จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 955
[ผู้พิทักษ์ทิศเหนือเสียชีวิต]
[ดวงวิญญาณสีเทาที่กระจัดกระจายได้กล่าวขอโทษกับท่าน]
[ประตูทิศเหนือถูกทำลาย ขวัญกำลังใจผู้บุกรุกกำลังฮึกเหิม]
“…ผิดคาด”
กริดแสดงสีหน้าประหลาดใจขณะเปิดหน้าต่างร้านค้าชื่อเสียง
เขาไม่ได้ประหลาดใจที่ประตูแรกพังลงภายใน 37 นาที นี่คือระยะเวลาที่อยู่ในการคำนวณ
แต่กริดประหลาดใจที่ประตูฝั่งโนลล์ถูกทำลายเป็นลำดับแรก
‘ไม่คิดว่าโนลล์จะแพ้ก่อนใคร’
ก่อนงานแข่งนานาชาติเริ่มขึ้น กริดได้สร้างวัลฮัลล่าแห่งความเชื่อมั่นอันแรงกล้าให้โนลล์
ชุดเกราะเกรดมิธที่มีพื้นฐานจากวัลฮัลล่าแห่งห้วงอาทรชั่วนิรันดร์ กริดได้ใส่ออปชันมากมายที่คล้ายคลึง ทั้งเพิ่มประสิทธิภาพฟื้นฟูพลังชีวิต ลดความเสียหาย และเพิ่มค่าพลังป้องกันเมื่อเผชิญกับศัตรูจำนวนมาก (สูงสุด 100 เป้าหมาย)
โนลล์ถึกทนเป็นอันดับหนึ่งจากบรรดาสี่ราชันสวรรค์อย่างไร้ข้อกังขา แต่เขากลับเป็นคนแรกที่ล้มลง
‘ทั้งที่มีสมญานามนั้นอยู่…’
เมื่อพลังชีวิตต่ำกว่า 10% โนลล์จะทำทุกสิ่งเพื่อเอาตัวรอดโดยไม่สนผลที่ตามมา
แม้กระทั่งสมญานามที่กริดแสนพึงพอใจก็ไม่ช่วยให้โนลล์รอดชีวิตงั้นหรือ
กริดตกใจมากที่โนลล์เสียท่าคนเป็นแรก ชายหนุ่มพลันจินตนาการถึงเรื่องร้ายที่อาจเกิดขึ้น
“ศรเวท”
เมื่อระยะหน่วงของเวทตั้งเวลามาถึง กริดจะนำไม้เท้าบีเลียลมาสวมและตั้งเวลาเวทมนตร์
“ปราการปักหลักคงเป็นผลเสียมากกว่าดีสินะ”
ทักษะติดตัวของวัลฮัลล่าฯ ที่โนลล์สวม—ปราการปักหลัก
ความเสียหายจะถูกสะท้อนกลับรอบตัวโนลล์เมื่อค่าความคงทนของชุดเกราะลดลงถึงจุดหนึ่ง หากอยู่ในสถานการณ์ที่เหมาะสม ทักษะติดตัวชนิดนี้จะมีประโยชน์กว่า ‘ปราการเคลื่อนที่’ ของวัลฮัลล่าฯ ที่ข่านสร้างหลายเท่า
แต่ข้อเสียคือ หากทักษะแสดงผล ผู้สวมจะไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ชั่วขณะ ปัจจัยนี้อาจฉุดรั้งการหนีของโนลล์ไว้
‘ยิ่งไปกว่านั้น จิสึกะกับดาเมี่ยนคงอยู่ในกลุ่มที่บุกโจมตีประตูทิศเหนือ’
จากบรรดาแรงเกอร์ที่กริดรู้จัก คนเดียวในโลกที่สร้างความเสียหายได้รุนแรงและต่อเนื่องคือจิสึกะ ถ้าหล่อนมีดาเมี่ยนค่อยบัฟพลังโจมตี เกรงว่าแม้แต่โนลล์ก็มิอาจกัดฟันยื้อได้นานนัก
“ตั้งเวลา·ศรเวท”
หลังจากใช้ทักษะ กริดชำเลืองมองร้านค้าชื่อเสียง หัวใจของเขามิได้ถูกสั่นคลอนจากความตายของโนลล์
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้อยคำเหลวไหลอย่าง ‘ฉันขอโทษ’ ที่ข้อความระบบแจ้งขึ้น
สิ่งนี้ยิ่งยืนยันได้ชัดเจนว่า โคโบลด์ที่เสียชีวิตลงไปคือโนลล์ตัวปลอม
‘ฉันขอโทษงั้นหรือ… พวกทีมปฏิบัติการยังไม่รู้จักโนลล์ดีพอ’
โนลล์คือแวมไพร์วัยเยาว์ที่ต้องการเป็นอิสระและศึกษาโลกกว้าง หากเป็นโนลล์ตัวจริง หมอนั่นจะต้องโกรธแค้นและสาปแช่งกริดมากกว่าขอโทษ
ทำไมนายถึงไม่มาช่วย! ทำไมนายถึงปล่อยให้ฉันเผชิญความอับอายตามลำพัง!
