จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 594
มันเป็นงานที่ยาก... ยากเกินกำลังมนุษย์
หนึ่งสัปดาห์...
'หนึ่งสัปดาห์กับผีสิ!'
เขาต้องใช้เวลานานเกือบสองสัปดาห์ในการยิงศรเวทใส่โลหะ 19 ชนิด
ผลข้างเคียงจากการยิงเวทติดต่อกัน นับว่าร้ายแรงมากกว่าที่กริดคิดไว้
'ได้เวลาแล้วสินะ'
ทันทีที่ลืมตาตื่น กริดเชื่อมต่อกับซาทิสฟายและเข้าไปยิงศรเวทจนกระทั่งง่วง จากนั้นก็กลับเข้านอน
สิ่งนี้เกิดขึ้นซ้ำไปมาทุกวัน
จิตใจกริดเริ่มอ่อนล้า มีหลายหนที่เขาคิดถอดใจยอมแพ้
ไม่ได้เกินจริงนักหากจะกล่าวว่า กริดอาจเสียสติไปก่อนจะยิงศรเวทครบ 190,000 ครั้ง
'มนุษย์จะไปทำเรื่องบ้าบอแบบนั้นได้ยังไง...'
ครั้งนี้ไม่เหมือนกับครั้งที่ตนทำภารกิจค้นหาถ้ำสุดเขตแดนเหนือจนได้พบหนังสือหายากของแพ็กม่า
สมัยนั้น กริดทำสำเร็จเพราะจิตใจเปี่ยมไปด้วยความโมโหโกรธแค้น เขาใช้มันเป็นแรงผลักดันตนเองจนทำภารกิจสำเร็จ
ความโกรธคือพลังที่ยิ่งใหญ่ หากรู้จักควบคุมมัน
แต่หนนี้ เขาปราศจากความโกรธแค้นโดยสิ้นเชิง สิ่งที่เดียวที่ใช้ข้ามผ่านอุปสรรค์คือพลังใจที่แข็งแกร่ง และความห่วงใยที่มีต่ออิสซาเบล
หากเขาไม่ทำ อิสซาเบลอาจตายในการใช้ร่างสีขาวครั้งต่อไป
กริดลืมวันเวลารอบตัวโดยสมบูรณ์
การทำสิ่งเดิมซ้ำไปมา มันกำลังกัดกร่อนจิตใจของเขาทีละนิด
'ยัง... เราจะยอมแพ้ไม่ได้เด็ดขาด'
หากยอมแพ้ ทุกสิ่งที่ทำมาตลอดหลายก้วันจะสูญเปล่า
นิสัยของกริดเป็นคนขี้งก เขาไม่ยอมสูญเสียสิ่งใดไปฟรี โดยไม่ได้รับบางสิ่งตอบแทนกลับมา
และเหนืออื่นใดทั้งหมด
"กริด..."
"..."
เขาจะหันหลังทอดทิ้งอิสซาเบลไม่ได้เด็ดขาด เธอผู้นี้มีชะตาชีวิตที่น่าเศร้าเกินไป
ถูกพรากวัยเด็กยังไม่พอ ในวัยสาวกลับต้องทุกข์ทรมาณจากพลังของสิ่งที่เรียกว่า 'เทพ'
จุดเริ่มต้นกริดคือหวังให้เธอมีความสุข
'เราจะหยุดแค่นี้ไม่ได้!'
เป๊ง! เป๊ง! เป๊ง!
กริดเริ่มกระหน่ำยิงศรเวทอย่างไม่หยุดพักด้วยจิตใจฮึกเหิม
100 200 500 1,000 5,000 10,000 ครั้ง
เป็นเช่นนี้อยู่หลายวัน...
เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้า กริดเริ่มเหม่อลอย เขาเลิกนับจำนวนครั้งการยิงไปแล้ว
ชายหนุ่มไม่มีสติพอที่จะนับ
"กริด! พอได้แล้ว! หยุดเถอะ!"
ผ่านไปกี่วันแล้วนะ...
อิสซาเบลพลันหน้าซีดเมื่อได้เห็นกริดกระอั่กเลือดไปพร้อมกับการยิงศรเวท
เธอทนดูต่อไปไม่ไหว อิสซาเบลไม่ต้องการให้กริดบอบช้ำเพราะตนไปมากกว่านี้
แต่ทันใดนั้นเอง...
