จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1070



“…?”


ไม่ว่าจะชนชั้นใด แต่กิริยามารยาทคือสิ่งจำเป็นสำหรับเข้าร่วมสังคมมนุษย์ บุรุษทุกคนควรรักษาความองอาจสง่างาม


ลิมิตเติบโตมาในสังคมแบบนั้น


ทว่า กษัตริย์อาณาจักรผู้หนึ่งกลับหยิบผืนผ้าออกมาคลี่กางขณะต่อสู้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายแลกชีวิต ลิมิตไม่เคยจินตนาการภาพเช่นนี้มาก่อน


พรึบ—!


ความฉงนของมันกำลังเพิ่มพูน


ราชาโอเวอร์เกียร์คลี่ผ้าออกมากางอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ไม่ตรงตามสามัญสำนึกข้อใดทั้งสิ้น


ซู่ว—!


ทันใดนั้น แรงระเบิดปริมาณมหาศาลถูกดูดกลืนหายเข้าไปในผ้าปริศนา เหตุการณ์ตรงหน้าย่อมปราศจากคำอธิบาย อยู่นอกเหนือจินตนาการมนุษย์มากเกินไป


อันที่จริงราชาโอเวอร์เกียร์และดยุคแห่งดาบเคยมีชะตาต้องจบชีวิตไปพร้อมกัน แต่เศษผ้าลึกลับกลับเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง


“…”


“…”


ความเงียบงันพลันครอบงำบรรยากาศ


ลิมิตผู้รักษามาดสุขุมมาตั้งแต่เริ่มศึก


บีฟรองเซ่ผู้เฝ้ามองการต่อสู้โดยไม่ยื่นเข้าสอด


คนแคระเคย์ผู้สนใจในดาบสีทองสลับดำ


ดยุคเกล็นฮาลผู้รอลุ้นผลลัพธ์การต่อสู้


นักโทษจากทุกห้องขังโดยรอบ


ไม่มีใครเปล่งเสียงออกมาแม้แต่คนเดียว


คล้ายกับทุกสิ่งมีชีวิตภายในเวิ้งคุกนรกหยุดหายใจชั่วขณะ


หรืออีกนัยหนึ่ง พลังของช่างตัดเย็บในตำนานยอดเยี่ยมถึงเพียงนั้น ประสิทธิภาพของไอเท็มเหนือจินตนาการสมชื่อ ‘มหัศจรรย์’


<ผ้ามหัศจรรย์ของครูเกอร์>

เกรด : เลเจนดารี

ความคงทน : อนันต์

ผ้า 4 มิติ สามารถดูดกลืนความเสียดายจากระเบิดได้ทุกชนิด

ใช้งานโดยการคลี่ผ้าออกในจุดเกิดระเบิด แรงระเบิดจะถูกดูดกลืนเข้าไปในผ้าทั้งหมด

ระยะหน่วง : 10 นาที


“…พลังระเบิดเมื่อครู่ ต้องใช้การกระตุ้นแก่นพลังเพื่อสร้างขึ้นเชียวนะ กระทั่งประตูวังหลังยังแหลกละเอียดไม่เหลือซาก แม้จะถูกเวทมนตร์หลายชนิดร่ายป้องกันไว้ก็ตาม…”


ลิมิตพึมพำอย่างไม่เชื่อสายตา สมาธิไม่จดจ่อกับสิ่งใดนอกจากผืนผ้าในมือกริด


ดยุคแห่งดาบตัดสินใจถาม


“ผ้าผืนนั้นสร้างมาจากอะไรกันแน่ ส่วนหนึ่งของอวัยวะมังกรหรือไง”


“ฉันก็ไม่รู้”


กริดตอบตามจริง แม้แต่ตัวมันก็ไม่มีข้อมูลวัสดุสำหรับสร้างผ้าผืนนี้


ขณะเก็บผ้ามหัศจรรย์ของครูเกอร์กลับ


ตึกตัก… ตึกตัก!


