จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 945

[คริติคอล!!]

[เป้าหมายได้รับความเสียหาย 44,099 หน่วย]

[เป้าหมายถูกโจมตีอย่างรุนแรงจนมิอาจคืนสภาพได้ชั่วขณะ]

[ค่าสถานะทั้งหมดของเป้าหมายลดลง 20% ความเร็วทุกชนิดลดลง 50%]

[เป้าหมายต้านทาน]

[ท่านหั่นเป้าหมายไม่สำเร็จ]

[เป้าหมายเผยจุดอ่อน หากท่านโจมตีซ้ำภายใน 30 วินาที ท่านจะสร้างความเสียหายแบบคริติคอลอย่างไรเงื่อนไข ความรุนแรงคริติคอลเพิ่มขึ้นเป็น 1.5 เท่า]

[...!]

[!!!!!!!!!!!!!!]

[ดาบของท่านผ่าโลกออกเป็นสองซีก]

“…!!”

วีรบุรุษกริดทรุดคุกเข่าลงกับพื้นทันที โลหิตสาดกระเซ็นเป็นละอองฝอยพวยพุ่งจากแผ่นอก หางสีแดงด้านหลังตวัดดูดกลืนเลือดของมันจนสะอาดเกลี้ยงเกลาราวกับหิวกระหายเสียเต็มประดา

ดาบผ่ามิติจะมองข้ามพลังป้องกันบางส่วน สร้างความเสียหายพิเศษแปรผันตามพลังชีวิตเป้าหมาย โจมตีเป็นคริติคอลอย่างไร้เงื่อนไข แถมยังมีโอกาสสูงที่จะ ‘หั่น’ อวัยวะของเป้าหมายออกจากร่าง

ดาบผ่ามิติอันลือชื่อได้ลดพลังชีวิตของวีรบุรุษกริดไปห้าในสิบส่วน แม้วีรบุรุษจะสร้างเกราะคุ้มกายพร้อมกับ ‘เลือดเทียม’ จากผลของสมญานามกษัตริย์คนแรก แต่ก็ถือเป็นความเสียหายใหญ่หลวงอยู่ดี

ขณะเทพกำลังเยียวยาโลกที่ขาดเป็นสองซีกให้กลับเข้าหากัน ครอเกลรีบซดโพชันพลังชีวิตรสขมพลางใช้ก้าวย่างแสงขาว

ปัจจุบัน หมอกม่วงแดงรอบตัววีรบุรุษกริดกำลังเข้มข้นได้ที่ ครอเกลหวังปิดฉากการต่อสู้โดยเร็ว

การดวลอันดุเดือดเริ่มต้นอีกระลอก วีรบุรุษกริดใช้งานด้ายเงินควบคู่กับพลังหางแดงรุกหนักใส่ครอเกลราวกับแมงมุมพันธนาการเหยื่อแล้วเชือดทิ้งด้วยเขี้ยว

ทว่า เหยื่อในคราวนี้ไม่ถูกจับ ครอเกลโยกตัวหลบด้ายเงินพร้อมกับใช้ดาบตวัดใส่หางแดงในจังหวะเดียวกัน จากนั้นก็สานต่อด้วยการสวนกลับ

วีรบุรุษกริดขบกรามแน่นอย่างเจ็บแค้น การรำดาบตอบโต้อีกฝ่ายช่างเป็นเรื่องยากเหลือเกิน

ทันใดนั้น ครอเกลอัญเชิญดาบจากช่องสัมภาระพร้อมบงการให้เสียบปักบนพื้นคอยขัดขวางในจุดที่กริดตัวปลอมต้องรำดาบ

วีรบุรุษกริดตัดสินใจเปลี่ยนอาวุธเป็นดาบใหญ่กริด

ไม่เพียงพลังเครย์ วีรบุรุษกริดยังหยิบยืมพลังเยติม่าช่วยสนับสนุน พลังของเยติม่ามีชื่อว่า ‘ดาบแห่งแวมไพร์ทายาท’ ซึ่งสามารถใช้งานขณะสวมใส่ดาบใหญ่เท่านั้น

รัศมีดาบเส้นใหญ่พุ่งลงจากเบื้องบนประหนึ่งสายฟ้าฟาดผ่า บรรยากาศพลันสั่นสะเทือนรุนแรง แม้แต่ครอเกลที่ว่องไวก็ยังมิอาจหลบหลีกการโจมตีที่คาดไม่ถึงพ้น ความพลิ้วไหวของอริยดาบพลันถูกสะกด

“อั่ก…!”

