จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 943



“เฮ—!!”


หลากหลายอารมณ์กำลังระอุภายในสนามกีฬาแห่งชาติปักกิ่ง มีทั้งทึ่ง ฉงน เงียบงัน และยินดี


ทว่า สำหรับผู้ชมชาวอเมริกัน ความฉงนคืออารมณ์เดียวที่ทุกคนรู้สึกร่วมกัน


“ทำไมครอเกลมาอยู่ที่นี่… ไหนบทความเมื่อวานระบุว่า ครอเกลจะปรากฏตัวในการแข่ง PVP”


“ใช่ ฉันก็ได้อ่านเหมือนกัน คิดว่าครอเกลจะลง PVP ซะอีก…”


“อีกหนึ่งรายการที่เหลือ… เขาคงเลือกตะลุมบอนราชาอสูรใช่ไหม”


“คงงั้น เพราะถ้าไม่ใช่ ครอเกลก็ต้องเสียสติไปแล้วแน่”


“นั่นสินะ…”


ผู้ชมชาวอเมริกันเริ่มเข้าใจสถานการณ์


สื่อระดับล่างได้เขียนบทความแบบเดาสุ่มว่าครอเกล ซีบาล และเฮสเตอร์ล้วนลงแข่งในรายการ PVP สื่อชนิดนี้ต้องการเป็นจุดสนใจ ไม่ได้เน้นความถูกต้อง


แล้วก็เป็นไปตามคาด ผู้คนจำนวนมากเริ่มรุมถล่มด่าสื่อระดับล่าง บริษัทสื่ออื่นรีบฉวยโอกาสนี้เอาความดีเข้าตัว


ชาวอเมริกันตกเป็นเหยื่อบทความลวงเข้าเต็มเปา


“พวกนักข่าวไม่มีจรรยาบรรณกันเลยรึไง เมื่อคืนฉันแทบไม่ได้นอนเพราะข่าวนี้”


“ฉันด้วย นึกว่าเหรียญทองจะหายไปสองเหรียญซะแล้ว ฉันเครียดจนดื่มหนัก ส่งผลให้ตอนนี้ปวดหัวแฮงไม่รู้เรื่อง แย่ชะมัด”


“โชคดีที่ไม่เหมือนในบทความ”


คงวิกฤติหนักแน่ หากสามขุนพลของทีมสหรัฐต้องห้ำหั่นกันเองเพื่อแย่งชิงเหรียญทองเพียงหนึ่ง เหตุการณ์ได้เปลี่ยนไปในทิศทางที่น่าพึงพอใจ


“สู้เค้านะครอเกล! ฉันคอยเอาใจช่วย!”


สนามกีฬาแห่งชาติเริ่มสั่นสะเทือนหลังจากผู้ชมชาวสหรัฐต่างพากันร่วมใจส่งเสียงเชียร์


บนเวทีที่นักกีฬาทั้งห้าคนกำลังยืนประจำตำแหน่ง เหมยเซียวพลันเกิดความกดดันอย่างหนัก


“ส…สุดยอด”


เหมยเซียวเคยลงแข่งหลายรายการภายในประเทศจีน เธอมั่นใจว่าตัวเองชาชินกับกองเชียร์ แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย การต้องเผชิญกับกองเชียร์นับแสนในการแข่งนานาชาติ นับเป็นความกดดันที่อยู่คนละมิติโดยสิ้นเชิง


นักกีฬาอีกสามคนก็ไม่ต่างกัน เพราะแต่ไหนแต่ไรมา รุคกี้เหล่านี้เป็นเพียงดาวเด่นภายในประเทศ เมื่อได้เจอของจริงในงานแข่งนานาชาติ ร่างกายพลันแข็งทื่อราวกับรูปปั้นหินโดยปริยาย


แต่พระเอกของงานผู้เรียกเสียงเชียร์กลับยังสงบนิ่ง เขาย่างกรายไปยังแคปซูลด้วยสีหน้าเรียบเฉยราวกับปราศจากอารมณ์


เหมยเซียวรีบส่งเสียงตะโกน


“ข…ขอประทานโทษค่ะคุณครอเกล!”