แม้ภายนอกจะสุขุม แต่หัวใจกริดกำลังเต้นโครมครามชนิดหยุดไม่อยู่ ปลายนิ้วยังสั่นเทาจากเหตุการณ์เมื่อครู่ไม่หาย


กริดแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง


หากตนช้ากว่านี้เพียง 0.1 วินาที แรงระเบิดเมื่อครู่จะป่นทุกสิ่งให้พินาศ ความฉิบหายไม่กำจัดเฉพาะตนหรือลิมิต แต่ยังรวมถึงโค้ก


หากตนและโค้กเสียชีวิตพร้อมกัน โอกาสช่วยเหลือสามดยุคคงจบสิ้นในพริบตา นั่นคือผลลัพธ์แสนเลวร้าย กริดไม่ต้องการให้เกิด


‘หรือความจริงแล้ว ตัวเราก็พอจะมีพรสวรรค์อยู่บ้าง’


แต่ไหนแต่ไร กริดมักถ่อมตนมาตลอด โดยเฉพาะหากถกเถียงในประเด็นด้านพรสวรรค์


พรสวรรค์—ลำพังความพยายามไม่สามารถมอบสิ่งนี้ให้กับมนุษย์ได้ ไม่ว่าจะก้มหน้าฝึกฝนมากมายสักเพียงใด


กริดเจียมเนื้อเจียมตัวมาตลอด มันตระหนักว่าตนคงไม่มีของพรรค์นั้น ไม่เหมือนกับแรงเกอร์แถวหน้าคนอื่น


รอบตัวชายหนุ่มเต็มไปด้วยบุคคลฝีมือน่าทึ่ง ตัวอย่างชัดเจนคงไม่มีใครเกินครอเกล


แนวทางการเล่นเกม ฝีมือควบคุม รวมถึงสติปัญญา ครอเกลล้วนเหลือกว่ากริดทุกด้าน สิ่งเหล่านั้นคือพรสวรรค์ การฝึกหนักเจียนตายไม่สามารถมอบให้ได้


ทว่า


ในวินาทีนี้ กริดหนักว่าตนมีหนึ่งสิ่งเหนือกว่าครอเกลอย่างชัดเจน


ความเร็วสลับไอเท็ม


เมื่อคิดได้ ชายหนุ่มพลันเกิดความภูมิใจชนิดอธิบายเป็นคำพูดไม่ถูก


ตลอดหลายปีหลัง ตัวมันและชาวโอเวอร์เกียร์ทุกคน ต่างร่วมทุกข์ร่วมสุขในสถานการณ์เลวร้ายไม่ซ้ำหน้า ชายหนุ่มถือครองไอเท็มมากกว่าใคร และมันต้องคอยสลับไอเท็ม สวมเข้าถอดออก บ่อยครั้งกว่าใครเสมอ


ตัวอย่างชัดเจนคงหนีไม่พ้นแหวนโดรัน คนทั่วไปอาจไม่ทราบ แต่กริดฝึกใช้แหวนโดรันจนซึมซับเข้าไปในจิตสำนึก ทุกครั้งเมื่อมิอาจหลบหลีกการโจมตีหนักหน่วงจากศัตรู ชายหนุ่มพร่ำบอกสัญชาตญาณตนเองให้สวมแหวนโดรันโดยไม่ผ่านสมองไตร่ตรอง


จากบรรดาผู้เล่นกว่าสองพันล้าน กริดอาจสลับสวมไอเท็มได้รวดเร็วกว่าใครทั้งหมด


‘คุคุคุคุ… เรานี่ก็เจ๋งใช่ย่อย’


มันมั่นใจ ภายใต้สถานการณ์เผชิญแรงระเบิดกัมปนาทจากลิมิตเมื่อครู่ มีเพียงตนคนเดียวที่สามารถเอารอดชีวิตมาได้


ต่อให้เป็นครอเกลสุดเก่งกาจ แต่ชะตากรรมของชายคนนั้นคือการถูกแรงระเบิดบดขยี้ร่างจนแหลกละเอียด


นี่คือความมั่นใจเดียวของตน จุดแข็งซึ่งไม่เป็นสองรองใคร กริดสามารถอวดโอ่ความเร็วสลับไอเท็มได้อย่างไม่กระดากปาก


ไม่จำเป็นต้องถ่อมตนในเรื่องนี้


สติชายหนุ่มกลับมาจดจ่อกับการดวลตรงหน้าอีกครั้ง ปลายดาบถูกเล็งชี้ไปยังดยุคแห่งดาบด้วยสีหน้าสุขุม