ใช่แล้ว สี่ราชันสวรรค์คัดลอกมาเพียงรูปลักษณ์ ทักษะ และไอเท็ม ไม่มีส่วนอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง
คงเป็นการสิ้นเปลืองความรู้สึกโดยใช่เหตุหากทีมงานบรรจุอารมณ์เสมือนจริงให้กับ NPC ที่มีชะตากรรมต้องตาย
กระนั้น… ชายหนุ่มพยายามข่มความเจ็บปวด
“…”
แต่เขาทำไม่สำเร็จ
ความขุ่นเคืองใจกำลังสุมในอก ประหนึ่งของเหลวหนืดที่ล้างเท่าไรก็ไม่หมด
กริดกำลังโมโหตัวเอง ความตายของโนลล์มาเร็วกว่าที่คาดไว้ กริดเริ่มเสียสมาธิและหันไปครุ่นคิดถึงไอเท็มที่ตนสร้างให้โนลล์เมื่อไม่กี่วันก่อน
‘บ้าจริง…’
ไม่เหมือนกับผู้เล่น NPC นั้นมีเพียงชีวิตเดียว
กริดรักและเป็นห่วง NPC ทุกคน เขายอมตายได้นับสิบครั้งเพื่อแลกกับความตายของ NPC ในการปกครอง
‘ทำไมวัลฮัลล่าถึงมีทักษะแบบนั้น…’
ปัจจุบัน โนลล์ที่กริดเป็นกังวลกำลังปกป้องเมืองแวมไพร์ตามลำพัง
ถ้ามีใครบุกรุกเมืองแวมไพร์ตอนนี้ และถ้าโนลล์ฝากชีวิตไว้กับชุดเกราะที่กริดสร้าง…
มันจะกลายเป็นยาพิษที่นำพาโนลล์ไปสู่ความตาย
“ได้โปรดอย่าเกิดอะไรขึ้นกับโนลล์…”
ร่างกายชายหนุ่มพลันสั่นระริกในยามนึกถึงข่านผู้ล่วงลับ แขนข้างขวาที่กำลังทุบค้อนพลันส่องแสงสีขาวเพื่อร่ายศรเวทตั้งเวลา
ทันใดนั้น ข้อความระบบใหม่ปรากฏ
[ผู้พิทักษ์ประตูทิศใต้ล้มลงท่ามกลางคูเมืองหน้าประตูปราสาท]
[เศษเสี้ยวดวงวิญญาณสีเทากล่าวขอโทษกับท่าน]
[ประตูทิศใต้ถูกยึดครอง เสียงคำรามของผู้บุกรุกดังกังวานทั่วสนามรบ]
เก้านาทีพอดิบพอดีหลังจากประตูทิศเหนือถูกยึดครอง เหยื่อรายที่สองคือ ‘วิน’ ร่างโคลนของอัสโมเฟล
กริดมิได้สั่นคลอน
นี่คือคำสาปที่พระรองตลอดกาลถูกครอบงำตลอดหลายปีที่ผ่านมา กริดพอจะคาดเดาความตายของอัสโมเฟลได้
ร่างกายและจิตใจอัสโมเฟลถูกความสำนึกผิดกัดกินจนฝังรากลึกจนยากถอนออก เขาเอาแต่ฝึกฝนและขัดเกลาวิชาดาบต้องห้ามเพียงเพื่อล้างแค้นจักรพรรดินีแมรี่
