จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 948
[ระบบทำการปิดโหวตจากผู้ชม!]
[ผู้ชนะการโหวตคือ ‘ราชาอสูร’]
“อะไรนะ! นี่มันเรื่องเหลวไหลอะไรกัน”
เป็นข้อความระบบสุดบัดซบ นักกีฬาบางคนถึงกับสบถหยาบคาย
“ไอ้สัตว์ประหลาดนั่นอยู่ในรายชื่อการโหวตด้วยเนี่ยนะ มันสมเหตุสมผลแล้วหรือ พวกผู้จัดงานคิดปั่นหัวเราเล่นรึไง”
“นี่ล่ะน้า… นิสัยที่แท้จริงของ SA กรุป พวกมันไม่อยากมอบรางวัลให้ผู้เล่นยังไงล่ะ ถึงได้มีตัวเลือกราชาอสูรไว้ในการโหวต”
พวกมันคือเหล่าหัวกะทิที่เป็นตัวแทนทีมชาติ ไม่มีใครต้องการแสดงกิริยาหยาบคายต่อหน้าคนทั่วโลก
แต่สำหรับสถานการณ์เมื่อครู่ ไม่แปลกเลยที่จะมีสักคนหรือสองคนหลุดสบถออกมาอย่างหัวเสีย
ราชาอสูรไม่ใช่ผู้เล่น ไม่ควรมีรายชื่อในการโหวต และหากพวกมันทราบมาก่อนว่าราชาอสูรถูกโหวตได้ ผู้เล่นส่วนใหญ่คงไม่นิ่งนอนใจและปล่อยให้ราชาอสูรแสดงฝีมือฝ่ายเดียว
นี่คือมุมมองจากผู้เข้าแข่งส่วนใหญ่ พวกมันพยายามประท้วงให้ไม่นับเสียงโหวตของราชาอสูร
แต่ทาง SA กรุปได้ออกมาตอบโต้ว่า
“พวกเราไม่เคยระบุว่าตัวเลือกการโหวตจะมีเฉพาะผู้เล่น”
สมกับเป็นการกระทำจาก SA กรุป หากเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับซาทิสฟาย พวกเขาจะอ้างกฎเกณฑ์อันเด็ดขาดและทำตัวเป็น ‘กำแพง’ ที่ไม่ให้ผู้อื่นก้าวข้าม
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อผู้เล่นหลายคนใจเย็นลง พวกเขาเริ่มมองว่าสถานการณ์เช่นนี้ค่อนข้างน่าพึงพอใจ
การที่ไม่มีใครได้รางวัลไปเลย ย่อมดีกว่าให้คนที่แข็งแกร่งอยู่แล้วได้รับรางวัลและติดปีกโบยบิน
ขณะเดียวกัน คนรอบข้างเริ่มหันมาสนใจครอเกล อริยดาบกำลังยืนครุ่นคิดบางสิ่งด้วยสีหน้าดำมืด ประหนึ่งเขามิได้สนใจรางวัลแม้แต่น้อย
***
“ขอบคุณที่ร่วมมือเป็นอย่างดี”
ยุนนาฮีกล่าวทักทายกริดทันทีที่เขากลับมาถึงห้อง เธอไม่คิดว่ากริดจะแสดงฝีมือโฉ่งฉ่างเตะตาผู้คนเช่นนี้
สลายเวทมนตร์และสะท้อนกลับไป… กริดเริ่มตั้งข้อสังเกตว่า ทาง SA กรุปอาจแทรกแซงอัตราการแสดงผลของทักษะ ‘ถอดรหัสเวทมนตร์’ ของคลาสรอง ‘ดยุคแห่งปัญญา’ เพราะในความเป็นจริง คำอธิบายระบุไว้ชัดเจนว่า มีโอกาสเพียง 50% และ 4% ที่จะสลายและสะท้อนเวทมนตร์ของศัตรูกลับไป
มันคือตัวเลขที่น้อยเกินกว่าจะแสดงผลในครั้งแรกที่ปรากฏตัว
‘หรือจะเป็นเรื่องของดวง’
