จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1033

มีผู้เล่นจำนวนมากรังเกียจจักรวรรดิซาฮารัน

ไม่สิ เรียกว่าเกือบทั้งหมดคงจะถูกกว่า

จะมีผู้เล่นหัวสมัยใหม่สักกี่คนที่ชื่นชอบจักรวรรดิซึ่งมีพฤติกรรมกดขี่และปกครองทุกสิ่งด้วยพลังอำนาจ? จะมีสักกี่คนชื่นชอบการปกครองแบบเผด็จการ?

อาจมีหลายคนเลือกจักรวรรดิเป็นเมืองเกิดเพราะหวังได้รับความสะดวกสบาย แต่หากถามหาผู้ที่ยอมอุทิศตัวด้วยใจบริสุทธิ์ คนประเภทนี้แทบไม่ปรากฏให้เห็น

ถึงอย่างนั้นกลับมีหนึ่งสิ่งที่แปลก

ชาวจีนชื่นชอบจักรวรรดิซาฮารันมากกว่าชนชาติอื่น อาจเพราะการใช้อิทธิพลกดดันที่จักรวรรดิชอบทำ มีลักษณะคล้ายคลึงกับพฤติกรรมของจีน ซึ่งใช้อิทธิพลตนเองกดดันชาติเล็กรอบข้างอยู่เสมอ ส่งผลให้ชาวจีนชินชาและไม่ได้มองในแง่ลบ

ในสายตาพวกมัน หลักการปกครองของจักรวรรดิมิใช่สิ่งที่น่าขยะแขยง กลับกัน ชาวจีนหลายฝ่ายแสดงความชื่นชมในความมั่งคั่งและเป็นปึกแผ่นของจักรวรรดิ

แน่นอนว่าไม่ใช่คนจีนทั้งหมดที่คิดเช่นนี้ แต่ส่วนใหญ่มักสนับสนุนและเปรียบเปรยว่าจักรวรรดิซาฮารันคือ ‘จีนแห่งซาทิสฟาย’

แรงเกอร์ชาวจีนเบื้องหน้ากริดคือหนึ่งในกลุ่มดังกล่าว สำหรับพวกมัน จักรวรรดิเป็นตัวตนที่อยู่คนละมิติ มีรากฐานและประวัติศาสตร์ยาวนานยิ่งใหญ่ ขุนนางแห่งจักรวรรดิคือผู้ทรงอิทธิพลของทวีปที่ได้รับการนับหน้าถือตา

จากบรรดาขุนนางทั้งหมดบนทวีป ไม่มีใครที่ยิ่งใหญ่ไปกว่า ‘เจ็ดดยุค’

“แล้วทำไมกริดถึง…”

ดยุคเหล่านี้กำลังออกรับหน้าแทนกริดที่เป็นกษัตริย์อาณาจักรเล็ก? ไม่สิ นี่มันยิ่งกว่าการออกหน้ารับแทนเสียอีก

“ท่านคงหงุดหงิดสินะครับที่พวกไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงบังอาจหันคมดาบใส่ เดี๋ยวผมจะจัดการสั่งสอนให้เอง ท่านยืนชมเฉยๆ ก็พอ”

แตกต่างจากเสือเขี้ยวดาบที่ปีนไต่ผาหินชันได้ง่ายดาย

แฮ่ก… แฮ่ก…

ฮิปโปสองหัวซึ่งมีค่าความว่องไวต่ำและน้ำหนักตัวมาก มันเกือบร่วงลงไปหลายหน

ดยุคเกล็นฮาลที่พยายามประคองฮิปโปสองหัวอย่างสุดความสามารถ มันหายใจเหนื่อยหอบพลางปฏิบัติตัวนอบน้อมราวกับกริดเป็นหัวหน้า

คล้ายกับท่าทีที่มีต่อ… องค์จักรพรรดิ

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่? นี่มันเรื่องบ้าอะไร?”

