จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1077



“มีรายงานด่วนเข้ามาครับ!”


“ทีมวิศวกรของไวเคาต์ลูกในไส้นุสถูกตรึงกำลังไว้ใกล้กับบึงเอลคาส กล่าวกันว่า สาเหตุมาจากเขื่อนแตกจนทำให้เกิดน้ำท่วมบึงขอรับ!”


“เขื่อนแตกอย่างไร้เหตุผลหรือ… เป็นฝีมือพวกวัลฮัลล่าแน่”


“และเนื่องจากทีมวิศวกรจากห้าไวเคาต์ล้วนเดินทางถึงช้ากว่ากำหนด กองทัพหลักจึงยังไม่สามารถข้ามสะพานหุบเขาครานส์ได้ เนื่องจากมีสภาพผุพังเกินไปขอรับ!”


“ถ้าฉันจำไม่ผิด ไหนว่าเจ้าเมืองครานส์แจ้งเข้ามาว่า สะพานข้ามหุบเขาเพิ่งซ่อมไปเมื่อสามเดือนก่อน แต่กลับผุพังฉับพลันเนี่ยนะ? นี่ก็เป็นฝีมือของพวกวัลฮัลล่าอีกแล้วใช่ไหม”


“เจ้าเมืองครานส์แจ้งว่าไม่เคยรายงานขอรับ ดูเหมือนหน่วยข่าวกรองจะถูกบิดเบือน”


“ไอ้บัดซบตัวไหนกล้าบิดเบือนรายงาน… เอามันไปตัดหัว!”


“กองพลหมายเลข 2 และ 3 กำลังไล่ตามกองทัพมาร์ควิสไอเรนขอรับ แต่เนื่องจากเบาะแสของอีกฝ่ายหายไปกลางคันบริเวณภูเขาเทอร์รี่ จึงต้องกระจายกำลังค้นหาออกเป็น 23 หน่วยย่อย”


“พวกเราต้องจับไอเรนให้ได้! ไม่อย่างนั้น หากมันหลุดมือ ขุนนางและชนชั้นสูงจำนวนมากจะตกเป็นเครื่องมือของอีธาน!”



“กองพลหมายเลข 2 และ 3 ทั้ง 23 หน่วย ล้วนถูกลอบโจมตีจากกองทัพวัลฮัลล่าขณะกระจายกำลังค้นหาขอรับ!”


“เกิดการต่อสู้ขึ้นภายในป่าดอลฟี่! กองทัพพวกเราถูกวัลฮัลล่าซุ่มโจมตี!”


“ไอ้พวกระยำนั่น!”


ชานสเลอร์นั่งเงียบงันมานานแม้จะได้รับข่าวร้ายอย่างต่อเนื่อง แต่ปัจจุบันเริ่มทนไม่ไหวจนต้องลุกยืน


ภารกิจของมันคือการติดตามจับกุมอีธาน รวมถึงกำจัดภัยคุกคามใกล้เคียงซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อจักรวรรดิ แต่การแทรกแซงของวัลฮัลล่าได้ทำให้พวกมันผิดแผนอย่างต่อเนื่อง


“พวกมันกล้าฉีกสนธิสัญญาและทำให้ราชวังปั่นป่วนเชียวหรือ เสนาบดีเฟอร์มงต์คิดอะไรอยู่ ถึงได้จับมือเป็นพันธมิตรกับไอ้คนต่ำช้านั่น!”


โครม!


ชานสเลอร์ทุบโต๊ะเหล็กนิลจนขาดครึ่ง


ขณะเห็นภาพสุดเหลือเชื่อตรงหน้า หน่วยข่าวกรองทำได้เพียงยืนกลืนน้ำลายเหือดแห้ง


“ท…ทางเราเพิ่งทราบมาว่า… รายชื่อของบุคคลผู้ทำสนธิสัญญากับวัลฮัลล่ามิใช่ท่านเสนาบดีเฟอร์มงต์ แต่เป็นแกรนมาสเตอร์ขอรับ”


“อะไรนะ?”


