จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1039



ความขัดแข้งภายในอาณาจักรถือเป็นเรื่องปรกติ โดยเฉพาะปัญหาแบ่งฝักแบ่งฝ่ายของขุนนางเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน


เจ็ดดยุคก็ไม่ต่าง


พวกมันรับใช้ราชวงศ์เดียวกันก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่าแต่ละตระกูลต้องปรองดอง มีการสอดส่องจับตาความเคลื่อนไหวกันและกันเสมอ


หรือในบางสถานการณ์ที่ตึงเครียด การปะทะเล็กๆ ก็เคยเกิดขึ้นมาบ้าง


แต่เจ็ดดยุคไม่ใช่บุคคลที่สามารถเคลื่อนไหวได้ตามอารมณ์ส่วนตัว เบื้องหลังแต่ละตระกูลมีประชาชนนับล้าน ความขัดแย้งเพียงเล็กน้อยอาจส่งผลให้ชะตากรรมชาวบ้านไร้เดียงสาต้องจบลง


ดยุคบางรายจึงพยายามทำตัวสุขุมตลอดเวลาเพื่อมิให้มรดกตกทอดจากบรรพบุรุษต้องมาสิ้นสุดที่รุ่นของตน


กระนั้น ถึงพวกมันจะมีความขัดแย้งทางการเมืองรุนแรงอย่างไร แต่ทั้งเจ็ดดยุคล้วนมีหนึ่งสิ่งที่คล้ายคลึง


ทุกคนเคารพซึ่งกันและกันมาก


อาจมีปัญหาขัดแย้งด้านถ่วงดุลอำนาจการเมืองอยู่บ้าง แต่ทั้งเจ็ดจะวางตัวต่อกันด้วยดี และสนทนาอย่างให้เกียรติกันเสมอ


ส่วนหนึ่งเพราะ พวกมันจำเป็นต้องรักษาภาพลักษณ์เพื่อมิให้เกียรติยศมัวหมอง


‘เจ็ดดยุคแห่งจักรวรรดิ’ คือตำแหน่งที่สูงศักดิ์และสง่าผ่าเผย เป็นขุนนางลำดับสูงสุดของทวีปที่คู่ควรแก่การเคารพยกย่อง


หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ เป็นการสร้างภาพลักษณ์เพื่อให้ตัวตนของพวกมันดูดีในสายตาคนทั่วไป


ดังนั้น


“ห้ามเสียมารยาทกับท่านราชาโอเวอร์เกียร์”


“…”


คำกล่าวเมื่อครู่ไม่ใช่เรื่องปรกติ


ต่อให้ตระกูลดยุคเกล็นฮาลมีอำนาจสูงส่งกว่าตระกูลดยุคดีวอส ต่อให้ฝีมือส่วนตัวของเกล็นฮาลเหนือกว่า หรือต่อให้สองตระกูลพวกมันเกิดความขัดแข้งทางการค้าภายในจักรวรรดิบ่อยครั้ง


‘…แต่การหักหน้ากันเช่นนี้’


เป็นความรู้สึกอับอายระดับที่ดีวอสไม่คาดคิดมาก่อน ดวงตาเริ่มสั่นระริก มันกำหมัดแน่นพร้อมกับสูดลมหายใจสุดปอด สีหน้าท่าทีบ่งบอกชัดเจนว่ากำลังเดือดดาล


‘ยิ่งโมโห… ก็ยิ่งต้องใจเย็น’


ถึงกับออกหน้าแทนราชาโอเวอร์เกียร์โดยไม่สนใจเกียรติของเจ็ดดยุคเชียวหรือ?


เกล็นฮาลต้องเสียสติไปแล้วแน่


ทั้งที่ไม่ได้อยู่ในภาวะนักรบคลั่ง แต่กลับสูญเสียความคิดอ่านและหลักจริยธรรมพื้นฐาน


เป็นอีกครั้งที่ดีวอสมั่นใจ กริดอาศัยการมีชีวิตอยู่ของปิอาโร่ล้างสมองสามดยุคเหล่านี้


‘ชั่วช้านัก’


กริดคือกบฏที่ล้มล้างราชวงศ์อาณาจักรตนเองและขึ้นครองบัลลังก์ด้วยความป่าเถื่อน


มันคืออสรพิษ


ชายคนนี้พบปิอาโร่โดยบังเอิญอย่างนั้นหรือ?