กริดเป็นท้องฟ้าที่ปกครองมวลหมู่ผู้เล่นก็จริง แต่นั่นไม่ใช่กับ NPC พิเศษ โดยเฉพาะเจ็ดดยุคแห่งจักรวรรดิที่มีอิทธิพลสูงสุดของทวีป

เมื่อนำบรรดาศักดิ์มาเปรียบเทียบกัน กริดด้อยกว่าเจ็ดดยุคในทุกด้านชัดเจน แถมเมื่อไม่กี่สิบวันก่อน ขณะโอเวอร์เกียร์ทำสงครามกับจักรวรรดิ กริดได้สังหารหนึ่งในดยุคอย่างราชาท้องฟ้า·รีกัล

ไม่ว่าจะมองมุมใด ราชาโอเวอร์เกียร์ไม่น่าจะสานสัมพันธ์กับจักรวรรดิได้เลย เป็นเรื่องปรกติมากๆ ที่เจ็ดดยุคจะโกรธแค้นและต้องการบีบคอกริดให้ตายคาที่

‘แล้วทำไมพวกมันถึงได้เอาอกเอาใจกริดขนาดนี้!’

ไม่เข้าใจเลยสักนิด

กลุ่มแรงเกอร์ที่พรรคสังคมนิยมจีนส่งมาสำรวจโบราณสถาน พวกมันส่วนใหญ่ยังหนุ่มแน่นและเลือดร้อน ยากจะให้จับใจความว่า กริดและดยุคจักรวรรดิไปสนิทสนมตั้งแต่ตอนไหน

จางเจี๋ยนยืนเหม่อเป็นเวลานาน

“ไม่น่าจะใช่การล้างสมอง…”

กล่าวกันว่า ในซาทิสฟายมีคลาสลับบางชนิดที่สามารถล้างสมอง NPC ได้ การใช้งานทักษะล้างสมองจะช่วยให้ผู้เล่นสามารถรับภารกิจแบบเดียวกับการมีค่าความสัมพันธ์เต็ม

แต่ปัญหาคือ โอกาสสำเร็จจะต่ำมากหากเป้าหมายเป็น NPC พิเศษ และยิ่งต่ำไปลงอีกเมื่อประเมินจากเลเวลและค่าสถานะเป้าหมาย

ไม่ต้องพูดถึง NPC ระดับดยุคจักรวรรดิ

พวกมันตัดโอกาสที่กริดจะใช้ทักษะล้างสมองออกไป ความสัมพันธ์ในปัจจุบันต้องเกิดจากการเล่มตุกติกบางอย่างแน่

ขณะกำลังสับสนถึงขีดสุด

“ภายใต้ประมวลกฎหมายอันศักดิ์สิทธิ์ของจักรวรรดิซาฮารันผู้ปกครองทวีปตะวันตก ผู้ที่เหิมเกริมชักอาวุธต่อหน้าเจ็ดดยุคต้องรับโทษตายสถานเดียว”

เกล็นฮาลชักดาบด้วยสีหน้าเย็นยะเยียบพลางอธิบายกฎมนเทียรบาล

ชาวจีนที่เคยชื่นชมจักรวรรดิมาตลอด เมื่อถึงคราวตนเองถูกเล่นงานด้วยกฎหมายไม่ชอบธรรมบ้าง แต่ละคนต่างออกอาการหงุดหงิด

“กฎหมายเหลวไหลสิ้นดี!”

“ใช่แล้ว! พวกเราแค่ชักอาวุธหลังจากได้ยินเสียงเอะอะโวยวายเท่านั้น! ไม่ได้คิดจะฆ่าใครสักหน่อย!”

เป็นถึงผู้มีพลังอำนาจ ไม่ควรนำกฎหมายมาข่มเหงผู้อ่อนแอกว่า ในสายตาของบุคคลไร้พลัง การกระทำเยี่ยงนี้นับว่าเอาเปรียบกันเกินไป

แรงเกอร์ชาวจีนต่างแสดงท่าทีเดือดดาล แต่ฝ่ายสามดยุคก็ไม่มีใครแยแส

ในวินาทีที่ดยุคเกล็นฮาลกำลังจะปลิดชีพแรงเกอร์ชาวจีนแสนกระจอก ลอเอลรีบตะโกนขัดขวางไว้

“ท่านดยุค ได้โปรดสงบอารมณ์ก่อน”

แน่นอน สำหรับลอเอลที่เป็นแรงเกอร์ชาวสหรัฐ ตัวมันก็ไม่ได้ชอบขี้หน้าแรงเกอร์ชาวจีนสักเท่าไร แถมอีกฝ่ายยังโอหังและข่มขู่ว่าจะฆ่าโอเวอร์เกียร์ทิ้งเพื่อผูกขาดโบราณสถานไว้เพียงผู้เดียว

