จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 591
ณ แถบชานเมืองอินส์บรุค ประเทศออสเตรีย
หากเดินขึ้นภูเขามาเรื่อยๆ สุดปลายทางจะได้พบกับปราสาททรงยุโรปหลังเก่า สองข้างทางรายล้อมด้วยทะเลสาปสีครามใสสะสาด
เป็นภาพที่งดงามตระการตาเมื่อเหล่านักน้อยฝูงใหญ่บินผ่าน
แต่เหตุใด… สถานที่แห่งนี่ถึงมีบรรยากาศหม่นหมองนักนะ
ฟ้าวว~
สายลมพัดผ่านทุ่งกว้างเขียวขจีอันว่างเปล่า
สถานที่แห่งนี้ปราศจากสัญญาณสิ่งมีชีวิตโดยสิ้นเชิง
***
ห้องขนาด 100 พยองที่ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ใดตกแต่ง
มีเพียงแคบซูลหนึ่งเครื่องตั้งวางใจกลางห้อง
"ลูน่า..."
ชายผู้หนึ่งกำลังหลับใหลในแคปซูล สีหน้าของเขาขาวซีดแลบิดเบี้ยวประหนึ่งกำลังฝันร้าย
เส้นผมย้อมเขียวกำลังเปียกปอนคราบน้ำตา
เสียงละเมอแหบพร่าเจ็บปวดแทบขาดใจ
"ลูน่า...!"
ชายผู้กำลังฝ่ายร้ายและเรียกชื่อใครสักคนด้วยสีหน้าทุกข์ทรมาณ...
แอ็กนัส...
มันละเมอตะโกนเสียงดังพร้อมกับลุกขึ้นนั่งอย่างเหนื่อยหอบ
"แฮ่ก... แฮ่ก..."
มันหาคนรักของตนไม่พบ แม้วจะกวาดสายตามองจนรอบปราสาทเก่าหลังนี้
ความจริงอันแสนเย็นชาและโหดร้ายทำให้สติของแอ็กนัสเริ่มกลับคืนมา
"ลูน่า..."
แอ็กนัสลุกขึ้นและเดินไปยังหน้ต่าง ดวงตาสีทองของมันจดจ้องทะเลสาปใสสะอาดด้านนอก
ทะเลสาปสีครามเบื้องหน้ากำลังสะท้อนเงาภาพปราสาททั้งหลัง
มันอบอุ่นหัวใจทุกครั้งเมื่อยืนชมทิวทัศน์นี้พร้อมกับเธอ...
แต่ปัจจุบันคงเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว
"...วิวที่เธอชอบมองทุกเช้า"
ในอดีต แอ็กนัสต้องเก็บออมอย่างยากลำบากเพื่อซื้อปราสาททั้งหลัง
เป็นเงินจำนวนมหาศาลจนน่าตกตะลึง
แต่น่าเสียดายที่ทุกสิ่งสายเกินไป แอ็กนัสต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวตามลำพัง
ภายในปราสาทเก่าหลังใหญ่แห่งนี้ ไม่มีผู้ใดอาศัยอีกแล้วนอกจากมัน
แอ็กนัสพยายามข่มน้ำตา
คนรักของตน ลูน่า เธอต้องเผชิญจุดจบอันโหดร้ายทารุณเพียงเพราะความไม่เอาไหนของตน
แอ็กนัสอยากฆ่าตัวตายทุกครั้งหวนนึกถึงอดีต
มันรู้สึกเจ็บแค้นใจที่โลกนี้ไม่มีเทคโนโลยีย้อนเวลา
"ฉ...ฉันฉยากพบเธออีกครั้ง"
โงนเงน
แอ็กนัสก้าวเดินอย่างไร้เรี่ยวแรงกลับไปทิ้งตัวลงนอนบนแคปซูล
มันทำการเชื่อมต่อกับโลกอีกใบหนึ่ง ซาทิสฟาย
โลกซึ่งสามารถเติมเต็มสิ่งที่มันขาดหายไปในความจริง
***
"ชิ...! บัดซบ!"
"..."
