จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 951

ผู้พิทักษ์ ‘เบนซ์’ กระโดดทะยานขึ้นกลางอากาศ ผืนดินในจุดที่เคยยืนพลันยุบลงเป็นหลุมตื้น

ปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติเช่นนี้เกิดจากน้ำหนักมหาศาลของชุดเกราะที่เธอสวม แต่ขณะเดียวกันก็บ่งบอกถึงค่าพละกำลังระดับสัตว์ประหลาดเช่นกัน

“มาแล้ว!”

นักกีฬากลุ่ม B ทุกคนต่างพากันชักอาวุธตามสัญชาตญาณ รอบกายพวกเขามีพายุทรายคอยหมุนล้อมปกป้องจากด้านนอก นี่คือการชดเชยบาปของกอช่าที่กระทำตัวน่าอับอายในตอนต้น

“ฉันจะหยุดหล่อนไว้เอง พวกนายฉวยโอกาสโจมตี!”

แรงเกอร์ชาวเยอรมัน เวลดอน เดินออกมาหน้าสุดเพื่อเตรียมรับแรงปะทะ มันกางโล่ใหญ่ตั้งฉากกับดาบยาวสีแดงสดที่พุ่งแทงเข้ามาหา

เกิดเสียงโลหะกระทบดังกังวาลไปทั่วสนามรบ เวนดอนใช้โล่ป้องกันไว้ได้แม่นยำ

สถานการณ์ควรจะจบลงด้วยดี เพราะชายคนนี้คือคลาสอัศวินผู้พิทักษ์แรงค์หกของโลก ยามใดที่เวลดอนมาพร้อมโล่ ยามนั้นเขาจะแกร่งดุจดังปราการเหล็กกล้า

แต่ปัญหาคือ การแทงบัดซบจาก ‘เบนซ์’ กลับทะลวงใส่เหล็กอย่างง่ายดายประหนึ่งเต้าหู้ถั่วเหลือง โล่ใหญ่ที่เวลดอนแสนภูมิใจต้องบิดงอในวินาทีที่ถูกคมดาบสัมผัส

‘รุนแรงขนาดนี้เชียว…!’

มันไม่ได้ตาฝาด ดาบยาวที่แทงใส่มีความทรงพลังเกินกว่าระดับมนุษย์ปรกติมาก กระดูกข้อมือเวลดอนข้างที่ถือโล่พลันแตกหักในพริบตาหลังจากการโจมตีเพียงหนแรก

“อดทนไว้!”

ฝ่ายผู้เล่นเริ่มอาศัยจำนวนที่มากกว่าเข้ารุมล้อม พวกเขาปลดปล่อยทักษะและการโจมตีนานาชนิด ทั้งหอก ดาบ เวทมนตร์ ธนู รวมถึงมีดสั้น แต่เกินกว่าครึ่งถูกปัดป้องด้วยโล่ของเบนซ์ในมือซ้าย ส่วนที่การโจมตีเหลือก็ถูกสลายทิ้งจากดาบแดงระยิบระยับที่ตวัดกวัดแกว่งจนเกิดเป็นเส้นแสงตกค้างอันงดงาม

ไม่เพียงเท่านั้น การโจมตีแต่ละครั้งของเบนซ์ยังสร้างผลึกแก้วสีแดงพวยพุ่งจากพื้นดินเป็นระยะ เอฟเฟคลักษณะนี้คล้ายคลึงกับเสาหินจากดาบที่ครอเกลใช้งาน

[ท่านได้รับความเสียหาย 4,390 หน่วย]

[ผลึกแก้วสีแดงส่งผลให้ร่างกายท่านฟื้นฟูได้ช้ากว่าปรกติ]

“เชี่ยไรเนี่ย…!”