ชิ้ง~
กริดยิงศรเวทด้วยฝ่ามือสั่นระริก
[ ภารกิจลุล่วง! ]
[ ท่านได้รับทักษะ <สร้างยุทธภัณฑ์เวทมนตร์ เลเวล 1> ]
ข้อความระบบที่น่ายินดีแสดงขึ้น
นี่คือวินาทีซึ่งกริดทำการยิงศรเวทครบ 190,000 ครั้ง
[ สร้างยุทธภัณฑ์เวทมนตร์ เลเวล 1 ]
โลหะสามารถซึบซับการโจมตีจากเวทมนตร์ได้
หากท่านสร้างไอเท็มด้วยโลหะชนิดนี้ มีโอกาสปานกลางที่ไอเท็มจะแฝงไว้ด้วยออปชั่นเวทมนตร์
* เกรดของโลหะแบ่งได้ตั้งแต่ทั่วไปถึงเลเจนดารี ขึ้นอยู่กับเวทมนตร์ที่ใช้ฝึกโลหะ ยิ่งเป็นเวทมนตร์เกรดสูง เกรดโลหะก็ยิ่งสูงขึ้น
* ทักษะเลเวล 1 - เวทมนตร์ที่สามารถใช้ได้มีเพียงศรเวทเท่านั้น
* ในการจะเพิ่มเลเวลของทักษะ ท่านต้องฝึกโลหะด้วยเวทมนตร์ที่มีระดับสูงขึ้น
"เยี่ยม... ยอดเยี่ยมมาก!"
หลังจากผ่านช่วงเวลาโหดร้ายแสนสาหัส สิ่งตอบแทนมักยอดเยี่ยมเสมอ
กริดแสดงสีหน้าโล่งใจ แม้มีใบหน้าจะทรุดโทรมลงมากก็ตาม
"อิสซาเบล... เธอพร้อมที่จะมีความสุขรึยัง"
"ก--กริด..."
น้ำตาอิสซาเบลพรั่งพรูไม่ขาดสาย
ตั้งแต่ยังเล็ก เธอถูกฝืนใจและล้างสมองให้เสียสละตนเอง อุทิศกายใจให้เทพธิดารีเบคก้าเพียงผู้เดียว เธอจึงรักและศรัทธาเทพธิดารีเบคก้าที่สุด
แต่บัดนี้ ผู้มีพระคุณตัวจริงได้ปรากฏอยู่ตรงหน้า
ตัวตนของกริดยิ่งใหญ่และพิเศษกับอิสซาเบลมาก
ความศรัทธาและความเชื่อที่มีต่อกริด สิ่งเหล่านี้มั่นคงยิ่งกว่า และบริสุทธิ์ยิ่งกว่าที่เธอมีให้เทพธิดารีเบคก้าเสียอีก
'เดี๋ยวนะ...'
กริดอมยิ้มอย่างภาคภูมิเมื่อได้เห็นสีหน้าโล่งใจของอิสซาเบล
แต่ทันใดนั้น ชายหนุ่มกลับต้องขมวดคิ้วอีกครั้ง
* ในการจะเพิ่มเลเวลของทักษะ ท่านต้องฝึกโลหะด้วยเวทมนตร์ที่มีระดับสูงขึ้น
ถ้อยคำนี้ทำให้กริดเริ่มมวนท้อง
'นี่บราฮัม... การอัพเลเวลทักษะสร้างยุทธภัณฑ์เวทมนตร์... อย่าบอกนะว่า...'
'เดาเก่งนี่... ถูกต้อง หลังจากนี้ หากนายเรียนเวทมนตร์โจมตีชนิดใหม่เพิ่ม นายสามารถฝึกโลหะได้ด้วยการยิงมันชนิดละ 10,000 ครั้ง'
"..."
แม้จะน่าเบื่อมาก แต่กริดก็สามารถยิงศรเวทจนครบ 190,000 นัดได้ภายในสิบวัน
ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น...
เพราะศรเวทมีระยะหน่วงน้อยและสิ้นเปลืองมานาไม่มาก
หากเป็นเวทที่ระดับสูงกว่านี้ การจะยิงให้ครบ 190,000 ครั้ง...
กริดไม่อยากนึกภาพตาม
"เฮ่อ..."
