จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 946



โซเชียลทั่วโลกต่างลุกเป็นไฟทันที


=== ครอเกลใช้ดาบผ่ามิติในจังหวะที่วีรบุรุษกริดไม่สามารถตอบโต้


=== สุดยอดㅋㅋ ฉันสังเกตว่า หัตถ์เทวะค่อยๆ ออกห่างจากวีรบุรุษระหว่างการดวล นั่นต้องเกิดจากฝีมือบงการดาบของครอเกลแน่


=== ดาบบินถูกครอเกลควบคุมตลอดเวลาจริงหรือ


=== อะไรกัน นี่แกโง่รึเปล่า ต้องใช่อยู่แล้ว


=== ครอเกลพยายามเคลื่อนไหวหลบสายตาของวีรบุรุษตลอดเวลา


=== น่าทึ่งทุกครั้งที่เขาใช้ฝักดาบขัดขวางจังหวะเท้า ร่างกายมนุษย์ยืดหยุ่นได้ขนาดนั้นเลยหรือ ถึงจะเป็นซาทิสฟายก็เถอะ ㅡㅡ;


ความฮือฮาเกิดขึ้นทันทีหลังจากจบการแข่งโค่นวีรบุรุษ แน่นอนว่าประเด็นสนทนาย่อมหนีไม่พ้นวิธีอันเหนือชั้นที่ครอเกลใช้จัดการวีรบุรุษกริด ผู้ชมต่างนำวิดีโอการต่อสู้มาฉายซ้ำเพื่อศึกษาและแลกเปลี่ยนข้อมูล


ข่าวลือใหม่เริ่มเกิดขึ้น


=== กริดไม่ลงแข่งนานาชาติเพราะเขาหวาดกลัวครอเกล


มีคนจำนวนไม่น้อยเริ่มเหยียดหยันกริดที่ประกาศถอนตัว กริดเกรงกลัวว่าตนจะพ่ายแพ้ครอเกลและเสียตำแหน่งอันดับหนึ่ง


ความคิดเช่นนี้พอจะมีเหตุผลรองรับอยู่บ้าง พัฒนาการทางเลเวลในหนึ่งปีที่ผ่านมาของกริดนับว่าน้อยนิด ไม่แปลกที่คนจะเข้าใจผิดว่า กริดคงพ่ายแพ้ต่อครอเกลที่เอาชนะปัญญาประดิษฐ์ได้อย่างราบคาบ


แต่หารู้ไม่… ถึงพัฒนาการด้านเลเวลจะน้อย แต่ด้านอื่นกลับมหาศาลจนน่าขนลุก


=== ช่วยไม่ได้ล่ะนะ กริดต้องบริหารอาณาจักรควบคู่กับการตีเหล็ก จะเอาเวลาที่ไหนไปพัฒนาตัวละคร


“ฉันว่า… คุณคงคลั่งแน่ถ้าเลื่อนอ่านโซเชี่ยลตอนนี้”


ชินยองวูเงยหน้าขึ้นจากการนอนเล่นโทรศัพท์บนโซฟาหรูหรา บุคคลที่มาเยือนไม่ใช่ใครอื่น เธอคือยุนนาฮี หัวหน้าทีมปฏิบัติการของ SA กรุป


ยุนนาฮีมาส่งข้าวกลางวัน


“หิวรึยัง”


“แน่นอน”


ยุนนาฮีมีบรรยากาศแตกต่างจากเมื่อครั้งกริดไปเยือนสำนักงานใหญ่มาก เธอกำลังฉีกยิ้มกว้างอย่างมีความสุข ราวกับทริปเที่ยวจีนในหนนี้กำลังไปได้สวย


ยุนนาฮีมิได้สวมแบบฟอร์มพนักงานสีหม่นเหมือนกับที่กริดเคยพบ เธอมาพร้อมเสื้อยืดสีขาวและกางเกงยีนส์รัดรูปสีน้ำเงินอ่อน


อันที่จริง ยุนนาฮีจัดว่าเป็นสตรีหน้าตางดงาม แต่ปัญหาคือ ชินยองวูคนนี้ชาชินกับใบหน้าของยูร่า จิสึกะ เซฮี และเยริมตลอดคืนวัน ไม่แปลกที่มาตรฐานของเขาจะสูงลิบโดยไม่รู้ตัว


…จงเรียกเขาว่า ‘กริดผู้ตายด้าน’


“ไม่หงุดหงิดกับพฤติกรรมชาวเน็ตเลยหรือ”