กริดตระหนักถึงสภาพย่ำแย่ของอีกฝ่ายเป็นอย่างดี การดวลแสนยาวนาน กำลังจะถึงบทสรุปในอีกไม่ช้า


ลิมิตฝืนขีดจำกัดตัวเองด้วยการใช้ ‘กระตุ้นแก่นพลัง’ สิ่งนี้ส่งผลร้ายต่อร่างกาย


ริมฝีปากดยุคแห่งดาบกำลังขาวซีด หลังจากเงียบงันสักพัก มันตัดสินใจเปิดปากพูดกับกริด


“เจ้าจ้องมองเหมือนกับข้าเป็นคนบาป แต่ในความเป็นจริง เจ้าไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับตัวข้าเลย”


“…?”


“ข้าเกิดมาพร้อมภาระแสนหนักอึ้งของตระกูล เกิดมาพร้อมความคาดหวังจะให้เป็นอันดับหนึ่งในจักรวรรดิ


“แต่ตัวข้าไร้พรสวรรค์ จึงต้องอยู่ใต้ร่มเงาของอัจฉริยะนามว่าปิอาโร่มาตลอด ตัวข้าเป็นได้เพียงบุคคลน่าสมเพช มิอาจหลีกหนีชะตากรรมน่าอดสูได้ชั่วชีวิต”


“…”


“ต่อให้ตายกลายเป็นวิญญาณ แต่ข้าก็ไม่มีวันลืมสายตาของท่านพ่อลง”


สายตาแสนผิดหวังและโกรธแค้น ทุกครั้งเมื่อต้องเผชิญสายตานั้น ลิมิตจะรู้สึกราวกับหน้าอกของตนถูกมีดคมปักคาไว้ตลอดเวลา


“ข้าปรารถนาอันดับหนึ่ง ปรารถนาร่วมทุกข์ร่วมสุขกับพวกพ้องในสงคราม ปรารถนาความไว้เนื้อเชื่อใจจากองค์จักรพรรดิ”


หากความปรารถนาเหล่านั้นเป็นจริงขึ้นมาบ้าง มีดที่ปักคาอกลิมิตมาแสนนานคงถูกดึงออก


มันต้องการเพียงแค่นั้น


แต่วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว กว่าจะรู้ตัวอีกที ลิมิตได้กลายเป็นบุคคลจิตใจบิดเบี้ยว เปี่ยมด้วยอารมณ์ริษยาเคียดแค้น ถลำลึกชนิดมิอาจถอนตัวกลับ


ลงเอยด้วย มันเลือกทอดทิ้งองค์จักรพรรดิและหันไปเข้าพวกแมรี่


“ทำไมข้าถึงไม่เกิดมาเป็นอัจฉริยะ ทำไมถึงไม่เกิดมาพร้อมพรสวรรค์วิชาดาบ… ทำไมกัน!”


“…?”


ลิมิตคือตัวตนยิ่งใหญ่ของจักรวรรดิ ย่อมต้องมาพร้อมเรื่องราวปูมหลังสุดพิเศษ


แต่ขณะยืนฟังอีกฝ่ายถ่ายทอดความรู้สึก กริดกลับอดขมวดคิ้วไม่ได้


บทสนทนาดำเนินไปอย่างประหลาด หากตนได้ยินไม่ผิด อีกฝ่ายกำลังเรียกตัวเองว่าบุคคลไร้พรสวรรค์อย่างนั้นหรือ


ไม่มีทาง ตนคงหูฝาดแน่


“ฉันไม่รู้ว่าแกพยายามจะสื่ออะไร แต่ขอสรุปตรงนี้เลยก็แล้วกัน ศีลธรรมของแกบิดเบี้ยวจนไม่หลงเหลือความเป็นคนอีกแล้ว จะบอกอะไรให้ ไม่มีมนุษย์ปรกติคนไหนทรยศหักหลังอาณาจักรของตัวเองหรอกนะ แกมันไม่ใช่มนุษย์…


“ฉันไม่สนว่าแกกำลังรู้สึกอย่างไร เคยเผชิญปัญหาแบบใดในอดีตมาก่อน แต่ก็เปลี่ยนความจริงไม่ได้ว่า แกทำลายอนาคตอันรุ่งโรจน์ของปิอาโร่และอัสโมเฟล และยังทำให้เหล่าสามดยุคต้องตกอยู่ในสภาพทุกข์ทรมาน”