สองพี่น้องแบล็คไวท์ทำการบุกรุกเรย์ดันและพบกับความล้มเหลว พวกเธอสูญเสียมหาศาลในการกระทำหนนี้
เมื่อพบหน้ากันอีกครั้งที่จุดคืนชีพ บรรยากาศของทั้งคู่จึงตึงเครียดสุดขีด
ไวท์สถบหยาบคายเสียงดัง ส่วนแบล็คได้แต่เก็บความแค้นสุมอกและกรีดร้องภายในใจ
ความเกลียดชังที่มีต่อกิลด์โอเวอร์เกียร์และกริดกำลังปะทุได้ที่
'กริดเป็นใครกันแน่... ทำไมเจ้านั่นถึงมี NPC ที่ยอดเยี่ยมมากมายนัก'
'เฟคเกอร์... เจ้าผู้เล่นคลาสธรรมดานั่น บังอาจนัก...'
ไวท์แบล็คบุกรุกเรย์ดันเพราะพวกเธอคิดว่าจะได้แก้นแค้นตามที่หวัง
แต่น่าเสียดายที่คู่ต่อสู้แข็งแกร่งเกินไป การแก้แค้นกลายเป็นเพียงความฝัน
สิ่งนี้ไม่ยุติธรรมเลยสักนิด
พวกหล่อนอาจหวั่นเกรงครอเกลหรือกริด แต่ไม่ใช่กับลูกน้องของกริด!
ทันใดนั้น สุ้มเสียงอันอ่อนโยนได้ดังขึ้น
"สำหรับพวกเธอ การปะทะโดยตรงกับโอเวอร์เกียร์ในตอนนี้คงยากเกินกำลัง ไม่ผิดนักที่จะกล่าวว่า ขุมกำลังของโอเวอร์เกียร์ในปัจจุบันเทียบเท่ากองทัพอาเรส"
"...!"
ใครกันที่รอพวกเธออยู่ในจุดคืนชีพ
สองพี่น้องรีบหันไปมองยังต้นเสียงด้วยสายตาตกตะลึง พวกมันไม่คาดคิดว่าจะได้พบกับชายผู้นี้
ชายหนุ่มผมขาวที่มีใบหน้างดงามเยี่ยงสตรี... เวอราดิน
"หัวหน้าของพวกไฮยีน่างั้นหรือ นายมาทำอะไรที่นี่"
ไฮยีน่า คำนี้คือฉายาที่ผู้เล่นซาทิสฟายมอบให้คลาสหมอผี
คลาสหมอผีสามารถหาผลประโยชน์จากศพได้มากมาย พวกมันจึงเสาะแสวงซากศพในสงครามอยู่เสมอ ไม่แปลกเลยสักนิดที่จะถูกเรียกว่าไฮยีน่า
ส่วนสาเหตุที่สองพี่น้องยกให้เวอราดินเป็นหัวหน้าไฮยีน่าก็ไม่มีสิ่งใดซับซ้อน
เวอราดินคือผู้เล่นคลาสหมอผีอันดับหนึ่งของโลก
'หนึ่งในยอดอัจฉริยะของสิบรุคกี้ร่วมกับลอเอล'
'แตกต่างจากลอเอล หมอนี่มักลงมือในเงามืดเสมอ... ทำไมคราวนี้ถึงมาหาพวกเราได้'
ต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่...
ขณะเดียวกัน เวอราดินทำการยื่นแขนออกมาด้านหน้า
"หากต้องการแก้แค้นโอเวอร์เกียร์ล่ะก็ ทำไมไม่ลองเข้าร่วมกับพวกเราล่ะ"
"เห...!"
ไวท์แสยะยิ้มอย่างเหยียดหยัน
"จะให้เข้ากิลด์ไวท์วูล์ฟงั้นหรือ ทำไมฉันต้องเข้ากิลด์ที่มีผู้นำอ่อนแอกว่าอย่างนายด้วย ไม่คำนึงถึงความรู้สึกของคนถูกชวนบ้างรึไง แล้วอีกอย่าง พวกนายจะมีพลังใดไปจัดการกับโอเวอร์เกียร์"
เป็นการปฏิเสธที่แข็งกร้าวและหยาบคาย ทว่าเวอราดินก็มิได้โมโห
กิลด์ไวท์วูล์ฟใหญ่ติดท็อป 200 ของซาทิสฟายก็จริง แต่มิได้ใหญ่โตขนาดจะชักชวนสองพี่น้องไวท์แบล็คเกรดดวงอาทิตย์เข้าร่วมได้
"อย่าได้เข้าใจผิดไป ฉันมิได้ชักชวนให้พวกเธอเข้าร่วมกิลด์ไวท์วูล์ฟ หากแต่เป็นอิมมอทัล"
"อิมมอทัล...!"