ไม่แน่ว่า การแสดงผลของพลังสุดโกงอาจมีสาเหตุมาจากค่าความโชคดี
กริดครุ่นคิดเล็กน้อยว่าตนควรเอาดีด้านโชคลาภในอนาคตหรือไม่ ขณะเดียวกันก็หันไปถามยุนนาฮี
“ว่าแต่ ผู้คนจะไม่สงสัยเอาหรือ ที่มีรายชื่อของราชาอสูรในการโหวตด้วย”
“สงสัยว่าอะไร”
“ราชาอสูรอาจเป็นผู้เล่น”
“คงยากที่จะให้คนทั่วไปเชื่อว่าสัตว์ประหลาดตนนั้นคือผู้เล่น คุณลองนึกดูสิ… ใครจะไปคิดว่า เป้าหมายการรุมยำเท้าจากแรงเกอร์แถวหน้าของโลกกว่าสี่ร้อยคน แท้จริงแล้วจะเป็นผู้เล่นเพียงคนเดียว”
แถมกริดยังห่อหุ้มด้วยรูปลักษณ์ของราชาอสูร รวมถึงไอเท็ม สัตว์เลี้ยง และทักษะ ทั้งหมดล้วนมีเอฟเฟคที่แตกต่างออกไป แม้แต่คำอธิบายรายละเอียดและเสียงประกอบก็ไม่เหมือนเดิม
สายฟ้าที่ราชาอสูรใช้ก็มีแสงและเสียงแตกต่างจากเขตแดนอัสทารอธของกริด ตัวอย่างเช่น ลาวาระอุบนพื้นและเมฆคำรามบนท้องฟ้า
ไม่ที่ทางที่ผู้คนจะเชื่อมโยงความเกี่ยวข้องระหว่างราชาอสูรกับกริดได้ โดยเฉพาะพลังใหม่แกะกล่องอย่างการสะท้อนเวทมนตร์ที่ไม่มีใครเคยรับรู้มาก่อน
“ได้ยินแบบนี้ค่อยเบาใจ”
กริดนั่งเอนหลังลงบนโซฟาใหญ่ตัวเดิมด้วยท่าทีผ่อนคลาย
การแข่ง PVP รอบรองชนะเลิศกำลังจะเริ่มขึ้น
**
มีทั้งหมด 125 ประเทศที่เข้าร่วมการแข่งซาทิสฟายนานาชาติครั้งที่สี่ เป็นจำนวนผู้เข้าแข่งที่มากกว่าปีใดทั้งหมด
จำนวนรายการแข่งมีมากถึง 53 ชนิด เผยให้ทั่วโลกได้ให้เห็นอัจฉริยะจากทุกศาสตร์แขนงอย่างเต็มสองตา
และผลลัพธ์จนถึงปัจจุบันก็คือ…
[อันดับเหรียญรางวัลรวม]
(ทอง - เงิน - ทองแดง)
1. สหรัฐ (9 - 17 - 11)
2. จีน (7 - 5 - 7)
3. แคนาดา (7 - 4 - 4)
4. รัสเซีย (6 - 2 - 1)
5. สหราชอาณาจักร (6 - 1 - 5)
6. เกาหลีใต้ (6 - 1 - 1)
7. ญี่ปุ่น (3 - 3 - 4)
8. อินเดีย (3 - 2 - 3)
9. บราซิล (1 - 1 - 0)
10. สเปน (1 - 0 - 1)
…
…
ความองอาจและยิ่งใหญ่ของทีมสหรัฐกำลังปรากฏสู่สายตาคนทั่วโลก ทีมสหรัฐประกอบด้วยผู้เล่นระดับอัจฉริยะมากมาย พวกเขาเก็บกวาดเหรียญรางวัลในแทบทุกรายการที่ลงแข่ง
และที่น่าทึ่งกว่านั้น นี่ยังไม่ใช่ชุดนักกีฬาที่ดีที่สุดของทีมสหรัฐ สัตว์ประหลาดหลายตนยังเร้นกายซุ่มเงียบในเงามืด
ทีมสหรัฐคว้าเหรียญรางวัลได้เป็นกอบเป็นกำทั้งที่พวกเขาไม่มีฮูเร็น บ็อกซ์ หรือแม้กระทั่งอาสึกะ
สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่รอบคัดเลือกนักกีฬามหาโหดที่สุด และมีผู้ตกรอบจำนวนมากที่สุด ชนิดที่นักกีฬาเกาหลีใต้ไม่มีวันจินตนาการออก
