จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 602



    งานพิธีพลันตกอยู่ในความเงียบสงัด
    ผู้ชมทางบ้านเริ่มตระหนักได้ถึงความร้ายแรงของสถานการณ์
    เมื่อทั้ง 15 อาณาจักรเรียกร้องบรรณาการเช่นนี้  จะเกิดอะไรขึ้นหากโอเวอร์เกียร์ไม่ยอมส่งบรรณาการตามที่ร้องขอ
    คำตอบง่ายมาก  พวกมันทั้ง 15 อาณาจักรก็จะส่งทหารเข้ารุกราน  จนท้ายที่สุด  อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ก็จะล่มสลาย

    ===  การปฏิเสธย่อมหมายถึง...

    ===  และถ้ายอมส่งบรรณาการให้ 15 อาณาจักร  เศรษฐกิจของโอเวอร์เกียร์ก็จะติดลบและทำลายตัวเองในที่สุด

    ===  ไม่ว่าจะเลือกทางไหนก็ไม่รอดสินะ

    ===  อาณาจักรโอเวอร์เกียร์จบสิ้นนับตั้งแต่ 15 อาณาจักรรวมหัวกันแล้ว  คงเร็วเกินไปสินะที่ผู้เล่นจะก่อตั้งอาณาจักร

    ===  ไม่เคยคิดว่า NPC จะทำตัวระยำเช่นนี้  ทำไมระบบเกมถึงได้โหดร้ายนัก

    ===  ผู้เล่นเจ้าของอาณาจักรจะมีรายได้ระดับมหาศาล  ซาทิสฟายขึ้นชื่อในด้านความสมดุลและความยาก  ยิ่งเนื้อหาของเกมอยู่ในระดับสูง  ความยากก็ยิ่งมีมาก  ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะก่อตั้งและรักษาอาณาจักรไว้ได้

    ===  ไอ้พวก S.A. กรุ๊ปแม่ง…  นี่กริดต้องสูญเงิน 60 ล้านเหรียญทองไปกับสายลมงั้นหรือ 

    ===  ถึงจะน่าสงสาร  แต่ก็สมควรแล้ว  กริดประสบความสำเร็จมากเกินไปจนฉันเริ่มอิจฉา  ㅎ ㅎ

    ===  คนคิดแบบนายมีเยอะแยะ  ฉันก็ด้วย

    อาณาจักรของผู้เล่นกำลังจะถูกทำลาย  เหตุการณ์นี้ทำให้ผู้ชมเกิดอารมณ์หลากหลายแตกต่างกันไป  บ้างก็โมโห  โกรธแค้น  บ้างก็เสียใจ  เสียดาย  สงสาร  แต่บางส่วนก็มีความสุข  ดีใจ
    ทุกคนกำลังเฝ้ารอท่าทีตอบรับจากกริด
    ชายคนนั้นจะจัดการกับสถานการณ์ตรงหน้าอย่างไร

    === กริดคงตอบรับพอเป็นพิธีและรอจนกว่าทูตจะกลับไป  หลังจากนั้นค่อยขบคิดหาทางออกอีกครั้ง
    
    ===  ด้วยนิสัยของกริดแล้ว  ไม่ใช่ว่าเขาจะตัดหัวทูตทุกคนเสียบประจานรึไง  กริดอาจมั่นใจในพลังอำนาจของตนหลังจากกิลด์ไจแอนต์และมาร์คควิสสไตมเข้าร่วม

    ===  ถ้าฉันเป็นกริด  ฉันก็เลือกสู้เหมือนกัน  ยอมเปิดศึกกับทั้ง 15 อาณาจักรย่อมดีกว่าต้องส่งบรรณาการให้พวกมันทุกเดือน

    ===  เงิน 60 ล้านเหรียญทองไม่ใช่จำนวนน้อยๆ    มีมูลค่ามากถึง 65 ล้านดอลล่าส์เชียวนะ  ด้วยจำนวนขนาดนี้  ฉันสามารถซื้อแมนชั่นสุดหรูและรถหรูสองคัน  จากนั้นเสพสุขไปทั้งชาติโดยไม่ต้องทำงาน...   ฉันคิดว่ากริดและกิลด์โอเวอร์เกียร์คงไม่ยอมเสียเงินจำนวนนั้นโดยเปล่าประโยชน์แน่  ตัวเลือกแรกคงเป็นการประณีประนอมมากกว่า

    ===  นั่นสินะ… เป็นเงินลงทุนที่มหาศาลเกินไป

    ทุกคนเริ่มมั่นใจว่ากริดจะไม่ลงมือกับเหล่าทูต
    สื่อทั่วโลกต่างเห็นพ้อง  พวกเขาคาดว่ากริดจะประณีประนอม  จึงเตรียมเขียนบทความรอล่วงหน้าเพื่อจะได้เผยแพร่อย่างทันท่วงที

    "หืม..."