“ทำไมต้องหงุดหงิดล่ะ”


“แม้ว่าคุณจะสร้างปาฏิหาริย์ได้ทุกปี แต่ผู้คนกลับยังเอาแต่ดูแคลน บางครั้งก็เลวร้ายถึงขั้นบิดเบือนความจริง”


บนโลกอินเทอร์เน็ตมักมีบุคคลประหลาดอยู่มากมาย พวกมันทำตัวนิรนามพร้อมกับแสดงความถ่อยเพื่อผ่อนคลายอารมณ์ตึงเครียดของตัวเอง


ยองวูย่อมทราบเรื่องนี้ดี และเขาก็เลิกสนใจคอมเมนต์บนโลกอินเทอร์เน็ตมาสักพักใหญ่แล้ว


“ธรรมดาจะตายไป ขนาดลิมชอลโฮยังถูกเรียกว่าหัวขี้เลื่อย อย่าผมจะไปเหลือหรือ”


“หัวขี้เลื่อย… ท่านประธานเนี่ยนะ!”


ลิมชอลโฮคือผู้ก่อตั้งโลกเสมือนจริงใบแรก เขาไม่เพียงถูกเรียกว่านักวิทยาศาสตร์อันดับหนึ่งในปัจจุบัน แต่ยังถูกยกย่องให้เป็นอันดับหนึ่งตลอดกาล


แน่นอนว่าลิมชอลโฮไม่ได้สมบูรณ์แบบทุกด้าน เขาจะเป็นเพียงบุคคลธรรมดาในสิ่งที่ตัวเองไม่ถนัดหรือไม่ชอบ แต่กระนั้น การเรียกลิมชอลโฮว่าหัวขี้เลื่อยก็ออกจะเกินไปหน่อย


ยุนนาฮีไม่เคยคิดว่าจะมีใครกล้าเรียกขานเช่นนั้น เธอถึงกับหลุดหัวเราะเล็กน้อย


“อันที่จริง เขาถูกเรียกว่าไอ้ขี้เลื่อย ไม่ใช่หัวขี้เลื่อย…”


“ไอ้ขี้เลื่อย… อุฟ! ฮะฮะ!”


เธอไม่กลั้นขำอีกต่อไป ยุนนาฮีระเบิดเสียงหัวเราะลั่น เธอนั่งกุมท้องพลางโพล่งขึ้นเสียงดังโดยไม่สงวนกิริยา


บรรยากาศระหว่างคนทั้งสองกำลังเป็นไปด้วยดี ยุนนาฮีเฝ้ามองพัฒนาการของตัวละครกริดมานานแล้ว เธอเป็นหนึ่งในบุคคลที่รู้จักชินยองวูและกริดดีกว่าใคร


ด้านยองวูก็สนิทสนมกับเธอไม่น้อย โดยเฉพาะช่วงหลายเดือนหลังที่ต้องเตรียมการแข่งตะลุมบอนราชาอสูรร่วมกัน


“ได้ดูการแข่งตลอดสี่วันที่ผ่านมารึเปล่า แรงเกอร์ในปีนี้มีค่าเฉลี่ยเลเวลเกินกว่า 330 ไปแล้ว แถมระดับทักษะก็ยังสูงมาก คุณจะเอาชนะพวกเขาทั้งหมดไหวหรือ”


“หืม…”


ยองวูทำสีหน้าครุ่นคิดขณะลิ้มรสน้ำราดแสนโอชะของเป็ดปักกิ่ง


ที่เธอพูดก็ไม่ผิด เลเวลและทักษะของแต่ละคนพัฒนาขึ้นมาก โดยเฉพาะนักกีฬาคลาสทั่วไป ช่องว่างระหว่างคลาสทั่วไปและคลาสลับได้ลดลงจนน่าตกใจ


ไม่เหมือนกับคลาสลับที่แข็งแกร่งตั้งแต่ต้น คลาสทั่วไปก้าวเดินอย่างมั่นคงแต่เชื่องช้า


พอเมื่อซาทิสฟายดำเนินมาถึงคลาสระดับสาม ผู้เล่นคลาสทั่วไปสามารถเลือกในสิ่งที่ตัวเองถนัดและเหมาะสมได้มากกว่าคลาสลับ จำนวนของทักษะเพิ่มมากขึ้น แถมยังเป็นคลาสที่พวกเขาชื่นชอบและเลือกที่จะเล่นมาตั้งแต่ต้น


