริ่มทำให้กริดวิตกกังวล
    และดูเหมือนว่า  เขาจะก่อพายุไว้หลายลูกทีเดียว

Comments

  1. อัศวินลำดับ 1 ที่ผู้เล่นไม่สามารถชนะได้ จะเป็นยังไงถ้ากริดได้มาเป็นขุนพลข้างกาย

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00