แม้จะไม่โดนจุดตาย แต่รัศมีดาบแวมไพร์ทายาทก็ยังเฉือนเข้าที่หัวไหล่

ครอเกลสูญพลังชีวิตมากถึงหนึ่งในหก

เป็นการโจมตีที่ประมาทไม่ได้เลยสักนิด เมื่อคำนึงว่าอริยดาบมีทักษะติดตัวที่ช่วยดูดซับความเสียหายจากอาวุธประเภทดาบ แถมครอเกลยังมีทักษะติดตัว ‘หนังเหนียว’ ซึ่งได้รับมาหลังเลเวล 300

การดวลยังคงดำเนินต่อไป เมื่อทักษะดาบของแวมไพร์ทายาทเข้าสู่ระยะหน่วง วีรบุรุษกริดสลับกลับไปใช้งานดาบอัสนีฯ อีกครั้ง มันรัวฟันใส่ครอเกลโดยไม่เปิดโอกาสให้พักหายใจ ขณะเดียวกันก็เปิดใช้งานพลังเครย์เป็นระยะ

ส่วนครอเกลก็หลบหลีก สวนกลับ และดื่มโพชั่นเป็นระยะเช่นกัน

ยิ่งเวลาล่วงผ่าน ครอเกลก็ยิ่งหลบหลีกเพลิงทมิฬได้บ่อยครั้งราวกับอ่านออก แน่นอนว่าเป็นเช่นนั้น ธรรมชาติของอริยดาบช่วยอำนวยให้ครอเกลสื่อสารกับดาบอัสนีฯ รู้เรื่อง

ครอเกลทราบว่ามันจะอุบัติเพลิงทมิฬขึ้นมาในคราใด

“พลังบีเลียล·ราชินีแห่งการตบตาและบิดเบือน”

เมื่อพลังชีวิตลดต่ำลงกว่า 40% วีรบุรุษกริดได้ใช้งานหนึ่งในพลังเอาตัวรอดอันยอดเยี่ยม ร่างของมันเริ่มแยกออกเป็นสอง

『อ…อะไรกันครับ! 』

『ก…กริดอัญเชิญร่างแยก!! 』

『อาจเป็นแค่ภาพลวงตาครับ… ต…แต่ว่า』

ทักษะจำพวกภาพลวงตาส่วนใหญ่เป็นของสงวนสำหรับนักลอบสังหาร จึงค่อนข้างเหนือความคาดหมายที่ ‘ช่างตีเหล็กกริด’ ผู้ใช้พลังนักดาบและจอมเวทได้ ความจริงแล้วยังมีพลังของนักลอบสังหารซ่อนอยู่

อาการตกตะลึงจากผู้บรรยายและผู้ชมล้วนเป็นของจริง คนดูในสนามบางส่วนถึงกับแข็งทื่อเป็นรูปปั้นหิน พวกเขาเหม่อลอยจนน้ำในขวดที่กำลังถือไหลเปรอะเปื้อนคนด้านหน้า

แต่ครอเกลยังคงสุขุมอย่างน่าทึ่ง พลังอ่านใจของเขาอยู่ในระดับสูงจนสามารถระบุตัวจริงตัวปลอมได้ไม่ยาก

คงเป็นการโกหกหากจะบอกว่าครอเกลไม่กังวลกับร่างโคลนแม้แต่น้อย ถึงอย่างนั้น ฟ้าเหนือฟ้าผู้เฝ้ามองมนุษย์จากด้านบนมาตลอดย่อมไม่ถูกสั่นคลอนโดยสิ่งเล็กน้อยเช่นนี้

“เพื่อเป็นการแสดงความชื่นชมจากก้นบึ้งหัวใจ…”

ปราณสีเงินปริศนาเริ่มถูกรวบรวมไว้รอบกายครอเกล นี่คือเอฟเฟคเมื่อบัฟของอริยดาบพัฒนาไปถึงขั้นที่สาม

ปัจจุบัน ร่างกายทุกส่วนของครอเกลกำลังแหลมคมดุจดั่งใบดาบ เขาพุ่งตัวตัดผ่านร่างแยกเข้าหาร่างหลักโดยไม่แยแส

ขณะเดียวกัน วีรบุรุษกริดเริ่มรำดาบด้วยท่า ‘คลื่นทำลายล้างร่ายรำสังหาร’