แต่หลังจากได้ประจักษ์พลังสาวกเทพสงครามสิบเทคนิค ลอเอลเริ่มตระหนักถึงความอันตรายของโบราณสถานเทพสงคราม มันเคยประเมินว่า ด้วยกำลังรบปัจจุบันที่มี แม้จะรวมสามดยุคเข้าไปด้วยแล้ว แต่การรวบรวมคัมภีร์ลับทั้งหมดบนเกาะก็ไม่ใช่เรื่องง่าย

“เก็บพวกมันไว้ใช้งานน่าจะดีกว่าฆ่าทิ้ง…”

ลอเอลพยายามโน้มน้าว

มันมั่นใจว่าแรงเกอร์ชาวจีนคงไม่กล้าแข็งข้อตนที่มีช่วยรักษาชีวิตไว้ คนเหล่านี้จะกลายเป็นแรงงานสำหรับรวบรวมคัมภีร์ได้เป็นอย่างดี ความสำนึกในบุญคุณจะทำให้พวกมันไม่กล้าเหิมเกริมทักท้วงขอส่วนแบ่ง

ทว่า ยังไม่ทันลอเอลจะโน้มน้าวเสร็จ

“ต่อให้ต้องตาย ฉันก็ไม่คิดร่วมมือเด็ดขาด!”

เฮ่าตะโกนพลางหยิบหอกและโซ่ออกมาถือ สีหน้าแววตาพร้อมสู้จนตัวตาย

“พวกเราจะสู้จนกว่าชีวิตจะหาไม่!!”

“เสียสติไปแล้วรึไง! นายกำลังพูดบ้าอะไรอยู่”

แรงเกอร์ชาวจีนต่างรีบโวยวายเฮ่า

“ทางรอดอยู่ตรงหน้าแล้ว! พวกเราควรร่วมมือกับโอเวอร์เกียร์ถึงจะถูก!”

“การตายที่นี่จะถูกส่งตัวออกจากทะเลแดงทันที นายลืมแล้วรึไงว่าพวกเราต้องฝ่าฟันอุปสรรคยากลำบากแค่ไหนกว่าจะมาถึง? การเดินเรือรอบที่ผ่านมา พวกเรามีโชคช่วยค่อนข้างมาก ฉะนั้น ไม่มีสิ่งใดรับประกันว่าเราจะถึงเกาะอย่างปล่อยภัยในรอบหน้า!”

พวกมันรุมแหกปากคัดค้านเฮ่า เสียงตะเบ็งดังจนเกือบเป็นการตะโกน ไม่มีใครอยากเชื่อว่าเฮ่าซึ่งเป็นหัวหน้า จะนำพาพวกพ้องไปสู่หายนะ

กระนั้น เฮ่ามิได้เปลี่ยนท่าที

มันทราบดี หากตนและพวกพ้องร่วมมือกับกิลด์โอเวอร์เกียร์สำรวจโบราณสถานจนสำเร็จ ยิ่งรวบรวมคัมภีร์ได้มากเพียงใด แรงเกอร์ชาวจีนก็ยิ่งเกิดความละโมบและร้องขอส่วนแบ่งมากเท่านั้น

…นั่นจะเป็นชนวนความขัดแย้ง

ปัจจุบัน พวกมันแสร้งทำเป็นยินยอมแต่โดยดีเพียงเพราะไม่อยากตาย แต่ความรู้สึกจะแปรเปลี่ยนในภายหลังแน่

เฮ่าเห็นมาบ่อยครั้งแล้ว

‘ในคราวก่อน เราจำเป็นต้องยืนข้างพวกมันอย่างไม่มีทางเลือก’

ฐานะของเฮ่าในประเทศจีนค่อนข้างไม่มั่นคง ผู้คนมากมายยังคงไม่ลืมภาพที่เฮ่าคุกเข่ายอมแพ้กริด และแน่นอน พรรคสังคมนิยมได้ทำการตักเตือนหลายครั้ง

