จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1031



ณ สำนักงานใหญ่ SA กรุป


ตุ้บ!


ใครบางคนทำน่องไก่หลุดมือ


ตุ้บ!


บางคนทำปีกไก่ที่กำลังจะถูกกัดหล่นพื้น


“…”


และอีกหลายคนที่ทำสิ่งของในมือหลุดร่วง


นี่คือผลข้างเคียงหลังจากกริดได้ครอบครองคลาสรองที่สอง นับเป็นผู้เล่นคนแรกของโลกอย่างเป็นทางการ


“…อะ”


ผู้อำนวยการยุนซังมินที่ได้รับสติกลับมาก่อนใคร มันชำเลืองมองเศษไก่ทอดซึ่งหล่นกระจัดกระจายบนโต๊ะ


ขอบคุณสวรรค์… ตัวเราโชคดีกว่าใคร


ชิ้นที่หล่นเป็นแค่ส่วนอก!


อึก! แทนที่จะเป็นเบียร์ตามปรกติ ผู้อำนวยการยุนซังมินรีบกลืนน้ำเปล่าอึกใหญ่ลงคอ


ถัดมา มันใช้ผ้าซับซอสเผ็ดออกจากริมฝีปากและหันไปกล่าวกับทุกคน


“ผมเคยคิดมาตลอดว่า ผู้เล่นคนแรกที่ครอบครองคลาสรองที่สองต้องเป็นแอ็กนัส …แต่เดาผิดไปถนัด”


อันที่จริง ระบบ ‘คนแรก’ ในคลาสรองที่สองนั้นมิได้สลักสำคัญแต่อย่างใด ผู้เล่นคนแรกไม่ได้รับสิทธิประโยชน์เหนือกว่าคนที่ครอบครองลำดับสอง สาม หรือสี่


ทว่า มันมีความหมายในเชิงเกียรติยศ


ปัจจุบัน จำนวนผู้เล่นที่ครอบครองคลาสรองมีทั้งสิ้น 1,311 คน และจากบรรดาทั้งหมด บุคคลแรกที่ได้รับคือ ‘ฮิวรอย’


ไม่มีผู้ใดลบล้างเกียรติยศนี้ได้ ชื่อของฮิวรอยจะถูกจารึกไว้ตราบนานเท่านาน


ดังนั้น กริดซึ่งได้รับคลาสรองที่สองเป็นคนแรกและแซงหน้าผู้เล่นสองพันล้านไปอีกหนึ่งก้าว ความภาคภูมิใจคงมากมายจนยากอธิบายเป็นคำพูด


โดยสิ่งหนึ่งที่ต้องไม่ลืมคือ คลาสใหม่ของกริด มหาจอมดาบเวท คือคลาสแรกในเกมที่ระบุถึงตัวตนคลาส ‘เกรดมิธ’ ไว้ชัดเจน


[มีใครบางคนได้รับคลาสรองที่สอง]


[จุดเริ่มคือตำนาน และจะสิ้นสุดที่เทวตำนาน]


ภาพบนหน้าจอ


ข้อความโลกปรากฏสู่สายตาผู้เล่นทุกคน


หากใครมีประสบการณ์ในซาทิสฟายมากหน่อย จะเข้าใจได้ทันทีว่านี่คือสัญญาณการใกล้ปรากฏตัวของคลาสเกรดมิธ


เดาได้ไม่ยากเลยว่าผู้คนทั่วโลกโลกจะเกิดความโกลาหลมากเพียงใด


แต่มีอยู่หนึ่งคนที่ไม่ตื่นเต้น


“…เขาตอบสนองได้สุขุมผิดคาด”


กริดมิได้ดีใจจนกระโดดโลดเต้น ไม่สิ ระบุให้ชัดคือ ชายหนุ่มยังไม่มีโอกาสให้แสดงความดีใจ


สมาธิทั้งหมดต้องเพ่งอยู่กับการสังหารสาวกเทพสงครามสิบเทคนิค โดยจากนั้นก็ถูกคำสาปเทพสงครามเล่นงานซ้ำ


