จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1077
“มีรายงานด่วนเข้ามาครับ!”
“ทีมวิศวกรของไวเคาต์ลูกในไส้นุสถูกตรึงกำลังไว้ใกล้กับบึงเอลคาส กล่าวกันว่า สาเหตุมาจากเขื่อนแตกจนทำให้เกิดน้ำท่วมบึงขอรับ!”
“เขื่อนแตกอย่างไร้เหตุผลหรือ… เป็นฝีมือพวกวัลฮัลล่าแน่”
“และเนื่องจากทีมวิศวกรจากห้าไวเคาต์ล้วนเดินทางถึงช้ากว่ากำหนด กองทัพหลักจึงยังไม่สามารถข้ามสะพานหุบเขาครานส์ได้ เนื่องจากมีสภาพผุพังเกินไปขอรับ!”
“ถ้าฉันจำไม่ผิด ไหนว่าเจ้าเมืองครานส์แจ้งเข้ามาว่า สะพานข้ามหุบเขาเพิ่งซ่อมไปเมื่อสามเดือนก่อน แต่กลับผุพังฉับพลันเนี่ยนะ? นี่ก็เป็นฝีมือของพวกวัลฮัลล่าอีกแล้วใช่ไหม”
“เจ้าเมืองครานส์แจ้งว่าไม่เคยรายงานขอรับ ดูเหมือนหน่วยข่าวกรองจะถูกบิดเบือน”
“ไอ้บัดซบตัวไหนกล้าบิดเบือนรายงาน… เอามันไปตัดหัว!”
“กองพลหมายเลข 2 และ 3 กำลังไล่ตามกองทัพมาร์ควิสไอเรนขอรับ แต่เนื่องจากเบาะแสของอีกฝ่ายหายไปกลางคันบริเวณภูเขาเทอร์รี่ จึงต้องกระจายกำลังค้นหาออกเป็น 23 หน่วยย่อย”
“พวกเราต้องจับไอเรนให้ได้! ไม่อย่างนั้น หากมันหลุดมือ ขุนนางและชนชั้นสูงจำนวนมากจะตกเป็นเครื่องมือของอีธาน!”
…
“กองพลหมายเลข 2 และ 3 ทั้ง 23 หน่วย ล้วนถูกลอบโจมตีจากกองทัพวัลฮัลล่าขณะกระจายกำลังค้นหาขอรับ!”
“เกิดการต่อสู้ขึ้นภายในป่าดอลฟี่! กองทัพพวกเราถูกวัลฮัลล่าซุ่มโจมตี!”
“ไอ้พวกระยำนั่น!”
ชานสเลอร์นั่งเงียบงันมานานแม้จะได้รับข่าวร้ายอย่างต่อเนื่อง แต่ปัจจุบันเริ่มทนไม่ไหวจนต้องลุกยืน
ภารกิจของมันคือการติดตามจับกุมอีธาน รวมถึงกำจัดภัยคุกคามใกล้เคียงซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อจักรวรรดิ แต่การแทรกแซงของวัลฮัลล่าได้ทำให้พวกมันผิดแผนอย่างต่อเนื่อง
“พวกมันกล้าฉีกสนธิสัญญาและทำให้ราชวังปั่นป่วนเชียวหรือ เสนาบดีเฟอร์มงต์คิดอะไรอยู่ ถึงได้จับมือเป็นพันธมิตรกับไอ้คนต่ำช้านั่น!”
โครม!
ชานสเลอร์ทุบโต๊ะเหล็กนิลจนขาดครึ่ง
ขณะเห็นภาพสุดเหลือเชื่อตรงหน้า หน่วยข่าวกรองทำได้เพียงยืนกลืนน้ำลายเหือดแห้ง
“ท…ทางเราเพิ่งทราบมาว่า… รายชื่อของบุคคลผู้ทำสนธิสัญญากับวัลฮัลล่ามิใช่ท่านเสนาบดีเฟอร์มงต์ แต่เป็นแกรนมาสเตอร์ขอรับ”
“อะไรนะ?”
