จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 950



อาณาจักรโอเวอร์เกียร์—อาจเป็นเพียงอาณาจักรเล็กในซาทิสฟาย แต่หากเทียบกับโลกจริง ขนาดของมันจะใหญ่กว่าประเทศญี่ปุ่นเล็กน้อย


ยิ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์ ‘วิกฤติเฮ็กเซเทีย’ ประชากรอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ได้ทวีจำนวนขึ้นจนน่าตกใจ เศรษฐกิจภายในเริ่มพัฒนาอย่างก้าวกระโดด แถมยังผูกขาดตลาดช่างเหล็กทั่วโลกไว้เพียงผู้เดียว


ประเทศที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ถูกปกครองโดยผู้เล่นหนึ่งคน—ราชาโอเวอร์เกียร์


ในฐานะผู้นำสูงสุดของอาณาจักร กริดสามารถผูกขาดทรัพยากรภายในประเทศ รวมถึงการกระดิกนิ้วสั่งให้กองทัพเรือนแสนเคลื่อนพลได้ตามใจนึก นี่คือพลังอันยิ่งใหญ่ของผู้ครอบครองอาณาจักร ลำพังภาษีจากรายได้ประชาชนก็มากพอจะทำให้กริดมั่งคั่งในชีวิตจริง


ยิ่งเวลาผ่านไป รายได้กริดจะเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว


แดจินกรุปที่เป็นกลุ่มธุรกิจอันดับเจ็ดของเกาหลีใต้ พวกมันจะเฉิดฉายไปทั่วโลกหากได้รับความช่วยเหลือจากกริด


ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องจับมือเป็นพันธมิตรกับกริดให้ได้ ถ้าชายผู้นี้ยอมเป็นหน้าเป็นตาให้แดจิน ผลิตภัณฑ์ของพวกมันจะถูกจารึกลงในใจผู้เล่นซาทิสฟายหลายร้อยล้านทั่วโลกเหมือนกับโคเม็ทกรุป เครือแดจินกรุปจะยิ่งใหญ่อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน


นี่คือโอกาสที่พวกมันจะปล่อยให้หลุดลอยไม่ได้เด็ดขาด


ประธานลีจินเมียงได้สติกลับคืนมาจากอาการหายใจติดขัด มันส่งเสียงตอบกลับกริดที่รอฟังอยู่ปลายสาย


“เข้าใจแล้ว ฉันยอมรับข้อเสนอ หากนายคือผู้ชนะในการแข่งตะลุมบอนราชาอสูร พวกเราจะทำสัญญาระยะยาวกัน และฉันจะปล่อยยูร่าเป็นอิสระ”


มันคำนวณอย่างละเอียดและมั่นใจว่า ตัวตนของยูร่าไม่สำคัญเท่ากับน้ำหนักชื่อกริด หากราชาอสูรในปีนี้เป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ ผลประกอบการของแดจินจะรุ่งโรจน์ เครือธุรกิจทั้งหมดจะถูกยกระดับในพริบตา


ถึงจะไม่มียูร่า แต่มันยังเหลือตัวเลือกอื่นอยู่ ทายาทของบุตรสาวคนรองก็ไม่เลวนัก เสียอย่างเดียวที่ไม่ได้ใช้สกุลเดียวกัน


แต่หากมี ‘ออร่า’ นามว่ากริดคอยโอบล้อมแดจินกรุปไว้ มันก็ชั่งใจยอมให้หลานต่างสกุลขึ้นแท่นเป็นประธานใหญ่แทนได้


ลีจินเมียงกำลังยินดีและโล่งอก


“ว่าแต่…”


มันแสยะยิ้มอย่างพึงพอใจกับอนาคตอันสนใจของแดนจินกรุป จากนั้นก็ถามในสิ่งที่ค้างคาใจมานาน


“นายเป็นอะไรกับยูร่า”


กริดไม่มีวันทำถึงขนาดนี้หากยูร่าเป็นเพียงเพื่อนสนิททั่วไป ประธานลีจินเมียงมั่นใจว่ากริดและยูร่าต้องมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง


มันไม่ได้ยกยอสายเลือดตัวเองจนเอนเอียงออกนอกหน้า แต่ยูร่าคือสตรีที่งดงามที่สุดของโลกในเวลานี้อย่างแท้จริง แถมเธอยังฉลาดและเปี่ยมด้วยคุณธรรม จะมีชายใดไม่หลงรักสตรีเพียบพร้อมเช่นนี้บ้าง


ประธานลีฉีกยิ้มกว้างประหนึ่งอสรพิษขณะเฝ้ารอคำตอบจากกริด


>> เอ่อ… เธอเคยช่วยผมไว้หลายเรื่อง… แต่ผมก็ไม่รู้ว่าเธอคิดยังไงกับผมกันแน่


“ช่วยเรื่อง?”