“…”


“ฉ…ฉันขอลายเซ็นหลังจากจบการแข่งได้ไหม”


อันที่จริง เหมยเซียวมีแผนจะเดินเข้าไปขอลายเซ็นหลังจบการแข่ง แต่เมื่อได้เห็นก้าวย่างแสนเย็นชาของครอเกลที่เริ่มห่างออกไป เหมยเซียวรู้สึกราวกับตนอยู่บนโลกคนละใบกับเขา เธอกังวลว่าตนอาจไม่ได้พบครอเกลอีกแล้ว


นักกีฬาที่เหลือต่างก็คิดแบบเดียวกัน พวกเขาล้วนอยากได้ลายเซ็นของครอเกล


แม้อดีตท้องฟ้าผู้นี้จะถูกกริดโค่นลงในปีที่แล้ว แต่ตัวเขายังถือเป็นบุคคลปรากฏการณ์ของโลก แรงเกอร์รุ่นใหม่หลายคนยึดครอเกลเป็นแบบอย่าง พวกเขาย่อมต้องการมีลายเซ็นและรูปคู่กับครอเกลไว้ครอบครอง


“…”


ครอเกลมิได้หันมาแยแส สีหน้าเรียบเฉยราวกับเป็นเพียงเรื่องงี่เง่าน่ารำคาญ


เหมยเซียวโชคไม่ดีนัก ผู้เข้าแข่งที่เหลือต่างต้องรีบเข้าไปนอนในแคปซูลเช่นกัน


เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง พวกเขาทั้งห้าถูกเคลื่อนย้ายจิตไปยังเซิร์ฟเวอร์การแข่งของซาทิสฟายเรียบร้อย


‘ถูกกล้องถ่ายไว้รึเปล่านะ’


‘นังเหมยเซียวบัดซบ!’


เมื่อครู่ จางเจี๋ยนจากจีนก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ตะโกนขอลายเซ็นครอเกลเนื่องจากบรรยากาศพาไป มันกลัวจะน้อยหน้าเหมยเซียวที่ตะโกนขอลายเซ็นเป็นคนแรก


ภายในประเทศจีน จางเจี๋ยนมีฉายาว่า ‘เจ้าชายน้ำแข็ง’ ซึ่งหมายถึงบุรุษผู้เย็นชาและสุขุม แต่หากพฤติกรรมเมื่อครู่ถูกต้องจับภาพไว้ มาดที่มันพยายามรักษามานานคงได้ป่นปี้ในชั่วข้ามคืน


‘เราน่าจะเอ่ยปากขอหลังจากแข่งจบแล้ว บ้าจริง! โธ่เว่ย!’


จางเจี๋ยนเกลียดชังเหมยเซียวในทุกประตู มันไม่ชอบหน้าเธอเลยสักนิด เหมยเซียวเป็นน้องสาวของเฮ่า แถมเธอยังได้รับความนิยมสูงกว่ามัน มีบุคลิกที่สดใสและเปลี่ยนแปลงบรรยากาศรอบข้างได้


‘ระวังไว้ให้ดีเถอะนังเหมยเซียว ฉันจะเอาชนะวีรบุรุษด้วยเวลาที่เร็วกว่าเธอ จมูกที่เชิดตลอดเวลานั่นจะถูกกระทืบจนจมดิน!’


จางเจี๋ยนเตรียมตัวมาอย่างไร้ที่ติ มันวิเคราะห์กริดในปีที่แล้วทุกซอกมุม วิดีโอนัดชิงชนะเลิศกับครอเกลถูกซ้ำนับพันรอบ


มันขวนขวายหาไอเท็มเกรดเลเจนดารีมากมายที่ชนะทางกริด แม้จางเจี๋ยนจะสู้กริดในปัจจุบันไม่ได้ แต่หากเป็นกริดเมื่อปีที่แล้ว มันแสนมั่นใจเสียเต็มประดา