ชานสเลอร์แสดงสีหน้าตกตะลึงคล้ายถูกฟ้าผ่ากลางวันแสก


แกรนมาสเตอร์ ซิกเฟรคเตอร์


มันผู้นั้นรับใช้ราชวงศ์ซาฮารันมาหลายรุ่นในฐานะองครักษ์พิทักษ์ตระกูล แถมยังเป็นตัวตนเหนือมนุษย์ จึงไม่ใครทราบอายุแท้จริง


แต่ขณะเดียวกัน ก็ไม่มีใครเคยเห็นว่ามันพยายาม ‘พิทักษ์’ คนในตระกูลเลยสักครั้ง มักทำตามอำเภอใจเสมอ ข้อดีเดียวคือยังพอเห็นหัวองค์จักรพรรดิอยู่บ้าง


แต่ฝ่าบาทกลับเชื่อใจมันโดยไม่เคลือบแคลง


ไม่สิ พูดให้ถูกคือ ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจำเป็นต้องเชื่อใจ เพราะแกรนมาสเตอร์ล่วงรู้ความลับของราชวงศ์ซาฮารันมากยิ่งกว่าจักรพรรดิองค์ปัจจุบันเสียอีก แถมความแข็งแกร่งตัวบุคคลก็ยังมหาศาลเกินหยั่งถึง


เมื่อจักรพรรดิเลือกเชื่อมั่น ชานสเลอร์ซึ่งเป็นผู้จงรักภักดีของจักรพรรดิ ก็เลือกจะเชื่อเช่นกัน


อย่างไรก็ตาม ความเคลือบแคลงในปัจจุบันเริ่มเพิ่มเป็นทวีคูณ


กองทัพวัลฮัลล่าอ่านความเคลื่อนไหวของกองทัพจักรวรรดิได้ทะลุปรุโปร่ง คงไม่ใช่เพราะแกรนมาสเตอร์แทรกแซงราชวงศ์และนำข้อมูลไปแจ้งอีกฝ่ายหรอกกระมัง…


‘บ้าน่า…’


แกรนมาสเตอร์ทรยศ?


ยังเร็วเกินไปหากจะด่วนสรุปเช่นนั้น


ยากจะให้เชื่อลงว่า ผู้พิทักษ์ราชวงศ์ซาฮารันมานานกว่าร้อยปี จะคิดทรยศปุบปับอย่างง่ายดายและไร้เหตุผล


ขณะชานสเลอร์ยืนไตร่ตรอง


“ข่าวด่วนขอรับ! หน่วยอัศวินสีชาดและอดีตองค์ชายอีธาน ทำการซุ่มโจมตีทหารลาดตระเวนภายในวังหลวง!”


“ไม่ใช่ว่าหน่วยอัศวินสีชาดรุ่นเก่า ถูกอัศวินสีชาดรุ่นใหม่จัดการไปหมดแล้วรึไง?”


“ทางเราก็ไม่เข้าใจสถานการณ์ กระผมไม่สามารถติดต่อกับอัศวินสีชาดรุ่นใหม่ได้เลย!”


“บัดซบ!”


ฝ่าบาทกำลังตกอยู่ในอันตราย


ชานสเลอร์เย็นวาบไปถึงสันหลัง มันรีบเดินทางออกจากค่ายทหารด้วยสีหน้าดำมืด


“เคลื่อนพลไปวังหลวง!!”


***


“ได้โปรดอนุญาตให้ทัพม้าของสองตระกูลเราเข้ามาในเขตวังหลวงด้วยขอรับ พวกเขาจะช่วยตามหาตัวอีธานและหน่วยอัศวินสีชาดอีกแรง”


ดยุคเกล็นฮาลและมอริสกำลังเข้าเฝ้ามหาจักรพรรดิฮวนเดอร์


หลังจากทราบว่าวัลฮัลล่ามีเอี่ยวในสงครามปัจจุบัน สองดยุคจึงตระหนักถึงความตึงเครียดของสถานการณ์


องค์ชายอีธานมิได้บ้าคลั่ง แผนการทั้งถูกจัดเตรียมมาอย่างดีและเป็นขั้นเป็นตอน ซึ่งนั่นหมายถึง ต้องมีบุคคลภายในเงามืดคอยบงการอยู่แน่