>> พลังของยูร่าเป็นประโยชน์มากภายในเกม ส่วนในชีวิตจริง ผมไม่ค่อยได้สุงสิงกับใคร คนที่ปรึกษาได้จึงมีเพียงยูร่าเท่านั้น เธอช่วยผมในด้านจัดการภาษีและการสร้างอาคาร


“แล้ว?”


>> หือ?


“แค่นี้?”


>> ใช่…


“นายกับเธอเคยมีข่าวอื้อฉาวไม่ใช่รึไง ได้ยินมาว่า หลายของฉันพักอยู่บ้านนายหลายวัน”


แน่นอนว่าลีจินเมียงลงมือสืบทุกซอกมุมอย่างละเอียด ในการแข่งนานาชาติครั้งที่หนึ่ง ยูร่าพักอาศัยในบ้านกริดนานหลายวัน


อีกฝ่ายตอบกลับด้วยเสียงสั่นเครืออย่างลนลาน


>> ร…เรื่องนั้น! ไม่มีอะไรในกอไผ่แม้แต่นิดเดียว! ยูร่าเมามายไม่ได้สติ ผมจึงต้องพาเธอมาพักที่บ้าน ครอบครัวผมก็อยู่ที่บ้านด้วย ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแน่นอน! สาบานได้


“…!!”


ลีจินเมียงบีบกำโทรศัพท์ในมือแน่น มันกำลังโมโหอย่างชัดเจน


กริดเป็นไอ้ทึ่มขนาดนี้เชียว?


ประธานใหญ่อย่างมันไม่คาดคิดเรื่องนี้มาก่อน นับเป็นสิ่งที่คำนวณพลาดมหันต์


แต่ในเมื่อลั่นวาจารับปากไปแล้ว จะขอถอนคำพูดคืนก็คงไม่ใช่เรื่อง แล้วอีกอย่าง มูลค่าชื่อเสียงและพลังอำนาจกริดก็เป็นของจริง ชายคนนี้จะมีจุดบกพร่องให้ตำหนิบ้างก็นับว่าเหมาะสม


“เฮ่อ… เข้าใจแล้ว ขอให้นายโชคดีก็แล้วกัน ในวินาทีที่นายเปิดเผยตัวตนและกลายเป็นประเด็นร้อนแรงไปทั่วโลก ข่าวของนายต้องพัวพันกับการเซ็นสัญญาแดจินกรุป และช่วยจำเอาไว้หนึ่งเรื่อง นายต้องเฉลยความจริงในวินาทีที่คนทั่วโลกกำลังเฝ้ามองอย่างใจจดใจจ่อเท่านั้น”


>> ก็คิดจะทำแบบนั้นอยู่แล้ว


ข้อตกลงแรกบรรลุผล


รายละเอียดของสัญญาจะถูกกำหนดอีกครั้งหลังจากการแข่งตะลุมบอนราชาอสูรจบลง


***


“เธอทำได้เยี่ยมมาก!”


“เสียดายจัง…”


“แสดงความยินดีได้ห่วยแตกชะมัด! เหรียญเงินแล้วมันทำไม เธอคือที่สองของโลกเชียวนะ! ที่สอง! วู้วว~ เท่มากยูร่า”


“ฉันไม่ได้บอกว่าเหรียญเงินมันแย่ ที่บอกว่าแย่ฉันหมายถึง ยูร่าเก่งพอจะคว้าเหรียญทองได้ต่างหาก”


“นั่นสินะ ฝีมืออย่างเธอสามารถคว้าเหรียญทองได้สบาย”


ภายในห้องพักนักกีฬาทีมชาติเกาหลีใต้ พวกพ้องทุกคนรอต้อนรับยูร่าด้วยบรรยากาศอบอุ่น


การได้รับรับเหรียญเงินรายการ PVP ถือเป็นความใฝ่ฝันของแรงเกอร์หลายคนบนโลก แต่สมาชิกทีมเกาหลีใต้กลับมอบคำปลอบใจแทนที่จะแสดงความยินดี


พวกเขายกย่องและประเมินเธอไว้สูงถึงเพียงนั้น


“ไว้พยายามกันใหม่คราวหน้า!”