‘อัสโมเฟลไม่ถนัดสู้กับศัตรูจำนวนมากตามลำพัง’
หากเทียบกับราชันสวรรค์ที่เหลือ อัสโมเฟลมีความบกพร่องมากที่สุด
ไม่เหมือนปิอาโร่และเมอร์เซเดส ชายคนนี้ไม่ใช่ตำนาน หรือมิได้มีชาติกำเนิดเป็นสิ่งมีชีวิตระดับสูงเหมือนโนลล์
แถมเปลวเพลิงอันร้อนแรงที่อัสโมเฟลใช้ยังเป็นดาบสองคม มันจะแผดเผาแม้กระทั่งตัวอัสโมเฟลเอง
ด้วยความที่เป็นตัวตนสามัญ ในสภาพถูกลดค่าสถานะ 30% เขาย่อมมิอาจรับมือแรงเกอร์หนึ่งร้อยคนไหว
[สินค้าที่ท่านเลือกมีราคา 999 แต้มชื่อเสียง กรุณายืนยัน]
ผ่านมานานหลายเดือนนับตั้งแต่กริดตอบรับคำเชิญให้รับบทราชาอสูร เขาทุ่มเทและพยายามอย่างหนักเพื่อเพิ่มเปอร์เซ็นต์คว้าชัยให้มากที่สุด
ไม่เพียงทำภารกิจมากมายไปพร้อมกับการอัพเกรดไอเท็มสี่ราชันสวรรค์ กริดยังศึกษาจุดอ่อนจุดแข็งและไพ่ตายที่ตนมีอย่างละเอียดทุกซอกมุม
หนึ่งในนั้นคือร้านค้าชื่อเสียง
ร้านค้าชื่อเสียงมีสินค้าวางขายหลายชนิด ทั้งอาหาร โอสถ หนังสือทักษะ ตำราเวทมนตร์ กล่องสุ่มไอเท็ม กล่องสุ่มสัตว์เลี้ยง แร่หายาก อัญมณี วัตถุดิบประกอบอาหาร และอีกมากมาย
เป็นร้านค้าหรูหราที่สนองความต้องการของผู้เล่นได้ดี สินค้าประเภทสุ่มบางชิ้นจะรับประกันเกรดขั้นต่ำของไอเท็ม แต่แลกมากับราคาที่สูงขึ้น
ในตอนแรก กริดมีแผนจะซื้อลูกกวาดที่เพิ่มค่าสถานะทุกชนิด 30% ชั่วคราว
บัฟลูกกวาดอยู่ได้นานห้านาที และผู้เล่นหนึ่งคนสามารถซื้อลูกกวาดได้เพียงห้าชิ้นตลอดชั่วชีวิต หมายความว่ากริดจะต่อสู้ในโหมดทรงพลังได้นานถึง 25 นาที
แต่หลังจากครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ เขาเริ่มเล็งเห็นว่านี่ไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด สิ่งที่กริดกำลังสนใจคือไอเท็มซึ่งมีราคาต่ำสุดในร้านค้าชื่อเสียง
เสี่ยงดวง 999 แต้ม
[สุ่ม! สุ่ม! สุ่มทุกอย่าง!]
