จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 949
"พาหนะชนิดอื่นคล้ายกับสัตว์เลี้ยง แต่จักรกลเวทมนตร์นั้นต่างออกไปนะครับ มันคือไอเท็มอย่างนั้นหรือ"
"ใช้พลังอะไรในการขับเคลื่อนครับ จากขนาดมหึมาของมัน จักรกลเวทมนตร์ต้องขยับได้นานกว่านี้แน่ถ้าใช้พลังงานสำรองจากภายนอก"
"ผมเห็นตราสัญลักษณ์ของจักรวรรดิซาฮารันถูกสลักกลางหน้าอกจักรกลเวทมนตร์ หมายความว่ามันคือสมบัติของจักรวรรดิงั้นหรือครับ คุณมีตำแหน่งและอำนาจมากขนาดไหนในจักรวรรดิ แถมยังได้เป็นนักบินที่มีจักรกลเวทมนตร์เป็นของตัวเอง คุณมีความใกล้ชิดกับราชวงศ์ซาฮารันงั้นหรือครับ"
"จักรวรรดิมีจักรกลเวทมนตร์ทั้งหมดกี่เครื่อง"
หลังจากการแข่ง PVP และพิธีรับเหรียญจบลง ถึงเวลาซีบาลต้องตอบคำถามมากมายกับสื่อหลายแขนงจากทั่วโลก งานแถลงเป็นไปอย่างราบรื่น ขอบเขตของคำถามไม่ละลาบละล้วงหรือทำลายบรรยากาศจนเกินไป
แต่ยากเหลือเกินที่จะเรียกร้องมารยาทจากเหล่านักข่าวหิวกระหาย พวกมันเริ่มยิงคำถามที่ก่อให้เกิดความแตกแยก
"ผู้เล่นซีบาลครับ! ทำไมคุณถึงอัญเชิญเปกาซัสในนัดชิงชนะเลิศ หรือคุณมั่นใจว่าเอาชนะยูร่าได้โดยไม่ต้องใช้จักรกลเวทมนตร์"
ในรอบรองชนะเลิศ ซีบาลเผชิญหน้าคริสและอัญเชิญจักรกลเวทมนตร์ออกมาทันที แต่ในรอบชิงชนะเลิศแสนสำคัญ มันกลับใช้งานเปกาซัสก่อน จากนั้นจึงอัญเชิญจักรกลเวทมนตร์ในภายหลัง ส่งผลให้หลายฝ่ายเกิดคำถาม ซีบาลกำลังดูแคลนและเย้ยหยันยูร่างั้นหรือ
มันหวังเอาชนะยูร่าโดยไม่ต้องพึ่งพาจักรกลเวทมนตร์ใช่ไหม มันกำลังมองว่ายูร่ามีระดับต่ำกว่าคริส คลาสเกรดเลเจนดารีของยูร่าไม่ต่างจากกิ้งก่าได้พลอย และคำดูแคลนอีกมากมายที่ผู้คนพากันสงสัย
คำถามข้อนี้คาใจผู้คนจำนวนมากที่ชอบกดคนอื่นให้ต่ำลง พวกมันเย้ยหยันยูร่าว่าเธอไม่สมควรเป็นคู่ชิงชนะเลิศในปีนี้
ซีบาลหัวเราะแห้ง เป็นเสียงหัวเราะที่กำลังสมเพชใครสักคน
เป้าหมายของการสมเพชคือบรรดานักข่าวและผู้ชมทางบ้าน
"อาจมีคนฉลาดบางคนที่มองออกว่าเปกาซัสของผมมีคุณสมบัติดูดกลืนทรัพยากรของคู่แข่ง ผมใช้งานเปกาซัสเพื่อเล็งสยบความคล่องตัวของมิสยูร่าโดยเฉพาะ"
หรือสรุปก็คือ
"ผมไม่ได้ใช้เปกาซัสเพราะเธออ่อนแอ ตรงกันข้าม เพราะเธอแข็งแกร่งมาก ผมจึงถูกบีบบังคับให้ใช้เปกาซัสก่อน"
ซีบาลยกย่องยูร่าอย่างมาก มันกล่าวตามความจริงโดยมิได้แต่งเติม
บุคคลที่ก้าวมาถึงรอบชิงชนะเลิศการแข่ง PVP ได้ ทุกคนล้วนทรงพลังในแบบของตัวเอง
***
ทุกสิ่งจบลงแล้ว