ผู้บริหารทุกคนรอชมท่าทีกระโดดโลดเต้นของกริดด้วยใจจดจ่อจนลืมทานไก่ทอดในมือ


ถ้ากริดมีความสุข พวกมันก็จะสุขไปพร้อมกัน คณะผู้บริหารชื่นชอบที่จะเห็นเด็กหนุ่มจิตใจงดงามคนหนึ่งเติบโตขึ้นจากสภาพแวดล้อมภายในเกม


ทุกคนที่ทราบอดีตกริด ล้วนเกิดความรู้สึกเห็นอกเห็นใจอยู่ลึกๆ


ทว่า แม้เหตุการณ์จะล่วงเลยจนคณะเดินทางได้พบ ‘หีบคัมภีร์’ ภายในถ้ำหลังม่านน้ำตก แต่กริดกลับยังไม่แสดงท่าทีดีใจแม้แต่หนเดียว


คำถามมากมายผุดขึ้นในหัวกลุ่มผู้บริหาร


“คนเราจะใจเย็นได้ขนาดนี้เชียวหรือ? ทั้งที่เขาเพิ่งได้รับคลาสรองเกรดเลเจนดารี”


“เกิดอะไรขึ้นกับกริดกันแน่?”


จริงอยู่ที่กริดประสบความสำเร็จมากมายตลอดปลายปีที่ผ่านมา ในฐานะผู้เล่นคลาสเกรดเลเจนดารี เขาคือผู้เล่นคนแรกที่สร้างไอเท็มระดับตำนาน คือผู้มีพระคุณของอาณาจักรอีเทอนัล สร้างเนื้อสร้างตัวจนก่อตั้งอาณาจักรและได้รับสมญานามกษัตริย์คนแรก


คือบุคคลที่คว้าเหรียญทองงานแข่งนานาชาติมากที่สุดตลอดกาล คือราชาวีรบุรุษผู้ชำระล้างหมู่เกาะเบเฮ็น คือผู้สืบทอดชิ้นส่วนพลังจากบราฮัมและราชาไร้พ่าย


รวมถึงเกียรติยศอีกมากมายที่เล่าไม่หมด…


เขาครอบครองสมญานามล้ำค่าชนิดแล้วชนิดเล่าที่ผู้เล่นทั่วไปเอื้อมไม่ถึง คือบุคคลแรกของทวีปที่จักรวรรดิซาฮารันให้การยอมรับ


หรือแม้กระทั่งการแข่งตีเหล็กกับเทพ!


ชื่อเสียงทั้งหมดทั้งมวลส่งผลให้กริดถูกคนทั่วโลกสรรเสริญให้เป็นดาราดังอันดับหนึ่ง


ทว่า ความสำเร็จในหนนี้พิเศษออกไป


การแสดงความยินดีถือเป็นสิ่งปรกติที่คนทั่วไปพึงกระทำ


ดังนั้น เมื่อเห็นกริดมิได้ออกท่าทางดีใจ คณะผู้บริหารจึงเริ่มกระสับกระส่าย


“เขาไม่ดีใจเพราะเป็นความสำเร็จที่เกิดจากโชคและความบังเอิญอย่างนั้นหรือ?”


อาจเป็นไปได้…


มีผู้บริหารบางคนเห็นด้วยกับความคิดนี้


คลาสรองที่สอง ‘ขุนนางอสูร’ ซึ่งแอ็กนัสจะได้รับในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า คือสิ่งที่ถูกวางแผนล่วงหน้าและเตรียมการเป็นอย่างดี


แอ็กนัสได้ครอบครองในสิ่งที่ตนปรารถนาด้วยความตั้งใจ มิได้พึ่งพาโชค


แต่กลับกัน คลาสมหาจอมดาบเวทของกริดเกิดจากความบังเอิญที่ซ้อนทับ เขาไม่เคยวางแผนไว้ก่อน ไม่มีทางทราบได้เลยว่า บราฮัมจะเปลี่ยนใจและช่วยผสานวิชาดาบเข้ากับเวทมนตร์


…หากไม่เพราะสกังค์ค้นพบโบราณสถาน


นั่นคือจุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง เป็นต้นกำเนิดของเหตุการณ์ที่ดำเนินมาเรื่อยๆ จนกระทั่งบราฮัมฝืนผสานวิญญาณ


