จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1073
“คุณลุงคนนี้น่าเอ็นดูจัง”
“เอามือของเธอออกไป!!”
พลังอำนาจของตระกูลเกล็นฮาลถูกสืบทอดมาหลายรุ่นอย่างยาวนาน พวกมันคือหนึ่งในตระกูลดยุคระดับท็อปของจักรวรรดิอย่างไร้ข้อกังขา
สามารถชายตาดูแคลนได้เกือบทุกตระกูลบนทวีปตะวันตก
ต่อให้ถูกจักรวรรดิถอดบรรดาศักดิ์ดยุคออก แต่ตระกูลเกล็นฮาลมีพลังอำนาจมากพอสำหรับก่อตั้งอาณาจักรของตัวเองได้ไม่ยาก โดยเฉพาะดินแดนกว้างใหญ่ไพศาลในการครอบครอง
กระนั้น เด็กสาวไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้ากลับบังอาจใช้นิ้วเขี่ยแก้มหนึ่งในเจ็ดดยุคเล่นอย่างสนุกมือ
เป็นความอับอายเกินรับไหว
“เอามือสกปรกออกจากแก้มท่านดยุค!!”
“ต่อให้เป็นสหายนักบุญหญิง แต่เธอต้องปฏิบัติตามขนบธรรมเนียมพื้นฐาน!!”
ลูกน้องเกล็นฮาลกำลังเอะอะโวยวายเสียงดัง บ้างตะโกนโหวกเหวก บ้างสั่นระริกอย่างโมโห หลายคนชักดาบพร้อมกับเพ่งจิตสังหาร
[ท่านได้รับอาการผิดปรกติ ‘หวาดกลัว’]
[ท่านได้รับอาการผิดปรกติ ‘ถูกข่มขวัญ’]
[ท่านได้รับอาการผิดปรกติ ‘สับสน’]
[ทักษะติดตัว ‘ผู้พิทักษ์ปาฏิหาริย์’ ทำงาน]
[ต้านทาน ‘หวาดกลัว’ และ ‘สับสน’]
[ทักษะติดตัว ‘ผู้ย่างกรายเข้าสู่ปาฏิหาริย์’ ทำงาน ระยะเวลาอาการ ‘ถูกข่มขวัญ’ ลดลง พร้อมกับสะท้อนอาการ ‘ข่มขวัญ’ กลับไปยังเป้าหมาย]
[เป้าหมายต้านทาน]
[เป้าหมายต้านทาน…]
“…!”
ลูกน้องเกล็นฮาลพลันดวงตาเบิกโพลง
เด็กสาวผู้นี้ นอกจากจะไม่ได้รับอาการผิดปรกติแล้ว ยังสะท้อนกลับมาได้ด้วยหรือ
เด็กสาวหน้าตาไร้พิษภัย และน่าจะอ่อนแอมากกว่าใครภายในแถบนี้ แต่กลับมีพลังอันยิ่งใหญ่แฝงไว้กับตัว
‘อัจฉริยะ…! เพราะแบบนี้สินะ ถึงได้ติดตามรับใช้นักบุญหญิงตั้งแต่อายุยังน้อย’
สมกับเป็นอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ แม้ขนาดอาณาจักรจะไม่ใหญ่ แต่ก็หาได้เกรงกลัวการทำศึกรบพุ่งกับจักรวรรดิ
แต่พวกมันก็ชื่นชมได้เพียงชั่วขณะ สายตาแต่ละคนกลับมาเปี่ยมโทสะและความเดือดดาลอีกครั้ง
เซ็กซี่สคูลเกิร์ลแลบลิ้นปลิ้นตาอย่างทะเล้นพลางส่งเสียงหัวเราะคิกคัก
“ขอโทษค่ะ พอดีคุณลุงน่ารักมาก หนูก็เลยอดใจไม่ไหว”
“อึก…! เลิกเอาแต่พูดว่าน่ารักได้แล้ว! เธอไม่รู้หรือไงว่าท่านเป็นใคร!”
“เอ๋…? แล้วคุณลุงเป็นใครหรือ?”
“…”
นี่หล่อนไม่รู้? เจ้านายของตนเป็นถึงบุคคลยิ่งใหญ่ระดับทวีปเชียวนะ!