ชายหนุ่มถอนหายใจอย่างหดหู่ ประหนึ่งคนที่เพิ่งเสียอาณาจักรไป
***
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เกิดความปั่นป่วนอย่างมากกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ของประเทศบราซิล
จิสึกะ หญิงสาวผู้ร่ำรวยและทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำจากซาทิสฟาย บัดนี้รีบเทขายที่ดินและอาคารเป็นจำนวนมากในประเทศบราซิล
เป็นการขายที่รีบร้อน เธอปล่อยพวกมันในราคาถูกกว่าที่ควรจะเป็น
เหตุใดต้องรีบร้อนขนาดนี้
ผู้คนเริ่มพากันวิเคราะห์
หรือจิสึกะจะได้รับข่าววงใน ว่าอหังหาริมทรัพย์ของประเทศบราซิลกำลังถึงจุดตกต่ำ ก็เลยรีบเทขายก่อนจะขาดทุนไปมากกว่านี้
หรือจิสึกะจะติดสารเสพติด ทำให้ต้องใช้เงินจำนวนมาก
หรือจิสึกะเตรียมย้ายไปอยู่เกาหลีใต้กับกริด
ดูเหมือนงานแต่งของคนทั้งสองกำลังจะมีขึ้นในอีกไม่ช้า
และอีกมากมาย
ยิ่งความสงสัยในตัวจิสึกะเพิ่มพูน มันจึงกลายเป็นประเด็นลุกลามที่ผู้คนทั่วโลกสนใจ ไม่มีทางที่สื่อจะนิ่งดูดายในสถานการณ์เช่นนี้
สื่อท้องถิ่นบราซิลรีบติดต่อขอสัมภาษณ์จิสึกะด้วยเงินก้อนโต
และบทสัมภาษณ์ของเธอได้สร้างความตกตะลึงไปทั่วโลก
"คุณจิสึกะครับ เมื่อไม่นานมานี้ ชาวบราซิลต่างเป็นกังวลกันอย่างมาก คุณช่วยอธิบายสาเหตุที่รีบเทขายอสังหามูลค่ามหาศาลจะได้ไหม"
"ดิฉันต้องการเงินจำนวนมากสำหรับจ่ายค่าไอเท็ม"
"เอ๋...!"
"ไอเท็ม...! ไอเท็มในซาทิสฟายงั้นหรือครับ"
"ใช่ค่ะ"
"...!!"
มีการประเมินกันว่า มูลค่าของทรัพสินที่จิสึกะขายไปทั้งหมดจะอยู่ราว 60 ล้านดอลล่าส์ เป็นเงินจำนวนมากซึ่งสามารถก่อตั้งบริษัทใหญ่ได้สบาย
เธอใช้เงินมากมายขนาดนี้เพียงเพื่อซื้อไอเท็มเนี่ยนะ
แต่ทันใดนั้น ราวกับนักข่าวฉุกคิดบางสิ่งได้ เขารีบยิงคำถามถัดไป
"คุณกำลังจะจ้างกริดสร้างเซ็ตไอเท็มใหม่ใช่ไหมครับ!"
ใช่แล้ว กริดคือช่างตีเหล็กในตำนาน มูลค่าไอเท็มที่กริดสร้างแตกต่างจากไอเท็มตามท้องตลาดโดยสิ้นเชิง
มันฟังดูสมเหตุสมผลหากนำเงิน 60 ล้านดอลล่าส์ไปใช้ในการซื้อ 'เซ็ตไอเท็ม' จากกริด
ลองคิดดูสิ ถ้าแร้งเกอร์ระดับท็อปของโลกสวมใส่เซ็ตไอเท็มเกรดเลเจนดารีจากกริดตั้งแต่หัวจรดเท้า พวกเขาจะสังหารมอนสเตอร์ได้รวดเร็วมากเพียงใด
กิลด์โอเวอร์เกียร์จะบุกเบิกเนื้อหาใหม่ของซาทิสฟายได้เร็วกว่าใครทั้งหมด
เป็นจำนวนเงินที่สมเหตุสมผลกับสุดยอด 'เซ็ตไอเท็ม' แล้ว
จิสึกะส่ายหัวเล็กน้อย
"ไม่ค่ะ... มันคือมูลค่าของธนูเพียงหนึ่งคัน"
"..."
ไอเท็มที่กริดสร้างมีราคาแพงขนาดนี้เชียวหรือ… แถมยังเป็นราคามิตรภาพ!
ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปสามารถจับต้องได้
หลังจากบทสัมภาษณ์ถูกตีพิมพ์ออกไป เกิดเป็นบทความเกี่ยวกับกริดตามมาอีกนับไม่ถ้วน โลกอินเทอร์เน็ตถึงคราวปั่นป่วนไปพักใหญ่
=== หรือกริดจะกลายเป็นอภิมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก...
=== เจ้ากริดนั่น...