ทักษะนี้จะเริ่มด้วยท่าแทงรัวสุดทรงพลัง รัศมีดาบพุ่งแทงแหวกอากาศด้วยจิตสังหารเสียดฟ้า หากปะทะกับสิ่งใดเข้า เกรงว่าสิ่งนั้นอาจถูกลบออกจากโลกโดยสมบูรณ์

“หลังจากบรรลุ ฉันก็กลายเป็นหนึ่งเดียวกับมัน…”

ร่างกายครอเกลแข็งแกร่งและแหลมคมหลังจากใช้ทักษะ ‘ดาบประทับร่าง’ เพื่อหลอมรวมเป็นหนึ่งกับดาบเสือขาวในมือ

ท่าแทงจากวีรบุรุษกริดมิอาจสร้างรอยขีดข่วนแก่คมดาบที่ชื่อครอเกลได้ สิ่งเดียวที่เขาสูญเสียคือค่าความคงทนของดาบเสือขาว

“คลื่นทำลายล้างร่ายรำสังหาร!”

กริดตัวปลอมได้รับความช่วยเหลือจากบัญชาแห่งเทพ มันปลดปล่อยทักษะเดิมสองครั้งซ้อนในระยะประชิด ดาบเสือขาวในมือครอเกลเริ่มเกิดร้อยร้าวขนาดใหญ่ แต่อริยดาบยังคงเยือกเย็นและรอคอยจังหวะที่เหมาะสม

“ฉันคือดาบ ดาบคือฉัน ไม่มีสิ่งใดที่ฉันตัดไม่ขาด”

ครอเกลท่องบทสุดท้ายของ ‘กลอนเทิดทูนดาบ’ เสร็จสิ้น นี่คือบัฟที่จะช่วยให้ผู้ใช้ดาบสร้างความเสียหายรุนแรงตั้งแต่ 5 ถึง 11 เท่าในการโจมตีครั้งถัดไป

“พายุดาบที่แท้จริง!”

พายุดาบสีเงินอมเขียวพลันก่อตัวโอบล้อมรอบวีรบุรุษกริด แน่นอนว่ามันสวนกลับด้วยวังวน แต่พายุดาบที่แท้จริงคือทักษะโจมตี ‘หลายจังหวะ’ สิ่งที่มันสะท้อนได้จึงมีเพียงจังหวะแรก

พายุดาบที่เหลือยังคงกลืนกินร่างกายกริดตัวปลอมอย่างโหดเหี้ยม แม้หัตถ์เทวะพยายามบินเข้ามาช่วย แต่พวกมันก็ถูกขัดขวางไว้ด้วยดาบบิน

“อ๊ากกก!”

วีรบุรุษกริดกรีดร้องครวญคราง มันพยายามดิ้นรนขัดขืนสุดชีวิต

แต่ก็เปล่าประโยชน์ อริยดาบครอเกลมีเลเวลสูงกว่าสามร้อย เขามีทักษะ ‘ต้านทานหมื่นพิษ’ ผนวกกับ ‘หนังเหนียว’

40%… 30%… 20%…

10%… หลอดพลังชีวิตของวีรบุรุษกริดลดลงถึงระดับวิกฤติ พายุดาบที่แท้จริงจะสร้างพายุปราณดาบเชือดเฉือนศัตรูนาน 1.5 วินาที อาจเป็นเวลาที่ไม่มาก แต่ก็เพียงพอสำหรับคุกคามชีวิตของราชาโอเวอร์เกียร์ในปีที่แล้ว

เมื่อลดต่ำลงกว่า 10% พลังชีวิตกริดเด้งขึ้นมา 30% ในพริบตาจากผลของพลังทีราเม็ท

“น…นั่นมันอะไรกัน…!”

“ไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหม…”

ในวินาทีนี้ คนทั่วโลกล้วนมั่นใจว่าชัยชนะได้ตกเป็นของวีรบุรุษกริดเรียบร้อยแล้ว

สาเหตุเพราะ หลังจากพลังชีวิตลดเหลือเพียง 10% ร่างแยกของกริดตัวปลอมกลับเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็วราวกับครอเกลเปิดประตูบานที่ไม่ควรเปิด

ประหนึ่งวีรบุรุษในปีนี้ไม่ได้ถูกสร้างให้พ่ายแพ้ ประหนึ่งนักกีฬาผู้เข้าแข่งเป็นได้เพียงสีสันของการแสดงละเลงเลือด…

ในวินาทีที่พายุดาบสงบลง รอยยิ้มกำลังเผยบนใบหน้าวีรบุรุษกริดอย่างชัดเจน

ร่างแยกทั้งสี่พุ่งเข้าประชิดล้อมครอเกลพลางรุมฟันด้วย ‘ทำลายล้าง’ เพื่อมิให้ครอเกลหลบหลีก แต่พลังโจมตีของร่างแยกมีเพียง 10% การโจมตีจึงไม่รุนแรงถึงแก่ความตาย

ทว่า นั่นก็มากพอสำหรับสร้างโอกาสให้วีรบุรุษกริดได้ลงมือ มันรีบบินขึ้นไปกลางอากาศเหนือศีรษะครอเกลพร้อมกับใช้ ‘หน่วง’

ปัจจุบัน อริยดาบกำลังปัดป้อง ‘ชนิดล็อกเป้า’ จากร่างแยกทั้งสี่อย่างเต็มกลืน ไม่มีทางที่เขาจะเหลือสมาธิเพียงพอสำหรับรับมือทักษะสยบที่แผ่พุ่งลงมาจากด้านบน

กริดตัวปลอมปลดปล่อยพลังกดดันเหนือจินตนาการปกคลุมท้องฟ้า

แต่ครอเกลก็ยังไม่สิ้นท่า

[พลังของทักษะลับติดตัว ‘บัญชาว่องไว’ กำลังเอ่อล้นรอบกายท่าน]

[ท่านต้านทาน]

อริยดาบคือหนึ่งในคลาสตำนาน ไม่มีพลังใดสามารถสยบครอเกลได้นอกเสียจากจะมองข้ามค่าต้านทานโดยสมบูรณ์

“สวรรค์ปฐพีพินาศ”

ครอเกลปลดปล่อยทักษะที่ได้รับจากทวีปตะวันออก ในดาบมือเริ่มตวัดกวัดแกว่งสร้างแรงสะเทือนทั่วฟ้าดิน

วีรบุรุษกลางอากาศรวมถึงร่างแยกด้านล่างต่างได้รับบาดเจ็บสาหัสถ้วนหน้า ครอเกลอาศัยเศษหินที่ปลิวกระเด็นเป็นฐานในการเหยียบไต่ขึ้นไปในอากาศ

“ศาสตราผงาด”

ดาบในมือครอเกลตวัดเสยขึ้นพลางเล็งฟันใส่วีรบุรุษบนท้องฟ้า รัศมีดาบอันเข้มข้นและแหลมคมได้ตัดผ่าทุกสิ่งทีกีดขวางเป็นเส้นทางยาว

ร่างวีรบุรุษกริดที่เสียการทรงตัวย่อมถูกรัศมีดาบยักษ์ทะลวงผ่านร่างอย่างไร้ทางขัดขืน แสงตกค้างจากศาสตราผงาดได้ทิ้งร่องรอยที่ดูคล้ายกับมังกรทะยานฟ้าให้ผู้ชมได้ตื่นตะลึงในความอลังการ

ก้อนเมฆเหนือศีรษะกริดตัวปลอมสลายไปราวกับไม่เคยมีอยู่

『วีรบุรุษ…』

『ได้รับบาดเจ็บหนักแล้วครับ! 』

หลังจากพายุดาบที่แท้จริง วีรบุรุษถูกโจมตีซ้ำด้วยศาสตราผงาดทันที โลหิตสาดกระเซ็นเป็นฝอยพร้อมกับโปรยลงด้านล่างประหนึ่งฝนเลือด

ผู้บรรยายคาดเดาว่ากริดตัวปลอมคงเข้าสู่ช่วงเวลาอมตะห้าวินาที ส่วนครอเกลหรี่ตาลงเพื่อเตรียมรับมือการโหมกระหน่ำจากวีรบุรุษ

แต่ความจริงคือ…

นัยน์ตาครอเกลพลันเบิกโพลงเมื่อสัมผัสถึงบางสิ่งแปลกประหลาดจากด้านล่าง

ร่างแยกทั้งสี่ของกริดตัวปลอมที่มีหมอกม่วงหนาทึบห้อมล้อม พลัง ‘อ่านใจ’ ของครอเกลกำลังร่ำร้องว่าหนึ่งในนี้คือตัวจริง