ต้องไม่ใช่แน่ ความบังเอิญไม่มีอยู่จริง เป็นแผนการของมันตั้งแต่ต้นแล้ว ใครๆ ก็ทราบว่าตัวตนของปิอาโร่สำคัญเพียงใดในจักรวรรดิ กริดต้องคำนวณถี่ถ้วนแล้วว่า การครอบครองปิอาโร่จะทำให้มันได้รับประโยชน์มหาศาลในอนาคต


แล้วก็เป็นไปตามแผน กริดเริ่มใช้ปิอาโร่ล่อลวงองค์จักรพรรดิเพื่อหวังครอบครองเมอร์เซเดส เมื่อได้ทราบความจริงอันน่าหดหู่และชีวิตสุดรันทดของเพื่อนสนิท เมอร์เซเดสจึงถูกส่งไปคอยดูแลรับใช้ปิอาโร่ข้างกาย


แถมตลอดสงครามกับอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ ท่าทีของจักรพรรดิคล้ายกับไม่ตั้งใจจะบดขยี้อีกฝ่ายให้ราบคาบ


‘เจ้านี่อันตรายเกินไป’


ทั้งฉลาดและชั่วช้า เป็นตัวตนที่สามารถสั่นคลอนประวัติศาสตร์ยาวนานของจักรวรรดิได้ตามลำพัง บางทีอาจน่ากลัวยิ่งกว่าราชาไร้พ่าย·มาดราในอดีตเสียอีก


มาดราแข็งแกร่ง แต่มันรบพุ่งกับจักรวรรดิซึ่งๆ หน้าและตรงไปตรงมา จักรวรรดิอาจเอาชนะลูบาน่าไม่ได้ แต่อีกฝ่ายก็ยึดครองจักรวรรดิไม่ได้เช่นกัน


ทว่ากับราชาโอเวอร์เกียร์ผู้นี้ มันกัดกร่อนจักรวรรดิซาฮารันจากภายในอย่างเลือดเย็น


ร้ายแรงถึงขนาดที่ว่า องค์จักรพรรดิและดยุคสามคนถูกครอบงำจิตใจโดยสมบูรณ์แล้ว


‘เพื่อราชวงศ์และจักรวรรดิ เราต้องกำจัดตัวตนอันตรายอย่างมันให้ได้’


แต่ยังไม่ถึงเวลา


เกล็นฮาลและมอริสกำลังถูกเรื่องราวของปิอาโร่สั่นคลอนจิตใจจนไข้วเขว


ราวสิบกว่าปีก่อน ในตอนที่ปิอาโร่ถูกพลิกแผ่นดินตามล่าตัว ทั้งเกล็นฮาลและมอริสคือหนึ่งในผู้ที่คัดค้านองค์จักรพรรดิ พวกมันช่วยแก้ต่างว่าปิอาโร่ถูกป้ายสี แถมยังลงนามขัดขวางมิให้ตระกูลปิอาโร่ถูกแขวนคอประจาน


หลังจากได้ทราบว่าปิอาโร่ยังมีชีวิตอยู่ ทั้งสองคงกำลังยินดีและมีความสุข อาจทวีความชื่นชอบกริดที่คอยดูแลปกป้องปิอาโร่นานหลายปี


‘ในเมื่อปกปิดตัวตนปิอาโร่ตลอดไปไม่ได้ วิธีเดียวคือการบอกให้สองคนทราบว่า กริดดูแลปิอาโร่เพราะเหตุผลทางการเมือง มิใช่ด้วยเจตนาบริสุทธิ์’