หากไม่แล้ว คลาสรองที่สองของกริดคงอีกยาวนานหลายเดือน หรืออาจเป็นปี


แต่ผู้บริหารหลายคนกลับเห็นต่าง


“ลำพังโชคจะช่วยให้เขามาถึงโบราณสถานเทพสงครามได้จริงหรือ? ผมไม่คิดแบบนั้น”


“จุดเริ่มต้นมาจาก ฝ่ายโอเวอร์เกียร์ตัดสินใจส่งฮิวรอยไปเป็นสายสืบในกองทัพจักรวรรดิ พวกเขาจึงได้รับเส้นทางเดินเรือเร็วกว่าใครทั้งหมด”


“ความร่ำรวยของแค็ทซ์ก็สำคัญไม่แพ้กัน”


“เป็นเพราะกริดสร้างมาสเตอร์คีย์และสานสัมพันธ์กับบราฮัมไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ ผลลัพธ์จึงออกมาเป็นเช่นนี้ คลาสรองที่สองของเขาเกิดจากฝีมือตนเองเป็นส่วนใหญ่”


“อืม… หากไม่เตรียมพร้อมตลอดเวลา ต่อให้โอกาสมาถึงตรงหน้าก็ไม่มีทางคว้าไว้ได้”


“นั่นสินะ…”


เหตุผลด้านนี้ก็ฟังขึ้นไม่แพ้กัน


บางที อาจเป็นเพราะความมึนเมาจากเบียร์ สมองของแต่ละคนจึงประมวลผลได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ


ผู้บริหารจำนวนหนึ่งที่เคยปรามาสว่า กริดได้รับคลาสใหม่เพราะโชคช่วย พวกมันต่างกล่าวคำขอโทษภายในใจ


บรรยากาศเคร่งขรึมของการประชุมผู้บริหารใหญ่แห่ง SA กรุปเริ่มสลายไป เหลือไว้เพียงบรรยากาศงานแฟนคลับกริดที่มารวมตัว


ทว่า ประธานใหญ่ลิมชอลโฮกำลังนั่งเหงื่อชุ่ม


‘คนพวกนี้ไม่มีงานการทำกันรึไง?’


***


เหล่าขุนพลโอเวอร์เกียร์และสามดยุคที่ช่วยกันฝ่าด่านป่าทึบรวมถึงเอาชนะสาวกเทพสงครามสิบเทคนิค


ความสำเร็จพวกมันนับว่ายิ่งใหญ่ชนิดที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน เป็นเรื่องปรกติที่ต้องได้รับรางวัลตอบแทนความเหน็ดเหนื่อย


<หีบคัมภีร์>

ด้านในบรรจุคัมภีร์ที่เทพสงคราม·เซราทุลเหลือทิ้งไว้

คัมภีร์เทพสงคราม

กล่าวกันว่า มันคือสุดยอดหนังสือทักษะของซาทิสฟาย

กริดใช้มือสัมผัสหีบด้วยใบหน้าคาดหวัง

ความจริงของโลกใบนี้…

ยิ่งผจญภัยและได้เรียนรู้เรื่องราวของโลกมากเท่าใด โอกาสที่บอสใหญ่ของเกมซาทิสฟายจะเป็น ‘เทพมาร·ยาธาน’ ก็ยิ่งน้อยลงมากเท่านั้น


‘…บอสใหญ่ตัวจริงอาจเป็นเทพธิดารีเบคก้า เพราะผู้เล่นไม่สามารถเอาชนะมังกรได้แน่’


จากมุมมองคนทั่วไป บอสใหญ่ของซาทิสฟายไม่ใช่สิ่งที่ผู้เล่นต้องเป็นกังวลมากนัก


หากประเมินจากความห่างชั้นของพลังแล้ว มีแนวโน้มสูงมาก ว่าบุคคลที่รับหน้าที่ปราบบอสใหญ่อาจไม่ใช่ผู้เล่น


เงามืดเบื้องหลังทุกสิ่ง ซึ่งกำลังจ้องทำลายโลกอย่างลับๆ ปัจจุบันยังไม่ถึงเวลาที่มนุษย์ต้องไปกังวลให้ปวดสมอง


