จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1065
‘ช่างหัวตาแก่นั่นดีกว่า’
หลังจากถูกจองจำมานานหลายปี จิตใจคงผิดเพี้ยนบิดเบี้ยวไปหมดแล้ว ตอนแรกพูดกับเราไว้อย่างหนึ่ง แต่เมื่อครู่กลับพูดอีกอย่าง
มโนภาพความน่าเกรงขามของเผ่าคนแคระพลันแหลกละเอียดไม่เหลือชิ้นดี
ดาบท้าทายเทพ
ผลงานแสนภาคภูมิใจของกริด เทคนิคตีเหล็กที่สามารถเอาชนะเทพ ชายหนุ่มกำยอดศาสตราในมือแน่นถนัดเตรียมต่อสู้ มันไม่คิดสนใจคนแคระเคย์เหลวไหลผู้นี้อีก
ราชาโอเวอร์เกียร์ยื่นรองเท้าคู่หนึ่งให้กับโค้กที่กำลังเกาะวงแหวนโลหะ
ร้องเท้าบราฮัม—ไอเท็มบรรจุเวทบิน
“รีบสวมเข้า”
“น…นี่มัน!”
แต่ไหนแต่ไร รองเท้าบราฮัมคือสัญลักษณ์ของกริดมาตลอด
ทุกฉากเหตุการณ์โด่งดังในอดีต กริดมักสวมรองเท้าบราฮัมเข้าห้ำหั่นศัตรูจนเกิดเป็นภาพติดตาผู้ชมทั่วโลก
กล้าให้ยืมของสำคัญขนาดนี้เชียวหรือ?
‘เขาเชื่อใจเราสินะ…’
ดวงตาโค้กเริ่มสั่นเทิ้ม · กริดกล่าวเสียงขึงขัง
“ห้ามตายเด็ดขาด ถ้าหากตายแล้วรองเท้าคู่นี้ดรอป รับรองได้เป็นหนี้ฉันชั่วชีวิตแน่นอน”
“…ครับ ผมจะเอาตัวรอดให้ได้”
โค้กขานรับแข็งขัน มันเข้าใจเจตนากริด
เมื่อสวมรองเท้าบราฮัมและลอยบนท้องฟ้าได้ชั่วขณะ โค้กรีบเหาะพาร่างเลซี่ไปหลบในจุดปลอดภัย
“ผมจะกลับไปช่วยสนับสนุนฝ่าบาท คงต้องรบกวนให้เซอร์เลซี่ช่วยตามหารายชื่อนักโทษและห้องขังของสามดยุคด้วย”
“เข้าใจแล้ว”
จากขีดกำจัดสภาพสนามรบ หากหวังสู้กับอสูรบีฟรองเซ่ หนทางเดียวคือต้องบินได้
เมื่อตระหนักว่าตนเองหมดสิทธิ์ในการรบ อัศวินเลซี่ยอมรับหน้าที่สำรวจหารายชื่อให้ภารกิจทุกคนลุล่วง
ทางด้านโค้กตั้งท่าเตรียมสนับสนุนกริด
“หือ… เจ้าเป็นเผ่าเดียวกับเราหรือ?”
เหนือท้องฟ้าวางเปล่า บรรยากาศความมืดเข้มข้นกำลังปกคลุมจนยากมองเห็นสิ่งรอบข้าง
บีฟรองเซ่ซักถามกริดเสียงฉงน
‘การพูดคุยอาจสร้างผลลัพธ์ที่ดีก็ได้…’
บีฟรองเซ่เรียกคุกนรกว่าเวิ้งคุก มันเกิดและเติบโตที่นี่ไม่ผิดแน่ ฉะนั้น ภายในโลกแสนมืดมิด จอมอสูรทารกย่อมไม่รู้เดียงสา มีโอกาสแพร่งพรายความลับและอยากรู้อยากเห็น
กริดไม่ตอบคำถามบีฟรองเซ่ เพียงย้อนถามกลับไป
“ทำไมถึงสงสัยว่าฉันเป็นเผ่าเดียวกับแก?”