เหล่าขุนนางและอัศวินของเกล็นฮาลต่างพากันหมดคำจะกล่าว
เธอจะทำแบบนี้กับแห่งดยุคจักรวรรดิไม่ได้…
ขณะเดียวกัน เซ็กซี่สคูลเกิร์ลเยริม ใช้ฝ่ามือลูบไล้แผ่นหลังของเกล็นฮาลอย่างนุ่มนวล อีกฝ่ายนอนในลักษณะหันหลังให้ คล้ายกับกำลังหลีกหนีจากบางสิ่ง
แผ่นหลังเกล็นฮาลเปี่ยมด้วยรอยแผลเป็นจำนวนมาก มีไม่น้อยลึกฉกรรจ์น่าหวาดเสียว
“คุณลุงคงผ่านเหตุการณ์ยากลำบากมาไม่น้อยสินะคะ หลับพักผ่อนให้สบายก่อนน้า~”
“…”
ขนคิ้วเกล็นฮาลกระตุกแผ่วเบา
…เป็นเพราะมันเพิ่งผ่านเหตุการณ์เลวร้ายและเจ็บปวดอย่างนั้นหรือ
เหตุใดคำพูดเพียงไม่กี่คำจากปากเด็กสาว ถึงช่วยบรรเทาความปวดร้าวภายในใจตนได้หลายส่วนเช่นนี้
เกล็นฮาลรับใช้ราชวงศ์ซาฮารันหลายชั่วอายุคน อุทิศชีวิตปกป้องจักรวรรดิตั้งแต่ยังเด็ก แต่กลับถูกสายเลือดซาฮารันทอดทิ้งอย่างไม่ไยดี
เมื่อเทียบกับอาณาจักรเล็กห่างไกลแล้ว กษัตริย์ของพวกเขาถ่อมาใกล้ถึงกรุงไททัน เสี่ยงชีวิตบุกเข้าไปในคุกนรกเพื่อช่วยเหลือตนออกมา
แถมประชาชนก็ยังอบอุ่นถึงเพียงนี้
บ้าบอสิ้นดี…
“…”
ริมฝีปากเกล็นฮาลเริ่มสั่นระริก
หากตัดอำนาจบารมีออกไป ตัวมันก็ไม่ต่างจากมนุษย์ทั่วไปสักเท่าไร โหยหาความรักความอบอุ่นเฉกเช่นปุถุชน
หัวสมองเกล็นฮาลกำลังสับสนปั่นป่วน
***
ปึก! ปึกปึกปึก!
‘ไปสนิทกันตั้งแต่ตอนไหน…’
เพียงพริบตา เซ็กซี่สคูลเกิร์ลเยริมถูกรายล้อมด้วยขุนนางระดับสูงของจักรวรรดิมากมาย พวกมันกำลังสนทนาด้วยบรรยากาศเป็นกันเอง
ขณะเก็บเลเวล สองสาวถูกเรียกตัวกะทันหันให้กลับมายังวังหลวง หลังจากได้ยินคำอธิบายเบื้องต้น เซฮีเป็นกังวลเล็กน้อย เนื่องจากพวกเธอต้องเผชิญหน้ากับบรรดาขุนนางจักรวรรดิเป็นจำนวนมาก
แต่ดูเหมือนจะกังวลมากเกินไป คนเหล่านี้มีนิสัยน่าคบหา และไม่ได้น่ากลัวสักเท่าไร
‘ถึงอย่างนั้นก็เถอะ สนิทกันเร็วเกินไปแล้ว!’
ปึก! ปึก! ปึก! ปึก!