พีคซอร์ดกล่าวพลางฉีกยิ้มกว้าง


“ปีถัดไปยังปี ปีถัดไปของปีถัดไปก็ยังมี ต้องมีสักปีที่เธอทำสำเร็จแน่!”


ที่เขาพูดก็ไม่ผิดเสียทีเดียว แต่ยูร่าหมดโอกาสจะทำเช่นนั้นแล้ว


เธอไม่ใช่ผู้เล่นซาทิสฟาย ไม่ใช่นักกีฬาในปีถัดไป


ยูร่าทำเพียงฝืนยิ้มอย่างขื่นขม


[การแข่งตะลุมบอนราชาอสูรจะเริ่มขึ้นในอีก 20 นาที]


[ผู้เข้าแข่งทั้ง 400 คนกรุณารวมตัวที่ห้องพิเศษ]


[ขอทวนอีกครั้ง การแข่งตะลุมบอนราชาอสูรจะ…]


เสียงประกาศดังกังวานไปทั่วสนามแข่ง


ใกล้เข้ามาทุกขณะกับการแข่งตะลุมบอนราชาอสูรที่ทุกคนรอคอย มันคือประเภทการแข่งที่ยิ่งใหญ่และอลังการที่สุดของซาทิสฟายนานาชาติครั้งที่สี่ เป็นรายการชนิดใหม่ที่ให้นักกีฬา 400 คนร่วมมือร่วมใจปราบจอมอสูร


ถือเป็นครั้งแรกที่ผู้เล่นไม่ต้องห้ำหั่นกันเอง และสิ่งยังบอกเป็นนัยด้วยว่า ศัตรูต้องแข็งแกร่งในระดับที่ไม่มีใครจินตนาการได้ เป็นการแข่งที่มีระดับความยากสูงลิบลับ


แถมการแสดงเรียกน้ำย่อยได้เร้าอารมณ์ให้น่าตื่นเต้นมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว


ราชาอสูรแสดงฝีมือและความน่าเกรงขามจนหลายฝ่ายตกตะลึง ไม่ผิดนักหากจะกล่าวว่า ผู้ชมทั่วโลกรอลุ้นการแข่งสุดท้ายด้วยใจจดจ่อยิ่งกว่า PVP


“ป…ไปก่อนนะครับ!”


“ยูร่า เธอพักผ่อนเถอะ ถึงฉันจะไม่เก่งเท่าเธอ แต่สัญญาว่าจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเกาหลีใต้”


“เหรียญทองต้องเป็นของพวกเรา!”


โค้ก พีคซอร์ด และสวาปามจกบัลเผ็ดพวกเขาคือตัวแทนสามคนของประเทศเกาหลีใต้


ขณะทั้งสามกำลังเดินออกจากห้อง ยูร่ามองตามแผ่นหลังโค้กที่ออกการประหม่าด้วยแววตาสำนึกผิด


ด้วยเหตุผลส่วนตัว เธอจึงใช้รายการแข่งของตัวเองทั้งหมดเพื่อพิสูจน์ฝีมือ ยูร่าหวังเผชิญหน้าครอเกลในสองรายการนอกเหนือจาก PVP เพื่อพิสูจน์คุณค่าของตัวเองให้คุณปู่ได้เห็น


ดึงดาบอริยและชิงปราสาท


ในรายการแรก ครอเกลไม่ได้ลงแข่ง ยูร่าจึงคว้าเหรียญทองไปอย่างง่ายดาย ส่วนรายการที่สอง เธอกับโค้กไม่ได้แพ้ครอเกล แต่แพ้ในความบัดซบของเจ้ากลยุทธ์อย่างลอเอลขาดลอย