เธอไม่ใช่ผู้เล่นยูร่า ไม่ใช่นักกีฬายูร่า ช่วงเวลาห้าปีที่ผ่านมาจบลงแต่เพียงเท่านี้
"…"
ยูร่ายืนดื่มด่ำกับอารมณ์หลากหลายที่กำลังถาโถม เธออยู่ในห้องน้ำตามลำพังโดยไม่เข้าร่วมงานแถลงข่าว เธอไร้เรี่ยวแรงที่จะกล่าวโทษความอ่อนแอของตัวเอง
'…เราหนีเงื้อมมือเขาไม่พ้นสินะ'
ยูร่ายังคงจำใบหน้าที่อ่อนโยนของบิดาได้ชัดเจน บิดาของเธอคือผู้ชายใจดีและอบอุ่น เขามักมีเวลาให้ครอบครัวเสมอ
ทว่า ปู่เธอของได้บีบบังคับให้พ่อเธอต้องละโมบและทะเยอทะยาน มันเป็นคำสั่งที่ของผู้นำตระกูลที่พ่อของเธอมิอาจขัดขืน คุณปู่สั่งให้ลูกชายของตัวเองละทิ้งครอบครัวและทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของวงศ์ตระกูล
ท้ายที่สุด บิดาของเธอเริ่มสูญเสียตัวตน เขาทำงานหนักเจียนตายและฝืนสวมหน้ากากที่ขัดกับธรรมชาติโดยสิ้นเชิง
ยูร่าเห็นใจบิดามาก แต่เธอพยายามไม่แสดงออก ยูร่าทราบดีว่า บิดาของตนไม่ต้องการให้บุตรสาวเห็นใจหรือสมเพช นั่นจะเป็นการลดทอนศักดิ์ศรี
ยูร่าจึงแกล้งไร้เดียงสามาตลอด เธอแสร้งปั้นยิ้มเพื่อคอยบรรเทาความเหนื่อยล้าหลังจากบิดากลับถึงบ้าน เธอคือเด็กที่ว่านอนสอนง่ายและไร้เดียงสา
กระนั้น บิดาของเธอยังคงพร่ำบอกอยู่เสมอ
"พ่อทำงานหนักเพราะต้องการให้ลูกเป็นอิสระ ไม่ใช่ทำงานหนักเพราะพ่อกลัวปู่"
"…"
"ยูร่า พ่อต้องการให้ลูกออกไปใช้ชีวิตบนเส้นทางที่ตัวเองเลือก พ่อจะปกป้องอิสระของลูกเอง"
เป็นสัญญาที่บิดามอบให้บุตรสาวตัวน้อยไร้เดียงสา
ความอบอุ่นของพ่อได้ประทับลงในใจยูร่าเสมอมา และมันยังคงอยู่แม้เธอจะสูญเสียพ่อและแม่ไปในอุบัติเหตุ
ยูร่าปรารถนาอิสระเพื่อให้ความฝันของพ่อเป็นจริง และนั่นเป็นราวกับวาสนาที่ฟ้าประทานให้เมื่อเธอได้พบกับซาทิสฟาย เธอมั่นใจว่าซาทิสฟายคือสิ่งที่นำพาตัวเองออกจากคุณปู่ได้อย่างแน่นอน
แต่ท้ายที่สุด ผลลัพธ์กลับไม่เป็นเช่นนั้น ยูร่าต้องมีชะตากรรมเดียวกับบิดาแทนที่จะได้เป็นอิสระตามที่ท่านต้องการ
ผ่านไปนานแค่ไหนแล้วนะ…
ยูร่าได้สติกลับคืนมาเพราะโทรศัพท์มือถือกำลังสั่น
ผู้โทรย่อมไม่ใช่ใครอื่นนอกจากคุณปู่เลือดเย็นและไม่รู้จักความห่วงใย ชายคนนั้นรู้จักการบีบบังคับและภาระหน้าที่
ปู่คงโทรมาบอกให้เธอรีบกลับเกาหลีใต้
"…! "
ยูร่าใช้แววตาปลาตายชำเลืองมองหน้าจอโทรศัพท์
ทันใดนั้น สีหน้าสตรีผู้งดงามพลันผงะ ยูร่ายืนแข็งทื่อเป็นรูปปั้นหิน ชื่อที่กำลังแสงบนหน้าจอไม่ใช่คุณปู่เลือดเห็น หากแต่เป็นชินยองวู…