“…”


ดวงตาลิมิต นัยน์ตาแสนสิ้นหวังคล้ายกับปลาตายจนถึงเมื่อครู่ ยามนี้เริ่มเกิดอาการสั่นเทา


มันเพิ่งตระหนักได้


ทั้งหมดเป็นเพียงข้ออ้าง


อ้างความไร้พรสวรรค์เพื่อกระทำความชั่ว


หากจะมีสิ่งใดผิด สิ่งนั้นคือจิตใจแสนบิดเบี้ยวของตน จิตใจสุดต่ำทราม เต็มไปด้วยอารมณ์อิจฉาริษยา จนถึงขั้นป้ายความผิดให้ปิอาโร่และอัสโมเฟลผู้บริสุทธิ์ ทรยศหักหลังราชวงศ์ซาฮารันและเข้าร่วมฝ่ายแมรี่ ทำร้ายพวกพ้องดยุคด้วยกันเอง ซึ่งหนึ่งในเป็นความผิดสูงสุดของจักรวรรดิซาฮารัน


ความคาดหวังและสายตาผิดหวังจากบิดา มิใช่ข้ออ้างให้มันกลายเป็นคนจิตใจพิการอย่างชอบธรรม


ฉึบ!


ลิมิตเก็บดาบกลับเข้าฝักตรงเอว


ด้วยสภาพมือเปล่า มันเงยหน้ากล่าวกับกริดด้วยน้ำเสียงโดดเดี่ยวอ้างว้าง


“จงสังหารข้าอย่างทรมาน บุคคลจิตใจคดเคี้ยวไม่มีสิทธิ์ได้พักผ่อนอย่างสบายเหมือนผู้อื่น และหากวันหน้ามีโอกาส ช่วยฝากคำขอโทษไปถึงปิอาโร่กับอัสโมเฟลด้วย”


เมื่อกล่าวจบ ลิมิตชำเลืองมองกรงห้องขังด้านหลังกริด


ต้องขอโทษพวกนายด้วยเช่นกัน… คล้ายกับมันต้องการกล่าวเช่นนี้ออกมา


ชายหนุ่มพลันประหลาดใจ


ดวงตาปัจจุบันของดยุคแห่งดาบ ดวงตาของบุรุษผู้ตระหนักถึงบาปร้ายแรง ชนิดยอมรับโทษตายสูงสุดด้วยตัวเอง ดวงตาคู่นั้นช่างลุ่มลึกไร้ก้นบึ้ง กระจ่างสดใสไม่ต่างจากจอมปราชญ์สติกส์


ฉากการมอบตัวของลิมิต ไม่เคยอยู่ในห้วงจินตนาการกริดมาก่อน


หรือว่า ชายคนนี้ก็เคยถูกแก่นยาธานกัดกินจิตใจสมัยอดีต


แต่นั่นเป็นเพียงการคาดเดา ยังไม่มีใครทราบข้อเท็จจริง


“…ท่านราชาโอเวอร์เกียร์”


เสียงเกล็นฮาลดังจากด้านหลังกริด


“ได้โปรดจบชีวิตเขาภายในคุกแห่งนี้ เพราะหากองค์จักรพรรดิลงโทษด้วยตนเอง เกรงว่าครอบครัวของเขาจะถูกล้างบางจนหมดสิ้น”


“…”


แบบนั้นก็ดีแล้วไม่ใช่หรือ กริดรู้สึกว่า บทลงโทษดังกล่าวสาสมกับความชั่วช้าของลิมิต


แต่ชายหนุ่มมิได้กล่าวออกไป มันย่อมทราบ ในอดีตเคยมีเหตุการณ์คล้ายคลึงกันเกิดขึ้นมาก่อน คดีก่อกบฏของปิอาโร่ เกล็นฮาลเสียใจกับเหตุการณ์นั้นมาก ตัวมันไม่สามารถช่วยเหลือครอบครัวของปิอาโร่ไว้ได้ สุดท้ายต้องถูกฆ่าล้างบางทิ้งทั้งตระกูลโดยไม่มีความผิด


