จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1075



ตามปรกติแล้ว การเลือกเฟ้นโลหะสำหรับสร้างไอเท็มต้องพิถีพิถันอย่างมาก ไม่สามารถเลือกเพียงเพราะความชอบ หรือเลือกเพราะมีออปชันน่าสนใจ


ต้องคำนึงถึงคุณลักษณ์พื้นฐานแต่ละด้านให้ถี่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นความแข็ง ความแกร่ง ความเปราะ และความเหนียว หากมีปัจจัยใดไม่สมดุล คุณภาพไอเท็มจะด้อยลงหลายเท่าทันที


เหมือนกับการสร้างใบดาบด้วยเพชรแล้วเที่ยวอวดโอ่กับใครต่อใครถึง ‘ความแข็ง’ จะมีประโยชน์อันใดหากกวัดแกว่งได้สองสามครั้งแล้วเกิดเปราะแตก


‘แต่คราวนี้ไม่ใช่ เราสามารถพิจารณาจากประสิทธิภาพของโลหะได้โดยตรง ไม่ต้องคำนึงถึงคุณลักษณะพื้นฐานของวัสดุให้ปวดหัว’


เพราะวัสดุแก่นหลักของโลหะชนิดใหม่คือพาเฟรเนี่ยม ค่าความคงทนโลหะชนิดนี้เป็นอนันต์ มันไม่มีวันถูกทำลาย ดังนั้นปัญหาด้านการเปราะแตกจึงไม่มีทางเกิดขึ้น


กริดตั้งธงในใจแล้วหนึ่งเรื่อง เหล็กมังกรคลั่งถูกเลือกให้เป็นหนึ่งในสี่โลหะผสมโดยไม่เสียเวลาครุ่นคิดให้มากความ


ส่วนอีกสาม ก็แค่เฟ้นหาสุดยอดโลหะออปชันเยี่ยม ไม่ต้องคำนึงถึงผลเสียหรือความไม่สมดุลของคุณสมบัติแต่อย่างใด


ถึงโลหะจะมีคุณภาพสูง แต่ถ้าหาได้ง่ายก็จะถูกคัดออกทันที


ต้องเป็นโลหะครอบครองได้ยากเท่านั้น ชนิดไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงินตรา เวลา หรือใช้กำลังเข้ายึดครอง


‘อย่างไรก็ตาม ทั้งศิลามังกรคลั่งและไข่มุกมังกรคลั่งถือเป็นข้อยกเว้น ถึงอาณาจักรจะมีครอบครองในปริมาณมาก แต่ทั้งออปชันสะกดข่มและออปชันอาละวาดต่างหายาก’


<ศิลามังกรคลั่ง>

พบได้ภายในรังมังกรคลั่งเนอวาร์ธาน ได้รับผลกระทบจากความคลุ้มคลั่งของเนอวาร์ธานหลายหมื่นปีจนมีทักษะติดตัว ‘สะกดข่ม’

ความแข็งต่ำมาก แต่หากนำไปผสานกับแร่ชนิดอื่น ศิลามังกรคลั่งจะมีคุณสมบัติยับยั้งลักษณะพิเศษของโลหะชนิดดังกล่าว

น้ำหนัก : 1


<ไข่มุกมังกรคลั่ง>

พบได้ภายในรังมังกรคลั่งเนอวาร์ธาน ได้รับผลกระทบจากความคลุ้มคลั่งของเนอวาร์ธานหลายหมื่นปีจนมีทักษะติดตัว ‘อาละวาด’

เมื่อผสานกับแร่ชนิดอื่น ไข่มุกมังกรคลั่งสามารถเร่งปฏิกิริยาของคุณสมบัติพิเศษในแร่ชนิดดังกล่าว

มนุษย์จะสูญเสียตัวตนหากสัมผัสกับแร่ชนิดนี้โดยตรง อาจถึงขั้นไม่สามารถถลุงมันได้

กรุณาใช้งานอย่างระมัดระวัง

น้ำหนัก : 300


ศิลามังกรคลั่งและไข่มุกมังกรคลั่งล้วนได้รับอิทธิพลจากเวทมนตร์ของเนอวาร์ธานเหมือนกับเหล็กมังกรคลั่ง พวกมันอัดแน่นด้วยความพิเศษอย่างเต็มเปี่ยม