“กลิ่นพวกเราเหมือนกันมาก”
‘เพราะพลังอสูรสินะ…’
แต้มสถานะพลังอสูรคือสิ่งใช้แทนปราณอสูร และเป็นสาเหตุช่วยให้กริดใช้ร่างมืดสำเร็จ
หลังจากก้มหน้าไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน กริดยังคงตั้งคำถามต่อ
“ถ้าพวกเราเป็นเผ่าเดียวกัน แกจะยอมร่วมมือไหม?”
ระบบซาทิสฟายจำแนกบีฟรองเซ่ให้เป็น NPC มิใช่มอนสเตอร์เผ่าอสูร ลักษณะเหมือนกับ NPC หมู่บ้านในนรกที่กริดเคยพบ
NPC เผ่าอสูรจะถือเป็นสิ่งมีชีวิตหลากเผ่าพันธุ์เฉกเช่นเอลฟ์ คนแคระ และเผ่าวารี แตกต่างจากจอมอสูรและอสูรชั่วร้ายชนิดอื่นซึ่งถูกจำแนกให้เป็นมอนสเตอร์ ภัยใหญ่หลวงของเผ่าพันธุ์มนุษย์
“หือ? คงทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะข้าเกิดภายใน ‘ช่องว่าง’ แห่งนี้และกำลังให้ร่วมมือกับเผ่ามนุษย์”
“ก็ฉันนี่แหละมนุษย์”
บทสนทนาสุดกลับกลอกของกริดทำให้เคย์มีอันต้องฉงน
ขณะเดียวกัน ถึงจะได้ยินกริดเปิดเผยตัวว่าเป็นมนุษย์ชัดเจน แต่บีฟรองเซ่กลับยังส่ายหน้า
“ต่อให้เจ้าเป็นมนุษย์ แต่ผู้บุกรุกคือผู้บุกรุก แถมยังเจ้าไม่นำเครื่องเซ่นมาให้เรา”
“แต่ฉันเป็นเผ่าพันธุ์เดียวกับแก”
“แบบนั้นก็ยิ่งเป็นศัตรู เพราะฉันต้องการสู้กับเผ่าพันธุ์เดียวกันมานานแล้ว”
“…”
นั่นสินะ… บนโลกซาทิสฟาย NPC บางตัวก็มิได้สลักสำคัญอะไรนัก เหตุการณ์บางบทถูกกำหนดไว้ตั้งแต่ต้นและมิอาจหลีกเลี่ยง
กริดถอนหายใจผิดหวังเมื่อทราบว่าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องสู้
แต่ก่อนจะเริ่มศึก มันต้องการหลอกถามเรื่องราวอีกมากมายจากปากบีฟรองเซ่เสียก่อน
ทันในนั้น ชายหนุ่มพลันฉุกคิดถึงคำพูดของหนึ่งในเจ็ดนักบุญภัยพิบัติ
> พวกเราเจ็ดภัยพิบัติถูกผนึกไว้ระหว่างโลกกึ่งกลางและขุมนรก…
นั่นคือจุดจบของตำนานเจ็ดนักบุญภัยพิบัติ
‘สอดคล้องกับตำนานของคุกนรกที่กล่าวว่า ปลายทางของมิติแห่งนี้เชื่อมต่อกับขุมนรกโดยตรง และยังมีปราณอสูรปริมาณมหาศาลไหลซึมออกมาตลอดเวลา’
นั่นคือคำบอกเล่าจากเลซี่
จนถึงเมื่อครู่ กริดไม่เคยตระหนักมาก่อน
ย่อมช่วยไม่ได้ คนสมองทึบอย่างตนไม่มีทางฉุกคิดอะไรจากเบาะแสเพียงเล็กน้อย
แต่เมื่อได้ยินอสูรบีฟรองเซ่เน้นย้ำเรียกคุกนรกแห่งนี้ว่า ‘ช่องว่าง’ กริดจึงเริ่มเอะใจขึ้นมา
บางที มิติคุกนรกอาจถูกใช้สำหรับผนึกเจ็ดนักบุญภัยพิบัติก็เป็นได้…
“แกเรียกที่นี่ว่าช่องว่างใช่ไหม? ใช่ช่องว่างระหว่างขุมนรกกับโลกกึ่งกลางหรือไม่?