อีกฝ่ายวางแผนมานานแล้ว ความจริงข้อนี้ได้ทำให้ทั้งมอริสและเกล็นฮาลนั่งไม่ติด


หากต้องการให้สถานการณ์สงบลง มีแต่ต้องจับกุมตัวอีธานโดยเร็วเท่านั้น


“เข้าใจแล้ว” ฮวนเดอร์ผงกศีรษะ


ถึงตัวมันจะห่างหายจากเหตุการณ์วิกฤติมานาน แต่ก็ยังตระหนักถึงความอันตรายตรงหน้าได้อย่างสุขุม ต้องเป็นแบบอย่างเยือกเย็นให้กับเหล่าขุนนางทุกคน


และเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับดยุคทั้งสามซึ่งถูกคนในราชวงศ์ทำร้าย


“เราอนุญาตให้พวกท่านนำทัพม้าเข้ามาในเขตวังหลวง…”


ขณะฮวนเดอร์กำลังประกาศคำสั่ง


“พอแค่นั้นแหละ! อย่าได้เอาชีวิตของไพร่พลขุนนางมาข้องเกี่ยวอีกเลย”


ใครบางคนผลักประตูท้องพระโรงออกอย่างเชื่องช้า บานประตูใหญ่สร้างจากการตัดแผ่นหยกยักษ์โดยปราศจากรอยประกอบเชื่อม


อีกฝ่ายคือบุคคลทรยศ ซึ่งกองทัพจักรวรรดิกำลังพลิกแผ่นดินตามหาให้ควั่ก


องค์ชายสี่ อีธาน


“จ…เจ้าลูกชั่ว!”


องค์จักรพรรดิลุกยืนขึ้นด้วยใบหน้าแดงก่ำ ดวงตาปรากฏเส้นเลือดปูดโปนอย่างโกรธแค้น


“เจ้ามันโง่! บังอาจคุกคามขุนนางจงรักภักดีต่อตระกูล เพียงเพื่อปกปิดบาปของมารดาชั่วช้า! ดวงตาเจ้ามืดบอดเพราะถูกคนรอบข้างมอมเมาและเป่าหู!”


ขณะค้นพบความจริงจากปากเบนัวต์ จักรพรรดิมีแผนลงโทษเฉพาะแมรี่ ไม่ได้คิดลากองค์ชายอีธานเข้ามาเกี่ยวข้อง เนื่องจากมีหลักฐานไม่มากพอในคดีปิอาโร่เมื่อสิบกว่าปีก่อน


หรือก็คือ หากไม่ได้ก่อความวุ่นวายใด อีธานจะรอดพ้นจากคลื่นลงทัณฑ์ของมหาจักรพรรดิโดยไร้รอยขีดข่วน


ถึงบุคคลใกล้ตัวอาจถึงคราวต้องจบชีวิต และอำนาจบารมีอ่อนแอลงหลายส่วน แต่ก็ยังดีกว่าการมีจุดจบน่าสมเพช อีธานสามารถใช้ชีวิตสงบสุขได้ในบั้นปลายชีวิต ฐานะความเป็นองค์ชายไม่ได้ทำให้ทุกสิ่งแย่ลงขนาดนั้น


แต่คนโง่มักทำเรื่องโง่ๆ


ป้ายความผิดให้ผู้บริสุทธิ์และกักขังในคุกนรกซึ่งเป็นโทษทัณฑสถานหนักของซาฮารัน ทั้งหมดเพียงเพื่อมิให้เรื่องราวของมารดาถูกเปิดโปง


รักแม่มากนักหรือ… แต่ทางนี้ก็พ่อนะ


…แถมยังเป็นองค์จักรพรรดิ


ฮวนเดอร์รู้สึกเจ็บแปลบ เมื่อจินตนาการว่าตนต้องออกคำสั่งประหารบุตรชายในสายเลือด


อีธานจ้องมองจักรพรรดิผู้มีดวงตาแดงก่ำพลางแสยะยิ้มแฝงเลศนัย


“อย่าทำปากเก่งหน่อยเลย หากตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน เป็นท่านจะทำเช่นไร?


“ในเมื่อท่านแม่กำลังจมกองอึโสโครกตรงหน้า ตัวข้าควรนั่งอมนิ้วจ้องมองโดยไม่กระทำสิ่งใดใช่ไหม? ช่างน่าขัน”


“…!”


“เสียมารยาท!”