แต่ปัญหาคือ ออปชัน ‘ยับยั้ง’ อาจทำให้ประสิทธิภาพของพาเฟรเนี่ยมด้อยลง และออปชัน ‘อาละวาด’ อาจทำให้กริดควบคุมพาเฟรเนี่ยมได้ยากกว่าเดิม


‘ถ้าอีโก้ของพาเฟรเนี่ยมถูกยกระดับ เดาไม่ออกเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ในกรณีเลวร้าย อาจถึงขั้นสร้างความฉิบหายเป็นวงกว้าง’


กริดถึงคราวปวดหัวหนัก คาดไม่ถึงว่าขั้นตอนเลือกเฟ้นวัสดุจะยากเย็นขนาดนี้


หากต้องคำนวณความสมดุลของโลหะเข้าไปด้วย ชายหนุ่มคงปิดตายทักษะสร้างแร่โดยไม่นำออกมาใช้ตลอดกาล


‘นอกจากออปชันยับยั้งและอาละวาดแล้ว เรายังต้องระวังเรื่อง ‘พลังธาตุ’ จากโลหะด้วย’


โลหะชนิดใหม่แตกต่างจากพาเฟรเนี่ยม ประสิทธิภาพอาจคล้ายคลึง แต่ปริมาณไร้ขีดจำกัด เพราะสามารถเพิ่มจำนวนอย่างต่อเนื่อง


หรือก็คือ สามารถใช้ได้ไม่มีวันหมด


ในอนาคต กริดต้องนำโลหะชนิดใหม่ไปสร้างไอเท็มหลายชนิด ฉะนั้น หากแร่มี ‘พลังธาตุ’ แฝงมาด้วย นั่นไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน เพราะจะเป็นการสร้างขีดจำกัดให้ไอเท็มมีเพียงธาตุเดียว


‘ปวดหัวฉิบ…’


กริดนำแร่ อาวุธ และชุดเกราะหลายชนิดวางเรียงรายไว้บนโต๊ะยาว ไอเท็มมากมายเบียดเสียดจนไม่ว่างพอให้คนขึ้นไปนั่ง แม้โต๊ะจะกว้างชนิดสามารถนั่งได้ 20 คนก็ตาม ภาพเบื้องหน้าหรูหราอลังการเกินกว่าผู้เล่นทั่วไปจะเอื้อมถึง


‘เดิมที เราเคยคิดแยกส่วนชุดเกราะเพื่อนำอดามันเทียมมาสร้างแร่ชนิดใหม่…’


แต่ดังคำกล่าวข้างต้น พลังธาตุคือปัจจัยสำคัญในการพิจารณา หากเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง


แร่เปี่ยมด้วยพลังธาตุศักดิ์สิทธิ์อย่างอดามันเทียม จะไม่ใช่ตัวเลือกฉลาดหากนำไปสร้างเป็นไอเท็มร่วมกับโลหะชนิดอื่น


ถึงขั้นตอนการสร้างจะผ่านไปได้ด้วยดี แต่ขั้นตอนใช้งานจริงเป็นอีกเรื่องหนึ่ง พลังศักดิ์สิทธิ์อาจไปขัดกับออปชันอื่นของไอเท็มจนเกิดผลเสียตามมา


เคยมีตัวอย่างในอดีตมาแล้ว การผสานระหว่างไอเท็มธาตุศักดิ์สิทธิ์และธาตุมืด จนเกิดระเบิดใส่เจ้าของทุกครั้งเมื่อฟาดฟัน


‘ไอเท็มจากจอมอสูรก็เหมือนกัน พลังอสูรไม่สามารถใช้ร่วมกับออปชันอื่นได้มากนัก ต้องคำนึงถึงโลหะไร้ธาตุเป็นอันดับแรก’


สรุปให้เข้าใจง่ายคือ แร่ชนิดใหม่จะมีลักษณะคล้ายกับแป้งพื้นฐานสำหรับทำขนม กริดต้องนำไปปรุงแต่งกับเครื่องเทศ (วัสดุ) อื่นอีกที ก่อนจะได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นอาหาร (ไอเท็ม) เป้าหมาย


แร่ชนิดใหม่จะกลายเป็น ‘โครงหลัก’ ของทุกไอเท็มในอนาคต หมายความว่า จะถูกนำไปผสมกับวัสดุมากหน้าหลายตา โดยวัสดุเหล่านั้นอาจมีพลังธาตุแฝงอยู่ ตัววัตถุดิบโครงหลักจึงไม่ควรมีพลังธาตุติดตัวให้ขัดแย้งกัน


สมัยยังเป็นพาเฟรเนี่ยมและมีจำนวนจำกัด กริดสามารถใส่พลังธาตุเข้าไปเต็มพิกัด เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการโจมตีธาตุดังกล่าว เรียกได้ว่าเป็นการสร้างไอเท็มเฉพาะทาง


“อึก!”