“แล้วทำไมถึงเกิดที่นี่? มีเผ่าอสูรตนอื่นเกิดภายในช่องว่างอีกไหม?
“จักรวรรดิเริ่มติดต่อกับแกตอนไหน? รู้จักเจ็ดนักบุญภัยพิบัติรึเปล่า…?”
“ข้าไม่รู้อะไรเลย อาศัยและเติบโตภายในช่องว่างแห่งนี้มาตลอด มีมนุษย์คอยมอบอาหารให้เมื่อถึงเวลา”
ท่าทีของบีฟรองเซ่เป็นไปในเชิงบวก สีหน้าของมันค่อนข้างดีใจเมื่อได้คุยกับกริด และมีเจตนาต้องการร่วมมือตอบคำถามชัดเจน เพียงแต่มันมีข้อมูลน้อยนิด
‘ชิ…!’
ขณะกริดส่ายหัวผิดหวัง
[ชิ้นส่วนข้อมูลของเจ็ดนักบุญภัยพิบัติที่ท่านเคยรวบรวมไว้ สอดคล้องกับข้อมูลของคุกนรก!]
ระบบซาทิสฟายตอบสนองข้อสงสัยกริด
มันคือเงื่อนไขซึ่งจะเกิดขึ้นหากกริดรวบรวมข้อมูลของคุกนรกและเจ็ดภัยพิบัติเข้าด้วยกัน
[มารลำดับเจ็ด ‘บาปแห่งชั่วร้าย’ เคยกล่าวกับท่านไว้ว่า เจ็ดนักบุญภัยพิบัติล้วนถูกผนึกไว้ระหว่างขุมนรกและโลกกึ่งกลาง]
[อสูร ‘บีฟรองเซ่’ กล่าวโดยนัยว่า คุกนรกคือช่องว่างระหว่างขุมนรกและโลกกึ่งกลาง]
[หมายความว่าคุกนรกและเจ็ดภัยพิบัติต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกันอย่างแน่นอน]
[ภารกิจลับ ★ สถานที่แห่งคำตอบ (1) ★]
<สถานที่แห่งคำตอบ (1) >
★ภารกิจลับ★
จงเอาชนะอสูรบีฟรองเซ่และนำ ‘กุญแจ’ ไปยังใจกลางคุกนรก
เงื่อนไขสำเร็จภารกิจ : จับเป็นอสูรบีฟรองเซ่
บทลงโทษภารกิจล้มเหลว :
- พ่ายแพ้ต่อบีฟรองเซ่
- บีฟรองเซ่ตาย
รางวัลภารกิจ : ภารกิจลับต่อเนื่อง ‘สถานที่แห่งคำตอบ (2) ’
“…!”
ตึกตัก! ตึกตัก!
ความรู้สึกซาบซ่านคล้ายไฟดูดพลันแผ่ไปทั่วร่างกายกริด
มันคือความปีติ
นับตั้งแต่ปราบจอมอสูรเฟย์ริส ชายหนุ่มไม่เคยเข้าถึงความสนุกของซาทิสฟายอีกเลย
ไม่พบความสนุกในการเลเวลอัป เลเวลยังค้างคาที่ 399 อยู่เช่นนั้นเป็นเวลานาน สาเหตุเกิดจากการเพิ่มยากบัดซบของค่าประสบการณ์
ไม่พบความสนุกในการล่าบอส เพราะโจมตีเพียงไม่กี่ครั้งก็ตาย ไม่มีความสนุกในการเก็บเลเวลด้วยเหตุผลเดียวกัน หรือต่อให้สัตว์เลี้ยงจัดการแทน ตนก็ไม่ได้ตื่นเต้นตามไปด้วย
แถมสงครามระหว่างจักรวรรดิก็หยุดลงชั่วคราว วันเวลาผ่านไปอย่างเอื่อยเฉื่อย
ความรู้สึกเดียวในหัวคือ ‘นี่เรายังเล่นเกมอยู่จริงหรือ…?’