นักบุญหญิงรูบี้มีนิสัยขี้อาย เธอเข้ากับคนอื่นไม่เก่ง นอกจากสมาชิกโอเวอร์เกียร์แล้ว ก็แทบไม่ได้ทำความรู้จักบุคคลภายนอกอีกเลย
แต่กลับกัน คล้ายกับหยินหยาง เซ็กซี่สคูลเกิร์ลเยริมเชี่ยวชาญการสร้างสายสัมพันธ์กับผู้คนแปลกหน้า
หากไม่เพราะมีเยริมคอยไปไหนมาไหนด้วย เซฮีคงยังทำความคุ้นเคยกับโลกซาทิสฟายได้ไม่มากเท่าปัจจุบัน
‘เราคงยังเอาแต่หลบหลังพี่ชาย และไม่รู้จักความสนุกแท้จริงของเกม’
ต้องขอบคุณเพื่อนสนิท อีกฝ่ายคอยเคียงข้างกันมาตั้งแต่ยังเล็ก ช่วยเติมเต็มส่วนขาดหายของกันและกันได้เสมอ
ถึงกระนั้น หล่อนก็ไม่มีสิทธิ์กลายมาเป็นพี่สะใภ้ของตนเด็ดขาด!
รูบี้คิดเรื่องเพื่อนสนิทพลางอมยิ้ม
ปึก! ปึกปึกปึก!
“อะ…! อ่าห์! อ…อ่าห์!”
การทุบตียังไม่มีทีท่าว่าจะจบลง
ดยุคมอริสถูกหวดกระหน่ำด้วยคทาไม้อย่างต่อเนื่องมาสักพักใหญ่แล้ว
“ท…ท่านมอริส”
ขุนนางสังกัดตระกูลมอริสออกอาการกระสับกระส่ายตลอดเวลา
พวกมันทำได้เพียงขมวดคิ้ว หลายคนทำตัวไม่ถูกเมื่อเห็นนักบุญหญิงกำลังลงไม้ลงมือกับเจ้านายตนอย่างป่าเถื่อน
แต่ขณะเดียวกันก็ทราบดี อีกฝ่ายคงไม่ใช้ความรุนแรงอย่างไร้เหตุผลแน่
นักบุญหญิง
จักรวรรดินับถือเธอเทียบเท่าผู้ส่งสารของเทพธิดาแห่งแสง ศักดิ์และสิทธิ์ใกล้เคียงตำนานจากสมัยอดีตกาล
สำหรับจักรวรรดิ นักบุญหญิงคือตัวตนคล้ายเทพจุติ ควรการแค่การเคารพบูชา
ไม่เพียงเท่านั้น มีข่าวลือมาสักพักใหญ่แล้ว เกี่ยวกับการปรากฏตัวของนักบุญหญิงภายในอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ กล่าวกันว่า เธอหมั่นสร้างคุณงามความดีแก่ประชาชนอย่างต่อเนื่องโดยไม่ขาดตกบกพร่อง
ขุนนางฝั่งดยุคต่างยังคงเคลือบแคลงอย่างหลายส่วนว่า เด็กสาวผู้นี้จะใช่นักบุญหญิงเดียวกับตำนานของจักรวรรดิหรือไม่
แต่ในเมื่อถูกแนะนำโดยราชาโอเวอร์เกียร์ผู้มีบุญคุณเป็นล้นพ้น พวกมันจึงทำได้เพียงปิดปากเงียบและคอยเฝ้าดูสถานการณ์
“…”
ภายในห้องการแพทย์ สมาธิของนักบุญหญิงรูบี้กำลังเพ่งพินิจถึงขีดสุด
หน้าจอการมองเห็นของเธอ ปรากฏจุดสีแดงจำนวนมากบนลำตัวดยุคมอริส
ทั้งหมดคือมาร์คแสดงตำแหน่งบกพร่องของร่างกาย เป็นเอฟเฟคช่วยเหลือจากผลทักษะ ‘บำบัดฟื้นฟู’ ซึ่งได้รับมาตอนเลเวล 180
<บำบัดฟื้นฟู> Lv.3
ใช้ ‘หัตถ์แห่งกรุณา’ ฟื้นฟูบาดอาการแผลของเป้าหมาย รวมถึงรักษาอาการผิดปรกติทางกายภาพ
* หากเป้าหมายเป็นผู้เล่น :
บาดแผลจะหายทันทีเมื่อถูก ‘หัตถ์แห่งกรุณา’ สัมผัส แต่หากเป็นบาดแผลอวัยวะฉีกขาดออกจากลำตัว จำเป็นต้องสัมผัสค้างไว้อย่างน้อย 10 วินาที