กริดขมวดคิ้วจนหน้าผากย่น ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น เพราะยิ่งเป็นแร่คุณภาพสูง พลังธาตุแฝงย่อมทรงพลังเหนือจินตนาการ ตัวอย่างมีให้เห็นมากมายทั้งอดามันเทียม แร่จากสัตว์เทพ หรือกระทั่งวัสดุจากจอมอสูร


‘จากประสบการณ์ของเรา แร่ไร้ธาตุคุณภาพสูงสุดคือ… โอริชาลคั่มน้ำเงิน’


จริงอยู่ โอริชาลคั่มสีน้ำเงินอาจมีพลังแฝงของดวงจันทร์ แต่นั่นไม่ถือเป็นธาตุ จะมอบออปชันจำพวก ‘เพิ่มพลังโจมตีในความมืด’ ‘ความเบา’ และ ‘เพิ่มความรุนแรงให้การโจมตีประเภทฟัน’


ยิ่งไปกว่านั้น โอริชาลคั่มน้ำเงินถือเป็นแร่ซึ่งมีความ ‘แข็ง’ เป็นอันดับหนึ่งบนโลกมนุษย์


แม้กระทั่งแร่ศักดิ์สิทธิ์แห่งเทพอย่างอดามันเทียม หรือแร่แห่งขุมนรกอย่างศิลาโลหิต ก็มีค่าความ ‘แข็ง’ ไม่เทียบเท่าโอริชาลคั่มน้ำเงิน


กริดอาจมีข้อมูลแร่ชนิดอื่นยังไม่ครบถ้วน แต่ประสบการณ์หลายปีของช่างตีเหล็กในตำนานได้ตกผลึกเป็นข้อสรุปดังกล่าว


อย่างไรก็ตาม แร่สองชนิดข้างต้นมีประสิทธิภาพไม่เทียบเท่าของจริงบนโลกเทพและขุมนรก เนื่องจากถูกนำพาลงมายังโลกมนุษย์โดยเทวทูตตกสวรรค์และจอมอสูรอ่อนแรง


กระนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า แร่โอริชาลคั่มน้ำเงินของมนุษย์ ไม่ได้ด้อยไปกว่าแร่จากสวรรค์และนรกมากนัก


อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญคือ โอริชาลคั่มน้ำเงินจัดอยู่ในหมวดหมู่แร่หายาก แต่โอเวอร์เกียร์มีในครอบครองจำนวนมากเพราะกิลด์เซดากาห์ได้ผูกขาดเมืองไบรันและผู้พิทักษ์พงไพรมานานหลายปี


หากเป็นผู้เล่นทั่วไป โอริชาลคั่มน้ำเงินจะหาได้ยากยิ่งกว่าดวงดาวบนท้องฟ้า


‘ปัญหาคือ หนึ่งในคุณสมบัติโอริชาลคั่มน้ำเงินค่อนข้างจะ…’


<โอริชาลคั่มสีน้ำเงิน>

เกิดจากแสงของดวงจันทร์และเวทมนตร์ของผู้พิทักษ์พงไพร

สามารถทนทานต่อพลังเวทมนตร์มหาศาลของผู้พิทักษ์พงไพรได้ แต่ขณะเดียวกันก็มิอาจซึมซับพลังเวทมนตร์เพิ่มเติมได้เช่นกัน

มีความแข็งเป็นอันดับหนึ่งของโลก ลักษณะเด่นคือน้ำหนักเบา และยิ่งทรงพลังในความมืด

น้ำหนัก : 3 หน่วย


เหตุใดโอริชาลคั่มน้ำเงินถึงไร้ธาตุ คำตอบคือ มันมิอาจซึมซับพลังเวทมนตร์เพิ่มเติมเข้าไปได้