ไม่ใช่ทักษะที่ป้องกันได้ง่ายเลยสักนิด สาเหตุเพราะไม่มีใครทราบว่าผลึกแก้วบัดซบจะพุ่งมาจากทิศทางใด ไม่เหมือนกับวิชาดาบที่มีวิถีชัดเจน

คงเป็นเวทมนตร์ระดับสูงหรือไม่ก็ทักษะที่ติดมากับไอเท็ม

ขณะผู้เล่นกำลังวิเคราะห์ เบนซ์กระโจนขึ้นไปบนอากาศอีกหนโดยมีเป้าหมายเป็นกอช่า เธอยืนยันแล้วว่าพลังโจมตีของตนลดลงเพราะผลจากพายุทรายที่หมุนวน

“อ…อึ๋ย!”

กอช่ากำลังร่ายมนตร์ใหญ่เพื่อสร้างพายุต่อเนื่อง มันย่อมป้องกันตัวเองไม่ได้

ขณะปลายดาบอันแหลมคมของสัตว์ประหลาดกำลังพุ่งเข้าหา ใครบางคนยื่นมือช่วยปกป้องกอช่าได้ทันท่วงที

โค้ก—อาวุธลับของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์และลูกศิษย์ของสิบวีชนผู้ก่อตั้ง

โค้กซัดขวานบินใส่เบนซ์เพื่อเบี่ยงทางดาบพร้อมกับชักหอกทิ่มแทง เบนซ์ได้รับบาดเจ็บเป็นหนแรก หอกในมือโค้กแทงใส่ช่องว่างระหว่างเกราะไหล่อย่างแม่นยำ ส่งผลให้เบนซ์ออกอาการสะดุ้งเล็กน้อย

แต่ก็มากพอสำหรับยื้อเวลาให้คนที่เหลือช่วยสนับสนุน

ดาบปริศนาฟันเฉือนเข้าที่ลำคอเบนซ์จนเกราะคอของหล่อนแหลกละเอียด เป็นพลังโจมตีอันน่าทึ่งจากพีคซอร์ด ยารุกต์จะเกรี้ยวกราดอย่างมากหากรวบรวมพลังด้วยฝักดาบยารุกต์

ลำคอของเบนซ์เกิดเป็นแผลลึกพร้อมกับโลหิตที่สาดกระเซ็น เลือดราชันสวรรค์มีสีแดนฉานเหมือนมนุษย์ปรกติ

พีคซอร์ดชำเลืองมองตัวเลขความเสียหายพลางส่ายศีรษะ

“เป็นพลังป้องกันที่บ้าบอสิ้นดี…”

แม้จะกล่าวด้วยเสียงเบา แต่สีหน้ากลับกำลังดำมืด เขามิอาจปกปิดความผิดหวังไว้ได้ ยารุกต์ที่ควรสร้างความเสียหายมหาศาลกลับมีผลลัพธ์ไม่น่าพึงพอใจ และการโจมตีนี้ต้องแลกมากับช่องว่างที่ตัวเองเผย

“หลบเร็ว!”

พีคซอร์ดฉากถอยตามสัญชาตญาณ แต่ไม่มีทางเลยที่เขาจะหลบการโจมตีจากสัตว์ประหลาดเบนซ์พ้น ดาบยาวแดงฟันเฉือนใส่หัวไหล่เข้าอย่างจัง

[ท่านได้รับความเสียหาย 15,900 หน่วย]

พีคซอร์ดคือหนึ่งในสิบวีรชนผู้ก่อตั้งอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ เขาย่อมสวมใส่ไอเท็มที่ดีที่สุดของโลก แต่ชุดเกราะที่กริดบรรจงสร้างกลับมิอาจปกป้องความเสียหายได้มากเท่าที่ควร

และที่แย่ไปกว่านั้น นี่คือตัวเลขที่บรรเทาลงจากผลของพายุทรายกอช่าแล้ว

เบนซ์เล็งดาบโจมตีซ้ำใส่พีคซอร์ดที่กำลังกระวนกระวาย

“แกคิดจะทำอะไร”

นักสร้างดันเจี้ยน—สวาปามจกบัลเผ็ด

คลาสของเขาทรงพลังและน่ากลัวไม่ต่างจากคลาสเกรดเลเจนดารี จกบัลพยายามดึงความสนใจจากเบนซ์เพื่อให้พีคซอร์ดปลอดภัย