ถึงจะไม่ชอบหน้าลิมิต แต่โศกนาฏกรรมก็ไม่สมควรเกิดกับตระกูลใดทั้งสิ้น


กริดตอบด้วยเสียงเย็นชา


“ไม่ต้องห่วง ฉันคิดจะทำแบบแต่แรกแล้ว ศัตรูของอัศวินฉัน ถือเป็นศัตรูของฉันเช่นกัน”


ถึงจะพูดออกไปอย่างหนักแน่น แต่ภายในใจชายหนุ่มกำลังหนักอึ้ง


ใจจริง ขณะกริดเกิดโทสะเดือดดาลก่อนเริ่มสู้ มันมีแผนสะบั้นคอลิมิตให้ขาดออกจากร่างในพริบตา อย่างไร้ความปรานี


แต่บทสนทนายืดยาวเมื่อครู่กำลังทำพิษ


ฟู่ว! ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าปอด จากนั้นก็ย่างกรายเข้าหาอีกฝ่ายอย่างไม่รีบร้อน


ท่วงท่ารำดาบ


ลิมิตยืนจ้องกระบวนดาบสง่างามด้วยสีหน้าเรียบเฉย มันเตรียมใจเป็นอย่างดีแล้ว


ขณะเฝ้ามอง โสตประสาทของดยุคแห่งดาบเริ่มได้ยินเสียงพื้นหินเกิดรอยร้าว


บรรยากาศรอบตัวเริ่มสั่นสะเทือน


ฟ้าว—!


สายลมเริ่มหมุนวน ก่อนจะก่อตัวเป็นพายุสลาตันเกรี้ยวกราด สิ่งนี้คือเวทมนตร์ลมเฉือนบราฮัม เอฟเฟคข้างเคียงจากวิชาดาบ ‘ร่ายรำ’


ซู่ว—!


ถัดมา คมดาบสีทองสลับดำพลังส่องแสงฉูดฉาด เป็นเอฟเฟคเฉพาะตัวของเวทมนตร์เสริมแกร่งอาวุธ


วาบ!


จิตสังหารเข้มข้นพลันฟุ้งกระจายทั่วเวิ้งคุกอันมืดมิด หากจิตใจไม่เข้มแข็งพอ เหยื่ออาจถูกสะกดข่มให้คุกเข่าศิโรราบในทันที


นั่นคือเอฟเฟคของ ‘สังหาร’


“มายาร่ายรำทำลายล้างสังหาร!”


เทคนิคดาบผสาน 4 ชนิด กริดสร้างมันหลังจากได้รับพลังมหาจอมดาบ ชายหนุ่มผสานสิ่งนี้เป็นทักษะลำดับห้า


หากวัดกันเพียงพลังโจมตีหนึ่งเป้าหมาย มายาร่ายรำทำลายล้างสังหารจะมีความรุนแรงสูงสุดจากบรรดาเทคนิคดาบทั้งหมด


กริดทำไปเพื่อแสดงความนับถือต่อดยุคแห่งดาบ หาใช่เพื่อตัวลิมิต


ขอบคุณสำหรับเกียรติยศ


คล้ายกับกริดได้ยินเสียงแว่วจากอีกฝ่าย


“…”


ในวินาทีนี้ สีหน้าลิมิตกำลังสงบนิ่ง ความเจ็บปวดและทุกข์ทรมานตลอดหลายปีหลัง ถึงเวลาเป็นอิสระจากพวกมันเสียที


ฉึก—


ลิมิตจากไปอย่างสงบ


ปราศจากความทรมานใดใด


ซู่ว—


หนึ่งในขั้วอำนาจใหญ่ของจักรวรรดิซาฮารัน ถูกแปรเปลี่ยนให้เป็นแสงเทา โดยมีสักขีพยานรายล้อมจำนวนมาก


ผู้เล่นหนึ่งคนสามารถเอาชนะดยุคแห่งดาบในการดวลได้อย่างไร


“อ…อะไรกัน”


เลซี่พูดอะไรไม่ออก สำหรับตัวมัน หนึ่งในอัศวินรับใช้องค์ชาย ย่อมมีโอกาสประจักษ์พลังของเจ็ดดยุคบ่อยครั้ง ความตายของลิมิตเป็นเรื่องเหนือจินตนาการเลซี่อย่างมาก


ขณะเดียวกัน โค้กทำเพียงกำหมัดแน่นอย่างสะใจ กระนั้นก็มิได้ออกนอกหน้าเกินงาม แต่ก็มิได้เหม่อลอยอย่างไร้สติเหมือนเลซี่


“นึกแล้วว่าคุณกริดต้องทำได้!”