    ท้องพระโรงที่พื้นทำจากหินอ่อน  ด้านบนสุดคือบัลลังก์สุดหรูหรา
    กริดกำลังสวมมงกุฏแสงศักดิ์สิทธิ์ไว้บนศีรษะ  
    ในที่สุดเขาก็เริ่มแสดงท่าที

    อึก...!    

    สมาชิกโอเวอร์เกียร์ต่างพากันตึงเครียด  พวกเขากลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ

    'กริด!  ได้โปรดอดทนไว้ด้วย!'

    'นายจะทำให้เงิน 60 ล้านเหรียญทองหายไปกับสายลมไม่ได้!'

    ใช่แล้ว  สมาชิกโอเวอร์เกียร์แตกต่างจากสื่อและผู้ชมทั่วโลก  พวกเขารู้ถึงนิสัยที่แท้จริงของกริดดีกว่าใครทั้งหมด  และค่อนข้างมันใจว่า  กริดจะลงมือสังหารเหล่าทูตพร้อมกับตัดหัวเสียบประจานทั่วเมือง  
    ทว่า  ท่าทีของกริดกลับแตกต่าง  ราวกับหน้ามือเป็นหลังเท้า  
    ตรงกันข้ามกับโทสะ  ชายหนุ่มเอ่ยปากถามด้วยสีหน้าเรียบเฉยไร้อารมณ์

    "เราขอถามพวกเจ้าหนึ่งข้อ"

    "..."

    "ทำไมพวกเจ้าถึงมีเพียง 12 คน  มิใช่ 15 ตามคำที่กล่าวอ้างว่าเป็นตัวแทนของ 15 อาณาจักร"

    "...!"

    เหล่าทูตพลันแสดงสีหน้ากระอักกระอ่วน 
    จะให้พวกมันตอบตามความจริงงั้นหรือ  ว่าตัวแทนอาณาจักรเก๊าส์   อุลทาน่า  และเมอร์เร่ขอกลับไปก่อนด้วยเหตุผลสุดพิสดาร
    แถมยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า  สามอาณาจักรดังกล่าวจะเห็นพ้องกับความคิดของ 12 อาณาจักรที่เหลือหรือไม่

    เมื่อพวกมันตอบไม่ได้  กริดก็เริ่มเปลี่ยนโทนเสียง

    "ทูตจาก 12 อาณาจักรช่างน่าไม่อาย  กล้าดียังไงถึงแอบอ้างเป็นตัวแทนของ 15 อาณาจักร!  ในสายตาของเรา  เจ้าคือกลุ่มคนที่กำลังโป้ปด"

    "อึก...!"

    คำพูดของพวกมันสูญเสียน้ำหนักทันที
    เหล่าทูตมิอาจโต้แย้งกริด    ได้เลย

    "พวกระยำ..." 
    กริดพึมพากับตนเองด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา  
    ชายหนุ่มกำลังนั่งเอนหลังอยู่บนบัลลังก์หรูหราอลังการ
    ท่าทีของเขาทั้งสง่างามและน่าเกรงขามประหนึ่งองค์จักรพรรดิ
    จากนั้น  กริดหันไปหาฮิวรอยที่ยืนอยู่ด้านข้าง
    "ฮิวรอย"

    "ขอรับฝ่าบาท"

    "นับแต่นี้ไป  จงเปล่งเสียงให้กึกก้องตามสิ่งที่ฉันกำลังจะพูด"

    "น้อบรับบัญชา"

    พลังของฮิวรอยเป็นสิ่งจำเป็นต่อกริดเสมอ  
    ชายคนนี้แปรเปลี่ยนถ้อยคำของกริดให้ดูสมเหตุสมผลและทรงพลังยิ่งกว่าเดิม  เหมาะสำหรับการป่าวประกาศในสถานที่ซึ่งคราคร่ำไปด้วยผู้คนเช่นนี้
    แถมฮิวรอยยังมีทักษะตัดติวที่บังคับให้ NPC ทุกคนต้องตั้งใจฟัง
    และสิ่งสำคัญที่สุด  ฮิวรอยสามารถกลบเกลื่อนคำหยาบคายของกริดให้ฟังดูหรูหรา

    "ไอ้พวกระยำ  ฟังฉันซะ!"