วันวานผ่านไปโดยต้องสำเร็จภารกิจกษัตริย์น่าเบื่อหน่ายไปวันๆ
แต่ในวินาทีนี้ เนื้อเรื่องบทหลักของซาทิสฟายซึ่งห่างหายไปนานหลายเดือน ได้กลับมาสูบฉีดโลหิตให้ร่างกายชายหนุ่มซาบซ่านอีกครั้ง
กริดเริ่มตื่นเต้น
‘สาเหตุที่ภารกิจเจ็ดนักบุญภัยพิบัติสูญหายไปนาน เพราะมันซ่อนอยู่ใต้ดินจักรวรรดินี่เอง!’
ด้วยชะตากรรมซึ่งต้องเป็นศัตรูกับจักรวรรดิ เป็นเรื่องปรกติหากจะหมดสิทธิ์เข้าใกล้ดันเจี้ยนแห่งนี้และได้รับเบาะแสเพิ่มเติม ทำให้ต้องห่างเหินจากภารกิจเจ็ดภัยพิบัติไปนานมาก
กริดกำลังขนลุกอย่างตื้นตัน
“รีบสู้. รีบฆ่าผู้บุกรุก. ไม่อย่างนั้นจะอดข้าว.”
ขณะปากพึมพำ บีฟรองเซ่พุ่งตัวเข้าหากริดด้วยความเร็วสูงพร้อมกับกรงเล็บในมือ
บัฟพลังเฟย์ริสหมดลงแล้ว กริดไม่หลงเหลือเกราะอัตโนมัติคุ้มกาย บีฟรองเซ่จึงมองเห็นช่องว่างเปิดโล่ง
แต่ชายหนุ่มกลับยังสุขุมเยือกเย็น
มันเชิญหน้ากับอสูรโดยไม่ผลีผลามใช้ทักษะมั่วซั่ว เพียงการฟาดฟันธรรมดาและหวังพึ่งพาออปชันถุงมือว่องไวอเล็กซ์
เคร้ง—!
“…!?”
เคร้งเคร้งเคร้งเคร้ง—!
“อั่ก…!”
ในหนึ่งวินาทีแรกของศึกดวล บีฟรองเซ่โจมตีใส่กริดทั้งหมด 11 ครั้ง ส่วนชายหนุ่มฟันสวนกลับไปได้ 9 ดาบ ส่งผลให้มีสองครั้งที่สลายไม่หมดและเล็ดลอดปะทะร่างกาย
โลหิตพลันไหลซึมมุมปากราชาโอเวอร์เกียร์
[ท่านได้รับความเสียหาย 5,900 หน่วย]
[ท่านได้รับความเสียหาย 6,130 หน่วย]
‘พละกำลังเยอะขนาดไหนกัน?’
โจมตีได้ 11 ครั้งในหนึ่งวินาที แถมแต่ละหนยังสามารถทะลวงผ่านเกราะวัลฮัลล่า
กริดรีบตอบโต้อย่างสุขุมด้วย ‘แสงจ้า’ ของภูตแสง แทนที่จะเป็นการเปิดร่างมืดเข้าแลกอย่างไม่ลืมหูลืมตา
สำหรับเผ่าอสูรที่คุ้นเคยกับความมืดมิดมาตั้งแต่เกิด ชายหนุ่มคาดเดาว่า มีโอกาสได้รับอาการตาบอดเล่นงานรุนแรงกว่าปรกติ
ทว่าผลลัพธ์กลับไม่เป็นดังใจ บีฟรองเซ่มิได้แพ้ทางแสงจ้าเป็นพิเศษ อาการตาบอดเกิดขึ้นด้วยผลลัพธ์ปรกติ ไม่เหมือนกับภาพที่ตนจินตนาการไว้ว่า อีกฝ่ายต้องทุรนทุรายคล้ายแวมไพร์สัมผัสแสงแดด
ฉวยโอกาสที่อีกฝ่ายเสียจังหวะจากภาวะตาบอด ชายหนุ่มกระหน่ำฟาดฟันได้ทั้งหมดห้าดาบถ้วน
‘ถึกอะไรขนาดนี้…!’