บุรุษที่ไม่เคยมีการติดต่อส่วนตัวกันมาก่อนแม้จะรู้จักการนานกว่าสี่ปี ผู้ชายบัดซบคนนั้นมักแสดงท่าทีเป็นห่วงเธอบ่อยครั้ง แต่หมอนั่นกลับไร้หัวใจและเย็นชาต่อเธอเหนือคำบรรยาย
"…"
ยูร่าลังเลที่จะรับสาย
เธอกลัวว่าอารมณ์ของตนอาจดำดิ่งยิ่งกว่าเก่าหากรับสายกริดตอนนี้
มีเหตุผลเดียวที่กริดจะโทรหา คือเขาต้องการความช่วยเหลือจากเธอ
'เราไม่ได้อยู่ในจุดที่จะช่วยเอาได้อีกแล้ว'
บุคคลที่พึ่งพาได้—เฉกเช่นที่ยูร่ารู้สึกแบบนี้กับกริด เธอย่อมต้องการให้เขารู้สึกแบบเดียวกันกับเธอ ยูร่าเคยคิดจะช่วยเหลือกริดอย่างไร้เงื่อนไขต่อไปอีกแสนนาน
แต่ตอนนี้คงเป็นพลังใดให้เขาไม่ได้แล้ว
ขอเวลาสองวัน ไม่สิ วันเดียวก็พอ เธอต้องการเวลาสำหรับบริหารจิตใจตัวเอง
…นั่นคือความคิดในหัวยูร่า ณ ขณะนี้
"…สวัสดี"
แต่สัญชาตญาณและหัวใจมีพลังเหนือกว่าความคิด เธอเพียงต้องการได้ยินเสียงกริดโดยไม่สนผลลัพธ์ที่จะตามมา
สำหรับเธอ เสียงของกริดแฝงพลังแปลกประหลาดไว้เสมอ เมื่อใดก็ตามที่ได้ยิน ยูร่าจะรู้สึกกระปรี้กระเปร่ากว่าปรกติหลายเท่า
>> เธอเป็นอะไร
เสียงของบุรุษที่รอคอยดังขึ้น มันทั้งอบอุ่นและอ่อนโยนกว่าปรกติ
"…"
น้ำเสียงเย็นชาของยูร่าเริ่มถูกความอบอุ่นหลอมละลาย
ในวินาทีที่ได้ยินเสียงของเขาอีกครั้ง เธอก็ตระหนักได้ทันทีว่า บุคคลเดียวในโลกที่พึ่งพาได้คือกริด
>> บอกฉันมา เกิดอะไรขึ้นกับเธอ
"นายหมายความว่ายังไง"
>> เธอแปลกไปจากปรกติ เธอกำลังลำบาก อย่าได้คิดปิดบังจากฉัน
"…ฉันแปลกไปจากปรกติงั้นหรือ"
นับตั้งแต่แสร้งปั้นหน้าไร้เดียงสาเพื่อหลอกให้บิดาสบายใจ ยูร่าก็มั่นใจในฝีมือการแสดงของตัวเองมาตลอด แต่ภายในวันเดียว เธอกลับถูกจับผิดได้จากทั้งดาเมี่ยนและกริด
'ท่านพ่อ…'
ยูร่าถูกห้วงอารมณ์ซัดโถม
เธอรู้สึกผิดต่อบิดาที่จากไปโดยทราบมาตลอดว่าลูกสาวทั้งเป็นห่วงและสงสาร
บิดาของเธอจะเสียใจมากเพียงใดเมื่อเห็นบุตรสาวของตนคอยกังวลตลอดเวลา
ขณะน้ำตาเริ่มไหลริน เสียงของกริดดังแว่วอีกครั้งอย่างแข็งแรงและมุ่งมั่น
>> ฉันอยากช่วยเธอ ไม่สิ ฉันจะช่วยเธอให้ได้ เพราะอย่างนั้น ได้โปรดบอกกับฉันว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วฉันจะช่วยเธอยังไงได้บ้าง
"…ขอบคุณนะ"
ยูร่าสัมผัสได้ เธอและกริดมีหัวใจที่คล้ายคลึงกัน
ในยามที่กริดเดือดร้อน เธอจะยื่นมือเข้าช่วย และในยามที่เธอเดือดร้อน กริดก็ต้องการยื่นมือเข้าช่วยเหลือเช่นกัน แต่ในบางสถานการณ์ก็ไม่จบลงด้วยดีเสมอไป
เช่นตอนนี้
"ยองวู…"
>> ว่าไง
"ฉันต้องเลิกเล่นซาทิสฟายแล้ว"
>> …หือ
"ขอบคุณสำหรับทุกสิ่ง"
***
>> ลูกจะเลิกเล่นเกม!