ชานสเลอร์แสดงสีหน้าตกตะลึงคล้ายถูกฟ้าผ่ากลางวันแสก
แกรนมาสเตอร์ ซิกเฟรคเตอร์
มันผู้นั้นรับใช้ราชวงศ์ซาฮารันมาหลายรุ่นในฐานะองครักษ์พิทักษ์ตระกูล แถมยังเป็นตัวตนเหนือมนุษย์ จึงไม่ใครทราบอายุแท้จริง
แต่ขณะเดียวกัน ก็ไม่มีใครเคยเห็นว่ามันพยายาม ‘พิทักษ์’ คนในตระกูลเลยสักครั้ง มักทำตามอำเภอใจเสมอ ข้อดีเดียวคือยังพอเห็นหัวองค์จักรพรรดิอยู่บ้าง
แต่ฝ่าบาทกลับเชื่อใจมันโดยไม่เคลือบแคลง
ไม่สิ พูดให้ถูกคือ ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจำเป็นต้องเชื่อใจ เพราะแกรนมาสเตอร์ล่วงรู้ความลับของราชวงศ์ซาฮารันมากยิ่งกว่าจักรพรรดิองค์ปัจจุบันเสียอีก แถมความแข็งแกร่งตัวบุคคลก็ยังมหาศาลเกินหยั่งถึง
เมื่อจักรพรรดิเลือกเชื่อมั่น ชานสเลอร์ซึ่งเป็นผู้จงรักภักดีของจักรพรรดิ ก็เลือกจะเชื่อเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ความเคลือบแคลงในปัจจุบันเริ่มเพิ่มเป็นทวีคูณ
กองทัพวัลฮัลล่าอ่านความเคลื่อนไหวของกองทัพจักรวรรดิได้ทะลุปรุโปร่ง คงไม่ใช่เพราะแกรนมาสเตอร์แทรกแซงราชวงศ์และนำข้อมูลไปแจ้งอีกฝ่ายหรอกกระมัง…
‘บ้าน่า…’
แกรนมาสเตอร์ทรยศ?
ยังเร็วเกินไปหากจะด่วนสรุปเช่นนั้น
ยากจะให้เชื่อลงว่า ผู้พิทักษ์ราชวงศ์ซาฮารันมานานกว่าร้อยปี จะคิดทรยศปุบปับอย่างง่ายดายและไร้เหตุผล
ขณะชานสเลอร์ยืนไตร่ตรอง
“ข่าวด่วนขอรับ! หน่วยอัศวินสีชาดและอดีตองค์ชายอีธาน ทำการซุ่มโจมตีทหารลาดตระเวนภายในวังหลวง!”
“ไม่ใช่ว่าหน่วยอัศวินสีชาดรุ่นเก่า ถูกอัศวินสีชาดรุ่นใหม่จัดการไปหมดแล้วรึไง?”
“ทางเราก็ไม่เข้าใจสถานการณ์ กระผมไม่สามารถติดต่อกับอัศวินสีชาดรุ่นใหม่ได้เลย!”
“บัดซบ!”
ฝ่าบาทกำลังตกอยู่ในอันตราย
ชานสเลอร์เย็นวาบไปถึงสันหลัง มันรีบเดินทางออกจากค่ายทหารด้วยสีหน้าดำมืด
“เคลื่อนพลไปวังหลวง!!”