* หากเป้าหมายเป็นสัตว์เลี้ยงหรือสัตว์อัญเชิญ :
บาดแผลจะหายหลังจากถูก ‘หัตถ์แห่งกรุณา’ สัมผัสเป็นเวลา 3 วินาที แต่หากเป็นบาดแผลอวัยวะฉีกขาดออกจากลำตัว จำเป็นต้องสัมผัสค้างไว้อย่างน้อย 20 วินาที
* หากเป้าหมายเป็น NPC
บาดแผลจะหายหลังจากถูก ‘หัตถ์แห่งกรุณา’ สัมผัสซ้ำหลายหน จำนวนครั้งรักษาขึ้นอยู่กับความรุนแรงและอาการ
ทักษะเลเวลปัจจุบัน ไม่สามารถรักษาอาการอวัยวะฉีกขาดของ NPC ได้
มานา :
- 3,000 หน่วยต่อวินาที
- 3,000 หน่วยต่อครั้งสัมผัส
ระยะหน่วง : ไม่มี
ทักษะจะแสดงผลก็ต่อเมื่อสัมผัสโดยตรง จึงไม่เหมาะสำหรับการต่อสู้จริงอันดุเดือด
และเหนือสิ่งอื่นใด การสิ้นเปลืองมานานับว่ามหาศาลเกินกว่าผู้เล่นทั่วไปจะรับไหว หากไม่ซดโพชั่นมานาช่วย แทบหาโอกาสใช้งานไม่ได้เลย
แต่ไหนแต่ไร มันคือทักษะสำหรับผ่านภารกิจประจำวันของนักบุญหญิง <ทำความดี> ตลอดหลายเดือนก่อนหน้า
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์เกิดพลิกผันหลังจากฝ่ายโอเวอร์เกียร์ยกกองทัพถล่มจอมอสูรเฟย์ริสจนราบคาบ
รางวัลพิเศษของนักบุญหญิง ผู้ขจัดดวงวิญญาณอสูรให้สิ้นซากไปจากโลก คือการยกระดับไอเท็ม <คทาไม้>
<+7 คทาไม้>
เกรด : ยูนีค (ยกระดับ)
ความคงทน : 830/830
พลังโจมตี / พลังป้องกัน : 733
* เพิ่มแต้มสถานะทั้งหมด 200 หน่วย ยกเว้นค่าสติปัญญา
* เพิ่มค่าสติปัญญา 300 หน่วย
สร้างจากไม้ลึกลับ ผิวแข็งมาก ชนิดฟันด้วยดาบก็ไม่เกิดรอยขีดข่วน
* ผลรักษาทุกชนิด + 7%
* แจกจ่ายบัฟแบบสุ่มแก่สมาชิกปาร์ตี้ 2 คนทุก 5 นาที
* ลบดีบัฟของสมาชิกปาร์ตี้ทุก 1 นาที
* ลดการสูญเสียทรัพยากรทุกทักษะ 10%
* สามารถใช้เป็นสื่อกลางแทน ‘หัตถ์แห่งกรุณา’ และหากใช้กับฝ่ายเดียวกันจะไม่เกิดดาเมจ เพิ่มผลรักษาของหัตถ์แห่งกรุณา 10%
เงื่อนไขสวมใส่ : นักบุญหญิง
น้ำหนัก : 180
คทาไม้… ทั้งชื่อและรูปลักษณ์แสนจืดชืด แต่กลับเป็นสุดยอดศาสตราของคลาสลับนักบุญหญิงอย่างไร้ข้อกังขา
กริดเคยเสริมแกร่งจนถึง +9 มาแล้ว แต่สาวน้อยเซฮีไร้เดียงสาได้หวดทิ้งจนระดับเสริมแกร่งปลิวหายไปกับสายลม
อย่างไรก็ตาม เมื่อทราบว่าระดับเสริมแกร่งจะถูกรีเซตหลังจากคทา ‘เลื่อนระดับ’ สองพี่น้องจึงคงสภาพอัปเกรดไว้เพียง +7 เท่านั้น
แรกเริ่มเดิมที ออปชันเดียวของคทาชนิดดังกล่าวคือ ‘เพิ่มค่าสถานะทุกชนิด’
เฉกเช่นผู้เล่นทุกคน รูบี้พัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องตามกาลเวลา