‘ถ้าใช้เจ้านี่เป็นส่วนหนึ่งของแร่ชนิดใหม่ เราคงจบเห่แน่’


กริดเลือกโลหะไร้ธาตุมาเป็นวัสดุหลัก เพราะต้องการนำแร่ใหม่ไปผสมกับแร่เวทมนตร์ชนิดอื่นเพื่อให้เกิดธาตุอันหลากหลาย ฉะนั้น โอริชาลคั่มสีน้ำเงินจะทำให้ความต้องการดังกล่าวเป็นหมัน


‘แถมเราอาจต้องสร้างยุทธภัณฑ์เวทมนตร์จากแร่ชนิดใหม่ด้วย’


กริดรู้สึกคล้ายกับตนกำลังลอยเคว้งท่ามกลางหนองน้ำกว้างใหญ่


เหนื่อยจัง…


เพียงกวาดสายตามองไปรอบโต๊ะ ก็มากพอจะทำให้ชายหนุ่มปวดหัวรุนแรง


ชายหนุ่มเพิ่งตระหนักว่า วลีอันโด่งดังของ SA กรุปเป็นความจริงก็ความจริงก็วันนี้


—การเล่นซาทิสฟายติดต่อเป็นเวลานานจะส่งผลให้จิตใจผู้เล่นได้รับภาระหนัก—


หนักเกินไปแล้วโว้ย…


“อ๊ะ!”


ทันใดนั้น กริดฉุกคิดถึงใครบางคน


ไมเนอร์ เด็กหนุ่มผู้เคยมีความดีความชอบใหญ่หลวงในอดีต เกี่ยวกับการค้นพบพาเฟรเนี่ยมและเหล็กมังกรคลั่งแสนล้ำค่า


กริดยัดเยียดให้ไมเนอร์อ่านตำราเกี่ยวกับแร่ทุกชนิดบนโลกมานานกว่าสิบปี องค์ความรู้ด้านโลหะอาจใกล้เคียงมหาจอมปราชญ์แล้ว


***


หลังจากเรียกเข้าเฝ้า


“แร่ไร้ธาตุอันดับหนึ่งคืออะไรหรือ”


ไมเนอร์เดินย่างกรายเข้ามาในห้องทรงงานราชาด้วยมาดและใบหน้าแสนสุขุม


เด็กหนุ่มมอบคำตอบโดยไม่ลังเล


“มิธริลนิล”


“…”


เวลาผ่านไปไวขนาดนี้เชียว


การพบกันวันแรก ไมเนอร์เป็นเพียงเด็กเอาแต่ใจอายุราวสิบสาม แต่ปัจจุบันกลายเป็นชายหนุ่มรูปงามวัยยี่สิบตอนต้น ไว้หนวดเคราสง่างามหล่อเหลา


นับตั้งแต่เหตุการณ์ค้นพบเหล็กมังกรคลั่ง กริดก็ไม่ได้เห็นหน้าไมเนอร์อีกเลย


ราชาโอเวอร์เกียร์จึงค่อนข้างมีความสุขเมื่อได้เห็นบริวารพรสวรรค์ของตนยังสบายดี


แต่ในทางกลับกัน ไมเนอร์มิได้รู้สึกเช่นนั้น


<พรสวรรค์อันโดดเด่น (SS) >

พรสวรรค์เพียง 1 ใน 10 ล้านคน ไม่ว่าจะเก็บซ่อนอย่างไร แต่พรสวรรค์ก็จะเจิดจรัสจนเป็นที่เตะตาผู้อื่นเสมอ

ชั่วชีวิตมีแต่การถูกจับตามอง จึงเลี่ยงไม่ได้หากต้องเผชิญสิ่งล่อลวงมากมาย

สามารถพัฒนาค่าสถานะได้รวดเร็วมาก แต่แลกมากับการเป็นคนหยิ่งทระนง


ไมเนอร์เชื่อว่า ตนคือบุคคลพรสวรรค์เก่งกาจระดับทวีป เจ้านายจึงสมควรเป็นมหาจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่เท่านั้น


ในสายตาไมเนอร์ กริดคือราชาผู้บกพร่อง


ไมเนอร์ย่อมไม่ยินดีเมื่อถูกราชาคนปัจจุบันของตนเรียกพบ ราชาผู้ยัดเยียดให้ตนท่องตำราแร่ตลอดหลายปี ราชาผู้แต่งตั้งให้ตนเป็นผู้อำนวยการศูนย์ตรวจจับแร่แห่งอาณาจักร


