จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1038



“มาเริ่มกันเถอะ”


ดยุคเกล็นฮาลอมยิ้มพลางเดินไปด้านหน้า มันบิดคอซ้ายขวาเป็นนัยยืดเส้นยืดสาย


ในวินาทีนี้ เกล็นฮาลมิใช่ขุนนางเกล็นฮาลอีกต่อไป มิใช่ดยุคเกล็นฮาลมาดองอาจที่มีผู้คนนับหน้าถือตา


ร่างกายกำยำที่มัดกล้ามเนื้อกระตุกเต้น มาพร้อมกับใบหน้าแสนสุขุมแต่เจือความอำมหิตของสัตว์ร้ายในแววตา


นักรบคลั่งผู้กระหายการสูบเลือดมนุษย์ มันถอดหน้ากากภาพลักษณ์และชุดเกราะหนักออกจนหมดสิ้น


สายตาถวิลหาความรุนแรงและการต่อสู้อันเข้มข้นดุเดือด


“ไม่ได้เอาจริงมานานแค่ไหนแล้วนะ…”


ออร่าแดงฉานที่ฟุ้งกระจายรอบตัวได้สะกดให้พีคซอร์ดถึงกับแข้งขาสั่น ผู้เล่นคลาสชักดาบฟันแรงค์หนึ่งของโลกถึงกับกลืนต้องน้ำลายเสียงดัง


กึก!


เกล็นฮาลกระโจน


คล้ายกับอดใจไม่ไหวอีกต่อไป มันปรี่ตัวเองเข้าหากลุ่มสาวกเทพสงครามโดยไม่รีรอ


ฉัวะ—


ดาบยาวในมือฟันผ่านร่างสาวกเทพสงครามสามตนพร้อมเพรียง


เปรี้ยงเปรี้ยงเปรี้ยง!!


ศัตรูทั้งสามโจมตีสวนกลับในทันทีด้วยการปลดปล่อยลูกเตะสุดทรงพลังกระแทกร่างเกล็นฮาลอย่างจัง


แน่นอน เกล็นฮาลไม่ล้มลง


พื้นฐานของนักรบคลั่งคือร่างกายดุจดังหินผา


เกล็นฮาลยืนปักหลัก มือซ้ายคว้าข้อเท้าสาวกตนหนึ่งและออกแรงเหวี่ยงกลับเยี่ยงค้อนยักษ์


โผละ!


ศีรษะสาวกเทพสงครามสองตนกระแทกกันจนเกิดเสียงดังสยดสยอง


ขณะเดียวกัน ดาบในมือขวาเริ่มแผ่ออร่าสีแดงฉานปริมาณเข้มข้น


ซู่ววววว—


สาวกเทพสงครามกว่าสามสิบตนที่ยืนล้อมปาร์ตี้โอเวอร์เกียร์และสามดยุค ร่างกายพวกมันเริ่มสั่นเทา กลุ่มที่อยู่ด้านหน้าเกล็นฮาลออกอาการแตกฮือ


ออร่าแดงถูกรวบรวมเป็นก้อนกลมที่หมุนรอบตัวเองรวดเร็ว คล้ายกับดาวเคราะห์ซึ่งได้รับอิทธิพลแรงโน้มถ่วงจากระบบสุริยะ


เกล็นฮาลปลดปล่อยพลังออกไปปะทะกับสาวกเทพสงครามกลุ่มใหญ่เบื้องหน้า เพียงพริบตา ร่างกายพวกมันได้รับบาดเจ็บสถานหนัก ห่างไกลจากความสุขภาพดีไปมาก


ขณะเดียวกัน ละอองโลหิตสีแดงสดสาดกระเซ็นฟุ้งทั่วไร้อ้อย


…เกือบทั้งหมดเป็นเลือดเกล็นฮาล


สาวกเทพสงครามในไร่อ้อยที่มีเทคนิคสวนกลับไร้เงื่อนไข พวกมันรุมประเคนฝ่าเท้าใส่ร่างเกล็นฮาลจนร่อแร่คลับคล้ายผ้าขี้ริ้ว