***
“ได้โปรดอนุญาตให้ทัพม้าของสองตระกูลเราเข้ามาในเขตวังหลวงด้วยขอรับ พวกเขาจะช่วยตามหาตัวอีธานและหน่วยอัศวินสีชาดอีกแรง”
ดยุคเกล็นฮาลและมอริสกำลังเข้าเฝ้ามหาจักรพรรดิฮวนเดอร์
หลังจากทราบว่าวัลฮัลล่ามีเอี่ยวในสงครามปัจจุบัน สองดยุคจึงตระหนักถึงความตึงเครียดของสถานการณ์
องค์ชายอีธานมิได้บ้าคลั่ง แผนการทั้งถูกจัดเตรียมมาอย่างดีและเป็นขั้นเป็นตอน ซึ่งนั่นหมายถึง ต้องมีบุคคลภายในเงามืดคอยบงการอยู่แน่
อีกฝ่ายวางแผนมานานแล้ว ความจริงข้อนี้ได้ทำให้ทั้งมอริสและเกล็นฮาลนั่งไม่ติด
หากต้องการให้สถานการณ์สงบลง มีแต่ต้องจับกุมตัวอีธานโดยเร็วเท่านั้น
“เข้าใจแล้ว” ฮวนเดอร์ผงกศีรษะ
ถึงตัวมันจะห่างหายจากเหตุการณ์วิกฤติมานาน แต่ก็ยังตระหนักถึงความอันตรายตรงหน้าได้อย่างสุขุม ต้องเป็นแบบอย่างเยือกเย็นให้กับเหล่าขุนนางทุกคน
และเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับดยุคทั้งสามซึ่งถูกคนในราชวงศ์ทำร้าย
“เราอนุญาตให้พวกท่านนำทัพม้าเข้ามาในเขตวังหลวง…”
ขณะฮวนเดอร์กำลังประกาศคำสั่ง
“พอแค่นั้นแหละ! อย่าได้เอาชีวิตของไพร่พลขุนนางมาข้องเกี่ยวอีกเลย”
ใครบางคนผลักประตูท้องพระโรงออกอย่างเชื่องช้า บานประตูใหญ่สร้างจากการตัดแผ่นหยกยักษ์โดยปราศจากรอยประกอบเชื่อม
อีกฝ่ายคือบุคคลทรยศ ซึ่งกองทัพจักรวรรดิกำลังพลิกแผ่นดินตามหาให้ควั่ก
องค์ชายสี่ อีธาน
“จ…เจ้าลูกชั่ว!”
องค์จักรพรรดิลุกยืนขึ้นด้วยใบหน้าแดงก่ำ ดวงตาปรากฏเส้นเลือดปูดโปนอย่างโกรธแค้น
“เจ้ามันโง่! บังอาจคุกคามขุนนางจงรักภักดีต่อตระกูล เพียงเพื่อปกปิดบาปของมารดาชั่วช้า! ดวงตาเจ้ามืดบอดเพราะถูกคนรอบข้างมอมเมาและเป่าหู!”
ขณะค้นพบความจริงจากปากเบนัวต์ จักรพรรดิมีแผนลงโทษเฉพาะแมรี่ ไม่ได้คิดลากองค์ชายอีธานเข้ามาเกี่ยวข้อง เนื่องจากมีหลักฐานไม่มากพอในคดีปิอาโร่เมื่อสิบกว่าปีก่อน
หรือก็คือ หากไม่ได้ก่อความวุ่นวายใด อีธานจะรอดพ้นจากคลื่นลงทัณฑ์ของมหาจักรพรรดิโดยไร้รอยขีดข่วน
ถึงบุคคลใกล้ตัวอาจถึงคราวต้องจบชีวิต และอำนาจบารมีอ่อนแอลงหลายส่วน แต่ก็ยังดีกว่าการมีจุดจบน่าสมเพช อีธานสามารถใช้ชีวิตสงบสุขได้ในบั้นปลายชีวิต ฐานะความเป็นองค์ชายไม่ได้ทำให้ทุกสิ่งแย่ลงขนาดนั้น
แต่คนโง่มักทำเรื่องโง่ๆ
ป้ายความผิดให้ผู้บริสุทธิ์และกักขังในคุกนรกซึ่งเป็นโทษทัณฑสถานหนักของซาฮารัน ทั้งหมดเพียงเพื่อมิให้เรื่องราวของมารดาถูกเปิดโปง
รักแม่มากนักหรือ… แต่ทางนี้ก็พ่อนะ
…แถมยังเป็นองค์จักรพรรดิ
ฮวนเดอร์รู้สึกเจ็บแปลบ เมื่อจินตนาการว่าตนต้องออกคำสั่งประหารบุตรชายในสายเลือด
อีธานจ้องมองจักรพรรดิผู้มีดวงตาแดงก่ำพลางแสยะยิ้มแฝงเลศนัย
“อย่าทำปากเก่งหน่อยเลย หากตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน เป็นท่านจะทำเช่นไร?
“ในเมื่อท่านแม่กำลังจมกองอึโสโครกตรงหน้า ตัวข้าควรนั่งอมนิ้วจ้องมองโดยไม่กระทำสิ่งใดใช่ไหม? ช่างน่าขัน”
“…!”
“เสียมารยาท!”