『มาถึงจุดนี้ ผมได้ตระหนักอย่างแท้จริงแล้วว่า ราชาโอเวอร์เกียร์นั้นยอดเยี่ยมมากเพียงใด』
『ใช่แล้วครับ กริดคือบุคคลที่เคยแบกทีมเกาหลีใต้โค่นล้มสัตว์ประหลาดนามว่าสหรัฐลงได้』
『การได้เห็นทีมสหรัฐประสบความสำเร็จในทุกรายการเช่นนี้ ผู้คนทั่วโลกคงคิดถึงกริดไม่น้อยทีเดียวครับ』
『 ฮะฮะ! แต่ถึงอย่างก็เถอะครับ ทีมสหรัฐยังไม่ใช่เจ้าเหรียญทองอย่างเป็นทางการ ยังเหลือเหรียญรางวัลจาก PVP และการแข่งตะลุมบอนราชาอสูรอยู่อีก 』
『โดยเฉพาะตะลุมบอนราชาอสูรที่มีเหรียญรางวัลให้จับจองมากถึงสิบห้าเหรียญ! โดยห้าจากสิบห้าเป็นเหรียญทองแสนสำคัญ ทีมสหรัฐจึงยังวางใจไม่ได้เด็ดขาดครับ อันดับตารางคะแนนสามารถเปลี่ยนแปลงได้ทุกเมื่อ… ขณะที่ผมกำลังพูด นักกีฬา PVPได้เดินเข้ามาในสนามแล้วครับ』
『ถัดจากการแสดงเรียกน้ำย่อยสุดระทึก ถึงเวลาของการแข่ง PVP รอบรองชนะเลิศแล้วครับ! 』
***
“แข็งแกร่ง”
นี่คือความรู้สึกที่เรกัสบอกกับทุกคนหลังจากตกรอบแปดคนสุดท้าย
เขาไม่พยายามหาข้ออ้าง เรกัสยอมรับตามตรงว่าซีบาลแข็งแกร่งกว่าตน
‘อีกฝ่ายต้องเก่งกาจระดับเฟคเกอร์… ถึงทำให้เรกัสยอมรับด้วยตัวเองเช่นนี้’
คริสขมวดคิ้ว
ซีบาลคือสัตว์ประหลาดที่รั้งอันดับสองของโลกตลอดสามปีแรกที่ซาทิสฟายเปิดตัว
มันมีฝีมือมากพอจะเป็นหัวของกลุ่ม ‘เจ็ดกิลด์ใหญ่’ ที่เกรียงไกรในช่วงต้น และหากเป็นด้าน PVE ซีบาลจะแข็งแกร่งไม่แพ้ครอเกลที่ถูกยกย่องให้เป็นฟ้าเหนือฟ้า
ซีบาลอาจถูกประเมินไว้ต่ำในด้าน PVP แต่นั่นไม่ใช่ความจริงทั้งหมด
ในการแข่งซาทิสฟายนานาชาติครั้งที่สอง ซีบาลได้พิสูจน์แล้วว่ามันมีฝีมือด้าน PVP เหนือมาตรฐานมาก เพียงแต่ด้วยธรรมชาติของคลาสที่ไม่โดดเด่น ส่งผลให้มันถูกกริดฆ่าตายในพริบตา หรือแม้กระทั่งถูกครอเกลถล่มทีมสหรัฐจนราบคาบตามลำพัง
ซีบาลได้รับฉายากระสอบทราบนับแต่นั้นเป็นต้นมา
“…นายกลับมาเกิดใหม่อีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่”
คริสยืนฉีกยิ้มบนเวทีลานประลอง
แม้ความสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอาจไม่ลงรอยกัน แต่คนทั้งสองก็อยู่ในยุคสมัยเดียวกัน คริสจึงรู้สึกทึ่งที่ซีบาลกลับมาได้อีกครั้งพร้อมกับประสบความสำเร็จ สิ่งนี้กระตุ้นต่อมความตื่นเต้นของคริสไม่น้อย
“สองปีที่ผ่านมา… นายคงเหนื่อยเจียนตายเลยสินะ”
“อา… เกือบตายก็หลายครั้งอยู่”
“…!”