แต่ตอนนี้ต้องแสร้งทำเป็นยอมอ่อนข้อไปก่อน


ค่อยๆ หยั่งเชิงเกล็นฮาลด้วยอารมณ์ขัน


แผนการนี้ต้องให้บาซาร่าคอยช่วยเหลือ


ไม่เหมือนเกล็นฮาลและมอริส บาซาร่ามิได้เทิดทูนปิอาโร่เยี่ยงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หล่อนไม่รู้จักอีกฝ่ายเป็นการส่วนตัว คงมีสติมากพอจะไตร่ตรองเหตุการณ์อย่างสมเหตุสมผล


ดีวอสสงบโทสะและแสร้งนอบน้อม มันกล่าวขอโทษเกล็นฮาลกับมอริส ขณะเดียวกันก็ออกจากภาวะเมาสุราและดับกลิ่นแอลกอฮอล์คละคลุ้ง


“ฉันผิดไปแล้ว ถึงอีกฝ่ายจะเป็นกษัตริย์อาณาจักรศัตรู แต่เขาก็มีประชาชนจำนวนมากในการดูแล ด้วยฐานะของดยุคแห่งจักรวรรดิ ฉันควรปฏิบัติต่อเขาอย่างสุภาพ ขอบคุณที่ช่วยเตือนสติ”


ประโยคแก้ต่างของดีวอสไหลลื่นคมคาย


มันชี้ให้ทุกคนเห็นว่ากริดยังเป็นศัตรูของจักรวรรดิ ไปพร้อมกับเน้นย้ำว่า ตนนอบน้อมกับกริดเพียงเพราะต้องการรักษาเกียรติของดยุคแห่งจักรวรรดิ


ขณะเดียวกันก็หวังเตือนสติเกล็นฮาลที่ถูกกริดหลอกล่อด้วยปิอาโร่ มันต้องการให้เกล็นฮาลตาสว่างโดยเร็ว


แต่ผลลัพธ์กลับตรงกันข้าม


นอกจากเกล็นฮาลจะไม่ได้สติกลับมา มันยังแสดงท่าทีคลุ้มคลั่งหนักกว่าเก่า


“ที่ให้นายสำรวมต่อหน้าราชาโอเวอร์เกียร์ก็เพื่อตัวนายเอง มิใช่เหตุผลไร้สาระอย่างเกียรติแห่งดยุค”


“เพื่อตัวฉัน?”


“ถูกต้อง”


“…?”


‘ขุนนางเฒ่านี่คงสติฟั่นเฟือนไปแล้ว’


แผลเป็นบนลำตัวเกล็นฮาล ทุกคนทราบดีว่าเป็นคล้ายกับ ‘เหรียญรางวัล’ แต่ขณะเดียวกันก็หมายความว่า ยิ่งบาดแผลเพิ่มจำนวน สภาพร่างกายเกล็นฮาลก็ยิ่งแย่ลง


ตัวมันที่ต่อสู้เพื่อประชาชนและจักรวรรดิมานานกว่า 60 ปี คงถึงเวลาที่ร่างกายและจิตใจอ่อนล้าสุดขีด โบราณสถานเทพสงครามอาจเป็นบททดสอบที่หนักหนาเกิดไปสำหรับชายชราผู้นี้


จินตนาการได้ไม่ยาก ว่าการต้องสำรวจเกาะอันตรายนานนับเดือนโดยปราศจากกำลังเสริมและเสบียงจากทัพหนุนนั้นสิ้นเปลืองพลังใจมากเพียงใด


ขณะจิตใจและร่างกายอ่อนล้าสุดขีด เกล็นฮาลจึงหลงกลงับเหยื่อของกริดเข้าง่ายดาย


ดีวอสถอนหายใจเงียบๆ


“ถ้าบังอาจเสียมารยาทต่อหน้าท่านราชาโอเวอร์เกียร์ ศพของนายไม่สวยแน่”


มอริสโพล่งขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย มันใช้ฝ่ามือทำท่าตัดคอตัวเอง


“อะไรนะ…? ฉันเนี่ยนะศพไม่สวย? นี่ฉันได้ยินอะไรผิดไปรึเปล่า?”