การฟันใส่หน้าอกห้าครั้งอย่างจังด้วยใบดาบท้าทายเทพ กลับสร้างความเสียหายได้เพียงสามหมื่นหน่วยเองหรือ?
เมื่อประเมินจากออปชันเพิ่มพลังโจมตีธาตุศักดิ์สิทธิ์ 20% และสร้างความเสียหายเพิ่มเติม 50% ต่อสิ่งมีชีวิตประเภท NPC พิเศษ พลังป้องกันของอสูรตนนี้นับว่าสูงจนน่าเหลือเชื่อ
บีฟรองเซ่เป็น NPC พิเศษอย่างแน่นอน เพราะอักษรชื่อส่องแสงระยิบระยับ และธรรมชาติของเผ่าอสูรย่อมแพ้ทางธาตุศักดิ์สิทธิ์
“มนุษย์แข็งแกร่งขนาดนี้เชียวหรือ…?”
บีฟรองเซ่ขยับปากพึมพำขณะก้มมองบาดแผลเป็นทางยาวบนหน้าอก สีหน้าบ่งบอกถึงอาการตื่นเต้นมากกว่าโกรธ
“นับตั้งแต่เกิดมาในช่องว่างแห่งนี้ ข้าไม่เคยพบมนุษย์อ่อนแอแม้แต่คนเดียว คำพูดของชายคนนั้นคงเป็นความจริงสินะ เรื่องที่มนุษย์กำลังปกครองโลกกึ่งกลางเบื้องบน”
ด้วยธรรมชาติของคุกนรก บุคคลจะมาถึงจุดนี้ได้ต้องมีระดับความแข็งแกร่งพอตัว ประโยคเมื่อครู่จึงไม่ใช่เรื่องยากที่กริดจะทำความเข้าใจ
แต่ ‘ชายคนนั้น’ หมายถึงใคร?
“แกกำลังพูดถึงองค์ชายหรือองค์จักรพรรดิ?”
“หือ? ผิดแล้ว ไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิด หมอนั่นเป็นมนุษย์ประหลาดที่ไม่รู้จักแก่เฒ่า”
“…?”
ไม่รู้จักแก่เฒ่า…
นัยน์ตากริดเริ่มสั่นระริก
“แกรนมาสเตอร์?”
“ข้าไม่รู้ว่าเขาชื่ออะไร เพราะทุกครั้งจะลงมาคนเดียวเสมอ จึงไม่เคยได้ยินผู้ใดขานชื่อ”
“ใช่ผู้ชายที่มักแสดงสีหน้าเหนื่อยหน่ายเวลาพูดไหม?”
“ถูกต้อง เขาชื่อแกรนมาสเตอร์หรือ?”
“…บ้าน่า”
กริดพลันตระหนัก ปริศนาภายในคุกนรกมิได้มีเพียงเจ็ดภัยพิบัติเพียงอย่างเดียว ไม่ว่าอย่างไรตนก็ต้องเคลียร์ดันเจี้ยนแห่งนี้ให้สำเร็จ
เพื่อการนั้น บีฟรองเซ่ต้องถูกจับกุมโดยเร็ว
“พลิ้วไหว. ร่างมืด. โทสะช่างตีเหล็ก.”
กริดเอาจริงด้วยการบัฟตัวเองเต็มพิกัด
มันประเมินว่า ความแข็งแกร่งของบีฟรองเซ่คงไม่ด้อยไปกว่าเจ็ดดยุคแน่… อาจอยู่ในระดับท็อปห้าจากดยุคทั้งหมดด้วยซ้ำ
“เสมือนเทพ. ผสานไอเท็ม.”
มีแต่ต้องเอาจริงด้วยพลังทั้งหมดที่มีเท่านั้น
ฉึบ—
ใบดาบท้าทายเทพถูกซ้อนทับด้วยใบดาบอัสนีแห่งการบรรลุสัจธรรมจนก่อเกิดภวังค์ปรารถนาอันแรงกล้า
บึ้มบึ้ม—!
บึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม
ศึกดวลแสนดุเดือดเริ่มต้นขึ้น
บีฟรองเซ่ต่อสู้ด้วยสัญชาตญาณดิบโดยไม่พึ่งพาศาสตราวุธ การเคลื่อนไหวร่างกายของมันทั้งเฉียบคมและไม่สูญเปล่า คล้ายกับนักศิลปะการต่อสู้แสนช่ำชอง
ทิศทางการโจมตีและเคลื่อนไหวร่างกายยากคาดเดา ผสมผสานกับพละกำลังช้างสารซึ่งเป็นลักษณะพิเศษของเผ่าอสูร
ฟุ่บฟุ่บ—!
ฟุ่บฟุ่บฟุ่บฟุ่บ—!
อาวุธผสานเกรดมิธของกริดมีพลังทำลายมหาศาลชนิดที่ไม่ต้องอธิบายว่ารุนแรงอย่างไร
“ร่ายรำ!”
“ม่านดูดกลืน!”
บึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!
แรงระเบิดจำนวนมากปรากฏท่วมท้นท้องฟ้าเหนือห้วงมิติว่างเปล่า
บีฟรองเซ่ใช้เวทมนตร์เฉพาะตัวของเผ่าอสูรสลายท่าโจมตีทรงพลังของกริดและเปิดฉากรุกหนักกดดันตอบโต้
ราชาโอเวอร์เกียร์สูญเสียค่าพลังชีวิตสูงสุดไปกว่าครึ่งเมื่อเปิดใช้ร่างมืด ทุกการโจมตีของบีฟรองเซ่จึงนับเป็นภัยคุกคามน่าหวาดหวั่น
‘ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้… เราควรผสานชุดเกราะแต่แรก’
ลงเอยด้วย กริดไม่คิดดวลแบบหนึ่งต่อหนึ่งอย่างสมศักดิ์ศรี มันไม่ต้องการให้ประกันชีวิตอมตะทำงานโดยไม่จำเป็น ชายหนุ่มตัดสินใจอัญเชิญโนเอะออกมาช่วย ส่วนแรนดี้ ทีราเม็ท และโครงกระดูกโอเวอร์เกียร์คงต้องเก็บไว้ก่อน เพราะพวกมันไม่มีทักษะสำหรับบินเป็นเวลานาน
“เมี๊ยว! สัตว์อสูรอันดับหนึ่งแห่งขุมนรกปรากฏตัวแล้ว… เห?”
โนเอะพลันสะดุ้งขณะปรากฏตัวตามลำพัง
บีฟรองเซ่พุ่งโจมตีใส่เม็มฟิสด้วยความเร็วสูงโดยไม่ปล่อยให้ตั้งตัว โชคดีว่าโนเอะหลบได้ด้วยทักษะกลายเป็นของเหลว ก่อนจะถอยกลับมาตั้งหลักด้วยร่างกายสั่นเทา
“น…โนเอะกลัว”
“…?”
เจ้าแมวอ้วนกลัว…?
แต่ไหนแต่ไร ศัตรูที่โนเอะเคยบอกว่าหวาดกลัวมักเป็นจอมอสูรหรือไม่ก็มังกร
หมอนี่กลัวบีฟรองเซ่?
อาศัยจังหวะที่อีกฝ่ายโจมตีโนเอะพลาด ชายหนุ่มฉวยโอกาสปล่อยทักษะในระยะประชิด
“มายาร่ายรำสะพรั่ง!”
แม้บีฟรองเซ่จะแข็งแกร่ง แต่เมื่อถูกจัดให้เป็น NPC พิเศษ ระดับพลังชีวิตย่อมมีขีดจำกัดต่ำกว่ามอนสเตอร์ หากถูกโจมตีด้วยเทคนิคดาบผสาน 4 ชนิด รับรองว่าได้บาดเจ็บเจียนตายแน่
แต่กริดกลับโอหังใช้เพียงดาบผสาน 3 ชนิด
เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!
กรงเล็บที่แข็งยิ่งกว่าเหล็กกล้าของบีฟรองเซ่ต่อยทำลายคลื่นดาบจากมายาร่ายรำสะพรั่งทีละเส้นสองเส้น
หมับ!