เมื่อช่องว่างลดลง ถ้อยคำของลิมชอลโฮก็ยิ่งเข้าใกล้ความจริงทุกขณะ


“ตอนแรกเคยคิดว่าง่าย แต่ตอนนี้เริ่มกังวลบ้างแล้ว”


ยองวูตอบกลับพลางพลุ้ยข้าวผัดรสเลิศใส่ปาก


ระดับพัฒนาการที่นักกีฬาแสดงให้เห็นตลอดสี่วัน ยองวูจำใจต้องยอมรับแรงปะทะอันหนักหน่วงที่เขาจะได้รับ


“แต่ว่า…”


“…”


“ผมไม่คิดว่าตัวเองจะแพ้”


ช่องว่างลดลงงั้นหรือ… เรื่องนั้นไม่ต้องกังวล คลาสลับไม่ได้เหมือนกันทั้งโลก และคลาสลับของเขาพิเศษกว่าใครทั้งหมด


ไม่เพียงเท่านั้น ทุกคนไม่ได้มีความเพียรเท่ากัน ทุกคนไม่ได้อดทนเหมือนกันทั้งหมด มีเพียงส่วนน้อยที่ทุ่มเทให้กับการพัฒนาตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตายโดยไม่หยุดพัก


ส่วนใหญ่อีกมากยังเล่นเกมไปตามครรลองของมัน ไม่เร่งรีบจนทำให้ตัวเองเกิดความทรมาน


แม้แต่คนคิดเลิกบุหรี่ยังมีท้อกลางคัน คนที่คิดลดความอ้วนก็อดอาหารไม่ได้ตลอดรอดฝั่ง นับประสาอะไรกับซาทิสฟายที่เป็นแค่เกม ไม่มีใครเปี่ยมด้วยวินัยและฝืนขีดกำจัดตัวเองตลอดเวลาแน่


หลังจากกล่าวอย่างมั่นใจ ยองวูยกถ้วยจังปงขึ้นมาซดเสียงดัง


ทันใดนั้น ใบหน้าของเขาพลันแดงก่ำ เพราะถ้วยที่ยกซดมิใช่จังปง หากแต่เป็นซุปหมาล่า เป็นอาหารชามซุปที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้ว


เหงื่อไคลไหลซึมตามรูขุมขน เสียงที่เปล่งเริ่มสั่นระริก


“น…น้ำ! สะ—ฮึก!”


‘เหมือนกับท่านประธานไม่มีผิด’


สองคนนี้มักมั่นใจและจองหองในเรื่องที่ตนถนัด แต่การใช้ชีวิตประจำวันกลับบกพร่องสุดกู่ เป็นอุปนิสัยที่ยุนนาฮีเกลียดชังไม่ลง เธออมยิ้มพลางส่งขวดน้ำให้


“สี่ร้อยต่อหนึ่ง… ฉันรอชมอยู่นะ”


แรงเกอร์กว่าสี่ร้อยคนจาก 125 ประเทศจะรุมขย้ำห้ำหั่นกริดอย่างไร้ความปรานี ผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร ยุนนาฮีเฝ้ารอการต่อสู้อย่างใจจดใจจ่อ


***


การขาดหายไปของกริด…


นี่คือสาเหตุสำคัญที่การแข่ง PVP ในปีนี้ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม


‘อย่างน้อยก็ไม่ตายในการโจมตีเดียว เราคือระดับโลก เราจะได้เฉิดฉายฝีมืออย่างเต็มที่’


ผู้เล่น 467 คนที่ลงสมัครล้วนมีความคิดเช่นนี้ แต่มีเพียง 64 คนเท่านั้นที่จะได้ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายและมีโอกาสแสดงฝีมือต่อหน้าคนทั้งโลก


นักกีฬาทั้ง 403 คนที่ตกรอบต่างพากันทึ่ง… ผู้เข้าแข่งจากสหรัฐที่ไม่มีครอเกล เหล่าขุนพลโอเวอร์จากแต่ละชาติ ยังมีซิวรอนจากอาร์เจนติน่า บูบัตจากตุรกี ดาเมี่ยนจากญี่ปุ่น กอช่าจากอินเดีย เอฟเวอร์ตันจากนิวซีแลนด์ และอีกมาก


เมื่อได้เจอของจริง อนาคตอันสวยหรูที่เคยวาดฝันพลันพังครืน พวกเขาเกิดมุมมองใหม่ต่อดาราดังของโลกที่ปรากฏตัวในจอทีวีมานานหลายปี


ราวกับมีขุนเขาลูกใหญ่เป็นอุปสรรคขวางกั้นระหว่างแรงเกอร์ทั่วไปกับแรงเกอร์ระดับท็อป เป็นขีดจำกัดที่ความพยายามเพียงอย่างเดียวมิอาจนำพาไปถึง


“น่าแปลก… ทุกคนที่อยู่ใต้กริดกับครอเกลควรจะเท่าเทียมกันสิ”


“การแบ่งชนชั้นมีอยู่ทุกที่”


“โธ่เว่ย! ฉันไม่ยอมรับเด็ดขาด ฉันไม่ได้อ่อนแอสักหน่อย!”