ส่งผลให้โค้กต้องลงแข่งในรายการสุดสำคัญอย่างตะลุมบอนราชาอสูรแทนยูร่า


ยูร่าแสดงสีหน้าหม่นหมองเมื่อเห็นโค้กวิตกกังวล เธอละอายใจที่อาศัยความเห็นแก่ตัวสร้างภาระหนักอึ้งให้โค้ก


ขณะยูร่ามีสีหน้าดำมืด ฝ่ามือของใครบางคนตบเข้าที่หัวไหล่อย่างอ่อนโยน เป็นมือของสตรีในชุดฮันบก วีโอล่า


“ใจดีจังเลยนะ ทำไมต้องแบกรับทุกสิ่งไว้คนเดียวด้วย”


“ฉันไม่ได้ใจดี… เห็นแก่ตัวต่างหาก”


“ไม่เลย เธอใจดีกว่าใคร เธอต่อสู้ตามลำพังในงานแข่งปีแรกโดยที่คนอื่นหันหลังหนีจากประเทศ เธอพยายามเพื่อคนอื่นมามากแล้ว ไม่มีเหตุผลให้ใครหนึ่งคนต้องแบกรับความคาดหวังของชาวเกาหลีไว้ตามลำพัง คนเราต้องมีความปรารถนาส่วนตัวสักอย่างสองอย่างอยู่แล้ว ไม่มีเหตุผลให้ต้องรู้สึกผิดเลยสักนิด… เธอเนี่ย สมบูรณ์แบบจังเลยนะ”


“…”


ยูร่าผ่อนคลายลงเล็กน้อย


ที่วีโอล่าพูดก็ไม่ผิด เธอไม่จำเป็นต้องแบกรับทุกอย่างตามลำพัง เพียงถ้อยคำไม่กี่พยางค์กลับช่วยบรรเทาความหม่นหมองลงได้


ยูร่าตัดสินใจหยุดพักทุกสิ่งไว้เพียงเท่านี้ ขณะเธอเตรียมนอนเอาแรง โทรศัพท์มือถือเกิดดังขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย


ยูร่านึกว่าเป็นสายจากคุณปู่ แต่ชื่อบนหน้าจอกลับเป็นชินยองวูอีกครั้ง


“…ฮัลโหล”


>> อย่าได้กะพริบตาแม้แต่วินาทีเดียว


“นายหมายถึงอะไร”


>> การแข่งตะลุมบอนราชาอสูร


“…!”


>> ใครบางคนกำลังสู้เพื่อปกป้องเธอ


“เอ๋?”


>> ไปก่อนนะ แล้วเจอกัน


“ฮัลโหล! ยองวู! หมายความว่ายังไง!”


เธอพยายามส่งเสียงเรียก แต่ก็เปล่าประโยชน์ ชินยองวูวางสายเรียบร้อยแล้ว


ยูร่าเหลือบมองภาพหน้าจอการแข่งด้วยนัยน์ตาที่สั่นระริก


***


เวทีการแข่งตะลุมบอนราชาอสูรถูกเผยออกให้ทุกคนได้เห็น มันคือปราสาทหลังใหญ่ที่มีกำแพงล้อมรอบเป็นวงกลมพร้อมด้วยประตูปานใหญ่สี่ทิศ


『ประตูทางเข้ามีสี่ทิศนะครับ! ประกอบด้วยทิศเหนือ ทิศใต้ ตะวันออก และตะวันตก ผู้พิทักษ์ประตูทั้งสี่ทิศคือสี่ราชันสวรรค์ครับ! 』


ขนาดของปราสาทเรียกได้เต็มปากว่ามหึมา กำแพงหินล้อมรอบสูงตระหง่าน ประตูแต่ละทิศจึงมีขนาดใหญ่ตามไปด้วย


ประตูทุกบานที่สี่ราชันคอยอารักขาจะมีความสูง 20 เมตรและกว้าง 40 เมตร บานประตูจะไม่เปิดออกจนกว่าผู้พิทักษ์ล้มลง