นี่เคยเป็นผลโหวตอันดับหนึ่งเมื่อถามถึงถ้อยคำที่ผู้ปกครองต้องการได้ยิน
การเล่นเกมอย่างหักโหมจะเป็นอันตรายกับทุกคน ไม่ว่าใครก็ตาม ครอบครัวและเพื่อนฝูงมักดีใจเสมอหากได้ยินคนใกล้ตัวประกาศเลิกเล่นเกมอย่างเด็ดขาด
แต่หลังจากซาทิสฟายเปิดตัวมานานกว่าห้าปี สิ่งเหล่านี้เริ่มแปลงเปลี่ยนไป
ซาทิสฟายหมายถึงความมั่งคั่ง เกียรติยศ รวมถึงพลังอำนาจ
เป็นยุคสมัยที่ผู้ปกครองบอกกับบุตรหลานว่า 'ตั้งใจเล่นซาทิสฟายให้เก่งๆ นะลูก' และผู้ที่ทำให้เกิดยุคสมัยปัจจุบันไม่ใช่ใครอื่นนอกจากกริด
นั่นจึงทำให้กริดประหลาดใจมาก เขามิอาจยอมรับการเลิกเล่นซาทิสฟายของยูร่าได้
หากไม่นับความสัมพันธ์ส่วนตัว ยูร่าคือหนึ่งในยอดขุนพลที่อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ขาดไม่ได้ ถ้าไม่มีเธอแล้ว เกรงว่าโอเวอร์เกียร์ได้ประสบปัญหาใหญ่แน่
"จริงสิ…"
กริดสมองขาวโพลนไปชั่วขณะเมื่อหวนนึกถึงข่าวใหญ่ในเกาหลีใต้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ยูร่าคือหลานสาวของประธานใหญ่แห่งแดจินกรุป ในเนื้อข่าวกล่าวไว้ว่า ประธานลีจินเมียงมีแผนจะให้ยูร่าเป็นผู้สืบทอดกิจการ
กริดยังจำได้ด้วยว่าลอเอลหัวเสียกับข่าวนี้มาก เขากลัวว่าถ้ายูร่ากลับไปบริหารบริษัทจริง เธออาจไม่มีเวลามากพอสำหรับเล่นซาทิสฟาย
"…เป็นจริงจนได้สินะ"
แถมยังเป็นกรณีเลวร้ายสุดขีด เขาต้องทำอย่างไรดี…
ทันใดนั้น สมองกริดที่ฝืนประมวลผลอย่างหนักพลันต้องชะงัก ชายหนุ่มหวนนึกถึงคำพูดที่ยูร่ากล่าวกลับลอเอลหลังจากเธอได้ยินข่าว
'ถ้าจำไม่ผิด เธอเป็นคนบอกเองสินะ… ว่าจะไม่กลับไปสืบทอดกิจการอย่างเด็ดขาด'
ก่อนอื่นเลย กริดต้องการมั่นใจในบางเรื่อง เขาเรียกยูร่าพร้อมกับตั้งคำถามสองข้อ
"เธอจะกลับไปสืบทอดกิจการใช่ไหม นั่นคือสิ่งที่หัวใจต้องการรึเปล่า"
>> …
ปลายสายเงียบงัน
แต่ก็เพียงพอแล้วสำหรับกริด ชายหนุ่มกดวางสายพร้อมกับพิมพ์คำค้นหาลงในกล่องข้อความขาเข้า เมื่ออักษรตัวสุดท้ายถูกยืนยัน สิ่งที่เขาต้องการก็ปรากฏ
ข้อความจากแดจินมอร์เตอร์
(ดิฉันติดต่อคุณไม่ได้ จึงทิ้งข้อความนี้ไว้ ได้โปรดช่วยเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้กับผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่สุดหรูหราของแดจินมอร์เตอร์ด้วยค่ะ ดิฉินต้องการนัดพบและพูดคุยกับคุณ หากว่างแล้วกรุณาติดต่อกลับ
- ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ แดนจินกรุป ชเวจินกู)