“…อึ้งชะมัด การสัมผัสด้วยตัวเองแตกต่างจากที่ดูในทีวีเยอะเลย”


แต่ไม่ใช่กับทุกคนที่ผิดหวัง


กอช่าจากอินเดีย มันคือแรงเกอร์ที่เคยตกรอบคัดเลือกงานแข่งนานาชาติในทุกปี เส้นทางอาชีพมิได้สดใสเหมือนกับที่หลายฝ่ายคาดหวัง ส่งผลให้กอช่าคิดว่าตัวเองอ่อนแอมาตลอด


แต่แล้วในวันนี้…


“โยะโฮะโฮะ! ฉันคือยักษา!”


เวทมนตร์ที่กอช่าร่ายขณะหัวเราะเสียงดัง มันคือเวทคนละระดับกับอีกฝ่ายโดยสิ้นเชิง


ทุกคู่ในรอบคัดเลือก กอช่าบดขยี้ศัตรูอย่างราบคาบ


“…”


ในความเป็นจริงแล้ว กอช่อค่อนข้างแข็งแกร่ง


ศัตรูในรอบ 64 คนสุดท้ายถูกกักขังภายในปราสาททรายจนมิอาจขยับเขยื้อน หลังจากนั้น กอช่าอัญเชิญโกเล็มทรายออกมาปิดบัญชีอย่างง่ายดาย


มันไม่ได้เป็นจอมเวทปฐพีอันดับหนึ่งเพราะโชคช่วย กอช่าแข็งแกร่งจนผู้เล่นอีกฝ่ายตัดพ้อว่าขี้โกง


…นี่มันแสร้งอ่อนแอมาตลอดสามปีเพื่อให้ทุกคนตายใจงั้นหรือ


แน่นอนว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด สาเหตุที่กอช่าตกรอบคัดเลือกทุกปี เพราะมันดวงซวยจับคู่พบแรงเกอร์ที่แข็งแกร่งเสมอ ใช่แล้ว กอช่อคือบุคคลที่มาพร้อมดวงบัดซบ


แต่ปีนี้ไม่ใช่อีกแล้ว มันผ่านรอบคัดเลือกและจำกัดศัตรูในรอบ 64 คนสุดท้ายอย่างง่ายดาย


ในรอบ 32 คนถัดไป มันต้องสู้กับบูบัต


“โยะโฮะโฮะ!”


กอช่าหัวเราะพลางเดินขึ้นเวทีเพื่อเผชิญหน้าบูบัต อีกฝ่ายมีชื่อเสียงไม่ค่อยดีนัก พ่ายแพ้รุคกี้ชาวจีนอย่างจางเฉินไปในปีที่แล้ว


กอช่ามิได้แสดงท่าทีเกรงกลัวบุรุษผู้สูญเสียฉายา ‘ผู้มาพร้อมชัยชนะ’


“ทำไมนายถึงยึดติดกับ PVP นัก หากนายลงแข่งประเภททีมคงคว้าเหรียญทองไปแล้ว ชาวตุรกีมีนิสัยชอบดื้อรั้นรึไง โยะโฮะโฮะ!”


บูบัตมีคลาสลับเป็นจอมบดขยี้ที่โดดเด่นด้าน CC และการแทงค์ ไม่แปลกที่จะอ่อนแอในการดวลหนึ่งต่อหนึ่ง ชายคนนี้ขาดแคลนพลังโจมตีสำหรับปิดฉากศัตรู ในสายตาทุกคน การยึดติดกับ PVP คือพิษร้ายสำหรับตัวบูบัตเอง


แต่ปีนี้จะไม่เหมือนเดิม


“โยะโฮะโฮะ… อ…อี๋ย”