『จากบรรดาผู้เล่นทั้ง 400 คน พวกเขาจะถูกแบ่งออกเป็นสี่ทีม ทีมละ 100 คนเพื่อล้มสี่ราชันสวรรค์ ในวินาทีที่สี่ราชันสวรรค์ถูกจัดการจนหมด ประตูบานสุดท้ายด้านในจะเปิดออก ทางเดินยาวภายในปราสาทในจะนำพาทุกคนไปสู่ห้องราชาอสูร』


『ต้องแยกกันเท่านั้นหรือครับ ทั้งสี่ร้อยคนสามารถรวมเป็นกลุ่มเดียวและไล่ถล่มสี่ราชันสวรรค์ทีละคนได้หรือไม่』


『ไม่ได้ครับ ประตูแต่ละทิศถูกออกแบบให้เป็น ‘ดันเจี้ยนส่วนตัว’ ที่เข้าร่วมพร้อมกันได้เพียง 100 คน』


『หืม… จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหนึ่งในประตูสี่บานไม่ถูกโค่นครับ』


『ทีมที่โค่นประตูบานอื่นเสร็จสามารถโยกมาช่วยได้ครับ』


『แล้วนักกีฬาที่เสียชีวิตจะถูกตัดสิทธิ์ทันทีเลยรึเปล่าครับ』


『ไม่ครับ พวกเขาจะตายอยู่เช่นนั้น และคืนชีพใหม่อีกครั้งเมื่อประตูทั้งสี่บานถูกเปิดครบ』


『หมายความว่า จะไม่มีใครถูกส่งออกจากสนาม นอกเสียจากทั้ง 400 คนจะพ่ายแพ้ใช่ไหมครับ』


『ถูกต้องครับ ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด กติกายังคงกำหนดให้ผู้เล่นได้ต่อสู้กับราชาอสูรแบบ 1 ต่อ 400 แม้ฝ่ายผู้เล่นจะมิอาจโค่นสี่ราชันสวรรค์ครบในท้ายที่สุด』


สิ่งนี้ย่อมหมายความว่า ราชาอสูรต้องเก่งบัดซบเป็นแน่แท้


ผู้เล่นหลายคนเริ่มประเมินให้ฝีมือของราชาอสูรแข็งแกร่งยิ่งกว่าจอมอสูรของซาทิสฟาย ไม่เพียงเท่านั้น ราชาอสูรยังแสดงพลังอันน่าทึ่งในรอบเรียกน้ำย่อย มันมีความสามารถในการสลายเวทมนตร์และสะท้อนกลับคืนใส่ผู้ใช้งาน


บ่งบอกเป็นนัยว่าเวทมนตร์จะไร้ประโยชน์เมื่ออยู่ต่อหน้าสัตว์ประหลาดตนนี้


ผู้เล่นแปดสิบจากสี่ร้อยจะกลายเป็นเพียงตัวประกอบทันที เหล่าจอมเวททั้งแปดสิบคนต่างส่งเสียงทักท้วงผู้จัดงานอย่างโกรธแค้น


“ในงานแข่งที่ใหญ่และสำคัญแบบนี้ ทำไมพวกมันถึงต้องลิดรอนสิทธิ์ของคลาสใดคลาสหนึ่งเป็นพิเศษด้วย!”


“จะไม่ให้จอมเวทได้รางวัลเลยรึไง!”


ในห้องรับรองพิเศษของนักกีฬาเข้าแข่งตะลุมบอนราชาอสูร กอช่าและจอมเวทอีกกว่าแปดสิบคนต่างรวมตัวประท้วงทีมงาน


แต่เจ้าหน้าที่การแข่งยังคงยืนกรานว่าไม่มีการลิดรอนสิทธิ์เกิดขึ้น ทีมงานเอาแต่กล่าวซ้ำไปซ้ำมาเช่นนี้จนเหล่าจอมเวทเริ่มมีน้ำโห


“ค*ย! เมื่อไรจะมีเกมใหม่ออกมาสักที ทนไม่ไหวแล้วโว้ย!”