“…”

ความฮึกเหิมและการรุกหนักจากราชันสวรรค์เริ่มบรรเทาลงหลายส่วน

โค้ก พีคซอร์ด และสวาปามจกบัลเผ็ด—สามแรงเกอร์ตัวแทนทีมชาติเกาหลีใต้—พวกเขากำลังเป็นหัวหอกสำคัญของนักกีฬาทีม B ทั้งหนึ่งร้อยคน

ด้วยเหตุผลบางประการ กอช่าและนักกีฬาที่เหลือต่างรู้สึกเชื่อมั่นและเชื่อใจสามคนนี้โดยไร้ข้อโต้แย้ง พวกเขาจะฟังคำสั่งที่พีคซอร์ดบัญชาการ คอยสนับสนุนโค้กในยามที่เขาผันตัวเป็นแนวหน้า และคอยปกป้องสวาปามจกบัลเผ็ดในยามที่ชายคนนี้สร้างดันเจี้ยนเพื่อเปลี่ยนสมรภูมิรบให้ได้เปรียบ

เลือดลมของกองเชียร์ชาวเกาหลีใต้กำลังสูบฉีดเต้นแรง

แรงเกอร์เกาหลีใต้ที่เคยถูกดูแคลนตลอดหลายปีที่ผ่านมา ยามนี้กำลังรวมใจนำทัพแรงเกอร์จากต่างประเทศกว่าร้อยคน

เป็นความรู้สึกแปลกใหม่อย่างแท้จริง ทั้งภาคภูมิและตื้นตันใจ หลายคนต้องการไปยืนในจุดเดียวคนเหล่านี้… ศึกตะลุมบอนราชาอสูรได้จุดประกายให้ผู้เล่นซาทิสฟายชาวเกาหลีจำนวนมากต้องการเข้ากิลด์โอเวอร์เกียร์และรับใช้กริด

***

ผู้พิทักษ์ประตูทิศใต้มีรูปลักษณ์และบรรยากาศแสนธรรมดา มันสวมเกาะโซ่ที่ไม่ได้หรูหราอลังการ ในมือขวาถือดาบยาวรูปทรงทั่วไป มือซ้ายเปลือยเปล่าปราศจากโล่หรืออาวุธรองที่น่าเกรงขาม

ชื่อเหนือศีรษะก็จืดชืดไม่แพ้กัน ราชันสวรรค์ผู้นี้มีนามสั้นห้วนว่า ‘วิน’ ไม่มีองค์ประกอบใดที่คู่ควรกับการเป็นบริวารราชาอสูรเลยสักนิด

“นั่นสินะ คนเฝ้าประตูไม่จำเป็นต้องเก่งสักหน่อย”

ใช่แล้ว รอบสี่ราชันสวรรค์เป็นเพียง ‘พิธีรีตอง’ อย่างหนึ่งเพื่อปลุกเร้ากระตุ้นอารมณ์คนดู มีไว้ให้ผู้เล่นซ้อมมือและอุ่นเครื่องก่อนเผชิญหน้าราชาอสูรที่แท้จริง

นอกเสียจาก SA กรุปจะเป็นไอ้งั่งที่ต้องการทำลายความสนุกของการแข่งตะลุมบอนราชาอสูร พวกมันไม่มีทางสร้างสี่ราชันสวรรค์ให้แข็งแกร่งจนผู้เล่นมิอาจเอื้อมถึง

จะไปสนุกอะไรถ้านักกีฬาเข้าไม่ถึงตัวราชาอสูรในตอนสุดท้าย

ข้อสรุปของทุกคนจึงออกมาเป็น สี่ราชันสวรรค์ย่อมไม่แข็งแกร่งเท่าราชาอสูร ส่งผลให้นักกีฬาทีม C มองว่ารอบนี้ไม่จำเป็นต้องเอาจริงมากนัก พวกมันเตรียมโค่นศัตรูด้วยท่าทีแสนผ่อนคลาย