มอริสพยักหน้าหนักแน่น


“ได้ยินถูกแล้ว”


“งั้นหรือ…”


ใบหน้าดีวอสพลันแดงก่ำคล้ายผลพุทรา


แม้จะหลุดจากภาวะเมาสุรานานแล้ว แต่อากัปกิริยาในปัจจุบันกลับไม่ต่างกันมากนัก


“ดยุคมอริส ฉันทราบมาตลอดว่านายเป็นพวกปากเสีย แต่คำพูดเมื่อครู่คงปล่อยผ่านไม่ได้หรอกนะ”


ทุกคนย่อมมีศักดิ์ศรีของตัวเอง


ถึงจะอ่อนแอที่สุดจากบรรดาทุกคน แต่มันก็ไม่ใช่ตัวตลกที่ใครสามารถหัวเราะเยาะได้


“นายจะฆ่าฉัน? เพราะอะไร? หรือเพราะฉันไม่ยอมช่วยคัดค้านฝ่าบาทว่าปิอาโร่เป็นผู้บริสุทธิ์? มอริส! ฉันเองก็เป็นดยุค! กล้าสังหารบริวารของฝ่าบาทมหาจักรพรรดิเชียวหรือ?”


ดีวอสกำลังเข้าใจผิด มันคิดว่าคำขู่เมื่อครู่หมายถึงเกล็นฮาลและมอริสจะรุมสังหารตน


แต่นั่นไม่มีทางเกิดขึ้นได้


จักรวรรดิมีกฎเหล็กว่า ห้ามดยุคเข่นฆ่ากันเองโดยเด็ดขาด ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ไม่อย่างนั้นจะมีความผิดสถานหนักทั้งตระกูล


การยืนดูอย่างเดียวคงฉลาดกว่า


มอริสโบกไม้โบกมือ


“เข้าใจผิดแล้ว พวกเราจะฆ่านายทำไม?”


“แล้วใครจะฆ่าฉัน!!”


คำอธิบายของมอริสไม่เหมือนคำอธิบายสักเท่าไร ไม่แปลกที่ดีวอสจะยิ่งเดือดดาล มันเข้าใจว่ามอริสทำเหมือนตนเป็นตัวตลกโดยเจตนาล้ำเส้น


ดีวอสเตรียมนำเหตุการณ์ในวันนี้กลับไปกราบทูลองค์จักรพรรดิเพื่อให้ดำเนินบทลงโทษ


พวกนายต้องชดใช้!


ทันใดนั้น เสียงใสกังวานราวกับหยกสวรรค์ดังแว่วข้างหูดีวอสที่กำลังสติขาดผึ่ง เป็นเสียงของบาซาร่า อีกหนึ่งดยุคผู้เงียบงันอยู่นาน


“นายจะถูกท่านราชาโอเวอร์เกียร์ฆ่าทิ้ง”


“…?”


ดีวอสตกตะลึงประหนึ่งถูกฟ้าผ่า ใบหน้าพลันบิดเบี้ยวคล้ายปีศาจ


มันเนี่ยนะจะถูกกริดฆ่า? ไอ้กระจอกเนี่ยนะ?


นี่มันอะไร? มุกตลกใหม่อย่างนั้นหรือ?


“…ดยุคบาซาร่า ฉันผิดหวังในตัวเธอ”


ดีวอสไม่สนใจมารยาทหรือเกียรติยศอีกแล้ว มันรับไม่ได้ที่ตนถูกสามดยุครุมเหยียดหยัน คนเหล่านี้เอาแต่ดูแคลนตัวมันเสมอ


หากปล่อยไว้ไม่สะสางให้กระจ่าง ความเจ็บแค้นอาจกัดกินจิตใจไปจนวันตาย


ขณะดีวอสขบกรามแน่น เกล็นฮาลถาม


“แล้วทำไมนายเอาแต่พูดถึงปิอาโร่?”


ปิอาโร่ตายไปแล้ว… เกล็นฮาลยอมรับความจริงข้อนี้มานาน และมันเก็บชายคนนั้นไว้ในใจเสมอมา


ทว่าดีวอสเอาแต่พล่ามถึงปิอาโร่ และทุกครั้งต้องมีกริดเกี่ยวข้องเสมอ


มีบางสิ่งไม่ชอบมาพากล


จุดความสงสัยเล็กๆ ภายในใจเริ่มสั่นกระเพื่อมเป็นวงกว้าง


และผู้ที่เหมาะสมจะตอบคำถามนี้ คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก…


“ปิอาโร่ อดีตอัศวินสีชาด… ปัจจุบันเป็นอัศวินส่วนตัวของฉันเอง”


กริด


“อะไรนะ?”