พลังหลายชนิดถูกยกระดับหลังเสร็จภารกิจลับประจำคลาส รวมถึงคุณงามความดีช่วยปัดเป่าดวงวิญญาณจอมอสูรบีเลียลและเฟย์ริส
การเติบโตของรูบี้ ย่อมหมายถึงการเติบโตของคทาไม้ ปัจจุบันจึงมีออปชันมากถึงเจ็ดชนิด และแต่ละชนิดก็มีคุณค่ามหาศาลยิ่งกว่าทอง
หากมีผู้เล่นคนใดได้เห็นเหล่าออปชันสุดโกงของคทาไม้ปัจจุบัน มันคงนึกสงสัยว่า ลิมชอลโฮต้องเป็นปู่บังเกิดเกล้าของกริดและรูบี้แน่
รูบี้ชื่นชอบออปชัน ‘เป็นสื่อกลาง’ แทนหัตถ์แห่งกรุณาจากไม้เท้าอย่างมาก
หัตถ์แห่งกรุณาคือทักษะสำคัญ เป็นรากฐานสำหรับต่อยอดไปได้อีกหลายทักษะ เช่น ‘บำบัดฟื้นฟู’ ‘บำบัดเสริมแกร่ง’ และ ‘คลื่นลงทัณฑ์’
ทักษะข้างต้นเคยใช้งานได้อย่างยากลำบาก เนื่องจากต้องใช้มือสัมผัสกับวัตถุโดยตรงในระยะประชิด
แต่หลังจากคทาไม้สามารถใช้เป็นสื่อกลางแทนหัตถ์แห่งกรุณา ชีวิตของรูบี้พลิกผันทันที ระยะใช้งานของหัตถ์กรุณาเพิ่มเป็นราว 2 เมตร
‘ใครทำเรื่องโหดร้ายแบบนี้กับร่างกายเขา…’
ปึก! ปึกปึกปึก!
จุดสีแดงไม่จางหายไปโดยง่าย แม้จะสัมผัสกับคทาไม้ต่อเนื่องหลายสิบหน
หมายความว่า บาดแผลของมอริสกัดกินรุนแรงชนิดซึมลึกลงไปในผิวหนัง และจิตใจเด็กสาวยิ่งทวีความตึงเครียดเมื่อเวลาผ่านไป
เธอไม่กล้าจินตนาการความเจ็บปวดของอีกฝ่าย และหากไม่อดกลั้นไว้ เกรงว่าคงต่อมน้ำตาแตกเพราะความสงสารเป็นแน่
“…”
มองมอริสนอนมองรูบี้ด้วยสายตาฉงน
เด็กสาวร้องไห้เพื่อตนทำไม
พวกเราเป็นคนแปลกหน้าต่อกัน มีเหตุผลให้ต้องหลั่งน้ำตาด้วยหรือ
‘นักบุญหญิง… สินะ…’
ใช้ชีวิตเพื่อคนอื่น
แต่ไหนแต่ไร มอริสไม่เคยซาบซึ้งในตำนานนักบุญหญิงแห่งจักรวรรดิแม้แต่ครั้งเดียว
มันเย้ยหยัน ตำนานหรือคนโง่กันแน่
มนุษย์เราเกิดมามีชีวิตและเวลาจำกัด ลำพังดูแลครอบครัวก็เต็มกลืนแล้ว มีเหตุผลให้ต้องทำเพื่อผู้อื่นด้วยหรือ
มันไม่เคยเข้าใจเลย
จนกระทั่งได้เห็นภาพตรงหน้า
ความโอบอ้อมอารีของหล่อนกำลังเยียวยาจิตใจและบาดแผลของตน บาดแผลฉกรรจ์จนมันเคยถอดใจไปแล้วหนหนึ่ง
“…”
ความรู้สึกคล้ายกับ มอริสกำลังดำดิ่งท่ามกลางหุบเหวนรก และถูกใครบางคนกระชากขึ้นไปในจังหวะสุดท้าย
ความปรารถนาดีของเด็กสาว ได้ช่วยต่อชีวิตและอนาคตอันมืดมนของมัน
‘เข้าใจแล้ว… ว่าทำไม…’
ทำไมประชาชนของจักรวรรดิถึงนับถือตำนานนักบุญหญิงกันนัก
ราชาสัตว์ป่ามอริสฉีกยิ้มกว้าง ดวงตาดุร้ายแปรเปลี่ยนเป็นความอ่อนโยน
มันเปล่งเสียงกล่าว
“ถ้าบาดแผลของฉันหายดี”
“…?”