หลายคนสบถอย่างหัวเสียโดยไม่แยแสสายตาคนรอบข้าง


ท่ามกลางบรรยากาศชวนอึดอัด ใครบางคนเริ่มครุ่นคิดถึงความเป็นไปได้


“บางทีสี่ราชันสวรรค์อาจอ่อนแอต่อเวทมนตร์ การที่ราชาอสูรจะมีค่าต้านทานเวทมนตร์สูงย่อมไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ระบบอาจบีบบังคับให้ต้องใช้จอมเวทในการเอาชนะรอบสี่ราชันสวรรค์”


“สี่ราชันสวรรค์ก็มีเหรียญรางวัลให้ครอบครอง เวทีของจอมเวทอาจเป็นรอบสี่ราชันสวรรค์มากกว่าราชาอสูร”


“แล้วพวกเราจะทำยังไงกับราชาอสูร”


“นายไม่รู้รึไงว่าบอสพิเศษเกือบทุกตัวจะมีระบบ ‘ร่าง’ เมื่อพลังชีวิตลดถึงจุดหนึ่ง ส่วนมากจะเปลี่ยนร่างให้มีพลังโจมตีเพิ่มขึ้นแต่แลกมากับค่าพลังป้องกันที่ลดลง ราชาอสูรเองก็เหมือนกัน มันอาจสูญเสียค่าต้านทานเวทมนตร์ในบางร่าง”


“หืม…”


สมกับเป็นแรงเกอร์ระดับท็อป ถ้อยคำวิเคราะห์ของพวกเขาล้วนมีเหตุมีผล เหล่าจอมเวทเริ่มสงบจิตใจที่ฟุ้งซ่านลง


‘ก็ได้…! พวกเราจะเป็นดาวเด่นในรอบสี่ราชันสวรรค์!’


‘นี่คือโอกาสทองในการได้เป็นดาราดัง!’


***


“โยะโฮะโฮะ!”


จอมเวทปฐพีแรงค์หนึ่งของโลก กอช่า มันอยู่ในกลุ่ม B ซึ่งได้รับหน้าที่ถล่มประตูทิศตะวันตก กอช่ากำลังหัวเราะอย่างมีความสุขหลังจากเห็นคู่ต่อสู้ในคราวนี้เต็มสองตา


สาเหตุเพราะ หนึ่งในสี่ราชันสวรรค์ที่มันต้องเผชิญ รูปลักษณ์และบรรยากาศรอบตัวเธอไม่ค่อยน่าเกรงขามสักเท่าไร


สี่ราชันสวรรค์ประตูทิศตะวันตกเป็นสตรีนักรบ เธอยืนโดดเดี่ยวลำพังหน้าประตูบานใหญ่ บริเวณดวงตามีผ้าสีดำคาดปิดสนิท


แต่ไอเท็มส่วนใส่กลับไม่เหมาะสมกับตำแหน่งราชันสวรรค์เลยสักนิด แม้จะเป็นหญิงสาว แต่หล่อนดันสวมเกราะหนักรุ่มร่ามและมิดชิดทั่วทั้งตัว


บนศีรษะเป็นหมวกเหล็กที่ยาวลงไปปกปิดลำคอ ชุดเกราะตัวใหญ่และหนา แผ่นเหล็กยื่นยาวลงไปปิดถึงต้นขา รวมถึงรองเท้าที่เหล็กยาวจนคลุมขึ้นมาถึงหัวเข่า


บริเวณที่เนื้อหนังถูกเผยมีเพียงริมฝีปาก คาง และฝ่ามือเล็กน้อย นับเป็นการเมินเฉยต่อ ‘กฎเหล็ก’ ของเกมออนไลน์ ที่ตัวละครหญิงจะมีค่าพลังป้องกันเพิ่มขึ้นตามชุดเกราะที่เปิดเผยเนื้อหนังมาก


ตัวตนเทอะทะเกะกะเช่นนี้พบได้ตามหมู่บ้านเริ่มต้นของมือใหม่เท่านั้น


“แค่ดูก็รู้แล้วว่าอ่อนแอ”


“ห้ามประมาทเด็ดขาด หล่อนเป็นถึงราชันสวรรค์ของไอ้ราชาอสูรเสียสตินั่น”


“ไม่ต้องห่วง สี่ราชันสวรรค์อ่อนแอกว่าราชาอสูรแน่นอน จานหลักอยู่ที่ราชาอสูรต่างหาก ผู้เฝ้าประตูเป็นได้แค่ตัวประกอบ”


กอช่าแสนมั่นใจเสียเต็มประดา มันเคยต้องอับอายในการแสดงเรียกน้ำย่อยมาแล้ว จึงไม่แปลกที่รีบร้อนต้องการกอบกู้ชื่อเสียงกลับคืน


“ไปเลย! หัตถ์ยักษาาาา!”