หนึ่งปีในชีวิตจริงหมายถึงสามปีในซาทิสฟาย และนั่นไม่ใช่เวลาที่สั้น ตัวละครกริดถูกแช่แข็งไว้นานสามปีเต็ม คงเป็นการยากที่จะให้เชื่อว่า แรงเกอร์แถวหน้าของโลกจะมิอาจไล่ตามกริดเมื่อสามปีก่อนทัน


จางเจี๋ยนหมั่นพัฒนาตัวละครมาตลอดสามปีเต็ม มันมีสิทธิ์คิดเช่นนั้น


『นักกีฬาคนแรก… จางเจี๋ยนจากจีนครับ!! 』


ในวินาทีที่ชื่อของจางเจี๋ยนถูกขาน ตัวละครของเขาได้ถูกส่งมายังลานต่อสู้ ร่างกายที่สวมเกราะหนักหล่นกระแทกพื้นจนเกิดเสียงโลหะกระทบ


วีรบุรุษกริดกำลังยืนกอดอกพร้อมกับใช้หลังเอนพิงต้นไม้ สายตาของมันกำลังจ้องมองจางเจี๋ยนอย่างสนใจ แตกต่างจาก AI ที่หวาดระแวงของครอเกลในปีที่แล้วโดยสิ้นเชิง


นี่คือคำบอกใบ้ เป็นการใบ้ว่า AI ปีปัจจุบันจะมีนิสัยมุทะลุ แตกต่างจากปัญญาประดิษฐ์ที่เยือกเย็นและระแวดระวังตัวในปีก่อนมาก


อุปนิสัยของปัญญาประดิษฐ์มีส่วนต่อกลยุทธ์และรูปแบบการต่อสู้ แม้จะควบคุมตัวละครเดียวกัน แต่ปัญญาประดิษฐ์ที่มีนิสัยแตกต่างจะใช้รูปแบบการต่อสู้ที่ไม่เหมือนกัน


หากจางเจี๋ยนมีประสบการณ์สักหน่อย มันคงสังเกตเห็นแววตาที่หิวกระหายของวีรบุรุษหนนี้


น่าเสียดายที่จางเจี๋ยนยังเป็นเพียงรุคกี้ มันจึงไม่เห็นข้อแตกต่างระหว่างนิสัยของ AI


และนั่นคือจุดเริ่มต้นความพ่ายแพ้ ปัญญาประดิษฐ์ครอเกลมีนิสัยระวังตัวรอบด้าน ส่งผลให้ไม่กล้าตามปิดบัญชีพีคซอร์ดเพื่อจบเกมให้เด็ดขาด แต่กลับกัน ปัญญาประดิษฐ์ของกริดนั้นมีนิสัยมุทะลุ มันจะไม่ยอมให้ศัตรูมีชีวิตรอดกลับไปได้


วีรบุรุษกริดกระโจนไปในอากาศพลางหมุนควงสว่านฟันใส่จางเจี๋ยน


“…!!”


ในวินาทีที่การต่อสู้เริ่มต้นขึ้น จางเจี๋ยนได้ข้ามสะพานที่มิอาจหวนกลับ


[ท่านปัดป้องการโจมตีทรงพลัง]


[ดาบนักรบคำรามสูญเสียความคงทน 78 หน่วย]


[กระดูกข้อมือขวาแตก]


[ท่านได้รับบาดเจ็บ 2,900 หน่วย]


[ท่านขยับข้อมือไม่ได้เป็นเวลา 15 วินาที]


‘บ้าบอสิ้นดี!’


แน่นอนว่าจางเจี๋ยนตระหนักถึงพลังโจมตีระดับช้างสารของกริด แม้เพียงการฟันธรรมดา แต่หากเป็นกริด ผู้เล่นทุกคนสามารถไปเกิดใหม่ได้ถ้าโดนเข้าอย่างจัง


จางเจี๋ยนระวังตัวอย่างสุดความสามารถเพื่อไม่ให้ถูกโจมตี ทว่า แม้จะปัดป้องสำเร็จก็ยังได้รับความฉิบหายได้มากเพียงนี้เชียวหรือ…