    "จงฟังให้ดี  เหล่าทูตผู้โง่งมและปลอมเปลือกทั้งหลาย"

    "ฉันไม่ได้แหกกฏบ้านเมืองบัดซบใดๆ ของพวกแกแม้แต่อย่างเดียว"    

    "เรามิได้ฝ่าฝืนธรรมาภิบาลบ้านเมืองข้อใด  เรามิใช่กบฏ  ตรงกันข้าม  เราคือผู้ที่รักษาคำมั่นสัญญาซึ่งได้ให้ไว้ต่ออดีตกษัตริย์วิสบาเดนอย่างเคร่งครัด  พระองค์คือกระกษัตริย์เพียงผู้เดียวที่ควรค่าแค่รับใช้"

    ผู้เล่นคลาสนักพูดอันดับหนึ่งของโลก  ฮิวรอย  ถ้อยคำแถลงของเขากำลังเปล่งกังวาลทั่วทั้งเมืองไรน์ฮาร์ท    
    เป็นน้ำเสียงสดใสไพเพราะที่เปี่ยมด้วยเจตนาของกริด  ประชาชนทุกคนที่ได้ยินล้วนถูกสั่นคลอนหัวใจ  
    NPC ที่เคยเป็นกังวลและลังเลกับอนาคตของอาณาจักร  บัดนี้บังเกิดความรู้สึกหนักแน่นชัดเจน

    "เหตุผลเดียวที่เรายึดครองบัลลังก์  ก็เพื่อช่วยปลดพันธนาการชาวเมืองให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของกษัตริย์ชั่วแห่งอีเทอนัล  มันมองผู้คนเป็นเพียงมดปลวก  มังเซ่นสังเวยผู้คนอย่างไม่ใยดี  มันสนใจแต่ตนเองเท่านั้น… นี่คือวิถีอันเที่ยงธรรมและสูงส่งที่เราเลือกเดิน  ระหว่างทาง  เราต้องหลั่งเลือดมิตรสหายและบริวารผู้จงรักภักดีไปมาก  คุณงามความดีของเราสมควรถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ทวีปตะวันตก  พวกท่านอย่าได้ถูกบิดเบือนความจริงด้วยคำโป้ปด"

    "เฮ~~~~!!"

    ราชวงศ์อีเทอนัล

    ชาวเมืองไรน์ฮาร์ทต้องบอบช้ำเพราะกษัตริย์อัสลันมาไม่น้อย  
    พวกเขาทุกคนมองกริดเป็นผู้มีพระคุณชั่วชีวิต  ส่งผลให้คำพูดสุดซาบซึ้งของฮิวรอยได้สลักลึกลงไปในหัวใจประชาชน
    พวกเขาเคยหวั่นวิตกและเป็นห่วงกริดเมื่อได้ยินคำกล่าวหาจากเหล่าทูต  
    แต่ตอนนี้  ความกังวลใจเหล่านั้นได้สลายไปหมดสิ้น  ชาวเมืองทุกคนช่วยกันตะโกนเอ่ยนามของกริดอย่างไม่ขาดสาย

    ลอเอลเฝ้ามองสถานการณ์อย่างเงียบงันด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น

    'กริดรับมือได้ดีมาก'

    สถานการณ์จะเลวร้ายสุดขีดหากกริดลงมือสังหารทูตทั้ง 12 คน
    ไม่เพียงแต่จะสร้างศัตรูกับทั้ง 12 อาณาจักร  แต่ยังจะนำพาความกังวลมาสู่ประชาชนในอาณาจักรของตน
    ทว่า  กริดกลับระงับอารมณ์ไว้อยู่หมัด  เขาฉลาดเลือกใช้ฮิวรอยถ่ายทอดคำพูด  
    และฮิวรอยก็ฉลาดเลือกใช้คำที่ยกระดับตัวตนของกริด  ไปพร้อมกับป้ายสีให้เหล่าทูตในเวลาเดียวกัน  
    ด้วยเหตุนี้  สถานการณ์ของทูตทั้ง 12 คนจึงเริ่มตกที่นั่งลำบาก