ตรงข้ามกับจักรพรรดิซึ่งกำลังผงะ ดยุคเกล็นฮาลแผดเสียงตวาดเมื่อได้ยินอีกฝ่ายใช้ถ้อยคำล่วงเกินนายเหนือหัว
แน่นอน เสียงของมันไม่ได้ทำให้อีธานหยุด
มันยังพล่ามต่อ
“เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะความอ่อนหัดขององค์จักรพรรดิ! เหตุใดถึงยังไม่ตัดองค์ชายหนึ่งผู้อ่อนแอ เหตุใดถึงยังไม่ตัดองค์ชายสองผู้ไร้ความสามารถ และองค์ชายสามผู้เอาแต่เที่ยวเล่นโดยไม่สนใจบ้านเมือง? “ท่านเห็นอะไรในตัวท่านพี่!?
“ท่านควรสถาปนาข้าเป็นองค์รัชทายาทตั้งนานแล้ว! องค์ชายสี่ผู้ปรีชาสามารถ ขุดค้นอาวุธโบราณและปลุกชีวิตพวกมันกลับคืนมา!!”
“…หุบปาก”
“ทำไมท่านถึงไม่อยากให้ข้าเป็นองค์รัชทายาทนัก? ข้าถูกกีดกันเพราะเป็นบุตรของภรรยารองใช่ไหม? ไม่น่าใช่ บิดาของท่านก็เป็นบุตรภรรยารองเช่นกัน…
“หรือเพราะข้าไม่ใช่ลูกในไส้ของอดีตจักรพรรดินีอาเรีย…?”
“…หุบปาก!!”
“ท่านต่างหากต้องหุบปาก!! องค์จักรพรรดิ! ท่านคือต้นตอของปัญหาทั้งหมด! และท่านไม่เคยรู้ตัวเองเลยสักครั้ง!
“ถ้าไม่เพราะความทะเยอทะยานของท่านเสียดแทงทะลุท้องฟ้า หากสายตาซึ่งเอาแต่จ้องมองไปยังทวีปตะวันออกของท่าน หันมาเหลียวแลท่านแม้ข้างกายบ้าง… หล่อนคงไม่ต้องก่อบาปหนักหนา จักรพรรดินีอาเรียก็ต้องไม่ตาย ท่านปิอาโร่จะไม่กลายเป็นคนทรยศ และความวุ่นวายในวันนี้ก็จะไม่เกิด!!”
“…!!”
หลังจากได้เห็นสีหน้าและแววตาอาฆาตแค้นของอีธาน มหาจักรพรรดิพลันตระหนักได้ว่า…
ตนกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว
การเจรจาไร้ความหมาย
บรรยากาศรอบตัวฮวนเดอร์พลันดำมืด มันออกคำสั่งกับเบอินด้านหลัง
“จับกุมตัวและนำไปขังคุกนรก”
“ขอรับ”
เบอินไม่ลังเลแม้แต่หนึ่งลมหายใจ
และสาเหตุของความไม่ลังเลคือ มันไม่เคยจงรักภักดีต่อราชวงศ์ซาฮารันสักครั้ง
ฉึบ—
ดยุคเกล็นฮาลสัมผัสถึงสายลมพัดผ่านใบหู
ผัวะ!
แม้อีธานจะยืนห่างออกไปราวสามสิบเมตร แต่กว่าจะมองเห็น เบอินก็ถึงปลายจมูกแล้ว
“คึก…!”
ร่างอีธานกระแทกลงบนพรมสีแดงฉานในพริบตา มันใช้มือข้างหนึ่งเช็ดคราบเลือดจากมุมปาก ภายในใจตระหนักว่า ตนถูกพาตัวมาคุกเข่าแทบเท้าองค์จักรพรรดิเรียบร้อยแล้ว
และการขัดขืนด้วยวิธีทั่วไปคงสูญเปล่า เนื่องจากเบอินด้านหลังกำลังใช้มือคว้าคอแน่นถนัด แทบไม่เปิดโอกาสให้กระดิกตัว
“เอามือสกปรกของแกออกเดี๋ยวนี้! ข้าคือองค์จักรพรรดิคนต่อไป! ข้ามีสิทธิ์สืบบัลลังก์เพียงผู้เดียวเท่านั้น!!”