ปราศจากชุดเกราะหนักที่เคยสวม ตัวเลขความเสียหายที่เกล็นฮาลรับเข้าไปจึงมหาศาล พลังชีวิตลดต่ำถึงระดับหวาดหวั่น


หากเป็นสถานการณ์ปรกติ เกล็นฮาลคงกำลังวิกฤติ


แต่ไม่ใช่กับนักรบคลั่ง


「ยิ่งบาดเจ็บก็ยิ่งแข็งแกร่ง」


หนึ่งถ้อยคำที่ใช้นิยามนักรบคลั่งได้เห็นภาพ


“ย๊ากกกกก!”


เปรี้ยงงงงงง!


“…!”


นัยน์ตาเหล่าขุนพลโอเวอร์เกียร์และกริดพลันเบิกโพลงคล้ายกับพวกมันได้เห็นภูตผีกลางวันแสก


สาเหตุเพราะ เกล็นฮาลใช้กำปั้นตะบันหน้าสาวกตัวที่อยู่ใกล้จนศีรษะแหลกละเอียดคล้ายผลแตงโมระเบิด


ในวินาทีที่พลังชีวิตลดต่ำลงกว่า 30% ประตูขั้นพลังบานสุดท้ายถูกเปิดออกโดยสมบูรณ์


แม้แต่กริดที่ถือครองพลังทำลายเหนือผู้เล่นทุกคนบนโลกมายาวนาน ปลายนิ้วมันมีอาการสั่นระริกอย่างหยุดไม่ได้เมื่อเห็นฉากตรงหน้า


‘หมัดเมื่อครู่ ถ้าเราโดนเข้าไป…’


แน่นอนว่าคงรอดชีวิตด้วยผลจากประกันอมตะ แต่ชุดเกราะและอวัยวะสำคัญของร่างกายคงถูกทำลายทิ้งชนิดมิอาจซ่อมแซม


รุนแรงถึงเพียงนั้น


ถ้าดยุคที่บุกรุกไบรันไม่ใช่รีกัล แต่เป็นเกล็นฮาลแทน…


‘เราคงเสียไบรันไปแล้ว’


บึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!!


พายุความโกลาหลที่เกล็นฮาลนำพานั้นดุร้ายเกรี้ยวกราด


เมื่อพลังชีวิตเหลือต่ำกว่า 20% ทุกครั้งที่เกล็นฮาลแกว่งหมัดดาบ จักต้องมีเสาแสงเทาเกิดขึ้นเสมอ


‘แต่ว่า… แบบนี้ไม่เสี่ยงไปหน่อยหรือไง?’


กริดเฝ้ามองการต่อสู้ด้วยสีหน้ากระวนกระวาย สาเหตุเพราะ ถึงนักรบคลั่งจะยิ่งมีพลังโจมตีและความเร็วมหาศาลเมื่อได้รับบาดเจ็บ แต่จุดอ่อนสำคัญคือพลังป้องกันที่ไม่สูงนัก


และจุดอ่อนด้านพลังป้องกันนี้เอง คือสิ่งที่ฉุดรั้งให้คลาสนักรบคลั่งไม่ถูกยกย่องมากเท่าที่ควร


ยิ่งอันตรายกับศัตรู ยิ่งอันตรายกับตัวเอง


“ห…หยุดเถอะ! พอได้แล้ว!”