อย่างไรก็ตาม ความไม่พึงพอใจ เป็นคนละเรื่องกับความจงรักภักดี ไมเนอร์ไม่เคยคิดทรยศกริดแม้แต่วินาทีเดียว


สาเหตุสำคัญมาจากความชื่นชมในตัวกริด ไมเนอร์อาจไม่แสดงออกมากนัก แต่เด็กคนนี้เคารพนับถือราชาโอเวอร์เกียร์ผู้ไต่เต้าพลังอำนาจจนถึงขั้นก่อตั้งอาณาจักร แม้รากเหง้าจะมาจากสามัญชน


เป็นเหตุให้ไมเนอร์ไม่เคยเหลียวแลคำชักชวนจากบุคคลภายนอกตลอดหลายปีหลัง


…แต่ถ้าจักรวรรดิ หรือองค์จักรพรรดิเสด็จมาชักชวนด้วยตัวเอง ไมเนอร์ก็ไม่มั่นใจว่าตนจะตอบกลับไปเช่นไร


อย่างไรก็ตาม สิ่งนั้นไม่เคยเกิดขึ้น มีเพียงคนของอาณาจักรเล็กออกปากชักชวนไมเนอร์


ในสายตาเด็กหนุ่ม หากไม่นับรวมจักรวรรดิ อาณาจักรโอเวอร์เกียร์นับว่ายอดเยี่ยมชนิดไม่มีใครเทียบติด


“มิธริลนิล?”


หลังจากไม่ได้พบกริดนาน ไมเนอร์เผลอครุ่นคิดอนาคตของตัวเองครู่หนึ่ง จนกระทั่งเสียงกริดปลุกให้ตื่นจากภวังค์


มันพยักหน้า


“ถูกต้อง มิธริลนิลจะแกร่งเทียบเท่ามิธริลปรกติ แต่มีความแข็งไม่ด้อยไปกว่าโอริชาลคั่มสีน้ำเงิน โลหะผิวแข็งอันดับหนึ่งของโลกมนุษย์เลยสักนิด


“ถูกเติม ‘นิล’ ต่อท้ายชื่อเพราะปราศจากพลังศักดิ์สิทธิ์ มันว่างเปล่า”


เมื่อกล่าวจบ ไมเนอร์ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยราวกับเหนือกว่า


“ฝ่าบาทอาจไม่ทราบเพราะไม่ใช่ความถนัด แต่มิธริลนิลนั้นถูกใช้อย่างแพร่หลายภายในราชวงศ์ซาฮารันมาหลายชั่วอายุคนแล้ว”


“ฉันทราบดี… ไม่เหมือนชื่อของมัน ผิวโลหะของมิธริลนิลเป็นสีขาวโพลน สามารถซึมซับเวทมนตร์ได้ยอดเยี่ยม บรรดาราชวงศ์ซาฮารันจึงสนใจมิธริลนิลเป็นพิเศษ”


“ทำไมฝ่าบาทถึง…”


“ชุดเกราะอัศวินสีชาดถูกสร้างจากมิธริลนิล จากนั้นก็บรรจุปราณสีชาดเข้าไป”


“แล้วฝ่าบาททราบได้อย่างไร…?”


“เคยเชือดอัศวินสีชาดทิ้งไปหลายคน ก็เลยหยิบเกราะขึ้นมาสำรวจดู”


“กระหม่อมขอชื่นชมฝ่าบาท… กษัตริย์อาณาจักรเล็กน้อยคนนักจะออกศึกด้วยตัวเอง”


“เลิกประชดประชันได้แล้ว ช่วยเล่าต่อที”


“…แต่กระหม่อมชื่นชมจากใจ”


ช่างน่าเอ็นดู


กริดยิ้มกรุ้มกริ่มทุกครั้งเมื่อได้พบไมเนอร์


มันชอบหยอกล้อให้อีกฝ่ายกระอักกระอ่วนเพราะความไร้เดียงสา


ในความเป็นจริง กริดชื่นชอบไมเนอร์อย่างมากนับตั้งแต่เหตุการณ์ค้นพบเหล็กมังกรคลั่ง นับแต่นั้น หน้าต่างสถานะของไมเนอร์ก็เริ่มปรากฏความรู้สึกชื่นชมให้เห็น พร้อมกับระบบปลดขีดจำกัดให้กลายเป็น NPC พิเศษ