"สวัสดี นั่นใช่ชเวจินกูรึเปล่า ผมกริดเอง ใช่แล้วครับ ผมอ่านแล้ว แต่ผมขอติดต่อกับท่านประธานโดยตรงได้ไหม"
ในฐานะราชาของอาณาจักรและช่างตีเหล็กในตำนาน กริดคือหนึ่งในบุคคลที่มั่งคั่งและทรงอิทธิพลของโลก
ในวินาทีนี้ ราชาโอเวอร์เกียร์จะแสดงให้ทุกคนได้เห็นถึงพลังทางการเมืองและเศรษฐกิจของตนบนโลกแห่งความจริง
***
"อะไรนะ กริดงั้นหรือ"
ประธานลีจินเมียงแห่งแดจินกรุปพลันประหลาดใจ
กริดไม่รับงานถ่ายแบบหรือโฆษณามานานกว่าสองปีแล้ว เขาความมั่งคั่งมากพอที่จะไม่แยแสเศษเงินเล็กน้อย
ในฐานะราชาแห่งอาณาจักร กริดย่อมแสวงหาเกียรติยศมากกว่าเงินทอง แทนที่จะออกสื่อและสิ้นเปลืองคุณค่าในตัวเอง กริดเลือกมุ่งมั่นการพัฒนาตัวละครภายในซาทิสฟายอย่างเอาเป็นเอาตาย
แต่ปัจจุบัน ชายคนนั้นกลับเสนอตัวเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้กับแดจินมอร์เตอร์ด้วยตัวเอง สิ่งนี้ถือเป็นโอกาสทางธุรกิจแสนสำคัญที่หาไม่ได้อีกแล้ว แดจินมอร์เตอร์จะได้เฉิดฉายและโด่งดังทั่วโลกภายในเวลาอันสั้น
'แต่ว่า…'
มีบางสิ่งสะกิดใจลีจินเมียง การติดต่อหาด้วยตัวเองของกริดคราวนี้ ไม่มีทางเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ธุรกิจเพียงอย่างเดียวแน่
แถมยังเป็นช่วงเวลาหลังจากยูร่าพ่ายแพ้ได้ไม่นาน
"…นึกว่าข่าวลือกับหลายสาวเราจะเป็นเรื่องไร้สาระซะอีก"
แน่นอนว่าลีจินเมียงเคยส่งคนสืบข่าวลือเกี่ยวกับกริดและยูร่าเมื่อหลายปีก่อน แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับเป็นเพียงข่าวลือไม่มีมูล
มาถึงตอนนี้ เขาเริ่มคิดว่ามันอาจเป็นไปได้
"บอกช่องทางติดต่อกับเขาไป… เดี๋ยวก่อน ฉันจะติดต่อไปหาเขาเอง ได้สนิทกับราชาโอเวอร์เกียร์ไว้ก็ไม่เลวนัก"
มาดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น ลีจินเมียงติดต่อกลับหากริดโดยไม่รีรอ
"ใช่ชินยองวูรึเปล่า ฉันคือลีจินเมียง ประธานใหญ่แห่งแดจินกรุป"
>> ยกหลานสาวคุณให้ผมได้ไหม
"…!! "
ประธานลีจินเมียงพลันลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้
หัวสมองประมวลผลอย่างรวดเร็วและช่ำชองในฐานะประธานกลุ่มบริษัทใหญ่ ลีจินเมียงกำลังชั่งน้ำหนักระหว่างการให้ยูร่ามาเป็นผู้สืบทอด และการให้กริดมาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์
สิ่งใดจะมอบผลลัพธ์ในอนาคตที่มีมูลค่าสูงกว่ากัน
บทสรุปออกมาอย่างรวดเร็ว ราชาโอเวอร์เกียร์มีคุณค่ามหาศาลชนิดที่ตัวมันก็มิกล้าประเมิน