    'บ้าจริง… บรรยากาศเช่นนี้มันอะไรกัน'

    'แผนสร้างความหวาดกลัวให้ชาวเมืองล้มเหลวสินะ'    

    'ตรงกันข้าม  ความนิยมในตัวกริดกลับยิ่งเพิ่มขึ้น  กลายเป็นว่าพวกเรายื่นถ้วยซุปให้มันไปเสียได้'

    'ทั้งหมดเป็นเพราะเจ้าคอนส์และคิวดันแท้ๆ!  เรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นถ้าพวกไอ้พวกเสียสตินั่นไม่รีบหนีกลับไปอย่างขี้ขลาด!'

    'ทุกคนใจเย็นก่อน  ถึงแผนทำลายขวัญกำลังใจชาวเมืองจะล้มเหลว  แต่กริดก็เปลี่ยนความจริงไปไม่ได้  ความจริงที่อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ต้องส่งบรรณาการให้พวกเรา  แถมหลังจากนี้  มันต้องชดใช้ในความไร้มารยาทที่บังอาจกระทำกับพวกเรา'

    'นั่นสินะ...'

    กลุ่มทูตเริ่มกลับมาใจเย็นได้อีกครั้งหลังจากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
    ไม่ว่ายังไง  ฝ่ายได้เปรียบก็ยังเป็นพวกมันอยู่ดี
    เพื่อรักษาความฮึกเหิมนี้ไว้  บารอนบิสต์จากอาณาจักรไวโอเล็ตจึงตะโกนขึ้นเสียงดัง

    "เจ้ากริดผู้นี้!  ไม่ว่าเจ้าจะปกปิดความผิดด้วยถ้อยคำสวยหรูเช่นไร  แต่ความชั่วช้าของเจ้าก็ไม่มีวันถูกกลบเกลื่อนได้มิดชิด!  ตัวตนของกษัตริย์ถือเป็นที่สุด  ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด  แต่เจ้าก็ไม่มีสิทธิ์สังหารกษัตริย์--...  ฮ--เฮ้ย!"

    บารอนบิสต์พลันชะงักคำพูด
    เพราะบัดนี้  ขุนพลหลายสิบที่ยืนด้านหลังกริด  ทุกคนต่างชักอาวุธอย่างพร้อมเพรียงและเริ่มแผ่จิตสังหาร  
    แข้งขาของบารอนบิสต์เริ่มอ่อนเปลี้ยทันทีเมื่อถูกแรงคุกคามสะกดข่ม

    "ก--กล้าข่มขู่ทูตเชียวหรือ...!  พวกเจ้าไม่มีสามัญสำนึกบ้างรึไง!  การทำร้ายทูตเท่ากับประกาศสงครามกับอาณาจักร!"    

    "หุบปาก"
    ป็อนยื่นปลายหอกไปจ่อลำคอบารอนบิสต์
    "แกคิดรึไงว่าจะมีชีวิตรอดกลับไปหลังจากพูดจาล่วงเกินกษัตริย์ของพวกเรา  แกเป็นคนพูดเองไม่ใช่หรือ  ว่าตัวตนกษัตริย์ถือเป็นที่สุด… ใช่ไหมล่ะ"

    "อ--อึก..."

    มันไม่อยากยอมรับว่ากริดเป็นกษัตริย์  แต่ชีวิตของมันกำลังขึ้นอยู่กับคำพูดถัดไป
    บารอนบิสต์หวาดกลัวจนอ้ำอึ้ง  พูดสิ่งใดไม่ออก  
    มันเริ่มตระหนักถึงความผิดพลาดของตัวเอง

    'เราตื่นเต้นมากไปหน่อย'

    บารอนบิสต์ฮึกเหิมเกินไปจนพลั้งปากพูดในสิ่งไม่สมควร
    มันไม่ยอมรับกริดเป็นกษัตริย์ก็จริง  แต่การพูดเช่นนี้  จะไม่แปลกเลยสักนิดหากถูกขุนพลของกริดกุดหัวเอา  
    แน่นอนว่า  กลุ่มทูตที่เหลือต่างไม่มีใครคิดยื่นมือเข้าช่วย  ความผิดในหนนี้บารอนบิสต์เป็นผู้ก่อขึ้นทั้งเองหมด  มิได้เกี่ยวกับส่วนรวมแต่อย่างใด
    กริดหรี่ตาลง  เขาจ้องมองบารอนบิสต์ด้วยสีหน้าเรียบเฉย 
    ทันใดนั้น  ชายหนุ่มนึกสิ่งที่น่าสนุกขึ้นได้

    "นี่… เจ้าน่ะ"

    "...!"