‘ได้ยังไง…’

จิตใจครอเกลทวีความสับสนว้าวุ่น ก่อนหน้านี้ พลังอ่านใจระบุชัดเจนว่าร่างที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าคือตัวจริง และนั่นเป็นสาเหตุที่เขาไม่ลังเลจะใช้ท่าไม้ตายอย่างศาสตราผงาดโจมตีใส่

‘หรือร่างแยกมีระดับสูงกว่าอ่านใจ’

…หรือว่า กริดตัวปลอมมีทักษะที่ช่วยสลับตัวกับร่างแยกได้ตามใจนึก

จากสองสมมติฐานนี้ อย่างหลังมีโอกาสเป็นไปได้มากกว่า …ขณะครอเกลใช้สมองประเมินสถานการณ์เพียงชั่วครู่

“ดาบพินาศทัพหนึ่งแสน”

วีรบุรุษกริดและร่างทั้งแยกสามตัวบนพื้นต่างพร้อมใจปลดปล่อยรัศมีดาบจำนวนมหาศาลในเวลาไล่เลี่ยกัน

รัศมีดาบสุดแหลมคมจำนวน 120 เส้นกระหน่ำพวยพุ่งขึ้นท้องฟ้าพลางเกิดระเบิดต่อเนื่องประหนึ่งประทัดยักษ์

นี่คือสุดยอดทักษะที่สร้างรอยขีดข่วนได้แม้กระทั่งมังกรมารบันเฮเลียร์ อาจเป็นเพียงเวอร์ชั่น ‘ลดระดับ’ แต่ก็มีตำนานและพลังทำลายที่น่าเกรงขามกว่า ‘พายุดาบ’ หรือ ‘ศาสตราผงาด’ ที่ครอเกลใช้หลายเท่า

แม้ไม่สมบูรณ์แบบในแง่ความรุนแรงหรือพลังทำลาย แต่เทคนิคดาบชนิดนี้ปราศจาก ‘ช่องโหว่’ สมกับเป็นมรดกที่ราชาไร้พ่ายทิ้งไว้

สรุปโดยสั้นก็คือ ครอเกลมิอาจหลบรัศมีดาบ 120 เส้นพ้น

“…!!”

ท้องฟ้าระเบิดถล่มทลายราวกับเป็นวันโลกาวินาศ

พื้นเวทีการดวลพังยับเยินไม่เหลือเค้าเดิม ต้นไม้และบรรดาพืชพรรณนานับชนิดโดยรอบต่างมลายหายไปราวกับไม่เคยมีอยู่

…ร่างของอริยดาบก็เช่นกัน

กล้องถ่ายภาพกว่าร้อยตัวกำลังสั่นสะเทือนอย่างที่ไม่เคยเป็น พวกมันไม่ได้ถูกออกแบบให้รับแรงระเบิดปริมาณมหาศาลเช่นนี้ ผู้ชมทั่วโลกพากันเวียนหัวจนเกือบอาเจียน

บุคคลที่ได้สติกลับมาก่อนใครคือกริดในห้องรับรองพิเศษ เขารู้สึกทึ่งเมื่อเห็นปัญญาประดิษฐ์ใช้ทักษะควบคู่ไปกับร่างแยกอย่างไร้ที่ติ

นี่คือวิธีซึ่งกริดไม่เคยนึกถึง และอาจไม่มีวันนึกถึงไปชั่วชีวิต

“สลับไปทีละร่างพลางใช้ดาบพินาศทัพหนึ่งแสนพร้อมกัน…”

ทุกสิ่งเกิดขึ้นภายในระยะเวลาเพียงสองวินาที ปัญญาประดิษฐ์กริดสลับควบคุมทั้งสามร่างแยกเพื่อปลดปล่อยดาบพินาศทัพหนึ่งแสนด้วยความรุนแรง 100% เต็ม

“ครอเกล…”

นัยน์ตากริดกำลังสั่นระริก

เขาไม่ต้องการให้คู่ปรับตลอดกาลต้องพ่ายแพ้ต่อตัวเองในปีที่แล้ว

ทันใดนั้น

“…”

ครอเกลไม่ได้อ่อนแอขนาดให้กริดต้องคอยเป็นกังวล

『ป…ปีก! ปีกครับ! 』

ปีกแสงสีขาวสยายออกจากแผ่นหลังอริยดาบครอเกลอย่างงดงาม เป็นปีกแสงที่ค่อนข้างประหลาด สีของมันกะพริบสลับขาวดำเป็นระยะ

“โธ่เว่ย…!”