แถมนี่ยังเป็นแค่การฟาดฟันธรรมดา


ตนยังเตรียมการมาไม่ดีพอหรืออย่างไร เครื่องประดับและอุปกรณ์สวมใส่แทบทุกชิ้นล้วนมีโบนัสค่าพละกำลังแฝงอยู่


การโจมตีถัดไปของกริดตัวปลอมพุ่งตามซ้ำ คราวนี้เป็นการแทงตรง จางเจี๋ยนรีบโยนดาบจากมือขวามาไว้ในมือซ้ายที่ใช้การได้


จากนั้นก็ตะโกนชื่อทักษะ


“กายาสวรรค์”


เป็นทักษะที่ช่วยป้องกันอาการผิดปรกติทางกายภาพ มีพื้นฐานเหมือนกับทักษะขยายขนาดร่างกายทั่วไป มันจะไม่ได้รับอาการผิดปรกติเพิ่มเติมชั่วขณะ แถมยังได้รับความเสียหายจากศัตรูน้อยลง


เดิมที จางเจี๋ยนมีแผนจะเก็บไว้เป็นไพ่ตายในยามจนตรอก แต่กลับต้องรีบใช้ตั้งแต่ไก่โห่อย่างไม่คาดฝัน


เมื่อปัดป้องท่าแทงของกริดสำเร็จ จางเจี๋ยนเริ่มลงมือตอบโต้


ทันใดนั้น ผ้าคลุมกริดพลันสะบัดพลิ้วปัดป้องคมดาบของจางเจี๋ยน เท่านั้นยังไม่พอ ฝ่ามือสีทองอันลือชื่อได้ปรากฏตัวพร้อมกับกระหน่ำยิงลำแสงสีขาวใส่


สิ่งนี้คือเวทมนตร์ที่ทำให้พลังป้องกันกายภาพมหาศาลต้องไร้ประโยชน์


จางเจี๋ยนกัดฟันอดทนพร้อมกับรัวดาบในมือใส่หน้าอกกริดระลอกใหญ่


“แล้วมาดูกันว่าใครจะตายก่อน!”


รูปแบบการต่อสู้กลายเป็นมวยวัดไปโดยปริยาย จางเจี๋ยนบัฟพละกำลังพร้อมกับตามโจมตีด้วยท่าฟันสุดทรงพลัง


[เป้าหมายได้รับความเสียหาย 5,380 หน่วย]


[เป้าหมายได้รับความเสียหาย 5,290 หน่วย]


‘บ้าน่า…’


มันลงทุนใช้บัฟโจมตีใส่อาวุธเกรดเลเจนดารี แต่ความเสียหายกลับรุนแรงเพียงเท่านี้เองหรือ


ขณะนัยน์ตาจางเจี๋ยนกำลังสั่นระริก วีรบุรุษกริดได้แสยะยิ้มเยาะเย้ยราวกับเป็นภาพที่น่าเอ็นดู


“ไอ้ระยำเอ้ย!”


นี่ตนกำลังถูกปัญญาประดิษฐ์บัดซบยั่วยุงั้นหรือ…


ในฐานะดาวรุ่งพุ่งแรงของจีน จางเจี๋ยนกำลังเดือดพล่านอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แต่โทสะของมันก็คงอยู่เพียงไม่นาน สาเหตุเพราะเปลวที่ร้อนแรงกว่ากำลังลุกโชติช่วงรอบกายกริดราวกับไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้าใกล้


“อ๊ากก!”


จางเจี๋ยนโอดครวญอย่างเจ็บปวดพลางถอยหลังหนี การก้มหน้าก้มตาฟันของมันสร้างความเสียหายแก่กริดได้น้อยกว่าที่เปลวเพลิงแผดเผากลับมา


“อ…อะไรกัน… ฮ…เฮ้ย!”


จางเจี๋ยนพยายามใช้เทคนิคดาบปัดป้องการโจมตีจากกริดให้ได้มากที่สุด สีหน้าของมันขาวซีดขณะซดโพชั่นลงคออย่างลนลาน


น่าเสียดายที่วีรบุรุษกริดฉลาดล้ำกว่ากริดตัวจริงมาก ท่วงท่าดาบของจางเจี๋ยนถูกอ่านออกภายในเวลาเพียงไม่นาน


“ส…ไสหัวไปซะ!”