“…ขอปกป้องข้างกายท่านไปตลอดชีวิต”
“อ…เอ๋!?”
หมอนี่พูดอะไรออกมา?
รูบี้ผู้กำลังจดจ่ออยู่กับการรักษา มือของเธอพลันขยับคลาดเคลื่อนออกจากจุดแดง
“อ๊าก—!”
เสียงครวญครางแสนสาหัสของมอริส ดังกังวานไปทั่วห้องการแพทย์วังหลวง
“คร่อก~”
เกล็นฮาลแกล้งกรนอีกครั้ง เพื่อให้นักบุญหญิงมั่นใจว่าตนกำลังหลับสนิทจริงๆ
“…”
บรรยากาศเงียบงันปกคลุมห้องการแพทย์ไปอีกพักใหญ่มาก
***
[บาดแผลบนร่างกายเป้าหมายถูกรักษาเสร็จสมบูรณ์!]
“เรียบร้อย!”
รูบี้เปล่งเสียงด้วยสีหน้าผ่อนคลาย ลมหายใจของเธอกำลังเหนื่อยหอบสุดขีด เหงื่อไคลชุ่มไปทั้งตัว โดยเฉพาะส่วนลำคอและใบหน้า
6 ชั่วโมงเต็ม
เป็นความเหน็ดเหนื่อยยาวนานหลังจากทุ่มสมาธิรักษาดยุคสองคนติดต่อ
“ส…สุดยอดมาก!!”
“ข…ขอบคุณท่านนักบุญหญิง! สำหรับการรักษาดยุคทั้งสอง!”
เหล่าขุนนางต่างส่งเสียงโห่ร้องยินดี
เกล็นฮาลผู้ดวงตาจมอยู่ในความมืดมิดมานาน สามารถลืมตามองเห็นสภาพแวดล้อมรอบข้างได้เล็กน้อย
ส่วนมอริสผู้ไม่คาดคิดว่าตนจะกลับมาเดินได้อีก มันเริ่มฝืนขยับแขนขาทุกส่วนของร่างกายเพื่อทดสอบ
ภาพตรงหน้าไม่ต่างจากปาฏิหาริย์
แม้จะยังไม่หายเป็นปรกติโดยสมบูรณ์ แต่ก็เหลือเพียงการฟื้นฟูเท่านั้น บรรดาขุนนางและอัศวินล้วนตื้นตันเมื่อเจ้านายของตนได้รับชีวิตใหม่กลับคืน พวกมันยินดีพลีกายเพื่อตอบแทนนักบุญหญิงตรงหน้าโดยไม่ลังเล
ด้านรูบี้ก็มีความสุขไม่ต่างกัน เป็นความปีติหลังจากช่วยให้ผู้อื่นรอดพ้นขุมนรกดำมืิด
‘หากมีใครสักคน คอยยื่นมือช่วยเหลือตัวพี่ในอดีตแบบนี้บ้าง…’
ทันใดนั้น หน้าต่างข้อความระบบจำนวนมากผุดตรงมุมสายตารูบี้
[ท่านรักษาขุนนางระดับสูงสุดของจักรวรรดิจนหายจากโรคร้าย ความสำเร็จของท่านจะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์!]
[ค่าชื่อเสียงระดับทวีปเพิ่มขึ้น 8,000 หน่วย!]
[ท่านกลายเป็นบุคคลสำคัญของทวีป!]
[ตัวท่านจะไม่ล้มลงโดยง่าย! ค่าพลังชีวิตสูงสุดเพิ่มขึ้น 10,000 หน่วย!]