ครอเกลพึมพำด้วยใบหน้าบิดเบี้ยว

น่าทึ่งมากที่ครอเกลแสดงสีหน้าเช่นนี้กับเขาได้ด้วย ไม่เข้ากับบุคลิกแสนเย็นชาเลยสักนิด

ครอเกลกำลังโมโห… เขาโมโหตัวเอง

“พลังลูซอน!”

วีรบุรุษกริดบนพื้นดินเริ่มสัมผัสถึงอันตราย มันเปิดใช้งานพลังลูซอนเพื่อเพิ่มความเร็ว

กริดตัวปลอมเข้าสู่โหมด ‘หิวโหย’ จากเลือดที่เปรอะเปื้อนตามร่างกายครอเกลหลายจุด มันกระโจนขึ้นไปในอากาศพร้อมกับสวมรองเท้าบราฮัมโบยบิน วีรบุรุษกริดมิได้พุ่งเข้าหาครอเกลเป็นเส้นตรง แต่มันแหวกอากาศซ้ายทีขวาทีด้วยความเร็วอันน่าตกตะลึง

>> ร่ายรำสังหาร

>> มายาร่ายรำ

>> ทำลายล้างสังหาร

>> คลื่น

>> ทำลายล้าง

เสียงเหล่านี้เป็นของวีรบุรุษกริดที่มันบันทึกไว้ด้วยเวทตั้งเวลา ครอเกลได้ยินเสียงแว่วข้างหูจากทุกทิศ เขาควรเกิดความสับสน กริดตัวปลอมพยายามเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงเพื่อทำให้อีกฝ่ายอ่านพฤติกรรมไม่ออก

หากจับตำแหน่งไม่ได้ ครอเกลคงเกิดปัญหาใหญ่แน่

แต่สำหรับครอเกล สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ปัญหาเลยสักนิด

“ดาบโปรยปราย”

ดาบ 37 เล่มพรั่งพรูออกจากช่องสัมภาระครอเกลในพริบตา มันคลี่กระจายพลางพุ่งขึ้นฟ้าด้วยรูปทรงพัด จากนั้นก็วกกลับลงมาตกใส่วีรบุรุษกริดจากด้านบนประหนึ่งห่าฝน

กริดตัวปลอมไหวตัวรวดเร็ว มันใช้ ‘เคลื่อนที่อิสระ’ เพื่อหลบดาบทั้ง 37 เล่มพร้อมกับปรี่เข้าหาครอเกลด้วยความเร็วสูงสุด

แน่นอนว่า ระหว่างทางได้รำดาบควบคู่ไปด้วย

“ปาดกระเดือก”

ฉึก—

“…แค่ก!”

ครอเกลชิงลงมือก่อนการรำดาบจะเสร็จสิ้น ดาบเสือขาวที่แตกร้าวในมือได้เสียดทะลวงหัวใจวีรบุรุษกริดอย่างอำมหิต

กริดตัวปลอมเข้าสู่โหมดอมตะห้าวินาที ครอเกลรีบกระพือปีกถอยหลังเพื่อรักษาระยะห่างจนกว่าจะหมดผลของบัฟ

หกวินาทีถัดมา ครอเกลเรียกดาบบินทั้งสี่เล่มกลับและบงการให้พวกมันช่วยรุมโจมตี

หัตถ์เทวะรีบตามกลับมาปัดป้องอย่างเต็มกลืน แต่ก็สายไป อริยดาบอาศัยการบังคับที่ชำนาญดับลมหายใจกริดตัวปลอมได้ในที่สุด

ครอเกลเป็นคนแรกและคนเดียวที่ได้รับชัยชนะในการแข่งโค่นวีรบุรุษ

ตัวละครกริดเมื่อหนึ่งปีก่อนถูกอริยดาบครอเกลปราบสำเร็จแล้วในวันนี้

“เฮ—!!”

ผู้ชมในสนามทุกคนต่างลุกขึ้นยืนปรบมือแสดงความชื่นชมอย่างสมเกียรติ

ท่ามกลางบรรยากาศอันตื่นเต้นและน่าทึ่ง ไม่มีใครนั่งก้นติดพื้นได้อีกแล้ว

“นายคือที่สุด…”

กริดในห้องเตรียมตัวก็ยืนขึ้นและปรบมือเช่นกัน คำชมพรั่งพรูจากก้นบึ้งหัวใจ ปราศจากการเสแสร้งแม้แต่เศษเสี้ยว

“ฉันรู้อยู่แล้วว่านายต้องทำได้”

ตึกตัก… ตึกตัก…!