"เอาฤกษ์วันไหนดี"
***
>> เอาฤกษ์วันไหนดี
กริดส่ายศีรษะ
'ตาแก่นี่ไม่มีความอดทนเลยแฮะ'
พวกเขายังไม่ได้ทำสัญญากัน แต่กลับถามถึงวันเวลาถ่ายโฆษณาแล้วเนี่ยนะ
ช่างเถอะ ก็แค่ตาแก่ละโมบคนหนึ่ง อย่างน้อยยูร่าก็มีโอกาสเล่นเกมต่อ
"วันเวลาให้คุณจัดการก็แล้วกัน ผมเชื่อใจท่านประธาน ขอสัญญาว่าจะทำสุดฝีมือ"
>> ฮะฮะ! ให้ฉันเป็นฝ่ายตัดสินใจฤกษ์แต่งงานสินะ! สมกับเป็นคนหนุ่มแห่งยุคสมัย
"…แต่งงานอะไร"
กริดพลันเย็นสันหลังวาบเมื่อถ้อยคำสุดเหลวไหลผุดขึ้นอย่างไม่มีปี่ปีขลุ่ย
ทำไมคนอื่นถึงเอาแต่เข้าใจเจตนาของเขาผิดอยู่เรื่อย… กริดอาศัยความช่ำชองไหวตัวทันว่ามีบางสิ่งกำลังดำเนินไปอย่างไม่ถูกต้อง
"เดี๋ยวก่อน คุณกำลังเข้าใจผิด"
>> เข้าใจผิดงั้นหรือ
"ผมไม่ได้จะแต่งงานกับเธอ ผมหมายถึง… ยูร่าต้องไม่ได้เป็นผู้สืบทอดคุณ"
>> …แล้วฉันจะได้อะไร
"สัญญาระยะยาวระหว่างผมกับแดจินกรุป"
กริดสัมผัสได้ว่าปลายสายสะดุ้งไปเล็กน้อย
ประธานลีจินเมียงเริ่มออกอาการลังเล แต่เพียงไม่นาน…
>> นายไม่สำคัญตนผิดไปหน่อยหรือ มูลค่าของนายในปีนี้ลดลงจากปีก่อนมาก นายไม่ได้เข้าร่วมการแข่งนานาชาติและเป็นดาราดังอีกแล้ว หากเป็นปีก่อนอาจยอมรับข้อเสนอ แต่สำหรับปีนี้ ฉันคงไม่ปล่อยยูร่าให้นายเพื่อแลกกับสัญญาระยะยาว
"แล้วถ้าหาก—"
>> …
"ถ้าหากผมได้รับความสนใจอย่างล้นหลามในการแข่งนานาชาติปีนี้ คุณจะมองมันใหม่รึเปล่า"
>> แน่นอน แต่นายไม่ได้ลงแข่งไม่ใช่รึไง มันสายไปแล้ว
"ราชาอสูร"
>> ราชาอสูรทำไม
"ผมคือราชาอสูร"
>> …!!
ประธานลีจินเมียงตกตะลึงจนหายใจติดขัด
กริดกล่าวต่อไปโดยไม่ทราบเลยสักนิดว่าปลายสายกำลังหน้าแดงก่ำพร้อมกับหายใจไม่ออก
"ผมจะเอาชนะการแข่งตะลุมบอนราชาอสูรพร้อมกับเปิดเผยตัวตนต่อหน้าคนทั้งโลก"
>> …!!
กริดไม่เปิดโอกาสให้ประธานลีได้พักหายใจ
หัวใจลีจินเมียงเกือบหยุดเต้น มันกำลังข้ามแม่น้ำแห่งความเป็นความตาย
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,342
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
เอาแล้ว จะผิดสัญญาหรือป่าว
ReplyDeleteทำไมไม่แต่งไปเลยยยยยยยยยย
ReplyDeleteอ้าว กริดผิดสัญญาแล้ว จะทำไงละเนี่ย
ReplyDeleteค้างงงง
ReplyDelete👍👍👍
ำระเอกก็คือพระเอกแหละน่า จะแพ้ได้ไง
ReplyDeleteมันส์แน่ๆ 400vs1 แล้วกริดก็จะได้ยูร่า แล้วจิสึกะก็จะพ่วงมาด้วยอีกคน ผู้ชายทั้งโลกคงอกแตกตายเพราะกริดอีกแล้ว 🤭🤭
ReplyDelete