ไม่ใช่แค่เพราะศัตรูอ่อนแอ แต่พวกมันยังหยิ่งผยองว่าตนเป็นแรงเกอร์ระดับท็อป

ซีบาลเจ้าของเหรียญทอง PVP คนล่าสุด จางเจี๋ยนและเหลียวเหว่ย สองดาวรุ่งพุ่งแรงจากจีน บูบัตจากตุรกี ซิวรอนจากอาร์เจนติน่า และแรงเกอร์ระดับท็อปอีกมากมาย

แรงเกอร์ระดับรองลงมาต่างนึกเสียดายเล็กน้อย พวกมันคำนวณว่าตนคงไม่มีทางทำอันดับได้ดีตราบที่ซีบาลและซิวรอนอยู่ในทีม

แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีข้อดี เพราะตนแทบไม่ต้องออกแรงมากในการสู้กับราชันสวรรค์ ไว้ค่อยเอาจริงในรอบราชาอสูรเลยทีเดียว

ท่ามกลางบรรยากาศผ่อนคลาย ใครบางคนกล่าวขึ้น

“ศัตรูใช้ดาบมือเดียวโดยไม่ถือโล่ สิ่งนี้หมายความว่า วิชาดาบของเขาต้องทรงพลังและรวดเร็วมาก อย่าประมาทสปีดเด็ดขาด”

เป็นถ้อยคำจากเหมยเซียวของทีมจีน

สตรีผู้นี้แสดงฝีมือได้ยอดเยี่ยมในการแข่งโค่นวีรบุรุษ ถึงจะพ่ายแพ้ แต่แส้โลหะและริ้วผ้าประหลาดของเธอได้ตรึงกริดตัวปลอมไว้นานกว่าห้านาที

คำพูดของเหมยเซียวส่งผลให้บรรยากาศตึงเครียดลงเล็กน้อย เหลียวเหว่ยหันไปตำหนิเหมยเซียว

“ประเมินศัตรูไว้สูงอีกแล้วหรือ เธอคิดจะคุกเข่าให้มันและยอมแพ้เหมือนกับพี่ชายด้วยรึเปล่า”

จางเจี๋ยนเสริมทันที

“ทุกคนย่อมทราบเรื่องพื้นฐานเช่นนี้อยู่แล้ว พวกเขาคือท็อปแรงเกอร์ เธอไม่จำเป็นต้องอวดเก่งก็ได้”

บรรยากาศเริ่มดำเนินไปอย่างผิดแผก น่าประหลาดมาก รอบล้มราชันสวรรค์มีเหรียญรางวัลให้จับจองมากถึงสาม แต่นักกีฬาจากประเทศเดียวกันที่ควรสมานสามัคคี พวกมันกำลังขัดแย้งและมีปากเสียง…

“ขยะ”

ซีบาลเหยียดหยัน

จางเจี๋ยนและเหลียวเหว่ยมิได้ตอบโต้ ถึงพวกมันจะหงุดหงิด แต่ซีบาลเป็นคนละระดับโดยสิ้นเชิง มันคืออดีตแรงค์สองของโลกมายาวนาน แถมยังเพิ่งคว้าเหรียญทองในการแข่ง PVP เมื่อครู่ คงโอหังเกินไปหากจะปีนเกลียวเถียงซีบาลต่อหน้าคนทั้งโลก

แสร้งไม่ได้ยินคือทางออกที่ดีที่สุด

ซีบาลหันไปกล่าวกับเหมยเซียว

“สัตว์ประหลาดตัวนี้สวมเกราะโซ่เหมือนอัศวิน แต่กลับสวมรองเท้าหนังบาง คงมีสปีดสูงมากดังเธอว่า กุญแจสำคัญของชัยชนะคือการตรึงความเคลื่อนไหวอีกฝ่ายให้นานที่สุด เธอทำได้รึเปล่า”