การมอบหมายหน้าที่หัวหน้าคณะสำรวจก็เป็นหนึ่งในวิธีพิสูจน์ความจงรักภักดีต่อประเทศ พวกมันต้องการเห็นว่า หากจีนและโอเวอร์เกียร์ปะทะกันเพื่อแย่งชิงคัมภีร์ เฮ่าจะเลือกยืนฝ่ายใด

‘หากเรายืนข้างชาวจีนและลอบทำร้ายโอเวอร์เกียร์ภายหลังเพื่อชิงคัมภีร์ ความสัมพันธ์กับกริดคงแย่ลงจนกู่ไม่กลับ’

แต่ถ้าไม่เลือกฝ่ายจีน ชีวิตก็จะมีอันตราย

กริดเป็นเพียงไม่กี่คนที่เฮ่ายอมรับจากใจ มันไม่ต้องการให้ความสัมพันธ์ระหว่างตนและกริดจบลง

ด้วยเหตุนี้

‘เราต้องรีบตัดไฟตั้งแต่ต้นลม เหตุการณ์จะได้ไม่ลุกลามบานปลาย’

สู้ตายทั้งหมดแต่แรก ดีกว่าปล่อยให้ชาวจีนต่ำทรามลงมือลอบกัดกริดในภายหลัง ตนจะได้ไม่ต้องวางตัวลำบาก

เมื่อตัดสินใจได้ เฮ่าหันไปตะโกนกับเหล่าแรงเกอร์ชาวจีนทุกคน

“พวกเรามาที่นี่เพื่อแข็งแกร่งขึ้น! การร้องขอชีวิตอย่างน่าสมเพชช่วยให้แข็งแกร่งขึ้นตรงไหนกัน? มันคือความอับอายไปชั่วชีวิตต่างหาก! ท่านประธานาธิบดีต้องโกรธมากแน่ถ้าทราบความจริงเข้า!!”

“…!”

เมื่อสิ้นเสียงเฮ่า แรงเกอร์ชาวจีนเริ่มเปลี่ยนสีหน้า สำหรับพวกมัน ประธานาธิบดีเป็นทั้งบุคคลที่น่าเคารพและน่าหวาดกลัว

“บ้าจริง… แบบนั้นสู้จนตัวตายยังดีกว่า”

เหลียวเหว่ยขบกรามแน่น ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด แต่มันไม่ต้องการคุกเข่าร้องขอชีวิตต่อหน้ากิลด์โอเวอร์เกียร์

สาเหตุเพราะ หัวหน้าคือกริด

ชาวเกาหลีใต้

‘ความพ่ายแพ้ต่อเกาหลีใต้ในงานแข่งนานาชาติส่งผลให้ท่านประธานาธิบดีโมโหมาก หากเขาทราบว่าพวกเราร้องขอชีวิตจากพวกสุนัขเกาหลีใต้ ไม่อยากคิดว่าจะโกรธขนาดไหน’

ถึงผลลัพธ์จะเลวร้าย แต่พวกมันมีเพียงเส้นทางเดียวให้เดินต่อ

สู้และตายที่นี่

แรงเกอร์ชาวจีนตัดสินใจละทิ้งชีวิต พวกมันเริ่มตั้งขบวนรบเต็มรูปแบบ

“…”

หลังจากเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด กริดและพีคซอร์ดต่างเข้าใจเจตนาแฝงของเฮ่าทันที

ทั้งสองเป็นชาวเกาหลีที่คุ้นเคยกับลักษณะนิสัยของชาวจีน จึงมองเห็นว่าเฮ่าเป็นห่วงฝ่ายตนและจงใจปลุกระดมแรงเกอร์ชาวจีนให้ลุกฮือ

ด้านลอเอลก็เริ่มอ่านออก

สามดยุคชำเลืองมองลอเอล

“ยังต้องไว้ชีวิตพวกมันอยู่ไหม?”

“ไม่ต้องแล้วครับ เชิญจัดการได้เลย”

“อา…”

เกล็นฮาลและมอริสพยักหน้าพร้อมกัน

เกล็นฮาลหยิบโล่ ส่วนมอริสสวมสนับมือ ดวงตาทั้งคู่เหลือบมองไปยังเฮ่า

พรึ่บ—

ปึกคู่หนึ่งสยายจากแผ่นหลังเฮ่า

เศษเสี้ยวโลหิตมังกรพลันสูบฉีดไปทั่วร่าง มัดกล้ามเนื้อขยายตัว เกล็ดสีดำคล้ายมังกรปกคลุมร่าง

“มาแสดงพลังชาวจีนกันเถอะ!!”