กริดย่อมมีความสุขเมื่อบุคคลพรสวรรค์ให้การชื่นชม โดยเฉพาะบุคคลอุปนิสัยไม่น่าคบหาอย่างตน


“เป็นดังคำฝ่าบาท มิธริลนิลคือสุดยอดแร่ไร้ธาตุเพราะธรรมชาติผิวโลหะสีขาวของมัน อาจมีประสิทธิภาพไม่เทียบเท่าโอริชาลคั่มน้ำเงินด้านการฟันและในความมืด แต่พลังแท้จริงสามารถก้าวข้ามโลหะแห่งเทพ อดามันเทียม หากผสมผสานกับเข้าปัจจัยอื่นอย่างสอดคล้อง”


“หืม…”


กริดประจักษ์ความบิดเบี้ยวของเทพด้วยตาตนเองมาแล้ว จึงไม่ปฏิเสธคำพูดของไมเนอร์


อย่างไรก็ตาม การพูดว่าโลหะบนโลกมนุษย์ มีประสิทธิภาพก้าวข้ามโลหะแห่งเทพ ออกจะผิดหลักการของซาทิสฟายมากไปสักหน่อย


‘ตกลง… ต่อจากเหล็กมังกรคลั่งก็มิธริลนิล’


หากคำถึงว่า แร่ชนิดใหม่ของกริดต้องรับบทบาทเป็นโครงหลักของไอเท็มในอนาคต การเพิ่มมิธริลนิลเข้าไปจึงนับเป็นความลงตัวอย่างมาก เพราะสามารถดูดซับเวทมนตร์รอบข้างได้ง่ายดาย


แต่ปัญหาคือ… ตนไม่มีมิธริลนิล


กริดเคยเห็นมิธริลนิลเพียงหนเดียว และปัจจุบันถูกหลอมกลายเป็นเกราะราชาวีรบุรุษให้เมอร์เซเดสสวมเรียบร้อย


ไม่ว่าจะปรารถนาวัสดุสำหรับสร้างแร่ชนิดใหม่มากเพียงใด แต่ชายหนุ่มไม่โง่พอจะแยกส่วนไอเท็มเกรดมิธ


‘ให้ไมเนอร์ช่วยหาดีไหม’


กริดเพียงคิดในใจ มันเงยหน้าถามเรื่องอื่น


“ฉันต้องการสร้างแร่ชนิดใหม่ ปัจจุบันยังขาดส่วนผสมอีกสองชนิด ตอนนี้ประกอบด้วยพาเฟรเนี่ยม เหล็กมังกรคลั่ง และมิธริลนิล นายมีความเห็นว่าอย่างไรบ้าง และอีกสองชนิดควรเป็นแร่ประเภทใด”


“ฝ่าบาทต้องการสร้างสุดยอดโลหะอนันต์อย่างนั้นสินะ และหวังใช้เป็นโครงหลักสำหรับไอเท็มมากมายในอนาคต จึงเน้นหนักในด้านโลหะไร้ธาตุเป็นพิเศษ”


ไมเนอร์ก้มหน้าครุ่นคิดอย่างสนอกสนใจ


“คงไม่มีตัวเลือกใดดีกว่าอดามันเทียมและศิลาโลหิตอีกแล้ว พวกมันคือสุดยอดแร่ตัวแทนของสวรรค์และขุมนรก


“อดามันเทียมได้รับจากการแยกส่วนชุดเกราะระยิบระยับตัวเก่าของฝ่าบาท ส่วนศิลาโลหิตได้รับจากการแยกส่วนดาบคริสตัลสีแดง”


“จากนั้นก็ใช้ศิลามังกรคลั่งยับยั้งคุณสมบัติพิเศษ… ใช่ไหม?”