[ค่าความสัมพันธ์กับ ดยุคแห่งจักรวรรดิมอริส เพิ่มขึ้นถึงระดับสูงสุด]
[มอริสยินดีปกป้องท่านชั่วชีวิต]
[ค่าความสัมพันธ์กับ ดยุคแห่งจักรวรรดิเกล็นฮาล เพิ่มขึ้นถึงระดับสูงสุด]
[เกล็นฮาลยินดีตามใจท่านทุกเรื่อง]
ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจในหลายข้อความ แต่การเพิ่มค่าพลังชีวิตต้องเป็นสิ่งดีแน่ อย่างน้อยก็ช่วยให้ตนก็ตายยากกว่าเดิมมาก
ใครบางคนลูบผมรูบี้อย่างทะนุถนอม
“ทำได้ดีมาก”
เป็นกริด
มันกำลังฉีกยิ้มกว้างอย่างมีความสุขไม่ต่างกัน หลังจากเฝ้ามองความเหน็ดเหนื่อยของน้องสาวตลอดหลายชั่วโมงเต็ม
“เธอคิดจะรักษาบาซาร่าด้วยวิธีไหน”
“บาดแผลแตกต่างจากทุกคนมาก คงต้องตรวจสอบให้ละเอียดอีกครั้ง”
เมื่อสัมผัสถึงสายตาคาดหวังจากทุกคน รูบี้เดินตรงไปยังเตียงของบาซาร่า
ดยุคสาวสวยผู้นี้เอาแต่นอนแหวนจ้องมองเพดานอย่างเหม่อลอยมาตลอด
เกล็นฮาลและมอริสรีบตรงมาหากริดพร้อมกับก้มศีรษะคำนับนอบน้อม
“พวกเราขอสาบาน ทั้งสองตระกูลจะไม่ลืมบุญคุณอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ไปชั่วชีวิต”
“ไม่จำเป็น ขอแค่พวกนายหายดี ฉันก็มีความสุขมากแล้ว”
“ท่านราชา…”
“ไปนอนพักก่อนเถอะ คิดจะกลับจักรวรรดิทันทีหลังจากดยุคบาซาร่าหายดีใช่ไหม”
“ไม่ขอรับ คงต้องรีบเดินทางกลับทันที และขอฝากดยุคบาซาร่าไว้กับท่านก่อน พวกเราเหลือเวลาไม่มากแล้ว เกรงว่าฝ่าบาทมหาจักรพรรดิอาจกำลังเผชิญอันตราย”
อีธานกำลังลงมือโฉ่งฉ่าง ไม่แปลกหากมันหวังปองร้ายจักรพรรดิฮวนเดอร์
โดยเฉพาะแกรนมาสเตอร์คนนั้น
“พวกเราต้องปกป้องฝ่าบาทเป็นอันดับแรก หลังจากนั้นค่อยสะสางเรื่องราวภายในวังหลวง”
“ตกลง ระวังตัวกันด้วย ฉันขอเอาใจช่วยอยู่ห่างๆ ก็แล้วกัน… หืม?”
…ทำไมถึงรู้สึกไม่ดีเลยแฮะ
ขณะเดียวกัน สองดยุคก้มศีรษะคำนับกริดอย่างนอบน้อม พวกมันหันไปบอกลารูบี้และเซ็กซี่สคูลเกิร์ลพร้อมกับเรียกระดมพลขุนนางและอัศวินในสังกัด
“รีบเดินทางกลับวังหลวง! หากพบความผิดปรกติแม้เพียงเล็กน้อย สั่งให้กองทัพประจำตระกูลเข้าร่วมสงครามทันที!”
“ขอรับ!”
พายุกำลังก่อตัวขึ้นอีกระลอก
หลายสิ่งกำลังจะเปลี่ยนไปหลังจากนี้
หารู้ไม่ว่า ท่ามกลางการเปลี่ยนผันมากมาย สองพี่น้องกริดและรูบี้คือฟันเฟืองสำคัญผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด
“ฮิฮิ! พี่ชายเท่จังเลย!”
“อย่ามาเกาะแกะพี่นะ!”
จริงสิ… ยังมีเซ็กซี่สคูลเกิร์ลอีกคน
จบไวมากเลยตอนนี้...
ReplyDeleteเหลือบาซาร่าอีกคนสินะ!!!
👍
ReplyDeleteขอบคุณครับ