“…”


หือ…? นี่นายมั่นใจแต่แรก?


โค้กจะบอกว่า ตนมั่นใจเรื่องที่ผู้เล่นหนึ่งคน สามารถดวลชนะ NPC ดยุคแห่งดาบสุดแข็งแกร่งของจักรวรรดิ…?


เลซี่ไม่มีทางเชื่อลง เหตุการณ์ทั้งหมดรอบตัว คล้ายความฝันมากกว่าเป็นความจริง


ทว่า สิ่งเหล่านี้มิใช่ความฝัน


[ดยุคแห่งจักรวรรดิ ลิมิต ดยุคแห่งดาบ ถูกสังหาร]


[เป็นความสำเร็จที่ไม่เคยมีผู้ใดทำได้มาก่อน!]


[ค่าชื่อเสียงระดับทวีปเพิ่มขึ้น 3,000 แต้ม!]


[เลเวลของหัวหน้าปาร์ตี้ ‘กริด’ เพิ่มขึ้นหนึ่งระดับ!]


[พลัง <? > ของหัวหน้าปาร์ตี้ ‘กริด’ ถูกยกระดับ แต่ท่านยังเข้าไม่ถึงระบบดังกล่าว เนื่องจากมีข้อมูลเกี่ยวกับโลกใบนี้ไม่มากพอ]


[หัวหน้าปาร์ตี้ ‘กริด’ ได้รับไอเท็ม ‘ดาบดารา’]


[หัวหน้าปาร์ตี้ ‘กริด’ ได้รับความสำเร็จ ‘ก้าวแรกในการแก้แค้น’]


[ใครบางคนก้าวไปถึงเลเวล 400 สำเร็จเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์!]


ข้อความระบบจำนวนมากกำลังพรั่งพรู รวมถึงข้อความประกาศช่องโลกแทรกปะปน


เลซี่เพิ่งตระหนักเป็นครั้งแรก


‘ท้องฟ้า…’


ดวงตาสั่นระริกของมันกำลังจ้องมองแผ่นหลังราชาโอเวอร์เกียร์อย่างไม่กะพริบ ความรู้สึกแปลกประหลาดพลันเอ่อล้นทั่วร่าง


คนทั่วโลกมองกริดเช่นนี้มาตลอดเลยหรือ


เลซี่ได้แต่นึกสงสัย


***


[ฐานะของท่านถูกยกระดับให้สูงขึ้น เนื่องจากเอาชนะตัวตนแข็งแกร่งได้ ผิวหนังของท่านจะทนทานขึ้นจากปรกติ]


[รางวัลจากฐานะถูกยกระดับ ท่านได้รับทักษะติดตัว ‘ผิวหนังเหนือมนุษย์’]


[ขอแสดงความยินดี ท่านคือผู้เล่นเลเวล 400 คนแรกของโลก]


[ท่านช่วงชิงสมญานาม ‘หัวแถว’ มาจากใครบางคน]


<หัวแถว>

* เพิ่มค่าประสบการณ์ตัวละคร 10%

* รางวัลค้นพบสถานที่ใหม่เพิ่มขึ้น 10%

* ได้รับสิทธิ์ผ่านเข้าออก ‘หอแห่งปัญญา’

* เป็นสมญานามสำหรับผู้เล่นหัวแถวเพียงคนเดียวในโลก จงจำไว้ว่า สิ่งนี้สามารถถูกช่วงชิงไปได้ทุกเมื่อ


‘อ้อ…’


หลังจากอ่านคำอธิบายของสมญานามหัวแถวจบ กริดพลันตระหนักได้ สิ่งนี้ต้องเคยเป็นของครอเกลมาก่อน


‘…เจ๋ง!’