    บารอนบิสต์ไม่เข้าใจสถานการณ์  มันคือผู้ที่มีสิทธิ์ได้รับโทษตายจากการใช้วาจาล่วงเกินกษัตริย์  
    แต่เหตุใด  กริดถึงกำลังจ้องมองมันด้วยรอยยิ้มแปลกประหลาด

    "ฉันจะมอบโอกาสต่อลมหายใจให้เจ้า"

    "อ--โอกาส..."

    "ถูกต้อง... อันที่จริงเจ้าสวมควรได้รับโทษตาย  แต่เราเป็นคนใจดี"

    "..."

    ชายคนนี้คิดจะทำสิ่งใดกัน
    ไม่มีใครคาดเดาการกระทำของกริดได้
    ขณะสายตาหลายพันคู่กำลังจับจ้อง  กริดก็ลุกขึ้นยืนจากบัลลังก์

    "นี่คือโอกาสอันดีของเจ้าที่จะได้ต่อลมหายใจ  และยังเป็นโอกาสอันดีของเรา  ที่จะได้แสดงแสนยานุภาพของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์  ดังนั้นมาร่วมมือกันดีกว่า"
    
    "จ--จะให้ทำอะไรกันแน่"

    บารอนบิสต์ตั้งใจฟัง  มันจะพลาดโอกาสนี้ไม่ได้เด็ดขาด
    จากนั้น  กริดพูดขึ้น

    "หากพิจารณาจากร่างกายและฝักดาบที่เอวของเจ้า  เจ้าคือนักดาบสินะ"

    "ช--ใช่แล้ว..."

    "เช่นนั้นก็ดี  นักรบทุกคนควรได้รับโอกาสได้ต่อสู้เพื่อปกป้องชีวิต"

    กริดแสยะยิ้ม

    "เอาล่ะ… จงเลือกมา"    

    "ห--ให้เลือกอะไร..."

    "เลือกคู่ต่อสู้  เป็นใครก็ได้ในสถานที่แห่งนี้  ขอเพียงสังกัดกับโอเวอร์เกียร์  มิใช่ชาวเมืองทั่วไป… เราขอสัญญาว่าจะไว้ชีวิตหากเจ้าเอาชนะคนผู้นั้นได้  แต่กลับกัน  หากเจ้าเกิดเสียชีวิตระหว่างต่อสู้  นั่นจะเป็นความผิดของตัวเจ้าเอง  อาณาจักรโอเวอร์เกียร์จะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น"

    "...!!"
    
    บารอนบิสต์เริ่มใจเต้นระรัว  ย่อมเป็นเรื่องปรกติสำหรับทุกคนที่ได้รับโอกาสยื้อชีวิต  
    ทว่า  เหล่าทูตที่เหลือต่างกำลังเดือดดาล

    'กริดฉลาดมาก!'

    'หากบารอนบิสต์ตายในการดวลที่มีการลั่นสัตย์วาจา  อาณาจักรไวโอเล็ตจะมิอาจเอาผิดกับอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ได้'

    บารอนบริเทนแห่งอาณาจักรอาร์คโพล่งขึ้น

    "กล้าเรียกของแบบนี้ว่าโอกาสรึไง!  แกคงเตรียมขุนพลฝีมือเยี่ยมไว้รอสังหารบารอนบิสต์อยู่แล้วสินะ!"

    "ไร้สาระ… ในสมองเจ้ามีแต่ขี้เลื่อยงั้นหรือ"

    กริดส่ายศีรษะเล็กน้อยพร้อมกับยักไหล่

    "เราเคยบอกไปแล้วนี่...  เชิญเจ้าเลือกคู่ต่อสู้ได้ตามใจชอบ"

    "จ--จริงหรือ..."

    "แน่นอน  เรามิใช่พวกโป้ปดเหมือนเจ้าหรอกนะ"

    'เรารอดแน่!'