ตรงข้ามกับจักรพรรดิซึ่งกำลังผงะ ดยุคเกล็นฮาลแผดเสียงตวาดเมื่อได้ยินอีกฝ่ายใช้ถ้อยคำล่วงเกินนายเหนือหัว


แน่นอน เสียงของมันไม่ได้ทำให้อีธานหยุด


มันยังพล่ามต่อ


“เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะความอ่อนหัดขององค์จักรพรรดิ! เหตุใดถึงยังไม่ตัดองค์ชายหนึ่งผู้อ่อนแอ เหตุใดถึงยังไม่ตัดองค์ชายสองผู้ไร้ความสามารถ และองค์ชายสามผู้เอาแต่เที่ยวเล่นโดยไม่สนใจบ้านเมือง? “ท่านเห็นอะไรในตัวท่านพี่!?


“ท่านควรสถาปนาข้าเป็นองค์รัชทายาทตั้งนานแล้ว! องค์ชายสี่ผู้ปรีชาสามารถ ขุดค้นอาวุธโบราณและปลุกชีวิตพวกมันกลับคืนมา!!”


“…หุบปาก”


“ทำไมท่านถึงไม่อยากให้ข้าเป็นองค์รัชทายาทนัก? ข้าถูกกีดกันเพราะเป็นบุตรของภรรยารองใช่ไหม? ไม่น่าใช่ บิดาของท่านก็เป็นบุตรภรรยารองเช่นกัน…


“หรือเพราะข้าไม่ใช่ลูกในไส้ของอดีตจักรพรรดินีอาเรีย…?”


“…หุบปาก!!”


“ท่านต่างหากต้องหุบปาก!! องค์จักรพรรดิ! ท่านคือต้นตอของปัญหาทั้งหมด! และท่านไม่เคยรู้ตัวเองเลยสักครั้ง!


“ถ้าไม่เพราะความทะเยอทะยานของท่านเสียดแทงทะลุท้องฟ้า หากสายตาซึ่งเอาแต่จ้องมองไปยังทวีปตะวันออกของท่าน หันมาเหลียวแลท่านแม้ข้างกายบ้าง… หล่อนคงไม่ต้องก่อบาปหนักหนา จักรพรรดินีอาเรียก็ต้องไม่ตาย ท่านปิอาโร่จะไม่กลายเป็นคนทรยศ และความวุ่นวายในวันนี้ก็จะไม่เกิด!!”


“…!!”


หลังจากได้เห็นสีหน้าและแววตาอาฆาตแค้นของอีธาน มหาจักรพรรดิพลันตระหนักได้ว่า…


ตนกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว


การเจรจาไร้ความหมาย


บรรยากาศรอบตัวฮวนเดอร์พลันดำมืด มันออกคำสั่งกับเบอินด้านหลัง


“จับกุมตัวและนำไปขังคุกนรก”


“ขอรับ”


เบอินไม่ลังเลแม้แต่หนึ่งลมหายใจ


และสาเหตุของความไม่ลังเลคือ มันไม่เคยจงรักภักดีต่อราชวงศ์ซาฮารันสักครั้ง


ฉึบ—


ดยุคเกล็นฮาลสัมผัสถึงสายลมพัดผ่านใบหู


ผัวะ!


แม้อีธานจะยืนห่างออกไปราวสามสิบเมตร แต่กว่าจะมองเห็น เบอินก็ถึงปลายจมูกแล้ว


“คึก…!”


ร่างอีธานกระแทกลงบนพรมสีแดงฉานในพริบตา มันใช้มือข้างหนึ่งเช็ดคราบเลือดจากมุมปาก ภายในใจตระหนักว่า ตนถูกพาตัวมาคุกเข่าแทบเท้าองค์จักรพรรดิเรียบร้อยแล้ว


และการขัดขืนด้วยวิธีทั่วไปคงสูญเปล่า เนื่องจากเบอินด้านหลังกำลังใช้มือคว้าคอแน่นถนัด แทบไม่เปิดโอกาสให้กระดิกตัว


“เอามือสกปรกของแกออกเดี๋ยวนี้! ข้าคือองค์จักรพรรดิคนต่อไป! ข้ามีสิทธิ์สืบบัลลังก์เพียงผู้เดียวเท่านั้น!!”