พลังชีวิตเกล็นฮาลลงต่ำกว่า 10% ภายในระยะเวลาแสนสั้น จะตายตอนไหนก็ไม่น่าแปลกใจอีกแล้ว


นักรบคลั่งส่วนมากจะติดกับดักทางจิตใจ


ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น สมาธิพวกมันก็ยิ่งจดจ่ออยู่กับการต่อสู้จนถลำลึก


ขออีกนิดเถอะน่า…


ยอมเสียเลือดอีกนิด เพื่อให้พลังโจมตีมากขึ้นกว่านี้สักหน่อย ให้ความว่องไวเพิ่มขึ้นสักหน่อย…


นี่คือกับดักทางจิตใจที่ดับอนาคตนักรบคลั่งคนแล้วคนเล่าทั้งในสนามรบและศึกดวล


“บ้าจริง!”


กริดไม่อยากเห็นบุคคลซื่อสัตย์ที่กล้าหยิบยื่นไมตรีให้ก่อน ต้องเสียชีวิตไปต่อหน้า


ชายหนุ่มพุ่งตัวไปทางเกล็นฮาลและเตรียมปลดปล่อยทักษะช่วยเหลือ


…แต่จู่ๆ กลับชะงักฝีเท้ากลางคัน


เกล็นฮาลจะเป็นมิตรกับเราตลอดไปหรือ?


หากการสำรวจโบราณสถานจบลง ดยุคทั้งสามจะยังรักษามิตรไมตรีเช่นเดิมหรือไม่?


พวกมันจะขัดคำสั่งองค์จักรพรรดิได้รึเปล่า?


ไม่มีสิ่งใดรับประกันเรื่องเหล่านั้นเลย…


สิ่งเดียวที่แน่ชัดคือ เกล็นฮาลเป็นดยุคแห่งจักรวรรดิ หากมหาจักรพรรดิสั่งให้บุกจู่โจมอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ คมดาบของเกล็นฮาลต้องพุ่งมายังตนและพวกพ้องอย่างมิอาจเลี่ยง


หรือควรปล่อยให้เขาตายที่นี่…


‘ไม่ได้!’


อย่างน้อยก็เพื่อผลประโยชน์ในอีกหลายวันถัดไป การสำรวจโบราณสถานที่เหลือจะขาดพลังเกล็นฮาลไม่ได้เด็ดขาด


ด้วยความสัตย์จริง กริดเริ่มชื่นชอบเกล็นฮาลหลังจากเดินทางร่วมกันนานหลายวัน


ขุนนางสง่างามจากเนื้อใน แม้จะมีอำนาจบารมีเปี่ยมล้น แต่กลับยังห่วงใยผู้ใต้บังคับบัญชาราวกับเป็นครอบครัวเดียวกัน


กริดชื่นชอบบุคคลนิสัยเช่นนี้


และคงปล่อยให้ตายต่อหน้าไม่ได้


หากวันหลังต้องหันคมดาบใส่กันจริง ก็ต้องถือว่าสวรรค์ลิขิตให้ตนมีชะตาต้องพบพานความฉิบหายโดยมิอาจเลี่ยง


ขณะปราณต่อสู้ของกริดถูกรวบรวมถึงปริมาณที่พึงพอใจ


ฉึก—!


หนึ่งในหอกของสาวกเทพสงครามแทงทะลวงหน้าอกเกล็นฮาลโหดเหี้ยม หลอดพลังชีวิตของดยุคอมตะมีอันริบหรี่เต็มที


ทันใดนั้น


ซู่วววว—


ออร่าแดงฉานรอบตัวเกล็นฮาลเริ่มทวีความเข้มข้นคุกรุ่น สีของมันแปรเปลี่ยนเป็นแดงเข้มจนเกือบดำ


เปรี้ยง—


กำปั้นเกล็นฮาลตะบันใส่ใบหน้าสาวกเทพสงครามตัวที่แทงหอกใส่ เรื่องน่ามหัศจรรย์พลันอุบัติ พลังชีวิตของดยุคอมตะฟื้นฟูกลับมาเกือบ 5% ในพริบตา


“อะไรกัน…?”