เครื่องสุ่มของรางวัล
ด้วยราคา 999 แต้มชื่อเสียง ท่านสามารถได้รับไอเท็มหลากหลายชนิดในรูปแบบการสุ่ม
* ไอเท็มตามเทศกาลไม่สามารถสุ่มขึ้นมาได้
* มีโอกาสปานกลางที่จะได้รับโพชั่นบัฟค่าประสบการณ์
ราคา : 999 แต้มชื่อเสียง
หรืออีกความหมายหนึ่งก็คือ เป็นการเสี่ยงดวงควานหาไอเท็มมูลค่าสูงในราคาถูก
ชายหนุ่มยังคงจดจำอดีตได้แม่นยำ เขาเคยเสี่ยงดวงกับเครื่องสุ่มบัดซบเพื่อหวังได้รับโพชั่นบัฟค่าประสบการณ์ แต่สิ่งที่ตอบแทนกลับเป็น ‘ปิ่นปักผมงดงาม’ และ ‘เนื้อเสียบไม้ย่างที่อร่อยที่สุดในโลก’
แต่มีเรื่องน่าประหลาดอยู่ จากหนึ่งในสองไอเท็มที่สุ่มได้ เนื้อเสียบไม้นั้นไม่มีวางขายภายในร้านค้าชื่อเสียงอย่างที่ควรจะเป็น
มันไม่ควรถูกสุ่มได้จากเครื่องสุ่ม
ทว่า กริดในอดีตมิได้เอะใจ เขาเอาแต่โมโหจนสติแทบขาดผึ่งหลังจากได้รับไอเท็มขยะ
‘เมื่อลองไตร่ตรองให้ดี…’
กริดผุดทฤษฎีใหม่ขึ้น เขาเชื่อว่า เครื่องสุ่มบัดซบจะทำการสุ่มไอเท็มที่วางขายใน ‘ร้านค้าพิเศษ’ ทั่วทุกมุมโลกซาทิสฟาย
ไม่อย่างนั้นคงไม่มีคำอธิบายสำหรับเนื้อเสียบไม้ ชายหนุ่มมั่นใจว่าซาทิสฟายปลอดบั๊ก หากสิ่งใดเกิดขึ้นอย่างไร้เหตุผล นั่นเป็นเพราะเขายังไม่เข้าใจมันดีพอ
“หืม…”
หรือต่อให้เดาถูก แต่กริดก็เชื่อว่าโอกาสได้รับ ‘ไอเท็มน่าสนใจ’ มีค่อนข้างต่ำ
เขาเริ่มชั่งน้ำหนักระหว่างการสุ่ม 999 แต้มกับการซื้อลูกกวาดและตำราเวทมนตร์ให้เป็นเรื่องเป็นราว
แต่ท้ายที่สุด กริดได้ข้อสรุปภายในเวลาไม่นาน หากต้องการประสบความสำเร็จ ความเสี่ยงคือของคู่กันเสมอ
แถมในปัจจุบัน ตนยังมีค่าความโชคดีที่สูงถึง 631 แต้ม เขาเคยคิดอยู่บ่อยครั้ง ว่าจะเปลี่ยนชื่อตัวเองให้เป็น ‘ราชาโชคลาภ’
‘ถ้าจำไม่ผิด ร้านค้าสายหมอกมีโอสถ หนังสือทักษะ กับม้วนคาถาวางขายสินะ’
กริดมั่นใจว่าต้องมีร้านค้าพิเศษที่เขาไม่รู้จักซ่อนอยู่อีก และร้านเหล่านั้นต้องขายไอเท็มมูลค่าสูงลิบเหนือจินตนาการ
‘ขอสักชิ้นสองชิ้นก็พอ’
ก่อนอื่น ชายหนุ่มต้องยืนยันให้ได้ว่าทฤษฎีของตนเป็นจริง เครื่องสุ่มชนิดนี้จะดึงสินค้าราคาสูงจากร้านพิเศษทั่วโลกมามอบให้
แต่ไหนแต่ไรมา แต้มชื่อเสียงคือหนึ่งในสิ่งที่กริดหาโอกาสใช้ได้ยาก นับตั้งแต่การตะลุยเมืองแวมไพร์ในคราวก่อน เขาก็สั่งสมแต้มชื่อเสียงมาตลอดโดยไม่กล้าใช้มัน
แต่ตอนนี้คือโอกาสสำคัญที่ต้องผลาญให้หมดเกลี้ยง ต่อให้ผลลัพธ์ออกมาพังพินาศ แต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อการแข่งราชาอสูรมากนัก กริดเตรียมการสำหรับศึกราชาอสูรไว้เรียบร้อยแล้ว ไอเท็มจากร้านค้าชื่อเสียงเป็นเพียงผลโบนัสเสริม
ไม่ว่าผลลัพธ์ออกมาดีหรือร้าย แต่จะไม่กระทบต่อการแข่งอย่างแน่นอน
ชายหนุ่มกดปุ่มสุ่มด้วยสีหน้าแสนมั่นใจ
[ค่าชื่อเสียง 999 แต้มถูกใช้ไปกับเครื่อง ‘สุ่ม! สุ่ม! สุ่มทุกอย่าง!’]