แส้โลหะและริ้วผ้ายาวของเหมยเซียวช่วยตรึงวีรบุรุษกริดได้นานกว่าห้านาที สองอาวุธชนิดนี้มิได้เคลื่อนไหวด้วยตัวเองเหมือนหัตถ์เทวะ เหมยเซียวต้องมีประสาทมือที่ดีมากทั้งสองข้าง จึงจะควบคุมพวกมันได้เชื่องมือและอ่อนช้อยราวกับมีชีวิต

ซีบาลฝากความหวังในการตึงศัตรูไว้กับเหมยเซียว เธอพลันซาบซึ้ง

เหมยเซียวตอบกลับด้วยสีหน้ามุ่งมั่น

“ค่ะ! ฉันจะพยายามอย่างเต็มที่!”

“ฝากด้วยนะ”

‘ชิ!’

จางเจี๋ยนและเหลียวเหว่ยต่างหัวเสียกับสิ่งที่เกิดขึ้น

ต่อหน้าชาวจีนทั่วโลก เหมยเซียวถูกยอมรับโดยบุคคลที่ยิ่งใหญ่ซึ่งจะกลายเป็นวีรบุรุษของปีถัดไป จางเจี๋ยนและเหลียวเหว่ยทวีความเดือดดาลเมื่อชื่อเสียงของตนกำลังถูกเหมยเซียวพรากไปทีละนิด

ขณะพวกมันกำลังเดือดดาล ใครบางคนเดินเข้ามาใกล้จากด้านหลัง

“พวกนายเอาแต่ยืนบ่นและไม่ลงมือทำประโยชน์ คิดจะรับบทเป็นตัวประกอบรึไง”

“ใครเป็นตัวประกอบ? ไอ้…!”

ใครมันริอ่านด่าพวกตนเช่นนี้?

จางเจี๋ยนและเหลียวเหว่ยต่างหันไปมองยังต้นเสียง แล้วมันก็ต้องสงบปากสงบคำโดยพลัน เพราะคนที่เย้ยหยันไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็น ‘ซิวรอน’ นักล่าวิญญาณผู้โด่งดัง

ซิวรอนตอกลิ่มสุดท้ายปิดฝาโลง

“นายรู้รึเปล่าว่าคนเปิดฉากโจมตีจะได้รับคำชมอย่างล้นหลาม อันที่จริงฉันต้องการรับหน้าที่นั้น แต่เพราะรู้สึกสมเพช จึงยอมสละให้พวกนายทำแทน ว่ายังไง สนใจจะรับหน้าที่โจมตีเปิดฉากรึเปล่า”

“…”

สองดาวรุ่งชาวจีนต่างหันไปมองราชันสวรรค์ที่กำลังยืนเฝ้าประตูบานใหญ่

ท่าทีของมันช่างโอหังนัก แม้กำลังเผชิญหน้าศัตรูนับร้อย แต่กลับยืนใช้สองมือกอดอกด้วยสีหน้าเรียบเฉยประหนึ่งไม่รู้สึกรู้สาถึงภัยอันตราย

ซิวรอนส่งเสียงกระซิบกระซาบอย่างแหบพร่า

“ผู้ชมกำลังหมั่นไส้ท่าทีอวดดีของราชันสวรรค์ หากใครเปิดฉากซัดหน้ามันก่อน รับรองได้เลยว่าชื่อเสียงไม่ไปไหนแน่”

“…”

“หืม? ไม่สนหรอกหรือ งั้นฉันจัดการเอง…”

“เดี๋ยว!”

ขณะซิวรอนก้าวข้าไปด้านหน้า จางเจี๋ยนและเหลียวเหว่ยพลันชักอาวุธพลางตะโกนกึกก้อง

“เป็นหน้าที่พวกเราเอง!”