ดวงตาบาซาร่าและมอริสพลันเบิกโพลง นัยน์ตาดำด้านในกำลังสั่นระริกหนักหน่วง


“…ท่านราชา เป็นความจริงอย่างนั้นหรือ?”


เกล็นฮาลแสดงสีหน้าบิดเบี้ยว มันถามย้ำอีกหนเพื่อให้แน่ใจ


ไม่ว่าอีกฝ่ายจะมีพระคุณเพียงใด หรือสนิทสนมมากแค่ไหน แต่หากเอาชื่อปิอาโร่มาล้อเล่น มันคงไม่มีวันมองข้ามไปได้


ปิอาโร่สำคัญขนาดนั้นเชียว?


กริดหันไปสำรวจสีหน้าแววตาเกล็นฮาลอย่างสนอกสนใจ


“อา… เมื่อนานมาแล้ว ตอนที่ฉันยังเป็นเพียงสามัญชน ห่างไกลจากตำแหน่งกษัตริย์ ตัวฉันบังเอิญพบปิอาโร่ที่กำลังหลบหนีเข้า”


ในสมัยนั้น มันเป็นการพานพบที่เลวร้ายและไม่น่าจดจำ ปิอาโร่ชายคลั่งเสียสติซึ่งปราศจากเหตุผลโดยสิ้นเชิง


ทำเอากริดเกือบเสียชีวิตคาคมดาบ


แต่สำหรับกริด จุดเริ่มต้นแย่ๆ มักแปรเปลี่ยนเป็นสายสัมพันธ์แน่นแฟ้นเสมอ


“ในภายหลัง ฉันกลายเป็นขุนนางที่มีอำนาจปกครองเมือง ปิอาโร่จึงติดตามฉันมาด้วย”


“ร…เรื่องจริงหรือเนี่ย?”


กำลังจะบอกว่าปิอาโร่ยังไม่ตาย?


แถมยังรับใช้ราชาอาณาจักรอื่น?


ตัวตนต้องคำสาปอย่างมัน คนที่ไม่มีใครอยากเข้าใกล้แม้แต่สมาชิกตระกูล คนที่มีประโยชน์แค่ในสงคราม… แต่ปิอาโร่กลับต้อนรับอย่างอบอุ่น


ปิอาโร่เคยกล่าวว่า


อย่าได้ละอายที่จะเผยความบ้าคลั่งต่อหน้าพวกพ้องคนสำคัญ หากการกระทำดังกล่าวทำไปเพื่อประโยชน์ของประชาชนและบ้านเมือง


จงภูมิใจในตัวเองเถิด…


ย้อนกลับไปสมัยที่ ‘เจ็ดดยุค’ ยังเป็น ‘เก้าดยุค’


ปิอาโร่ อันดับหนึ่งแห่งเก้าดยุค คือเสาหลักที่คอยค้ำจุนอาณาจักรและเกล็นฮาลมาตลอด


“อะ…อะ…”


“ดยุคเกล็นฮาล!”


มอริสรีบวิ่งเข้ามาพยุงเกล็นฮาลที่ตกตะลึงจนร่างกายโซเซเสียหลัก


นัยน์ตาเกล็นฮาลกำลังแดงก่ำ


มันดีใจและมีความสุขมาก


ความเจ็บแปลบลึกๆ ที่ติดตัวมานานจากเหตุการณ์ในอดีต เมื่อขจัดหลุดออกไป เกล็นฮาลรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก


ขอบคุณสวรรค์ที่ทำให้ปิอาโร่ยังมีชีวิตอยู่และคอยรับใช้กษัตริย์ที่ยอดเยี่ยม ขอบคุณเทพธิดาแห่งแสง