ขณะกล่าว ละอองลมหายใจเฮ่าพ่นออกมาเป็นเปลวเพลิงอุณหภูมิสูง

“โอ๊สสส!!”

แรงเกอร์ชาวจีนต่างถูกปลุกระดม พวกมันกำลังฮึกเหิม ต่อให้เฮ่าจะถูกสังคมตราหน้าว่าเป็นไอ้ขี้ขลาดหรือคนทรยศ แต่ในฐานะแรงเกอร์ด้วยกัน ไม่มีใครไม่ยอมรับในฝีมือและความเป็นผู้นำของเฮ่า

เคร้งงงง!

ในวินาทีที่โซ่ยาวของเฮ่าสะบัดแหวกอากาศปะทะโล่ในมือเกล็นฮาลจนเกิดเสียงกึกก้อง

หมับ!

ริ้วผ้าของเหมยเซียวตวัดตรึงโล่เกล็นฮาลจนชะงักงัน มันมิอาจใช้โล่กำบังการโจมตีได้ชั่วขณะ

“ชิ!”

ขณะประหลาดใจกับความรุนแรงของโซ่จากเฮ่า มันถูกเล่นงานทีเผลอด้วยริ้วผ้าพันธนาการจากหญิงสาวลึกลับ

หางตาเกล็นฮาลเริ่มกระตุก

สองพี่น้องเฮ่าเหมยเซียวรู้ใจกันอย่างน่าทึ่ง การต่อสู้ผสานมีบรรยากาศคุกคามไม่ด้อยไปกว่าสาวกเทพสงครามห้าเทคนิคสองตนเลยสักนิด

ซู่ววว—

ฟ้าววว—

เมื่อสบโอกาส แรงเกอร์ชาวจีนที่เหลือต่างรุมโจมตีเกล็นฮาลโดยไม่รีรอ คลื่นพลังนานาชนิดพวยพุ่งจากศาสตราหวังฆ่าหนึ่งในเจ็ดดยุคให้สิ้นชีวิตคาที่

นี่คือความน่าเกรงขามของชาติมหาอำนาจทางซาทิสฟายอย่างจีน ที่เป็นรองเพียงสหรัฐประเทศเดียว

แม้แต่ขุนพลโอเวอร์เกียร์ยังเหงื่อตกกับฉากตรงหน้า ถึงแรงเกอร์ชาวจีนหลายสิบจะตายพริบตาด้วยกำปั้นมอริส แต่พวกมันก็ยังเหลือมากกว่าร้อยห้าสิบ

โดยเฉพาะเฮ่าที่น่ากลัวเป็นพิเศษ ปลายหอกอัดแน่นด้วยปราณมังกรลึกลับซึ่งแม้แต่กริดยังสัมผัสได้ถึงความน่าหวาดหวั่น

ทว่า คู่ต่อสู้ในคราวนี้ผิดรุ่นเกินไป

เกล็นฮาลเลิกสนใจโล่ในมือซ้ายที่ถูกรัดรึง มันใช้มือขวาชักดาบตวัดครึ่งวงกลมจนเกิดแสงจันทร์เสี้ยวพุ่งสวนการโจมตีทั้งหมด

บึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม

คลื่นพลังทุกชนิดที่ถาโถมเข้าหาเกล็นฮาล พวกมันมีอันถูกทำลายพินาศสิ้น

“…!!”

แขนซ้ายเฮ่าที่ปกคลุมด้วยเกล็ดมังกรหนาหลายชั้นพลันถูกเฉือนขาด ร่างกายแรงเกอร์หลายคนส่องแสงสีเทาแสดงถึงจุดจบ

เมื่อได้เห็นเหตุการณ์สุดสยดสยองตรงหน้า ปลายมือกริดสั่นระริกเล็กน้อย

‘นายก็เก็บซ่อนฝีมือไว้เหมือนกันไม่ใช่รึไง?’