***
วิหารยาธาน
ศัตรูคู่อาฆาตของโบสถ์รีเบคก้า
ปณิธานเดียวของพวกมันคือการอัญเชิญจอมอสูรมายังโลกมนุษย์
ดังนั้น หนึ่งในหน้าที่หลักจึงรวมไปถึงการสังหารบุตรีแห่งรีเบคก้า
ขุมกำลังโบถส์รีเบคก้าจะแข็งแกร่งกว่าฝ่ายยาธานมาก เพียงการมีตัวตนของบุตรี วิหารยาธานก็ถูกทำลายไปหลายแห่ง พวกมันจึงแทบไร้การเคลื่อนไหวในระยะหลัง
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง… การมีตัวตนของอิสซาเบลผู้นั้น
นี่คือเหตุผลที่ภารกิจ <สังหารบุตรีแห่งรีเบคก้า (SSS)> ค้างคาอยู่ในช่องภารกิจของผู้เล่นสังกัดวิหารยาธานทุกคน
การดับลมหายใจบุตรีแห่งรีเบคก้านั้นใช่เรื่องง่ายดายที่ไหนกัน
ด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์อันทรงอานุภาพของเทพธิดารีเบคก้า ศาสตราเทพของโบสถ์จึงเปรียบดั่งของแสลงสำหรับอัศวินมืดและจอมเวทมืดทุกคน
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่สาวกยาธานจะล้มบุตรีได้
แต่ปัจจุบัน โอกาสนั้นมาถึงแล้ว
อิสซาเบล บุตรีแห่งรีเบคก้าอันดับหนึ่ง ณ เวลานี้ วิหารยาธานได้รวบรวมข้อมูลและทราบมาว่า เธอกำลังอยู่ในสภาพอ่อนแอสุดขีดหลังจากต่อสู้กับจอมอสูรบีเลียล
"ท่านมหาราชินีบีเลียลเสียสละชีวิตของตนเพื่อสร้างโอกาสนี้ให้พวกเรา!"
"อิสซาเบลอยู่ในสภาพไร้พลัง แค่ส่งพวกสาวกเข้าไปก็พอแล้ว!"
ทั่วทั้งทวีปจะมีวิหารยาธานแอบซุ่มซ่อนอยู่เป็นจำนวนมาก
พวกมันจึงใช้สายข่าวในการหาตัวอิสซาเบลได้ไม่ยาก
สาวกยาธานกลุ่มหนึ่งกำลังนั่งล้อมวงพร้อมกับแสยะยิ้มชั่ว
***
สาวกยาธานแบ่งได้เป็น 8 ระดับ
สาวกระดับ 8 จะอ่อนแอเทียบเท่าพลทหารอาณาจักร
ส่วนสาวกระดับ 1 จะเก่งฉกาจมาก ฝีมือรบไม่ด้อยไปกว่าข้ารับใช้ยาธานมากนัก ทั่วทั้งทวีปจึงมีเพียง 100 คน
"ที่นี่แหละ"
"ส่งครามที่เกิดขึ้นทำให้ระดับความปลอดภัยต่ำลง"
สาวกยาธานระดับ 1 อาดุสและบ็อน พวกมันแทรกซึมเข้าไรน์ฮาร์ทอย่างง่ายดาย
ยามนี้คือช่วงเวลาหลังสงครามที่ไม่มีทหารประจำเวรยามมากนัก เพราะเกือบทั้งหมดถูกเกณฑ์ไปทำงานก่อสร้างและซ่อมแซม
"อิสซาเบลอยู่ไหน"
"ไม่แน่ใจ พวกเราค่อยตรวจจับพลังศักดิ์สิทธิ์เอาก็แล้วกัน"
ท่ามกลางความมืดมิด บ็อนและอาดุสอำพรางตนเองกับเงาของกำแพงเมือง จากนั้นก็เริ่มใช้เวทมืด
นี่คือเวทตรวจจับที่จอมเวทมืดอาวุโสเกือบทุกคนใช้เป็น
เวทตรวจจับของจอมเวทมืดใช้เพื่อจุดประสงค์เดียวเท่านั้น คือการตรวจจับหาพลังศักดิ์สิทธิ์
พวกมันสามารถระบุพิกัดของอิสซาเบลได้แทบจะทันที
"เธอกำลังอ่อนแอ... เป็นไปตามข่าวลือ"
"ไม่ต้องถึงมือพวกเราก็ได้กระมัง"