โดยไม่รอคำตอบ สองบุรุษจากจีนแผ่นดินใหญ่พุ่งปรี่เข้าหา ‘วิน’ อย่างไม่กลัวเกรง จางเจี๋ยนใช้หอกยาว ส่วนเหลียวเหว่ยใช้เคียวยาว ระยะสังหารของอาวุธพวกมันจัดว่าค่อนข้างไกล

วินกำลังยืนกอดอกด้วยสีหน้าเรียบเฉย ทันทีที่ทั้งสองย่างกรายเข้าใกล้ ศึกใหญ่ของประตูทิศใต้ก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ

แต่ภายในเสี้ยววินาที จางเจี๋ยนและเหลียวเหว่ยต่างตระหนักถึงความผิดพลาดและโง่เขลาของตัวเอง

เทคนิคชักดาบฟันของวินมีความเร็วชนิดที่พีคซอร์ดเทียบไม่ติด ไม่ถึงหนึ่งวินาที จางเจี๋ยนกับเหลียวเหว่ยได้ถูกวินชักดาบฟันใส่หัวใจและลำคออย่างพร้อมเพรียงโดยไม่มีใครมองตามวิถีทัน

“แค่ก…!”

“วิ้ว~ เก่งกว่าที่คิดไว้แฮะ”

ซิวรอนผิวปากชอบใจ

เมื่อสองรุคกี้ชาวจีนได้ยิน มันก็ทราบทันทีว่าตัวเองเป็นเหยื่อที่ถูกหลอกใช้

จางเจี๋ยนและเหลียวเหว่ยรีบไหวตัว พวกมันเตรียมถอยหนีด้วยความเร็วสูงสุด แต่นายเสียดายที่เร็วไม่พอ ดาบในมือวินซึ่งอาบด้วยเปลวเพลิงสีฟ้าครามตวัดฟันซ้ำใส่จุดตายพวกมันอย่างอำมหิต

เปลวเพลิงบนใบดาบส่งผลร้ายแรงกว่าที่คิด ทั้งก่ออาการบาดเจ็บภายในและเผาผลาญสร้างความเสียหายต่อเนื่อง

จางเจี๋ยนและเหลียวเหว่ยต่างเสียชีวิตอย่างน่าสมเพช ซิวรอนกำลังยืนกอดอกเฝ้ามองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยรอยยิ้มสุดชั่วร้าย

“ได้ดวงวิญญาณมาใช้สักที”

***

“ให้ตายสิ สัตว์ประหลาดตัวนี้มันอะไรกัน!”

“ทั้งที่ไม่ใช่นักบวช แต่ทำไมถึงมีเวทฮีลได้…”

นักกีฬากลุ่ม D ได้รับมอบหมายให้บุกถล่มประตูทิศเหนือ เฉกเช่นกลุ่มอื่น พวกเขามั่นใจเสียเต็มประดา สาเหตุเพราะมีสุดยอดบุคคลของโลกรวมตัวกันมากมาย ทั้งจิสึกะ ดาเมี่ยน แค็ทซ์ และเฮสเตอร์

จิสึกะครอบครองพลังโจมตีมหาศาล เธอสร้างความเสียหายได้จากระยะไกล แถมยังมีทักษะฮีลหมู่วงกว้าง นับเป็นสุดยอดผู้เล่นที่เกิดมาเพื่อล่าบอสโดยแท้จริง

สันตะปาปาดาเมี่ยนมาพร้อมกับพลังแห่งบัฟและเวทฮีล ตัวเขาที่มีพื้นฐานเป็นพาลาดินยังช่วยรับหน้าที่เป็นแทงค์แนวหน้า

แค็ทซ์สามารถใช้เลือดสร้างดีบัฟใส่ศัตรู แถมยังมีทักษะติดตัวช่วยในการดูดเลือดตลอดเวลา เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ล้มลงได้ยาก

เฮสเตอร์ ถึงฝีมือในซาทิสฟายจะยังไม่แน่ชัด แต่เฮสเตอร์คือจักรพรรดิเกมยิงที่ไม่เคยพลาดการคว้าแชมป์ทุกรายการที่ลงแข่ง