ใช้เวลาทุกวินาทีให้มีความสุขที่สุดก็พอแล้ว


แต่ขณะเดียวกันก็ต้องพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ เผื่อว่าวันสิ้นโลกมาถึง จะได้มีหนทางช่วยเหลือตัวเองไว้บ้าง ไม่ต้องงอมือเท้ารอรับความตายอย่างสิ้นสภาพ


ขณะเกิดความคิดเช่นนี้ กริดใช้มาสเตอร์คีย์ไขกล่องหีบคัมภีร์โดยไม่รีรอ


แต่ถึงกลอนจะคลายตัวออก ชายหนุ่มก็มิได้ยกฝาหีบขึ้นในทันที มีสิ่งหนึ่งต้องทำให้กระจ่างเสียก่อน


สุ้มเสียงกริดก้องกังวานด้วยผลจากค่าสถานะ ‘ความน่าเกรงขาม’


“สมบัติด้านใน ฉันคิดว่าฉันมีสิทธิ์ พวกนายคิดเช่นไรกันบ้าง?”


เมื่อได้ยิน เหล่าอัศวินต่างพากันเดือดดาล


จริงอยู่ที่กริดคือปัจจัยสำคัญในการฝ่าด่านป่าวงกตและสาวกเทพสงครามสิบเทคนิค


แต่ถึงอย่างนั้น ต่อให้ไม่มีกริด สามดยุคและสกังค์คงหาทางสำรวจโบราณสถานได้ด้วยตัวเองอยู่ดี ถึงจะใช้เวลามากหน่อย หรืออาจต้องสูญเสียไพร่พลไปบ้าง


ไม่เพียงเท่านั้น ตลอดเส้นทางวงกตป่าที่ผ่านมา ฝ่ายที่จำกัดสาวกเทพสงครามไปมากมายคือเหล่าสามดยุค


คัมภีร์เทพสงคราม


ไอเท็มระดับเทวตำนานที่มีมูลค่ามหาศาล สามารถเป็นมรดกตกทอดประจำตระกูลซาฮารัน ได้ไม่ยาก การที่กริดจะฮุบไว้เป็นสมบัติส่วนตัว เกรงว่าออกจะเกินเลยไปสักหน่อย


…นั่นคือความคิดของกลุ่มอัศวิน


“แน่นอนขอรับ สมควรเป็นของท่านแล้ว”


“หากไม่มีท่าน พวกเราคงหมดลมหายใจไปตั้งแต่สาวกตนนั้น และอันที่จริง หนี้ชีวิตครั้งสำคัญมิอาจชดเชยหมดได้ด้วยเพียงคัมภีร์เล่มเดียว”


ราชาอมตะ·เกล็นฮาลและมงกุฎทอง·บาซาร่าต่างยอมรับในการตัดสินใจของกริดด้วยท่าทีนอบน้อม


“หืม… พวกเราสามดยุคก็ออกแรงไปไม่น้อยเหมือนกัน… หากฝ่าบาทมหาจักรพรรดิทรงทราบทีหลังต้องทรงกริ้วมากแน่… แต่ช่างเถอะ… ราชาโอเวอร์เกียร์มีผลงานสูงสุด ท่านเหมาะสมแล้ว แต่อย่าลืมตอบแทนน้ำใจพวกเราเป็นสมบัติชิ้นอื่นที่ยังหลงเหลือ ถ้าหากว่ามีล่ะนะ…”


ราชาสัตว์ป่า·มอริส มันพึมพำเสียงค่อยด้วยท่าทีไม่เต็มใจ แต่ก็มิอาจแสดงการคัดค้านชัดเจน


เพราะหากไม่นับเรื่องยศถาบรรดาศักดิ์และสงครามที่กำลังดำเนิน กริดถือเป็นบุคคลที่มีความสำคัญสูงสุดของการเดินทางคราวนี้ เหมาะสมกับคัมภีร์เทพสงครามด้วยประการทั้งปวง


“ขอบคุณที่เสียสละ”


นั่นไม่ใช่การเสียสละ เพียงแต่กริดมีสิทธิ์ในสมบัติชิ้นนี้มากกว่าใคร หากเขาเอาแต่เดินเล่นไม่กระทำสิ่งใดเลย รับรองว่าไม่มีดยุคคนใดยอมอ่อนข้อให้แน่


