จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 954

ทีมงานจัดสรรเวลาให้นักกีฬาผู้เข้าแข่งตะลุมบอนราชาอสูรได้ประชุมร่วมกัน

20 นาที

นี่คือช่วงเวลาที่สี่ราชันสวรรค์จะถูกแช่แข็งชั่วคราว ระยะหน่วงของทุกทักษะจะไม่ลดลงภายใน 20 นาทีนี้

แน่นอนว่ารวมถึงกริดด้วย เขาจะไม่ได้รับโบนัสพลังชีวิต รวมถึงไม่สามารถสร้างไอเท็มได้ด้วยทักษะตีเหล็ก

“พวกเราควรรวบรวมผู้เล่นจากชาติท็อป 20 อย่างจีน สหรัฐ หรือแคนาดาไว้ในทีมเดียวกัน”

นี่คือความเห็นจากจางเจี๋ยนแห่งจีนแผ่นดินใหญ่

“ในศึกแรก ทุกฝ่ายกระจายตัวกันเพราะไม่ต้องการแย่งเหรียญรางวัลกับชาติที่แข็งแกร่ง แต่สถานการณ์ในปัจจุบันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว พวกเราต้องคัดผู้เล่นหัวกะทิและไล่ถล่มไปทีละประตู”

“แล้วอีกสามทีมล่ะ จะให้ทิ้งรึไง”

“ใช่… แต่วิธีนี้จะทำให้หนึ่งทีมโค่นผู้พิทักษ์สำเร็จแน่นอน เป็นแผนที่หวังผลได้มากที่สุด ส่วนผู้เล่นอีกสามทีมที่เหลือ… พวกเขาต้องไปลุ้นเหรียญรางวัลในรอบราชาอสูร”

ฉากการประชุมย่อมถูกฉายไปทั่วโลก ความสนใจผู้ชมทุกคนกำลังเพ่งมายังการแข่งตะลุมบอนราชาอสูร หลายสถานีข่าวจากแต่ละประเทศพยายามจับภาพการประชุมทุกซอกมุมเพื่อแย่งชิงฐานคนดู

จางเจี๋ยนมิได้แยแส มันไม่สนว่าคนทั่วโลกจะก่นด่าสาปแช่งหรือไม่

และแน่นอน แผนของมันมีจุดบอด

“ถ้าพวกเราจะใช้แผนนี้จริง ประเทศแรกที่ควรคัดออกคือจีน พวกแกกระจอกเกินไป… เด็กน้อยที่บุ่มบ่ามจนเสียชีวิตสองคนแรกคิดจะนั่งบัสรับเหรียญฟรีรึไง”

เป็นถ้อยคำแสนเหยียดหยันจากซิวรอนแห่งอาร์เจนติน่า ในสายตามัน จีนสอบไม่ผ่าน

สิ่งที่ซิวรอนกล่าวก็ไม่ผิดนัก เพราะทั่วโลกล้วนเห็นเต็มสองตาว่าสองในสามแรงเกอร์ชาวจีนถูกฆ่าตั้งแต่ไก่โห่

“นั่นก็เพราะฝีมือแก!”

จางเจี๋ยนพลันหน้าแดงก่ำ มันพยายามปฏิเสธ

พีคซอร์ดฉวยโอกาสสอดแทรก

“เงียบซะ! คนจีนนิสัยเสียอย่างแกไม่มีสิทธิ์ความเห็น…”

“…!”

“ฉันว่าพวกเราควรลุยด้วยทีมเดิม”

“ใครเป็นคนจีนนิสัยเสียกัน!”

จางเจี๋ยนพลันฉงน ชาวต่างชาติใช้สิ่งใดแบ่งแยกคนจีนนิสัยดีกับแย่ มันออกอาการสั่นระริกหลังจากได้ยินถ้อยคำถากถาง

ด้วยตำแหน่งประธานองค์กรเกาหลีใต้จงเจริญ พีคซอร์ดคือมืออาชีพในด้านจัดการกับคนจีนและญี่ปุ่นนิสัยเสีย

เขาฉวยโอกาสหักหน้าจางเจี๋ยนและหันไปถามแรงเกอร์คนอื่นอย่างไม่แยแส

จางเจี๋ยนสูญเสียความน่าเชื่อถือไปมาก ดังนั้นระหว่างพีคซอร์ดและมัน แรงเกอร์ส่วนใหญ่เลือกเข้าข้างพีคซอร์ด

“พวกนายคิดว่ายังไงบ้าง”