ขณะเดียวกัน จิตใจเกล็นฮาลเริ่มถูกความสำนึกผิดกัดกร่อน บาปที่ตัวมันมิอาจปกป้องตระกูลของปิอาโร่ไว้ได้ อารมณ์หลากหลายกำลังถาโถมใส่จิตใจเกล็นฮาลพร้อมเพรียง


มันเริ่มร่ำไห้


“…”


ตัวตนปิอาโร่ยิ่งใหญ่กว่าที่กริดคิดมาก


เมื่อเห็นได้ท่าทีของเกล็นฮาล ชายหนุ่มพลันย้อนนึกถึงรายละเอียดตัวละครปิอาโร่สมัยที่ตนได้อ่านเป็นครั้งแรก—ทายาทของสุดยอดสายเลือดแห่งจักรวรรดิซาฮารัน


‘บางที นั่นอาจหมายถึงตระกูลดยุค’


แต่แล้ววันหนึ่ง เขากลับต้องสูญเสียทุกสิ่ง


จะรู้สึกเจ็บปวดทรมานมากเพียงใดกันนะ?


อดีตของปิอาโร่ ไม่ว่ากริดจะย้อนกลับไปมองสักกี่หน แต่ก็ไม่มีครั้งใดที่ไม่หดหู่


ถึงทุกวันนี้จะยกโทษให้อัสโมเฟลและใช้ชีวิตในทุ่งนาอย่างมีความสุข แต่ลึกๆ ภายในใจแล้ว ปิอาโร่ไม่มีวันยกโทษให้ราชวงศ์ซาฮารันแน่นอน


ท่ามกลางบรรยากาศวุ่นวาย


อึกอึกอึก!


กลิ่นสุราเริ่มฟุ้ง


เมื่อหันไปมองตามต้นตอ ทุกคนได้เห็นดีวอสผู้มีสีหน้าเย็นชากำลังกระดกซดขวดเหล้าในมือ ของเหลวสีใสถูกเทจากปากขวดไหลเข้าลำคอรวดเร็ว


“ฉันอุทิศทั้งชีวิตให้กับบ้านเมือง… พยายามรักษาเกียรติของขุนนางสูงศักดิ์เสมอมา!”


ดีวอสที่กระดกเหล้ารวดเดียวหมดเริ่มปากปากพูด


“แต่พวกนายกลับยกย่องคนทรยศที่หลบหนีไปเมื่อสิบกว่าปีก่อน!!”


ดีวอสหันมองเกล็นฮาลด้วยนัยน์ตาแดงก่ำปานกินเลือดกินเนื้อ


“แถมยัง… บอกว่าฉันคนนี้จะถูกฆ่าโดยฝีมือของกษัตริย์อาณาจักรเล็ก! บอกว่าฉันคนนี้จะศพไม่สวยเพราะราชาโอเวอร์เกียร์! คึฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!! เกล็นฮาล ฉันเริ่มเชื่อแล้วนายเป็นคนมีอารมณ์ขัน!!”


ขณะได้พบปิอาโร่บนกำแพงเมืองเรย์ดันคราวก่อน ทุกสิ่งที่ดีวอสเล่าล้วนเป็นความจริง


มันริษยาปิอาโร่มาตลอด


ร่างกายที่จะสำแดงพลังได้ก็ต่อเมื่อดื่มเหล้าเข้าไป ชายที่ไม่มั่นใจในตัวเอง ต้องใช้สุราช่วยเสริมความกล้าหาญเสมอ


มันอับอายชีวิตแสนสมเพชที่มิอาจอยู่ห่างจากเหล้าได้แม้แต่วันเดียว


เมื่อถูกเยาะเย้ยโดยนำไปเทียบกับตัวตนที่อ่อนแอกว่าอย่างกริด โทสะปริมาณมหาศาลพลันปะทุเดือด


“ฉันจะแสดงให้พวกนายเห็น! ฉันคนนี้ไม่ใช่ตัวตลก!!”