กริดที่กำลังจะปลดปล่อยวิชาดาบทัพหนึ่งแสนช่วยเหลือ ตาขาวของมันขยายกว้างสุดขีด นัยน์ตาดำหดลีบลงเหลือเท่าหัวเข็มหมุด


สิบวีรชนฯ ด้านหลังก็ไม่ต่างกัน


ฉัวะ—


ผัวะ!


เปรี้ยง!!


ทุกครั้งที่เกล็นฮาลโจมตีใส่สาวกเทพสงคราม หลอดพลังชีวิตของมันจะถูกฟื้นฟูระดับน่าทึ่งเสมอ


พลังโจมตีเยี่ยงสัตว์ประหลาดยังคงเดิม เพิ่มเติมคือเอฟเฟคที่คล้ายกับพลังแวมไพร์…


ไม่สิ เป็นระดับของแวมไพร์ทายาท!


สภาพร่างกายที่คล้ายผ้าขี้ริ้วก่อนหน้า ยามนี้ถูกฟื้นฟูกลับคืนหลายส่วน บาดแผลตามลำตัวถูกซ่อมแซมรวดเร็ว


เป็นฉากเหตุการณ์ที่ก้าวข้ามจินตนาการผู้เล่นระดับท็อปไปมาก


พลังดูดเลือด โดยทั่วไปเป็นคุณลักษณะพิเศษของแวมไพร์ แต่นักรบคลั่งก็มีพลังที่คล้ายคลึงกันในปริมาณเจือจาง


ใช่แล้ว นักรบคลั่งสามารถดูดเลือดได้หากพลังชีวิตต่ำถึงจุดที่กำหนด แต่มิได้รุนแรงเหมือนกับที่เกล็นฮาลแสดงให้เห็นเมื่อครู่


ต่อให้เป็นผู้เล่นนักรบคลั่งที่เก่งฉกาจอันดับหนึ่งของโลกอย่าง ‘อาสึกะ’ แต่ก็มิอาจดูดเลือดได้รุนแรงใกล้เคียงเกล็นฮาลแม้แต่น้อย


สักครึ่งหนึ่งก็ยังห่างไกล


ในฐานะหลานของประธานบริษัทกลุ่มทุนยักษ์ใหญ่แห่งสหรัฐ อาสึกะครอบครองความมั่งคั่งชนิดที่คนทั่วไปเอื้อมไม่ถึง ไอเท็มทุกชิ้นบนร่างกายล้วนเป็นของระดับท็อป หาดีกว่านี้ได้จากไอเท็มกริดเท่านั้น


อาสึกะเน้นเสริมพลังป้องกันและพลังดูดเลือดเพื่อชดเชยจุดอ่อนเดียวของนักรบคลั่งมาเสมอ เธอแสวงหาออปชันดูดเลือดมากมายหลายชิ้น และเป็นน้อยคนบนโลกที่มีแหวนแวมไพร์


แต่นั่นไม่ได้เศษเสี้ยวของเกล็นฮาล


คลาสนักรบคลั่ง ดูเหมือนความต่างชั้นระหว่าง NPC พิเศษจะผู้เล่นจะห่างกันยิ่งกว่าท้องฟ้าและหุบเหว


พลังดูดเลือดของเกล็นฮาลน่าตกตะลึงถึงเพียงนั้น และไม่มีท่าว่าจะหยุดลงแค่หมัดหรือสองหมัด บางทีเกล็นฮาลอาจมีอำนาจดูดเลือดมหาศาลยิ่งกว่าแวมไพร์ทายาทด้วยซ้ำ


ผัวะ!


เปรี้ยง!