ท่าสวนกลับเมื่อครู่มีประสิทธิภาพสูงกว่าวังวนของตนหลายเท่านัก

หลังจากได้เห็นเต็มสองตา กริดเริ่มมั่นใจ หากลานต่อสู้ไม่ใช่หุบเหวน้ำตก 53 สาย ลำพังเกล็นฮาลอาจรับมือกับสาวกเทพสงครามสิบเทคนิคไหว

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะชนะ

‘อริยหอก·เรเชลที่กล่าวกันว่าแข็งแกร่งกว่าเกล็นฮาลเล็กน้อย เธออาจดวลกับสาวกเทพสงครามสิบเทคนิคชนะ’

ทันใดนั้น กริดพลันขนลุก

แม้แต่เจ็ดดยุคที่แข็งแกร่งหรือที่สุด หรือกระทั่งสาวกเทพสงครามที่เก่งที่สุด ก็ยังเป็นรองยังบัน·การัมอยู่อีกหรือ?

กริดยังหาวิธีปราบการัมไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องรีบหาให้พบ เพราะตนมีกำหนดการต้องไปเยือนทวีปตะวันออกในสักวัน เพื่อรวบรวมฟืนสำหรับจุดไฟเตาหลอม

‘ทั้งที่เรายังแข็งแกร่งได้อีกมาก… แต่ทำไมต้องขาสั่นขนาดนี้?’

ไม่ว่าจะมองมุมใด ระดับการเติบโตของ NPC พิเศษนั้นเอาเปรียบผู้เล่นมากเกินไป

แบบนี้ไม่ยากเกินไปหน่อยหรือ?

ผู้เล่นไม่วันเอาชนะ NPC ได้เลยหรือไง?

หมับ!

กริดกำหมัดแน่น มันเอาใจช่วยเฮ่าโดยไม่รู้ตัว

เคร้งงง—

เปรี้ยงเปรี้ยง!

บึ้มมมมม!

การต่อสู้เข้มข้นขึ้นทุกขณะ

แรงเกอร์ชาวจีนหลายสิบมีอันต้องจบชีวิตเมื่อเกล็นฮาลและมอริสลงมือโจมตีอย่างเอาจริงเอาจริง

จนกระทั่งเหลือเพียงหนึ่งเดียวที่ยังยืนหยัด

ทว่า ด้วยความที่เสียแขนซ้ายไปอย่างรวดเร็วในต้นศึก แถมเกล็ดมังกรเริ่มร่วงโรยจากขีดจำกัดด้านเวลาของการแปลงร่าง

“ย๊ากกกก!!”

ฉึก!

แทนที่จะใช้เศษหอกแตกหักเหมือนทุกครั้ง เฮ่าฉวยโอกาสแทงกรงเล็บมังกรสุดแหลมคมเสียบหน้าอกเกล็นฮาลโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันคาดคิด

“อั่ก…?!”

เกล็นฮาลครางเบาๆ

มอริสและบาซาร่าออกท่าทางตกตะลึง

กริดเองก็เช่นกัน

ความสิ้นหวังที่มนุษย์มิอาจก้าวข้าม NPC พิเศษได้ชั่วชีวิต เฮ่าเป็นผู้จุดประกายกลับมาให้กริดอีกครั้ง ถึงแม้จะเลือนรางมากก็ตาม

แววตาและรอยยิ้มของเฮ่าที่เปี่ยมด้วยความพึงพอใจ ถูกส่งมาถึงกริดซึ่งยืนอยู่ด้านหลัง

“ใช้หนี้คืนให้แล้วนะ”

“เห็นแล้ว… ความหวังดีของนาย ฉันขอรับไว้อย่างเต็มใจ”

กริดพยักหน้า

ฉัวะ—

ดาบเกล็นฮาลสะบั้นคอเฮ่าหลุดจากบ่า

ทันใดนั้น

[สมญานาม ‘ราชาสหเผ่าพันธุ์’ ทำงาน]

[‘ราชาสหเผ่าพันธุ์’ เหลือจำนวนการใช้งานอีกสามครั้ง ท่านจะใช้งานพลังหรือไม่?]

นี่คือครั้งแรกที่กริดมีโอกาสได้ใช้พลังจากสมญานาม ‘ราชาสหเผ่าพันธุ์’ ซึ่งได้รับเมื่อครั้งเชิญชวนเผ่าเนตรมารเข้าเป็นพลเมืองอาณาจักรโอเวอร์เกียร์อย่างเป็นทางการ

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬

ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน

ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,422

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

• Next
• Previous