คริสทึ่งเมื่อซีบาลยอมรับตามตรง
เขาไม่คิดว่าคนโอหังอย่างซีบาลจะยอมรับว่าตัวเองใช้ความพยายามอย่างหนักเพื่อฝ่าฟันอุปสรรค คริสนึกว่าซีบาลจะปฏิเสธไปพร้อมกับการโอ้อวด
ซีบาลยักไหล่
“ฉันไม่ใช่อัจฉริยะเหมือนกริดและครอเกล ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพยายามอย่างสุดความสามารถ ตลอดสองปีที่ผ่านมา ฉันปล่อยวางศักดิ์ศรีและเริ่มต้นทุกสิ่งจากศูนย์ ถึงจะสกปรกเปรอะเปื้อนไปบ้าง แต่ก็ต้องอดทนฝ่าฟันให้ได้”
“นายเปลี่ยนไปมากเลย”
“ใช่แล้ว ฉันเปลี่ยนไป และจะยิ่งเปลี่ยนมากกว่านี้ในอนาคต… พวกเราจบบทสนทนาไร้สาระกันดีกว่า ฉันอยากซัดราชาอสูรใจแทบขาดแล้ว”
ซีบาลทำการอัญเชิญพาหนะ
ไม่ใช่ฮิปโปสองหัวที่ใช้ในรอบ 64 หรือ 32 และไม่ใช่เปกาซัสที่ใช้ในการโค่นเรกัสจากรอบที่แล้ว
…มันคือยานพาหนะไร้ชีวิตที่ขยับเขยื้อนตัวเองไม่ได้
“หุ่นยนต์…!”
รอยแยกมิติปรากฏขึ้นด้านบนท้องฟ้าพร้อมกับหุ่นยนต์สีขาวที่หิวกระหายมานา
ชื่อเหนือศีรษะเขียนไว้ว่า ‘ไรเดอร์ส’ เขาสีทองสองข้างกำลังส่องแสง สิ่งนี้คือของวิเศษดึกดำบรรพ์ซึ่งเป็นตำนานเก่าแก่ภายในซาทิสฟาย…
จักรกลเวทมนตร์
ทั้งผู้ชมนับแสนในสนาม พิธีกรช่องหลัก รวมถึงผู้ชมจากทั่วทุกมุมโลก พวกเขาต่างอ้าปากค้างอย่างมิอาจหุบลง
เป็นความตกตะลึงยิ่งกว่าเมื่อครั้งราชาอสูรปรากฏกายเสียอีก
“อย่างน้อย… ฉันขอแข็งแกร่งที่สุดในปีนี้ก็แล้วกัน”
ราวกับมันกำลังประกาศกึกก้อง ว่าตัวข้าคืออันดับหนึ่งในใต้หล้าหากปราศจากกริดและครอเกล
“ซีบาล! ซีบาล! ซีบาล!”