แต่ขณะเดียวกัน มันรู้สึกผิดเล็กน้อย


…เล็กน้อยเท่านั้น


‘ของดีแบบนี้ นายแอบกินคนเดียวมาตลอดเลยสินะ สมน้ำหน้าแล้ว’


เป็นความรู้สึกสะใจปนสดชื่น


ขณะเดียวกัน ข้อความระบบอื่นยังคงแสดงอย่างต่อเนื่องในมุมสายตากริด


[ระบบการตื่นค่าสถานะระดับ 4 ทำงาน]


[ค่าความอดทน 1 แต้มจะเพิ่มพลังชีวิต 30 และเพิ่มพลังป้องกัน 12]


[ค่าพละกำลัง 1 แต้มจะเพิ่มพลังชีวิต 9 และพลังโจมตี 0.8]


[ค่าสติปัญญา 1 แต้มจะเพิ่ม…]




[ท่านได้รับ เศษสิ้นส่วนลับของคลาสผู้สืบทอดแพ็กม่า]


[รายละเอียดทักษะ ‘สร้างแร่’ มีการเปลี่ยนแปลง]


<สร้างแร่>

สร้างแร่ชนิดใหม่โดยการนำแร่ต่างชนิดผสมเข้าด้วยกัน ปัจจุบันสามารถใช้พาเฟรเนียมเป็นแร่วัตถุดิบผสมได้แล้ว

แร่พาเฟรเนียมมีองค์ความรู้ของมหาจอมเวทในตำนานอัดแน่น หมายความว่า ท่านสามารถสร้างแร่ชนิดใหม่ได้เอง ด้วยภูมิปัญญาภายในพาเฟรเนียม โดยไม่ต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากมหาจอมเวท

ระยะเวลาในการสร้าง : ทันที

จำนวนแร่วัตถุดิบ : สูงสุด 5 ชนิด นับรวมพาเฟรเนียม

จำนวนคงเหลือสำหรับสร้างแร่ : 1/1

* น้ำหนักของแร่ชนิดใหม่จะเทียบเท่าปริมาณพาเฟรเนียมที่ท่านครอบครอง

* หลังจากสร้างแร่เสร็จ ท่านสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของแร่ได้ด้วยความช่วยเหลือจากมหาจอมเวท


“อา…”


ย้อนกลับไปสมัยเพิ่งเลเวล 300 กริดได้รับพลังใหม่เป็น ‘ผสานไอเท็ม’ ซึ่งนั่นถือเป็นการยกระดับตัวละครอย่างใหญ่หลวง


ด้วยเหตุนี้ ชายหนุ่มจึงคาดหวังกับพลังใหม่ของเลเวล 400 พอสมควร แต่ในความเป็นจริง มูลค่าของพลังดังกล่าวกลับสูงเหนือจินตนาการไปอีกหนึ่งขั้น


“ฮะฮะ…!”


สามปีกระมัง ไม่สิ คงราวสี่ปี


นั่นคือระยะเวลาในการไต่จากเลเวล 300 ไปจนถึง 400 ของกริด


ความปีติกำลังเอ่อล้นทั่วร่าง ชายหนุ่มไม่มีทางเก็บซ่อนรอยยิ้มแห่งความสุขไว้ได้


[‘ผสานไอเท็ม’ หมดเวลา]


ดาบสองเล่มถูกแยกจากกัน


> นายระวังเจ้านั่นไว้ให้ดี


“หมายถึงใคร”


> เจ้าเผ่าอสูรตนนั้น ยังไม่มั่นใจนัก แต่จมูกของฉันมันร้องเตือน… ถึงเวลาต้องกลับไปหาพีคซอร์ดแล้ว หรือไม่ก็มนุษย์บัดซบสักคนที่มีชื่อทำนองนั้น


“…หืม”


ดูเหมือนยารุกต์จะเข้ากับพีคซอร์ดได้ดี


กริดไม่ปล่อยผ่านคำแนะนำ ชายหนุ่มชำเลืองมองบีฟรองเซ่เล็กน้อย อีกฝ่ายกำลังยืนกอดอก หลังพิงกำแพงหิน รับบทบาทผู้ชมโดยไม่เข้าร่วมตะลุมบอน


สัตว์อสูรลำดับหนึ่งของขุมนรกรู้สึกหวาดกลัว นักดาบอันดับหนึ่งของขุมนรกออกปากเตือน


เห็นทีคงต้องระวังไว้บ้าง


‘แต่หมอนี่ยังไม่มุ่งร้ายกับเรา คงต้องจับตามองอย่างสันติอีกสักพัก’