เป็นชื่อที่ฟังดูทรงพลัง
"นั่มมันอะไร… ประชาคมหมอผีรึไง"
สองพี่น้องแบล็คไวท์ยังคงดูแคลน
แต่เวอราดินกลับกล่าวในสิ่งที่น่าตกตะลึง
"อิมมอทัลคือองค์กรที่คอยรับใช้แอ็กนัส"
"อ--แอ็กนัส...!"
นี่สิ คำที่ทรงพลังอย่างแท้จริง
แอ็กนัส... เคียงคู่มากับครอเกลและอาเรส ชายคนนี้มีฝีมือเก่งกาจและเปี่ยมด้วยความบ้าบิ่นพิสดารยากคาดเดา แม้กระทั่งกลุ่มผู้เล่นสุดโฉดอย่างบลัดคาร์นิวัลก็ยังเลี่ยงเผชิญหน้ากับแอ็กนัส
ไม่มีใครต้องการทำให้แอ็กนัสโกรธ ทุกคนล้วนกังวลว่าการกระทำของตนจะขัดขาแอ็กนัสเข้า
ทว่า ลำพังแอ็กนัสมิได้มีพลังอำนาจมากมายนัก เพราะชายคนนี้มักเคลื่อนไหวตามใจชอบเหมือนกับหมาป่าเดียวดาย เฉกเช่นครอเกล
มันมิได้ครอบครองกองทัพมหาศาลระดับอาณาจักรเหมือนกับอาเรสหรือโอเวอร์เกียร์
แต่คำประกาศของเวอราดินเมื่อครู่ ได้พลิกโฉมขั้วอำนาจในซาทิสฟายทั้งหมดโดยสิ้นเชิง
แอ็กนัสมีกองทัพลับ...!
"เดี๋ยวก่อน... คิดดีแล้วหรือที่จะให้หมาบ้าอย่างเขามีพลังมหาศาลในมือ"
"ชายที่บุกถล่มเมืองจนพังพินาศเพียงเพราะเบื่อหน่าย..."
"..."
เวอราดินยิ้มชืดเมื่อสองพี่น้องแบล็คไวท์ ที่ว่ากันว่าสติไม่สมประกอบ ยังมองแอ็กนัสเป็นสุดยอดมนุษย์เสียสติอันดับหนึ่ง
เวอราดินแสยะยิ้มพร้อมกับส่ายศีรษะ
"ไม่เหมือนที่พวกเธอคิดหรอกนะ แอ็กนัสเป็นชายที่ใจเย็นมากจนน่ากลัว เขาจะไม่ทำเรื่องเสียสติอย่างการฆ่าล้างหมู่บ้านโดยไร้เหตุผล... ยกเว้นแต่จะมีใครไปทำให้หงุดหงิด"
"..."
ในอีกความหมายหนึ่ง แอ็กนัสจะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เมื่อรู้สึกหงุดหงิด...
เวอราดินถามย้ำอีกหน
"เข้าร่วมอิมมอทัลซะ หากพวกเธออยู่กับแอ็กนัส ก็ไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวโอเวอร์เกียร์อีกต่อไป"
"..."
คำพูดเวอราดินฟังขึ้นอย่างมาก ตัวตนของแอ็กนัสยิ่งใหญ่ถึงเพียงนั้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หนึ่งในทักษะพิเศษของแอ็กนัส <เปลี่ยนให้เป็นอัศวินความตาย>
ใครก็ตามที่แอ็กนัสเปลี่ยนให้เป็นอัศวินความตาย คนผู้นั้นจะได้รับสุดยอดพลังมาครอบครองชั่วคราว จะกลายเป็นอันเดดที่มีพลังมหาศาลและไม่ต้องหวาดกลัวความตาย
'ถ้าเราอยู่กับคนแบบนั้นล่ะก็...'
'ประหนึ่งติดปีก...!'