ทันใดนั้น อีธานเริ่มแผ่ปราณสีชาดปริมาณมหาศาลออกจากร่าง ลักษณะแหลมคมประหนึ่งใบดาบ หมุนวนกรีดเฉือนทุกสิ่งรอบตัวอย่างเกรี้ยวกราด


เบอินรู้สึกถูกคุกคาม มันรีบกระโจนถอยหลังเพื่อรักษาระยะห่างปลอดภัย


ชิ้ง—


เมื่ออีธานได้รับอิสรภาพกลับคืน มันรีบดึงดาบออกจากเอวฉับพลัน


ดาบยาวสีดำสนิท… คมดาบอัดแน่นด้วยปราณสีชาดปริมาณเข้มข้น


“สีดำนั่น…!”


ดวงตาองค์จักรพรรดิพลันเบิกโพลง


เฉกเช่นดาบทั่วไปของราชวงศ์ ศาสตราในมืออีธานถูกสร้างจากมิธริลนิล และฉีดปราณสีชาดเข้าไปเพื่อเสริมคุณภาพ


แต่ระดับความสง่างามของปราณสีชาดภายในดาบเล่มนี้…


‘เหนือกว่าเราอีกหรือ?’


สำหรับองค์จักรพรรดิ การยอมรับว่าอีกฝ่ายเหนือกว่าไม่ใช่เหตุการณ์ปรกติอย่างแน่นอน


ผิดตั้งแต่ฐานะแล้ว…


หากจะถามว่า บุคคลใดควรมีปราณสีชาดเข้มข้นอันดับหนึ่งของทวีป


ถ้าไม่ใช่มหาจักรพรรดิแล้วจะเป็นใคร?


แต่เมื่อตัวจักรพรรดิเริ่มเคลือบแคลงเสียเอง นั่นหมายความว่ามีบางสิ่งไม่ถูกต้องตามครรลอง


‘พลังอะไรกัน…’


เบอินซึ่งหวังเข้าไปคุมตัวอีธานอีกครั้ง มันตัดสินใจชะงักและรอดูท่าที เนื่องจากในสภาพปัจจุบัน การบุ่มบ่ามเข้าประชิดตัวคงเกิดผลลัพธ์ไม่ต่างจากเดิม


ทันใดนั้น อีธานแสยะยิ้มชั่ว


“ท่านไม่สงสัยบ้างหรือ ว่าเหตุใดทัพหลวงและอัศวินมากมายถึงตามหาตัวข้าไม่พบ แม้จะหลบซ่อนอยู่ในวังหลวงมาตั้งแต่แรก?”


สวบ. สวบ. สวบ.


เสียงฝีเท้าใครบางคนดังจากนอกห้อง


เป็นจังหวะเท้าผ่อนคลาย ไม่รีบเร่ง


ไม่มีใครในวังหลวงไม่รู้จักเสียงฝีเท้านี้


อีธานยังคงพล่ามต่อ


“เขตปกครองนอกเหนืออำนาจฝ่าบาท…”


วังสวรรค์


วังส่วนตัวของแกรนมาสเตอร์ ซิกเฟรคเตอร์


“ข้าซ่อนตัวภายในนั้นมาตลอด”


ขณะอีธานกำลังเผยเรื่องน่าตกใจ


สวบ.


เสียงฝีเท้าหยุดลงหน้าท้องพระโรง


องค์จักรพรรดิ


สองดยุค


และเบอิน


ไม่มีใครสามารถละสายตาจากบุคคลผู้เป็นเจ้าของเสียงฝีก้าว


“ด้วยอำนาจอันศักดิ์สิทธิ์ของดาบแห่งปฐมจักรพรรดิซาฮารัน เราขอแต่งตั้งให้องค์ชายลำดับสี่ อีธาน ดำรงตำแหน่งมหาจักรพรรดิองค์ใหม่อย่างเป็นทางการ มีผลนับแต่นี้เป็นต้นไป”


เจ้าของเสียงฝีเท้า แกรนมาสเตอร์ซิกเฟรคเตอร์ ประกาศเรื่องสำคัญด้วยน้ำเสียงราบเรียบไร้อารมณ์เหมือนเช่นเคย



ในเวลาเดียวกัน


ณ ปราสาทของมาร์ควิสไอเรน


“นี่ไม่ใช่จุดนัดพบกับอีธานหรอกหรือ”


อาเรสกำลังหนีหัวซุกหัวซุนจากการโจมตีของทัพหลวงจักรวรรดิ มันกังวลว่าแผนการอาจคลาดเคลื่อน เนื่องจากยังไม่พบอีธานซึ่งเป็นตัวเอกของสงคราม


ไม่มีสิ่งใดปรกติเลยสักอย่างเดียว


ไหนว่าซือหม่าเซียนได้รับข้อมูลการเคลื่อนไหวของกองทัพจักรวรรดิ แล้วเหตุใดถึงถูกศัตรูรายล้อมทุกทิศเช่นนี้?