จากสาวกเทพสงครามกว่าสามสิบที่เคยรายล้อมในตอนแรก ตอนนี้เหลือเพียงสี่ตน


แน่นอน ไม่ใช่ฝีมือเกล็นฮาลทั้งหมด มอริสในร่างสัตว์ป่า รวมถึงบาซาร่าและสิบวีรชนฯ ก็ช่วยกันจัดการ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ส่วนใหญ่ล้วนสิ้นชีพคากำปั้นเกล็นฮาลทั้งสิ้น


ท่ามกลางกองซากศพสยดสยองของสาวกเทพสงคราม บาดแผลตามลำตัวเกล็นฮาลจากศึกเมื่อครู่ไม่หลงเหลืออยู่อีก มีเพียงรอยแผลเป็นจากสงครามอดีตกาล


ราวกับมันสามารถย้อนเวลากลับไปในช่วงก่อนเริ่มต่อสู้


“…”


“…”


บรรยากาศเงียบงันครอบงำอย่างไม่ต้องสงสัย


กริดและสิบวีรชนฯ หวาดกลัวในตัวเกล็นฮาลอย่างที่ไม่เคยเป็น ริมฝีปากแต่ละคนทำได้เพียงสั่นระริกหยุดไม่อยู่


และผู้ที่ทำลายความเงียบ…


“…แค่ก!!”


เกล็นฮาลกระอักเลือดคำโตจากปาก


บาดแผลที่เคยสมานสมบูรณ์เมื่อครู่เริ่มกลับมาปริแตกอีกครั้ง ร่างกายชุ่มด้วยเลือดคล้ายกับใช้ขันตักอาบ


“ดยุคเกล็นฮาล…!!”


เกิดอะไรขึ้นกันแน่?


กริดยืนมองด้วยสีหน้าเป็นกังวล มันพอจะคาดเดาสิ่งที่เกิดขึ้นได้


“นี่คือเหตุผลที่เกล็นฮาลไม่ใช้พลังนี้พร่ำเพรื่อ… ผลข้างเคียงร้ายแรงมาก”


มอริสที่ตามเก็บกวาดสาวกเทพสงครามชุดใหม่กล่าวเสียงห้วนปนขึงขัง


แม้จะได้เห็นกริดร่างผสานวิญญาณบราฮัมไปแล้ว แต่ถ้อยคำที่มอริสใช้ค่อนข้างหยาบกระด้างขาดความเคารพเหมือนก่อน อาจเป็นผลมาจากอุปนิสัยของร่างสัตว์ป่า


กริดไม่ถือสามอริสแม้แต่พยางค์เดียว


“ดยุคเกล็นฮาลสามารถพื้นฟูพลังชีวิตได้ในการต่อสู้ก็จริง แต่ความเสียหายที่ได้รับทั้งหมดจะติดตัวไปตลอด… ไม่สามารถฟื้นฟูกลับคืน”


“ถ้าอย่างนั้น แผลเป็นตามลำตัวนั่น…”


“ผลข้างเคียง… แต่ไหนแต่ไรมา เกล็นฮาลจะต่อสู้เพื่อองค์จักรพรรดิและประชาชนเสมอ แผลเป็นเหล่านี้จึงเป็นเหมือนกับเครื่องหมายแสดงเกียรติยศที่แสนภาคภูมิใจ… แต่แผลเป็นจากการต่อสู้เมื่อครู่คงเรียกเกียรติยศได้ไม่เต็มปาก”


เพราะเป็นการสู้เพื่อปกป้องกริดกับพวกพ้อง


เมื่อกล่าวจบ มอริสกลับร่างมนุษย์อีกครั้ง


เขี้ยว กรงเล็บและขนยาวเริ่มหดกลับ ท่าทีและน้ำเสียงที่มีต่อกริดนอบน้อมกว่าเมื่อครู่


“ถึงเวลาที่เกล็นฮาลต้องพักผ่อนแล้วครับ”


“ฉันจะช่วยอีกแรง”


กริดรีบเดินแซงหน้ามอริสไปหาเกล็นฮาลที่กำลังทิ้งตัวโซเซ ชายหนุ่มโอบไหล่พยุงดยุคเกล็นฮาลอย่างสุดความสามารถเพื่อมิให้อีกฝ่ายล้มลง