ฝ่ามือทรายขนาดยักษ์ที่คล้ายคลึงกับมังกรไฮดร้าห้าหัวได้ตะปบใส่ราชันสวรรค์เข้าอย่างจัง


เกิดเสียงทรายปะทะโลหะดังกังวานไปทั่วสมรภูมิ


“โอ้…!”


“ได้ผลรึเปล่า”


นักกีฬากลุ่ม B ต่างพากันเฝ้ามองฝุ่นทรายที่คละคลุ้งด้วยสีหน้าคาดหวัง


แต่เมื่อความวุ่นวายเริ่มซาลง พวกเขาได้เห็นราชันสวรรค์กำลังยกโล่ใหญ่เป็นกำบัง หัตถ์ยักษาของกอช่าถูกโล่พิสดารสลายพลังทำลายไปเกือบทั้งหมด


“…กระจอกชะมัด”


สายตาของนักกีฬากลุ่ม B ต่างเหลือบมองกอช่าอย่างผิดหวังและเหนื่อยหน่าย


นัยน์ตาของกอช่ากำลังสั่นระริกจากข้อความระบบที่มันไม่คาดฝัน


[เป้าหมายปกป้องเวทมนตร์เกือบสมบูรณ์]


[เป้าหมายได้รับความเสียหาย 12,090 หน่วย]


แค่หมื่นกว่าเนี่ยนะ?


เวทมนตร์ท่าไม้ตายของมันที่สามารถถล่มบอสใหญ่ได้ราวห้าแสนหน่วย…


‘ไหนว่าราชันสวรรค์แพ้เวทมนตร์ไง’


บัดซบ!


‘ไม่ใช่ว่าค่าพลังป้องกันจะเพิ่มตามการเผยเนื้อหนังของชุดเกราะรึไงฟะ!’


กอช่ารู้สึกไม่เป็นธรรม


ขณะเดียวกัน ได้เวลาที่สตรีนักรบเกราะหนักต้องเอาจริงบ้างแล้ว


หนึ่งในสี่ราชันสวรรค์ที่ชื่อตัวละครเหนือศีรษะเขียนไว้ว่า ‘เบนซ์’ เธอทำการชักดาบยาวออกมาถือ มันเป็นดาบยาวสีแดงระยิบระยับที่งดงามเช่นเดียวกับริมฝีปากสีแดงสดของเธอ



▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬

ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน

ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,343

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/


Comments

  1. อัศวินในตำนานสินะ

    ReplyDelete
  2. มาแล้วหญิง​เดี่ยวในทีม

    ReplyDelete
  3. 55555จากเมอเซเดสเป็นเบนซ์555555 เมอเซเดสเบนซ์555555
    คนเขียนอย่างกวน

    ReplyDelete
  4. ขอบคุณ​มาก​ครับ​☺️

    ReplyDelete
  5. หวังว่าชื่อปิอาโร่ควไม่ใช้โจ๊กเกอร์น่ะ

    ReplyDelete
  6. คือมีผมคนเดียวรึป่าวที่สงสัย คือมันมีตอนนึงครับบอกว่า ในการแข่งปีหน้าต่อจากนี้(กำลังจะแข่งปีที่2) เกาหลีใต้จะมีนักบุญหญิง รูบี้ ลงแข่งด้วย ซึ่งผมก็ยังไม่เห็นรูบี้จะลงแข่งสักทีเลย

    ReplyDelete
    Replies
    1. คนเขียนลืมแหละ

      Delete
    2. ผมก็ว่างั้นลืมแน่เลย

      Delete
    3. ตอนนี่เซฮียังไม่ได้เล่นแบบเต็มตัวและเลเวลยังน้อย ตอนก่อนแข็งก็มีบอกนะ ตอนคุยกับกริดเรื่องชุดพละเก่า

      Delete
  7. เอาจริงๆจะมีคนผ่านไปได้หรอ มีทั้ง ปิอาโร่ เมอเซเดส อัสโมเฟล โนล์ 100-1 ไม่ใช่ปัญหาของบริวารกริดเลย

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00