ทันใดนั้น อีธานเริ่มแผ่ปราณสีชาดปริมาณมหาศาลออกจากร่าง ลักษณะแหลมคมประหนึ่งใบดาบ หมุนวนกรีดเฉือนทุกสิ่งรอบตัวอย่างเกรี้ยวกราด
เบอินรู้สึกถูกคุกคาม มันรีบกระโจนถอยหลังเพื่อรักษาระยะห่างปลอดภัย
ชิ้ง—
เมื่ออีธานได้รับอิสรภาพกลับคืน มันรีบดึงดาบออกจากเอวฉับพลัน
ดาบยาวสีดำสนิท… คมดาบอัดแน่นด้วยปราณสีชาดปริมาณเข้มข้น
“สีดำนั่น…!”
ดวงตาองค์จักรพรรดิพลันเบิกโพลง
เฉกเช่นดาบทั่วไปของราชวงศ์ ศาสตราในมืออีธานถูกสร้างจากมิธริลนิล และฉีดปราณสีชาดเข้าไปเพื่อเสริมคุณภาพ
แต่ระดับความสง่างามของปราณสีชาดภายในดาบเล่มนี้…
‘เหนือกว่าเราอีกหรือ?’
สำหรับองค์จักรพรรดิ การยอมรับว่าอีกฝ่ายเหนือกว่าไม่ใช่เหตุการณ์ปรกติอย่างแน่นอน
ผิดตั้งแต่ฐานะแล้ว…
หากจะถามว่า บุคคลใดควรมีปราณสีชาดเข้มข้นอันดับหนึ่งของทวีป
ถ้าไม่ใช่มหาจักรพรรดิแล้วจะเป็นใคร?
แต่เมื่อตัวจักรพรรดิเริ่มเคลือบแคลงเสียเอง นั่นหมายความว่ามีบางสิ่งไม่ถูกต้องตามครรลอง
‘พลังอะไรกัน…’
เบอินซึ่งหวังเข้าไปคุมตัวอีธานอีกครั้ง มันตัดสินใจชะงักและรอดูท่าที เนื่องจากในสภาพปัจจุบัน การบุ่มบ่ามเข้าประชิดตัวคงเกิดผลลัพธ์ไม่ต่างจากเดิม
ทันใดนั้น อีธานแสยะยิ้มชั่ว
“ท่านไม่สงสัยบ้างหรือ ว่าเหตุใดทัพหลวงและอัศวินมากมายถึงตามหาตัวข้าไม่พบ แม้จะหลบซ่อนอยู่ในวังหลวงมาตั้งแต่แรก?”
สวบ. สวบ. สวบ.
เสียงฝีเท้าใครบางคนดังจากนอกห้อง
เป็นจังหวะเท้าผ่อนคลาย ไม่รีบเร่ง
ไม่มีใครในวังหลวงไม่รู้จักเสียงฝีเท้านี้
อีธานยังคงพล่ามต่อ
“เขตปกครองนอกเหนืออำนาจฝ่าบาท…”
วังสวรรค์
วังส่วนตัวของแกรนมาสเตอร์ ซิกเฟรคเตอร์
“ข้าซ่อนตัวภายในนั้นมาตลอด”
ขณะอีธานกำลังเผยเรื่องน่าตกใจ
สวบ.
เสียงฝีเท้าหยุดลงหน้าท้องพระโรง
องค์จักรพรรดิ
สองดยุค
และเบอิน
ไม่มีใครสามารถละสายตาจากบุคคลผู้เป็นเจ้าของเสียงฝีก้าว
“ด้วยอำนาจอันศักดิ์สิทธิ์ของดาบแห่งปฐมจักรพรรดิซาฮารัน เราขอแต่งตั้งให้องค์ชายลำดับสี่ อีธาน ดำรงตำแหน่งมหาจักรพรรดิองค์ใหม่อย่างเป็นทางการ มีผลนับแต่นี้เป็นต้นไป”
เจ้าของเสียงฝีเท้า แกรนมาสเตอร์ซิกเฟรคเตอร์ ประกาศเรื่องสำคัญด้วยน้ำเสียงราบเรียบไร้อารมณ์เหมือนเช่นเคย
…
ในเวลาเดียวกัน
ณ ปราสาทของมาร์ควิสไอเรน
“นี่ไม่ใช่จุดนัดพบกับอีธานหรอกหรือ”
อาเรสกำลังหนีหัวซุกหัวซุนจากการโจมตีของทัพหลวงจักรวรรดิ มันกังวลว่าแผนการอาจคลาดเคลื่อน เนื่องจากยังไม่พบอีธานซึ่งเป็นตัวเอกของสงคราม
ไม่มีสิ่งใดปรกติเลยสักอย่างเดียว
ไหนว่าซือหม่าเซียนได้รับข้อมูลการเคลื่อนไหวของกองทัพจักรวรรดิ แล้วเหตุใดถึงถูกศัตรูรายล้อมทุกทิศเช่นนี้?