ถึงอย่างนั้น คำขอบคุณของกริดมีไว้เพื่อรักษาหน้าให้ดยุคทั้งสาม อัศวินสามร้อยจะได้ไม่คลางแคลงใจหรือเกิดข้อสงสัย


จากการกระทำเมื่อครู่ ค่าความสัมพันธ์ของกริดกับดยุคทุกคนเพิ่มขึ้นหนึ่งหน่วย


ถัดมา ชายหนุ่มหันไปมองทางพวกพ้อง


ปัจจุบัน เหล่าขุนพลโอเวอร์เกียร์ต่างกำลังฉงนกับข้อความโลกก่อนหน้า ที่แสดงขึ้นขณะสาวกเทพสงครามสิบเทคนิคถูกกำจัด


“รายละเอียดไว้ค่อยคุยกันทีหลัง ส่วนคัมภีร์จะตกเป็นของใคร พวกเราต้องตัดสินจากเนื้อความด้านใน”


จากประสบการณ์ เทคนิคลับของเทพสงครามมีไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยชนิด


ถือเป็นสมมติฐานที่สมเหตุสมผล เพราะตลอดการฝ่าป่าวงกตหลายสิบชั่วโมง คณะเดินทางได้เผชิญหน้าสาวกเทพสงครามที่แตกต่างกันไม่ต่ำกว่าร้อยรูปแบบ


หากเป็นเทคนิคหอก คัมภีร์จะตกเป็นของป็อน หรือหากเป็นเทคนิคโล่ คัมภีร์จะตกเป็นของแวนเนอร์


กริดไม่โง่เขลาพอจะผูกขาดพลังไว้เพียงคนเดียว หากพลังดังกล่าวไม่ช่วยส่งเสริมตน


และถือโอกาสนี้ชดเชยให้พวกพ้องที่ได้รับความเสียหายจากสงครามจักรวรรดิไปในตัว


“ตกลงตามนั้น”


เมื่อลอเอลเห็นด้วย สิบวีรชนที่เหลือก็ไม่มีเหตุผลให้ต้องคัดค้าน


พวกมันล้วนปรารถนาพลัง พลังที่มากพอจะช่วยสนับสนุนเคียงบ่าเคียงไหล่กริด เพราะหากไม่รีบพัฒนาตัวเอง อีกไม่นานต้องกลายเป็นภาระคอยถ่วงแข้งถ่วงขากริดแน่


‘บุญคุณที่นายมอบให้ ต่อให้ต้องอุทิศด้วยชีวิต ฉันก็จะชดใช้คืนให้ทั้งหมด!’


นั่นคือสัตย์สาบานของทั้งสิบวีรชน


‘นายใจกว้างขนาดนี้เชียวหรือ…’


สกังค์และฮูเร็นต่างประหลาดใจ


นี่คืออีกมุมหนึ่งของกริดที่คนทั่วโลกไม่มีโอกาสได้รับรู้ ไม่ได้ทำดีเอาหน้าเพื่อให้ใครยกย่อง แต่กริดห่วงใยพวกพ้องจากใจจริง


เขาประกาศชัดเจนว่าจะแบ่งไอเท็มมูลค่าสูงให้พวกพ้องอย่างยุติธรรมโดยปราศจากสีหน้าลังเล


ไม่ใช่สิ่งที่หัวหน้ากิลด์คนอื่นมักทำกัน


การบริหารองค์กรให้เจริญก้าวหน้า ปัจจัยสำคัญคือ ‘สายสัมพันธ์’ ระหว่างพวกพ้อง ทุกคนล้วนทราบหลักการ แต่ส่วนใหญ่แสร้งทำเป็นมองไม่เห็นในบางครั้ง


‘กริดคือสุดยอดผู้นำตัวจริง…’


บางที อาจเป็นเรื่องดีหากตัดสินใจเข้ากิลด์โอเวอร์เกียร์ตามที่ลอเอลแนะนำ ตนจะได้อวดโอ่อย่างภาคภูมิใจว่ามีกริดเป็นเพื่อน