ลักษณะเด่นที่คลาสแทงค์มักมีร่วมกันคือ เกือบทุกคลาสจะมีทักษะพุ่งประชิดตัวศัตรูได้รวดเร็ว และคลาสลับของบูบัตมิใช่ตัวแทงค์ธรรมดา แต่เป็นแทงค์ที่ต้องเปิดศึก ตัวเปิดย่อมมาพร้อมค่าต้านทานที่สูง เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้าง CC ใส่กองทัพศัตรู


กอช่าดำเนินกลยุทธ์พื้นฐานในการสู้กับตัวแทงค์ มันกระหน่ำวางวงเวทบนพื้นเป็นจำนวนมากเพื่อขัดขวางมิให้บูบัตเข้าถึงตัว


ทว่า บูบัตกลับประชิดมันได้ง่ายดาย


แถมในปีนี้ บูบัตยังมีถุงมือสยบฟ้าดินของอาร์ทีน่า ไอเท็มเกรดเลเจนดารีที่ช่วยเพิ่มพลังโจมตีตามสัดส่วนพลังป้องกันผู้สวม


บูบัตกลบจุดอ่อนในปีก่อนจนหมดสิ้น


“อั่ก… แค่ก!”


ไม่ผิดนักหากจะกล่าวว่า การต่อสู้จบลงนับตั้งแต่บูบัตประชิดตัวจอมเวทแสนบอบบางสำเร็จ


ในฐานะจอมเวท ปัญหาหนึ่งซึ่งเลี่ยงไม่ได้เลยคือค่าพลังป้องกันที่ต่ำมาก หลังจากถูกมือมารของบูบัตคว้าไว้ กอช่าก็โดนบูบัตซ้อมจนถึงแก่ความตายภายในเวลาไม่นาน


บูบัตพ่นลมหายใจเหยียดหยันขณะเดินออกจากเวทีไปเตรียมตัวแข่งรอบถัดไป


“เก่งแต่ปาก”


ไม่เหมือนกริด ชายคนนั้นคือสัตว์ประหลาด ทุกครั้งที่กริดลั่นวาจาว่าจะบดขยี้ใครสักคน เขาไม่เคยทำให้คนทั่วโลกผิดหวัง


บูบัตทำได้เพียงกลืนน้ำลายเมื่อย้อนนึกถึงความน่าสะพรึงกลัวของกริด


‘นี่คือโอกาสสุดท้ายแล้ว ต้องฉวยโอกาสที่ไม่มีกริดให้ได้’


แชมป์รายการ PVP คือเกียรติยศสูงสุดของใครหลายคน รวมถึงบูบัตด้วย


เมื่อครอเกลไม่ลงแข่ง PVP ในปีนี้ ราวกับสวรรค์ช่วยเปิดทางให้ตน บูบัตกำลังฮึกเหิมสุดขีด


***


การแข่ง PVP รอบ 16 คนสุดท้ายจบลงไปแล้ว


‘กดดันฉิบ…’


กริดที่นั่งจ้องจอทีวีมานาน เขาพลันเม้มริมฝีปากแน่นเมื่อยูร่าปรากฏตัว


สาเหตุเพราะวันนี้ยูร่าดูแปลกประหลาดกว่าทุกครั้ง สีหน้าของเธอทั้งหม่นหมองและอ้างว้าง


ราวกับภายจิตใจกำลังเปียกชุ่ม


กริดถึงขั้นเห็นภาพหลอนว่าฝนตกเฉพาะในจุดที่ยูร่ายืนอยู่


‘เกิดอะไรขึ้นกับเธอ…’


แม้กริดจะไม่ได้แสดงออกอย่างโจ่งแจ้ง แต่ลึกๆ ภายในใจ เขาจะคอยเป็นห่วงเป็นใยยูร่าอยู่เสมอ เธอคือเพื่อนคนสำคัญที่คอยจัดการเรื่องยุ่งยากในชีวิตให้ ไม่ว่าจะเป็นในเกมหรือภายนอก


กริดเคยนอนฝันถึงยูร่าไม่ต่ำกว่าสองครั้ง ส่งผลให้เขาเป็นกังวล ยูร่าในวันนี้กำลังผิดปรกติอย่างแท้จริง


‘ต้องมีบางอย่าง…’


แปดคนสุดท้ายประกอบด้วยยูร่า ป็อน เรกัส ดาเมี่ยน คริส ซีบาล ซิวรอน และบูบัต


จากการประเมินของกริด ทั้งเจ็ดคนล้วนเป็นศัตรูที่มีพรสวรรค์สูงและรับมือได้ยาก โดยเฉพาะดาเมี่ยน หมอนี่คือศัตรูที่ยูร่าแพ้ทางที่สุด