ผู้ชมรอบสนามต่างตะโกนเรียกชื่อซีบาลอย่างสุดเสียง
การปรากฏตัวของพาหนะรูปร่างคล้ายมนุษย์ที่สูงกว่าห้าเมตร สิ่งนี้เรียกความตื่นตะลึงและเติมเต็มจิตใจของผู้ชายหลายคน
มากพอจะทำให้พวกเขาลืมเลือนการหายไปของกริด
[ทำการซิงโครไนซ์กับไรเดอร์ส]
…
…
[ซิงโครไนซ์สำเร็จ!]
[ไรเดอร์สเริ่มทำงาน]
[ค่ามานาสูงสุดของท่านต่ำเกินไป]
[ท่านบังคับไรเดอร์สได้เพียง 21 วินาที]
“ฉัน…”
ตลอดสองปีที่ผ่านมา มันฝึกฝนอย่างหนักหน่วงเจียนตายเพื่อวินาทีนี้โดยเฉพาะ
“ฉันกลับมาแล้ว!!”
เมื่อเริ่มบังคับไรเดอร์ส ซีบาลสัมผัสได้ว่าทุกคนบนโลกกำลังจ้องมองมายังตน
หอกที่ใหญ่และหน้าพุ่งแหวกอากาศใส่ศีรษะคริสด้วยความเร็วสูง
เคร้ง!
[ท่านปัดป้องการโจมตีที่รุนแรง]
[ค่าความคงทนของดาบใหญ่เยติม่าลดลง 108 หน่วย]
[กระดูกข้อมือทั้งสองข้างแตก]
[ร่างกายส่วนล่างไร้เรี่ยวแรง]
[ท่านได้รับความเสียหาย 7,930 หน่วย]
[ท่านไม่สามารถขยับตัวได้ 15 วินาที]
“อั่ก…!”
เข่าของคริสทรุดลงกับพื้นในวินาทีที่ใช้ดาบใหญ่ป้องกันหอกยักษ์ เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเปิดใช้งานพลังทรราชเพื่อเอาชนะการประลองกำลังกับหุ่นยนต์
[พลังทรราชช่วยให้ท่านก้าวข้ามขีดจำกัดและอาการผิดปรกติ]
[พลังทรราชช่วยให้พลังโจมตีของท่านเพิ่มขึ้น แลกมากับค่าพลังป้องกันที่ลดลง]
“ย๊ากกก!”
นี่ตนเป็นแจ็คผู้ฆ่ายักษ์หรืออย่างไร…
ตัวละครของคริสลีบเล็กมากหากเทียบกับขนาดหอกที่ใหญ่ยักษ์ แต่เขาก็ไม่คิดล้มลงโดยง่าย
ในฐานะผู้เล่นแรงค์หนึ่งของโลก คริสคือขุนเขาเด่นตระหง่านที่ไม่ยอมมอบแรงค์หนึ่งให้ใครนอกจากกริดเพียงผู้เดียว
แต่ในวินาทีนี้…
[ท่านปัดป้องการโจมตีที่รุนแรง]
[ค่าความคงทนของดาบใหญ่เยติม่าลดลง 79 หน่วย]
[กระดูกข้อมือขวาแตก]
[ท่านได้รับความเสียหาย 6,030 หน่วย]
[ท่านปัดป้องการโจมตีที่รุนแรง]
[ค่าความคงทนของดาบใหญ่เยติม่าลดลง…]
ขุนเขาถึงคราวถล่มลง
[ท่านป้องกันไม่สำเร็จ!]
[ท่านได้รับความเสียหาย 28,090 หน่วย]
[ค่าความคงทนของ ‘เกราะยักษาเงิน’ ลดลง 190 หน่วย]
[ท่านได้รับบาดเจ็บภายใน ค่าสถานะทุกชนิดลดลง]
คริสมิอาจฝืนทนต่อการกระหน่ำโจมตีที่ป่นพื้นเวทีหินให้แหลกละเอียด
ของวิเศษดึกดำบรรพ์ที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อต่อกรกับจอมอสูรและเทวทูต สำหรับกายาที่ยังไม่ก้าวข้ามขีดจำกัดของคริส เขาไม่มีทางทนรับการบดขยี้จากมันไหว
“นายไม่ได้อ่อนแอ”
ซีบาลกล่าวกับคริสที่กัดฟันปัดป้องหอกของไรเดอร์สอย่างเต็มกลืน
“เพียงแต่ฉัน… ไม่สิ เพียงแต่ไรเดอร์สแข็งแกร่งมากเท่านั้นเอง”
ในที่สุด คมหอกที่ใหญ่และแหลมเสียบได้ทะลวงร่างคริสเป็นหนแรก และนี่คือจุดจบของคู่แรกในรอบรองชนะเลิศการแข่ง PVP
“ซีบาล! ซีบาล! ซีบาล!”