นั่นคือความคิดในหัวสกังค์


แกร่ก


ในที่สุด ราชาโอเวอร์เกียร์เปิดฝาหีบออก


ทันใดนั้น


ซู่วววว—


แสงสว่างอันเข้มข้นส่องออกจากหีบสมบัติ


เป็นแสงหลากสีสัน ส่องวูบวาบสลับสีไปมาโดยไม่หยุดพัก


ทันใดนั้น สิบวีรชน ฮูเร็น สกังค์ และสามดยุคเริ่มแสดงสีหน้าคาดหวัง


ด้านกริดก็กำลังอมยิ้ม


เพราะนี่มันเหมือนกับ… กล่องสุ่ม!


ค่อนข้างแน่ชัดว่า สีที่ต่างออกไปจะหมายถึงเทคนิคลับแต่ละชนิดที่ต่างกัน ดังนั้น หีบคัมภีร์จึงเป็นราวกับกล่องสุ่มลุ้นโชค


กลับสู่การสวดภาวนาพึ่งพาดวงอีกครั้ง


ด้วยความที่เทคนิคลับของเทพสงครามมีหลายชนิด แต่ละชนิดมีเกรดและมูลค่าต่างกันออกไป หีบคัมภีร์ซึ่งมีเพียงหนึ่งเดียวจึงต้องใช้ระบบสุ่มวัดดวง


‘เราคือราชาแห่งโชค ต้องทำได้แน่!’


ชายหนุ่มมีค่าความโชคดีในปริมาณมาก และมั่นใจว่าเทพธิดาแห่งโชคคอยส่งยิ้มให้เสมอ


‘ต้องเป็นทักษะที่ดีที่สุด!’


เชื่อหรือไม่ กริดไม่เคลือบแคลงเลยสักนิดว่าตนจะได้รับสุดยอดทักษะ


สีหน้าของชายหนุ่มเปี่ยมด้วยความคาดหวัง


ชิ้ง—


แสงสว่างจากหีบสลายไป เผยให้เห็นสิ่งที่ถูกบรรจุด้านใน


[ท่านได้รับไอเท็ม <คัมภีร์วิชาตัวเบา : เท้าท่องนภา >]


<คัมภีร์วิชาตัวเบา : เท้าท่องนภา >

ประเภท : หนังสือทักษะ

เกรด : เลเจนดารี

คัมภีร์ที่จะมอบทักษะระดับตำนานซึ่งช่วยให้ผู้ครอบครองสามารถเหาะเหินเดินอากาศได้อย่างอิสระ

เงื่อนไขการเรียน : ค่าความว่องไว 8,000


“…”


“…”


ใบหน้าขุนพลโอเวอร์เกียร์พลันบิดเบี้ยวเมื่อได้เงื่อนไขการเรียน


ในที่สุด พวกมันก็เข้าใจถึงสาเหตุที่สาวกเทพสงครามสิบเทคนิคนามว่า ‘เมอร์ลิน’ ตัดพ้อก่อนตายว่า… ตัวมันมิอาจก้าวไปถึงเส้นทางที่แท้จริงของผู้บำเพ็ญตนได้


แต่สีหน้ากริดกลับเปล่งปลั่งผิดจากทุกคน


[ในฐานะที่ครอบครองคัมภีร์เทพสงคราม ระบบจะทำการเปิดใช้งานฟังก์ชัน ‘ประกอบเศษชิ้นส่วนคัมภีร์’]


[ท่านสามารถประกอบคัมภีร์เล่มใหม่ขึ้นจากเศษชิ้นส่วนคัมภีร์ชำรุดจำนวน 10 ชิ้น]


[เศษชิ้นส่วนคัมภีร์ที่ประกอบสำเร็จ จะกลายเป็นประเภทเดียวกับ ‘คัมภีร์เทพสงคราม’ ที่ท่านครอบครอง]


[คัมภีร์ที่เกิดจากการประกอบ จะมีเกรดเทียบเท่าหรือต่ำกว่า ‘คัมภีร์เทพสงคราม’ ที่ท่านครอบครอง ไม่มีโอกาสสูงไปกว่าเดิม]


“หมายความว่า ในเมื่อฉันเปิดได้คัมภีร์วิชาตัวเบา คัมภีร์ที่ถูกประกอบหลังจากนี้ก็จะมีแต่วิชาตัวเบางั้นหรือ?”