เกล็นฮาลยังคงกระอักเลือดไม่หยุด


กริดเหลือบเห็นแผลเป็นขนาดใหญ่กลางหน้าอกที่ไม่มีปรากฏในตอนแรก


เป็นแผลจากการถูกหอกแทง…


หยดน้ำใสไหลอาบสองข้ามแก้มชายหนุ่ม


“ขอโทษที่ทำให้ลำบาก… สหายของฉัน”


วันข้างหน้า พวกเราอาจต้องเป็นศัตรูกัน


ตราบใดที่ยังมีตัวตนระดับสูงกว่าอย่างองค์จักรพรรดิและแกรนมาสเตอร์ พวกเราคงมิอาจขจัดความขัดแย้งทางการเมืองได้หมด


นั่นคือความจริงที่ทั้งกริดและเกล็นฮาลทราบ


แต่จากเหตุการณ์เมื่อครู่ กริดยอมรับมิตรภาพของเกล็นฮาลด้วยหัวใจ


ถ้าอีกฝ่ายไม่คิดเป็นเพื่อน จะยอมเสี่ยงชีวิต ยอมรับผลข้างเคียง และยอมเปิดเผยความลับของตัวเองเชียวหรือ?


ความเชื่อใจต้องตอบแทนด้วยมิตรภาพระดับเดียวกันหรือมากกว่า กริดเชื่อเช่นนั้น


“…ท่านราชา”


ร่างกายเกล็นฮาลเริ่มสั่น


แต่ไหนแต่ไรมา ใครก็ตามที่ได้เห็นความสยดสยองป่าเถื่อนที่มันแสดงออกขณะต่อสู้ ทุกคนมีอันต้องถอยห่างอย่างหวาดกลัว


แต่ไม่ใช่กับกริด ไม่มีอุปสรรคใดขวางกั้นความหวังดีระหว่างกันได้


ชายหนุ่มมิได้มองไม่เห็นหรือหลงลืมความบ้าคลั่งป่าเถื่อนที่เกล็นฮาลแสดงออก เพียงแต่เขาสนใจความซื่อตรงของอีกฝ่ายมากกว่า


เท่านี้ก็มากพอจะทำให้เกล็นฮาลรู้สึกซาบซึ้ง


แต่การแสดงไมตรีของกริดไม่ได้จบลงแค่คำพูดสวยหรู


“นายรู้อะไรไหม…”


“…ครับ?”


“น้องสาวของฉันเป็นนักบุญหญิง”


“…”


“ช่างเป็นคู่พี่น้องที่…”


ขณะกริดกำลังจะหันไปโม้น้องสาวตัวเองให้อีกฝ่ายฟัง สายตามันพลันเหลือบเห็นแผลเป็นขนาดใหญ่เหนือหัวไหล่ซ้ายเกล็นฮาล


แผลเป็นช่าง… ใหญ่และฉกรรจ์มาก


รุนแรงพอจะทำให้เป็นอัมพาตตลอดชีวิตได้


สิ่งนี้ไม่น่าจะถูกเรียกว่าเครื่องหมายแสดงเกียรติยศ หากเกล็นฮาลบอกว่าตนสามารถขยับแขนซ้ายได้เทียบเท่าแขนขวา ถ้าหมอนี่ไม่โกหก สมองก็คงมีการรับรู้เพี้ยนไปแล้ว


กริดได้แต่นึกสงสัย นี่จะใช่สาเหตุที่เกล็นฮาลมีระดับต่ำกว่าอริยหอกเรเชลหรือไม่?


ประสิทธิภาพการกวัดแกว่งอาวุธไม่มีทางเทียบเท่าปรกติด้วยหัวไหล่แบบนี้…


“มาหาน้องสาวฉันได้ทุกเมื่อ หล่อนมีเวทรักษาชนิดที่แม้แต่นายก็คาดไม่ถึง”


“ขอบคุณมาก… ท่านราชา”


ร่างกายที่อิดโรยของเกล็นฮาลเริ่มสั่นเทา


มันพยายามเกร็งตัวยืนเพื่อโค้งศีรษะคำนับกริดอย่างนอบน้อมและเป็นทางการ


ทันใดนั้น


“กริด!!”