[ท่านเหลือค่าชื่อเสียงระดับทวีป 219,540 แต้ม]
[…!!]
[ค่าความโชคดีของท่านนำพาไปสู่ผลลัพธ์เชิงบวก!]
[ท่านได้รับไอเท็ม ‘ม้วนคาถาสร้างไอเท็มเสร็จทันที’]
“...”
เอ่อ… อ่านไม่ผิดใช่ไหม?
กริดเหม่อลอยไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ตรวจสอบรายละเอียดไอเท็มซ้ำอีกครั้ง
“…ค*ย”
เอาแต้มไปซื้อลูกกวาดกับตำราเวทมนตร์ก็ได้… ชายหนุ่มสลัดความตั้งใจทิ้งจนหมดสิ้น
***
『หลังจากที่ทุกคนดิ้นรนอย่างยาวนานและยากลำบาก ในที่สุดก็ถึงเวลาแล้วครับ!! 』
『ผู้เล่นทั้ง 400 คนยึดครองประตูทุกทิศสำเร็จแล้วครับ!! 』
『เป็นภาพที่งดงามมากครับ การร่วมมือกันระหว่างแรงเกอร์ที่มีเชื้อชาติแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง』
『ต้องขอบคุณซาทิสฟายที่ทำให้มวลมนุษย์รวมใจเป็นหนึ่งสำเร็จ…! เจ๋งเป้ง! 』
พิธีกรจากแต่ละประเทศต่างปลุกเร้าบรรยากาศอย่างตื่นเต้น ผู้ชมทั่วโลกกำลังโห่ร้องยินดีประหนึ่งมวลมนุษย์รอดพ้นภัยพิบัติ
ศึกแรกและศึกที่สองใช้เวลารวมกันทั้งสิ้น 1 ชั่วโมงกับอีก 40 นาที นับเป็นภาพการต่อสู้ที่งดงามและยิ่งใหญ่ยากจะหาสิ่งใดเปรียบ
จะไม่มีใครลืมเลือนเรื่องราวความประทับใจในวันนี้ มันได้สลักลึกลงในจิตวิญญาณทุกคนที่ได้รับชม
『เหลือเพียงราชาอสูรแล้วครับ! 』
『ราชาอสูรแข็งแกร่งมาก ด้วยพลังที่แสดงให้พวกเราเห็นในรอบเรียกน้ำย่อย ผมจินตนาการไม่ออกว่ามันจะพ่ายแพ้ผู้เล่นได้อย่างไร』
『งั้นหรือครับ แต่ผมกลับคิดว่าบรรยากาศฝ่ายมนุษย์เริ่มเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น』
『ถูกต้องครับ วีรบุรุษของพวกเราทุกคนจะรวมใจเป็นหนึ่งอีกครั้ง พวกเขาเปลี่ยนจากศัตรูเป็นมิตรที่พึ่งพาซึ่งกันและกัน』
『ใช่แล้วครับ! วีรบุรุษทั้ง 400 คนต้องเอาชนะราชาอสูรได้แน่! 』
ผู้บรรยากาศมิอาจเก็บซ่อนสีหน้าสุดตื่นเต้นไว้ได้ ในสายตาของพวกมัน แรงเกอร์ทั้ง 400 คนล้วนเป็นวีรบุรุษตัวจริงเสียงจริง
ผู้ชมทางบ้านและในสนามต่างก็คิดแบบเดียวกัน แรงเกอร์เหล่านี้เป็นถึงหัวกะทิที่คัดสรรจากมาจากผู้เล่นกว่าสองพันล้าน