ผู้ที่ทำเป็นเก่งกับคนอ่อนแอมักใจฝ่อกับคนที่เหนือกว่า และจางเจี๋ยนก็เป็นประเภทนั้น

“…”

จางเจี๋ยนสงบปากสงบคำเพื่อเปิดโอกาสให้ตัวตนที่ยิ่งใหญ่อย่างครอเกล คริส หรือซีบาลออกความเห็น มันก้าวถอยหลังกลับไปโดยไม่คิดมีปากมีเสียงอีก

คริสและซีบาลเห็นด้วยกับพีคซอร์ด

“ควรต้องเป็นเช่นนั้น พวกเราเคยมีประสบการณ์ต่อสู้มาแล้วหนหนึ่ง รอบแก้ตัวต้องง่ายขึ้นแน่”

แรงเกอร์ทั้งสี่ร้อยล้วนเป็นระดับท็อปของโลก แม้ในรอบแรกอาจพ่ายแพ้เพราะปราศจากข้อมูล แต่รอบถัดไปย่อมไม่เหมือนเดิม

คนเหล่านี้มิได้ไต่มาถึงแถวหน้าของโลกเพราะโชคช่วย พวกเขาโชกโชนในการล่าบอสเพื่อเก็บเลเวลและสะสมไอเท็ม

ครอเกลก็คิดแบบเดียวกัน

“ตามนั้น”

“ตกลง”

เมื่อไม่มีกริด ครอเกลคือบรรทัดฐานที่ถูกคนยึดถือ หลังจากครอเกลพยักหน้าเห็นด้วยกับแผน ก็ไม่มีผู้เล่นคนใดคิดคัดค้านอีก

แรงเกอร์ทั้งสี่ร้อย พวกเขาแบ่งเป็นสี่กลุ่มตามเดิมและกระจายตัวยืนหน้าทางเข้าประตูที่ตนเคยล้มเหลว

“ทุกคนควรทราบอยู่แล้ว แต่ขอเน้นย้ำอีกครั้ง แม้ค่าสถานะของราชันสวรรค์จะลดลง 30% แต่บางทักษะยังคงสังหารพวกเราในคราเดียวเช่นเดิม”

ณ ประตูทิศตะวันตก พีคซอร์ดเดินนำทัพกลุ่ม B พลางตะโกนปลุกใจ

“ทุกคนจงคิดว่าหล่อนเป็นก็อดกริด! ห้ามถูกโจมตีโดยเด็ดขาด!”

“…”

“พวกเราเคยสู้กับเธอนานร่วมครึ่งชั่วโมง คงจดจำรูปแบบการโจมตีได้หมดแล้วใช่ไหม… ทุกคนทำได้แน่! ในวินาทีที่หล่อนปลดปล่อยท่าโจมตี ให้ใช้ทักษะป้องกันตัวที่ดีที่สุด! แล้วก็… จอมเวทกอช่า”

“หือ?”

“อย่าทำเท่เวลาต่อสู้”

กิลด์โอเวอร์เกียร์มีจอมเวทแรงค์หนึ่งอยู่สองคน เซ็ดนอสแห่งวายุและลาเอลล่าแห่งอัคคี พวกเขามักพูดถึงหัวใจสำคัญของจอมเวทบ่อยครั้ง

หนึ่งในนั้นคือ ‘อย่าทำเท่เวลาต่อสู้’

เวทมนตร์ทุกชนิด รีบร่ายให้ไวและรีบหนีให้ไกล อย่ายืนแอ็คท่าโดยมั่นใจในการปกป้องจากบาเรียคุ้มกาย การกระทำเช่นนี้ไม่ต่างจากคิดฆ่าตัวตายแต่อย่างใด

ในฐานะจอมเวท กอช่าย่อมทราบพื้นฐานข้อนี้ดี แต่ว่า…

“นายต้องการให้ฉันวิ่งหนีตายเหมือนหมาหอบแดดใช่ไหม เอ่อ… มันดูไม่ค่อยดีนักในสายตาคนทั่วโลก”

คลาสจอมเวทเป็นคลาสที่สง่างามและองอาจ พวกมันล้วนเปรียบตัวเองประหนึ่งบุปผางามท่ามกลางสนามรบ ยืนปักหลักร่ายเวทใหญ่ในจุดเดิมตลอดเวลาและคร่าชีวิตศัตรูนับร้อย นี่คือมายาคติของผู้เล่นจอมเวทส่วนใหญ่

แน่นอนว่าไม่มีใครต้องการวิ่งหนีตายอย่างอัปลักษณ์และเสื่อมเกียรติขณะทั่วโลกกำลังจับตามอง

แต่พวกมันมีทางเลือกอื่นด้วยหรือ?