ฝูงชนกู่ร้องนามของซีบาลไม่ขาดปาก โดยเฉพาะเสียงของเหล่าบุรุษที่ดังเป็นพิเศษ
นักขับหุ่นยักษ์… นี่คือความใฝ่ฝันที่เหมือนกันของเพศชายทั่วทั้งโลก ไม่ว่าจะเชื้อชาติหรือเผ่าพันธุ์ใด
***
ป็อนผู้ใช้หอกสร้างระยะห่างที่ได้เปรียบมาตลอด คราวนี้เขาถูกปืนสั้นเล่นงานในระยะถนัดของตัวเองบ้างแล้ว
ยูร่าและป็อนเผชิญหน้ากันในรอบรองชนะเลิศคู่ที่สอง เรียกได้ว่าเป็นการแพ้ทางของป็อนอย่างรุนแรง
อัศวินหอกพิสุทธิ์ผู้มาพร้อมอาชาสีขาวนั้นยากจะต่อกรกับนักล่าอสูรที่ครอบครองปืนสั้น ม้าของป็อนเป็นอาชาทั่วไป มิได้ว่องไวและโบยบินเหมือนเปกาซัสของซีบาล
หลังจากยูร่ากระหน่ำยิงจนม้าของป็อนล้มลง ลำพังเพลงหอกก็มิอาจต้านทานวิชาดาบแห่งแสงสลับปืนสั้นไหว
…
“ไม่ไหวหรอกมั้ง…”
“นั่นสินะ…”
แม้ยูร่าจะเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ แต่กองเชียร์ชาวเกาหลีใต้กลับมีบรรยากาศหดหู่ประหนึ่งประกอบพิธีศพ
พวกเขายังคงไม่ลืมหุ่นยักษ์สีขาวที่บดขยี้คริสดุจดั่งของเล่นพลาสติก เกาหลีใต้หมดหวังคว้าเหรียญทองและกลายเป็นอันดับสี่ในตารางรวมเรียบร้อยแล้ว
ท่ามกลางบรรยากาศเศร้าหมอง ปู่ของยูร่า ‘ลีจินเมียง’ แสดงสีหน้าโล่งใจ
“เวทีของเด็กคนนั้นไม่ใช่ซาทิสฟาย”
ประธานลีอยู่เบื้องหลังการผลักดันกฎหมายเพื่อไม่ให้ SA กรุปผูกขาดธุรกิจไปทั่วโลก ส่งผลให้แดจินกรุปที่ประกอบกิจการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ได้รับส่วนแบ่ง 7.3% ของตลาดแคปซูลซาทิสฟายบนทวีปเอเชียเหนือ
ปัจจุบัน แดจินกรุปกำลังวางแผนขยายกิจการให้เติบโต แต่ประธานลีมีอายุมากถึง 77 ปีแล้ว ถึงจะเคยกล่าวติดตลกไว้ว่าจะมีชีวิตยืนยาว 120 ปี แต่การบริหารกลุ่มธุรกิจใหญ่ด้วยอายุปูนนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่เหมาะสม
มันจำเป็นต้องหาผู้สืบทอด
ลิจินเมียงชื่นชอบในตัวยูร่ามาก มันตระหนักถึงสุดยอดพรสวรรค์ด้านธุรกิจของเธอได้ดีกว่าใคร
ยูร่าไม่เพียงเป็นนักเล่นเกมซาทิสฟายที่เก่งฉกาจ แต่เธอยังฉลาดในการบริหารภาพลักษณ์ควบคู่ไปกับการทำกำไรในตลาดหุ้น
“เด็กคนนั้นต้องแทนที่ฉัน แดจินกรุปที่ยิ่งใหญ่จะให้พวกงั่งมาบริหารไม่ได้เด็ดขาด”
มีเพียงผู้นำที่แท้จริงจึงจะมีสิทธิ์นั่งแทนตำแหน่งตน…
ทันใดนั้น ลีจินเมียงพลันใช้ฝ่ามืออันแก่ชราบีบกำที่วางแขนของเก้าอี้หนังวัวอย่างแรง
“เฮ—!!”