หลังจากอธิบายข้อความระบบให้พวกพ้องรับทราบ กริดเอ่ยปากถามพลางขมวดคิ้ว


ลอเอลพยักหน้า


“คิดว่าเป็นเช่นนั้น”


“ฉันมองว่า พวกเราควรประกอบชิ้นส่วนคัมภีร์เพื่อให้มันมีระดับต่ำลง”


“ในที่สุดก็เข้าใจ ว่าเหตุใดสาวกเทพสงครามถึงดรอปแต่คัมภีร์ชำรุด”


ค่าความว่องไวแปดพันหน่วยเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงความเพ้อฝัน ต่อให้มีนักลอบสังหารคนใดเอื้อมถึง แต่ระยะเวลาในชีวิตจริงคงนานหลายสิบปี ยิ่งคลาสอื่นยิ่งแล้วใหญ่


ฉะนั้น คงฉลาดกว่าหากยอมลดระดับทักษะลงจากเดิมเพื่อให้เงื่อนไขการเรียนต่ำลง


เมื่อได้ข้อสรุป กริดหยิบปึกคัมภีร์ชำรุดราวห้าสิบแผ่นที่เคยเป็นเพียงไอเท็มขยะในสายตา ออกจากช่องสัมภาระ


[ท่านประกอบคัมภีร์สำเร็จ!]


[ท่านได้รับ <คัมภีร์วิชาตัวเบา : เท้าท่องหิมะ> จากการประกอบคัมภีร์]


<คัมภีร์วิชาตัวเบา : เท้าท่องหิมะ>

เกรด : เลเจนดารี

ฝีเท้าที่ว่องไวและไร้น้ำหนักส่งผลให้การย่ำลงบนหิมะไม่ทิ้งร่องรอย

เงื่อนไขการเรียน : ค่าความว่องไว 6,000


“…ถ้ารู้ตัวว่าดวงบัดซบ ได้โปรดยื่นชิ้นส่วนคัมภีร์ให้ผู้อื่นจัดการแทนด้วย”


ท้ายที่สุด


[ท่านได้รับ <คัมภีร์วิชาตัวเบา : เท้าท่องยอดหญ้า> จากการประกอบคัมภีร์]


การประกอบคัมภีร์เก้าครั้งจบลงอย่างรวดเร็ว


ตลอดหลายวันที่ผ่านมา รวมถึงจากวิหารกัลกุนอส กริดและขุนพลโอเวอร์สามารถรวบรวมชิ้นส่วนคัมภีร์ได้เกินกว่าเก้าสิบแผ่น


<คัมภีร์วิชาตัวเบา : เท้าท่องยอดหญ้า>


เกรด : อีปิก


ฝีเท้าที่ว่องไวช่วยให้สามารถวิ่งบนยอดหญ้าได้ช่ำชอง


เงื่อนไขการเรียน : ค่าความว่องไว 3,000


ในที่สุดพวก มันก็ได้รับคัมภีร์ที่ผู้เล่นสามารถจับต้องได้เป็นเล่มแรก และแน่นอน เจ้าของไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเฟคเกอร์


คำอธิบายของคัมภีร์ระบุไว้อย่างเรียบง่าย แต่ประสิทธิภาพที่แท้จริงนั้นตรงข้าม


[ความเร็วทุกชนิดเพิ่มขึ้น 20%]


[ท่านสามารถเคลื่อนที่ได้ว่องไวเป็นสองเท่าบนภูมิประเทศทุ่งหญ้าและผืนป่า]


“สุดยอด…”


นับเป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่


แรงปรารถนาในการครอบครองคัมภีร์พลันเพิ่มพูนเป็นเท่าตัว


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,420
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. ผม​เตรียม​หัวเราะ​ตั้งแต่กล่องสุ่มละ
    😆
    ขอบคุณ​มาก​ครับ​👍

    ReplyDelete
  2. ต่างจากผมนิดนึงนะ เพราะผมจะหัวแล่นเวลาเบียรืเข้าปะทะกับร่างกาย คุคุคุคุ >_<

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00