“พวกนายอยากชนะรึเปล่า”

“ก็อยากได้เหรียญรางวัลอยู่หรอก…”

บรรดาจอมเวทต่างพึมพำ

กอช่าย่อมมีศักดิ์ศรีในฐานะจอมเวทปฐพีแรงค์หนึ่ง มันยอมรับว่าราชันสวรรค์ตนนี้คือบอสที่เก่งที่สุดนับตั้งแต่เคยเผชิญหน้าด้วย การทำเท่ในรอบแรกเกิดขึ้นเพราะติดประมาท

แต่ไม่ใช่กับรอบนี้แน่

“ฉันจะทำให้ดีที่สุด”

กอช่าลั่นวาจาพลางยื่นมือออกไปหาพีคซอร์ด พีคซอร์ดฉีกยิ้มพร้อมกับจับตอบ

“มาชนะไปด้วยกัน”

ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องเอาชนะในรอบที่สองให้ได้ เพราะในรอบที่สาม เหรียญทองแดงจะถูกนำออก นักกีฬาที่เข้าร่วมจะหมดกำลังใจและสูญเสียแรงกระตุ้น ส่งผลให้การเอาชนะบอสยิ่งเป็นไปได้ยากขึ้น

ทุกคนปรี่เข้าห้ำหั่นราชันสวรรค์อย่างเอาเป็นเอาตาย

***

ณ กลุ่ม D แห่งประตูทิศเหนือ พวกเขาต่างกำลังฮึกเหิมหลังจากค้นพบตัวจริงของราชันสวรรค์โคโบลด์

“ฉันจะไม่ถูกรูปลักษณ์ของนายตบตาอีกแล้ว!”

จิสึกะจ้องมองเป้าหมายด้วยแววตาสุขุมไม่สั่นคลอน นับเป็นภาพที่งดงามและเปล่งประกายยากจะหาใครเทียบ

เมื่อรวมเข้ากับเสน่ห์อันล้นเหลือของเรือนร่างสุดเซ็กซี่ จิสึกะเป็นราวกับผลแอปเปิลพิษต้องห้าม

แต่จะมีหนึ่งคนบนโลกที่ไม่ถูกพิษหากเผลอกัดเข้าไป

“ดาเมี่ยน อวยพรใส่ลูกธนูฉัน”

โคโบลด์—แวมไพร์เอิร์ลโนลล์ เขามีบางสิ่งคล้ายคลึงกับยูเฟอมิน่า นั่นคือความแข็งแกร่งระดับสัตว์ประหลาดหากเงื่อนไขและสภาพแวดล้อมเป็นใจ

โนลล์จะทรงพลังอย่างมากถ้าอยู่ในมหาสงครามที่มีพวกพ้องยืนเคียงข้าง อาจเป็นบุคคลที่สำคัญยิ่งกว่าเมอร์เซเดสหรือปิอาโร่ในศึกใหญ่

แต่สถานการณ์ปัจจุบัน โนลล์กำลังโดดเดี่ยวลำพัง แม้จะถึกทนและตายได้ยาก ทว่า จุดอ่อนสำคัญของโนลล์ยังคงอยู่

โนลล์ไม่สามารถโจมตีหมู่ได้ทรงพลังหากเทียบกับราชันสวรรค์ตนอื่น นี่คือขีดจำกัดของสายสนับสนุน

หรือในอีกความหมายหนึ่ง กลุ่ม D เป็นเพียงกลุ่มเดียวที่มีสิทธิ์เอาชนะในศึกยกแรกที่ผ่านมา

เพียงแต่พวกเขาขาดข้อมูล ไม่อย่างนั้น หากจิสึกะไม่เสียเวลาไปกับการฮีลหมู่ หากดาเมี่ยนไม่เสียเวลาไปกับการบัฟแรงเกอร์คนอื่น และมุ่งเน้นบัฟเพียงจิสึกะ แค็ทซ์ และเฮสเตอร์ การรับมือโนลล์ในรอบแรกอาจไม่ยากอย่างที่คิด

เพราะเหนือสิ่งอื่นใด นักกีฬาระดับท็อปของกลุ่ม D ล้วนเป็นคลาสที่เน้นหนักด้านล้มบอส