“ถูกต้อง หากเป็นคุณสมบัติโดยรวมด้านความแข็งและความแกร่ง พวกมันจะมีประสิทธิภาพสูงกว่าโอริชาลคั่มน้ำเงินด้วยซ้ำ


“ถ้าฝ่าบาทถามกระหม่อมอีกครั้ง ว่าโลหะไร้ธาตุชนิดใดยอดเยี่ยมเป็นอันดับหนึ่ง ขอตอบใหม่ว่าอดามันเทียมและศิลาโลหิต หลังจากลบพลังธาตุออกไปแล้ว”


กริดมีทั้งค้อนและทั่งสร้างจากศิลามังกรคลั่ง เป็นไอเดียแสนล้ำค่าของข่าน สองสิ่งดังกล่าวสามารถลบพลังธาตุจากอดามันเทียมและศิลาโลหิตได้ด้วยการกระหน่ำทุบตี


แต่ปัญหายังไม่หมดไป


อดามันเทียมอาจหาได้ไม่ยาก กริดสามารถแยกส่วนเกราะแสงศักดิ์สิทธิ์ทิ้ง เพราะไม่ถูกใช้งานมานานแล้ว


แต่กับศิลาโลหิต… ตนต้องแยกส่วนดาบพญาเสือขาวสยบโลกาเกรดมิธหรืออย่างไร


ปัจจุบัน ดาบเล่มดังกล่าวอยู่กับเมอร์เซเดส กริดจึงไม่มีความคิดจะทำลายทิ้ง


กริดชี้นิ้วไปทางกองวัสดุเฟย์ริส


“ในบรรดาสิ่งเหล่านี้ ไม่มีชิ้นใดใช้แทนศิลาโลหิตได้เลยหรือ”


“…?”


ไมเนอร์เดินเข้ามาใกล้ มันเหยียดแขนจับกีบเท้าเฟย์ริสเพื่อวัดน้ำหนักและความแข็งของผิว


“ข…แข็งกว่าศิลาโลหิตมาก”


“…ฉันก็คิดแบบเดียวกัน”


ถ้าอย่างนั้น… ปัญหาก็เหลือเพียงข้อเดียว


“เอาล่ะ ไปหามิธริลนิลมาให้ฉัน”


“เอ๋…? ฝ่าบาทรับสั่งว่าอย่างไรนะ?”


“ไป. หา. มิ. ธริล. นิล. มา. ให้. ฉัน.”


“ฝ่าบาทเสียสติไปแล้วหรือ บรรดาองค์ชายแห่งจักรวรรดิต่างพยายามผูกขาดมิธริลนิลอย่างสุดความสามารถ


“พวกเขาหวังโอนถ่ายปราณสีชาดเข้าไปเพื่อสร้างโลหะชนิดใหม่สุดทรงพลังขึ้น และใช้ในกองทัพของตัวเองเท่านั้น


“แล้วกระหม่อมจะไปหามิธริลนิลได้จากไหน หรือต่อให้หาพบ แต่หากไปแย่งสมบัติขององค์ชายจักรวรรดิเข้า จะไม่ถูกฆ่าทิ้งเยี่ยงหมูหมาหรอกหรือ”


“นั่นสินะ คงยากหน่อย แต่พยายามเข้านะ”


“ฝ่าบาทไม่ได้ฟังคำอธิบายเลยรึไง ต้องการให้กระหม่อมตายฟรีใช่ไหม”


“แค่หาแร่เอง ไม่ถึงตายหรอกกระมัง”


“ไม่รอดแน่นอน… รับประกันได้เลย”


“ไม่ตายหรอกน่า ถ้าขอร้องให้ดยุคจักรวรรดิช่วยเหลือ คงพอมีโอกาสอยู่บ้าง”


“ฝ่าบาทกินอาหารผิดมาหรือ จะให้ไปขอความช่วยเหลือจากดยุคคนใดกัน”


ไมเนอร์ไม่ใช่ขุนนางระดับสูงของอาณาจักร อาจเป็นคนสนิทของราชา แต่ไม่มีตำแหน่งบริหารบ้านเมือง ข่าวกรองจึงมีไม่มาก


มันไม่ทราบเรื่องกริดสำรวจโบราณสถานเทพสงคราม ไม่ทราบเรื่องสานสัมพันธ์กับจักรวรรดิและปราบจอมอสูรเฟย์ริส และไม่ทราบเรื่องช่วยเหลือสามดยุคพร้อมให้การรักษาจนหายดี


สำหรับไมเนอร์ ข่าวคราวสุดท้ายคือการสังหารราชาท้องฟ้า รีกัล


ไมเนอร์คิดว่ากริดเสียสติไปแล้ว


“ก็ได้! กระหม่อมจะแทรกซึมเข้าไปในจักรวรรดิให้เอง! ในเมื่อมีพรสวรรค์อยู่แล้ว พวกมันต้องยินดีต้อนรับกระหม่อมแน่!