หัวใจชายหนุ่มกำลังเต้นโครมครามราวกับใกล้ระเบิด เขาต้องการลงไปในลานประลองและขอท้าดวลกับครอเกลเสียประเดี๋ยวนี้

“…เราต้องอดทนไว้”

กริดเฝ้ามองครอเกลด้วยฝ่ามือที่ชุ่มเหงื่อ เขาได้แต่หวังว่าการแข่งตะลุมบอนราชาอสูรจะเริ่มขึ้นโดยเร็ว

…

รายการถัดมาของวันนี้ สวาปามจกบัลเผ็ดจากเกาหลีใต้คว้าเหรียญทองในการแข่งฝ่าวงกต แครี่จากออสเตรเลียคว้าเหรียญทองจากการแข่งสร้างสิ่งกีดขวาง และริกเตอร์จากแคนาดาคว้าเหรียญทองการแข่งตัดไม้

ในมุมมองของทีมสหรัฐและจีน สถานการณ์เจ้าเหรียญทองค่อนข้างยุ่งเหยิง งานแข่งนานาชาติครั้งที่สี่เหลือเพียงแค่สองรายการ คือ PVP และตะลุมบอนราชาอสูร แต่ตำแหน่งเจ้าเหรียญทองกลับยังไม่ถูกระบุแน่ชัด

โดยเฉพาะการแข่งตะลุมบอนราชาอสูรที่มีเหรียญทองแจกจ่ายมากถึงห้า สี่เหรียญจาก MVP สี่ราชันสวรรค์ และอีกหนึ่งเหรียญจาก MVP ราชาอสูร

หนึ่งเหรียญทองจากการแข่ง PVP ก็สำคัญไม่แพ้กัน

“เหรียญทอง PVP ต้องเป็นของฉันคนเดียวเท่านั้น”

“…”

ซีบาลผู้เก็บงำจักรกลเวทมนตร์ไว้เก็บความลับจากบุคคลภายนอก มันยังคงมั่นใจและอวดโอ่เสียเต็มประดาเช่นเคย

แต่กลับกัน เฮสเตอร์เอาแต่เงียบงันมาตลอดนับตั้งแต่การแข่งโค่นวีรบุรุษจบลง ซิบที่รูดปากมันไว้ได้ปิดผนึกโดยไม่คลายออกแม้แต่วินาทีเดียว

เฮสเตอร์เพิ่งตระหนักได้ว่า การดวลระหว่างมันกับครอเกลเมื่อไม่กี่เดือนก่อนเป็นของปลอม

‘เราไม่คู่ควรให้เอาจริงรึไง…’

มันมิอาจสลัดความคิดนี้ออกจากหัว ในสายตาครอเกลมีเพียงกริดเท่านั้น และตัวมันยังเอื้อมไม่ถึงระดับของทั้งสอง

โลกที่มันเผชิญและโลกที่มันสัมผัสช่างแคบและไร้เดียงสานัก ทุกสิ่งไม่เหมือนกับที่ตนคิดไว้ เฮสเตอร์รู้สึกว่าตัวเองเป็นเพียงคางคกในบ่อ เป็นเพียงกบในกะลาที่เพิ่งมีโอกาสสัมผัสโลกกว้าง

เฮสเตอร์ตัดสินใจถอนตัวจาก PVP

คงน่าละอายเกินไปหากมันเปิดต้องตัวใน PVP ด้วยพลังที่น่าสมเพชเมื่อเทียบกับกริดหรือครอเกล

ในทางกลับกัน จมูกของซีบาลยิ่งเชิดขึ้นกว่าเดิม

“หมอนั่นถอนตัวเพราะกลัวเราสินะ ช่วยไม่ได้ เฮสเตอร์เป็นเพียงไม่กี่คนที่ได้เห็นไรเดอร์ส…”

หากรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ มันไม่แสดงฝีมืออย่างเต็มที่ในรอบคัดเลือกก็คงดี

“PVP ปีนี้น่าเบื่อชะมัด”

ซีบาลนึกเสียดายในใจ

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬

ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน

ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,338

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

• Next
• Previous