คนทั่วโลกถูกปลุกระดมไปในทิศทางเดียว พวกเขาไม่ต้องการให้ฝ่ายแรงเกอร์พ่ายแพ้ ศัตรูเป็นเพียงปัญญาประดิษฐ์ไร้หัวใจ หาใช่มนุษย์ กองเชียร์ย่อมไม่ต้องการให้ตัวแทนประเทศของตน ตัวแทนมวลมนุษย์ ต้องพ่ายแพ้แก่มอนสเตอร์ที่ SA กรุปสร้างขึ้น
[หลังจากทุกประตูถูกยึดครอง เส้นทางที่นำไปสู่ห้องราชาอสูรได้เปิดออก]
ครอเกล คริส จิสึกะ ดาเมี่ยน ซีบาล เฮสเตอร์ รวมถึงพีคซอร์ด คนเหล่านี้คือแม่ทัพบัญชาการจากแต่ละกลุ่ม พวกเขาเดินนำลูกทีมย่างกรายเข้าสู่ปราสาทราชาอสูรด้วยสีหน้ามุ่งมั่น
ทางเดินจากประตูทั้งสี่ทิศได้บรรจบลงที่จุดหมายเดียวกัน …ประตูท้องพระโรงใหญ่ที่มีราชาอสูรรออยู่ด้านใน
“…”
ไม่มีผู้ใดกล้าบุ่มบ่ามเปิดประตูเข้าไป
เสียงดนตรีสุดหดหู่และน่าสะพรึงกลัวกำลังดังแว่วจากด้านในเป็นระยะ ท่วงทำนองได้สร้างความตึงเครียดบนใบหน้าทุกคน
“ทุกคนฟังทางนี้! ได้โปรดทำตามที่ฉันบอกด้วย! ยืนชิดกันไว้ให้มากที่สุด! ตัวแทงค์ออกมายืนหน้าสุดและตั้งโล่กำบัง! จอมเวทที่หลบหลังโล่คอยร่ายบาเรียคุ้มกันอย่างต่อเนื่องห้ามหยุดพัก!”
เป็นคำสั่งจากคริส
หลังจากทราบถึงตัวตนที่แท้จริงของราชาอสูร คริสก็มั่นใจว่าต้องมีขุมนรกระดับภัยพิบัติรอต้อนรับแน่
ในฐานะเพื่อนคนสนิทของกริดและสิบวีรชนฯ คริสย่อมทราบถึงพลัง ‘เวทตั้งเวลา’ ที่กริดครอบครอง
“ทำตามที่คริสบอก”
ยืนให้ชิดกันที่สุด?
มีใครบางคนไม่เห็นด้วย
คริสเข้าใจว่านี่คือสงครามจริงรึไง?
แต่นักกีฬาส่วนใหญ่ก็ทำตามที่คริสบอกแต่โดยดี พวกเขาได้รับบทเรียนมาแล้ว หากต้องการชัยชนะ การฟังคำสั่งแม่ทัพคือสิ่งจำเป็น
ความสามัคคีต้องมาก่อน ไม่มีใครที่ทำตามอำเภอใจแล้วเอาชนะราชาอสูรได้แน่
ราชาอสูรคงมีระดับสูงกว่าสี่ราชันสวรรค์มาก
จอมเวทกอช่าหันไปกล่าวเตือนสติ
“มันคือศัตรูที่เวทมนตร์ไร้ผล พวกเราต้องทำตามที่คริสพูด ร่วมมือกันร่ายเวทบาเรียปกป้องอย่างต่อเนื่อง พวกนายก็รู้ใช่ไหม… การปกป้องพวกพ้องคือหนึ่งในปัจจัยที่ถูกนำไปคำนวณเหรียญรางวัล”
“ฟังดูไม่เลว… ยืนกางบาเรียเรื่อยๆ แล้วคว้าเหรียญทองไปครอง”
“น…นั่นสินะ”
“ฮะฮะ!”