"แต่ภารกิจนี้สำคัญมากและจำเป็นต้องทำให้ลุล่วง พวกเราจะไว้ใจสาวกระดับล่างไม่ได้เด็ดขาด มีแต่ต้องลงมือด้วยตนเองเท่านั้น"
"งั้นก็ช่วยไม่ได้"
ปัจจุบัน พลังศักดิ์สิทธิ์ของอิสซาเบลอ่อนแอประหนึ่งเทียนไขใกล้ดับมอด พลังชีวิตและอายุขัยของเธอกำลังเลือนหาย
พวกมันไม่ต้องกังวลว่าเธอจะใช้ร่างสีขาว เพราะหากอิสซาเบลเปิดโหมดร่างสีขาวในตอนนี้ ชีวิตของเธอจะจบลงทันที
แสยะ
บ็อนและอาดุสแสยะยิ้มชั่วพร้อมกับกลมกลืนหายไปในความมืด
เป้าหมายคือโรงตีเหล็กทางตอนเหนือของเมืองไรน์ฮาร์ท
"พบตัวหล่อนแล้ว"
บ็อนและอาดุสแอบมายืนหน้าทางเข้าโรงตีเหล็กอย่างเงียบเชียบ
แม้จะเป็นยามวิกาลอันมืดมิด แต่แสงไฟจากเตาหลอมกลับสว้างไสวไปทั่วบริเวณ
หน้าเตาหลอมมีช่างตีเหล็กนิรนามนั่งอยู่ อิสซาเบลกำลังเฝ้ามองชายคนดังกล่าวอย่างไม่ละสายตา
"เธอกำลังทำอะไรอยู่..."
บุตรีแห่งรีเบคก้ามัวนั่งเสียเวลาอยู่ในโรงตีเหล็กทั้งที่กำลังจะตายเนี่ยนะ
บ็อนและอาดุสไม่เข้าใจสถานการณ์ดีนัก แต่มันคิดว่านี่คือโอกาสทอง
สีหน้าของพวกมันเริ่มได้ใจ
"หรือหอกไลฟาเอลจะชำรุด..."
"ศาสตราเทพชำรุดงั้นหรือ… พลังของเทพธิดารีเบคก้าเสื่อมถอยแล้วใช่ไหม"
"มหาราชินีบีเบียลคงสร้างบาดแผลใหญ่หลวงให้พวกมัน"
"เป็นแบบนี้นี่เอง!"
พวกมันเริ่มมั่นใจแล้ว บัดนี้ อิสซาเบลกำลังบาดเจ็บหนักพร้อมกับศาสตราเทพที่ชำรุด เธอจึงกลับวาติกันไม่ได้
"หอกไลฟาเอลเสียหายหนักจนต้องเร่งซ่อมแซมสินะ..."
"โอกาสทองมาถึงแล้ว"
อิสซาเบลกำลังอ่อนแอ และศาสตราเทพของเธอกำลังชำรุด
การสังหารเธอในตอนนี้คงง่ายราวกับบี้แมลงวันหนึ่งตัว
บ็อนและอาดุสหันมองหน้ากันก่อนเริ่มลงมือ
โครมมมม!
พวกมันทำลายกำแพงโรงตีเหล็กด้วยเวทมืด
"คุฮ่าฮ่าฮ่า! นังสุนัขรีเบคก้า! วันนี้คือวันตายของแก!"
พวกมันกวัดแกว่งดาบเวทมืดใส่อิสซาเบลอย่างพร้อมเพรียง
ทว่า คมดาบยังไม่ทันจะถึงตัวอีกฝ่าย...
"อะไรกัน...!"
ช่างตีเหล็กที่นั่งอยู่หน้าเตาหลอม
ใช่แล้ว เป็นช่างตีเหล็กไม่ผิดแน่
ในตอนแรก ช่างตีเหล็กนิรนามผู้นี้กำลังก้มหน้าใช้ค้อนทุบหอกสีทอง
บ็อนและอาดุสจึงไม่ให้ความสำคัญมากนัก
ซู่วซู่วซู่วซู่วซู่ว!
ศรเวทหลายสิบนัดถูกยิงจากปลายแหลมของหอกสีทองอย่างฉับพลัน
"ได้ยังไง...!"
ฉึกฉึกฉึก!
ทั้งบ็อนและอาดุสต่างตกตะลึงเมื่อถูกศรเวทจำนวนมากเสียบทะลุร่าง
นี่คือศรเวทที่อัดแน่นไปด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์
มิใช่สิ่งที่บาเรียมืดจะสกัดกั้นได้
GG EZ
ReplyDeleteGG
ReplyDeleteมาให้เป็นหนูทดลองอาวุธแท้ๆ555
ReplyDeleteอัพเลเวลไปในตัว
ReplyDelete