ทหารจักรวรรดิมีจำนวนสูงกว่าทัพวัลฮัลล่าของซือหม่าเซียนราวสามเท่าเห็นจะได้…


จากสถานการณ์ปัจจุบัน หน่วยจักรกลเวทมนตร์และหน่วยอัศวินสีชาดยังไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ จนกว่าเหตุการณ์จะเงียบสงบ


อาเรสเริ่มทวีความประหม่า


“…พวกเราถูกหลอกใช้เข้าแล้ว”


ซือหม่าเซียนพ่นถ้อยคำแสนสิ้นหวัง


“แกรนมาสเตอร์คงวางแผนหลอกใช้พวกเรามานานแล้ว และองค์ชายอีธานจะไม่มาสนับสนุนปราสาทหลังนี้แน่นอน ขออภัยในความโง่เขลาของกระหม่อม ได้โปรดตัดเศียรเพื่อเป็นการสำเร็จโทษด้วย”


“…”


หัวสมองอาเรสพลันขาวโพลนชั่วขณะ


หลังจากคืนสติกลับมาอย่างเยือกเย็น มันสงบจิตใจและหันไปออกคำสั่งกับสก็อตและลัค


“พวกนายหนีไปพร้อมทหารและขุนพล ถ้าเราทุกคนตายกันหมด วัลฮัลล่าคงไม่เหลือแสงสว่างอีกแล้ว”



และในวันนี้ ผู้เล่นส่วนใหญ่ของกองทัพอาเรส รวมถึงตัวอาเรสเอง ได้จบชีวิตลงอย่างน่าอนาถภายใต้ไฟสงคราม


วัลฮัลล่าสูญเสียไพร่พลและเสบียงซึ่งกักตุนมานานหลายปี สถานภาพอาณาจักรถึงคราวสั่นคลอนอย่างหนัก



ในเวลาเดียวกัน


“เจ๋งเป้ง!”


กริดประสบความสำเร็จในการสังเคราะห์ ‘อดามันเทียมอับแสง’ ออกจากดาบดารา


ขั้นตอนถัดไปคือการร่วมมือกับบาซาร่า


การจะแทรกซึมเข้าใกล้ท้องพระคลังของจักรพรรดิ ประการแรกต้องเข้าไปในเขตวังหลวงให้ได้เสียก่อน สำหรับกษัตริย์อาณาจักรคู่สงครามอย่างกริด เรื่องนั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลย นอกเสียจากจะได้รับคำเชิญอย่างเป็นทางการจากองค์จักรพรรดิโดยตรง


เพื่อการนั้น กริดต้องปลอมตัวเป็นหนึ่งในบริวารคนสนิทของบาซาร่า


‘เป็นโอกาสดีสำหรับทดสอบใช้หน้ากากปลอมตัวของเฟย์ริส’


ตึกตัก. ตึกตัก.


ชายหนุ่มต้องการสร้างแร่ใหม่โดยเร็ว


กริดตะโกนออกคำสั่งอย่างตื่นเต้น


“สติกส์! ส่งฉันและคนของตระกูลบาซาร่าไปยังเขตรอบนอกวังหลวง!”


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,466
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. ว๊าปไปกลางวงชัวร์ป๊าบ ดวงดีแท้น่อ

    ReplyDelete
  2. ได้เวลาเปิดตัวแบบกริดๆ

    ReplyDelete
  3. คอยดู ไปเจอสถานการณ์​ในวัง​ สรุปได้ไปช่วยองค์จักพรรดิ​ฮวนเดอร์​แน่นอน​ กริดชอบไปพบเจอกับสถานการณ์​นี้ตอน​ คือสู้แบบไม่มีทางหลีกเลี่ยง​ เพราะพระเอกชอบมาโพล่ในฉากสำคัญกับความเป็นความตายเสมอ

    ReplyDelete
  4. ได้เวลาฮีโร่แบบไม่ได้ต้องการแต่จังหวะมันได้ 555

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00