ด้วยกองทัพฝ่ายประตูทิศเหนือ บางทีพวกเขาอาจแข็งแกร่งยิ่งกว่ากลุ่ม A ที่ประกอบด้วยครอเกล คริส ป็อน และเรกัสเสียอีก

ยิ่งไปกว่านั้น ชื่อเหนือศีรษะของบอสทิศเหนือยังน่าขบขัน ราชันสวรรค์ตนนี้มีนามว่า ‘โคโบลด์’ ซึ่งพ้องกับชื่อเผ่าพันธุ์มอนสเตอร์สุดกระจอกของซาทิสฟายร่วมกับออร์ค โนลล์ และกอบลิน

นักกีฬากลุ่ม D ต่างมองเป็นโคโบลด์เป็นของตาย

แต่พอเอาเข้าจริง มโนภาพที่วาดฝันไว้กลับต้องพังครืน

โคโบลด์ผู้สวมหน้ากากคือสัตว์ประหลาดสุดแกร่งเหนือจินตนาการ ตรงข้ามกับนามแสนอ่อนแอ โคโบลด์กราดถล่มกลุ่ม D ด้วยเวทโจมตีหมู่ที่ทรงพลังและกระจายเป็นวงกว้าง ไม่เพียงเท่านั้น หมอนี่ยังถึกบัดซบ แม้จะได้รับบัฟจากดาเมี่ยน แต่จิสึกะก็มิอาจสร้างความเสียหายเป็นตัวเลขที่น่าพึงพอใจ

โคโบลด์สามารถฟื้นฟูตัวเองได้รวดเร็วกว่าอาการบาดเจ็บที่ได้รับ ไม่ว่ากลุ่ม D จะโหมบุกมากเพียงใด แต่โคโบลด์ก็จะฟื้นฟูกลับมาประหนึ่งไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น

ในสายตาแค็ทซ์ มอนสเตอร์บัดซบตัวนี้ไม่ต่างจากซอมบี้

“มาเจอกันสักตั้ง…”

การต่อสู้ผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว?

ความคลุ้มคลั่งของแค็ทซ์ที่ถูกผนึกมานานนับตั้งแต่เข้ากิลด์โอเวอร์เกียร์ ยามนี้เริ่มคลายออกและกลับคืนสู่ตัวตนที่แท้จริง

“นภาสีเลือด”

ทะเลโลหิตที่นักกีฬากลุ่ม D หลั่งลงพื้นจนเจิ่งนอง ยามนี้เริ่มจับตัวกันเป็นก้อนและล่องลอยขึ้นฟากฟ้าประหนึ่งฝนที่ตกย้อนกลับ

***

“พวกนายแน่มาก…”

คริสทำได้เพียงอมยิ้ม

ในสถานการณ์ที่ทุกประเทศชั้นนำล้วนเลือก ‘จับกลุ่มสามคน’ แต่ทีมสหรัฐทั้งสามกลับ ‘แยก’ ตัวไปลงคนละประตู

สิ่งนี้หมายความว่า ทั้งสามโอหังและทระนงตนว่าจะคว้าได้คนละหนึ่งเหรียญทองให้แก่ทีมสหรัฐ ขณะที่ทีมอื่นหวังใช้ความสามัคคีร่วมมือกันทำให้ชาติของตัวเองได้รับเพียงหนึ่งเหรียญทอง

“กริดคงทำแบบเดียวกันฉัน”

ครอเกลหันไปตอบ

คริสยักไหล่

“นั่นสินะ… โชคดีที่เขาไม่อยู่”

หากกริดอยู่ที่นี่ด้วย นักกีฬาทุกคนคงทำได้เพียงภาวนาให้กริดใช้ทักษะล้มเหลว หากไม่แล้ว ราชาโอเวอร์เกียร์อาจผูกขาดเหรียญทองจากทั้งสี่ประตูไว้เพียงผู้เดียว

“มาทำให้เต็มที่กันเถอะ”

คริสกล่าวพลางยื่นแขนออกไปหาครอเกลโดยมีสายตานักกีฬาที่เหลือจ้องมอง

ครอเกลทระนงและถือตัวขนาดไหน?