ในยกแรก ทุกคนเป็นกังวลกับทักษะโจมตีหมู่ของโนลล์มากเกินไป จึงเอาแต่ฟื้นฟูเพื่อยื้อชีวิตแข่งกับราชันสวรรค์ และนั่นเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด

แต่สิ่งเหล่านี้คือเรื่องปรกติของการล่าบอส หากเป็นบอสตนใหม่ รอบแรกมักยากที่สุดเสมอ เพราะเป็นรอบที่ต้องเก็บข้อมูลและศึกษารูปแบบการโจมตี โอกาสชนะจึงต่ำกว่ารอบที่ชำนาญแล้ว

ทุกกลุ่มล้วนทำผิดพลาดไม่ต่างกัน

กลุ่ม A ค้นพบวิธีการต่อสู้ในบึงโคลนช้าเกินไป ส่งผลให้ปิอาโร่จัดการสมาชิกไปแล้วกว่าครึ่ง

กลุ่ม B เข้าใจผิดมหันต์ว่าเมอร์เซเดสเป็นนักรบคลั่ง และรอโจมตีใส่ในจังหวะที่คิดเอาเองว่าเธอจะอ่อนแอ

ส่วนทางกลุ่ม C สมาชิกจำนวนมากต้องตายด้วยดาบเพลิงอันร้อนแรงของอัสโมเฟลตั้งแต่ต้นศึก

“เข้าใจแล้ว ฉันจะคอยบัฟให้เธอในการยิงทุกครั้ง”

ดาเมี่ยนผันบทบาทตัวเองจากกึ่งบัฟกึ่งฮีลมาเป็นสายบัฟเต็มตัว เขาเดินไปยืนหลังจิสึกะและปล่อยให้ผู้อื่นรับหน้าที่แทงค์แทน

บัฟของดาเมี่ยนถูกใส่ให้เฉพาะบุคคลสำคัญอย่างจิสึกะ แค็ทซ์ และเฮสเตอร์

โดยเฉพาะจิสึกะ บัฟโจมตี ‘ตามจำนวนครั้ง’ ของดาเมี่ยนมีประโยชน์กับเธอมหาศาล

ขณะทุกคนกำลังเตรียมตัวรอสัญญาณโจมตี จิสึกะลงมือโก่งคันศรไปด้านหลัง

ทันใดนั้น ศรห้าดอกพุ่งแหวกอากาศไปด้านหน้าด้วยความเร็วที่สายตามนุษย์จับไม่ทัน

“โนลล์ ฉันขอโทษ… การจะล้มนายให้ได้ ฉันต้องทุ่มด้วยพลังทั้งหมดเท่านั้น”

—!

ศรห้าทั้งดอกต่างเงียบเชียบไร้สุ้มเสียง ไม่มีผู้เล่นคนใดมองเห็นหรือสัมผัสถึงวิถีได้

แม้แต่ครอเกลที่ครอบครองพลังอ่านใจก็ยังต้องพึ่งพา ‘การมองเห็น’ และ ‘เสียง’ เพื่อระบุวิถีโจมตี

แต่ศรของจิสึกะปราศจากสองสิ่งนี้โดยสิ้นเชิง

ศรของเธอพุ่งปะทะใส่หน้าผาก แขนซ้าย แขนขวา ขาซ้าย ขาขวา

ทุกดอกเสียบปักร่างโนลล์แทบในเวลาไล่เลี่ย ศีรษะโนลล์พลันเอนไปด้านหลังพร้อมกับฝอยละอองโลหิตสีแดงฉานที่สาดกระเซ็น

“บุกโจมตี!”

คำสั่งของแม่ทัพจิสึกะดังกังวานทั่วสนามรบประตูทิศเหนือ ผู้เล่นกลุ่ม D พุ่งปรี่เข้าใส่โนลล์ด้วยขวัญกำลังใจฮึกเหิม

***

ในยกที่สอง สถานการณ์ต่อสู้แตกต่างจากยกแรกมาก การโจมตีจากผู้เล่นเริ่มเป็นภัยคุกคามต่อราชันสวรรค์มากขึ้น

ในทางกลับกัน ฝ่ายราชันสวรรค์ก็เริ่มโจมตีพลาดเป้าบ่อยครั้ง เนื่องจากแรงเกอร์อ่านวิถีออกและไหวตัวหลบล่วงหน้า

ทักษะโจมตีหมู่ที่เคยเป็นหายนะกับทุกกลุ่ม ยามนี้ไม่มีทางสร้างความเสียหายใหญ่หลวงได้อีก

“สมกับเป็นแรงเกอร์”