จางเจี๋ยนที่กำลังสติแตกรีบใช้ทักษะอย่างมั่วซั่ว แน่นอนว่าเป็นการกระทำที่สูญเปล่า แม้แต่ทักษะโจมตีสุดทรงพลังจากแรงเกอร์แนวหน้าของโลกก็ยังมิอาจทะลวงผ่านพลังป้องกันกริดได้


“ฮะฮ่า!”


วีรบุรุษกริดหัวเราะราวกับกำลังเล่นสนุก มันใช้ฝ่ามือคว้าใบหน้าจางเจี๋ยนพร้อมกับระเบิดเพลิงโลกันตร์แห่งราชินีอัดใส่ในระยะประชิด


การต่อสู้จบลงภายใน 1 นาทีกับอีก 13 วินาที


นี่คือระยะเวลาที่ดาวดวงใหม่ของจีนถูกตัวละครกริดในปีที่แล้วทำลายอย่างราบคาบ หลอดพลังชีวิตกริดแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลง


ภาพอันโหดเหี้ยมที่เกิดขึ้นได้กระทบกระเทือนจิตใจชาวจีนทั่วโลก


***


『จบลงแล้วครับ! ผู้เล่นเหมยเซียวถูกล็อกเอาต์! 』


『เป็นการดวลที่น่าตื่นเต้นมากครับ ทำเอาผมแทบหยุดหายใจ ถึงจะเป็นความพ่ายแพ้ แต่ผู้เล่นเหมยเซียวก็ทำได้ดีเกินคาดมากครับ』


เหมยเซียวแตกต่างจากสามคนก่อนหน้าโดยสิ้นเชิง เธอใช้แส้โลหะควบคู่ไปกับเวทมนตร์ได้อย่างชำนาญ เหมยเซียวโหมกระหน่ำบุกใส่วีรบุรุษกริดอย่างคลุ้มคลั่งประหนึ่งวัวบ้า


ผลลัพธ์ค่อนข้างน่าชื่นชม สตรีผู้นี้ลดพลังชีวิตกริดได้เกือบครึ่ง ทั้งที่อีกฝ่ายมีพลังดูดเลือดจากแหวนเอลฟิน·สโตนคอยประคองพลังชีวิตเป็นระยะ เหมยเซียวทำได้ดีกว่าสามคนแรกที่มิอาจสร้างรอยขีดข่วนให้กริดได้แม้แต่น้อย


“เฮ—!!”


ผู้ชมกว่าแสนคนรอบสนามต่างโห่ร้องเพื่อส่งเสียงเชียร์แก่เหมยเซียว ทว่า กริดตัวจริงที่อยู่ในห้องรับรองพิเศษกลับมิได้ประทับใจมากนัก


“หมอนั่นสู้แบบมุทะลุเกินไป”


ตัวละครกริดเมื่อหนึ่งปีก่อน…


วีรบุรุษกริดต่อสู้ในรูปแบบที่เหมือนกับรถไถ กริดรู้สึกผิดหวังค่อนข้างมาก เขานึกว่าปัญญาประดิษฐ์อัจฉริยะจะมีกลยุทธ์และชั้นเชิงที่ดีกว่านี้ให้ตนได้ศึกษา แต่กลับกลายเป็นว่า มันคร่าชีวิตนักกีฬาคนแล้วคนเล่าด้วยพลังแห่งไอเท็มอย่างเถรตรง


ชายหนุ่มกัดริมฝีปากเจ็บใจ แต่ก็เพียงไม่นาน


“ครอเกล…”


กริดนั่งลงอย่างใจเย็นเมื่อนักกีฬาคนสุดท้ายปรากฏตัวบนสนามแข่ง


“…”


เฉกเช่นเมื่อครั้งเริ่มต่อสู้กับนักกีฬาคนก่อนหน้า วีรบุรุษกริดกระโจนเข้าหาครอเกลพร้อมกับรัวฟันดาบใส่