เสียงมาพร้อมกับกลิ่นเหม็นคลุ้งชวนอาเจียน


“เจอตัวแกสักที!!”


บุคคลที่ร่อนมาตามสายลมเป็นใครอื่นไม่ได้นอกจากดยุคดีวอส


“โฮ่…?”


เมื่อดีวอสเห็นสถานการณ์อย่างคร่าว มันพลันอมยิ้มมุมปาก


การที่เกล็นฮาลยืนเผชิญหน้ากริดแบบปราศจากชุดเกราะ หมายความว่ามันเอาจริงเต็มพิกัดและเข้าสู่ภาวะนักรบคลั่ง


“แกคงใกล้ตายแล้วสินะ”


ดีวอสหันเหยียดหยันกริด


เกล็นฮาลในร่างเอาจริง พลังต่อสู้ของมันเข้าขั้นไร้พ่าย แม้แต่อริยหอกเรเชลยังมิอาจเอาชนะอย่างไร้รอยขีดข่วน แม้กระทั่งดยุคแห่งดาบอย่างลิมิตก็ยังตึงมือ


ดีวอสเฝ้ารอให้ร่างกริดระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยหรือไม่ก็กลายเป็นแสงเทา อย่างใดอย่างหนึ่งที่แสดงถึงการสิ้นชีพ


ทว่า ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นเป็นเวลานาน


‘อะไรกัน? อย่าบอกนะว่า…’


เมื่อเห็นกริดและดยุคที่เหลือต่างหันมองตนด้วยบรรยากาศสามัคคี ดีวอสเริ่มสัมผัสสิ่งผิดปรกติ


“ไอ้ชั่ว…! แกเห็นว่าเอาชนะคนเหล่านี้ไม่ได้ จึงจงใจเล่าเรื่องปิอาโร่ให้ฟังสินะ!!”


“ปิอาโร่…?”


เหตุใดชื่อของบุคคลที่น่าจะตายไปแล้วถึงผุดออกจากปากดีวอสกะทันหัน?


เกล็นฮาล มอริส และบาซาร่าขมวดคิ้วพร้อมกัน คล้ายกับมีเครื่องหมายคำถามตัวโตปรากฏเหนือศีรษะ


แต่ก่อนจะถามถึงเรื่องปิอาโร่ ต้องมีบางสิ่งที่สะสางให้ชัดเจน


“ดีวอส ยอมรับความจริงสักที”


“หือ? ดยุคเกล็นฮาล นี่ฉันได้ยินผิดอะไรไปรึเปล่า?”


“ห้ามเสียมารยาทกับท่านราชาโอเวอร์เกียร์”


“…???”


อย่างที่เคยกล่าวไป หากนับเฉพาะบุคคลที่เหลืออยู่ ดีวอสจะมีฝีมือลำดับสุดท้ายจากบรรดาหกดยุค


กลับกัน เกล็นฮาลนั้นเป็นถึงหนึ่งในบุคคลทรงอำนาจ พลังทางการเมืองของมันอาจสูงส่งยิ่งกว่าอริยหอกเรเชลหรือดยุคแห่งดาบ·ลิมิตด้วยซ้ำ มีบ่อยครั้งที่องค์จักรพรรดิมอบหมายให้มันเดินทางไปเป็นตัวแทน


ดีวอสจำต้องสงบเสงี่ยมเจียมตัวอย่างไม่มีทางเลือก เมื่ออีกฝ่ายบอกให้ยอมรับความจริง ตัวมันก็ไม่มีอำนาจมากพอจะขัดขืน



▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,427
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00