แต่การเปลี่ยนขั้วอำนาจย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายนัก
พวกเธอต้องยืนยันเงื่อนไขให้แน่ใจ
"จุดประสงค์ของอิมมอทัลคืออะไร"
"เพื่อทำให้แอ็กนัสกลายเป็นราชาสูงสุดแห่งความเป็นและความตาย เป้าหมายหลักคือการยึดครองทวีปตะวันตกทั้งหมด จากนั้นก็ก่อตั้งอาณาจักรที่ผู้เล่นและอันเดดใช้ชีวิตร่วมกัน"
"...น่าสนใจดีนี่ มันคงเยี่ยมไม่น้อยถ้าหากพวกนายสามารถก่อตั้งอาณาจักรสำหรับอันเดดโดยเฉพาะได้"
"พวกเราต้องทำกิจกรรมน่ารำคาญรึไม่... นายย่อมรู้ว่า พวกเราเลือกเป็นสมาชิกบลัดคาร์นิวัลเพราะรักในอิสระ"
"แน่นอนว่าไม่ พวกเธอจะได้รับอิสระเช่นเดิมกับอิมมอทัล ทว่า อย่าได้หลงลืมว่าโอเวอร์เกียร์และกองทัพอาเรสเป็นศัตรู หากอิมมอทัลปะทะกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง พวกเธอต้องเข้าร่วมสงครามอย่างเลี่ยงไม่ได้"
"..."
เป็นเงื่อนไขที่ไม่เลวสำหรับไวท์และแบล็ค
นอกจากจะได้รับอิสรภาพแล้ว พวกเธอยังมีโอกาสแก้แค้นโอเวอร์เกียร์ให้หนำใจ
'ถึงต้องเป็นศัตรูกับอาเรสก็เถอะ...'
'แต่หากมีแอ็กนัสและกองทัพ เราก็ไม่ต้องกังวลอาเรส'
สองพี่น้องลังเลเพียงชั่วครู่เท่านั้น
ทุกสิ่งพลันคลี่คลายเมื่อพวกเธอรู้ว่ามีแอ็กนัสอยู่ฝ่ายเดียวกัน
"ตกลง พวกเราจะถอนตัวจากบลัดคาร์นิวัล"
เวอราดินส่ายศีรษะ
"ไม่จำเป็น... สำหรับเปลือกนอก พวกเธอควรอยู่กับบลัดคาร์นิวัลเช่นเดิม เหมือนกับฉันที่ยังอยู่ในกิลด์ไวท์วูล์ฟ"
"นายจะยังไม่เปิดเผยตัวตนของอิมมอทัลให้โลกรู้สินะ"
"ถูกต้อง และเหนือสิ่งอื่นใด ฉันสงสัยมานานแล้วว่า หัวหน้าใหญ่แห่งบลัดคาร์นิวัลเป็นใครกันแน่"
"ฮะฮะ... สำหรับเรื่องนั้น พวกเราก็อยากรู้เช่นกัน"
แม้แต่สองพี่น้องแบล็คไวท์ก็ไม่ทราบถึงตัวตนที่แท้จริงของหัวหน้าใหญ่หลังฉากของกลุ่มผู้เล่นสุดโฉด
***
ฐานทัพหลักของบลัดคาร์นิวัลตั้งอยู่ภายในส่วนลึกของหุบเขาดราเวี่ยน
ชายคนหนึ่งกำลังใช้เวลาส่วนใหญ่หมกตัวอยู่ในรังเก่าของมังกรคลั่ง* 'เนอวาร์ธาน'
มันผู้นี้คือหัวหน้าใหญ่ของบลัดคาร์นิวัล ใช้นามแฝงว่า <ดาร์ค>
มีเพียงผู้ร่วมก่อตั้งบลัดคาร์นิวัลอีกสามคนเท่านั้นที่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของดาร์ค
(*มังกรคลั่ง <광룡> กวางรยอง - คำนี้แปลค่อนข้างยาก
룡 - รยอง - อันนี้แปลว่ามังกรแน่นอน
แต่อักษร 광 นี้ความหมายกำกวม
ถ้าเอาแค่อักษร 광 - กวาง เฉยๆ จะแปลว่า แสงสว่าง/เงางาม/ระยิบระยับ