ครอเกลโยกตัวหลบอย่างคล่องแคล่วพลางตวัดดาบเสือขาวสวนกลับ หน้าอกกริดตัวปลอมถูกฟันเฉือนเป็นทางยาวจนโลหิตสาดกระเซ็น ใบหน้าของวีรบุรุษที่เคยยิ้มเยาะนักกีฬาคนอื่นมาตลอด ยามนี้มันกำลังกัดริมฝีปากอย่างเจ็บแค้น


หัตถ์เทวะสีทองกระหน่ำยิงศรเวทจากทุกทิศพร้อมกับนำมโยลเนียร์ออกมาถือ


“คลื่น!”


วีรบุรุษกริดปลดปล่อยทักษะดาบทันทีที่เท้าสัมผัสถึงพื้น รัศมีคลื่นดาบหลายเส้นเวียนวนเข้าหาครอเกลจากทุกทิศ


ตัวละครกริดมีค่าวิสัยทัศน์ที่สูง แถมยังสวมผ้าปิดตาเพชฌฆาต มันจึงมองเห็นทางหนีทีไล่ล่วงหน้าของอีกฝ่าย


ขณะเดียวกัน ครอเกลอัญเชิญ ‘ดาบบิน’ ออกมาสี่เล่มพร้อมกับส่งพวกมันออกไปสยบหัตถ์เทวะทั้งสี่ข้าง


“ต้องอย่างนั้น!”


กริดลุกพรวดจากที่นั่งทันที


ทักษะ ‘บงการดาบ’ นับว่ายากที่จะใช้งานให้เกิดประโยชน์สูงสุด


แตกต่างจากหัตถ์เทวะที่มีอีโก้เป็นของตัวเอง บงการดาบของครองเกลจำเป็นต้องควบคุมด้วยจิตทั้งหมด ในปีก่อน ครอเกลทำผิดพลาดในการบงการดาบจนเสียสมาธิ


ดูเหมือนเขาจะพัฒนามันจนสมบูรณ์แล้วในปีนี้ ประหนึ่งครอเกลกำลังควบคุมห้าร่างด้วยจิตเดียว


ครอเกลใช้ก้าวย่างแสงขาวอำพรางตัวเพื่อลอบโจมตีวีรบุรุษจากด้านหลัง กริดตัวปลอมย่อมมองออกด้วยค่าวิสัยทัศน์ มันหมุนตัวไปด้านหลังพลางตวัดดาบอัสนีฯ เข้าใส่โดยไม่ลังเล


สองสุดยอดดาบปะทะกันจนเกิดระเบิดดังกึกก้อง ดาบสีดำอุบัติเพลิงทมิฬกลืนกินทุกสรรพสิ่ง ดาบสีขาวอุบัติเสาหินเสียดแทงจากพื้นดินเสียบร่างวีรบุรุษ…


คล้ายจะเป็นเช่นนั้น แต่ไม่ใช่


วีรบุรุษสะบัดผ้าคลุมลันเทียร์เพื่อปัดป้องเสาหินซึ่งเป็นการโจมตีประเภทระยะไกล


“…”


ทุกคนทำได้เพียงอ้าปากค้างอย่างหวาดผวา ผู้ชมนับพันล้านทั่วโลกกำลังเฝ้ามองการต่อสู้สุดแสนระทึกจนแทบลืมหายใจ


โดยเฉพาะ…


“ยอดเยี่ยมมาก…”


กริดกำลังมีความสุขสุดขีด เข้าเฝ้ามองทุกการกระทำของปัญญาประดิษฐ์และครอเกลโดยไม่กะพริบตา

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬

ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน

ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,336

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/


Comments

  1. สนุกมากเลยครับ ขอบคุณที่ทำมาให้อ่านครับ

    ReplyDelete
  2. แหมๆ ดีใจกับกริดด้วยนะที่คู่แข่งของนายเก่งขึ้น

    ReplyDelete
  3. ยอดเยี่ยมมาก

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00