ไม้เด็ดของยูร่าคือทักษะอัญเชิญขุมนรก สิ่งนี้จะช่วยสร้างบัฟให้ยูร่าและแจกจ่ายดีบัฟให้ศัตรู แต่ดาเมี่ยนผู้เป็นสันตะปาปาย่อมไม่ได้รับผลกระทบจากขุมนรกมากมายเท่าคนอื่น


…ราวกับฟ้าเล่นตลก ยูร่าต้องสู้กับดาเมี่ยนในรอบแปดคนสุดท้าย


เธอยังอยู่ในสภาพที่ไม่พร้อม แถมยังต้องเจอคู่ต่อสู้ที่ตนแพ้ทาง


“ยูร่า…”


ร่างกายกริดหยุดสั่นไม่ได้ เขาอยากวิ่งเข้าไปยืนเคียงข้างยูร่าที่กำลังกวัดแกว่งดาบด้วยใบหน้าดำมืดราวกับถูกบางสิ่งไล่ตาม



“เอ๋…”


ชายหนุ่มผงะเล็กน้อย


บนจอฉายภาพ ยูร่าใช้ดาบในมือปัดป้องดาบจากดาเมี่ยนอย่างคล่องแคล่ว จากนั้นก็ใช้ปืนสั้นเป่ากระหม่อมสันตะปาปาในระยะประชิด


ดาเมี่ยนถึงกับหงายหลัง


“อั่ก…!”


ดาเมี่ยนย่อมคาดไม่ถึง


ช่วยไม่ได้ เมื่อไม่กี่เดือนก่อน ยูร่าสำเร็จภารกิจ ‘อริเก่า’ หลังจากฆ่าแอ็กนัส


รางวัลตอบแทนภารกิจครั้งนั้น เธอได้รับทักษะ ‘วิชาดาบแห่งแสง’ ซึ่งเป็นสุดยอดทักษะความชำนาญดาบที่ไม่แพ้ของครอเกล


เป็นครั้งแรกที่ดาเมี่ยนเผชิญกับวิชาดาบอันทรงพลังของนักล่าอสูร เขาประเมินพลังของยูร่าผิดไปหลายส่วน


“เทพคุ้มครอง แสงจุติ แสงอวยพร เทพธิดาคุ้มครอง เทพธิดาอวยพร”


ดาเมี่ยนฟื้นฟูตัวเองพร้อมกับเข้าสู่โหมดบัฟเต็มสูบโดยไม่ลังเล นี่คือหนแรกนับตั้งแต่ดวลกับกริด ที่สันตะปาปาดาเมี่ยนสำแดงพลังที่แท้จริงต่อหน้าผู้เล่นด้วยกันเอง


“ยูร่าซัง… ซือมิมาเซน!” (ผมขอโทษ)


“ทางนี้ก็เช่นกัน”


ทันใดนั้น ลำแสงศักดิ์สิทธิ์ที่ดาเมี่ยนแสนภาคถูกใจกลับถูกดาบแสงสีเขียวหยกตัดผ่าเป็นสองซีก จากนั้นยังตามติดด้วยฝนกระสุนมานาที่ทรงพลัง


เธอคือตำนานเหมือนกับกริดและครอเกล เธอเองก็มีสิทธิ์ได้ลิ้มรสความสำเร็จแบบเดียวกับสองคนนั้น


“ฝันร้ายกัดกิน”


เส้นทางบำเพ็ญตนนั้นแสนยาวไกล…


แสงสว่างส่องมาถึงเธอช้ากว่ากริดและครอเกลมาก


แต่กระนั้น ยูร่ามาไกลเกินกว่าจะหันหลังกลับ


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬

ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน

ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,339

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/


Comments

  1. Replies
    1. สกิลของยูร่าคือมาช้ามาก ที่ผ่านคือเห็นบอกแค่ ฟัน' ฉึกฉัก' เคร้งเคร้ง' ปืนยิง ปั้งปั้ง' วิถีดาบของนักล่าอสูรมาแล้ว "ปราณตะวัน"

      Delete
  2. อ้ากรออ่านปีหน้า

    ReplyDelete
  3. สู้เขายูร่า
    สู้ๆนะ
    ✊💪👊✌️🤜

    ReplyDelete
  4. ฝันถึงยูร่าไม่ต่ำกว่า2ครั้งไอ่นี้มันร้ายนี่หว่า
    ฝันเเบบไหนอะ🤔🤔🤔🤔

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00