ชายคนนี้ไม่เคยแยแสคำขอลายเซ็นจากนักกีฬาหลายร้อยคน ไม่ต้องพูดถึงเรื่องจับมือ นั่นเป็นไปไม่ได้แน่ ทุกคนล้วนคิดเช่นนี้

แต่ครอเกลกลับจับมือคริสตอบอย่างเหนือความคาดหมาย

คริสคือสหายคนสำคัญของกริด และยังเป็นบุคคลที่มีจิตใจน่ายกย่อง ครอเกลชื่นชมและยอมรับในพรสวรรค์ของคริส

“อื้อ… แต่พวกเราคงตึงมือกว่ากลุ่มอื่น ประตูทิศนี้ผ่านได้ยากที่สุด ห้ามประมาทเด็ดขาด”

“ผ่านได้ยากที่สุด?”

สี่ราชันสวรรค์มิได้แข็งแกร่งเท่าเทียมกันหรอกหรือ?

และต่อให้เป็นจริง ครอเกลทราบได้อย่างไรทั้งที่ยังไม่ได้เริ่มเปิดศึก…

ขณะสับสน คริสชำเลืองมองผู้พิทักษ์ประตูพลางขมวดคิ้ว

ศัตรูในคราวนี้มิได้แผ่บรรยากาศคุกคามสักเท่าไร มันแต่งกายตามสบายและสวมหมวกปิดบังใบหน้า เป็นหมวกที่ชายชรานิยมสวม

“…ผ่านได้ยากที่สุด นายแน่ใจใช่ไหม”

“ถึงไม่อยากยอมรับ… แต่น่าเสียดายที่เป็นเรื่องจริง”

ครอเกลมั่นใจหลังจากสำรวจภูมิประเทศโดยรอบ สถานที่แห่งนี้มีลักษณะเป็นบ่อโคลนชายเลน เหมาะแก่การทำฟาร์มและล่าสัตว์น้ำเป็นพิเศษ

***

ณ ปราสาทราชาอสูรที่อยู่หลังประตูบานใหญ่ กริดยังคงไม่ถูกกล้องจับภาพการกระทำและเผยแพร่ออกไปทั่วโลก

ชายหนุ่มก้มหน้าก้มตาตีเหล็กด้วยบรรยากาศมุ่งมั่น โลหะประหลาดสีทองกำลังถูกถลุงและเดือดปุดภายในเตาหลอมร้อนระอุ

ชายหนุ่มอยู่ในขั้นตอนถลุงดาบเกรดมิธ—ใบดาบท้าทายเทพ

ในเมื่อเซิร์ฟเวอร์การแข่งแยกเป็นอิสระจากเซิร์ฟเวอร์หลัก เขาจึงไม่ลังเลที่จะทำลายไอเท็มล้ำค่าทิ้งคามือ

“เท่านี้คงพอ”

หลังจากถลุงพาเฟรเนี่ยมเรียบร้อย ชายหนุ่มใช้งานทักษะออกแบบไอเท็มทันที

[ท่านต้องการออกแบบไอเท็มชนิดใด]

“ปืนใหญ่”

หลักการสำคัญในการ ‘ปกป้องที่มั่น’ คือขีปนาวุธทำลายล้างเป็นวงกว้าง

จะเกิดอะไรขึ้นหากมีปืนใหญ่ออโตเมติกคอยกระหน่ำยิงอย่างต่อเนื่องไม่หยุดพัก?

ทุกครั้งที่ระยะหน่วงมาถึง เขาจะพึ่งพา ‘เวทตั้งเวลา’ เพื่อลงมือกระทำบางสิ่ง กริดกำลังแสยะยิ้มอย่างชั่วร้ายสุดขีด ชนิดที่รอยยิ้มแสนชั่วช้าของซิวรอนในเหตุการณ์ก่อนหน้าเทียบไม่ติด

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬

ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน

ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,344

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

• Next
• Previous