บนหน้าจอทีวี หลานสาวของตนกำลังทำศึกชี้ชะตาชีวิต
สภาพของเธอช่างน่าอดสูจนยากจะทนดูต่อไปไหว เรือนร่างและผิวพรรณที่เคยงดงามต้องยุ่งเหยิงและเปี่ยมไปด้วยบาดแผล
ศัตรูร่างยักษ์ไล่ต้อนจนยูร่าจนมุม เธอคุกเข่าลงหนึ่งข้างอย่างสิ้นท่า
ซีบาลสะบัดหอกสุดท้ายเพื่อจบชีวิตยูร่าและงานแข่ง PVP รอบชิงชนะเลิศไปพร้อมกัน ลอยโลหิตฝอยสาดกระเซ็นเปรอะเปื้อนนองพื้นจนแดงฉาน
ยูร่ากลายเป็นแสงสีเทาในที่สุด
“…จบแล้วสินะ”
ประธานลีกล่าวพลางถอนหายใจยาวเมื่อเฝ้ามองจุดจบของหลานสาว
มันเอนหลังพิงพนักด้วยดวงตาที่แดงก่ำ แม้จะต้องการให้หลานสาวพ่ายแพ้ แต่ความปราชัยของเธอกลับทำให้มันหงุดหงิด
มันไม่ดีใจเลยสักนิดที่เห็นสายเลือดอันเกรียงไกรของตนต้องเผชิญกับความผิดหวังและล้มเหลว
ในระยะหลังมานี้ มันเบื่อหน่ายกับการเป็นประธานแดนจินกรุปอย่างมาก ลีจินเมียงแก่ชราเกินกว่าจะแบกรับความกดดันและความรับผิดชอบไหว
‘…อายุปูนนี้แล้ว เรายังต้องคอยกลั่นแกล้งหลานสาวตัวเองอยู่อีกหรือ… ชิ!’
ความผิดทั้งหมดเกิดจากบุตรชายไม่เอาไหนที่ด่วนจากไปเสียก่อน
***
“แปลกมาก”
หลังจากการแข่ง PVP จบลง กริดรู้สึกประหลาดใจขณะนั่งมองยูร่าเข้าร่วมพิธีรับมอบเหรียญเงิน
สีหน้าท่าทางของเธอไม่ปรกติเลยสักนิดเดียว ราวกับกำลังโดดเดี่ยวและอ้างว้าง มิได้เสียใจหรือเจ็บใจในความพ่ายแพ้ที่มีต่อซีบาล
จากนิสัยต้องการเอาชนะของยูร่า สิ่งนี้นับว่าพิสดารในสายตากริด
‘ยูร่าไม่มีทางพอใจกับเหรียญเงินแน่…’
เขากำลังกระวนกระวายใจสุดขีด
สัญชาตญาณลูกผู้ชายกำลังร่ำร้องให้โทรไปหาเธอ แต่ผู้ชายที่ไม่เคยมีความรักมาก่อนอย่างเขาจะเชื่อใจ ‘สัญชาตญาณ’ สุดห่วยแตกได้จริงหรือ
“…ช่างแม่งสิ! จะกังวลไปทำไม แค่โทรไปปลอบใจเพื่อนมันผิดนักรึไง!”