เพียงพริบตา เผ่าอสูรสุดแกร่งพุ่งตัวแทรกผ่านช่องว่างคลื่นดาบและคว้าคอกริดไว้ด้วยความเร็วน่าเหลือเชื่อ
ถึงแม้ระหว่างทางจะถูกคลื่นดาบปะทะใส่ท่อนแขนและหน้าอกหลายหน แต่ก็ยังเหลือพละกำลังมากพอจะส่งแรงบีบมหาศาลใส่ลำคอกริด
หากเป็นมนุษย์ธรรมดา กระดูกคอชายหนุ่มคงถูกป่นละเอียดไม่เหลือชิ้นดีไปแล้ว
แต่ว่า
“…!?”
ถูกต้อง คอกริดยังไม่หัก
บีฟรองเซ่อาจมีค่าพละกำลังสูงกว่าเหล่าดยุค แต่ก็ไม่มากพอจะทะลวงผ่านพลังป้องกันรวมถึงกายาเหนือมนุษย์ได้
ไม่มากพอจะทำให้กริดคอหัก
“ไอ้บัดซบ… แค่ก! เอานี่ไปแดก!”
เปรี้ยง—!
ทักษะโจมตีฉับพลันซึ่งไม่ต้องรำดาบ
คลื่นพลัง ‘เที่ยงธรรมไม่เสื่อมคลาย’ พุ่งปะทะลำตัวบีฟรองเซ่ในระยะประชิด
เที่ยงธรรมไม่เสื่อมคลาย Lv.8 จะสร้างความเสียหาย 900% ของพลังโจมตีกายภาพ เมื่อถูกใช้ด้วยอาวุธผสานและบัฟเต็มพิกัด แม้แต่เผ่าพันธุ์อสูรสุดแกร่งก็ยากจะทนรับซึ่งหน้าไหว
แถมบีฟรองเซ่ยังถูกการโจมตีหนก่อนๆ ลดทอนพลังชีวิตไปไม่น้อย
[สร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 159,000]
“อั่ก…!”
บีฟรองเซ่จำต้องปล่อยมือจากลำคอกริด มันขบกรามแน่นด้วยสีหน้าเจ็บแค้น
“ก้าวกระโดดแห่งศรัทธา!”
ขณะเดียวกัน โค้กฉวยโอกาสใช้ทักษะซึ่งติดมากับโล่เกรดเลเจนดารีนามว่า ‘ยักษาปกป้อง’
อัศวินหนุ่มกระโดดแทรกตัวไปหยุดกึ่งกลางระหว่างกริดและบีฟรองเซ่
เปรี้ยง!!
ทักษะโจมตีเป็นวงกว้างของโค้กปะทะร่างบีฟรองเซ่อย่างจัง อาจไม่รุนแรงนัก แต่ก็มากพอจะทำให้มันเสียจังหวะ
ส่วนทางกริดได้รับอานิสงส์เพิ่มพลังป้องกัน
ชายหนุ่มไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอย รีบรำดาบท่วงท่า ‘สังหาร’ และแทงใส่หัวใจอีกฝ่ายอย่างอำมหิตสมชื่อทักษะ
“แค่ก…!”
ขณะบีฟรองเซ่ถูกการโจมตีทรงพลังจนดวงตาเหลือกถลน ตัวอักษรประหลาดปรากฏกึ่งกลางหน้าผากชั่วครู่ก่อนจะหายไป เหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมากจนกริดและโค้กไม่ทันสังเกตเห็น
ราชาโอเวอร์เกียร์ทำการพ่นด้ายเงินพันธนาการร่างบีฟรองเซ่ไว้แน่นถนัด
ตัดจบแบบละครไทย
ReplyDelete😆
Deleteขอบคุณครับ
ReplyDeleteค้างมากขอบคุณครับ
ReplyDeleteขอบคุณมากครับ
ReplyDeleteแกรนด์มาสเตอร์หรอ???
ReplyDeleteเหมือนเป็นกล้องวงจรปิดของพี่แกรนเองอ่ะ
Deleteบีฟรองเซ่อีกตัวละคร ที่เรารู้สึกสงสาร
ReplyDelete