บรรยากาศเริ่มผ่อนคลายลงเล็กน้อย บางคนหายจิตตกจากดนตรีอันเข้มข้นที่กำลังบรรเลงบีบหัวใจ
สีหน้าของพวกมันกำลังมุ่งมั่น ทุกคนสูดลมหายใจเข้าลึกพร้อมกับจัดขบวนรบอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
เมื่อประตูท้องพระโรงถูกเปิดออก จอมเวทคนหนึ่งได้ใช้เวทแสงเพื่อมอบความสว่าง…
“พวกแกมาสาย”
ณ ส่วนลึกสุดของท้องพระโรง
ราชาอสูรกำลังนั่งบนบัลลังก์ยักษ์หน้าไปป์ออร์แกนขนาดมหึมา …ข้อความระบบแสดงขึ้นในเวลาเดียวกัน
[ราชาอสูรปรากฏกาย!]
เป็นข้อความที่สั้นห้วน แต่มาพร้อมน้ำหนักและแรงกดดันมหาศาล
“ยกโล่!”
คริสรีบเตือนสติเหล่าแทงค์ด้วยจิตใต้สำนึกที่หวาดกลัวเวทตั้งเวลา
ทันใดนั้น สุ้มเสียงกัมปนาทอุบัติขึ้นปกคลุมบรรยากาศ นักกีฬากว่าสี่ร้อยคนพลันหูดับถ้วนหน้า
กระสุนปืนใหญ่ปริศนาพุ่งตรงมายังกลุ่มแรงเกอร์ที่ปากประตูทางเข้า มันทะลวงผ่านบาเรียคุ้มกันหนาหลายชั้นของจอมเวทอย่างง่ายดาย
โล่ในมือเหล่าแทงค์ถูกบดขยี้จนแหลกละเอียดพร้อมกับสลายไปราวกับไม่เคยมีอยู่
บึ้มมมมมมม—!!
“ปืนใหญ่!!”
“อั่ก…! รักษาแนวรบไว้!”
“ตั้งสติเร็วเข้า! ใครที่ยังมีโล่ให้รีบยกขึ้นป้องกัน!!”
เป็นรูปแบบและชนิดการโจมตีที่ไม่มีใครคุ้นเคยมาก่อน ทั้งหนักแน่นและทรงพลังในเวลาเดียวกัน
ฝุ่นควันคละคลุ้งฟุ้งกระจายหน้าปากประตูทางเข้า ผู้เล่นได้รับแรงสะเทือนจนโงนเงนพร้อมกับหูดับราวสองวินาที
อาจเป็นระยะเวลาที่ไม่นาน แต่ก็มากพอสำหรับให้ราชาอสูรลงมือ
ศัตรูของมวลมนุษยชาติอาศัยความโกลาหลปรี่เข้าประชิดตัวคลาสสายโจมตีที่อยู่ด้านหลังตัวแทงค์
เป้าหมายคือซิวรอนแห่งอาร์เจนติน่า—บุคคลที่เคยให้สัมภาษณ์ว่า ‘กริดเป็นริดสีดวง’ ต่อหน้าสื่อทั่วโลก
‘ไอ้หมอนี่…!’
มันกำลังอมยิ้ม?
ซิวรอนพลันเย็นสันหลังวาบเมื่อเหลือบเห็นใบหน้ายิ้มเยาะของราชาอสูร
“โทษประหาร”
เสียงคำรามอันแหบพร่าและมืดมนดังกังวานทั่วท้องพระโรง
สิ่งที่ระบุไม่ได้ว่าหอกหรือดาบพุ่งเสียบหน้าอกซิวรอนอย่างอำมหิต
“…”
ท่ามกลางเศษหมอกสีเทาที่กระจัดกระจาย เกล็ดประกายสีแดงระยิบระยับรอบตัวราชาอสูรยิ่งทวีความเจิดจรัสจนไม่มีผู้ใดกล้าจ้องมองด้วยตาเปล่า
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,348
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
กริดอยากตอบเเทนคำหวังดีของซิวรอนมานาน555+
ReplyDeleteยินดีด้วยนายทำสำเร็จ
ReplyDeleteใครโดนหมายหัวคือซวยมากๆเลย
ReplyDeleteท่านคือผู้โชคดี ซิวรอน
ReplyDelete🙏สวัสดีปีใหม่ครับ
ReplyDeleteมีความสุขทุกคนทุกท่านนะครับ☺️