“หากพยายามไต่เต้าอย่างไม่ลดละ คงได้รับเบาะแสของเหล็กนิลภายใน 10ปี หรืออาจนานถึง 20ปี รบกวนฝ่าบาทช่วยรักษาชีวิตไม่ให้ถูกฆ่าก่อนจะถึงตอนนั้นก็แล้วกัน”


“สุดยอด… นายคิดจะแทรกซึมเข้าไปในจักรวรรดิจริงหรือ”


“ก็ใช่น่ะสิ! ฝ่าบาทจะเอามิธริลนิลไม่ใช่รึไง”


“ช่างมันเถอะ เดี๋ยวฉันไปหาเอง”


“อะไรของฝ่าบาทเนี่ย…?”


ไมเนอร์รู้สึกเหมือนกำลังคุยกับจู๊ด


ขณะเด็กหนุ่มหงุดหงิดสุดขีด


ก็อก ก็อก!


เสียงเคาะประตูนุ่มนวลดังพร้อมถ้อยคำของมหาเสนาบดีลอเอล


“ดยุคบาซาร่าต้องการเข้าเฝ้าขอรับ”


“…?”


บาซาร่า?


—ฉันจะรับใช้องค์จักรพรรดิเท่านั้น—


นี่คือวลีประจำตัวของไมเนอร์ตั้งแต่สมัยเด็ก ไม่แปลกหากมันจะศึกษาประวัติศาสตร์ซาฮารันไปพร้อมกับศึกษาตำราแร่


ไมเนอร์ย่อมรู้จักนามบาซาร่า


ชายตามองทั่วทวีป นาม ‘ดยุคบาซาร่า’ เป็นของใครอื่นไม่ได้นอกจาก…


กริดอมยิ้มตลกขบขันเมื่อเห็นท่าทีหวาดผวาของไมเนอร์


“เข้ามาได้”


จากนั้น


สตรีเลอโฉม สวมมงกุฎสีทองเหนือศีรษะ ตรงตามคำอธิบายในตำราทุกประการ


ดยุคบาซาร่าแห่งซาฮารัน หล่อนกำลังก้มศีรษะให้ราชาโอเวอร์เกียร์อย่างนอบน้อม สายเลือดแห่งซาฮารันกำลังศิโรราบแทบเท้าต่อราชาของตน


“ต้องขออภัยด้วยเพคะ เป็นเพราะดิฉันใช้เวลาพักฟื้นร่างกายนาน จึงเข้าเฝ้ารายงานตัวได้ช้ากว่ากำหนด”


“ขอโทษทำไมกัน พวกเราเป็นสหายไม่ใช่หรือ ช่วยได้ก็ต้องช่วยอยู่แล้ว”


“…ดิฉัน ดยุคแห่งซาฮารัน และผู้มีสิทธิ์สืบบัลลังก์อย่างถูกต้อง


“บาซาร่า เอลล่า ฟอน ซาฮารัน


“ขอสาบานต่อหน้าเทพธิดาแห่งแสง ดิฉันจักตอบแทนบุญคุณของราชาโอเวอร์เกียร์ กริด กลับคืนเป็นสามเท่า ให้เสร็จสิ้นก่อนชีวิตตัวเองจะหาไม่ ต่อให้ท่านสละบัลลังก์ก็ไม่งดเว้น”


“เอ๋?”


ท่ามกลางบรรยากาศเงียบงันภายในห้อง ไมเนอร์โพล่งขึ้นอย่างตกตะลึง


ในสายตามัน กริดไม่ได้เป็นราชาอีกแล้ว


และไม่ใช่จักรพรรดิ…


แต่เป็นเทพ


ชายหนุ่มตอบกลับพลางอมยิ้ม


“ฉันต้องการมิธริลนิล”


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,464
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. เอ๋~~~~🤣😆😁🤭

    ReplyDelete
  2. ง่ายจังฟะ ไม่อ้อมค้อมเลย คุยกับสาวงามแท้ ๆ

    ReplyDelete
  3. กริด นายไม่สนใจหญิงอายุมากกว่าหน่อยหรือ🤤🤤

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00