แถมปัญหาเร่งด่วนปัจจุบันยังมิใช่บีฟรองเซ่ แต่เป็นสามดยุคและคนแคระเคย์


ด้วยความสัตย์จริง กริดต้องการเดินสำรวจเวิ้งคุกให้ถ้วนทั่ว เผื่อว่าตนอาจได้พบนักโทษน่าสนใจคนอื่นให้พากลับ


แต่ปัจจุบันคงทำเช่นนั้นไม่ได้ หากอีธานสัมผัสถึงการตายของดยุคแห่งดาบ มันอาจวางแผนล้อมจับตนและสามดยุคบ้านบน


ต้องรีบแล้ว


“บีฟรองเซ่ แล้วจะกลับมาใหม่ ขอให้นายปลอดภัยจนถึงตอนนั้น ฉันคืนกุญแจให้”


“ถึงจะน่าละอายไปสักหน่อย แต่ก็ขอบใจ”


หลังจากนั้น ปาร์ตี้กริดรีบเผ่นหนีออกจากคุกนรกพร้อมกับสามดยุคและคนแคระเคย์ แน่นอน เลซี่ได้รับรายชื่อนักโทษมาแล้ว ภารกิจของทุกคนจึงสำเร็จลุล่วงด้วยดี



ขณะเดียวกัน


ณ วังสวรรค์


แกรนมาสเตอร์ ซิกเฟรคเตอร์ วางบอลคริสตัลลงหลังจากเฝ้ามองมาเป็นเวลานาน


“ถูกลิมิตขัดขวางไว้ก่อนสินะ”


นึกว่าจะรับมือดยุคได้ง่ายดาย หลังจากกลายเป็นเหนือมนุษย์แล้วเสียอีก คำนวณผิดถนัด


“เราน่าจะฆ่าลิมิตเองตั้งแต่แรก”


ไม่สิ แบบนั้นไม่ได้


หากแค่ดยุคแห่งดาบยังตึงมือ แล้วจะมีน้ำยาไปเอาชนะไฮดราได้อย่างไร


“คงต้องเลื่อนกำหนดการออกไปก่อน”


มันรอช่วงเวลานี้มานานกว่าร้อยปี รอเพิ่มอีกสักหน่อยจะเป็นอะไรไป


ขณะมองออกไปนอกหน้าต่าง รอยยิ้มเจือจางปรากฏบนใบหน้าแกรนมาสเตอร์เป็นหนแรก


ใช่แล้ว ยิ้มหนแรกในรอบร้อยปี


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,459
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. แกรนด์​มาสเตอร์​ต้องการตัวกริดแน่ๆ​ ในเชิงผูกมิตร​ (คหสต)​

    ReplyDelete
  2. ดังอีกแล้ว​ ก็อดกริด👍

    ReplyDelete
  3. นึกว่าจะมีอะไรแกรนมาสเตอร์

    จะหาคนไปสู้กับไฮดร้านี่เอง

    ReplyDelete
  4. แกรนด์มาสเตอร์เกี่ยวข้องอะไรกับเจ็ดภัยพิบัติ

    ReplyDelete
    Replies
    1. อาจจะเกี่ยวข้องกับ 1 ใน 7 ก็ได้ครับ ตอนนี้พันพิบัติยังออกมาไม่ครบเลย

      Delete
    2. 1 ใน 7 ภัยพิบัติบาปแห่งความเกียจคร้าน

      Delete
    3. เฮ็คเซเทียอยากบีบหัวนมอัดหน้าคนขี้สปอย

      Delete
  5. แอบคิดว่าบีฟรองเซ่ตัวจริงแกรนมาสเตอร์ซะอีก เหมือนร่างมืดกริด 🤣

    ReplyDelete
    Replies
    1. มันมีสัญลักษณ์วูบวาบบนหน้าผากอ่ะ ตอนที่กริดใช้ท่าสุดท้ายก่อนจับเป็น น่าจะเป็นสัญลักษณ์ทาสของแกรนมาสเตอร์ บีฟรองเซ่เลยคิดว่าตัวเองเกิดจากความเวิ้งว้าง ..ใครจะบ้าเกิดในอากาศได้

      Delete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00