ทหารจักรวรรดิมีจำนวนสูงกว่าทัพวัลฮัลล่าของซือหม่าเซียนราวสามเท่าเห็นจะได้…
จากสถานการณ์ปัจจุบัน หน่วยจักรกลเวทมนตร์และหน่วยอัศวินสีชาดยังไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ จนกว่าเหตุการณ์จะเงียบสงบ
อาเรสเริ่มทวีความประหม่า
“…พวกเราถูกหลอกใช้เข้าแล้ว”
ซือหม่าเซียนพ่นถ้อยคำแสนสิ้นหวัง
“แกรนมาสเตอร์คงวางแผนหลอกใช้พวกเรามานานแล้ว และองค์ชายอีธานจะไม่มาสนับสนุนปราสาทหลังนี้แน่นอน ขออภัยในความโง่เขลาของกระหม่อม ได้โปรดตัดเศียรเพื่อเป็นการสำเร็จโทษด้วย”
“…”
หัวสมองอาเรสพลันขาวโพลนชั่วขณะ
หลังจากคืนสติกลับมาอย่างเยือกเย็น มันสงบจิตใจและหันไปออกคำสั่งกับสก็อตและลัค
“พวกนายหนีไปพร้อมทหารและขุนพล ถ้าเราทุกคนตายกันหมด วัลฮัลล่าคงไม่เหลือแสงสว่างอีกแล้ว”
…
และในวันนี้ ผู้เล่นส่วนใหญ่ของกองทัพอาเรส รวมถึงตัวอาเรสเอง ได้จบชีวิตลงอย่างน่าอนาถภายใต้ไฟสงคราม
วัลฮัลล่าสูญเสียไพร่พลและเสบียงซึ่งกักตุนมานานหลายปี สถานภาพอาณาจักรถึงคราวสั่นคลอนอย่างหนัก
…
ในเวลาเดียวกัน
“เจ๋งเป้ง!”
กริดประสบความสำเร็จในการสังเคราะห์ ‘อดามันเทียมอับแสง’ ออกจากดาบดารา
ขั้นตอนถัดไปคือการร่วมมือกับบาซาร่า
การจะแทรกซึมเข้าใกล้ท้องพระคลังของจักรพรรดิ ประการแรกต้องเข้าไปในเขตวังหลวงให้ได้เสียก่อน สำหรับกษัตริย์อาณาจักรคู่สงครามอย่างกริด เรื่องนั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลย นอกเสียจากจะได้รับคำเชิญอย่างเป็นทางการจากองค์จักรพรรดิโดยตรง
เพื่อการนั้น กริดต้องปลอมตัวเป็นหนึ่งในบริวารคนสนิทของบาซาร่า
‘เป็นโอกาสดีสำหรับทดสอบใช้หน้ากากปลอมตัวของเฟย์ริส’
ตึกตัก. ตึกตัก.
ชายหนุ่มต้องการสร้างแร่ใหม่โดยเร็ว
กริดตะโกนออกคำสั่งอย่างตื่นเต้น
“สติกส์! ส่งฉันและคนของตระกูลบาซาร่าไปยังเขตรอบนอกวังหลวง!”
ว๊าปไปกลางวงชัวร์ป๊าบ ดวงดีแท้น่อ
ReplyDeleteได้เวลาเปิดตัวแบบกริดๆ
ReplyDeleteคอยดู ไปเจอสถานการณ์ในวัง สรุปได้ไปช่วยองค์จักพรรดิฮวนเดอร์แน่นอน กริดชอบไปพบเจอกับสถานการณ์นี้ตอน คือสู้แบบไม่มีทางหลีกเลี่ยง เพราะพระเอกชอบมาโพล่ในฉากสำคัญกับความเป็นความตายเสมอ
ReplyDelete😊👍
ReplyDeleteได้เวลาฮีโร่แบบไม่ได้ต้องการแต่จังหวะมันได้ 555
ReplyDelete