ดีวอสตะโกนพร้อมกับพุ่งปรี่เข้าหากริด


มันไม่สนเรื่องปิอาโร่อีกแล้ว เป้าหมายเดียวคือการฆ่ากริดเพื่อพิสูจน์ตัวเอง


ซู่วววว


ร่างกายดีวอสถูกเสริมประสิทธิภาพจากมานาที่ถูกกลั่นจากแอลกอฮอล์ ความว่องไวของมันสูงลิบชนิดที่กริดในร่างมืดมิอาจตรวจพบได้ด้วยผ้าปิดตาเพชฌฆาต


ฉึบ


“ข้าพเจ้าไม่ต้องการเห็นท่านได้ดิบได้ดี”


กริดลืมตาข้างที่อยู่ภายใต้ผ้าปิดตาเพชฌฆาต


[เนตรทำหมันแสดงผล!]


[สกัดกั้นบัฟดีทั้งหมดของเป้าหมาย]


[พลังจะแสดงผลต่อเมื่อเป้าหมายอยู่ในระยะการมองเห็น]


ผลสกัดกั้นบัฟไม่เพียงยับยั้งบัฟที่จะเกิดขึ้นในอนาคต แต่ยังลบล้างบัฟที่แสดงผลอยู่ก่อนแล้วด้วย


กริดเคยพิสูจน์เรื่องนี้กับดาเมี่ยน


“…!?”


ดีวอสผู้ห้าวหาญและไม่เกรงกลัวผู้ใดบนโลก จิตใจมันพลันสงบลงพร้อมกับการสลายไปของฤทธิ์สุรา


ความเร็วเคลื่อนที่ระดับกระสุนปืน เชื่องช้าลงเหลือระดับเพียงลูกธนู


กลิ่นเหล้าโชยหึ่งหายไปโดยพลัน


“สะพรั่งทำลายล้างร่ายรำสังหาร”


[เวทเสริมแกร่งศาสตราของบราฮัมแสดงผล]


[ขณะวิชาดาบกำลังทำงาน พลังโจมตีของอาวุธจะเพิ่มขึ้น 50%]


ซู่ว—


ดาบท้าทายเทพถูกฉาบด้วยพลังมานาเข้มข้นของมหาจอมเวทในตำนาน


[เวทตรวจจับของบราฮัมแสดงผล]


[ขณะใช้เทคนิคดาบ เป้าหมายจะถูกติดตามและเพิ่มความแม่นยำให้การโจมตี]


ปลายดาบพุ่งตรงไปยังจุดอ่อนบนร่างดีวอสโดยอัตโนมัติ


[เวทลมเฉือนของบราฮัมแสดงผล]


ฟุ่บ!


ฟุ่บฟุ่บฟุ่บฟุ่บฟุ่บฟุ่บ!


คมมีดวายุจำนวนมากพุ่งไปหาดีวอสพร้อมกับเส้นรัศมีดาบ


[เวทอัสนีของบราฮัมแสดงผล]


เปรี้ยะ! เปรี้ยะ!


กลีบดอกไม้สีฟ้าครามทุกกลีบล้วนห่อหุ้มด้วยเส้นอัสนีสุดทรงพลัง


บนโลกมีทักษะโจมตีที่วิจิตรงดงามและอลังการเช่นนี้ด้วยหรือ?


ดีวอสที่กลับสู่ร่างปรกติ มันตกตะลึงกับฉากตรงหน้าจนปล่อยให้คมดาบกริดแทงทะลวงจุดอ่อนบนร่างกายแม่นยำ


“แค่ก…!”


ฉากเมื่อครู่ช่างคลับคล้ายภาพความฝัน


กษัตริย์อาณาจักรเล็กสามารถลบล้างภาวะมึนเมา แถมยังเล็งโจมตีจุดอ่อนได้ทันที?


เทคนิคดาบเมื่อครู่ทำเอาดีวอสรู้สึกเจ็บแปลบทุรนทุราย


ทว่า ที่เอวของมันยังมีเหล้าเหลืออีกสามขวด


อึกอึกอึก!