ทว่า แอบอ่านถึงไปไกลแล้ว ทำให้รู้ว่า มันคือตัวย่อของ
광기 - กวางจี ซึ่งหมายถึงความบ้าคลั่ง )
'ไม่สบายใจเลยแฮะ สองพี่น้องแบล็คไวท์เงียบงันเกินไป'
แบล็คและไวท์ถล่มเรย์ดันล้มเหลว หากประเมินจากอุปนิสัยส่วนตัว คงไม่แปลกหากจะแหกปากโวยวายใส่ตนอย่างฉุนเฉียว
บลัดคาร์นิวัลรวมตัวกันเพราะผลประโยชน์ของแต่ละคน จึงเป็นการยากที่จะระดมพลเพื่อแก้แค้นให้ใครเพียงคนเดียว
ความเงียบงันจากแบล็คและไวท์ทำให้ดาร์คไม่สบายใจเลยสักนิด
หลังจากครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง มันจึงส่งข้อความส่วนตัวไปหาหนึ่งในผู้ก่อตั้งบลัดคาร์นิวัล... วิโอล่า
>> ได้พบ NPC พิเศษที่เหมือนกับปิอาโร่บ้างรึยัง
>> ลองตระเวนมาแล้วหลายอาณาจักรพร้อมกับลูกน้อง แต่ยังไม่พบ NPC ที่มีแววเลยสักนิด นี่เป็นครั้งแรกที่ตระหนักได้ว่า NPC พิเศษหายากขนาดนี้
>> ยิ่งเป็นที่ต้องการก็ยิ่งหายากสินะ หืม... หรือพวกเราควรปั้นขึ้นมาเอง
>> ปั้น NPC พิเศษขึ้นเองเนี่ยนะ ด้วยวิธีไหน...
>> วิโอล่า เธอได้ดูวิดีโอสงครามไบรันแล้วใช่ไหม พลทหารคนหนึ่งของกริดสามารถพลิกกระแสสงครามในพริบตา บางทีกริดอาจไม่ได้มองหา NPC พิเศษตั้งแต่ต้น ทว่าเขาเริ่มจากการอัพเกรด NPC ธรรมดาให้กลายเป็นพิเศษ
>> ทำแบบนั้นได้ด้วยหรือ
>> พวกเราต้องหาคำตอบให้ชัดเจนว่าได้รึไม่ หากเธอพบกับ NPC ที่พอจะมีแวว รีบนำตัวมาเป็นพวกซะ เราจะลองทิ้งไว้ในดันเจี้ยนเพื่อให้เก็บเลเวลได้รวดเร็ว
>> ข--เข้าใจแล้ว
วิโอล่าไม่มั่นใจนัก แต่หากเป็นคำสั่งของดาร์คล่ะก็ เธอยินยอมทำแต่โดยดี
หลังจากออกคำสั่งกับวิโอล่าเสร็จ...
"เราเองก็ต้องพยายามเหมือนกัน เพื่อให้ได้เป็นเจ้านายของสิ่งนั้น"
ดาร์คแสดงสีหน้าพึงพอใจพร้อมกับเดินเข้าไปในช่องทางลับหลังม่าน
เมื่อลงไปถึงบันไดชั้นล่างสุด เบื้องหน้าของมันคือวงกตที่กว้างใหญ่และซับซ้อน
ใครเป็นคนสร้างวงกตนี้ขึ้นมาน่ะหรือ
"วันนี้เร่งมือหน่อยดีกว่า"
ไม่ใช่ไม่ใครอื่นนอกจากดาร์ค
เคร้ง! เคร้ง!
ดันเจี้ยนระดับความยากสุดโหดหิน ทั้งหมดถูกสร้างขึ้นด้วยมือของดาร์คและจอบสองหัว
นี่คือการปรากฏตัวของคลาสลับใหม่ นักสร้างดันเจี้ยน
ในภายภาคหน้า กริดและโอเวอร์เกียร์จะได้รับผลประโยชน์มหาศาล...
ขอบคุณครับ
ReplyDeleteขอบคุณผู้แปลครับ
ReplyDeleteเจ้านายสิ่งนั้นคือ ไข่มังกร ครับ
ReplyDeleteเข้ นี่มันตัวเลี้ยงพระเอกนี่หว่า สแตกคริปไว้รอเลยหรอ 5555
ReplyDelete