“ใช่แล้ว ฉันคงทำไม่ได้แน่”

ผู้ชมทั้งทางบ้านและในสนามต่างพากันทึ่งกับฉากที่เห็น

ฝ่ายแรงเกอร์ไม่ได้รุกหนักเพราะค่าสถานะของราชันสวรรค์ลดลง 30% เพียงอย่างเดียว แต่พวกเขาเริ่มกล้าเสี่ยงมากขึ้นหลังจากวิเคราะห์ศัตรูอย่างละเอียดทุกซอกมุม จุดอ่อนราชันสวรรค์ถูกนำมาเล่นงานจนอยู่หมัด

วิชาดาบอันว่องไวของวินที่ราวกับถูกเร่งสปีดให้เร็วขึ้นสองเท่า ยามนี้โดนขัดขวางและพันธนาการไว้ด้วยความร่วมมือจากสมาชิกกลุ่ม C ที่แข็งแกร่ง

โคโบลด์ที่เคยฟื้นฟูพลังชีวิตประหนึ่งบ่อน้ำพุอนันต์ ยามนี้เริ่มฮีลไม่ทันการกระหน่ำโจมตีจากจิสึกะที่ได้รับบัฟดาเมี่ยนตลอดเวลา

ค่าเรี่ยวแรงของเบนซ์ลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อพยายามไล่ต้อนกลุ่มจอมเวทที่เอาแต่วิ่งหนีตายเยี่ยงสุนัขจนตรอก

แม้สี่ราชันสวรรค์จะมีทักษะไพ่ตายอันทรงพลัง แต่ระยะหน่วงแสนนานและถูกผู้เล่นอ่านทะลุปรุโปร่งล่วงหน้า

กลุ่มผู้เล่นไม่ผลีผลามอีกต่อไป พวกเขาโจมตีในจังหวะเหมาะสม และตั้งรับในจังหวะสำคัญ

การโจมตีใส่ราชันสวรรค์สักสิบครั้งอาจเข้าเป้าเพียงครั้งเดียว แต่หากยื้อเวลาออกไป ความเสียหายสะสมก็มิอาจมองข้ามได้

โดยเฉพาะแกนนำของแต่ละกลุ่มที่มีพลังโจมตีระดับสัตว์ประหลาด ไม่ว่าจะเป็นคริส ครอเกล ซีบาล พีคซอร์ด จิสึกะ หรือเฮสเตอร์

ลงเอยด้วย…

[โคโบลด์แห่งประตูทิศเหนือถูกสังหาร!]

[กลุ่ม D ทำลายประตูทิศเหนือสำเร็จ!]

[MVP อันดับหนึ่งตกเป็นของจิสึกะจากบราซิล]

[MVP อันดับสองตกเป็นของดาเมี่ยนจากญี่ปุ่น]

[MVP อันดับสามตกเป็นของแค็ทซ์จากญี่ปุ่น]

ชัยชนะแรกของมวลมนุษย์เกิดขึ้นหลังจากยกที่สองผ่านไปได้ 37 นาที

“เฮ—!!”

ผู้ชมทางบ้านและรอบสนามต่างส่งเสียงเฮดังสนั่น

แรงเกอร์เหล่านี้ล้วนแสดงความสามารถได้ยอดเยี่ยม ไม่เพียงทราบรูปแบบการโจมตีจากบอส พวกเขายังมีฝีมือพอจะทำให้ทฤษฎีเป็นจริงได้

ผู้ชมบางคนมองข้ามช็อตไปถึงศึก 400 ต่อ 1 ระหว่างผู้เล่นและราชาอสูรเรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าราชาอสูรจะแข็งแกร่งสักเพียงใด แต่คงไม่มีทางเอาชนะความร่วมมือจากหัวกะทิระดับโลกสี่ร้อยคนไหวแน่

“ลุยเลย! จิสึกะ!”

“ครอเกล! ครอเกล! ครอเกล!”

“พีคซอร์ดเท่จัง!”

“ฉันอยากได้จักรกลเวทมนตร์บ้าง…”

ลืมเรื่องเชื้อชาติและเผ่าพันธุ์ไปได้เลย กองเชียร์ทั่วโลกต่างร่วมผนึกแรงใจเป็นหนึ่ง นี่ถือเป็นครั้งแรกอย่างแท้จริงนับตั้งแต่มีงานแข่งซาทิสฟายนานาชาติ

ราชาอสูรกำลังเป็นศัตรูของคนทั่วโลก

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬

ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน

ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,347

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

• Next
• Previous