    บารอนบิสต์กำลังดีใจจนเนื้อเต้น  
    วิชาดาบของมันสูงส่งกว่าอัศวินทั่วไปเล็กน้อย  หากมีสิทธิ์เลือกคู่ต่อสู้ล่ะก็  โอกาสชนะจะมีเกือบ 100% เลยทีเดียว
    บารอนบิสต์กวาดสายตามองไปรอบท้องพระโรง  
    จากนั้น  มันก็แสยะยิ้มชั่ว  บัดนี้  บารอนบิสต์ตัดสินใจได้แล้ว
    เป้าหมายคือทหารผมบลอนด์สวมเกราะหนังเก่าขาดหลุดรุ่ย  
    แตกต่างจากเกราะสีดำหรูหราของอัศวินนับพันโดยสิ้นเชิง

    'หึหึหึ!  เจ้าทหารกระจอก!  ฉันเลือกแก!'

    บารอนบิสต์ชี้นิ้วไปยังทหารผมบลอนด์

    "ค--คนนั้น!"    

    คนทั่วไปอาจมองว่าตนขี้ขลาดที่เลือกดวลกับพลทหารเลว
    ทว่า  ชีวิตสำคัญกว่าศักดิ์ศรีนับพันเท่า  
    บารอนบิสต์คาดว่ากริดคงจะเย้ยหยันตัวมันที่เลือกทหารเลวเป็นคู่ต่อสู้
    แต่ผิดคาด  กริดกลับพยักหน้าเล็กน้อย

    "เข้าใจแล้ว  ทหารคนนั้นสินะ"

    กริดหันไปขยิบตาให้ทหารผมบลอนด์  จากนั้น  ทหารคนดังกล่าวเดินย่างสามขุมเข้าหาบารอนบิสต์อย่างองอาจ  
    หากดูผิวเผิน  บารอนบิสต์จะได้เปรียบในทุกประตู  
    อาวุธชุดเกราะที่หรูหรายิ่งกว่า  รวมไปถึงรูปร่างที่สูงใหญ่กว่า
    ไม่มีทางที่ทหารเลวจะเก่งกาจไปกว่าขุนนางนักดาบได้

    ผู้ชมทั่วโลกต่างรู้สึกผิดหวัง

    === เฮ่อ… กริดทำแบบนี้ทำไม  ไอ้ระยำนั่น… กริดไม่น่ามอบโอกาสต่อลมหายใจเลยสักนิด  

    ===  ท่าไม่ดีล่ะสิ

    ===  ทหารผู้น่าสงสาร… เขาต้องตายเพราะความผิดพลาดของเจ้านาย 
    
    ทุกคนต่างเห็นอกเห็นใจและเริ่มสงสารทหารปริศนา 
     เขาโชคร้ายนักที่มีเจ้านายแบบนี้
    ทว่า  ทหารผมบลอนด์กลับกำลังมีความสุขมาก  เขาเดินขึ้นมาเผชิญหน้ากับบารอนบิสต์โดยท่าทีปราศจากความหวาดหวั่น
    ใบหน้าถูกปกปิดไว้ด้วยหมวกเหล็ก  เส้นผมสีบลอนด์ทองถูกรวบมัดไว้ด้านหลัง  ปลายเส้นผมห้อยยาวจากชายหมวกเป็นระเบียบเรียบร้อย
    ชื่อของทหารที่ถูกปกปิดตัวตนไว้มิดชิดผู้นี้ก็คือ...
    อัสโมเฟล

Comments

  1. 5555 ตายสถานเดว รู้สึกทุกอย่างเข้าทางกริดไปหมด สนุกมากครับ ขอบคุณที่แปล🙏 ติดตามอ่านเรื่องเก่า จนเปลี่ยนมาเป็นเรื่องนี้ เผลอแปปเดว 602 ตอนแล้ว ถ้าไม่ได้อ่านนี้นอนไม่หลับเลยจริงๆ

    ReplyDelete
  2. รอดได้คือเก่งอ่ะ

    ReplyDelete
  3. เบื่อพวกที่ว่ากริด ผลยังไม่ออกมาเลยรีบด่ารีบว่าแหละ บ้าป้ะ

    ReplyDelete
    Replies
    1. ปรกติครับ เหมือนชิวิตจริงนักแข่งอีสปอร์ตพลาดนิดเดียวด่ายับ พอพลิกกลับมาชนะพวกนี้ก็จะเงียบกริบ

      Delete
  4. ตาถึงจริงๆ แม่งได้ตัวท็อปเลย

    ReplyDelete
  5. เจอพลทหารอาสวะน่าสงสารจริง

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00