มันกระดกซดเหล้าขวดใหม่


“อัญเชิญอัศวิน”


กริดคิดไวทำไว


เอฟเฟคของเนตรทำหมันเป็นแบบสุ่ม ไม่ใช่การลบหรือสกัดกั้นทุกบัฟ อาจแสดงหรือไม่แสดงผลก็ได้


ดีวอสยังเหลือพลังชีวิตมากถึง 2 ใน 3 แม้จะถูกท่าไม้ตายกริดแทงเข้าจุดอ่อนอย่างจังโดยไร้การปัดป้อง


ชายหนุ่มประเมินว่า หากตนและสิบวีรชนฯ รุมโจมตีดีวอส โอกาสชนะยังพอมีก็จริง แต่ท่ามกลางไร้อ้อยที่เต็มไปด้วยสาวกเทพสงครามลาดตระเวนเช่นนี้ คงไม่ฉลาดนักหากการต่อสู้ยืดเยื้อและวุ่นวาย


แถมโอกาสที่ดยุคคนอื่นจะขัดขวางก็ยังมี


ต้องจบลงโดยเร็วที่สุด


ยิ่งไปกว่านั้น เป็นโอกาสอันดีในการเพิ่มค่าความสัมพันธ์กับเกล็นฮาลที่เคารพนับถือปิอาโร่


กระทำทั้งหมดล้วนถูกคำนวณและหวังผล


“ปิอาโร่”


กริดดึงไพ่ตายออกจากสำหรับ


การมาถึงของปิอาโร่จะทำให้ทุกปัญหาที่กริดกำลังเผชิญจบลง


…เป็นเช่นนี้มาแต่ไหนแต่ไร


ซู่วววว—


ท่ามกลางทะเลแดง


เกาะที่ถูกตัดขาดการสื่อสารทุกชนิด รวมถึงเวทมนตร์เคลื่อนย้ายมิติ แล้วเหตุใดถึงยินยอมให้มีการอัญเชิญอัศวินได้?


กริดเคยครุ่นคิดหาเหตุผลอยู่นาน ถึงสาเหตุที่โบราณสถานเทพสงครามต้องตัดขาดการเชื่อมต่อทุกชนิดกับโลกภายนอก


คำตอบที่ได้รับจากการเค้นสมองคิดคือ บางที การตัดขาดระบบสื่อสารมีไว้เพื่อมิให้ ‘ผู้อ่อนแอ’ เข้ามาเฉียดใกล้โบราณสถาน


เทพสงครามยินดีต้อนรับบุคคลที่แข็งแกร่งเสมอ และบุคคลแข็งแกร่งย่อมเรียกหาผู้ที่มีฝีมือระดับใกล้เคียงกัน


[เทพสงคราม·เซราทุลอนุญาตให้มีการใช้เวทมนตร์เคลื่อนย้ายมิติชั่วคราว]


[อัศวินของท่าน ‘ปิอาโร่’ ถูกอัญเชิญข้างกาย]


“ยินดีที่ได้รับใช้ฝ่าบาท กระหม่อมเฝ้ารอเวลานี้มานานแล้ว”


ปิอาโร่ตกเป็นเป้าของทุกสายตา


ชาวนาในตำนานมาในชุดเกราะหนักพร้อมรบเต็มรูปแบบ มิใช่เครื่องแบบชาวนาซอมซ่อเหมือนทุกที


มันเป็นห่วงกริดที่ออกไปเผชิญอันตรายบนเกาะโบราณเทพสงคราม จึงเตรียมพร้อมสำหรับการถูกอัญเชิญตลอดเวลา


“ด…ดยุคปิอาโร่…”


ทั้งหมดคือเรื่องจริง…


อดีตวีรบุรุษของพวกมันยังมีชีวิตอยู่ แถมยังสุขภาพดีและมีความสุขกว่าที่เคย


เกล็นฮาลและมอริสต่างยืนมองปิอาโร่ด้วยร่างกายที่สั่นเทา


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,428
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. ยอดเยี่ยม​มาก​👍👍👍🤩 ขอบคุณ​ครับ​

    ReplyDelete
  2. ปิอาโร่ในชุดพร้อมรบ👍👍

    ReplyDelete
  3. สนุกมากครับเนื้อเรื่องพลิกไปมาตลอด

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00