แต่ปัญหาคือ กริดจะโทรไปหายูร่าด้วยเหตุผลอันใด…
โทรไปสวัสดีงั้นหรือ ทักทายตามประสาเพื่อนฝูง ถามว่ากินข้าวหรือยัง แบบนี้ใช่ไหม… ชายหนุ่มกำลังลนลานและไม่เป็นสุข แต่ท้ายที่สุด เขาก็กดปุ่มโทรออกด้วยหัวใจที่เต้นระรัวยิ่งกว่ากลองรบ
เขาเป็นห่วงเธอมาก มากจนไม่สนว่าตนจะต้องอับอายหากอีกฝ่ายปฏิเสธและหัวเราะอย่างไม่ไยดี
ในวินาทีที่ปลายทางรับสาย หัวใจของเขาแทบหยุดเต้นไปชั่วขณะ
ไม่มีใครรู้เลยว่า…
การโทรในครั้งนี้จะสร้างประเด็นร้อนแรงอันดับหนึ่งในงานแข่งซาทิสฟายนานาชาติปีล่าสุด
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,341
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น??
ReplyDeleteค้างอ้ากกกก
ReplyDeleteโอ้มายก็อต ค้างไปอีกหลายวัน
ReplyDeleteกำลังจิ้นคู่นี้เลย
ReplyDeleteขอบคุณครับ
คลาสซีบาลมันประเภทเติบโตด้วยนะ ถ้ากลายเป็นตำนานคงโหดน่าดู
ReplyDeleteยูร่าทำไมไม่ใช้ สกิลจากอาวุธสไนเปอร์ สั่งตายโดยไรเงื่อนไขหากสิ่งนั่นเป็นสิ่งมีชีวิตอะ ยูร่าจะมงลงง่ายๆเลยนะ มีสกิลสั่งตายเหมือนปิอาโรอยู่ ปีก่อนก็ใช้ยิงหัวจิสึกะไป1ทีละนิ
ReplyDeleteสไนเปอร์ต้องทำการเล็งก่อนซึ่งมีกำหนดระยะเวลาเล็งขึ้นอยู่ระยะทางไว้ แล้วก็ไม่น่ายิงซีบาลที่ขี่จักรเวทมนต์ได้ เพราะมันเป็นจักรกลไม่ได้มีชีวิต
Deleteแต่ที่แปลกคือแพ้แบบไม่สมเหตุผล ซีบาลขี่ไรเดอร์สได้แค่ยี่สิบเอ็ดวิฯ จะฆ่ายูร่าได้ง่ายๆ ขนาดนั้นเลยเหรอ ยูร่ามีทักษะเคลื่อนย้ายตัวไปขุมนรกที่ใช้ถ่วงเวลาได้ เป็นตำนานที่อมตะ 5 วิ คือยังไงก็ไม่น่าแพ้แบบนี้ เหมือนอยากข้ามไปเขียน ตะลุมบอนราชาอสูรอ่ะ ก็เลยเขียนให้แพ้ๆไปง่ายๆ
ซีบาลอาจจะใช้ไรเดอร์สในช่วงสุดท้ายก็ได้ครับ ซีบาลไม่ได้มีแต่ไรเดอร์สซะหน่อย คงเก็บไว้เป็นไพ่ตายหลังจากสู้กับยูร่ามาสักพัก ที่เห็นใช้สผู้กับคริสตั้งแต่เริ่มคงเพราะมั่นใจว่าคริสไม่มีสกิลหนี
Deleteทั้งหมดก็ถูก แต่ควรเขียนบอกว่า.. ว่าสู้อยู่ในเวลาที่เท่าไหร่แล้ว ..พอตื่นเต้นเกินคนแต่งก็มักจะมองข้ามบางสิ่งไป อย่างกริดตอนสู้แอ็กนัสที่วาติกัน ก็ล้มลงเฉย ..พอไม่มีเวลามากำกับว่าผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว คนอ่านก็จะจินตในแง่แปปเดียว
Delete